Share

บทที่ 1200

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
คนเหล่านั้นตกใจจนฉี่ราด โดยเฉพาะเฉินฮั่นที่ลวนลามหยานหรูอวี้ เขาร้องไห้เสียงดัง ลากขาที่หักอยู่คุกเข่าลงกับพื้น ราวกับว่าเขาไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย โขกศีรษะคำนับซ่งซีซีและใต้เท้าขงไม่หยุด "ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว ข้าน้อยไม่กล้าโลภเงินอีกแล้ว ใต้เท้าโปรดยกโทษให้ด้วย ที่บ้านของข้าน้อยยังมีคนแก่ป่วย และลูกสาวที่ยังไม่ครบขวบเดือน หากข้าน้อยติดคุก ครอบครัวของข้าจะทำอย่างไร?”

เสียงร้องไห่ของเขาโหยหวน เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ใต้เท้าขงออกคำสั่ง “พาตัวไป!”

คนที่ทำสิ่งเลวร้ายอาจมีภูมิหลังที่น่าสังเวช แต่นี่ไม่ใช่ข้อแก้ตัวในการฝ่าฝืนกฎหมาย

คนของทางการเห็นมาเยอะแล้ว แต่สุดท้ายทางการก็ยังต้องทำตามกฎ

กลุ่มคนวุ่นวายกลุ่มหนึ่งจากไป ผู้ที่มาก่อกวนก็ถูกพาตัวไปเช่นกัน มีความเงียบงันในสถาบันการศึกษาสตรี ทุกคนนั่งด้วยกันและไม่พูดอะไร

หงเซียวไปเติมถ่านหนึ่ง ทำให้ห้องอุ่นขึ้นบ้าง เพราะไหล่ของหยานหรูอวี้สั่นตลอดเวลา

ตอนนี้ทุกคนกำลังนั่งอยู่ที่นี่ เจิ้งฮูหยิน กั๋วไท่ฮูหยิน คุณหนูใหญ่หวู่ หยานหรูอวี้ รวมถึงซ่งซีซีที่เป็นเจ้าสำนักและหงเซียวผู้คุ้มกันชั่วคราว

ในสถาบันการศึกษาสตรีมีแม่บ้านสาวใช้ และแม่ครัวอยู่ เมื
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1201

    ในระหว่างทางที่นางกลับบ้าน ได้ยินผู้คนที่จับกลุ่มคุยกัน ต่างก็พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสถาบันการศึกษาสตรีหญ่าจวินวันนี้สถาบันการศึกษาสตรีและโรงงานได้รับความสนใจมาโดยตลอด เมื่อเกิดเหตุใหญ่โตเช่นนี้แล้ว จะไม่สร้างความฮือฮาได้อย่างไร?โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของหลานสาวไท่ฟู่ สตรีที่สูงส่งล้ำค่าเช่นนั้น กลับถูกคนหยาบช้าบ้าบิ่นลวนลาม ต่อไปจะมีคุณชายบ้านไหนกล้าสู่ขอนาง?หลายคนบอกว่านางโง่ เป็นคุณหนูสูงส่งอยู่บ้านดีๆ ไม่ชอบ กลับอยากไปเป็นอาจารย์หญิงอะไรนั่น คราวนี้เป็นอย่างไร ชาตินี้ถูกทำลายไปชั่วชีวิตซ่งซีซีจงใจขี่ม้าอย่างช้าๆ โดยหวังว่าจะได้ยินคำชมจากผู้คนที่หยานหรูอวี้ปกป้องนักเรียน แต่น่าเสียดายที่นางไม่ได้ยินแม้แต่คำเดียวนางรู้สึกเศร้ามากตั้งแต่นางกลายเป็นผู้บัญชาการของกองทัพซวนเจีย นางต้องเผชิญกับความยากลำบากและการลอบสังหารมากมายตลอดทาง ไม่ใช่ทุกการเคลื่อนไหวจะประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ แม้ว่าโรงงานจะมีอุปสรรคมากมาย แต่นางก็ไม่ได้รู้สึกว่ากำลังใจถูกทำลาย รู้สึกว่ามีหลายเรื่องที่ต้องค่อยเป็นค่อยไป ขอเพียงพยายามทำให้ดีที่สุดแต่คราวนี้ ขวัญและกำลังใจทั้ง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1202

    ไทเฮาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกิจการต่างๆ มาหลายปีแล้ว แต่สนใจเพียงสถาบันการศึกษาสตรีแห่งนี้เป็นพิเศษ ซึ่งพระนางได้มีพระราชเสาวนีย์ด้วยตัวเอง “เป็นไปได้ไหม นักเรียนที่ไปเรียน มีการทะเลาะเบาะแว้งกันเองในจวน?” ซ่งซีซีถามอาจารย์หยูถอนหายใจ "ถ้าเป็นเช่นนี้ ขอบเขตก็ยิ่งกว้างขึ้น แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้"ในจวนหลายแห่งดูเหมือนว่าภรรยาเอกและอนุจะเข้ากันได้ดี แต่จริงๆ แล้วเป็นเพียงภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น อนุ แม้แต่อนุฐานะสูงก็ไม่กล้าที่จะเย่อหยิ่งต่อหน้าภรรยาเอก มีข้อยกเว้นคือ เจ้านายเข้าข้างอนุ ซึ่งนำไปสู่ความไม่มั่นคงของสถานะภรรยาเอก ด้วยเหตุนี้การต่อสู้ระหว่างภรรยาเอกและอนุจะดุเดือดมาก ไม่ว่าจะเป็นคำดูหมิ่นประเภทใดก็ล้วนน้ำมาใช้ทั้งหมดตัวอย่างเช่น ภรรยากับอนุต่างก็มีบุตรีเหมือนกัน แต่บุตรีของภรรยาเอกได้ไปเรียนที่สถาบันการศึกษาสตรีหญ่าจวิน แต่บุตรีอนุไม่สามารถไปเรียนได้ เพราะมีจำกัดจำนวนดังนั้นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่อนุอยากทำให้บุตรีภรรยามีชื่อเสียงฉาวโฉ่ และลากคนอื่นๆ ให้มัวหมองโดยไม่นึกเสียดายเพราะความรู้ความเข้าใจจะจำกัดความสามารถของคนในการแยกแยะสถานการณ์ต่างๆ และอาจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1203

    หลังจากที่ซ่งซีซีออกจากวังกลับจวนไม่นาน เสิ่นว่านจือก็รีบเข้ามา และดึงตัวนางออกไปอีกด้าน“เกรงว่าเรื่องสถาบันการศึกษาสตรี จะเป็นฝีมือของฝ่าบาทและฮองเฮา” สีหน้าของนางเคร่งขรึมพร้อมแสดงความโกรธเล็กน้อยซ่งซีซีตกตะลึง "ฝ่าบาทและฮองเฮา? ใครบอก?"“จางฉีเหวินบอก เขาได้ยินฝ่าบาทตำหนิฮองเฮาว่าทำอะไรไม่คิด ฮองเฮาแย้งว่าเดิมทีฝ่าบาทไม่ชอบสถาบันการศึกษาสตรี เพื่อไม่ให้เจ้าชักชวนเหล่าสตรีที่มีอำนาจในเมืองหลวงมาเป็นพวก นางทำเช่นนี้ก็เพื่อแบ่งเบาภาระให้พระองค์”ซ่งซีซีได้ยินเช่นนี้ ก็รู้สึกเยียบเย็นจนทั่วสรรพางค์กาย“เจ้าใจเย็นก่อน เรื่องนี้ห้ามไม่ให้จางฉีเหวินแพร่งพรายออกไป ไม่เช่นนั้นอนาคตของเขาจะจบสิ้น” เสิ่นว่านจือกล่าวซ่งซีซีนั่งลงอย่างว่างเปล่า ไม่ใช่ว่านางไม่เคยบังอาจคาดเดาไว้เช่นนี้ แต่นางไม่กล้าคิดว่าจะเป็นฝ่าบาทเลยนางเคยสงสัยฮองเฮา แต่นางรู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผลตอนนี้ฮองเฮาควรจะวางแผนเพื่อองค์ชายใหญ่ถึงจะถูก การไปล่วงเกินตระกูลชั้นสูงเช่นนั้น จะมีประโยชน์อะไรกับนาง? แม้ว่าเรื่องนี้จะกระทำอย่างระมัดระวัง แต่ก่อนที่จะลงมือก็คิดว่าระมัดระวังขนาดนี้แล้วงั้นหรือ? ถ้าหัวหน้าคนงานยังไ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1204

