เพียงฟ้าเดินกลับมาในห้องนอนก่อนจะกดส่งข้อความหาเพื่อนสนิทที่ทำงานด้วยกันมานานอย่างปัทมา และก็เป็นตัวต้นเรื่องที่ทำให้เธอกำลังเจอปัญหาอยู่ตอนนี้ด้วยอีกต่างหาก
‘ปัทตื่นยัง’
‘เพิ่งฟื้นเลย มีไรเหรอ’
รอไม่นานปัทมาก็ตอบกลับมา เพียงฟ้ารีบกดข้อความกลับไปต่อว่าตัวต้นเหตุทันที ถ้าไม่ใช่เพราะความหวังดีของปัทมาและความเกรงใจของตัวเอง เพียงฟ้าคงยังนอนอ่านนิยายอยู่ห้องโดยที่ไม่มีเรื่องวุ่นวายใจแบบตอนนี้แน่นอน
‘เพราะปัทเลย เราถึงลำบากแบบนี้’
‘อะไรล่ะ อยู่ดีๆก็ทักมาว่ากันเฉย’
ปัทมาที่เพิ่งตื่นอ่านข้อความต่อว่าของเพื่อนด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่าเธอไปทำอะไรให้เพียงฟ้าโกรธกัน
‘ก็ปัทไปซื้อบริการอะไรนั่นทำไมอ่ะ’
เพียงฟ้าเข้าเรื่องทันทีไม่อ้อมค้อม ยิ่งนึกย้อนไปก็ยิ่งอยากเป็นบ้าขึ้นมาจริงๆ ใครจะอยากเชื่อว่าตัวเองจะมีอะไรกับคนที่เด็กกว่าตัวเองขนาดนี้กัน
‘เอ้า ก็หวังดี กลัวเพียงเครียด แล้วไปมารึยังเป็นไงบ้าง’
ปัทมาที่ยังไม่รู้ชะตากรรมยังคงบอกจุดประสงค์ที่ตัวเองตั้งใจจะทำให้เพื่อนหายเครียด แถมยังถามผลตอบรับจากเพื่อนอีกต่างหาก อุตส่าห์เสียเงินให้แล้วก็น่าจะได้บริการดีๆกลับมาบ้างแหละ ซื้อเป็นครอสให้ขนาดนั้น ได้นัดคุยตั้งสามรอบจะไม่ดีได้ไง
‘เครียดกว่าเดิมอีกเถอะ’
เพียงฟ้าตอบกลับแบบที่ปัทมาอ่านแล้วตาสว่างทันทีก่อนจะถามกลับอย่างไม่เข้าใจ จ่ายไปขนาดนั้นทำไมเพื่อนเธอถึงเครียดว่าเดิมได้ล่ะ
‘ทำไมเป็นงั้นล่ะ’
‘แน่ใจนะว่าปัทดูข้อมูลดีแล้วอ่ะ’
เพียงฟ้าไม่ตอบก่อนถามสิ่งที่คาใจมาตลอดตั้งแต่เจอเทมส์ ทำไมบริการรับปรึกษาปัญหาชีวิตถึงได้กลายเป็นบริการบนเตียงไปได้ เพื่อนเธอไม่น่าจะแกล้งเธอแน่ๆแต่ก็ไม่น่าดูข้อมูลพลาดเช่นกัน
‘ก็แน่สิ เห็นว่ากำลังลดราคาเพราะเปิดใหม่ ไม่ดีเหรอ งั้นก็ช่างมันเถอะแค่ไม่กี่บาทเอง’
ปัทมาอธิบายเพิ่มถึงข้อเสนอที่ทำให้เธอตัดสินใจซื้อบริการนี้ให้เพื่อน ก่อนจะถามกลับและปลอบใจไปพร้อมๆกัน เอาไว้เธอหาที่ใหม่ให้เพื่อนก็ได้ คราวนี้จะหาที่เป็นจิตแพทย์จริงๆซะเลย
‘ไม่กี่บาทก็เงินมั้ย’
เพียงฟ้าบ่นกลับ แม้อยากบอกเรื่องจริงๆที่เกิดขึ้นขนาดไหน แต่กลัวเพื่อนเธอจะแตกตื่นจนวุ่นวาย ให้มันจบที่เธอคนเดียวก็พอแล้ว
‘เอาน่า เราไม่ได้เสียดายหรอก แต่ว่าไม่ดีจริงๆเหรอ’
