วันนี้บรรยากาศในผับคึกคักมากกว่าปกติ เพราะมีวงดนตรีชื่อดังมาทำการแสดง ซึ่งมีบรรดาสาวๆสวยๆที่เป็นแฟนคลับของวงดังกล่าวเข้าใช้บริการในผับมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจคิณและเสือเป็นอย่างมาก แต่ทว่าเพลิงกลับนั่งทำหน้าเบื่อหน่ายไม่ค่อยสนุกไปกับเพื่อนเท่าไหร่ "มึงดูไอ้เพลิง!!! กูเจอของดีโว้ย น้องแนนดาวคณะมนุษย์ศาสตร์มาด้วย คนที่มึงเคยบอกว่าสวยตอนที่น้องเขาอยู่ปีหนึ่งจำได้ไหมว่ะ" ปกติถ้าเป็นเรื่องของผู้หญิง ไม่มีใครพลาดสายตาเพลิงไปได้ ไม่ต้องให้เพื่อนสองคนบอกด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ในใจเขากลับนึกไปถึงคนที่อยู่คอนโดมากกว่า ไม่รู้ป่านนี้เธอนอนหลับไปหรือยัง "ไอ้เพลิงมึงแม่ง!!!!ไม่ปกติแล้ว มึงไม่สนใจเหยื่อรายใหม่เหรอ นู่นเขาส่งสายตามาหามึงด้วย" เสือที่ทำปากยื่นให้เพื่อนดู แต่กลับได้มาเพียงสายตาว่างเปล่าและไม่ได้มองไปยังสาวที่กำลังมองเขาอยู่ "มึงป่วยเหรอไอ้เพลิง ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าว่ะ"เพลิงปัดมือหนาของคิณออกทันทีเมื่อยื่นมาแตะหน้าผาก "กูไม่ได้เป็นอะไร แค่ช่วงนี้เบื่อๆ ไม่อยากยุ่งกับใคร"เสือหรี่ตาจับผิดการกระทำของเพื่อน เป็นหนักขนาดนี้มันยังไม่รู้ตัวว่าเป็นอะไร เหลือเชื่อเลยว่าเสือหิวอย่างมัน
"ไปเหอะพี่เพลิง อายเขานี่ในห้องสมุดนะ" เนื่องจากเสียงที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ขวัญตากับลินดาที่นอนอยู่ล็อคใกล้ๆรีบวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ กลายเป็นว่าล็อคหนังสือแคบๆมีผู้ชายร่างสูงใหญ่สองคนกับผู้หญิงตัวเล็กๆอีกสามคนยืนกันแน่นจนไม่มีที่ว่าง "เธอนัดมันมาที่นี่ใช่ไหม? ถึงว่าให้ไปรอที่คณะไม่ไปเพราะนัดกับมันนี่เอง" "ไม่ใช่ เราแค่บังเอิญเจอกัน" แววตาคมกรุ่นโกรธ เหมือนมีไฟสุมทำให้คนมองรู้สึกร้อนๆหนาวๆ "จะให้ฉันเชื่อได้ยังไง ฉันเห็นเธอลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าพอดี เหมือนก่อนหน้าที่ฉันจะมากำลังทำอะไรกัน"ปิ่นมุกกรอกตามองบนด้วยความเหนื่อยใจ คร้านจะอธิบายกับคนปากไม่ดี เธอเดินออกจากตรงนั้นทันที เพราะเริ่มมีคนส่งสายตามองมา อีกอย่างเขาไม่อายแต่เธออายเขาเป็นถึงหนุ่มฮอตของคณะวิศวะ ใครๆก็รู้จัก ไม่อยากจะคิดว่าเรื่องนี้จะมีคนพูดไปมากขนาดไหน "ปิ่นรอด้วยสิ"เพื่อนสองคนวิ่งตามเธอมา เมื่อถึงลานจอดรถเธอกำลังจะเดินไปขึ้นรถขวัญตา มือหนาของเพลิงที่ไม่รู้ว่าตามเธอมาตอนไหนก็มาฉุดดึงเธอให้ไปขึ้นรถเขาทันที "ปล่อยนะ ฉันจะกลับกับเพื่อน" ร่างบางถูกยัดใส่รถพร้อมกดล็อคประตู ก่อนขายาวจะรีบเดินมาขึ้นฝั่งคนขับ และสตาร์ทออ