    ในช่วงสิ้นปี ผู้คนต่างยุ่งกับการซื้อสินค้าปีใหม่ ทุกครอบครัวล้วนยุ่งกันมากอย่างไรก็ตาม การที่ยุ่งวุ่นวายทำให้เกิดโอกาสในการสื่อสารกันมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่ข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่ว การสรรเสริญหยานหรูอวี้ของไทเฮามีผลเพียงเล็กน้อย ในทางกลับกัน บางคนกล่าวว่าที่ไทเฮาสรรเสริญด้วยตัวเองนั้น ไม่ได้หมายความว่าหยานหรูอวี้ไม่ใช่แค่ถูกลวนลามธรรมดาเท่านั้นกระแสเสียงนี้ค่อยๆ กลายเป็นเสียงกระแสหลัก ดูเหมือนว่ามีคนจงใจนำทางไปในทิศทางนี้ แม้แต่จวนเป่ยหมิงอ๋องก็ออกมาพูดให้ความเป็นธรรม หรือมีคนที่อยู่ในเหตุการณ์ออกมาพูด บอกว่าตอนนั้นหยานหรูอวี้ทำเพื่อปกป้องนักเรียน ไม่ระวังจึงถูกคนร้ายลวนลามแต่มีหรือที่ประชาชนจะชอบที่ได้ยินเช่นนี้? ผู้คนชอบสร้างเจ้า แต่กลับสนใจที่จะทำลายเทพเจ้ามากกว่าในอดีตหยานหรูอวี้มีชื่อเสียงในด้านความรู้ความสามารถ ทั้งหน้าตาดีและภูมิหลังทางครอบครัวที่ดี ทำให้หลายคนอิจฉา แต่ตอนนี้กลับยิ่งมีความมุ่งร้ายต่อนางมากยิ่งขึ้นอดีตของนางมากมายถูกขุดขึ้นมา บอกว่าจริงๆ แล้วนางเป็นคนเย่อหยิ่งเย็นชา ชอบดูถูกคน ไม่ชอบคบค้าสมาคมกับคนที่ต่ำกว่า ยิ่งไปกว่านั้น ในงานเลี้ยงขององค์หญิงใหญ่ นางเรี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1205

    เพิ่งไล่คนเล่าเรื่องออกไปจากหน้าประตูได้ แต่ก็มีปัญหาใหม่เกิดขึ้นเหล่าบรรดาแม่สื่อต่างทยอยมาเยือนถึงที่ บอกว่าต้องการจับคู่กับหยานหรูอวี้คนที่พวกเขาพูดถึง เกือบจะทำให้พ่อแม่ของหยานหรูอวี้โกรธแทบคลั่ง ทั้งหมดมีแต่พวกน่าเกลียดดูไม่ได้ คนแบบนี้ปกติอย่าพูดถึงว่าจะจับคู่แต่งงานเลย แม้จะเจอตามท้องถนน ก็แทบอยากถุยน้ำลายใส่ไม่ได้หมายความว่าฐานะจะต่ำต้อย แต่เพราะการประพฤติตัวไม่ดี บ้างก็มีสาวใช้ต้นห้องที่ให้กำเนิดบุตรอนุและบุตรีอนุ บ้างก็เที่ยวเล่นในบ่อนพนันตลอดทั้งวัน จนฟ้าสว่างคาตาก็ยังไม่ยอมลุกจากโต๊ะ หรือไม่ก็เป็นลูกค้าประจำของสถานบันเทิง หรือไม่ก็เลี้ยงภรรยาไว้นอกบ้านปกติพวกเขาจะไม่กล้ามาขอแต่งงาน แต่ตอนนี้ทุกคนทำราวกับว่าตัวเองกำลังแสดงความมีน้ำใจ ทำตัวหยิ่งผยอง ราวกับว่าถ้าหยานหรูอวี้ไม่แต่งงานกับพวกเขา แล้วจะไม่มีทางรอด หยานไท่ฟู่ไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อนในชีวิต เขาหยิบไม้กวาดขึ้นมาไล่ตีคนออกไป ซึ่งแน่นอน ว่ามันยังเพิ่มเรื่องให้นินทาอีกไม่น้อยทัศนคติของสาธารณชนต่อเรื่องนี้คือคำว่า หัวเราะเยาะ!“พูดราวกับว่านางยังมีทางเลือก คนเขายอมสู่ขอนาง ก็นับเป็นบุญเก่าส่งผลแล้ว”“คนที่ถู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1206