ปัทมาตัดบทไม่อยากให้เพียงฟ้านึกถึงเรื่องเงินมากนัก เธอเข้าใจว่าเพียงฟ้าต้องประหยัดเพราะไม่ได้มีครอบครัวคอยซับพอร์ต ต่อให้เงินเดือนเยอะแค่ไหนก็ใช้ตามใจตัวเองไม่ได้ ต่างจากเธอที่ไม่มีภาระอะไรแถมยังมีแฟนคอยดูแลอยู่แล้ว เงินแค่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
‘เค้าไม่ใช่จิตแพทย์นะ แค่เด็กมหาลัยเอง’
เพียงฟ้าบอกอีกเหตุผลให้เพื่อนรู้ อย่างน้อยจะได้รอบคอบกว่านี้ในการจะทำอะไร ไม่ใช้ใช้เงินจนไม่ดูให้ดีแล้วกลายเป็นความผิดพลาดแบบนี้
‘เป็นไปได้ไง’
ปัทมาถามกลับและอ่านซ้ำหลายรอบคิดว่าตัวเองอ่านผิด
‘ก็เป็นไปแล้วนี่’
เพียงฟ้ายืนยัน ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเพราะเธอก็ไม่รู้ว่าทำไม่ถึงเป็นแบบนี้เหมือนกัน ถ้าเพื่อนเธอไม่รู้ก็คงต้องไปถามเทมส์ที่นอนหลับไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ
‘โดนหลอกเหรอเนี่ย’
ปัทมาบ่นกลับอย่างไม่อยากจะเชื่อ แผ่นกระดาษสีสวยที่เธอบังเอิญไปเจอบนโต๊ะในร้านอาหารตอนไปกินข้าวเย็นกับแฟนนั่น ไม่คิดว่าจะโดนหลอกได้ คนสมัยนี้ไว้ใจยากจริงๆ
‘งั้นมั้ง’
เพียงฟ้าตอบส่งๆอย่างไม่รู้จะตอบอะไรเหมือนกัน ก็เพื่อนเธอไม่รู้เรื่องแบบนี้คงโดนหลอกแล้วแหละ แต่จะให้ไปถามเอาความกับเทมส์ก็ไม่อยากวุ่นวาย ถึงจะสงสัยว่าทำไปทำไมก็เถอะบ้านรวยขนาดนี้ต้องหลอกเอาเงินคนอื่นอีกเหรอ ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ เอาเป็นว่าต่างคนต่างแยกย้ายก็พอแล้ว
‘เอาเถอะ ช่างมันอย่าคิดมาก เดี๋ยวเราหาให้ใหม่’
ปัทมาตอบปัดอย่างไม่คิดอะไร ในหัวก็กำลังนึกว่าจะหาที่ใหม่ที่ไหนให้เพื่อนดี คราวนี้ต้องเอาที่เชื่อถือได้แน่ๆค่อยซื้อ
‘พอเลยปัท ไม่เอาแล้วนะ เราบอกกี่ครั้งว่าไม่ได้เครียด’
เพียงฟ้ารีบหยุดเพื่อนที่กำลังจะหวังดีกับเธออีกแล้ว บอกเลยว่าเพียงฟ้าเข็ดแล้ว มากๆด้วย
‘จ้าๆ รู้แล้ว งั้นเราไปอาบน้ำก่อนนะ’
ปัทมารับคำอย่างว่าง่ายเพราะรู้ว่าเพียงฟ้าตอนนี้ต้องรอให้ใจเย็นอีกนิดค่อยคุยกันจะดีกว่า ขืนไปยัดเยียดให้ก็มีแต่จะโมโหเปล่าๆ
‘อื้อ’
เพียงฟ้าตอบรับก่อนจะกดปิดแชทแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
“เพียงครับ”
