Share

บทที่14

Author: Owen Jones
last update Last Updated: 2022-12-21 17:36:24
14 ปรากฏการณ์ฝูงค้างคาว

ลอยและเฮงเจอกันบ่อยขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกคืนเพราะเธอไม่สามารถหนีได้ตลอดเวลา และบางครั้งเธอก็เมามากเช่นกัน พวกเขาบินกันบ่อยมาก แต่ยังมีการพูดคุยกันบนโต๊ะของเฮงที่ริมแม่น้ำภายใต้ความมืดมิด ซึ่งก็เช่นเดียวกับที่พวกเขานั่งอยู่ที่นั่นเสมอแบบเปลือยเปล่าทั้งตัวเหมือนแม่มดในพันธสัญญา

พวกเขาได้ข้อสรุปว่าต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์กว่าที่ใครบางคนจะกลายเป็นแวมไพร์หลังจากถูกกัด และในช่วงเวลานั้นแวมไพร์รุ่นเยาว์จะป่วยหนักมากเกือบถึงประตูแห่งความตาย เมื่อเลือดเปลี่ยนเป็นน้ำ และไตหยุดทำงาน มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เฮงยังคงงงงวยอยู่ เขารู้สาเหตุว่าทำไมคนอื่นถึงได้กลายเป็นแวมไพร์ แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้นกับเขา ข้อสรุปเชิงตรรกะคือ เขาถูกกัดเช่นกัน แต่โดยใครล่ะและเขาจำรอยกัดไม่ได้เลย

ภายในหนึ่งเดือนชุมชนค้างคาวเติบโตขึ้นเป็นสิบ ๆ คน เป็นผู้หญิงแปดคนและผู้ชายสองคน ทั้งหมดอายุต่ำกว่ายี่สิบห้าปี และยังมีเพิ่มอีกหกคนเป็นผู้หญิงสี่คนและผู้ชายสองคนที่ยังอยู่ในระยะดักแด้ตามที่พวกเขาเรียกกันมา

เฮงและลอยได้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการเป็นค้างคาวให้ลูกศิษย์ของพวกเขา แ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่15

    15 สภาค้างคาวแห่งแรก เมื่อถึงเวลาที่วรรณหายป่วยแล้ว ก็ไม่มีค้างคาวที่อายุเกินสิบห้าปีหลงเหลืออยู่ในหมู่บ้านเลยตำรวจท้องที่สองคนเป็นค้างคาว พยาบาลและครูทุกคนก็เป็นค้างคาว ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยทุกคนก็เช่นกัน ตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบทั้งหมดถูกโดยค้างคาว และค้างคาวทั้งหมดถือว่าเฮงเป็นผู้นำของพวกมัน ลอยควรเป็นหมายเลขสองตามสิทธิ์ทั้งหมด แต่เธอผลัดไปให้วรรณ ดังนั้นเฮงและวรรณจึงเป็นกษัตริย์และราชินีของหมู่บ้านโดยพฤตินัย แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยแสดงออกในแง่นั้นเลย เนื่องจากค้างคาวเป็นสังคมนิยมและเป็นคอมมิวนิสต์โดยธรรมชาติ การประชุมตามตารางของเฮงไม่สามารถจัดการได้เมื่อหลายเดือนก่อน แต่ก็ยังยินดีต้อนรับทุกคน เฮงเรียกประชุมในคืนวันเสาร์ เนื่องจากมีคนเพียงไม่กี่คนที่ทำงานในวันอาทิตย์ มากกว่า 1,500 คน ได้กลายร่างไปเป็นค้างคาว และนั่งรอบสนามหญ้ารอบโต๊ะของเขาด้วยร่างที่เปลือยเปล่าโดยไม่มีการรบกวนจากยุง เพราะพวกเขาไม่มีเลือดที่มาดึงดูดพวกมัน เฮงยืนด้วยร่างเปลือยเปล่าแบบตัวอื่น ๆ ถึงแม้ว่าเขามีผ้าเช็ดตัวสี่ผืนอยู่บนโต๊ะสำหรับตัวเอง และครอบครัวของเขา เขาน้ำตาคลอเบ้า เมื่อได้รับการตอบรับจากก

    Last Updated : 2022-12-21
  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่16