    ฉีซี่หลี่ไม่ได้พูดอะไร แต่ใบหน้าดูซีดเซียวมากในใจของนางยังคงขุ่นเคืองหวังจืออวี่อยู่มาก แต่ใครใช้ให้นางพูดแทนเจ้าสิบเอ็ดฝางล่ะ? เรื่องราวในบ้านเหล่านั้นชุลมุนวุ่นวาย ได้ยินแล้วก็อยากจะอาเจียนเรือนในของตระกูลฝางยุ่งเหยิงขนาดนั้น สิ่งยุ่งเหยิงเช่นนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในจวนหลังใหญ่เช่นนี้ได้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดอย่างนั้นหรือ?นางตบหวังจืออวี่อย่างหุนหันพลันแล่น แต่หวังจืออวี่มีปัญหาเอง นางไม่ควรพูดแทนเจ้าสิบเอ็ดฝาง คุณหนูดีๆ ต้องอยู่ให้ไกลจากคนประเภทนี้ อยู่ให้ไกลกับเรื่องพวกนี้ทั้งสองนั่งด้วยกัน จูช่างอวี่สูดน้ำมูกเป็นครั้งคราว ขณะที่ฉีซี่หลี่ยังคงเงียบจิตใจของนางสับสนวุ่นวาย ครุ่นคิดหลายเรื่อง สุดท้ายก็พูดเบาๆ ว่า "จริงๆ แล้วการกลับไปสถาบันการศึกษาสตรีก็ดี แต่ฮองเฮาไม่ชอบสถาบันการศึกษาสตรี"ท้ายที่สุดแล้วนางเป็นเพียงเด็กผู้หญิงที่ถูกปกป้องมากเกินไป ไม่สามารถเก็บความลับได้ ไม่รู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงบอกจูช่างอวี่จูช่างอวี่หยุดร้องไห้ ตกตะลึงเล็กน้อย "ฮองเฮาไม่ชอบ? ทำไมฮองเฮาถึงไม่ชอบ? สถาบันการศึกษาสตรีก่อตั้งโดยไทเฮานะ"“อาจเป็นเพราะพระชายาเป่ยหมิงเป็นเจ้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1207