เทมส์ลุกขึ้นมานั่งมึนงงก่อนเรียกเจ้าของห้องที่เปิดประตูออกมาพอดี หน้าหล่อสะบัดไปมาเบาๆไล่ความง่วงงุนที่หลงเหลือ ปกติไม่ชอบนอนกลางวันเพราะทำให้ปวดหัวแบบนี้ ไม่คิดว่าจะเพลินจนหลับไปจริงๆได้ สงสัยเมื่อคืนใช้แรงเยอะไปหน่อย
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอเทมส์ เป็นไงบ้างดีขึ้นมั้ย”
เพียงฟ้าที่เห็นคนน้องตื่นก็รีบเดินเข้าไปถามอาการทันที
“ครับ หายแล้ว”
เทมส์ยิ้มบางตอบรับคนที่ดูห่วงใยด้วยความชอบใจ ใจดีแบบนี้ถ้าอยากให้ดูแลต่อคงไม่น่ายากเท่าไหร่
“งั้นจะกลับเลยมั้ย เดี๋ยวพี่ลงไปส่ง”
เพียงฟ้าถามต่อทันทีเมื่อได้จังหวะ อุตส่าห์อดทนรอมานานแล้วว่าเมื่อไรจะจบเรื่องแล้วแยกย้ายสักที ยิ่งนานเหมือนจะยิ่งยุ่งยาก
“ไล่กันเลยเหรอ”
เทมส์ทำหน้ามุ่ยขึ้นมาทันที ดวงตาที่เคยเป็นประกายสดใสหม่นเศร้าจนเพียงฟ้าใจอ่อนยวบไม่รู้ตัว
“ไม่ใช่แบบนั้น คือ”
เพียงฟ้าพยายามหาคำมาอธิบายไม่ให้คนเด็กกว่ารู้สึกว่าถูกไล่ทั้งที่ความจริงมันก็ไม่ต่างอะไรเลยด้วยซ้ำ เธอรู้สึกว่ามันชักจะถลำลึกไปกันใหญ่จนไม่อยากเสียเวลาอีกแม้แต่น้อย
“ทำข้าวเย็นให้หน่อยได้มั้ยครับ ได้เวลากินข้าวอีกแล้ว เทมส์กลัวปวดท้อง”
อยู่ๆคนที่ทำหน้าหงอยเมื่อครู่ก็เปลี่ยนมาเป็นทำท่ากุมท้องแล้วอ้อนวอนขอกันหน้าตาเฉย ใบหน้าหล่อเหลามุ่ยลงตาแป๋วจนน่าสงสาร
“คะ”
เพียงฟ้าถามกลับด้วยใบหน้างุนงงที่สุด ไม่ใช่ว่าเด็กนี่จะต้องขอบคุณแล้วรีบกลับบ้านเพราะรบกวนเธอมานานหรอกเหรอ แล้วอะไรคือการขอให้เธอทำข้าวเย็นให้กินกันนะ
“นะครับ หรือว่าเพียงทำไม่เป็น”
เทมส์ขอร้องต่อ ตามด้วยประโยคสบประมาทแบบที่เพียงฟ้าได้ยินก็รู้สึกเหมือนโดนดูถูกขึ้นมาจนต้องรีบรับคำทันที กับอีแค่ทำอาหารคนที่ทำทุกอย่างด้วยตัวเองแบบเพียงฟ้ามีเหรอจะทำไม่เป็น
“ได้สิ งั้นรอพี่แป้บนะ เทมส์กินได้ทุกอย่างมั้ยพี่ไม่ค่อยได้ทำกินเท่าไหร่ไม่ค่อยมีของสดน่ะ”
เพียงฟ้าถามกลับอย่างอดกังวลไม่ได้เพราะถึงเธอจะทำเป็นแต่เพราะอยู่คนเดียวเลยไม่ค่อยได้มาเสียเวลาทำอย่างที่ว่า การซื้อกินก็ประหยัดเวลาคนทำงานแบบเธอได้ตั้งเยอะ ที่สำคัญคนที่เข้าแต่ร้านอาหารแพงๆอย่างเทมส์จะกินอาหารธรรมดาที่เธอทำได้รึเปล่าเถอะ
“ครับ อะไรก็ได้”
เทมส์พยักหน้ารับคำ ถึงจะใช้เงินแก้ปัญหาการกินมาตลอดแต่เทมส์ไม่ใช่คนเรื่องมาก ที่แน่ๆเทมส์ก็ทำอาหารเป็นเหมือนกันแต่ไม่อยากบอก