"หนักชิบหาย ไอ้เสือรหัสประตูมันอะไรว่ะ" คิณกับเสือที่แบกร่างเมามายของเพลิงมาถึงหน้าประตูคอนโด แต่เกิดปัญหาใหญ่คือคนเมาไม่มีสติพอที่จะบอกรหัสประตูห้อง "สัสคิณ!!!กูจะไปรู้เหรอ ว่าแต่น้องปิ่นอยู่ไหมว่ะ ลองกดกริ่งดูกว่า"เสือลองกดกริ่งสามสี่ทีก็ไร้เสียงเปิดประตู "น้องนอนอยู่หรือเปล่า ดึกแล้วนะ ไอ้เพลิง!!! รหัสประตูมึงอะไร"คนเมาที่เหลือสติเพียงน้อยนิดหรี่ตามองตรงหน้าประตูราวกับต้องการนึกว่ารหัสคืออะไร "โทรศัพท์กูอยู่ไหน?" "อะไรนี่มึงเมมไว้ในโทรศัพท์เหรอ ไอ้สัดเกรดเฉลี่ยสามกว่าแค่รหัสประตูจำไม่ได้"คิณยกมือเกาแกรกๆอย่างเหนื่อยใจ หันไปมองเพื่อนที่เมาแต่ยังพยายามเลื่อนโทรศัพท์ก่อนเอาแนบหู "มึงก็นะไอ้คิณกวนตีนชิบหาย มันจะไปเมมไว้ในโทรศัพท์เพื่ออะไร มันโทรหาเมียมันหรือเปล่า" "มาเปิดประตูหน่อย"เมื่อได้ยินเสียงงัวเงียจากปลายสาย คนเมาก็กรอกเสียงอู้อี้ไปทันที รอไม่เกินนาที ใบหน้าสวยก็โผล่มาหลังประตู "มันเมามาก ให้พวกพี่ช่วยแบกไปส่งข้างในนะ"จากรูปร่างของรุ่นน้องสาว ไม่น่าแบกร่างควายแบบเพื่อนเขาเข้าไปได้ "ขอบคุณค่ะ"ประตูถูกเปิดกว้างออกก่อนร่างคนเมาจะถูกแบกไปนอนบนโซฟา "พวกพี่ไปก่อนนะ ไม่ต้องไป
หลังจากที่สอบเสร็จปิ่นมุกรีบออกจากมหาลัยทันที โดยระหว่างทางที่กำลังไปสนามบิน มีข้อความและสายเรียกเข้าจากเพลิงมากมาย เพราะตอนนี้เขาสอบเสร็จแล้วคงกำลังไปหาเธอแล้วไม่เจอว่าเธอรออยู่ตามที่บอกกันไว้เมื่อเช้า "พี่เพลิงเหรอ มึงปิดเครื่องดีไหม" ขวัญตาหันมาถามขณะขับรถ มองใบหน้าเพื่อนสาวที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาตั้งแต่ออกจากรั้วมหาลัย "มะ ไม่ กูอยากรู้ว่าเขาจะโทรมาได้สักแค่ไหน" มือบางกำโทรศัพท์ที่ยังสั่นไม่หยุดไว้แน่น ความรู้สึกตอนนี้จิตใจพังยับไม่มีชิ้นดี เมื่อเช้าก่อนเธอจะออกมาก็ร้องไห้ในห้องน้ำไปพักใหญ่แล้ว ทำไมความรักถึงทำให้เราเจ็บได้ขนาดนี้ มันรู้สึกราวกับจะขาดใจ "ทำใจดีๆไว้นะมึง ถ้ามึงไม่พร้อม จะกลับไปไหม กูไปส่ง"เมื่อเห็นท่าทางเพื่อนราวกับจะขาดใจ ขวัญตารู้สึกสงสารมาก หากเพื่อนไม่พร้อมเธอยินดีซัพพอร์ตเพื่อนในทุกเรื่องที่เพื่อนตัดสินใจเสมอ หากจะกลับไปเธอก็ยินดีจะกลับไปส่ง "ไม่...กูตัดสินใจแล้ว"ยืนยันเสียงหนักแน่นก่อนจะเบือนหันมองหน้าต่างรถฝั่งข้างคนขับแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลรินแบบนั้นไปเรื่อยๆจนถึงสนามบิน ด้านเพลิงที่ตามหาปิ่นมุกแทบพลิกมหาลัย เขาเดินเหมือนคนบ้าไปทั่วทุกที่ที่คิดว่าเธอ