    ข่าวลือเกี่ยวกับหยานหรูอวี้มีมาตลอดไม่เคยหยุด อาจารย์หยูได้สอบสวนแล้ว พบว่ามีคนชักนำจริงๆ เรื่องราวเก่าๆ เหล่านั้นถูกขุดขึ้นมา เชื่อมโยงกับนางและสถาบันการศึกษาสตรีการพูดจาให้ร้ายหยานหรูอวี้ ก็เท่ากับพูดจาให้ร้ายหยานไท่ฟู่ และในขณะเดียวกันก็ยังเป็นการพูดจาให้ร้ายสถาบันการศึกษาสตรีหญ่าจวินด้วยเดิมทีหยานไท่ฟู่และอาจารย์ฉีเป็นนักปราชญ์ที่มีความรู้ เป็นที่เคารพนับถือมากที่สุด ตอนนี้เนื่องจากเหตุการณ์นี้ทำให้หยานไท่ฟู่ได้ตกลงมาจากที่สูง ทำให้ทุกคนเริ่มยกย่องอาจารย์ฉีอย่างไรก็ตามไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่เจ้ากรมฉีเลี้ยงอนุไว้นอกเรือนอย่างไรก็ตาม การพยายามยกยอปอปั้นอย่างเต็มที่เช่นนี้ อันที่จริงก็ไม่ได้ทำให้ตระกูลฉีได้รับประโยชน์ หากต้นไม้ใหญ่ดึงดูดความสนใจ ตระกูลฉีควรหาวิธียับยั้งความคิดเห็นของประชาชนควรจะถูกอาจารย์หยูพบว่าตระกูลฉีกำลังยับยั้งไว้จริงๆ แต่ยับยั้งไว้ไม่ได้ ตระกูลฉีจึงต้องให้ผู้คนเปลี่ยนหัวข้อกลับไปวิจารณ์เรื่องสถาบันการศึกษาสตรีและหยานหรูอวี้แทน ทั้งสร้างความเสื่อมเสียและเหยียบย่ำการแต่งงานของหยานหรูอวี้ไปต่างๆ นานอาจารย์ยูอดไม่ได้ที่จะโกรธ หยานหรูอวี้ผู้บริสุทธิ์ กลับ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1208

    ผู้ที่เคยไปก่อเรื่องที่จวนไท่ฟู่เพื่อก่อปัญหา บัดนี้ยืนเรียงแถวอยู่นอกประตู ด้วยท่าทางหดหู่ แววตาหวาดกลัวเบื้องหน้าของพวกเขามีคนจับจ้องอยู่ ทุกคนตัวสูงใหญ่ล่ำสัน หมัดใหญ่กว่าลูกมะพร้าว ราวกับว่าสามารถเป่าหัวของพวกเขาให้หลุดออกจาคอได้ด้วยหมัดเดียวหลังจากที่เจ้าสิบเอ็ดฝางลงจากรถม้า ดวงตาที่เย็นชาก็กวาดมองไปทั่วใบหน้าของพวกเขา เปล่งเสียงหัวเราะที่เย็นชาออกมาเท่านั้น บรรยากาศอันน่าเกรงขามและน่ากลัวนั้น ทำให้พวกเขากลัวจนใจสั่นขาอ่อน แต่ละคนขยับเข้าไปใกล้กัน ไม่กล้าเผชิญกับสายตาที่เย็นชาของเจ้าสิบเอ็ดฝางหยานไท่ฟู่สั่งให้ใครสักคนเปิดประตูกลาง เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าได้ยินว่าตระกูลฝางมาสู่ขอที่นี่ อาการป่วยก็หายเป็นปกติในทันที รีบเรียกให้คนไปเตรียมน้ำร้อนมาล้างหน้าล้างตา แต่หน้าแต่งตัว ต้องการไปดูให้เห็นกับตาตนเองหยานหรูอวี้ยังไม่รู้เรื่องนี้ หลายวันนี้ปู่ให้นางอยู่ที่เรือนชิวเยว่ ไม่อนุญาตให้คนรับใช้คนใดบอกข่าวลือภายนอกให้นางทราบท่าทางที่แสดงภายนอกเหมือนนางกำลังอ่านหนังสือ ชมหิมะ และจิบชาอย่างสบายใจ แต่จริงๆ แล้วนางกลับรู้สึกอึดอัดอยู่ข้างในนางคิดว่าตัวเองสามารถจัดการกับมันได้โดยไม่แยแ