    แม่เสือลิลลี่แห่งกรุงเทพมหานคร โดย โอเวน โจนส์ (Owen Jones) ตอนที่ 1: คืนวันเสาร์ตอนกลางคืน ลิลลี่นอนแช่อยู่ในอ่างน้ำร้อนที่สุดเท่าที่เธอจะทนได้ แช่ตัวไว้สิบนาที แล้วขัดผิวอีกสิบนาทีก่อนจะทำวนซ้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอพยายามจะลบกลิ่นของ ‘หมู’ ออกจากตัวเธอ นั่นคือสิ่งที่เธอคิดว่ามันต้องมีกลิ่นติดอยูเป็นแน่ และเธอก็คิดไม่ถึงว่ามันจะมีกลิ่นเลวร้ายแบบนี้อยู่ในโลก เธอเริ่มที่จะถูกครอบงำด้วยมันแล้ว หรือหลายคนอาจจะพูดแบบนั้นว่าเธอกำลังหมกมุ่นอยู่ แต่เธอไม่สามารถช่วยมันหายไปได้อีกต่อไป หากมีเวลาก็จะถูกใช้ไปด้วยความหมกมุ่นของเธอ ซึ่งมันก็ผ่านมานานแล้ว ตอนนี้เธอก็ติดอยู่กับมัน ไม่สำคัญว่าเธอจะแช่น้ำนานแค่ไหน หรือถูแรงแค่ไหน ในช่วงแรกเธอเปลี่ยนชื่อบ่อยด้วยหวังว่าชื่อใหม่จะชะล้างมลทินจากตัวเธอได้ แต่ก็ไม่มีผลอะไร เธอเชื่อโชคลางมากเช่นเดียวกับผู้คนจำนวนมากในชนบท แต่ตอนนี้ได้ลดน้อยลงไปบ้างแล้ว เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรช่วยให้สถานการณ์เลวร้ายของเธอดีขึ้นได้ เธอนึกถึงเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัวเธอ และสงสัยอีกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ที่พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอ หรือมันเป็นเ

    Last Updated : 2022-12-21
  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่1

    1 นายลีกับสถาณการณ์ลำบาก นายลี หรือตาเฒ่าลี คนในชุมชนรู้กันทั่วว่าเขามีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้นมาร่วมอาทิตย์แล้วนั้น เพราะว่ามันเป็นเพียงชุมชนเล็ก ๆ และอยู่ในพื้นที่ห่างไกล จึงทำให้ทุกคนในละแวกนั้นรู้กันไปทั่ว เขาเสาะหาคำแนะนำจากหมอในพื้นที่ ซึ่งก็เป็นหมอเก่าแก่คนหนึ่งที่ไม่ใช่หมอสมัยใหม่ และเธอได้บอกกับลีว่าอุณหภูมิในร่างกายของเขานั้นไม่คงที่ เพราะมีบางอย่างส่งผลต่อระบบเลือดของเขา เธอคนนั้นก็คือ หมอผีประจำชุมชน ป้าของนายลีนั่นเอง ตามความเป็นจริงแล้วก็ยังไม่แน่นอนว่านั่นคือสาเหตุของอาการหรือไม่ แต่เธอก็ให้สัญญาว่าเธอจะทราบถึงสาเหตุได้ในอีกไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมงแน่นอน หากลีทิ้งบางสิ่งสักสองอย่างไว้ให้เธอศึกษา และกลับมาฟังผลหลังจากนั้น หมอผีส่งกอตะไคร้น้ำ และก้อนหินให้นายลี เขารู้ว่าต้องทำยังไง เพราะว่าเขาเคยทำมันมาก่อนหน้านั้น ดังนั้นเขาจึงปัสสาวะรดลงบนกอตะไคร้น้ำ และบ้วนน้ำลายพร้อมขากเสมหะลงบนก้อนหิน เขาส่งมันกลับไปให้เธอด้วยสีหน้าจริงจัง และระวังไม่ให้ของเหล่านั้นสัมผัสลงบนมือเปล่าของหมอผี เธอได้ห่อมันไว้ด้วยใบตองเพื่อรักษาความชื้นให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ ใช้เวลา

    Last Updated : 2022-12-21
  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่2