“โอเคค่ะ”
เพียงฟ้าตอบตกลงก่อนหายเข้าไปในครัวเล็กๆเพื่อหาวัตถุดิบที่พอจะเอามาทำเป็นมื้อเย็นได้ สิ่งที่ไม่เคยขาดในตู้เย็นเลยก็คือไข่ไก่และผักที่เก็บได้นานๆนั่นแหละ สุดท้ายก็ได้เป็นผัดผักกับไข่เจียวหมูสับแบบง่ายแสนง่ายอย่างที่ว่า
เธอทำเป็นแต่ไม่ใช่เชฟที่จะมารังสรรค์เมนูแปลกๆได้กับของแค่นี้หรอกนะ กินไม่ได้ก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน
“หอมจัง”
เสียงทุ้มกับแผ่นอกแกร่งที่แนบลงมากับหลังทำเพียงฟ้าสะดุ้งจนเกือบทำทัพพีร่วง
“เทมส์! เข้ามาทำไมเนี่ย”
เธอรีบเบาไฟลงก่อนหันไปดุเด็กที่เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียงจนตกใจ พบว่านอกจากไม่ได้สะเทือนอะไรแล้วยังยิ้มระรื่นอวดลักยิ้มกับเธออีกต่างหาก
“เทมส์อยากดูครับ นั่งเฉยๆแล้วเบื่อ”
เทมส์ตอบก่อนชะโงกหน้าเข้าไปดูในกระทะที่เธอทำด้วยความสนใจ จมูกโด่งเฉียดแก้มเนียนไปอย่างน่าหวาดเสียวจนเพียงฟ้าใจสั่น คนแบบเทมส์ต่อให้ไม่ชอบก็ต้องหวั่นไหวกับความดูดีและเสน่ห์บางอย่างของเจ้าตัวอยู่ดีนั่นแหละ ยิ่งเคยผ่านค่ำคืนร้อนแรงมาด้วยกันแบบนี้แล้ว ใครจะไปต้านไหวกัน
“เปิดทีวีสิ”
เพียงฟ้าเอี้ยวตัวออกมาให้รู้สึกหายใจโล่งอีกนิด พยายามไม่สบสายตาที่อันตรายนั่นก่อนไล่อีกคนไปดูทีวี เพราะขืนอยู่แบบนี้เธอคงทำผัดผักเป็นต้มผักแทนแน่ๆ
“ไม่เป็นไรครับ ดูเพียงดีกว่า”
คนที่รู้ว่าคนพี่ไล่เพราะอะไรก็ตีเนียนทำเป็นไม่รับรู้ ก่อนยืนยันด้วยความดื้อดึงว่าจะอยู่จนเพียงฟ้าอ่อนใจ
“ตามใจเลยงั้น”
เพียงฟ้าตอบปัดก่อนตั้งสมาธิกับสิ่งที่จะทำต่อมากกว่าเดิม ถึงจะไม่ใช่เรื่องยากและใกล้เสร็จแล้วแต่ไม่รู้ทำไมถึงได้ไม่มีสมาธิจนหยิบจับอะไรก็ผิดพลาดไปหมดจนน่าโมโห ยิ่งอยู่ท่ามกลางสายตาและรอยยิ้มขำของเทมส์ด้วยแล้วเธอก็แทบอยากกรีดร้องออกมาด้วยความอัดอั้นตันใจเหลือเกิน เมื่อไรกันที่เทมส์จะแยกย้ายกับเธอจริงๆซะที
“เสร็จแล้ว”
ในที่สุดเพียงฟ้าก็ได้พูดคำนี้ออกมาหลังจากยืนเกร็งอยู่นานสองนาน
“เดี๋ยวเทมส์ช่วยถือ”
เทมส์ที่ยืนแกล้งคนพี่มานานยิ้มเอ็นดูก่อนเข้ามาช่วยทันที ทั้งคู่พากันวางมื้อเย็นลงบนโต๊ะเล็กหน้าทีวี แล้วนั่งลงกับโซฟาตัวยาวใกล้ๆกัน ทีวีที่เปิดไม่ได้ถูกสนใจมากไปกว่าคนข้างตัวนัก เมื่อทั้งคูพลัดกันแอบมองอีกคนยามเผลออย่างไม่รู้ตัว