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1604

    สุดท้ายข้าก็ทำได้เพียงลอบเฝ้าติดตามแม่นางสุ่ยในเงามืดข้าคิดว่า ฆาตกรที่ฆ่าล้างครอบครัวนาง ย่อมต้องมีแรงจูงใจเป็นแน่หากโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ไม่เพราะรัก ก็ต้องเพราะแค้น หรือไม่ก็เพราะเงินทอง อย่างไรเสียย่อมต้องมีสักอย่างแม่นางสุ่ยยังมีชีวิตอยู่ แล้วฆาตกรจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างสงบเช่นนั้นหรือ?มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า พอเรื่องราวเงียบไปแล้ว ฆาตกรจะย้อนกลับมาฆ่านางอีกครั้ง?การคาดคะเนนี้ดูจะมีเหตุผล แต่ประเด็นสำคัญคือ ข้าไม่อาจหาทิศทางอื่นได้อีกแล้วเถ้าแก่สวีเดิมทีจ้างแม่นมมาคอยดูแลแม่นางสุ่ย แต่แม่นางสุ่ยนั้นหวาดกลัวคนแปลกหน้าอย่างยิ่ง ดังนั้นเถ้าแก่สวีจึงได้แต่ขอร้องให้เพื่อนบ้านโดยรอบแวะเวียนมาดูบ้าง ส่งอาหารมาให้บ้างมารดาของหลิวเซิ่งจะมาทุกวันเว้นวัน เพื่ออาบน้ำล้างหน้าให้แม่นางสุ่ย คอยดูแลให้สะอาดเรียบร้อยข้าพบว่าตระกูลหลิวยังปฏิบัติต่อนางด้วยดี เพียงแต่หลิวเซิ่งผู้นั้นกลับไม่เคยมา หนึ่งคือเขาต้องกลับไปยังโรงเรียน สองคืออาจเพราะในใจก็ยังมีความคับแค้นอยู่บ้าง เพราะคำกล่าวหาของแม่นางสุ่ยที่ทำให้เขาต้องติดคุกอยู่ช่วงหนึ่งชายหนุ่มผู้เป็นบัณฑิตย่อมมีความเย่อหยิ่งในใจบ้าง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1603

    ก่อนจะไปยังหนานเจียง ข้าไม่เคยมีแผนการใดในชีวิต ไม่มีเป้าหมาย ไม่เคยมีสิ่งใดที่อยากทำเป็นพิเศษเมื่อยึดหนานเจียงกลับคืนมาแล้วเดินทางกลับสู่เมืองหลวง เสียงโห่ร้องยินดีจากราษฎรทำให้ข้ารู้สึกว่า หากมนุษย์ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายไปวันๆ เช่นนั้นจะไม่สูญเปล่าหรือ?ข้าจึงเริ่มครุ่นคิดถึงความหมายของชีวิตจากการติดตามย่างก้าวของซีซี ข้าก็ได้ทำสิ่งต่างๆ มากมาย ตั้งแต่โรงงานช่างไปจนถึงสถาบันการศึกษาหย่าจวินหญิงมากหลายล้วนประสบชะตาน่าเวทนา และข้ามีความสามารถที่จะช่วยพวกนางได้ ข้าคิดว่า นี่คงเป็นหนึ่งในความหมายของชีวิตว่าเป็น “หนึ่ง” ก็หมายความว่ายังอาจมี “สอง” และ “สาม” ตามมาได้มิใช่ข้าจะโอ้อวดตนเอง แต่เนื้อแท้ของข้าคือคนที่ชังความชั่วโดยสันดานดังนั้น เมื่อได้ยินว่ามีฆาตกรฆ่าคนจำนวนมาก แต่กลับลอยนวลเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ไม่อาจเอาผิดได้ ข้าย่อมโกรธเคืองนัก ข้าเห็นว่า คนฆ่าย่อมต้องชดใช้ด้วยชีวิตแรกเริ่ม ข้าไม่ได้กระทำการอันใดหุนหันพลันแล่น เพียงแต่เดินตามแนวทางของสำนักเขตจิงจ้าว สืบสาวเรื่องราวต่อไป และส่งมอบหลักฐานที่ได้มาให้แก่เจ้ากรมแห่งสำนักเขตจิงจ้าวจนกระทั่งข้าได้พบกับคดีหนึ่งที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1602

