Share

บทที่ 917

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เขาพยายามแบบนี้จนกระทั่งเขาอายุสิบสามปี แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เรียนศิลปะการต่อสู้อย่างจริงจังเลย ทุกครั้งที่เขาวางแผนจะไหว้ครูก็มักจะเกิดปัญหาต่างๆ หากไม่ใช่ตัวเขาเองป่วยหรือไม่ก็อาจารย์มีปัญหา

ในท้ายที่สุด พ่อจางก็ไม่ฝืนใจอีกต่อไป ให้เขาเรียนอย่างนั้น เรียนได้เท่าไรก็เท่านั้นเลย

หลังจากได้ยินดังนั้น เสิ่นว่านจือรู้สึกซับซ้อนมาก คนๆ นี้คือดวงนำโชคที่กลับชาติมาเกิดหรือไง? จะโชคร้ายขนาดนั้น และฟังดูมีดวงกินอาจารย์ด้วย

นางจะไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม

จากประสบการณ์ของเขา ปัญหาเกิดขึ้นก่อนที่จะไหว้ครูสำเร็จ ตอนนี้เขาก็ไหว้ครูเสร็จแล้ว งั้นคงมีแต่โชคดีแล้วแหละ ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง

จางฉีเหวินได้ไหว้กับศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่รองและศิษย์พี่สามอย่างเป็นทางการ เมื่อเห็นแก่ทัศนคติที่จริงใจและให้ความเคารพของเขา ศิษย์พี่ทั้งสามจึงไม่ทำให้เขาลำบากใจ

แต่ซ่งซีซีถามเขาว่า "เจ้ามาจากองครักษ์ซวนเท่ ที่เจ้มาไหว้ครูโดยตรงเช่นนี้ไม่กลัวว่าจะไม่เป็นที่โดดเด่นในองครักษ์ซวนเท่เหรอ"

จางฉีเหวินตอบด้วยความเคารพ "ตอนนี้ไม่โดดเด่นไม่เป็นไร ตราบใดที่มีความสามารถมากพอ สักวันก็มีโอกาสได้โดดเด่น แต่ถ้าไม่พัฒนาศิลปะการต่อสู้ขอ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Erawady Mitrabhakdi
เรื่องดูจะยาวไปอีกกก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 918

    ในตอนเย็นของวันที่สอง เซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาที่จวนตระกูลเซียวสามารถมองเห็นได้จากด้านนอกของจวนตระกูลเซียว หน่วยฉินหรงไม่กล้าที่จะละเลย แผ่นชื่อจวนถูกจัดใหม่ ทำความสะอาดประตู และตะปูทองแดงที่ประตูก็ถูกขัดทีละอันเพื่อให้เงางามในระหว่างวัน ประชาชนจะมามอบน้ำใจของตนเอง รวมทั้งผลไม้ ผัก ไก่ เป็ด และปลาต่างๆ ความรู้สึกของประชาชนเป็นสิ่งที่เรียบง่ายที่สุด เรื่องอื่นๆ พวกเขาทำไม่ได้ งั้นได้แต่ทำสิ่งที่สามารถทำได้จ้านเป่ยว่างเฝ้าอยู่หน้าประตู ตรงกันข้าม เขาไม่กล้ามาในตอนกลางวันและมาเข้าเวรในเวลากลางคืนเท่านั้น เขาวางแผนที่จะเข้าไปสารภาพผิดหลังจากรวบรวมความกล้าทั้งหมดแล้วแต่เขาไม่กล้าเปิดประตูแม้ว่าเขาพยายามเตรียมใจอยู่นานก็ตาม จนกระทั่งเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาถึง เขาก็ก้าวถอยหลังและซ่อนตัวโดยไม่รู้ตัวปฏิกิริยาจากจิตใต้สำนึกนี้เป็นเพราะตอนนี้ประชาชนด่าเขาอย่างรุนแรง เมื่อเขาเดินทางในถนนใหญ่ก็มีคนขว้างใบผักเน่าใส่เขาด้วยเขารู้ว่าผลงานที่เขาได้ในชายแดนเฉิงหลิงตอนนี้กำลังทวงหนี้เขาในรูปแบบความโกรธเคืองจากประชาชนแต่ตอนนี้ถูกด่า และเขาก็ยอมรับอย่างใจเย็นได้ เพราะตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องอธิบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 919

