แชร์

บทที่ 1155 ตาบอด

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เปรี้ยง

ทั้งสามคนรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรง ต่างก็กระอักเลือดออกมาเต็มคำ

ในเวลานี้ เสียงของหวังซุ่นก็ดังขึ้นในหูของเย่จิ่งหลาน

“นายท่าน เจ้าตำหนักใกล้จะไม่ไหวแล้ว”

เย่จิ่งหลานขมวดคิ้วเล็กน้อย

“สาวน้อย หวังซุ่นบอกว่า เจ้าตำหนักจะไม่ไหวแล้ว”

ในขณะที่อินชิงเสวียนกำลังว่อกแว่ก ผู้อาวุโสหันก็งอมือ ก้าวไปข้างหน้า และพุ่งเข้าใส่ดวงตาทั้งสองข้างของอินชิงเสวียน

แสงสีม่วงบนมือระเบิดเป็นรัศมีหนึ่งเมตร อินชิงเสวียนสังเกตเห็นว่าการขับเคลื่อนของชี่แปลกไป เมื่อหันขวับ แสงสีม่วงพราวพุ่งออกมาต่อหน้าต่อตา ครั้นแล้วนางก็รู้สึกปวดร้าวไปทั้งกระบอกตา

ความชัดเจนถูกแสงสีม่วงเข้ามาแทนที่จนมิด วิสัยทัศน์การมองเห็นของอินชิงเสวียนพลันมืดลง

“สาวน้อย”

เย่จิ่งหลานซัดฝ่ามือออกไป น้ำตาสีแดงได้ไหลออกมาจากหางตาของอินชิงเสวียนแล้ว

“แม่นางชิงเสวียน เจ้าเป็นอะไรไป”

เสียงของเหมยชิงเกอดังขึ้นข้างหู

อินชิงเสวียนแสร้งทำเป็นสงบ

“ข้าไม่เป็นไร วันนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ห้ามให้ผู้อาวุโสหันหนีไปได้เด็ดขาด”

แม้ว่านางจะไม่สามารถมองเห็นด้วยตา แต่ก็สามารถตรวจจับทิศทางของผู้อาวุโสหันผ่านประสาทสัมผัสได้

ตอนนี้เขาไม่แสร้งแกล้งทำ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Jaruwan
ใคร? อาอวี้รึเปล่า?
goodnovel comment avatar
Noolek Sonthaya
เรื่องยืดยาวเกินไป ลงต่อวันสั้นมาก เก็บคะแนนติดตามอยุ่เรื่องเดียว
goodnovel comment avatar
Ja Suwan
ลงบทน้อยไป ยืดยาวอ่านวันไม่ไปไหน ไม่จบสักทีเบื่อแล้วเก็บคะแนนก็นาน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1156 ข้ามาช้าเกินไป

    “บังอาจ!”เสียงตะโกนดังออกมาจากปากของชายหนุ่ม ประหนึ่งอสุนีบาตที่ฟาดเปรี้ยงลงมา ผู้อาวุโสหันตกใจมากจนใจสั่น จากนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ ร่างของเขาก็เหาะออกไปอย่างไรก็ตามชายหนุ่มรูปหล่อติดตามเขาไปราวกับเงา เดินก้าวไปข้างหน้า นิ้วเรียวบีบคอของผู้อาวุโสหันอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า เรียวตาหงส์หรี่แคบลง เย็นชาราวกับน้ำแข็ง ทำให้คนรู้สึกหนาวเย็นจนเข้ากระดูกหลักการที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าล้อมรอบร่างกายของคนผู้นั้น แม้ว่าผู้อาวุโสหันจะมองไม่เห็นสิ่งที่ไร้รูปร่างเหล่านี้ แต่ก็รู้สึกว่าหายใจไม่ออก จู่ๆ ก็เหงื่อไหลออกมานี่เป็นความรู้สึกอึดอัดอย่างแท้จริง ทำให้หายใจไม่ออก จนใบหน้าแดงก่ำจากนั้นผู้อาวุโสหันก็ตระหนักว่ามือของคนผู้นั้นคล้องคอเขาไว้แล้ว ในฐานะยอดฝีมือลำดับที่สองของตำหนักเทพ เขากลับไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย“ผู้ที่กล้าแตะต้องคนของข้า มีทางเดียวเท่านั้นที่จะไป นั่นคือความตาย!”คนผู้นั้นกระชับนิ้ว จับคอของผู้อาวุโสหัน แล้วฟาดลงไปที่พื้นตูมมีเสียงดังลั่น ศีรษะของผู้อาวุโสหันก็กระแทกพื้นเข้าอย่างจังด้านหลังศีรษะเป็นจุดอ่อนที่สุดสำหรับผู้ฝึกยุทธ์มาโดยตลอด เมื่อถูกกระแทกดวงตา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1157 เจ้าเป็นภรรยาของข้า

    เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยอย่างยิ่งนี้ อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะกำนิ้วแน่น ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “อาอวี้ ทำไม...ท่านมาที่นี่ทำไม...”“เจ้าเป็นภรรยาของข้า ข้าจะไม่มาได้อย่างไร”ซึ่งบุรุษที่พูดนั้น ก็คือเย่จิ่งอวี้เจวี๋ยอิ่งได้รับปากกับหลี่เต๋อฝูแล้วว่าจะติดต่อสหายชาวยุทธ์ ช่วยกับตามหาเบาะแสทิศทางของฮองเฮาไว้ก่อนแล้ว เมื่อเย่จิ่งอวี้ถาม เขาก็ไม่กล้าปิดบังอยู่แล้วแน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนเดียวที่เย่จิ่งอวี้ถาม หลังจากจัดการเรื่องในราชสำนักแล้ว เขาได้ติดต่อเย่จั้นผ่านจดหมายลับของราชวงศ์ เมื่อยืนยันที่อยู่ของอินชิงเสวียนอีกครั้งแล้ว ก็รีบรุดมุ่งหน้ามายังเทือกเขาเชื่อมเมฆาทันทีเฟยมั่วที่แปลว่าน้ำหมึกโบยบินนี้ ไหนเลยจะเป็นเพียงแค่นามของเจ้าม้า มันสามารถเดินทางได้หลายพันลี้ในหนึ่งวัน เขาทิ้งเจวี๋ยอิ่งและทหารองครักษ์คนอื่นๆ ไว้ข้างหลัง เมื่อเย่จิ่งอวี้มาถึงตีนเขา ก็ได้พบกับเย่จั้นที่กำลังยุยงให้ชาวยุทธ์โจมตีตำหนักเทพทันทีที่ค่ายกลแนวป้องกันเขาพังทลาย เย่จิ่งอวี้ก็วิ่งตรงไปยังยอดเขาบรรจบสวรรค์ทันทีเมื่อเห็นอินชิงเสวียนถูกชายชราที่มีหนวดเคราสีขาวโจมตีอย่างดุเดือด เข้าก็โกรธเกรี้ยวจนดวงต