    ดอกเหมยบนภูเขาเหม่ยชานบานแล้ว ร่วงโรยแล้วเช่นกันในใจข้าย่อมอดเคืองนางไม่ได้ กลับบ้านไปแล้ว ก็จะทอดทิ้งพวกข้าด้วยหรือ? ไม่นึกถึงน้ำใจไมตรีที่มีต่อกันตลอดหลายปีมานี้เลยหรือ?เฉินเฉินก็ด่านางว่าไร้หัวใจ ไปก็แล้วไป ไยจึงไม่แม้แต่จะส่งจดหมายมาสักฉบับ?นานวันเข้าพวกข้าก็เลิกพูดถึงนางเสียเอง ราวกับว่าการไม่เอ่ยชื่อนางเลย คือการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อผู้ละทิ้งพวกข้าต่างก็ตกลงกันไว้ว่า หากนางกลับมายังภูเขาเหม่ยชานอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็จะไม่ไปพบนาง ไม่พูดกับนางสักคำ แม้นางจะให้คนส่งจดหมายมา ข้าก็จะไม่ตอบกลับ แม้แต่จะอ่านยังไม่อ่านวันเวลาผ่านไปกลางดาบคมและเงาเย็น พวกข้าทุกคนต่างฝึกฝนวิชาให้แกร่งกล้า ราวกับได้ตกลงกันไว้แล้วว่า หากยังไม่ตาย ก็จะฝึกจนสุดกำลังแม้ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจา แต่ข้าย่อมรู้ว่าในใจของทุกคนคิดไม่ต่างกัน ย่อมไม่มีวันเป็น ‘นางที่ยิ้มแย้ม’ ได้อีกแล้ว เพราะเจ้าหวังห้าเล่าว่า ตั้งแต่นางจากเขาลงไป ท่านอาจารย์ก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย มีแต่สีหน้าเคร่งเครียดทุกเมื่อเชื่อวันพวกข้าไม่รู้ว่านางประสบเรื่องราวใด แต่ข้าก็ฝึกฝนจนกล้าแข็ง เพียงรอวันที่นางต้องการข้า ดาบในมือย่อมพร้อมชักออกจา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1601

    เพียงแต่ ข้ากับซีซีพบกันแทบทุกวัน หากนางไม่มาหาข้าที่สถาบันชื่อเยียน ข้าก็จะไปหานางที่สำนักว่านซง ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงยังคงได้พบหวังเยว่จางอยู่เสมอทว่า ทุกคราที่เขาเห็นข้า ก็จะส่งสายตาเคียดแค้นมาให้ ราวกับข้าเป็นผู้ล่วงเกินเขากระนั้นครั้งหนึ่งข้าทนไม่ไหว เอ่ยถามเขาว่าจะมองเขม่นข้าไปถึงไหน เขากลับว่าข้าเป็นคนแพร่ข่าวลือ ว่าเขาไปเที่ยวหอนางโลมข้าก็โกรธแทบขาดใจ! เขาประพฤติเสียเอง ไม่รู้จักสำนึก กลับมาโทษคนที่บริสุทธิ์ ข้าไม่ได้แพร่ข่าวลือเสียหน่อย!ข้าแค่เล่าเรื่องนี้ให้สหายสนิทของข้าฟัง แล้วจะนับว่าแพร่ข่าวลือได้อย่างไร?ข้าโมโหจนต่อยเขาไปหนึ่งหมัด แล้วก็ประกาศตัดขาดกับเขาเสียเลยต่อมา ซีซีกลับบ้าน ข้าคิดว่าไม่นานนางก็คงกลับมาเช่นเคย แต่ครานี้ นางกลับหายไปเนิ่นนาน มิได้กลับสำนักภูเขาเหม่ยชานอีกเลยข้าไปที่สำนักว่านซงเพื่อถามหา แต่มิมีผู้ใดยอมปริปากแม้แต่คนเดียวด้วยความร้อนใจ ข้าคิดจะพาเฉินเฉินกับมันโถวออกเดินทางไปเมืองหลวงตามหานาง ก่อนออกเดินทาง หวังเยว่จางก็มาหาเราครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขามีสีหน้าเคร่งขรึม เขาบอกพวกเราว่า ซีซีมีเรื่องในบ้าน บิดาและพี่ชายล้วนเสียชีวิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1597