ตลอดสามวันที่ผ่านมาปิ่นมุกเก็บตัวเงียบไม่ออกจากห้อง ทั้งๆที่ก่อนกลับมาถึง คิดว่าตัวเองคงไม่เป็นอะไรมาก เดี๋ยวเห็นหน้าพ่อกับแม่ก็หาย กลับมาสดใสเหมือนเดิม ได้อยู่กับสถานที่ที่คุ้นเคย จะลืมได้ง่ายขึ้น สุดท้ายยิ่งเห็นหน้าพวกท่านเธอยิ่งอ่อนแอ "ปิ่น ปิ่นลูกยังไม่ตื่นเหรอ"กัลยามาเรียกลูกสาวในเวลาเกือบเที่ยง หลังจากกลับบ้านมา ลูกสาวเธอเปลี่ยนไป จากที่สดใสร่าเริง กลายเป็นคนเงียบขรึม และไม่ออกไปไหนเลย หมกตัวอยู่แต่ในห้อง จะออกไปแค่ตอนเธอมาเรียกให้ไปกินข้าวเท่านั้น "ไม่สบายหรือเปล่า เป็นอะไรบอกแม่ได้นะลูก" มือของคนสูงวัยกว่า ลูบไล้ใบหน้าที่หม่นหมองของลูกสาว ที่นอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม "มีความรักเหรอลูก อกหักใช่หรือเปล่า" จากการสังเกตุมาสามวันตั้งแต่วันที่ลูกสาวเธอกลับมา กัลยาและสามีพูดคุยเรื่องนี้กันตลอด ถึงเธอและสามีจะเป็นพ่อแม่แบบที่ไม่ได้บังคับหรือห้ามลูกมีแฟน แต่หากลูกเจอความรักไม่ดีก็อดเป็นห่วงไม่ได้ อีกทั้งปิ่นมุกดูท่าจะอาการหนักมากถึงขั้นเหมือนคนตรอมใจ "ปิ่นไม่ดีเองแม่ ขอโทษนะคะ ปิ่นจะเข้มแข็งให้ได้เหมือนเดิมค่ะ"ปิ่นมุกที่ลืมตาตื่นขึ้น มองหน้าแม่แล้วรู้สึกผิดที่ทำตัวไม่ดีจนทำให้ตัวเองต
บรรยากาศกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง มีเพียงคนสองคนที่นั่งสบตากันหลังจากประโยคบอกรักที่เพลิงพูดออกไป ปิ่นมุกรู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ยอมรับว่าแอบคิดเข้าข้างตัวเองตั้งแต่เห็นเขามาง้อว่าเขาคงมีความรู้สึกดีๆให้กัน แต่ทว่าพอได้ยินเขาพูดโพล่งออกมา ใบหน้าก็เริ่มร้อนผ่าว รู้สึกเขินที่คนแบบหนุ่มฮอตวิศวะ ผู้ที่ไม่เคยมอบหัวใจให้ใครอย่างปากว่าจะมารักมาชอบเธอ "ตกลงว่าไงครับ รับรักพี่ได้หรือเปล่า พี่ตั้งใจมาง้อจริงๆ รู้ตัวว่าผิดที่ปล่อยให้ปิ่นรอ แต่ตอนนี้รู้ใจตัวเองแล้ว ขอโทษนะครับ"ปิ่นมุกเสหน้ามองไปทางอื่น เพราะเธอเขินจนแทบบ้า มาคงมาครับอะไร เธอไม่เคยได้ยินคำพูดหวานๆจากผู้ชายห่ามๆคนนี้มาก่อน หัวใจเจ้ากรรมเลยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมานอกอก นี่ถ้าเธอนั่งใกล้เขานะ เขาคงล้อเธอตายเลย "หยุดพูดสักที พี่สติดีหรือเปล่า มาพูดอะไรแบบนี้ ถ้าพี่คิดจะมาพูดหลอกเพื่อให้ฉันกลับไปอยู่แบบเดิม ฉันไม่กลับไปหรอกนะ ไม่ต้องมาเหล่เหลี่ยมกับฉัน" แกล้งขึ้นเสียงใส่กลบเกลื่อนความเขิน ทว่าพอเห็นใบหน้าหล่อเหลาสลดลงไป ในใจกลับรู้สึกสงสาร อะไรแค่เขาทำหน้าเหมือนหมาโดนเจ้าของทิ้งแค่นี้ก็จะใจอ่อนกลับไปง่ายๆได้ยังไง ต้องอดทนเอาไว้รอดูว่าคน
กินข้าวเสร็จปิ่นมุกก็เดินมาส่งเพลิงที่หน้ารั้วบ้าน ตามที่พ่อกับแม่บอก "พรุ่งนี้ปิ่นจะไปเอง พี่ไม่ต้องมา"ปิ่นมุกกอดอกยืนพูดทำหน้างอด้วยความไม่พอใจ ที่เขาเข้าทางพ่อแม่ ไม่ถามเธอสักคำ "ไม่ได้ พี่รับปากคุณพ่อไว้แล้วว่าจะพาปิ่นไป" "พี่ไม่ต้องทำตามที่พ่อบอกทุกอย่างก็ได้ ปิ่นยังไม่พร้อมไปไหนมาไหนกับพี่ ความสัมพันธ์เรายังไม่คืบหน้า พี่ยังง้อปิ่นไม่สำเร็จ อย่ามาลัดขั้นตอน ปิ่นไม่ชอบ"หันหน้าหนีคนตัวสูง