ฮูหยินผู้เฒ่าสวมเสื้อกันหนาวผ้าฝ้ายลายเมฆสีฟ้า ถือถังทำความร้อนอยู่ในมือ นางดูมีอายุประมาณห้าสิบปี มีผมหงอกบางส่วน ผมของนางหวีเป็นมวยอย่างประณีต และดูสง่างามมากเมื่อมองไปที่คุณหนูสาม นางแต่งตัวเรียบๆ ใต้เสื้อขนสุนัขจิ้งจอกสีขาว นางสวมกระโปรงสีเหลือง อายุยี่สิบกว่า และดูสวยงาน แต่ใบหน้าของนางดูไร้ชีวิตชีวาเล็กน้อย หากมิใช่มีสีเหลืองนี้ ก็คงรู้สึกว่าออร่าของนางดูเชยกว่าท่านแม่ของนางซะอีกหลังจากที่ซ่งซีซีเชิญพวกนางนั่งลง นางก็อธิบายว่า "ก่อนหน้านี้ที่ฮูหยินผู้เฒ่าส่งคำเชิญมา ตอนนั้นรุ่ยเอ๋อร์กำลังอยู่ระหว่างช่วงการรักษา ข้าเลยไม่อาจเจียดเวลามาพบแขก กลัวว่าจะเสียมายาทได้ เลยให้คนรับใช้ปฏิเสธไปก่อน ตอนนี้เขาดีขึ้นมากแล้ว เลยอยากจะชวนทั้งสองคนมารวมตัวกันที่จวน ขอบคุณที่พวกเจ้ายังคงคำนึงถึงรุ่ยเอ๋อร์"วันนั้นที่พวกนางออกคำเชิญ โดยบอกว่าจะมาเยี่ยมนายน้อยรุ่ยเอ๋อร์ ซ่งซีซีย่อมต้องพูดเช่นนั้นไปฮูหยินผู้เฒ่าถามว่า "ตอนนี้นายน้อยเป็นยังไงบ้าง?""ดีขึ้นมากแล้วเจ้าคะ เป็นพรของเขาที่ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นห่วง" ซ่งซีซีกล่าวฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มและพูดว่า "ข้ารู้ว่าที่จวนเสนาบดีกั๋วกงของพวกเจ้ามีทุกอย่
หลังจากพูดอย่างนั้น นางก็ยิ้มอีกครั้ง "แต่เจ้าหย่าแล้วก็ดี บัดนี้ได้แต่งงานกับท่านเป่ยหมิงอ๋อง การเป็นพระชายาจะไม่ดีกว่าฮูหยินของแม่ทัพหรือ"ซ่งซีซีไม่ชอบคำพูดที่ประชดของนาง จึงพูดอย่างใจเย็นว่า "คนเราจะควบคุมโชคชะตาได้อย่างไร เมื่อข้าหย่า ข้าก็ไม่เคยคิดเลยว่าข้าจะแต่งงานท่านเป่ยหมิงอ๋องได้""ชิงเอ๋อร์ เจ้าพูดแบบนี้ได้ยังไง" ฮูหยินผู้เฒ่าทำสีหน้าไม่พอใจ"ขอโทษนะ ข้ามักจะพูดตรงไปตรงมาเสมอ หวังว่าคุณหนูซ่งจะไม่ถือสา" คุณหนูสามระงับรอยยิ้ม แล้วถามอีกครั้ง "แล้วคุณหนูซ่งคิดอย่างไรกับนิสัยใจคอของจ้านเป่ยว่างล่ะ ในเมื่อเจ้าหย่ากับเขาแล้ว เขาต้องมีสภาพแย่มากอยู่ในใจของเจ้าสินะ"ซ่งซีซีรู้สึกตลกสิ้นดี "ในเมื่อคุณหนูสามพูดแบบนี้แล้ว ทำไมถึงมาถามข้าล่ะ"ฮูหยินผู้เฒ่าจ้องเขม็งไปที่หวังชิงหลูอย่างดุเดือด จากนั้นพูดกับ ซ่งซีซีด้วยน้ำเสียงขอโทษ "คุณหนูซ่งอย่าไปถือสาเลย หลายปีมานี้นางอยู่คนเดียวจนชินเป็นนิสัย พูดอะไรไม่ใช้สมอง เจ้าอย่าเก็บไว้ในใจ ที่เรามาครั้งนี้ นอกจากมาเยี่ยมนายน้อยแล้ว ยังอยากรู้ว่าจ้านเป่ยว่างเป็นคนยังไงจากปากของคุณหนู อย่างน้อย มองจากมุมมองของคุณหนูว่าเขาเป็นคนแบบไหน"ซ่งซ