    2 ความฉงนใจของครอบครัวลี ตามวิถีของคนในชนบท ทุกคนจะนอนรวมกันในห้องเดียวกันในบ้าน แม่และพ่อนอนเตียงนอนคู่ ส่วนเด็ก ๆ นอนคนละเตียง และทั้งสามเตียงก็มีมุ้งกันยุงของตัวเอง ดังนั้นเมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ทุกคนจะย่องออกมาเพื่อไม่ให้เฮงตื่น พวกเขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เพราะพ่อมักจะเป็นคนแรกที่ตื่น และออกไปก่อนเสมอ แม้ในเช้าที่หนาวเหน็บที่สุดก็ตามที พวกเขามองผ่านมุ้งไปที่ใบหน้าที่ซีดเซียวของเฮงและดูเป็นกังวล จนกระทั่งแม่ไล่ให้พวกเขาออกไปข้างนอก “ดิน ช่วยเราหน่อย ลูกเอ้ย ฉันไม่ชอบสภาพแบบนี้ของพ่อเธอเลย อาบน้ำให้เร็ว แล้วก็ไปดูว่าป้าจะบอกอะไรเราบ้าง ไปได้ไหมลูก ให้เป็นเด็กดีนะ หากเขายังไม่พร้อม และเรามาค่อนข้างเร็วไป ซึ่งฉันรู้ดี ถามเธอนะว่า เธอจะพยายามเพื่อหลานชายคนโปรดได้ไหม ก่อนที่มันจะสายเกินไป ดินเริ่มร้องไห้ และวิ่งหนีไปอาบน้ำ “ขอโทษนะ ลูกรัก แม่ไม่ได้ตั้งใจจะอารมณ์เสียใส่ลูก!” เธอตะโกนเรียกลูกสาวให้กลับมา เมื่อเธอมาถึงบ้านป้าทวดของเธอในสิบห้านาทีต่อมา หมอผีชราลุกขึ้น แต่งกายเรียบร้อย นั่งกินข้าวต้มตรงโต๊ะใหญ่หน้าบ้าน “อรุณสวัสดิ์ ดิน ดีใจที่ได้เจอเธอนะ

    Last Updated : 2022-12-21
  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่3

    3 ผีปอบเฮง พวกเขาได้ตื่นมาในตอนเช้าจากการเผลอหลับไปจากอาการเหนื่อยล้า เฮงห่มผ้าเรียบร้อยและหนุนหมอนสูง ทุกคนลุกขึ้น และลงไปข้างล่างทันทีเท่าที่จะสามารถทำได้ โดยเดินผ่านเตียงเขาไปอย่างรวดเร็ว “โว้ว แม่ เห็นพ่อเมื่อคืนนี้ไหม” เด่นถาม “ดวงตาของเขา และผิวของเขาสว่างจ้าอยู่ในห้อง แต่ทว่ามันเป็นดวงตาของเขาจริงหรือ มันเคยเป็นสีดำบนพื้นสีขาวเหมือนเรา แต่ตอนนี้พวกมันเป็นสีแดงบนพื้นสีชมพู… ฉันคาดว่า… คงเป็นเพราะเลือดทั้งหมดนั่นแน่ ๆ “แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ลูกเอ้ย แต่แม่คิดว่าลูกพูดถูก เธอคงต้องหามันเพิ่มอีก และพาน้องสาวเธอไปกับเธอด้วยเพื่อไปเอานมมาเพิ่มอีก เธอจำวิธีการที่ป้าเอาเลือดได้ไหม “ได้ครับแม่ ผมคิดว่าจะเอามันจากเจ้าแพะตัวผู้ดีไหม เพื่อให้มันเป็นตัวสุดท้ายที่จะเอาใช้รักษาได้ “ดี เป็นความคิดที่ดี เด่น ใช้เลือดแพะที่ต่างกันในแต่ละวัน และดินก็สามารถรีดนมตามปกติได้ในทุกวัน ในเวลานี้นมแพะทั้งหมดจะใช้สำหรับพ่อของเธอ ตกลงไหม เขาต้องการมันมากกว่าที่พวกเราหาได้ และเราไม่ต้องการให้เขาหิวในตอนดึกใช่ไหม” “ไม่นะ แม่ ไม่เด็ดขาด! ฉันต้องใช้เวลานานมากกว่าจะได้นอนเมื่อคืนนี้

    Last Updated : 2022-12-21
  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่4

    4 เส้นทางสู่การฟื้นตัว พวกเด็ก ๆ พาเฮงลงไปนอน และถอดแว่นตากันแดดออกให้ เขาหลับตาลงแสร้งทำเป็นหลับจนกระทั่งได้ยินเสียงประตูปิดด้านหลัง จากนั้นจึงเปิดประตูอีกครั้งและลุกขึ้นนั่งบนเตียง เขาไม่ได้เหนื่อยอะไรเลย หรือไม่รู้สึกเลยด้วยซ้ำ พวกเขาทิ้งแสงเทียนยามค่ำคืนอันเล็ก ๆ ไว้ใกล้ทางเข้าประตูเหมือนที่เคยทำ ก่อนที่แสงตะวันจะจางหายไป แต่มันก็ไม่สว่างพอที่จะทำให้แสงสว่างภายในห้องขนาดใหญ่สว่างขึ้น อย่างไรก็ตาม เฮงจะได้เห็นทุกอย่างชัดเจนเช่นเดียวกับตอนกลางวัน เขารู้ว่านี่มันแปลก แต่ก็ยอมรับมันว่าเป็นการดีกว่าที่จะไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ในที่มืด เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่เหมือนแต่ก่อน แต่จำไม่ได้เลยว่าก่อนหน้านี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง เขารู้แค่ว่ามีบางอย่างเปลี่ยนแปลง และเขาเป็นคนที่แตกต่างออกไปแล้วในตอนนี้ ภรรยาของเขาก็บอกว่าเขาชอบผักสลัดสีเขียว ‘ก่อนหน้านี้’ แต่เขาจดจำมันไม่ได้ และเขาพบว่าความคิดเกี่ยวกับกินผักมันช่างน่าสะอิดสะเอียนทีเดียว เขาไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่า ทำไมใคร ๆ ถึงชอบผักมากกว่าเนื้อ หรือมิลค์เชค เฮงรู้ดีว่าคำว่า ‘มิลค์เชค’ ก็ไม่ถูกต้องเช่นกัน แต่เขาไม่สามารถสรุปได้ว่