    เขาช่วยพยุงนางให้ลุกขึ้นก่อนเซี่ยหลูโม่ จากนั้นก็ลูบหัวของนาง เช่นเดียวกับตอนนางยังเด็ก เมื่อไหร่ก็ตามที่นางไม่สบอารมณ์ก็จะมาฟ้องกับตา สาวน้อยตัวน้อย ไม่สามารถทนความคับข้องใจใดๆ ได้แม้แต่น้อย ผู้ใดด่านางว่านาง นางจะเก็บไว้ในใจหมด เมื่อรอท่านตากลับเมืองหลวงค่อยฟ้องกับเขาหลังจากฟ้องเรื่องเสร็จ ยังคงซ่อนตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา ดูเศร้าโศกและว่าง่าย แต่ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มได้ใจอย่างไรอย่างนั้นน้ำตาของซ่งซีซีเปรียบเสมือนลูกปัดที่ร้อยจากเชือกที่ขาด ร่วงหล่นลงมาอาบแก้มของนางเป็นหยดใหญ่ท่านตาปาดน้ำตาให้นางด้วยมืออันหยาบกระด้าง กลั้นเสียงเศร้าของเขาไว้ แต่ก็ยังได้ยินเสียงสั่นเทา "คราวนี้ ใครรังแกซีซีตัวน้อยของเราเล่า แต่ตอนนี้หลานไม่จำเป็นต้องให้ตาออกมือช่วยหลาน หลานก็จัดการด้วยตนเองได้เลยนะ"น้ำเสียงที่ทั้งเศร้าใจและน่าพึงพอใจทำให้ซ่งซีซีรู้สึกอึดอัดใจมากยิ่งขึ้นนางพยายามปาดน้ำตาของตนเองออก นางไม่ได้มาที่นี่เพื่อร้องไห้ ยิ่งไม่ต้องการให้ท่านตาเห็นความอ่อนแอของนาง นางมองออกไปด้วยน้ำตาคลอเบ้า สายตาที่ท่านตามองหานางยังเต็มไปด้วยความเอ็นดู แต่ความแก่ชราของเขาก็มองเห็นได้ชัดเจนขึ้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 920

    แม่ทัพใหญ่เซียวเข้าใจว่าเซี่ยหลูโม่หมายถึงอะไร เพราะเมืองซีจิงมีการแก้แค้น ถือว่าได้ต่อโต้กัน หากพวกเขาไม่ได้แก้แค้นหลังจากการสังหารหมู่ในหมู่บ้าน และส่งนักการทูตโดยตรงเหมือนตอนนี้ งั้นแคว้นซางย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่ๆแต่พวกเขาได้แก้แค้นด้วยวิธีของพวกเขาเองไปแล้วแม่ทัพใหญ่เซียวพูดเบาๆ "ใช่ หากแค่สังหารหมู่หมู่บ้าน งั้นการแก้แค้นของพวกเขาก็มากเพียงพอแล้ว แต่อย่าลืมว่ายังฆ่าผู้ถูกจับด้วย"การฆ่าผู้ถูกจับแค่พูดให้มันดูดีหน่อย ความจริงก็คือใช้วิธีน่าอับอายไปเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของรัชทายาทของประเทศแห่งหนึ่ง จนทำให้รัชทายาทคนนั้นตายอย่างน่าสลดใจเดิมทีฮ่องเต้เมืองซีจิงไม่ได้เรียกร้องความยุติธรรมให้กับประชาชนพวกนั้นอยู่แล้ว เขาแสวงหาความยุติธรรมให้กับพี่ชายของเขา ดังนั้นแม้ว่าการสังหารหมู่ในหมู่บ้านจะหายกันได้ แต่การสังหารมรัชทายาทของประเทศเขาล่ะ?เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "เรื่องการฆ่าผู้ถูกจับยังไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ ที่ซูลันจีอ่อนข้อให้ในก่อนหน้านี้ก็เพื่อปกป้องชื่อเสียงของรัชทายาทเมืองซีจิง และศักดิ์ศรีของเมืองซีจิง คราวนี้นักการทูตที่มาคือองค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่ ดังนั้นทุกอย่างยังมีค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 921