หลังจากส่งฮูหยินผู้เฒ่าป๋อผิงซี และคุณหนูสามออกไปแล้ว ซ่งซีซีก็นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นสักพักใหญ่ นางรู้สึกงุนงงเล็กน้อยจ้านเป่ยว่างมีท่าทียังไงกับการแต่งงานครั้งนี้ล่ะ? ไหนบอกว่ารักยี่ฝางคนเดียวเหรอ? เมื่อนึกถึงยี่ฝางที่มาอวดต่อหน้านางอย่างหยิ่งผยอง ไม่คิดว่าจะมีนายหญิงคนใหม่เร็วขนาดนี้ ไม่รู้ว่ายี่ฝางจะคิดยังไง แล้วจะคิดว่าที่ตนเองหยิ่งผยองในตอนแรกนั้นจะตลกน่าขำหรือไม่แม้ว่าคุณหนูสามจะเข้ากันได้ยากนัก แต่ถึงยังไงนางเป็นคุณหนูจากจวนป๋อผิงซี ดังนั้นนางจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดที่จะรับผิดชอบเรื่องต่างๆ ในจวนยิ่งไปกว่านั้น ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านน่าจะชอบลูกสะใภ้คนนี้มาก ไม่มีเหตุผลอื่นใดหรอก แม้ว่านางจะเป็นการแต่งงานครั้งที่สอง แต่นางก็จะมีสินเดิมมากมาย และครอบครัวของท่านพ่อแม่ของนางก็แข็งแกร่งด้วย ฮูหยินผู้เฒ่าชอบลูกสะใภ้ที่มีภูมิหลังเก่งๆยี่ฝางเคยบอกว่านางจะไม่สู้กับผู้หญิง แต่ไม่รู้ว่าคราวนี้นางจะสู้หรือเปล่า?นางอยากใช้ชีวิตแบบคนที่นางเกลียดชังมากที่สุดหรือเปล่าเนี่ย?ซ่งซีซีอยากรู้อยากเห็นก็จริง แต่นางจะไม่ส่งคนไปสอบถามอย่างไรก็ตาม แม้ว่าซ่งซีซีไม่ได้ไปสอบถามเอง ก็มีคนจากต
แม่นมเหลียงเข้ามาพร้อมกับชามรังนกที่ฮูหยินผู้เฒ่ารองชอบ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ท่านฮูหยินผู้เฒ่ารองโชคดีมากนะ ไม่ได้ตุ๋นรังนกมาหลายวันแล้ว เพิ่งบังเอิญตุ๋นมันในวันนี้ ท่านก็มาพอดีเลย"สิ่งที่แม่นมเหลียงพูดนั้นไม่เป็นความจริง ตอนนี้ตุ๋นมันทุกวันและคู่กับยาให้รุ่ยเอ๋อร์ใช้รักษาลำคอของเขานอกจากนี้ มีรังนกมากมายอีกด้วย ตระกูลขงนำรังมาบ้าง หัวหน้าลู่จากจวนเป่ยหมิงอ๋องก็ส่งรังนกมาสองตาชั่ง ส่วนเฉินฟูก็ซื้อเองบ้างฮูหยินผู้เฒ่ารองมองแม่นมเหลียง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ข้าเป็นคนกินเก่ง รู้ว่ามีของดีให้กินก็มาแล้วแหละ ช่วงนี้ข้าไอ และมาที่นี่เพื่อขอชามรังนกสักชามนึง คืนนี้จะหยุดไอแน่นอน"ซ่งซีซีถามด้วยความกังวล "อาการไอของท่านยังไม่หายดีหรือ ครั้งที่แล้วที่ท่านมาเยี่ยมรุ่ยเอ๋อร์ ข้าก็ได้ยินท่านไออยู่เลย""แต่ละวันมีแต่เรื่องวุ่นวาย จะดีขึ้นได้ยังไง" ฮูหยินผู้เฒ่ารองใช้ช้อนคนรังนกในชามกระเบื้องเบาๆ ด้วยสีหน้าโศกเศร้าและรังเกียจ "จ้านเป่ยว่างไม่กลับบ้าน พอกลับบ้านยี่ฝางก็จะทะเลาะกับเขา และยังใช้กำลังด้วย จ้านเป่ยว่างอดทนเก่งจริงๆ ถูกทุบตีก็ไม่สู้กลับ โดนด่าก็ไม่ว่าอะไร ทุกวันนี้ยี่ฝางเหมือนคน