    Last Updated : 2022-12-21
  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่5

    5 มันคือมนุษย์ หรือ มันคือนกกันแน่ เมื่อวรรณกับลูก ๆ ได้ขึ้นมาหาเฮง เฮงยังคงนอนหลับอยู่ ซ่อนตัวอยู่ในเตียงอย่างมิดชิด ความจริงคือ เขาไม่สามารถนอนได้จนกระทั่งฟ้าสาง แต่เนื่องจากครอบครัวของเขาคิดว่าเขาต้องการการนอนหลับเพื่อพักฟื้นจึงไม่มีใครคิดว่าจะมีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องนี้ เวลาล่วงเลยกว่าสิบเอ็ดโมงเขาถึงโผล่ออกมา เขาสวมกางเกงขายาวที่สะอาด และไปที่กระจกเพื่อหวีผม และตรวจดูใบหน้าของเขาเพื่อดูความเปลี่ยนแปลง ตอนที่เขามองตัวเองในกระจก เขาพบว่ามีสองเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตที่ทำให้เขาถึงกับช็อก เพราะเขามองทะลุผ่านตัวเองได้ เขาไม่ได้ไม่เห็นตัวตัวอย่างแน่นอน เพราะร่างกายบางส่วนของเขาสามารถมองเห็นได้ในกระจก แต่มันเหมือนกับการมองเงาสะท้อนของใครคนหนึ่งในน้ำที่ไหลช้า ๆ แล้วเขาก็เหลือบไปเห็นเตียงของเขาซึ่งอยู่ด้านหลังเขาพอดิบพอดี สิ่งนี้เขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เขาก็ต้องเชื่อสายตาตัวเอง เขาพยายามเคลื่อนตัวไปทางซ้าย ไปทางขวา ก้าวเข้าไปใกล้ และถอยออกออกจากตรงนั้น แต่มันไม่ต่างกันเลย มันดูเหมือนว่าร่างกายของเขาค่อย ๆ จางไป หรือกำลังจะหายไป เฮงเลือกเอาเสื้อเชิ๊ตแขนยาว และและเสื้อ

    Last Updated : 2022-12-21
  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่6

    6 เฮงกลับมาทำงานได้แล้ว หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน เฮงถึงคิดว่า ‘ขี้เกียจไปหมด’ ตื่นนอนตอนสิบเอ็ดโมง ซึ่งช้ากว่าปกติไปหกชั่วโมง เขาตัดสินใจว่าถึงเวลากลับคืนสู่สภาวะปกติแล้ว หากมันจะเป็นไปได้จริง ๆ อีกครั้ง แล้วในเช้าวันหนึ่งตาก็เกิดฝ้าฟาง เมื่อได้ยินเสียงคนอื่น ๆ ตื่น เฮงก็ตื่นด้วยเช่นกัน “เฮง เธอแน่ใจหรือว่าสบายดี ยังไม่ถึงสัปดาห์เลยด้วยซ้ำ!” “ฉันยังคงรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย ฉันจะยอมรับเรื่องนั้น แต่สถานการณ์นี้ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้อีก ฉันต้องรับเอาความรู้สึกปกติบางอย่างกลับเข้ามาในชีวิตของเรา นอนอยู่บนเตียงจนกว่าสิบเอ็ดโมงทุกวันไม่ได้ทำให้ใครมีอะไรดีขึ้น” “งั้นตกลง ถ้าเธอพูดอย่างนั้น แต่พาเด่นไปกับเธอด้วย เธอสามารถสอนรายละเอียดปลีกย่อยให้เขาในการเลี้ยงแพะ และเขาสามารถดูแลเธอได้หากเกิดอะไรขึ้น” ได้ โอเค วรรณ เธอเป็นผู้หญิงที่ดี ฉันจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเธอ ขอบคุณที่คิดถึงฉันตลอดมานะ ฉันโชคดีที่เธอแต่งงานกับฉัน” “ออกไปเถอะน่า เธอมันปากหวาน” “ฉันหมายความว่าอย่างนั้นนะ จูบฉันหน่อยสิ!” “ไม่นะ เดี๋ยวเด็ก ๆ เห็น! หยุดสิ! แต่เธอน่าจะบอกฉันเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อค