“จริงสิ วันนี้เทมส์จะไปธุระไม่ใช่เหรอ”
เพียงฟ้าเอ่ยขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศเงียบแปลกๆทั้งที่ทีวีก็เปิดทิ้งไว้ หรือบางทีอาจเป็นเธอคนเดียวที่อึดอัดเพราะท่าทางของเทมส์นั้นดูสบายใจจนน่าอิจฉา ก็นี่มันห้องเธอแท้ๆแต่ทำไมเธอเกร็งอยู่คนเดียวก็ไม่รู้
“ไม่ใช่ครับ แค่จะไปเดินเล่น”
เทมส์ตอบสบายๆพลางกินไปด้วยจนแก้มตุ่ย เพียงฟ้าที่มองได้แต่คันไม้คันมืออยากยื่นไปหยิกแก้มที่เหมือนขนมปังนุ่มฟูนั่นเหลือเกิน
“งั้นเหรอ แล้วจะไปอีกมั้ย”
หักห้ามความคิดลวนลามคนอื่นได้ก็ถามต่อทันที เพราะอยากรู้ว่าเทมส์จะกลับไปตอนไหน ยิ่งใกล้กันยิ่งอันตรายกับใจเธอทุกที
“เพียงอยากไปด้วยเหรอ”
เทมส์หันมาถามกลับแล้วยิ้มอย่างคาดหวังทันทีก่อนจะหุบยิ้มลงเมื่อเพียงฟ้าตอบไม่ตรงใจตัวเอง เป็นคนที่ต้องพยายามในการเข้าหาเหลือเกิน ปกติมีแต่ต้องคอยหนีคนอื่นวันนี้ต้องมาคิดแผนเข้าหาใครสักคนเทมส์เลยทั้งสนุกแล้วก็เหนื่อยไม่ใช่น้อย
“ไม่ค่ะ พี่แค่ถามดู”
“อยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอครับ”
เทมส์ถามพลางสังเกตคนที่เก็บสีหน้าเก่งจนมองไม่ออกว่ารู้สึกยังไงกันแน่ คนแบบเพียงฟ้าถ้าไม่ใช่เพราะเป็นห่วงหรือร้อนรนก็ไม่ค่อยแสดงอะไรออกมาให้รู้เลย
แต่อย่างนึงที่กังวลมานานก็มั่นใจแล้วตั้งแต่เข้ามาอยู่ในห้องนี้ เพียงฟ้ายังไม่มีแฟนและก็ไม่น่าจะคุยกับใครอยู่ด้วย ไม่งั้นคงไม่กล้าให้เทมส์เข้ามาพักขนาดนี้ ในห้องก็มีแต่ของๆเพียงฟ้าเท่านั้นอีกอย่างต่อให้คุยกับใครอยู่วันๆก็ต้องคุยหรือโทรหากันบ้าง ดีไม่ดีก็คงต้องนัดเจอกันเพราะเป็นวันหยุด
รู้แบบนี้เทมส์ยิ่งมั่นใจไปใหญ่ว่าตัวเองเป็นคนแรกและคนเดียวของเพียงฟ้าแม้จะเกิดจากความเข้าใจผิดก็เถอะนะ
“ไม่ค่ะ พี่ชอบอยู่คนเดียว”
เพียงฟ้าตอบตามจริงไม่คิดปิดบัง เพราะเธอไม่ชอบความวุ่นวายแค่ครอบครัวก็ทำเธอปวดหัวมามากพอแล้ว ทุกวันนี้แค่ได้อยู่อย่างสงบสุขอ่านนิยายไปวันๆเธอก็ไม่ขออะไรอีกแล้วจริงๆ
“แต่เทมส์เหงามาก อยู่คนเดียวแล้วเงียบเลยไม่ค่อยชอบอยู่บ้าน”
ประโยคนี้หากตุลย์มาได้ยินคงทำหน้างงใส่แล้วด่าออกมาอีกยืดยาวเป็นแน่ คนแบบเทมส์ที่หมกตัวอยู่แต่ในบ้านทำอะไรคนเดียวแล้วไม่ชอบความวุ่นวายเป็นที่สุดน่ะเหรอจะเหงาจนอยากออกจากบ้านได้ แต่ก็ว่าไม่ได้ที่มันทำให้เพียงฟ้าเห็นใจคนเด็กกว่ามากขึ้นอีกนิดโดยไม่รู้ตัว