เมื่อฮูหยินผู้เฒ่ารองจากไป ซ่งซีซีให้แม่นมเหลียงนำรังนกหนึ่งตาชั่งให้นางเอากลับไปฮูหยินผู้เฒ่ารองมีอาการไอ และจะกำเริบเมื่ออากาศหนาวเย็น ก่อนหน้านี้ซ่งซีซีมักจะให้รังนกนางฮูหยินผู้เฒ่ารองปฏิเสธรับ และซ่งซีซีก็เลียนแบบคำพูดนางว่า "ถ้าท่านไม่รับไว้ก็ถือว่ารังเกียจข้า งั้นข้าก็จะไม่รับของจากท่านเช่นกัน"ขณะที่นางพูดนั้นก็เรียกให้แม่นมเหลียงคืนกำไลทองกลับไป"เฮอะ ข้าจะรับมันไว้ข้ารับไว้" ฮูหยินผู้เฒ่ารีบรับรังนกไว้ในมือ "มักจะเอาของของเจ้าไป และข้านี่น่าอายจริงๆ""ช่วงเวลาที่ข้ายากลำบากนั้น ท่านเป็นคนคอยอยู่ข้างๆ ข้า ข้าจดจำไว้ในใจ" ซ่งซีซีคว้าแขนของนาง แล้วส่งนางออกไปเมื่อตระกูลซ่งถูกสังหารหมู่ แม้ว่าบ้านใหญ่ได้ปลอบใจบ้าง แต่ก็แค่พูดเปล่าๆ มีแต่ฮูหยินผู้เฒ่ารองที่คอยอยู่เป็นเพื่อนนางอย่างจริงใจเมื่อรู้ว่านางกินไม่ได้และนอนไม่หลับในเวลานั้น นางจึงปรุงยาบรรเทาอาการให้นาง ยาบรรเทาอาการที่หมอมหัศจรรย์ดันออกให้นั้น ส่วนใหญ่เป็นนางต้มให้เองเมื่อฮูหยินผู้เฒ่ารองได้ยินเช่นนี้ นางก็เกือบจะน้ำตาไหล นางรีบปาดจมูกแล้วหันหน้าหนี "ข้าก็ปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนเป็นลูกสาวของข้า ตราบใดที่เจ้าไม่ร
หมอมหัศจรรย์ดันได้ถูกตามหามา หลังจากได้รับการตรวจร่างกายจากเขาแล้ว เขาชื่นชมการทำงานของหงเชวี่ยก่อน จากนั้นชื่นชมความสามารถในการฟื้นตัวของรุ่ยเอ๋อร์จากนั้นเขาก็แตะปลายจมูกของรุ่ยเอ๋อร์ แล้วพูดว่า "เจ้าหนูน้อย เก่งจริงๆ ท่านปูดันนึกว่าต้องใช้เวลาปีสองปีเสียอีก""แต่ ท่านบอกว่าต้องคายเลือดพิษออกมาคกนึงก่อนจึงจะพูดได้ไม่ใช่หรือ" ซ่งซีซีรีบถามขึ้น"ไม่ใช่เป็นแบบนั้นทั้งหมด ตอนนี้ดูเหมือนว่าสารพิษในร่างกายของเขาเกือบจะหายไปแล้ว เพียงแต่เขาไม่ได้พูดมาสองปี ซึ่งก็จะยากสักหน่อย บวกกับคอของเขายังถูกฝังเข็มไว้ตลอด มักจะได้รับความเสียหายหน่อย ค่อยเป็นค่อยไป แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง"ทุกคนก็ตอบโอ้ แล้วก็มองหน้ากันพลางยิ้มออกมาเพราะก่อนหน้านี้ ทุกคนมักจะกังวลอยู่เสมอว่าเมื่อใดที่เขาจะพ่นเลือดดำออกมาคำนึง แต่โดยไม่คาดคิดว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นก็ได้ทักษะทางการแพทย์ของหมอมหัศจรรย์ดัน สุดยอดจริงๆซ่งซีซีคุกเข่าลงและคำนับหมอมหัศจรรย์ดัน "ควรให้รุ่ยเอ๋อร์คำนับให้ท่าน แต่ขาและเท้าของเขาไม่สะดวก เมื่อเขาหายดีเมื่อใด จะให้เขาคุกเข่าคำนับท่านอย่างแน่นอน"หมอมหัศจรรย์ดันรับการไหว้ไว้ แล้วพูดว่