    Last Updated : 2022-12-21

Latest chapter

  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่16

    แม่เสือลิลลี่แห่งกรุงเทพมหานคร โดย โอเวน โจนส์ (Owen Jones) ตอนที่ 1: คืนวันเสาร์ตอนกลางคืน ลิลลี่นอนแช่อยู่ในอ่างน้ำร้อนที่สุดเท่าที่เธอจะทนได้ แช่ตัวไว้สิบนาที แล้วขัดผิวอีกสิบนาทีก่อนจะทำวนซ้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอพยายามจะลบกลิ่นของ ‘หมู’ ออกจากตัวเธอ นั่นคือสิ่งที่เธอคิดว่ามันต้องมีกลิ่นติดอยูเป็นแน่ และเธอก็คิดไม่ถึงว่ามันจะมีกลิ่นเลวร้ายแบบนี้อยู่ในโลก เธอเริ่มที่จะถูกครอบงำด้วยมันแล้ว หรือหลายคนอาจจะพูดแบบนั้นว่าเธอกำลังหมกมุ่นอยู่ แต่เธอไม่สามารถช่วยมันหายไปได้อีกต่อไป หากมีเวลาก็จะถูกใช้ไปด้วยความหมกมุ่นของเธอ ซึ่งมันก็ผ่านมานานแล้ว ตอนนี้เธอก็ติดอยู่กับมัน ไม่สำคัญว่าเธอจะแช่น้ำนานแค่ไหน หรือถูแรงแค่ไหน ในช่วงแรกเธอเปลี่ยนชื่อบ่อยด้วยหวังว่าชื่อใหม่จะชะล้างมลทินจากตัวเธอได้ แต่ก็ไม่มีผลอะไร เธอเชื่อโชคลางมากเช่นเดียวกับผู้คนจำนวนมากในชนบท แต่ตอนนี้ได้ลดน้อยลงไปบ้างแล้ว เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรช่วยให้สถานการณ์เลวร้ายของเธอดีขึ้นได้ เธอนึกถึงเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัวเธอ และสงสัยอีกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ที่พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอ หรือมันเป็นเ

  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่15

    15 สภาค้างคาวแห่งแรก เมื่อถึงเวลาที่วรรณหายป่วยแล้ว ก็ไม่มีค้างคาวที่อายุเกินสิบห้าปีหลงเหลืออยู่ในหมู่บ้านเลยตำรวจท้องที่สองคนเป็นค้างคาว พยาบาลและครูทุกคนก็เป็นค้างคาว ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยทุกคนก็เช่นกัน ตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบทั้งหมดถูกโดยค้างคาว และค้างคาวทั้งหมดถือว่าเฮงเป็นผู้นำของพวกมัน ลอยควรเป็นหมายเลขสองตามสิทธิ์ทั้งหมด แต่เธอผลัดไปให้วรรณ ดังนั้นเฮงและวรรณจึงเป็นกษัตริย์และราชินีของหมู่บ้านโดยพฤตินัย แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยแสดงออกในแง่นั้นเลย เนื่องจากค้างคาวเป็นสังคมนิยมและเป็นคอมมิวนิสต์โดยธรรมชาติ การประชุมตามตารางของเฮงไม่สามารถจัดการได้เมื่อหลายเดือนก่อน แต่ก็ยังยินดีต้อนรับทุกคน เฮงเรียกประชุมในคืนวันเสาร์ เนื่องจากมีคนเพียงไม่กี่คนที่ทำงานในวันอาทิตย์ มากกว่า 1,500 คน ได้กลายร่างไปเป็นค้างคาว และนั่งรอบสนามหญ้ารอบโต๊ะของเขาด้วยร่างที่เปลือยเปล่าโดยไม่มีการรบกวนจากยุง เพราะพวกเขาไม่มีเลือดที่มาดึงดูดพวกมัน เฮงยืนด้วยร่างเปลือยเปล่าแบบตัวอื่น ๆ ถึงแม้ว่าเขามีผ้าเช็ดตัวสี่ผืนอยู่บนโต๊ะสำหรับตัวเอง และครอบครัวของเขา เขาน้ำตาคลอเบ้า เมื่อได้รับการตอบรับจากก

