Home / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1239 การคาดเดาของฉีอวิ๋นจื่อ

Share

บทที่ 1239 การคาดเดาของฉีอวิ๋นจื่อ

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-09-13 16:00:00
ฉีอวิ๋นจื่อมองไปที่หันเจิงหมิง ไม่คาดคิดว่าทักษะทางการแพทย์ของผู้มีพระคุณจะล้ำเลิศขนาดนี้ แค่ฝังเข็มเพียงครั้งเดียว ก็สามารถฟื้นคืนสติของเขาได้ ฉีอวิ๋นจื่อยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเขามาก

บุคคลนี้ต้องเป็นศัตรูกับเฮ่อยวน และเกลียดเหมยชิงเกอจนเข้าไส้ด้วย ยิ่งกว่านั้นยังมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ จู่ๆ ฉีอวิ๋นจื่อก็นึกถึงบุคคลผู้หนึ่ง

เจ้าของสวนกงซวิน

เขามีทักษะด้านวรยุทธ์สูง และทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม อยู่ในอิ๋นเฉิงยังได้รับความไว้วางใจจากเฮ่อยวนอีกด้วย กงซวินอวิ๋นเฟิ่งเป็นลูกสาวของเขา เขาย่อมไม่อยากเห็นลูกเขยใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่นแน่นอน จึงหลอกใช้ให้ตัวเองลงมือฆ่าเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ฉีอวิ๋นจื่อยิ่งคิดว่าเป็นเช่นนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะถูกเขาหลอกใช้ก็ดี หรือได้สมรู้ร่วมคิดกับเขาก็ช่าง ตราบใดที่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ มันก็คุ้มค่ากับความพยายามแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เดิมทีนางต้องการฆ่าเหมยชิงเกอให้ตายอยู่แล้ว เรียกได้ว่าประสานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ง่าย

หลังจากมองไปที่หันเจิงหมิงที่ยังนอนอยู่ที่พื้น ฉีอวิ๋นจื่อก็เดินไปที่กำแพงหิน

ที่แท้ที่นี่คือทางสู่วิถีแห่
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1240 นางเป็นหญิงใจร้าย

    หันเจิงหมิงตกตะลึงทันที“เจ้า เจ้าว่าอะไรนะ ท่านพ่อข้า...ตายแล้ว?”น้ำตาของฉีอวิ๋นจื่อไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง“ศิษย์พี่หัน ท่านไม่หลงเหลือความทรงจำเลยหรือ ตอนนั้นท่านเป็นคนพาผู้อาวุโสหันหนีไป คนที่ฆ่าเขาก็คือลูกสาวกับลูกเขยของเหมยชิงเกอ!”ขณะมองไปที่ดวงตาอันแดงก่ำของฉีอวิ๋นจื่อ ในดวงตาของหันเจิงหมิงก็ปรากฏเส้นเลือดสีแดงเขาเห็นท่านพ่อกระอักเลือด ขอให้เขาล้างแค้นแทนตัวเอง...เขาก้าวถอยหลังด้วยความหวาดกลัว กุมหัวแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ ไม่ใช่ ท่านพ่อของข้ามีวรยุทธ์สูงส่งขนาดนี้ จะถูกคนรุ่นหลังสองคนฆ่าตายได้อย่างไร”ฉีอวิ๋นจื่อกล่าวอย่างดุดันว่า “ศิษย์พี่หัน แม้ว่าท่านจะไม่ต้องการเผชิญกับความจริง แต่นี่ก็ยังคงเป็นความจริง เหล่าศิษย์ของตำหนักเทพล้วนมองเห็นอย่างชัดเจน ว่าคนที่ฆ่าเขาคือเย่จิ่งอวี้”“เย่จิ่งอวี้...เย่จิ่งอวี้?”หันเจิงหมิงก้าวถอยหลัง ภาพของพ่อที่ถูกชายหนุ่มทำร้ายจนกระอักเลือดก็แวบขึ้นมาในใจของเขานี่ไม่ใช่ความฝันหรอกหรือทั้งหมดนี้เป็นความจริงงั้นหรือ“ไม่ เหมยชิงเกอตายแล้วไม่ใช่หรือ นางจะมีลูกสาวและลูกเขยได้อย่างไร”หันเจิงหมิงกุมศีรษะของเขาอีกครั้ง ความคิดตกอยู่ในความ