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1158 แก้แค้น

    เย่จิ่งหลานก้มลงอย่างรวดเร็ว กดนิ้วบนหลอดเลือดแดงของเจ้าตำหนักจิน แน่นอนว่าไม่มีร่องรอยของการสูบฉีดโลหิตอีกต่อไปเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย“เมื่อครู่มีเหตุฉุกเฉินข้างนอก ข้าไม่สามารถเปิดมิติได้ ท่านผู้เฒ่าจิน ข้าขอโทษจริงๆ”หลังจากที่เย่จิ่งหลานพูดจบ เขาก็หันไปมองหวังซุ่น“เจ้าตำหนักจินพูดอะไรก่อนที่เขาจะเสียชีวิต”“เขาทิ้งสิ่งนี้ไว้”หวังซุ่นชูหยกดำชิ้นสี่เหลี่ยมในมือขึ้น และมอบให้เย่จิ่งหลานด้วยความเคารพเมื่อเย่จิ่งหลานรับมาดู ก็เห็นว่ามันคือตราหยกด้านบนสลักเป็นภาพแสงสีม่วงเรืองรอง ณ ปลายเบื้องบุรพทิศ ด้านล่างสลักคำว่า ตราคำสั่งตำหนักเทพดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะเป็นตราประทับสูงสุดซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สูงที่สุดของตำหนักเทพเย่จิ่งหลานถือวัตถุนี้ไว้ในมือ เพียงครู่หนึ่งอยู่ๆ ก็มีความคิดที่จะเก็บไว้ใช้ส่วนตัวเย่จิ่งหลานรู้สึกตกใจกับความคิดนี้ เขาเฉยชากับอำนาจแล้ว เพราะเหตุใดเขาถึงมีความคิดเช่นนี้น่าแปลกจริงๆเขาไอแห้งๆ แล้วถามอีกครั้ง “เจ้าไม่ได้ให้เขาดื่มน้ำพุวิญญาณหรือ”หวังซุ่นพูดด้วยใบหน้าโศกเศร้า “ดื่มแล้ว ผ่านไปราวๆ สิบห้านาที นักพรตเต๋าทั้งสองคนบอกว่า ผู้เฒ่าจินคนนี้หมดลมหายใ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1159 ความแตกต่างของพี่น้องตระกูลเย่

    ตำหนักเทพ ด้านหน้าภูเขาเหมยชิงเกอได้พาศิษย์น้องทั้งสองคนไปที่ประตูทางขึ้นเขานางก้มหน้ามองดูชาวยุทธ์แต่ละคนที่เชิงบันได โคจรกำลังภายในที่จุดตันเถียน เอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วเบา “แต่ไหนแต่ไรมาตำหนักเทพหอทองคำกับยุทธภพต่างคนต่างอยู่มาตลอด ไม่รู้ว่าทุกท่านมาที่นี่ด้วยเจตนาใดหรือ”ผู้อาวุโสฉีจากสำนักอวิ๋นซานเดินออกมาจากฝูงชน หัวเราะหึๆ “เมื่อไม่กี่วันก่อนผู้อาวุโสหันจาก ตำหนักเทพหลอกลวงเรา บอกว่าได้ส่งหนังสือสวรรค์ไร้อักษรไปยังเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงแล้ว ทำให้เราก่อเรื่องราวใหญ่โตในอิ๋นเฉิง บาดเจ็บล้มตายกันไปมาก บัดนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าอิ๋นเฉิงไม่มีหนังสือสวรรค์ไร้อักษร ตำหนักเทพจะไม่พยายามชดเชยบ้างเลยหรือ”คนเหล่านี้ได้รับสมุนไพรล้ำค่ามากมายจากเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง จึงอยากมาหาผลประโยชน์บางอย่างที่ตำหนักเทพหอทองคำบ้างเหมือนกันสำนักอวิ๋นซานเป็นที่รู้จักกันดีว่าอาศัยการหลอกลวงและใช้กลอุบายในยุทธจักร แม้ว่าทุกคนจะรู้ดี แต่พวกเขาก็ยังคงเพ้อฝัน ตราบใดที่ได้รับผลประโยชน์แค่เล็กน้อยก็พอ ถึงอย่างไร้ไม่อาจระดมกำลังของทุกคน วิ่งไปถึงที่อย่างเสียเปล่าได้หลังจากที่ผู้อาวุโสฉีพูดจบก็ถามอีกครั้ง “ไม่รู้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1160 เหมยชิงเกอกล่าวรุนแรง