  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่14

    14 ปรากฏการณ์ฝูงค้างคาว ลอยและเฮงเจอกันบ่อยขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกคืนเพราะเธอไม่สามารถหนีได้ตลอดเวลา และบางครั้งเธอก็เมามากเช่นกัน พวกเขาบินกันบ่อยมาก แต่ยังมีการพูดคุยกันบนโต๊ะของเฮงที่ริมแม่น้ำภายใต้ความมืดมิด ซึ่งก็เช่นเดียวกับที่พวกเขานั่งอยู่ที่นั่นเสมอแบบเปลือยเปล่าทั้งตัวเหมือนแม่มดในพันธสัญญา พวกเขาได้ข้อสรุปว่าต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์กว่าที่ใครบางคนจะกลายเป็นแวมไพร์หลังจากถูกกัด และในช่วงเวลานั้นแวมไพร์รุ่นเยาว์จะป่วยหนักมากเกือบถึงประตูแห่งความตาย เมื่อเลือดเปลี่ยนเป็นน้ำ และไตหยุดทำงาน มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เฮงยังคงงงงวยอยู่ เขารู้สาเหตุว่าทำไมคนอื่นถึงได้กลายเป็นแวมไพร์ แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้นกับเขา ข้อสรุปเชิงตรรกะคือ เขาถูกกัดเช่นกัน แต่โดยใครล่ะและเขาจำรอยกัดไม่ได้เลย ภายในหนึ่งเดือนชุมชนค้างคาวเติบโตขึ้นเป็นสิบ ๆ คน เป็นผู้หญิงแปดคนและผู้ชายสองคน ทั้งหมดอายุต่ำกว่ายี่สิบห้าปี และยังมีเพิ่มอีกหกคนเป็นผู้หญิงสี่คนและผู้ชายสองคนที่ยังอยู่ในระยะดักแด้ตามที่พวกเขาเรียกกันมา เฮงและลอยได้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการเป็นค้างคาวให้ลูกศิษย์ของพวกเขา แ

  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่13

    13 ค้างคาวหนุ่มสาว เฮงลงไปที่แม่น้ำก่อนอาหารค่ำเพื่อทำงาน ซึ่งเร็วกว่าปกติ แต่กลับไปกินข้าวกับทุกคน แม้ว่าเขาจะกินซุปและมิลค์เชคแพะเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาต้องการที่จะอยู่รอบ ๆ สนามหญ้าในคืนนั้นก็แค่เผื่อว่าลอยมีโอกาสมาเข้าร่วมกับเขา เฮงทำหน้าที่ผสมเหล้าสำหรับแขกใหม่ของเขา และพวกเขายังมีตู้เย็นขนาดเล็กบนโต๊ะข้างตู้ขนาดใหญ่ที่พวกเขานั่งด้วย ตู้แช่เป็นกระจกใสอยู่ด้านหน้าประตู ดังนั้นแขกสามารถที่จะเห็นข้างใน ขวดเบียร์ช้าง และเบียร์ลีโอ โค้กกระป๋อง และมีบางอย่างคล้ายช็อกโกแลตอยู่สองสามแท่ง นอกจากนี้ยังมีกระดานแขวนอยู่ที่ปลายสุดของขื่อซึ่งแสดงรูปภาพผลิตภัณฑ์ไอศกรีมของวอลส์ ซึ่งวรรณมีอีกครึ่งหนึ่งอยู่ในช่องแช่แข็ง เพื่อนของเขา บอน เจ้าของร้านค้าได้ให้กระดานรายชื่อไอศครีมที่มีสำรองแก่เขา และขายไอศครีมให้เขา วรรณได้ติดสติกเกอร์เกินราคาขายปลีกที่ได้รับการแนะนำ และเพิ่มไปอีก 15% กับพวกเขา สิ่งนี้ทำให้พวกเขาได้รับผลกำไรที่ดีจากส่วนลด 15% ที่บอนมอบให้แก่พวกเขา มีเพียงปัญหาเดียวคือต้องหยุดดินที่จะกินมันหมดเสียก่อน        อาหารค่ำสำหรับทุกคน ยกเว้นเฮงที่เป็นข้าวต้ม แกงกะหรี่ไ