    Last Updated : 2024-09-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1241 พลังของวิถีแห่งสวรรค์

    “ศิษย์พี่หันอย่าเพิ่งเร่งร้อน ตอนนี้ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องรักษาที่นี่ก่อน จึงจะแข็งแรงพอที่จะต่อสู้ได้”ฉีอวิ๋นจื่อบอกว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บจากเหมยชิงเกอ เพราะไปช่วยเขา ขณะนี้หัวสมองของหันเจิงหมิงประเดี๋ยวก็มีสติประเดี๋ยวก็เลอะเลือน ยังไม่สามารถแยกแยะเรื่องจริงเรื่องเท็จได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาจำได้แม่นยำคือ คนที่ฆ่าพ่อของเขา ต้องเป็นชายหนุ่มที่มีทักษะวรยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมคนนั้นอย่างแน่นอนเขาจะไม่ฆ่าเหมยชิงเกอก็ได้ แต่เขาต้องฆ่าบุคคลผู้นั้น เพื่อล้างแค้นให้กับพ่อของเขา!“ให้ข้าช่วยรักษาหรือไม่”“ไม่ต้องหรอก ข้าจัดการเองได้ ศิษย์พี่เพิ่งฟื้นคืนสติ ลมปราณยังติดขัด เมื่อกำลังภายในในร่างกายราบรื่น จะเลื่อนขั้นวรยุทธ์จนถึงจุดสูงสุดได้”หันเจิงหมิงพยักหน้า แล้วนั่งลงบนพื้นเมื่อจิตใจสงบลง ก็ได้ยินเสียงของตัวเอง“หันเจิงหมิง เหมยชิงเกอมีผู้ช่วยมากมาย เจ้าจะฆ่านางได้จริงหรือ เจ้าจะแก้แค้นได้จริงหรือ เจ้าต้องการยืมพลังของข้าหรือไม่”หันเจิงหมิงสะดุ้งเล็กน้อยหรือจะเป็นสิ่งชั่วร้ายที่ฝังอยู่ในจิตใจ?เลือดลมขัดข้องอย่างฉับพลัน เกือบจะเป็นโดนธาตุไฟเข้าแทรกอีกครั้งอดไม่ได้ที่จะตะโกนว่า

    Last Updated : 2024-09-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1242 ลูกเขยที่ดี

    เหมยชิงเกอเงียบงันไปครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า “คำพูดของท่านจริงใจใช่ไหม”“แน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นล้วนเป็นความผิดพลาดจริงๆ หากข้ารู้ว่าเจ้ายังอยู่ในตำหนักเทพ แม้ต้องทำลายสถานที่นี้จนพังทลาย ข้าคงจะพาเจ้าออกไปจากยอดเขาบรรจบสวรรค์นี้ให้ได้”เมื่อคิดถึงความทุกข์ทรมานที่เหมยชิงเกอต้องทนมานานกว่าสิบปี เฮ่อยวนก็ตาแดงก่ำอย่างอดไม่ได้“ชิงเกอ หากเจ้าเต็มใจที่จะเชื่อข้าสักครั้ง ข้าจะใช้ทั้งชีวิตที่เหลือชดเชยความสุขที่เราสูญเสียไปอย่างแน่นอน”เมื่อมองไปที่เส้นผมสีเทาของเฮ่อยวน แววตาของเหมยชิงเกอก็เริ่มไหวหวั่นนางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าท่านมีความตั้งใจเช่นนี้จริงๆ เช่นนั้นเราก็สามารถร่วมกันบริหารต่อ เพียงแต่ว่าทั้งสองสำนักต่างตั้งตารอการประลองยุทธ์ที่จะเกิดขึ้นทุกๆ ห้าสิบปี หากพูดออกไปตอนนี้ เกรงว่าจะทำให้ศิษย์รับไม่ได้ เช่นนั้นก็ให้ดำเนินการประลองยุทธ์ครั้งนี้ตามปกติ เมื่อประลองจบแล้ว ค่อยหาโอกาสพูดคุยเรื่องการบริหารต่อ ก็ถือว่ามีช่วงเวลาให้ปรับตัว”เฮ่อยวนกล่าวชมอย่างความสุขว่า “ชิงเกอคิดได้รอบคอบที่สุด เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าพูด”เหมยชิงเกอพยักหน้า แล้วสีหน้า