    แม่ทัพใหญ่เซียวมองไปที่ไหล่อันบางเฉียบของหลานสาว เขาจะทนให้นางทำเช่นนั้นได้อย่างไร?เขาจะทนให้นางต้องยุ่งวุ่นวายขนาดนั้นหลังจากที่นางอดทนกับสิ่งเลวร้ายมามากเช่นนี้ โดยใช้กายนะที่ตระกูลซ่งถูกสังหารหมู่เป็นเครื่องต่อรองเพื่อให้ตาคนนี้มีโอกาสรอดชีวิตได้อย่างไร?เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ท่าตา ซีซีพูดถูก สิ่งต่างๆ เหล่านี้แยกกันไม่ได้หรอก และไม่สามารถดึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งออกมาหารือตามลำพังได้ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงเพื่อท่านเท่านั้น แต่ยังพยายามเพื่อป้องการไม่ให้ทั้งสองประเทศทำสงครามด้วย"หากแยกออกมาตามลำพัง เมืองซีจิงก็จะยอมรับมันก็จริง และพวกเขาจะขอโทษถึงขนาดให้ค่าชดเชยด้วยซ้ำ แต่นี่ก็เท่ากับให้อำนาจการต่อรองอ่อนแอลงแม่ทัพใหญ่เซียวก็เข้าใจเรื่องนี้ดี แต่มันโหดร้ายเกินไปสำหรับซีซีเขาไม่อยากจะพูดต่อแต่สำหรับตากับหลาน หากเรื่องครอบครัวไม่กล้าพูด และเรื่องบ้านเมืองไม่อยากพูดเนื่องจากความปวดใจ งั้นก็คงไม่มีอะไรจะคุยแล้วนานๆ กว่าจะได้เจอครั้ง ก็อาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากไปทั้งอย่างนี้เซี่ยหลูโม่พบหัวข้อที่ปลอดภัยที่สุด ซึ่งก็คือภูเขาเหม่ยชาน เขายิ้มและพูดว่า "ซีซี เจ้าบอกเรื่องภูเขาเหม่ยชานให้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 922

    อันที่จริงเซี่ยหลูโม่มักจะรู้สึกว่าอาจารย์ที่ซีซีพูดถึงนั้นมันแตกต่างที่ตนเองเห็นเลยในสายตาของเขา อาจารย์ประพฤติตัวดี ไม่ได้เข้มงวดมากเกินไป หรือตามใจใครเป็นพิเศษ แต่หามีเรื่องดีๆ อะไรจะต้องคิดถึงลูกศิษย์ของตนเองและเข้าข้างคนของตนเองหน่อยศิษย์อาที่ซีซีพูดถึงนั้นก็คืออาจารย์ของเขา แต่เขาเป็นคนเจ้าอารมณ์ เอะอะก็ลงโทษตามอำเภอใจ อีกทั้งทุกคนเกมือนกลัวเขามากแม่ทัพใหญ่เซียวมองไปที่พวกเขา "น่าสนุก? น่าเบื่อ?"ซ่งซีซีบ่นว่า "เขาเป็นลูกศิษย์สายตรงของศิษย์อา ศิษย์อาย่อมต้องทำดีกับเขาสิ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าศิษย์อาน่าสนุกเป็นธรรมดา ศิษย์อาก็ดีต่อเขาเท่านั้น และลงโทษพวกเราอย่างรุนแรง แม้แต่ศิษย์พี่ใหญ่ของข้าที่เป็นคนสงบจริงจังคนหนึ่ง แต่ในสายตาของเขาก็เป็นคนที่ไม่เป็นโล้เป็นพายเอาซะเลย"แม่ทัพใหญ่เซียวอุทานด้วยความประหลาดใจอย่างมาก "พูดเช่นนี้ ที่แท้พวกเจ้าเป็นศิษย์พี่น้องกันเหรอ?"ซ่งซีซีกล่าวว่า "เขาเป็นศิษย์น้องของข้า เขาเข้านิกายช้ากว่าข้า"แม่ทัพใหญ่เซียวถามติดตลกว่า "ศิษย์น้องคนนี้ปฏิบัติต่อศิษย์พี่ได้ดีหรือไม่"แก้มของซ่งซีซีแก้มแดงขึ้น "ดีมาก!"แม่ทัพใหญ่เซียวมองเซี่ยหลูโม่อย่างล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 923