  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่12

    12 วาระแห่งการหยุดพัก ในมื้อเช้าของวันรุ่งขึ้น เด่นบอกพ่อของเขาว่ามีเลือดอีกลิตรสำหรับเขาในช่องแช่แข็ง “พ่อครับ ผมค้นพบวิธีที่ดีที่จะเอามันมาแล้ว ใช้ขวดน้ำพลาสติกบาง ๆ แล้วบีบเอาอากาศออก จากนั้นทำการตัดที่คอขวด และให้พอดีกับปากขวดแล้วเปิดมันออก ถ้าพ่อนวดขวด มันจะดูดเลือดออกมาทันที ฉันเอามันมาจากเคธีเมื่อคืนนี้ หนึ่งในเด็กสาวฮิปปี้ในกลุ่มนั้น “ทำได้ดีมากลูกชาย นั่นเป็น…. มันเป็นสิ่งสร้างสรรค์มาก ๆ ของเธอ” เด่นไม่รู้เลยว่าแม่ของเขาไม่รู้เรื่องเลือดของมนุษย์ในช่องแช่แข็ง แต่ตอนนี้เธอกำลังฟังอยู่ “ฉันกำลังฟังคุณสุภาพบุรุษทำสิ่งถูกต้องแล้วงั้นหรือ เรามีเลือดมนุษย์อยู่ในช่องแช่แข็งงั้นหรือ “ฉันไม่แน่ใจว่ามันเหลือเท่าไหร่ แต่เด่นใส่เพิ่มไปอีกอีกลิตรเมื่อคืนนี้ ใช่ไหม ทำไมล่ะ ที่รักของฉัน” “มันน่าขยะแขยงเกินใช่ไหม ฉันไม่ได้รังเกียจเลือดสัตว์มากมายอะไรนะ แต่มนุษย์นี่มัน” “โอ้ แต่วรรณ มันมีคุณภาพที่ดีกว่ามากนะ มันเป็นความแตกต่างระหว่างกินตีนไก่ และอกไก่ ไม่มีข้อเปรียบเทียบ และมันทำให้ฉันรู้สึกสุขภาพดีขึ้น จำได้ไหมว่าป้าดาบอกอะไรเมื่อเดือนที่แล้ว” ใช่ ฉันก็ค

  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่11

    11 วิถีฮิปปี้ หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันของการให้เลือดในทุกคืน เด็กสาวก็อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ได้อาหารเช้าพิเศษของคุณนายลีควบคู่กับยาบำรุง และอาหารเสริมบางอย่างที่ป้าดาจัดเตรียมให้ นั่นหมายความว่าพวกเขาจะไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ปัญหาเดียวคือ พวกเขาสังเกตเห็นบาดแผลที่คอและไม่เข้าใจว่าเหตุใดมันจึงไม่หาย วันหนึ่งสถานการณ์ที่มีความสุขของเฮงก็มาถึงจุดสิ้นสุดลงของตัวมันเอง พวกเขามีข้อซักถามมากมายในเว็บไซต์ของพวกเขา แต่ไม่เคยมีใครโผล่มาเลย ในครั้งนี้มีข้อความกล่าวว่า: ‘เคยได้พยายามกดกระดิ่งแจ้งเตือนหลายครั้ง แต่ไม่สามารถผ่านเข้าได้ อย่างไรก็ตามเราจะเชื่อมั่นในคำพูดของคุณว่าคุณจะไม่มีวันละเลยผู้ใด พวกเรามีผู้เดินทางจำนวน 8 (แปด) คน ที่เดินทางทั่วไทยด้วยรถมินิแวน เราจะไปถึงหมู่บ้านของคุณเพื่อหาเส้นทางไปยังเกสต์เฮาส์ “เดอะ เมาน์เทน รีทรีต” ในบ่ายวันพรุ่งนี้ แล้วพบกัน จะอยู่หนึ่งวัน หรืออาจจะสองวัน จิม’ พวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะติดต่อกลับไปบอกนายและนางลี ซึ่งซื้อที่นอนไปแล้ว แต่ยังไม่มีเตียง ตอนนี้ก็คงไม่มีเวลาแล้วเช่นกัน ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ต้องนอนบนพื้นเหมือนคนไทยส่วนใหญ่

  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่10

    10 ธุรกิจใหม่ของครอบครัว เฮงเข้านอนเร็วพอสมควรในคืนนั้น เพราะเขาต้องการจะตื่นพร้อมครอบครัวของเขาในตอนเช้า แต่เขาคิดว่าเขาอาจจะต้องการงีบในช่วงบ่ายที่โต๊ะอาหาร เขาได้พูดกับเด่นว่า “พ่อคิดว่ามันจะดีกว่า ถ้าเธออยู่ใกล้บ้านและอยู่กับแพะในวันนี้ เจ้าลูกชาย” เด่นไม่อยากให้เฮงพูดอะไรอีก เขาจึงได้แต่ฝืนยิ้ม “ได้ครับพ่อ เอาตามที่พ่อพูดเลยครับ” ใช่ ถ้าลูกลงไปที่แม่น้ำ ก็สามารถตรวจดูคันเบ็ดและจัดวางมันเสียใหม่ วันนี้พ่อคงจะยุ่งอยู่ที่นี่ทั้งวัน กิจวัตรประจำวันของเราอาจจะต้องเปลี่ยนไปในสองสามวันนี้นะ” “โอเคครับ พ่อ ว่าแต่กระเป๋าเป้อีกใบล่ะ” “โอ้ ใช่สิ ฉันจะลืมเรื่องนั้นไปเลย… เอ่อ ปล่อยแพะไว้ก่อน แล้วไปเอามันมาก่อนเถอะ เธอสามารถเอาสกู๊ตเตอร์ไปได้ มันมีหลายอย่าง ดังนั้นเธอจะได้กลับมาภายในหนึ่งชั่วโมง หรือประมาณนั้น เธอจะกลับมาก่อนเด็กผู้หญิงตื่นมา แล้วมันจะเป็นเรื่องน่าเซอร์ไพรส์สำหรับพวกเขา แพะมันรอเธอได้อยู่” ในความเป็นจริงเขากลับมาภายในหนึ่งชั่วโมง ไม่อยากเสียเวลาสักนาทีในความโชคดีของเขาไปนานกว่านี้ ครอบครัวลียังอยู่ที่โต๊ะตอนที่เขากลับมา และเฮงส่งดินไปดูคนออสเตรเล