    Last Updated : 2024-09-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1243 ให้เขาได้เห็นดี

    เย่จิ่งอวี้พูดอย่างมีความสุขว่า “ถ้าท่านพ่อสั่ง จิ่งอวี้ย่อมเชื่อฟัง”เมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้เรียกอย่างกับใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะกระแอมไอ หากนางไม่เห็นเขาสวมมงกุฎฮ่องเต้ ท่วงท่าสง่างาม ใครจะคิดว่าชายหนุ่มที่ปากหวานปานน้ำผึ้งคนนี้จะเป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบันแม้ว่าเหมยชิงเกอจะรู้ตัวตนของเย่จิ่งอวี้แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่ามีอะไรที่ไม่ถูกต้อง นางเติบโตขึ้นมาในยุทธภพ ปฏิบัติตามกฎมารยาทของยุทธภพ ไม่มีความรู้ในเรื่องราชสำนักนางอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงไว้ในอ้อมแขน พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “อยู่ที่นี่ก็ดีเช่นกัน การประลองยุทธ์กำลังใกล้เข้ามาแล้ว นี่เป็นเหตุการณ์สำคัญของทั้งสองสำนัก อยู่ดูก่อนแล้วค่อยกลับก็ยังไม่สาย”อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะมองไปยังเหมยชิงเกอ นางไม่ได้วางแผนที่จะบังคับให้นางอยู่ต่อแล้วอย่างนั้นหรือเวลาแค่เพียงคืนเดียว ก็ทำให้นางเปลี่ยนใจได้แล้ว พลังแห่งความรักนี้ ไม่อาจมองข้ามได้จริงๆเมื่อรู้สึกถึงการจ้องมองของอินชิงเสวียน เหมยชิงเกอก็หันกลับมา ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย และถามเป็นเชิงสัพยอกว่า “หรือว่าเจ้าชอบยอดเขาบรรจบสวรรค์เข้าแล้ว จึงไม่อยากจากไป?”ใบหน้าของอิ

    Last Updated : 2024-09-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1244 หนึ่งรอยยิ้มสิ้นศัตรู

    รอยร้าวทั้งหมดดูเหมือนจะหายไปกับรอยยิ้มนี้ เหมยชิงเกอยื่นมือออกมา โอบตัวอินชิงเสวียนไว้ในอ้อมแขนของนางนางอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงในมือซ้าย มือขวาก็กอดลูกสาว เพลิดเพลินกับความรักในครอบครัวที่หาได้ยากและแสนสั้นพวกเขาทั้งสามนั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด จากนั้นอินชิงเสวียนก็ตกใจเมื่อรู้ว่าดวงอาทิตย์เคลื่อนขึ้นตรงหัวแล้ว“ท่านแม่กับจ้าวเอ๋อร์คงจะหิวแล้ว ข้าจะเตรียมของกินมาหน่อย เรามาฉลองกันให้เต็มที่”เหมยชิงเกอพยักหน้าอย่างมีความสุข“ให้เย่จิ่งอวี้มาด้วยสิ เมื่อก่อนแม่กลัวว่าเขาจะมาแย่งเจ้าไป ถึงไม่ชอบเขาทุกอย่าง แต่เขาก็ยังปฏิบัติด้วยความสุภาพเรียบร้อย เป็นผู้ชายที่ควรค่าแก่การไว้วางใจอย่างยิ่ง แม่ขอกลับคำพูดที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้ พวกเจ้าสองคนเหมาะสมกันมาก วันหน้าเมื่อกลับสู่ราชสำนัก แม่จะไปส่งพวกเจ้าทั้งสามคนในครอบครัวลงเขาด้วยตัวเอง”ตั้งแต่ได้พบกับเฮ่อยวน อารมณ์ของเหมยชิงเกอก็อ่อนโยนมากขึ้นลักษณะอันโหดร้ายถูกปกคลุมไปด้วยความเมตตาที่มีอยู่ดั้งเดิม และนางในตอนนี้ ดูมีความเป็นแม่มากขึ้นเรื่อยๆอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ได้รับการยอมรับจากท่านแม่แบบนี้ อาอวี้จะต้องดีใจมา

    Last Updated : 2024-09-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1245 ทิศทางการสอบสวน