    ซ่งซีซีใช้นิ้วบีบช้อนแน่น แตะขอบชามเบาๆ แล้วส่งเสียงที่คมชัด "บางครั้งการไม่ร้องไห้หรือโวยวาย มันยิ่งเจ็บมากกว่าการร้องไห้เสียอีก""ต่อมาข้าก็รู้แล้ว" เสิ่นว่านจือยืนขึ้นแล้วเดินไปกอดนาง "เพราะงั้นข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตลอดทางจนกว่าเจ้าจะคืนซ่งซีซีที่หยิ่งผยองตอนในสระชิงซือกลับคืนมาให้ข้า"ซ่งซีซีผลักนางออกไปเล็กน้อย หลั่งน้ำตาร้อนๆ สองหยดแล้วรีบปาดออกอย่างรวดเร็ว นางถามด้วยรอยยิ้ม "ต้องเป็นซ่งซีซีตอนอยู่ในสระชิงซือเท่านั้นเหรอ ซ่งซีซีที่เอาชนะเจ้าภายใต้ต้นบ๊วยคนนั้นไม่ได้เหรอ ซ่งซีซีที่เอาชนะเจ้าในนอกประตูสถาบันชื่อเยียนคนนั้นไม่ได้เหรอ ซ่งซีซีที่เอาชนะเจ้าบนยอดเขา…"เสิ่นว่านจือกัดฟันกรอด "หุบปากซะ ดูเหมือนว่าแกงห้ารสของข้าเจ้ายังกินไม่พอสินะ ข้าจะใช้ถังมาตักให้เจ้าดูสิว่าจะให้เจ้ากินจนลิ้นของเจ้าชาได้หรือไม่"นางกำหมัดสองหมัดวางบนไหล่ของซ่งซีซี "น่ารำคาญจริงๆ"ซ่งซีซีดึงแขนเสื้อของนางเพื่อเอาไปปาดน้ำตา แต่กลับกอดนางไว้แน่น ไหล่สั่นเป็นเวลานานโดยไม่หยุดเสิ่นว่านจือมีน้ำตาอาบแก้ม และไม่พูดอะไรเลย เช่นเดียวกับตอนที่นางร้องไห้หลังการแข่งขันศิลปะการต่อสู้เสร็จตอนที่นางยังเด็ก และซ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 924

    ในตอนเย็นของวันรุ่งขึ้น นางหนาน ป้าสะใภ้สามก็ถึงเมืองหลวง นางไม่ได้ไปไหนเลย ตรงไปที่จวนอ๋องก่อนซีซีรู้ว่านางจะกลับมา แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ ท่านตาบอกว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามวันก่อนที่ได้พบนาง ดังนั้นเมื่อเสิ่นว่านจือมาบอกนางอย่างร่าเริงนั้น เครื่องแบบราชการที่นางเพิ่งถอดไปครึ่งหนึ่งนั้นก็รีบสวมมันกลับ และวิ่งออกไปทันทีท้องฟ้ายังไม่มืด พระอาทิตย์ตกก็สวยมาก และแสงพระอาทิตย์ตกก็ซ้อนแสงสีแดงส้มสามชั้นสี่ชั้นไว้บนขอบฟ้า แสงอันนุ่มนวลเช่นนั้นห่อหุ้มนางหนานไว้ และนางก็กำลังสั่งคนขนสิ่งของต่างๆ เข้าไปเมื่อได้ยินเสียงที่เรียกว่าป้าสะใภ้สาม นางรีบหันกลับไป แต่ก่อนที่นางจะมองเห็นได้ชัดเจน ร่างนั้นก็รีบพุ่งเข้าไปกอดนางเมื่อมีเด็กอยู่ในอ้อมแขน นางถึงสัมผัสได้ถึงความจริง น้ำตาไหลออกมาทันทีทันใด แต่ก็ถูกกลั้นไว้ในไม่ช้า เหลือเพียงความแสบที่ปลายจมูก และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "อะไรกัน ปาสะใภ้เพิ่งกลับมา เจ้าก็คิดจะชนป้าให้บินออกไปหรือไง?"ซ่งซีซีกอดนางไว้ครู่หนึ่งก่อนจะปล่อยออกไป โดยแสดงใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสต่อหน้านาง "ดีใจที่ได้เจอป้าสะใภ้เลย"นางหนานจับแก้มนาง ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ เข