“งั้นเหรอ แล้วครอบครัว เอ่อ โทษทีพี่ถามเยอะไป”
เพียงฟ้าที่นึกสงสารเผลอถามออกมาก่อนนึกได้ว่าเหมือนจะละลาบละล้วงเกินไปจึงหยุดชะงัก
“ถามได้ครับ เทมส์อยู่ที่นี่คนเดียวพ่อแม่กับพี่ชายอยู่เมกาหมด มีญาติห่างๆแต่อยู่ต่างจังหวัดไม่สนิทกันด้วย”
ประโยคเดียวที่เหมือนได้แนะนำครอบครัวให้รู้จักไปในตัว แถมยังเรียกคะแนนสงสารได้อีกมากล้น เพราะถูกทิ้งอยู่คนเดียวแบบนี้เทมส์ก็ต้องเหงาเพราะไม่มีคนดูแลอยู่แล้ว
“ทำไมไม่เรียนที่นู่นเลยล่ะ”
เพียงฟ้าที่สงสารแต่ก็แปลกใจว่าทำไมเจ้าตัวไม่ไปเรียนอยู่ใกล้ๆครอบครัวซะเลย แถมยังดูน่าเรียนกว่าที่ไทยเป็นไหนๆ
“ก็คิดอยู่ครับ แต่ยังไม่อยากไป”
เทมส์ตอบตามตรงครึ่งนึง ที่ไม่อยากไปเพราะอยู่นี่มันอิสระไม่มีคนมาวุ่นวายกับตัวเอง โดยเฉพาะพี่ชายที่คลั่งรักน้องอย่างแซนนั่นแหละ ตั้งแต่ที่รู้ว่าเทมส์จะเรียนอยู่นี่คนเดียวก็งอนไม่พูดไม่จาเป็นเดือนๆ น่ารำคาญจะตาย
อีกครึ่งนึงก็คงเพราะขี้เกียจไปปรับตัวใหม่ด้วย สู้เรียนให้จบแล้วค่อยไปเรียนต่อหรือไปทำงานเลยก็ไม่สาย
“งั้นเหรอ”
เพียงฟ้าพยักหน้ารับอย่างเข้าใจแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม
“ที่จริงมีเรื่องจะบอกเพียงครับ”
เทมส์ที่กินเสร็จรีบเอ่ยถึงสิ่งสำคัญที่ว่าจะบอกมาตั้งแต่เช้าแล้วแต่ดันไม่มีโอกาสเลย เพราะมัวแต่คิดหาวิธีตามเพียงฟ้าออกมา
“อะไรเหรอ”
เพียงฟ้าที่รวบช้อนเสร็จเงยหน้ามาถามอย่างสงสัยกับท่าทางจริงจังนั่นของเทมส์
“เรื่องบริการรับปรึกษานั่นน่ะ เทมส์จะคืนเงินให้นะครับ”
เทมส์บอกตามตรงแม้จะสุ่มเสี่ยงกับการโดนเพียงฟ้าโกรธแค่ไหนก็ตาม เพราะตั้งใจจะไม่ปล่อยไปแล้วต่อจากนี้จะได้เดินหน้าเต็มที่โดยไม่มีอะไรต้องปิดบังกันอีก
“ทำไมเหรอ”
เพียงฟ้าสงสัยแม้จะเป็นเรื่องที่อยากถามอยู่เหมือนกันก็ตาม แต่เพราะตั้งใจจะไม่เก็บมาคิดมากอีกเพราะเดี๋ยวก็แยกกันแล้ว ต่างคนต่างไปก็จบๆไม่อยากมาสืบสาวหาความจริงอีกแล้วว่ามันเพราะอะไร แต่ไม่คิดว่าคำตอบของเทมส์จะทำเธอตกใจได้ขนาดนี้ นอกจากไม่อยู่ในสิ่งที่คาดการณ์เอาไว้ยังจะเหนือความคาดหมายไปไกลอีกต่างหาก
“ที่จริงเทมส์โดนเพื่อนแกล้งครับ”
“ฮะ!!”