ทำปากยื่นไม่พอใจทีี่เขายืนยิ้ม ส่งสายตาล้อเลียนเธอ "ปิ่นกลัวอะไรพี่ครับ หรือกลัวพี่จะใช้วิธีเดิมๆกับปิ่น วิธีที่ปิ่นเองก็ชอบ ใช่ไหมครับ" ปิ่นมุกตวัดสายตาขุ่นเคืองมอง ไม่พอใจที่เขามาหยอกล้อเรื่องแบบนี้ ซึ่งยอมรับว่าหากเขาคิดจะทำอะไรเธอจริงๆ ไม่รู้ตัวเองจะต้านทานไหวหรือเปล่า อย่างเขาว่าจริง "พี่อย่ามาพูดแบบนี้ ง้อให้ได้ก่อนเถอะ ถึงจะมีสิทธิ์ทำอะไรอย่างปากว่า พรุ่งนี้ถ้าพี่แกล้งฉัน ฉันจะฟ้องพ่อกับแม่"ขู่ออกไปนึกว่าเขาจะกลัว ที่ไหนได้กลับหัวเราะชอบใจ "อย่ามาหัวเราะนะ ฉันซีเรียสอยู่" "โอเคๆ ไม่หัวเราะ พรุ่งนี้เจอกันนะครับที่รัก" ขโมยหอมแก้มนวลฟอดใหญ่ไม่ทันให้ร่างเล็กแสนงอนระวังตัว แล้วรีบก้าว
"ว่าไงครับจะคบกับพี่หรือเปล่า" "ค่ะ"ใบหน้าสวยพยักหน้าตอบรับ เป็นสัญญาณให้รถสปอร์ตคันหรูขับเลี้ยวเข้ามาในป่ารกร้างข้างทางที่ไม่มีรถผ่านไปมา ปิ่นมุกที่เริ่มเข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ถอยกรูดจนชนกับกระจกรถฝั่งข้างคนขับ "อย่านะ...พี่เพลิง เดี๋ยวมีใครมาเห็น"ใบหน้าหล่อเหลาที่ไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดของเธอ กลับขยับเข้ามาจนเกือบชิด ได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกแรงๆบ่งบอกอารมณ์ของคนตัวสูง "พี่แค่อยากจูบ กี่วันแล้วนะที่เราไม่ได้จูบกัน"กระซิบเสียงแหบพร่า ก่อนก้มสูดดมกลิ่นกายสาวที่ไม่ได้กลิ่นมาหลายวัน "แค่จูบนะ"เพลิงขยับเบาะไปข้างหลัง ดึงคนตัวเล็กขึ้นมานั่งบนตักแกร่ง มองสบตาในระยะใกล้ เพื่อบอกผ่านความรู้สึกต่างๆให้เธอได้รับรู้ "พี่รักปิ่น ตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้วนะ" ริมฝีปากหนาทาบทับลงมาบนริมฝีปากอวบอิ่ม ขบเม้มเบาๆ ก่อนส่งลิ้นสากเข้าไปดูดกลืนลิ้นเล็ก และกวาดต้อนชิมความหวานในโพลงปากนุ่ม ปิ่นมุกครางฮือในลำคอ เมื่ออารมณ์วาบหวานเข้าครอบงำไปทั่วร่างกาย จูบเร่าร้อนทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์โหยหาที่ห่างหายกันไปหลายวัน ปิ่นมุกรู้สึกราวกับจะขาดใจเมื่อถูกจูบเนิ่นนานกลืนกินลมหายใจอยู่หลายนาที ต่อเมื่อค
หลังจากลูกชายคนแรกคลอดได้ไม่นาน ปิ่นมุกก็ท้องคนที่สองต่อทันที เธอยังคงยืนยันว่าอยากได้ลูกสาว หากได้แล้วจะพอ แต่สุดท้ายความพยายามก็ไม่เป็นผลเมื่อปิ่นมุกท้องลูกชายคนที่สองอีกคน แม้จะเสียใจที่ไม่ได้ผู้หญิงแต่ก็ไม่อยากแสดงอาการอะไรมาก เพราะยังไงก็คือลูกเธอ เพลิงที่รู้ว่าเมียเสียใจ แต่เขาเองก็ไม่รู้จะปลอบใจเธอยังไง แถมยังไม่อยากให้เธอท้องแล้วด้วย เพราะเธอก็ยังคงคลอดธรรมชาติอยู่ เขาต้องยืนมองเมียทรมานอยู่แบบนั้น ใจมันไม่ไหวจริงๆ เลยปรึกษาปู่ย่าตายาย ว่าให้ช่วยพูดให้เธอพักเรื่องการมีลูกออกไปก่อน "แม่ว่าหนูปิ่นคงไม่ยอมหรอก"รัตนาเอ่ยออกมาเพราะรู้จักนิสัยใจคอลูกสะไภ้เป็นอย่างดีว่าคงไม่ถอดใจเรื่องอยากมีลูกสาวแน่นอน "เดี๋ยวแม่จะลองพูดดูนะ แม่เองก็อยากให้ปิ่นพักเหมือนกัน คนโตยังไม่ทันสองขวบ คนที่สองออกมาอีกแล้ว นี่ถ้าจะมีอีก ก็น่าจะปล่อยไปสักสองสามปีก่อนนะ" กัลยาเองก็เห็นด้วยกับลูกเขย ไม่ใช่ว่าไม่อยากได้หลาน แต่อยากให้ลูกสาวคิดถึงร่างกายตัวเองเป็นหลัก "ขอบคุณมากครับแม่ เดี๋ยวรอให้ปิ่นตื่นก่อนนะครับ"คุณแม่ยังสาวยังนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง ในช่วงบ่ายเพื่อนรักสองคนกับเมียก็มาเยี่ยมปิ่นมุกที่โรงพ
ยิ่งช่วงใกล้คลอดของปิ่นมุก เพลิงยิ่งไม่ค่อยเข้าบริษัทไปทำงาน เขาเน้นสั่งงานจากที่บ้าน และให้เหตุผลกับคนเป็นพ่อไปว่าอยากอยู่กับเมีย กลัวเมียจะเจ็บท้องคลอดตอนที่เขาไม่อยู่ ปิ่นมุกเลือกวิธีคลอดธรรมชาติ เธออยากรับรู้ความเจ็บปวดของคนเป็นแม่อย่างแท้จริง และอยากให้ลูกเป็นคนเลือกวันที่เขาพร้อมที่สุดที่จะออกมาลืมตาดูโลกนี้ด้วยตัวเอง "พี่เพลิงปิ่นรู้สึกแปลกๆอ่ะ"หลังออกจากห้องน้ำรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน เพราะไม่ได้นับ ปิ่นมุกรู้สึกปวดฉี่ตลอดเวลา แต่พอเข้าไปฉี่กลับออกมาแค่นิดเดียว เป็นแบบนี้มาสองสามวันแล้ว "จะคลอดแล้วเหรอ"เพลิงเองก็เห็นเมียเดินเข้าออกห้องน้ำหลายรอบแล้ว กลัวเธอจะเข้าไปคลอดในห้องน้ำด้วยซ้ำ "ปิ่นปวดท้องเหมือนปวดเข้าห้องน้ำ ไม่ได้ปวดมากนะคะ ปวดๆหายๆ แต่พอเข้าห้องน้ำก็ไม่มีอะไรออกมา เป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วค่ะ" "เมื่อเช้าเหรอ แล้วที่บอกหมอไปเมื่อครั้งก่อนแล้วหมอบอกว่าเจ็บเตือน มันเหมือนกันหรือเปล่า" ใบหน้าสวยส่ายหน้า ความรู้สึกคล้ายกันแต่ไม่เหมือน เจ็บเตือนมันเป็นๆหายๆ แต่นี่เธอรู้สึกมันเริ่มถี่ขึ้น แถมเพิ่มระดับความแรงขึ้น "โทรหาหมอดีกว่า"มือหนาคว้าโทรศัพท์โทรออกหาหมอ
ปิ่นมุกขยับตัวอย่างเมื่อยขบ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา นี่เธอกับเพลิงนอนยาวขนาดนี้เลยเหรอ แถมเจ้าบ่าวหมาดๆยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น "พี่เพลิงตื่นได้แล้วค่ะ ปิ่นหิวแล้ว" ร่างสูงผงกหัวมองคนเป็นเมีย "หืม กี่โมงแล้ว" "บ่ายโมงแล้วค่ะ"เพลิงพลิกตัว ลืมตาปรับแสงกับความสว่าง อยากนอนต่ออีกหน่อยแต่เมื่อหันเห็นเมียรักนั่งมองอยู่เลยจำใจต้องลุกขึ้น "โทรสั่งเลย วันนี้เราจะไม่ออกจากห้องหอกันนะ"ปิ่นมุกยิ้ม ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าคนหื่นอย่างเขายังไม่อิ่มจากบทรักเมื่อคืน นี่ถ้าไม่เหนื่อยจากงานแต่ง คงรังแกเธอจนสลบไปเหมือนทุกที "แล้วเพื่อนพี่ล่ะคะ กลับกันไปหรือยัง"มือหนาคว้าโทรศัพท์มาโทรออกหาคิณ "พวกมึงกลับกันไปยัง" (กลับแล้ว ไอ้เสือก็ออกมาพร้อมกู ไม่อยากรบกวนเวลาสวีทของมึง) "สมที่เป็นเพื่อนรักกูกันจริงๆ" (เบาๆหน่อยนะโว้ย!!! เมียท้องอยู่ ฮ่าฮ่า" "สัด!!! แค่นี้แหละ" เพลิงหันมายิ้มกรุ้มกริ่มกับเมียที่นั่งรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ "มันบอกไม่อยากรบกวนเรา แบบนี้เราควรทำตามความตั้งใจของพวกมันนะ"นิ้วเรียวเริ่มไต่ไปตามร่างแขนเรียวของเธออย่างหยอกเย้า ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ ยินดีจะทำตามใจเขาทุกอย่างเหมือนกัน เดี
ปิ่นมุกโยนชุดนอนในมือทิ้ง เดินมายืนปลายเตียง ก่อนจะปลดปมชุดคลุมออก เผยร่างเปลือยเปล่าขาวผ่อง ที่เจ้าบ่าวเห็นแล้วต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ค่อยๆใช้มือลูบไปตามร่างกายอย่างยั่วยวน ขนาดท้องแต่ความสวยของร่างกายปิ่นมุกไม่ลดน้อยลงเลย กลับดูอวบอิ่มขึ้นมาโดยเฉพาะตรงอกอวบที่ดูเต็มไม้เต็มมือมากกว่าเดิม เอวคอดกิ่ว หน้าท้องที่มีพุงยื่นออกมาหน่อยเดียว แทบมองไม่เห็น สะโพกผาย เนินเนื้ออวบอูมที่ทำเขาหลงไหลจนหาทางออกไม่ได้ จนถึงทุกวันนี้ "เมียพี่สวยมาก"นัยน์ตาคมร้อนแรงจ้องมองร่างกายของเธอ แสดงออกถึงความหลงไหลอย่างชัดเจน ทำเอาคนตัวเล็กหน้าร้อนผ่าวออกมาเหมือนกัน "ปิ่นจะทำอะไร"เมื่อเห็นเมียค่อยๆคลานขึ้นมาบนเตียง ก่อนจะขึ้นคล่อมร่างเขา จนร่องรักเสียดสีกับหน้าท้องแกร่งไปมา "จัดการคนหื่นไงคะ"ใบหน้าสวยค่อยๆลดลงจนริมฝีปากประกบกัน มือหนากดหัวเล็กไว้ ก่อนจะขบเม้มริมฝีปากเธอไปตามอารมณ์ จากจังหวะเนิบนาบค่อยๆเพิ่มระดับเป็นเร่าร้อนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ลิ้นร้อนเกี่ยวกะหวัดลิ้นเล็กไปมา กวาดต้อนความหวานในโพลงปากนุ่มอย่างเอาแต่ใจ มือหนาก็เริ่มสะเปะสะปะไปมาทั่วร่างอวบอัด ที่ไม่ว่าจะบีบตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือไปหมด "อื้อ
งานแต่งงานของเพลิงกับปิ่นมุก ถูกจัดขึ้นหลังเพลิงขอแต่งงานเพียงหนึ่งเดือน ด้วยเพราะปิ่นมุกท้อง เพลิงเลยไม่อยากทิ้งเวลาไปนานกว่านี้ กลัวว่าเธอจะท้องใหญ่จนใส่ชุดแต่งงานไม่ได้ ซึ่งปิ่นมุกเองก็อยากแต่งเร็วๆเหมือนกัน "ยินดีด้วยนะเว้ยยย!!! รีบตามกูมาแล้วกันเพื่อนรัก กูนำไปไกลแล้วนะ"เสือที่เดินอุ้มลูกสาววัยเจ็ดเดือนน้องเรนเดียร์ กับข่าวดีที่ว่ามะปรางตั้งท้องได้สองเดือนแล้ว "มึงต้องบอกไอ้คิณ ของกูอีกหกเดือนก็คลอดแล้ว แต่ไอ้เพื่อนรักมึงคนโน้น ยังไม่มีทีท่าว่าจะมี สงสัยไม่มีน้ำยาว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"เพลิงหยอกเพื่อนรักอีกคน ที่หลังจากเปิดบริษัทเป็นของตัวเองก็แทบไม่มีเวลาให้เมีย "สัดเพลิง!!!