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 925

    หลังจากส่งคนไปตามหาเซี่ยหลูโม่แล้ว นางหนานก็พูดว่า "ข้าได้ยินมาว่าสนมฮุ่ยไทเฟยอาศัยอยู่ในจวนอ๋อง ช่วยพาป้าไปพบไทเฟยด้วย"ซ่งซีซีถึงนึกขึ้นมาได้ว่า "ได้ ไปเดี๋ยวนี้เลย"เมื่อนางหนานเข้าไปในจวน สนมฮุ่ยไทเฟยก็ได้ยินแม่นมเกาพูดถึงแล้ว แต่คิดว่านางกับซ่งซีซีคงมีอะไรจะพูดมากมายหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน นางจึงสั่งออกไปว่าคืนนี้จะไม่ออกไปทานอาหารเพื่อให้พวกนางได้คุยตามลำพังให้ดีๆหลังจากนั้นไม่นาน ซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือก็พานางหนานมาพบ สนมฮุ่ยไทเฟยพอใจมาก สมเป็นลูกสาวของตระกูลหนานจริงๆ และรู้จักกาลเทศะเป็นอย่างดีหลังจากที่นางหนานทำการไหว้เสร็จ สนมฮุ่ยไทเฟยก็ให้นางนั่งคุยกัน "เดินทางเหนื่อยมากสินะ?"นางหนานเหลือบมองซีซี ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเอ็นดูรักใคร่ "ทูลไทเฟยเจ้าค่ะ อยากกลับมามาก เลยไม่รู้สึกเหนื่อยแต่อย่างใดเจ้าค่ะ"เมื่อเห็นนางเผยสีหน้าที่อ่อนโยน ไทเฟยก็รู้ว่านางห่วงใยซีซีมาก ดังนั้นจึงถอนหายใจ "เจ้ากลับมาก็ดี พระชายาอ๋องฮวยเป็นน้องสาวของสามีเจ้า เจ้าที่เป็นพี่สะใภ้คงต้องว่านางให้ดีๆ นางช่างไม่เอาไหนจริงๆ"เมื่อเห็นสีหน้าสับสนของนางหนาน แม่นมเกาก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับสิ่งเลวร้

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1605

    ข้ามองดูหลิวเซิ่งพูดยั่วยุนางไม่หยุด คล้ายจะจงใจยั่วยุให้นางคิดสั้น ไม่ได้มีเจตนาจะลงมือฆ่าเอง“ครอบครัวเจ้าตายหมดแล้ว เจ้ายังจะอยู่ต่อไปอย่างครึ่งคนครึ่งผี บ้าๆ บอๆ เช่นนี้อีกหรือ? เจ้าก็แค่สวะ ครอบครัวเจ้าก็เป็นสวะ! ยังจะกล้ามาหัวเราะเยาะข้าว่าสอบไม่ติดอีกหรือ? พวกเจ้ามันสมควรตายทั้งบ้าน เจ้าดูเชือกที่ห้องเก็บฟืนสิ ใช้มันแขวนคอตัวเองเสีย แล้วจะได้ไปอยู่กับครอบครัวเจ้า”“หากเจ้ายังไม่ตาย พวกเขาจะต้องตกนรกสิบแปดชั้น ถูกไฟเผาทุกวัน ถูกควักหัวใจ ถอนลิ้น เพราะพวกเจ้ามันใจดำอำมหิต ชอบใส่ร้ายป้ายสี นี่คือกรรมสนองที่สวรรค์ประทานให้ พวกทำชั่วไม่สมควรมีชีวิตอยู่”ข้ายิ่งฟังยิ่งโกรธจนแทบระเบิด คนทำชั่วคือเขาชัดๆ แต่กลับพลิกกลับความหมายเสียอย่างหน้าด้านๆแม่นางสุ่ยในยามนี้ก็บ้าเสียแล้ว หากถูกเขายั่วยุหนักเข้า ก็อาจคิดฆ่าตัวตายได้จริงๆข้าเปิดประตูพุ่งออกไป ห้องข้ากับห้องแม่นางสุ่ยอยู่ติดกัน พอข้าไปถึง หลิวเซิ่งยังไม่ทันตั้งตัว ยังปิดปากแม่นางสุ่ยอยู่เมื่อเห็นข้า แววตาเขาก็สั่นไหว รีบปล่อยมือทันทีแม่นางสุ่ยตกใจจนน้ำตาร่วง แต่นางไม่ได้ส่งเสียงร้อง แม้แต่เสียงสะอื้นก็ไม่มีข้าจ้องหน้าเขาแ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1604