    ข้ามาอยู่ชายแดนเฉิงหลิงได้หนึ่งเดือนแล้ว ก็กำลังครุ่นคิดว่าจะทำสิ่งใดดีในนามแล้ว ข้าคือภรรยาของจ้านเป่ยว่าง ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากลับมีน้อยนัก เขามักพำนักอยู่ในค่ายทหาร มีเพียงบางครั้งที่กลับมามองข้าสองสามตาด้วยเหตุนี้ ข้าจึงมีเวลาว่างมากมาย พอจะทำกิจการเล็กๆ ได้ชายแดนเฉิงหลิงนั้นต่างจากที่ข้าคาดไว้เล็กน้อย เดิมทีข้าคิดว่าดินแดนชายขอบย่อมแร้นแค้น ขาดแคลนสิ่งของ แต่เหนือความคาดหมาย ที่นี่แทบจะมีทุกอย่างขาย ยกเว้นเพียงเครื่องประดับล้ำค่าและผ้าไหมชั้นดีจากแคว้นสู่เท่านั้นสิ่งเหล่านี้ก็หาใช่ว่าไม่มีไม่ เพียงแต่ว่าหลังจากพ่อค้าเดินทางนำมาถึงแล้ว ก็มักเก็บไว้รอส่งไปขายแก่พวกขุนนางมั่งคั่งในซีจิงชาวบ้านที่ชายแดนเฉิงหลิงซื้อเครื่องประดับเพียงเพื่อความสวยงาม ไม่ได้ใส่ใจว่าล้ำค่าหรือไม่ข้ากำลังตรองว่าจะค้าขายสิ่งใดดี เพียงแต่ไม่ว่าคิดจะค้าขายอะไร สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือต้องซื้อร้านก่อนมิใช่หรือ?ดังนั้น ข้าจึงพาบ่าวชายและสาวใช้เดินไปตามตรอกซอกซอย ค้นหาร้านค้าที่เหมาะสมการมาครั้งนี้ พี่สะใภ้ใหญ่ให้เงินติดตัวข้ามาด้วย พี่สะใภ้รองกับว่านจือก็ให้มาบ้าง รวมกับเงินที่ข้าเก็บไว้เอง ที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1596

    นายท่านป๋ออันถูกหวังเยว่จางเหน็บแนมอยู่ไม่น้อย ท้ายที่สุดก็ยอมปล่อยเส้าหมิ่นออกมา ให้เส้าหมิ่นไปขอความเห็นใจ ถึงได้ช่วยชีวิตคุณชายเส้าเอาไว้เรื่องราวคลี่คลาย พวกเขาก็กล่าวขอบคุณหวังเยว่จางอย่างสุดซึ้ง แม้จะรู้ว่าถูกจงใจบีบไว้ แต่จะทำเช่นไรได้เล่า ใครใช้ให้บุตรชายของตนประพฤติผิด ไร้คุณธรรม ถูกจับได้คาหนังคาเขาเล่า?เส้าหมิ่นรู้ว่ามารดาของตนเคยกลั่นแกล้งเสี่ยวอวี่ เขาจึงอดทนไว้ก่อน รอจนแต่งงานแล้วจึงกล่าวขอแยกเรือนทันทีเขามิได้ทะเลาะกับทางบ้าน เพราะราชสำนักแคว้นซางสอบคุณธรรมข้าราชการเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณธรรมแห่งความกตัญญู หากมีตราบาปว่าอกตัญญู วันหน้าอย่าหวังจะยืนหยัดในวงราชการเหตุผลที่เขาขอแยกเรือนก็สมเหตุสมผล กล่าวว่าสำคัญต่ออนาคต การสอบใกล้เข้ามาแล้ว คนในเรือนมากเกินไปย่อมรบกวนสมาธิ หากแยกเรือนไปจะได้เตรียมสอบอย่างสงบเพราะเขาเป็นบุตรที่กตัญญูมาโดยตลอด อีกทั้งฮูหยินเส้าเพิ่งก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมา รู้ดีว่าเบื้องหลังของหวังจืออวี่มั่นคงนัก จึงมิได้ขัดขวางมากนัก อนุญาตให้พวกเขาแยกเรือนไปเรื่องนี้ถูกจัดการอย่างเงียบเชียบ มิได้ก่อผลกระทบอันใด ไม่มีผู้ใดเอ่ยคำซุบซิบนินทาเด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status