    เฮ่อยวนหยิบป้ายที่มีรอยด่างทั้งสองขึ้นมา ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ป้ายในอิ๋นเฉิงจะเปลี่ยนใหม่ทุกๆ สิบปี แม้ว่าจะมีใครทำสูญหายไป แต่ก็คงได้รับอันใหม่แล้ว”กงซวินอวิ๋นเฟิ่งเม้มริมฝีปากยิ้ม แล้วพูดว่า “ท่านพี่กลัวว่าพวกเขาจะไม่พูดงั้นหรือ ท่านดูถูกพวกเราชาวอิ๋นเฉิงมากเกินไป ในเมื่อพวกเขารักแผ่นดินนี้จริงๆ ข้าคิดว่าพวกเขาคงต้องมีความรับผิดชอบนี้”เฮ่อยวนครุ่นคิดอยู่นาน จากนั้นจู่ๆ ก็ดีดนิ้ว แล้วทหารองครักษ์ทั้งสี่ก็เดินเข้ามาทันทีเฮ่อยวนโยนป้ายทั้งสองอันออกไป“ไปตรวจดู ว่ามีใครในเมืองทำป้ายตราคำสั่งหายหรือเปล่า ของชิ้นนี้น่าจะเป็นของเมื่อสิบปีที่ผ่านมา พวกเจ้าต้องตรวจสอบให้ละเอียดรอบคอบ”“ขอรับ”ทั้งหมดรับป้าย แล้วรีบออกไปทันทีกงซวินอวิ๋นเฟิ่งหยิบขนมขึ้นมา แล้วพูดด้วยท่าทีรู้สึกผิดว่า “เรื่องของฉีอวิ๋นจื่อ ข้าก็ควรทบทวนความผิดพลาดของตนเองเหมือนกัน วันนั้นเห็นนางหมดสติที่หน้าป่าหมอก ยังคิดว่านางเป็นเพียงหญิงชราธรรมดาๆ คนหนึ่ง จึงพานางกลับมาในจวน โชคดีที่ตลอดหลายปีนี้ นางไม่ได้ทำอะไรกับท่านพี่ ถ้าท่านพี่เป็นอะไรไป ต่อให้ข้าต้องตายไปหมื่นครั้ง ก็ไม่อาจให้อภัยตัวเองได้”เมื่อกล่าวถึงเรื่อ

    Last Updated : 2024-09-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1246 พบกันโดยบังเอิญ

    ชายหนุ่มรูปงามและคนรับใช้หน้าตาอัปลักษณ์เดินเข้ามาจากระยะไกลอย่างแช่มช้า ชายหนุ่มสวมเสื้อคลุมแขนกว้างสีฟ้า รูปร่างสูงตระหง่าน มีอะไรบางอย่างคาบอยู่ในปาก ยังปล่อยควันจางๆ ออกมาหรือจะเป็นลูกชายของเฮ่อยวน?หันเจิงหมิงอดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจ ทางสู่วิถีแห่งสวรรค์เป็นพื้นที่สำคัญของความขัดแย้งระหว่างทั้งสองสำนัก หากมีใครพบเข้า เรื่องเล็กน้อยนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอนขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ชายหนุ่มและคนรับใช้อัปลักษณ์ก็เข้ามาใกล้มากขึ้น หันเจิงหมิงก็รีบหดตัวลง ไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อยจากนั้นก็ได้ยินคนรับใช้อัปลักษณ์กล่าวชมเชยว่า “นายท่านสำเร็จวิชาในด้านค่ายกลดีขึ้นเรื่อยๆ เลยจริงๆ อย่างที่เรียกว่า อันสีน้ำเงินนั้นกลั่นมาจากต้นคราม แต่กลับสีเข้มกว่าต้นคราม”เย่จิ่งหลานพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ตราบใดที่อยากเรียนรู้ เจ้าก็ทำได้”หวังซุ่นหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “บ่าวไม่มีสมองที่ฉลาดเท่านายท่าน”“เจ้าอย่าถ่อมตัวนักเลย ความอ่อนน้อมถ่อมตนมากเกินไปจะทำให้คนถดถอย”เย่จิ่งหลานหยุดอยู่หน้ากำแพงหิน มองดูลวดลายที่ซับซ้อนบนนั้น จับคางแล้วพูดว่า “สิ่งนี้ต้องทำอย่างไรถึงจะเปิดได้ มันสามารถเปิดได้จ