    สุดท้ายข้าก็ทำได้เพียงลอบเฝ้าติดตามแม่นางสุ่ยในเงามืดข้าคิดว่า ฆาตกรที่ฆ่าล้างครอบครัวนาง ย่อมต้องมีแรงจูงใจเป็นแน่หากโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ไม่เพราะรัก ก็ต้องเพราะแค้น หรือไม่ก็เพราะเงินทอง อย่างไรเสียย่อมต้องมีสักอย่างแม่นางสุ่ยยังมีชีวิตอยู่ แล้วฆาตกรจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างสงบเช่นนั้นหรือ?มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า พอเรื่องราวเงียบไปแล้ว ฆาตกรจะย้อนกลับมาฆ่านางอีกครั้ง?การคาดคะเนนี้ดูจะมีเหตุผล แต่ประเด็นสำคัญคือ ข้าไม่อาจหาทิศทางอื่นได้อีกแล้วเถ้าแก่สวีเดิมทีจ้างแม่นมมาคอยดูแลแม่นางสุ่ย แต่แม่นางสุ่ยนั้นหวาดกลัวคนแปลกหน้าอย่างยิ่ง ดังนั้นเถ้าแก่สวีจึงได้แต่ขอร้องให้เพื่อนบ้านโดยรอบแวะเวียนมาดูบ้าง ส่งอาหารมาให้บ้างมารดาของหลิวเซิ่งจะมาทุกวันเว้นวัน เพื่ออาบน้ำล้างหน้าให้แม่นางสุ่ย คอยดูแลให้สะอาดเรียบร้อยข้าพบว่าตระกูลหลิวยังปฏิบัติต่อนางด้วยดี เพียงแต่หลิวเซิ่งผู้นั้นกลับไม่เคยมา หนึ่งคือเขาต้องกลับไปยังโรงเรียน สองคืออาจเพราะในใจก็ยังมีความคับแค้นอยู่บ้าง เพราะคำกล่าวหาของแม่นางสุ่ยที่ทำให้เขาต้องติดคุกอยู่ช่วงหนึ่งชายหนุ่มผู้เป็นบัณฑิตย่อมมีความเย่อหยิ่งในใจบ้าง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1603

    ก่อนจะไปยังหนานเจียง ข้าไม่เคยมีแผนการใดในชีวิต ไม่มีเป้าหมาย ไม่เคยมีสิ่งใดที่อยากทำเป็นพิเศษเมื่อยึดหนานเจียงกลับคืนมาแล้วเดินทางกลับสู่เมืองหลวง เสียงโห่ร้องยินดีจากราษฎรทำให้ข้ารู้สึกว่า หากมนุษย์ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายไปวันๆ เช่นนั้นจะไม่สูญเปล่าหรือ?ข้าจึงเริ่มครุ่นคิดถึงความหมายของชีวิตจากการติดตามย่างก้าวของซีซี ข้าก็ได้ทำสิ่งต่างๆ มากมาย ตั้งแต่โรงงานช่างไปจนถึงสถาบันการศึกษาหย่าจวินหญิงมากหลายล้วนประสบชะตาน่าเวทนา และข้ามีความสามารถที่จะช่วยพวกนางได้ ข้าคิดว่า นี่คงเป็นหนึ่งในความหมายของชีวิตว่าเป็น “หนึ่ง” ก็หมายความว่ายังอาจมี “สอง” และ “สาม” ตามมาได้มิใช่ข้าจะโอ้อวดตนเอง แต่เนื้อแท้ของข้าคือคนที่ชังความชั่วโดยสันดานดังนั้น เมื่อได้ยินว่ามีฆาตกรฆ่าคนจำนวนมาก แต่กลับลอยนวลเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่อาจเอาผิดได้ ข้าย่อมโกรธเคืองนัก ข้าเห็นว่า คนฆ่าย่อมต้องชดใช้ด้วยชีวิตแรกเริ่ม ข้าไม่ได้กระทำการอันใดหุนหันพลันแล่น เพียงแต่เดินตามแนวทางของสำนักเขตจิงจ้าว สืบสาวเรื่องราวต่อไป และส่งมอบหลักฐานที่ได้มาให้แก่เจ้ากรมแห่งสำนักเขตจิงจ้าวจนกระทั่งข้าได้พบกับคดีหนึ่งที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1602