ซ่งซีซีกลับไปนอนดึกมาก เป่าจู่มารายงานแต่เช้า โดยบอกว่ายี่ฝางอยู่นอกจวนเพื่อขอพบ นางร้องอาละวาดมาก จะไล่ยังไงก็ไม่ไป เลยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องมาปลุกนางซ่งซีซีลุกขึ้นจากเตียง มึนงงอย่างงัวเงียอยู่พักหนึ่ง กล้ามาจริงๆนางตื่นได้สติมากขึ้น สงบลงและฟังด้วยกำลังภายในของนาง ข้างนอกเสียงดังจริงๆ เป็นเสียงของยี่ฝางมันยังมาพร้อมกับเสียงเคาะประตูดังก้อง หากนางยังสร้างโกลาหลเช่นนี้ จะรบกวนรุ่ยเอ๋อร์เข้าแน่ๆ แม้ว่ารุ่ยเอ๋อร์จะดีขึ้นมากแล้ว แต่เขาก็ยังกลัวเสียงอันดุร้ายนี้ปฏิกิริยาแรกของซ่งซีซีคือกระโดดขึ้นและถือหอกดอกท้อไว้พยายามไล่ยี่ฝางออกไปทว่า แถวจวนเสนาบดีกั๋วกงล้วนเป็นตระกูลชั้นสูง ไม่ว่ายี่ฝางจะอาละวาดยังไง นางในตอนนี้ยังเป็นผู้นำของจวนเสนาบดีกั๋วกง ให้ผู้นำออกไปขับไล่เอง มันจะสูญเสียสถานะได้ก็ได้ ก็อยากรู้เหมือนกันว่าจนถึงบัดนี้แล้ว ยังมาหาเรื่องนางถึงบ้าน มีเรื่องอะไรกันแน่?"พานางไปที่ห้องโถงด้านข้างของลานด้านนอก ข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็จะไป" ซ่งซีซียืนขึ้นแล้วพูดแม้ว่าเป่าจูจะรู้สึกว่าโชคร้ายมากที่ได้พบกับคนๆ นั้น แต่หากปล่อยให้นางก่อโกลาหลทั้งอย่างนั้นก็ไม่ใช่ทางออกที่ด
หลังจากที่นางพูดเช่นนี้ ยี่ฝางก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง "เจ้านี่ไม่กล้าพูดความจริงด้วยซ้ำ ซ่งซีซี เจ้าจะบอกว่าตนเองเป็นคนกล้าหาญได้อย่างไร? เสแสร้ง!"ซ่งซีซีไม่สนใจนาง และพูดต่อ "ประการที่สอง ข้ายังจำสิ่งที่เจ้าพูดอย่างหยิ่งยโสเมื่อเจ้ามาหาข้า เจ้าดูถูกผู้หญิงถึงที่สุด ข้าไม่อิจฉาเจ้าหรอก ข้าแค่ดูถูกเจ้าเท่านั้น พวกเราต่างเป็นผู้หญิงด้วยกัน แต่เจ้าไม่เห็นใจผู้หญิงแม้แต่น้อย นิสัยใจคอน่าเป็นห่วงจริงๆ"ยี่ฝางตะคอกอย่างเย็นชา "งั้นเหรอ? แต่ศิลปะการต่อสู้ของเจ้านั้นเก่งขนาดนั้น ในเมื่อไม่ถูกใจข้า เหตุผลไม่ออกมือสู้กับข้าล่ะ""เพราะข้าไม่สน!" ดวงตาของซ่งซีซีมืดมนราวกับหมึก "ในสายตาของข้า เจ้าในตอนนั้นเป็นแค่ตัวตลก ข้าไม่อยากเสียแรงไปสู้กับเจ้า อีกอย่างเจ้าแค่พูดก้าวร้าวกับข้า ข้าก็โต้กลับไปแล้ว คนที่ทรยศต่อสัญญาเป็นจ้านเป่ยว่าง ข้าไม่พอใจกับเขาก็เท่านั้น""ไม่สนงั้นเหรอ ข้าไม่เชื่อว่าตอนนั้นเจ้าไม่อยากฆ่าข้า" นางยังคงพูดอย่างเย็นชา "ข้ารู้ว่าคุณหนูจากตระกูลชั้นสูงอย่างพวกเจ้า มักจะเสแสร้ง แสร้งทำเป็นว่าสูงส่ง แต่จิตใจของพวกเจ้าแคบยิ่งกว่าอะไร เจ้าไม่ได้หาเรื่องกับข้า เพราะต้องการรักษาชื่อเ