นินทากู รอให้ถึงงานแต่งกูก่อนเถอะ กูจะจัดเมียสามวันสามคืนเลย" คิณที่ตอนแรกยืนคุยกับเพื่อนในคณะ ที่มางานแต่งเพลิงด้วย ได้ยินเพื่อนสองคนทับถมเขา ก็ต้องเดินเข้ามาสมทบด้วยทันที ตั้งแต่เรียนจบกันไป เขาสามคนก็แทบไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกันเหมือนแต่ก่อน นานๆสักครั้งถึงจะนัดเจอกันที่ผับเฮียพายุบ้าง แต่วันนี้งานแต่งเพื่อนทั้งที ทั้งคิณและเสือกะว่าจะอยู่เมาจนงานเลิกแน่นอน เอาให้เจ้าบ่าวอดเข้าห้องหอไปเลย ถึงช่วงอาฟเตอร์ปาร์ต
หลังจากกลับมาจากเที่ยวทะเลได้เพียงสองวันก็ถึงวันที่เพลิงนัดให้ปิ่นมุกไปกินข้าวเย็นที่บ้าน ซึ่งปิ่นมุกที่กำลังแต่งตัวก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอครอบครัวเขา ที่จริงเธอก็ตื่นเต้นนอนไม่หลับตั้งแต่เมื่อคืน เธอไม่รู้ว่าพ่อแม่เขาจะชอบเธอหรือเปล่า แต่เธอจะเป็นตัวของตัวเอง หากพวกเขาจะชอบเธอก็ต้องชอบที่เธอเป็นเธอ "อะไรตื่นเต้นเหรอ" "นิดหน่อยคะ แต่ปิ่นจะทำให้ดีที่สุดนะคะ" "ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ปิ่นเป็นแบบที่ปิ่นอยู่กับพี่นะ พ่อกับแม่ต้องรักปิ่นแบบที่พี่รักแน่นอน" หลังจากแต่งตัวเสร็จ ซึ่งวันนี้เธอเลือกชุดเดรสที่ดูเรียบร้อย ให้เกียรติผู้ใหญ่ เพราะพอรู้มาว่าพ่อเพลิงค่อนข้างเป็นคนเจ้าระเบียบ กลัวว่าหากเธอแต่งกายไม่รู้กาลเทศะจะพาลไม่ชอบเธอตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน "ไม่ต้องกลัวนะ พี่เห็นปิ่นดื่มน้ำเยอะแล้วนะ" ปิ่นมุกเป็นคนที่ถ้าตื่นเต้นหรือกังวลอะไร จะดื่มน้ำเยอะมากเพราะคิดว่าจะช่วยให้เธอผ่อนคลายได้ "ค่ะ...นี่เหรอคะบ้านพี่"เมื่อรถสีดำคันหรูขับเข้ามาจอดบริเวณบ้านหลังใหญ่ ไม่ใช่ใหญ่ธรรมดานะใหญ่มาก ปิ่นมุกอ้าปากเหวอทันที เธอรู้ว่าเขารวยมากแต่ไม่คิดว่าจะรวยขนาดนี้ "เก็บปากหน่อยครับเมีย"ริมฝีปากรีบห
"อ๊ายย!!!พี่เพลิงทะเลสวยมาก"ปิ่นมุกกระโดดดีใจเมื่อได้มาสัมผัสทะเลใต้ที่ในชีวิตเคยมาแค่ครั้งเดียวตอนปิดเทอมสมัยมัธยม ด้วยว่าเธอเป็นคนเหนือแถมพ่อยังทำธุรกิจ ไม่มีเวลาพาเธอไปไหนไกล ถ้าให้ไกลสุดในชีวิตคงเป็นทะเลพัทยาที่เคยไปเที่ยวกับเพื่อนสาวตอนปีหนึ่ง "ปิ่นอยากถ่ายรูปแล้ว ไปเปลี่ยนชุดกัน"เพลิงลากกระเป๋าเข้าที่พักหรูแบบพูลวิลล่าริมทะเล มีสระว่ายน้ำส่วนตัว บรรยากาศร่มรื่นไม่ร้อนมากทั้งๆที่อยู่ติดทะเลเพียงเดินไม่กี่ก้าว ซึ่งแน่นอนว่าถูกใจปิ่นมุกสุดๆ "ชอบไหมครับ"ดวงตากลมโตเป็นประกายราวกับเด็กน้อยเจอของเล่นที่ถูกใจ "ค่ะ ปิ่นชอบมาก"ใบหน้าสวยพยักหน้าหงึกหงักอย่างน่ารัก เล่นเอาหัวใจชายหนุ่มพองโตดีใจที่เลือกได้ถูกใจเธอ "ไปเปลี่ยนชุดนะคะ" ปิ่นมุกเดินไปหยิบบิกินี่สีฟ้าสดใสเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ก่อนเดินออกมาโชว์หุ่นสวยให้เพลิงดูอย่างไม่อาย "สวยไหมคะ"เมื่อเห็นแฟนหนุ่มมองตาไม่กระพริบก็คิดไปว่าเขาชอบ ที่ไหนได้ใบหน้าหล่อค่อยๆบึ้งตึงขึ้นมา "มันโป๊ มันมีไซส์ใหญ่กว่านี้ไหมปิ่น ทำไมมันดูเล็กจนนมทะลักออกมาขนาดนั้น"เสียงทุ้มแสดงความไม่พอใจเต็มที่ แถมมือหนายังมาปลดสายเล็กที่ผูกไว้ตรงคอขาว จนบิกี่นี่หลุ