    Last Updated : 2024-09-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1247 คนชุดดำ

    หัวใจของหันเจิงหมิงเต้นรัว หันหลังกลับแล้วพูดว่า “คำพูดของคุณชาย ข้าฟังไม่เข้าใจ”จู่ๆ ก็มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นในหัว“มัวพูดพล่ามไร้สาระอะไรกับเขา เด็กเปรตแบบนี้ ก็ฆ่าเขาไปเลยสิ เจ้าเป็นถึงศิษย์ของตำหนักเทพหอทองคำ จะถูกเขาข่มขู่ได้อย่างไร รีบลงมือ ฆ่าเขาซะ!”จู่ๆ ดวงตาของหันเจิงหมิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่สมองส่วนเหตุผลบอกเขาว่า ไม่สามารถฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจได้เย่จิ่งหลานได้ง้างมือซัดฝ่ามือออกไปแล้ว“ใครพาเจ้ามาที่ทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ ถ้าวันนี้ไม่อธิบายให้ชัดเจน อย่าคิดจะออกไปแม้ครึ่งก้าว”หันเจิงหมิงต้องการหลบหลีก แต่ร่างกายถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำอันยากต่อการแยกแยะด้วยตาเปล่าอย่างช้าๆ นิ้วมือชี้ไปที่เย่จิ่งหลานอย่างควบคุมไม่ได้รัศมีแห่งความชั่วร้ายพวยพุ่งออกมา เย่จิ่งหลานก็ตกใจคนชั่วนี่กำลังฝึกศาสตร์แบบไหนอยู่ นี่ไม่ใช่กระบวนท่าของตำหนักเทพหอทองคำเลยหวังซุ่นตกใจจนวิ่งหนีไปอีกด้านหนึ่งแล้ว หากกล่าวถึงการสูบบุหรี่แล้วเขาสามารถเรียกตัวเองได้ว่าไร้เทียมทาน แต่การที่ต้องต่อสู้กับยอดฝีมือเช่นนี้ ให้นายท่านจัดการเองดีกว่าเปรี้ยงเมื่อฝ่ามือปะทะกัน เย่จิ่งหลานก็รู้สึกเย็นว

    Last Updated : 2024-09-15

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1531 ขอฮองเฮาได้โปรดช่วยเหลือด้วย

    “ข้าเอง!”อยู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกสนุก กระโดดขึ้นไปบนแท่นสูงเมื่อเห็นนางชัดเจน คนบนแท่นก็ยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความดีใจ“อิน...”นางพูดได้คำเดียว จากนั้นรีบเปลี่ยนคำพูด คุกเข่าลงแล้วพูดว่า “หน่วยรักษาการณ์ฝั่งซ้ายฟางรั่ว ขอน้อมถวายพระพรฮองเฮาเพคะ”อินชิงเสวียนเอื้อมมือไปประคองนางขึ้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เพียงพริบตาเดียวก็ไม่ได้เจอกันมาครึ่งปีแล้ว แม่นางฟางรั่วเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคนเลย มีความกล้าหาญขนาดที่หมื่นคนก็ขวางไม่อยู่ ทำให้สตรีทั่วทั้งแผ่นดินรู้สึกภาคภูมิใจจริงๆ”ฟางรั่วถูกอินชิงเสวียนยกย่องจนดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก นางก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “ฮองเฮาตรัสยกย่องเกินไปแล้ว”นางพูดด้วยกระแสเสียงสงบ ก้องกังวานราวกับว่าเสียงโลหะกระทบกัน คิดว่านางคงใช้น้ำพุวิญญาณที่ตัวเองเก็บไว้ให้ จนก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้ว“คำยกย่องใช่ว่าจะไม่มีมูล เจ้าเก่งมากจริงๆ ข้ามองคนไม่ผิด คนเหล่านี้เป็นลูกน้องของเจ้าหรือ”อินชิงเสวียนหันความสนใจไปยังคนที่เบื้องล่างแท่นประลองฟางรั่วพยักหน้า“สตรีทุกคนในค่ายกำลังสอบวิชาการต่อสู้ หลังจากพวกนางสอบเสร็จสิ้น ฮองเฮาก็จะสามารถชมความองอาจของพวกนางได้”อินชิงเสว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1530 ใครกล้าขึ้นแท่นประลอง

    อินชิงเสวียนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็กลั้นเสียงหัวเราะ แต่ต้องชื่นชมสายตาขององครักษ์เงาเหล่านี้ ภายใต้การจ้องมองของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นแผนการและกลอุบายใดๆ ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาไปได้สามวันผ่านไปในชั่วพริบตา เอกสารสอบที่ปิดผนึกจำนวน 420 ชุดก็ถูกขนย้ายเข้ามาในห้องหนังสือแล้วอินชิงเสวียนรออยู่ก่อนแล้ว นี่เป็นครั้งแรกของที่ทำหน้าที่ตรวจข้อสอบ นางตื่นเต้นมาก หลังจากได้รับกระดาษคำตอบแล้ว นางก็เปิดผนึกเคลือบออกทันที สองสามีภรรยามีการแบ่งงานอย่างชัดเจน คนหนึ่งตรวจวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมี ส่วนอีกคนก็พิจารณาภาพรวม หลังจากผ่านไปสิบวัน ในที่สุดก็ได้คัดเลือกออกมาเก้าสิบหกชุดอินชิงเสวียนตรวจอ่านจนเวียนหัวตาลาย ชาตินี้ไม่คิดจะแตะต้องชุดข้อสอบเหล่านี้อีกแล้วเย่จิ่งอวี้นวดหน้าผากของนางเบาๆ ถามด้วยรอยยิ้ม “อีกไม่กี่วันจะเป็นการสอบหน้าพระที่นั่ง ฮองเฮาอยากมาสังเกตการณ์หรือไม่”อินชิงเสวียนส่ายหัวซ้ำๆ“ไม่แล้ว ฝ่าบาทดูก็พอ ตอนนี้ข้าแค่อยากจะนอนพักผ่อนให้สบายสักสองสามวันแล้ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างเอ็นดูรักใคร่ “ได้ เช่นนั้นก็พักผ่อนดีๆ ฮองเฮาของข้าลำบากแล้ว”อินชิงเสวียนถอนหายใจอีกครั้ง“น่าเสียดา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1529 การสอบฤดูใบไม้ผลิ

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็ถึงเดือนสามนักเรียนฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊จำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในเมืองหลวง ต้าโจวก็คึกคักครื้นเครงเป็นพิเศษ วันที่สิบแปดเดือนสาม กรมพิธีการเป็นประธานในการสอบอินชิงเสวียนปลอมตัวเป็นอาจารย์อินอีกครั้ง และแอบหนีไปที่หอตรวจ ท้องของนางเริ่มโตขึ้นมากแล้ว เพื่อไม่ให้ถูกคนสังเกตเห็น จึงสวมชุดคลุมตัวใหญ่ อำพรางร่างกาย ไว้เย่จิ่งอวี้ไม่วางใจ ปลอมตัวเป็นองครักษ์ติดตามไปด้วย โดยมีหน้ากากปิดบังครึ่งใบหน้า ริมฝีปากที่เม้มน้อยๆ ยังคงแสดงให้เห็นถึงอำนาจของผู้สูงศักดิ์เขาโค้งคำนับประสานมือคารวะ พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ข้าน้อยคุ้มครองความปลอดภัยของ อาจารย์อิน ถ้าอาจารย์อินต้องการสิ่งใด เชิญสั่งมาได้เต็มที่”อินชิงเสวียนกลอกตามองเขา วางท่าเหมือนเป็นผู้มีการศึกษา“ไปยืนอยู่ด้านหลัง หากไม่มีอะไรก็อย่าพูดมาก”“รับทราบ”เย่จิ่งอวี้ลดมือลง ยืนข้างหลังนางอย่างเชื่อฟัง โดยไม่พูดอะไรสักคำอินชิงเสวียนเม้มริมฝีปากยิ้มๆ แล้วก้าวเข้าไปในห้องสอบเสนาบดีกรมพิธีการกำลังนั่งดื่มชาบนเก้าอี้ ท่าทางสบายอารมณ์มาก คนจากสำนักศึกษาหลวงถูกย้ายมาที่นี่แล้ว ไม

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1528 ทำไมเสด็จพ่อถึงคลอดลูกไม่ได้