    ดอกเหมยบนภูเขาเหม่ยชานบานแล้ว ร่วงโรยแล้วเช่นกันในใจข้าย่อมอดเคืองนางไม่ได้ กลับบ้านไปแล้ว ก็จะทอดทิ้งพวกข้าด้วยหรือ? ไม่นึกถึงน้ำใจไมตรีที่มีต่อกันตลอดหลายปีมานี้เลยหรือ?เฉินเฉินก็ด่านางว่าไร้หัวใจ ไปก็แล้วไป ไยจึงไม่แม้แต่จะส่งจดหมายมาสักฉบับ?นานวันเข้าพวกข้าก็เลิกพูดถึงนางเสียเอง ราวกับว่าการไม่เอ่ยชื่อนางเลย คือการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อผู้ละทิ้งพวกข้าต่างก็ตกลงกันไว้ว่า หากนางกลับมายังภูเขาเหม่ยชานอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็จะไม่ไปพบนาง ไม่พูดกับนางสักคำ แม้นางจะให้คนส่งจดหมายมา ข้าก็จะไม่ตอบกลับ แม้แต่จะอ่านยังไม่อ่านวันเวลาผ่านไปกลางดาบคมและเงาเย็น พวกข้าทุกคนต่างฝึกฝนวิชาให้แกร่งกล้า ราวกับได้ตกลงกันไว้แล้วว่า หากยังไม่ตาย ก็จะฝึกจนสุดกำลังแม้ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจา แต่ข้าย่อมรู้ว่าในใจของทุกคนคิดไม่ต่างกัน ย่อมไม่มีวันเป็น ‘นางที่ยิ้มแย้ม’ ได้อีกแล้ว เพราะเจ้าหวังห้าเล่าว่า ตั้งแต่นางจากเขาลงไป ท่านอาจารย์ก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย มีแต่สีหน้าเคร่งเครียดทุกเมื่อเชื่อวันพวกข้าไม่รู้ว่านางประสบเรื่องราวใด แต่ข้าก็ฝึกฝนจนกล้าแข็ง เพียงรอวันที่นางต้องการข้า ดาบในมือย่อมพร้อมชักออกจา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1601

    เพียงแต่ ข้ากับซีซีพบกันแทบทุกวัน หากนางไม่มาหาข้าที่สถาบันชื่อเยียน ข้าก็จะไปหานางที่สำนักว่านซง ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงยังคงได้พบหวังเยว่จางอยู่เสมอทว่า ทุกคราที่เขาเห็นข้า ก็จะส่งสายตาเคียดแค้นมาให้ ราวกับข้าเป็นผู้ล่วงเกินเขากระนั้นครั้งหนึ่งข้าทนไม่ไหว เอ่ยถามเขาว่าจะมองเขม่นข้าไปถึงไหน เขากลับว่าข้าเป็นคนแพร่ข่าวลือ ว่าเขาไปเที่ยวหอนางโลมข้าก็โกรธแทบขาดใจ! เขาประพฤติเสียเอง ไม่รู้จักสำนึก กลับมาโทษคนที่บริสุทธิ์ ข้าไม่ได้แพร่ข่าวลือเสียหน่อย!ข้าแค่เล่าเรื่องนี้ให้สหายสนิทของข้าฟัง แล้วจะนับว่าแพร่ข่าวลือได้อย่างไร?ข้าโมโหจนต่อยเขาไปหนึ่งหมัด แล้วก็ประกาศตัดขาดกับเขาเสียเลยต่อมา ซีซีกลับบ้าน ข้าคิดว่าไม่นานนางก็คงกลับมาเช่นเคย แต่ครานี้ นางกลับหายไปเนิ่นนาน มิได้กลับสำนักภูเขาเหม่ยชานอีกเลยข้าไปที่สำนักว่านซงเพื่อถามหา แต่มิมีผู้ใดยอมปริปากแม้แต่คนเดียวด้วยความร้อนใจ ข้าคิดจะพาเฉินเฉินกับมันโถวออกเดินทางไปเมืองหลวงตามหานาง ก่อนออกเดินทาง หวังเยว่จางก็มาหาเราครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขามีสีหน้าเคร่งขรึม เขาบอกพวกเราว่า ซีซีมีเรื่องในบ้าน บิดาและพี่ชายล้วนเสียชีวิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status