  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่9

    9 เกสต์เฮาส์ เมื่อเด็ก ๆ เข้านอน เฮงก็ได้คุยกับวรรณ เรื่องที่เขาจะออกไปข้างนอกกับเด่นในวันรุ่งขึ้น ดินและภรรยาของเขาจะจัดการใส่เบ็ดใหม่ และวางกับดักให้เขา หลังอาหารเช้าในช่วงเช้า “เฮง ดึงให้เป็นจังหวะหน่อยสิ ดินรู้สึกเบิกบานใจเหมือนเด็กไปร้านขนมหวานแล้วมีเงินติดตัวไปพอ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าจะดีใจแทนลูก หรือโกรธเธอที่ใช้ลูกเพื่อวัตถุประสงค์ของตัวเอง” “คิดดูนะ วรรณ มีอะไรแฝงอยู่ในนั้นนะ ฉันยอมรับ แต่เธออยากให้ดินเป็นแค่คนสวนงั้นหรือ หรือมีทักษะในการพยาบาลด้วย เธอก็ไม่ใช่เด็กโง่ และเวลามันเปลี่ยนไปแล้ว นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเธอ สมองของเธอจะไม่ตาย เพราะความเบื่อหน่ายและหยุดนิ่ง เป็นเหมือนเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายที่ฉลาดหลักแหลมส่วนใหญ่ที่ทำกันในหมู่บ้าน และเธอจะมีคุณค่าสำหรับครอบครัวและชุมชน พยาบาลคนอื่นในพื้นที่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวไม่ได้เป็นเรื่องเลวร้ายไม่ใช่หรือ และตัวเธอเองบอกว่าเธอสนใจในงานของป้าดา และสิ่งนี้ก็เก็บไว้เป็นความลับของครอบครัวด้วย “ฉันยอมรับว่ามันเป็นประโยชน์ต่อฉันเช่นกัน อาจจะมากกว่าที่พวกเธอได้รับ แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่แค่การกระทำที่เห็นแก

  • ศาสตร์ต้องห้าม   บทที่8

    8 การทดลองของเฮง เฮงพบว่าการไปทำงานค่อนข้างหักโหมเกินไป ร่างกายของเขาต้องการที่จะนอนทั้งคืนและอยู่บนเตียงทั้งวัน แต่แพะเป็นสัตว์ออกหากินในเวลากลางวัน ดูเหมือนมันตรงกันข้ามกันเลย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง เพราะเด่นรับผิดชอบฝูงแพะได้เป็นอย่างดี และเฮงก็ออกไปกับเขาสองหรือสามครั้งต่อสัปดาห์เพื่ออธิบายเส้นทางและทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่เขายังไม่รู้ อย่างไรก็ตามเขาต้องการทำสิ่งที่สร้างรายได้ให้ครอบครัวอย่างต่อเนื่อง และงานกลางคืนเพียงอย่างเดียวที่เขาคิดได้คือ การตกปลา เขาจึงทำแบบนั้นในทุกวันที่เขาไม่ได้ออกไปข้างนอกกับเด่น เป็นงานที่เหมาะกับเขาจริง ๆ เพราะเขาสามารถจัดสรรเวลาทำได้หลายอย่าง การได้บินสี่หรือห้าชั่วโมงแล้วกลับมาก่อนรุ่งสาง เพื่อกู้เหยื่อที่ติดกับดักและใส่สายเบ็ดใหม่ เขาวางกับดักหนูไว้ในแปลงผัก และหนูทุกตัวก็มีค่ามากกว่าไก่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันเทศกาลที่พวกเขาสามารถตรึงราคาได้มากกว่าไก่ถึงสามเท่า นอกจากนี้เขายังจับงูที่ขวางทางเขา และพวกมันก็เป็นอาหารอันโอชะที่มีค่ามากกว่าไก่ ทั้งหมดทั้งมวลนั้น เขาให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจของครอบครัวมากกว่าที่จะออกไปข้างนอก ใ

DMCA.com Protection Status