    วันรุ่งขึ้นในตอนเช้า เหล่าขุนนางได้รับข่าว สั่งให้ชาวเมืองเร่งไปที่พระนครในเวลาหนึ่งทุ่ม เพราะฝ่าบาทจะฉลองวันตรุษกับราษฎรทุกคนในอดีต ก็มีการเฉลิมฉลองวันตรุษกับราษฎร แต่พวกเขาไม่เคยได้รับอนุญาตให้ไปที่พระนครในสถานที่สำคัญอย่างเช่นวังหลวง จะให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้ได้อย่างไร แม้แต่การมองจากไกลๆ ก็มีโทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ หลังจากได้ทราบข่าวนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ และตั้งตารอคอยเพียงชั่วพริบตาก็ถึงเวลาหนึ่งทุ่ม เหล่าขุนนางก็ได้รับการต้อนรับเข้าสู่พระราชวังเพื่อร่วมงานเลี้ยง ด้านนอกประตูวังก็มีผู้คนมากมายขณะที่มองดูคบเพลิงที่โอ้อวด ทุกคนอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบ“อากาศหนาวมาก ให้เรามาทำอะไรที่นี่กัน”“ใช่ มืดสนิทอย่างนี้ หรือจะให้พวกเรานั่งฟังพวกขุนนางข้างในนั่นยกจอกดื่มกันอย่างสนุกสนาน?”“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ในเมื่อบอกให้เรามาก็มาเถอะ ครึ่งเดือนที่แล้วฮองเฮาประทานข้าว แป้งหมี่ ผักและผลไม้ให้เรามากมาย แม้ต้องทนหนาวก็สมควรแล้ว”“ไม่ใช่หรอกรึ ถึงอย่างไรคนก็มีคุณธรรม ในฤดูกาลนี้จะหาผลไม้และผักสดอร่อยๆ แบบนี้ได้ที่ไหน แม้ว่าฮองเฮาจะให้ทนหนาว ข้าก็ยอมรับได้”

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1527 องค์หญิงซ่อนความคิดไม่มิด

    พริบตาก็ถึงวันสิ้นปี นับตั้งแต่พิธีเสกสมรสของท่านอ๋องสิบสามก็ผ่านไปสองเดือนแล้วท้องน้อยของอินชิงเสวียนนูนขึ้น คนทั้งคนเป็นเหมือนแมวขี้เกียจ สิ่งที่ชอบที่สุดคือการนอนอาบแดดบนเก้าอี้นวมยาวนุ่มๆ ในขณะนี้ นางหรี่ตาลงเล็กน้อย ฟังเสียงของสาวน้อยเย่ไห่ถังที่ดังก้องอยู่ในหูของนาง“เสด็จอาสิบสามแต่งงานมานานแล้ว ทำไมเสด็จพี่ถึงยังไม่พูดถึงการแต่งงานของข้าล่ะ เสด็จพี่สะใภ้ อินปู้อวี่เป็นพี่รองของท่านนะ ท่านไม่ร้อนใจหรือ”“เสด็จพี่สะใภ้ ท่านอย่าเพิ่งหลับนะ ลุกขึ้นมาคุยกับข้าหน่อยสิ”อินชิงเสวียนถูกนางรบกวนจนปวดหัว จำต้องลืมตาตื่น“การแต่งงานของเจ้ากับพี่รองจะจัดขึ้นในปีหลังจากนั้น ถึงอย่างไรเสด็จอาสิบสามของเจ้าก็เป็นผู้อาวุโส เจ้าแต่งงานพร้อมกับเขา มันไม่เหมาะสม”เย่ไห่ถังทำหน้าบูดบึ้งทันที“ไม่เหมาะสมอะไรกัน ข้าไม่ได้แต่งงานกับเขาเสียหน่อย”อินชิงเสวียนโกรธจนหัวเราะ“เรื่องนี้เจ้าก็ยังพูดออกมาได้นะ ถ้าเสด็จพี่เจ้าได้ยิน บางทีอาจส่งเจ้าไปแต่งงานเชื่อมไมตรีจริงๆ ก็ได้”เย่ไห่ถังสะดุ้ง รีบปิดหูของอินชิงเสวียนทันที พระราชโองการนั้นได้กลายเป็นเงาในใจของนางแล้ว แม้ว่าจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องเ

DMCA.com Protection Status