"ก็ดี กูจะได้ไม่ต้องแอ๊บพูดจาดีกับมึง ไหนๆก็ไหนๆแล้ว มึงก็อย่ามั่นหน้าให้มากนักเลย กูบอกมึงแล้วเมื่อก่อนเพลิงก็ทำแบบนี้กับกูนี่แหละ" มือบางกอดอกท่าทางหาเรื่องเต็มที่ คงไม่รู้ซะแล้วว่าคนแบบปิ่นมุกไม่ใช่ใครจะมาพูดใส่หน้าแบบนี้ได้ "เหมือน?...พี่เพลิงทำอะไรกับมึงที่เหมือนกูเหรอ นอกจากว่ามึงนอนอ้าขาให้เขาเอา นอกนั้นมึงไม่เหมือนกูสักอย่าง"มือเล็กของบีน่าบีบเข้าหากันแน่นด้วยอารมณ์โกรธถึงขีดสุด เห็นทีวันนี้คงพูดดีๆด้วยไม่ได้ "โธ่...ทำมาเป็นพูดดี เริ่มแรกก่อนที่มึงจะคบกับเขา มึงก็เป็นคนนอนอ้าขาให้เขาเอาเหมือนกูนั่นแหละ มึงรู้อะไรไหม เพลิงเป็นผู้ชายคนแรกของกู เราเอากันมาตั้งแต่จบมอหก กี่ปีแล้วนะ นี่ยังไม่รวมที่เป็นเพื่อนกันมาอีก มึงรู้จักเพลิงแค่ไหน ก็คิดสิว่ากูรูัจักเขามากกว่ามึง" ปิ่นมุกยิ้มร้ายส่งไปบ้าง นึกตลกที่ยังมีคนแบบนี้อยู่บนโลกใบนี้จริงๆ คนที่อยากได้ของคนอื่นจนไม่สนอะไรทั้งนั้น ไม่สนแม้กระทั่งว่าผู้ชายเขาจะไม่เอา "รู้จักมานานไม่ได้แปลว่ารู้จักดีนะ คำนี้เคยได้ยินหรือเปล่า หรือว่าโง่เพราะมัวแต่คิดวิธีอ้าขาเพื่อจะชนะใจผู้ชาย แต่น่าสงสารนะคะ ขนาดอ้าเป็นร้อยๆท่า ผู้ชายยังไม่แม้แต่จะ
คิณและเสือแบกร่างเมาไม่ได้สติของเพลิงกลับมาคอนโด รู้สึกว่าเหตุการณ์คล้ายกับช่วงที่ปิ่นมุกหนีไป ได้แต่ภาวนาให้เพื่อนไม่ต้องทุกข์ทรมานใจแบบนั้นอีก กริ่ง กริ่ง กริ่ง!!! เสียงกริ่งดังไม่นาน ประตูก็เปิดออกโดยแฟนสาวของเพื่อนที่อยู่ในชุดนอนเรียบร้อย ไม่น่าเชื่อว่ารสนิยมของเพื่อนฉายาเอวดุ จะชอบผู้หญิงใส่ชุดนอนลายการ์ตูน "ให้พี่แบกไปไว้ไหน"ปิ่นมุกที่ยังตกใจอยู่ที่เปิดมาเจอสภาพเพลิงเมาขนาดนี้ เพราะก่อนจะออกไปเขาก็แค่บอกว่าจะไปทำธุระ แต่ทำไมกลับมาในสภาพนี้ได้ "เข้าไปในห้องเลยค่ะ" ร่างหนาที่ถูกเพื่อนสองคนหิ้วปีกคนละข้างเข้ามาส่งถึงห้องนอน แต่ก่อนออกไปคิณอยากพูดอะไรกับแฟนเพื่อนก่อนสักนิด "ฝากเพื่อนพี่ด้วยนะครับ มันรักปิ่นมากนะ มันอาจจะดูมึนๆไปบ้าง แต่มันไม่เคยรักใครพี่เป็นพยานได้" "พี่ก็เป็นพยานได้"เสือเอ่ยสมทบไปอีกคน ปิ่นมุกที่ยังไม่เข้าใจความหมายที่เพื่อนแฟนหนุ่มทั้งสองต้องการจะสื่อ จนทั้งคู่เดินออกไปแล้ว เธอถึงคิดได้ว่าสาเหตุที่เพลิงกินเหล้าเมาขนาดนี้น่าจะเป็นเพราะเธอ คนตัวเล็กเข้าไปหยิบกะละมังใส่น้ำกับผ้ามาเช็ดตัวให้คนเมาไม่ได้สติ ทว่าระหว่างที่เธอกำลังเช็ดก็ได้ยินเสียงทุ้มพึมพำพูดอะไ