    อินชิงเสวียนเห็นเงาสีขาวรางๆ ก็รู้ว่าเย่จั้นกำลังมา“พวกเราไม่เป็นไร สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง”เย่จิ่งอวี้หันกลับมาถามเขารู้อยู่แล้วว่าครั้งนี้เย่จิ่งอวี้ปลอมตัวออกนอกวัง เย่จั้นจึงไม่ได้คุกเข่าโค้งคำนับ แต่ประกบมือคำนับแทน “เหล่าศิษย์ของตำหนักเทพกำลังต่อสู้กับชาวยุทธ์เหล่านั้น ข้าจึงถือโอกาสขึ้นเขามา”อินชิงเสวียนหันไปด้านข้างแล้วถามว่า “ผู้นำทัพของตำหนักเทพเป็นใคร”เย่จั้นกล่าวว่า “คือฉุยอวี้ เฟิงเอ้อร์เหนียง และสตรีแซ่เหมย”อินชิงเสวียนพยักหน้า เหมยชิงเกอออกหน้าคราวนี้ เป็นเวลาที่เหมาะสมยิ่ง ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว ตราบใดที่นางชนะการต่อสู้ครั้งนี้ ก็จะมีบารมีเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนเมื่อมีศิษย์ตำหนักเทพจำนวนมาก การจัดการกับความวุ่นวายก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาจากนั้นก็คิดถึงเรื่องอื่น จึงเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า “อาอวี้ ท่านเห็นเย่จิ่งหลานบ้างไหม”เย่จิ่งอวี้มองไปรอบๆ ทันที“จิ่งหลานก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ ข้าไม่เห็นมีเด็กคนไหนเลย”อินชิงเสวียนหัวเราะและพูดว่า “ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กแล้ว เขาสูงพอๆ กับท่านแล้ว”เย่จิ่งอวี้รู้สึกค่อนข้างประหลาดใจ“นี่...เป็นไปได้อย่างไร”เย่จั้นยังถามอี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1161 ไม่พอใจ

    เมื่อเห็นว่าเหมยชิงเกอไม่ตอบ อินชิงเสวียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ร้องเรียกออกมาเบาๆ “ผู้อาวุโสเหมย?”เหมยชิงเกอจึงรู้สึกตัว นางเชิดคางขึ้นเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ในเมื่อเป็นฮ่องเต้ผู้สูงศักดิ์ ก็ไม่จำเป็นต้องสุภาพกับคนทั่วไปอย่างเรา”เย่จิ่งอวี้อึดอัดวางตัวไม่ถูก แต่ก็ไม่โกรธในเมื่อคนผู้นี้เป็นผู้อาวุโสในตำหนักเทพ เช่นนั้นคงช่วยเหลือเสวียนเอ๋อร์ไว้อย่างมาก ไม่เช่นนั้น เสวียนเอ๋อร์คงไม่ให้ความสำคัญกับคนผู้นี้มากนักเขาพูดด้วยรอยยิ้มบนริมฝีปาก “ผู้อาวุโสคิดมากเกินไปแล้ว เมื่อได้เข้ามาในยุทธภพ ก็ควรลำดับความอาวุโสให้เหมาะสม เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อาวุโส ผู้เยาว์ย่อมไม่กล้าอวดดีอยู่แล้ว”เหมยชิงเกอเดินไปหาอินชิงเสวียน“ชิงเสวียน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”อินชิงเสวียนรู้สึกไม่ค่อยพอใจ แม้ว่าเหมยชิงเกอจะเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดของเจ้าของร่างเดิม แต่ในแง่ของความใกล้ชิด นางยังคงใกล้ชิดกับเย่จิ่งอวี้มากกว่าทั้งสองผ่านประสบการณ์เรื่องราวหลายอย่างด้วยกัน ไม่ธรรมดาเหมือนคู่รักทั่วไปอีกแล้ว แม้ว่าคราวนี้นางจะแอบเข้าไปในถ้ำเสือเพียงลำพัง แต่ก็เป็นสิ่งที่นางต้องการ ไม่เกี่ยวข้องกับเย่จิ่งอวี้เลย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1162 พ่อลูกได้พบกัน

    ครั้นเห็นดวงตาที่กำลังจะร้องไห้ของเหมยชิงเกอ อินชิงเสวียนก็กัดริมฝีปากล่างถ้าเป็นเจ้าของร่างเดิมที่อยู่ที่นี่ นางจะทำอย่างไรนะที่เหมยชิงเกอละเลยเย่จิ่งอวี้โดยเจตนา ทำให้อินชิงเสวียนไม่พอใจ แต่เมื่อนางคิดถึงการทรมานกว่าสิบปีที่นางต้องทนทุกข์ทรมานในผาเฟิงเริ่น และตอนที่เพิ่งพานางเข้าไปในมิตินั้น นางดูอ่อนแอและแก่ชราแค่ไหน หัวใจของอินชิงเสวียนหัวใจก็ค่อยๆ อ่อนลงเมื่อนึกถึงพฤติกรรมน่าเกลียดของเฮ่อยวน ที่มีสัมพันธ์กับหญิงอื่นลับหลังกงซวินอวิ๋นเฟิ่ง อินชิงเสวียนก็รู้สึกเห็นใจเหมยชิงเกอทันทีนางดึงเหมยชิงเกอไว้ ถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า “ในเมื่อผู้อาวุโสเหมยกรุณาเชื้อเชิญ เช่นนั้นเคารพมิสู้ทำตาม ข้าจะอยู่ที่นี่อีกสองสามวัน”เหมยชิงเกอแสดงสีหน้ายินดีทันที“ดีมาก เรารีบกลับขึ้นเขากันเถอะ”เหมยชิงเกอจับมือของอินชิงเสวียนอินชิงเสวียนหันไปหาเย่จิ่งอวี้ แล้วพูดว่า “อาอวี้ อยู่กับข้าอีกสองสามวันนะ”ดวงตาของเย่จิ่งอวี้เต็มไปด้วยความรัก เขาพูดอย่างอบอุ่น “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเสวียนเอ๋อร์”ขณะที่พวกเขาจากไป ร่างของฉางเฮิ่นเทียนก็หายวับออกมาจากก้อนหิน ดวงตามืดมนเคลือบคลุม ไม่แน่นอนเดิมทีข้า

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1163 ปากน้อยๆ ปากหวานปานน้ำผึ้ง

    เมื่อฟังเสียงนุ่มนิ่มไร้เดียงสาของเจ้าเด็กน้อย เย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกปวดใจ รีบอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้นมาพูดเสียงละล่ำละลักว่า “ทั้งหมดเป็นเพราะความผิดของเสด็จพ่อเอง ทำให้เจ้ากับเสด็จแม่ของเจ้าลำบากแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงเหยียดแขนที่ป้อมๆ ออกเหมือนดอกบัวบาน กอดแขนของเย่จิ่งอวี้ไว้แน่น พูดเสียงอ่อนเสียงหวาน “ต้องโทษคนแก่ชั่วร้ายนั่น เด็จพ่อจะต้องล้างแค้นแทนพวกเรานะ”ในชั่วพริบตา อินชิงเสวียนก็ออกมาเป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้ว เสี่ยวหนานเฟิงที่ได้รับการบำรุงเลี้ยงจากน้ำพุวิญญาณ ย่อมเติบโตอย่างน่าอัศจรรย์แม้ว่าน้ำเสียงจะดูเด็ก แต่คำพูดก็ค่อนข้างชัดเจน ในหัวน้อยๆ ล้วนมีเหตุผลเป็นของตัวเองเย่จิ่งอวี้ลูบหน้าเล็กๆ ของเขา พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “จ้าวเอ๋อร์ไม่ต้องกลัว เสต็จพ่อได้ล้างแค้นให้กับเจ้าแล้ว”ดวงตาสีเข้มของเสี่ยวหนานเฟิงเบิกกว้าง“จริงหรือ?”เย่จิ่งอวี้กล่าวว่า “เสด็จพ่อจะโกหกเจ้าได้อย่างไร”เสี่ยวหนานเฟิงมีความสุขมากจนขยับเท้าเล็กๆ กระโดดโลดเต้นเหมือนปลาตัวน้อย มือเล็กป้อมก็ปรบมืออย่างแรง“ลูกรู้อยู่แล้ว เด็จพ่อเก่งกาจที่สุด”เขาเม้มปากนุ่มๆ อีกครั้ง และหอมที่ใบหน้าเย่จิ่งอวี้หลาย

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

DMCA.com Protection Status