เช้าวันต่อมา เจสสิก้าเห็นเจนจิราเดินสะโหลสะเหลกลับเข้ามาในบ้านตอนเกือบเก้าโมง ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้“หนูเจน... เมื่อคืนไม่ได้กลับบ้านเหรอลูก”เจนจิราชักสีหน้าหงุดหงิดใส่เล็กน้อย “เจนไปค้างบ้านคุณแม่มาน่ะค่ะ”เจสสิก้าพยักหน้ารับน้อยๆ “เหรอ ถ้างั้นก็ไม่เป็นไร หนูเจนขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าเถอะลูก”“แล้วนี่พี่อเล็กออกไปทำงานแล้วเหรอคะ” ก่อนจะขึ้นห้องนอน เจนจิราก็อดที่จะถามถึงอเล็กซิสไม่ได้ เพราะแอบหวังว่าเขาจะเป็นห่วงเป็นใยบ้าง“ใช่จ้ะ ออกไปแต่เช้าแล้วล่ะ”“แล้วพี่อเล็กพูดอะไรถึงเจนบ้างไหมคะ แบบ... ทำไมเจนถึงไม่กลับบ้านแบบนี้น่ะค่ะ”เจสสิก้าทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะส่ายศีรษะ “ก็ไม่เห็นพูดอะไรเลยนะ ถ้าพ่ออเล็กพูดถึงหนูเจน แม่ก็คงไม่แปลกใจที่เห็นหนูเจนเพิ่งกลับบ้านหรอกจ้ะ”เจนจิราได้ยินก็กำมือแน่น และชักสีหน้าโมโห “เมียหายไปทั้งคืน แต่ผัวไม่คิดแม้แต่จะโทร. หา ลูกชายของคุณแม่นี่มันเลือดเย็นจริงๆ เลยนะคะ” ก่นด่าจบก็กระแทกเท้าเดินขึ้นบันไดไปเจสสิก้าอึ้งกิมกี่ เพราะไม่เคยเห็นเจนจิราแสดงท่าทางก้าวร้าวแบบนี้ให้เห็นคาตามาก่อนปัง!เจนจิราดึงประตูห้องปิดแรงๆ อารมณ์เสียเป็นที่สุด หล่อนเหวี่ยงกระเป๋าลงกับพื้น
“เป็นยังไงบ้างหนูเตย คุณหมอบอกว่าหนูเตยเป็นอะไร”ยายฟองจันทร์รีบเดินเข้าไปหา เมื่อเห็นเตยหอมเดินโซซัดโซเซ แถมหน้ายังซีดขาวออกมาจากห้องตรวจ“แล้วนี่ร้องไห้ทำไมล่ะหนูเตย...”เตยหอมทรุดฮวบลงนั่งบนเก้าอี้พลาสติกที่ยายฟองจันทร์พามานั่ง คำพูดของคุณหมอยังดังก้องอยู่ในหัวของหล่อนตลอดเวลา‘หมอขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ คุณกำลังตั้งครรภ์’ท้อง...ใช่... หล่อนกำลังตั้งท้องกับ...น้ำตาของหล่อนไหลออกมาลวกสองพวงแก้ม หัวใจปวดร้าวเหลือเกินกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นหล่อนตั้งท้องกับอเล็กซิส ท้องกับเขาในค่ำคืนนั้น หล่อนโง่เองที่ไม่ฉุกคิดเรื่องคุมกำเนิดมือเล็กยกขึ้นลูบหน้าท้องที่ยังแบนเรียบเหมือนเดิม และไม่มีอะไรบ่งบอกให้รู้เลยว่าภายในกำลังมีอีกชีวิตหนึ่งอุบัติขึ้นลูก...ลูกของหล่อนกับอเล็กซิส...ลูกที่จะมีเพียงแค่แม่คนเดียวเท่านั้น โดยที่พ่อของลูกจะไม่มีวันได้รับรู้เลยแล้วหล่อนจะตอบลูกว่ายังไง หากลูกถามถึงพ่อ...“หนูเตย... ว่าไงล่ะลูก คุณหมอว่ายังไงบ้าง ที่หนูเตยอ้วกบ่อยๆ เป็นอะไร”คำถามย้ำอีกครั้งของยายฟองจันทร์ทำให้หล่อนได้สติกลับคืนมา หล่อนยกมือขึ้นป้ายน้ำตา ก่อนจะกัดฟันบอกความจริงให้กับหญิงสูงวัยรู้
วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปอีกหลายเดือน และจนกระทั่งถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่ได้ข่าวคราวใดๆ ของเตยหอมเลย ไม่ว่าตัวเองจะลงทุนจ้างนักสืบเอกชนเพิ่มอีกหลายที่ก็ตาม“เธอหายไปอยู่ไหนกันนะ เตยหอม...” เขาถอนใจออกมาอย่างอ่อนล้า เริ่มหมดแรงที่จะตามหาเสียแล้วเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น ช่วยดึงให้เขาตื่นจากภวังค์ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานชั่วขณะ“ว่าไงไอ้เคน”เคลวินคือคนที่อยู่ปลายสาย“สุ้มเสียงไม่สู้ดีเลยนะไอ้อเล็ก มีปัญหาชีวิตชัวร์ใช่ไหม”อเล็กซิสไม่ได้ตอบคำถามของเพื่อน แต่เลือกที่จะถามกลับแทน“โทร. มามีอะไรหรือเปล่า”เคลวินนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบออกมา “ฉันไม่รู้ว่าจะบอกนายดีไหม แต่คิดไปคิดมาก็ควรจะบอก”“มีอะไรก็พูดๆ มาเลยไอ้เคน เล่นโทร. มาหาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่บอกฉันจะบินไปกระทืบนายถึงเชียงรายเลยล่ะ”“ทำไมนายโหดจัดนักวะ”เคลวินพูดติดตลกเพราะต้องการทำให้เพื่อนผ่อนคลายก่อนจะได้รับฟังความจริง แต่ดูเหมือนว่าอเล็กซิสจะอยู่ห่างจากคำว่าผ่อนคลายหลายขุมเลยทีเดียว“มีอะไรก็ว่ามา ฉันทำงานอยู่”“เรื่องเมียนายนั่นล่ะ”“เมียฉัน?”คิ้วเข้มของอเล็กซิสเลิกสูง ในหัวของเขานึกถึงเตยหอม แต่ชื่อที่ดังมาตามสายของเคล
“น้องเจน พี่มีเรื่องจะพูดด้วย” อเล็กซิสวางหนังสือเล่มหนาในมือลง และมองภรรยาในนามที่เพิ่งกลับเข้ามาในห้องนอน กลิ่นเหล้าคละคลุ้งจนแทบอาเจียน“มันต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เลยใช่ไหมคะ พี่อเล็กถึงถ่างตารอเจนถึงตีสองได้” เจนจิราโยนกระเป๋าสะพายแบบคล้องไหล่ลงกับพื้นอย่างไม่ไยดี จากนั้นก็เดินมานั่งบนเตียง “ว่ามาสิคะ มีอะไรก็พูดมาเลย”เมื่ออยู่ใกล้ อเล็กซิสก็เห็นรอยดูดที่ลำคอขาวผ่องของเจนจิราได้อย่างชัดเจน“พี่อยากให้น้องเจนหยุดทำเรื่องไม่ดีซะ”“หึ... เรื่องไม่ดี เรื่องอะไรกันล่ะคะ” หล่อนเชิดหน้าไม่ใส่ใจอเล็กซิสถอนใจออกมาแรงๆ แสดงความเบื่อหน่ายชัดเจน “ก็เรื่องผู้ชายที่น้องเจนออกไปหาทุกคืนยังไงล่ะครับ”“ผะ... ผู้ชายอะไรกันคะ” เจนจิราหน้าเสีย เมื่อได้ยินอเล็กซิสพูดเรื่องจริงออกมา“น้องเจนก็รู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร เอาเป็นว่า ถ้าน้องเจนไม่หยุดทำเรื่องเสื่อมเสียพวกนี้ เราสองคนก็ต้องหย่ากัน”“เจนไม่หย่าค่ะ ไม่มีทางหย่า” เจนจิราลุกขึ้นยืน จ้องหน้าอเล็กซิสเขม็ง “เจนจะไม่มีวันปล่อยให้พี่อเล็กไปเสวยสุขกับนังผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น”“ถ้าอย่างนั้นก็เลิกทำตัวแบบในคลิปนี้ได้แล้ว”อเล็กซิสเปิดคลิปในโทรศัพ
เอกวัฒน์ดึงประตูคอนโดฯ ให้เปิดออก เมื่อดูจากตาแมวที่ประตูแล้วพบว่าเจนจิราเป็นคนมาเคาะ“ทำไมวันนี้มาหาผัวแต่วันเลยล่ะครับเมียจ๋า”เจนจิราปั้นยิ้มหวาน ก่อนจะเดินนวยนาดเข้าไปภายในคอนโดฯ หรูที่ไอ้เอกวัฒน์มันรีดไถเงินหล่อนไปซื้อ“ปิดประตู แล้วมาสนุกกันเถอะพี่เอก”เอกวัฒน์ทำตามคำสั่ง ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดข้างๆ เตียง มองเจนจิราที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยความประหลาดใจ“วันนี้ผีเข้าเหรอน้องเจน ทำไมถึงทำดีกับพี่?”“ก็เจนแค่ค้นพบว่าผู้ชายที่ทำให้เจนมีความสุข มีแต่พี่เอกคนเดียวยังไงล่ะคะ”“อ้าว ไหนน้องเจนบอกว่ารักไอ้ผัวหน้าโง่ที่บ้านไงล่ะ แต่เพราะมันไม่รักตอบ น้องเจนก็เลยต้องออกเที่ยวจนมาเจอพี่”เอกวัฒน์หย่อนกายลงนั่งบนเตียงข้างๆ ร่างของเจนจิรา เขายกมือขึ้นไล้ไปตามท่อนแขนเรียว“รักได้ ก็เลิกรักได้ค่ะ เจนเบื่อเต็มทนได้”“นี่น้องเจนพูดจริงเหรอ”“จริงสิคะ เจนกำลังคิดเรื่องหย่ากับพี่อเล็กอยู่ค่ะ พอหย่าแล้วเจนก็อยากจะใช้ชีวิตกับผู้ชายที่น่ารักสักคน...” เจนจิรายกมือขึ้นลูบใบหน้าของเอกวัฒน์ “ซึ่งผู้ชายคนนั้นก็ต้องเป็นพี่เอกคนเดียวค่ะ”เอกวัฒน์ไม่อยากเชื่อนัก แต่ก็ดีใจอยู่ลึกๆ “แน่ใจนะว่าน้องเจนไม่ได้หลอกพี่น่
เหตุการณ์ในวันนั้นผ่านมาสี่ปีกว่าแล้ว แต่มันก็ยังเป็นฝันร้ายในใจของเจนจิราตลอดเวลา เพราะหญิงสาวกลายเป็นโรคซึมเศร้า และชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง แถมพอเห็นตำรวจก็จะตื่นตกใจจนร้องไห้ออกมาทุกครั้งปิยนุชต้องพาลูกสาวกลับมาดูแลต่อที่บ้านตั้งแต่เกิดเรื่อง และต่อจากนั้นอีกเพียงห้าเดือน อเล็กซิสก็ดำเนินเรื่องหย่าขาดจากเจนจิรา ซึ่งหล่อนก็ไม่ได้ขัดข้อง เพราะได้ให้คำสัญญากับเจสสิก้าเอาไว้ว่า หากครอบครัวโอคอนเนอร์ช่วยเรื่องคดีความและสามารถช่วยให้เจนจิรารอดคุกได้ หล่อนจะยอมทุกอย่าง“กรี๊ดดดดดด... ออกไป ออกไปให้พ้น!”ปิยนุชรีบวิ่งเข้าไปหาลูกสาว ก็พบว่าเจนจิรากำลังปาข้าวของในห้องพัลวัน“น้องเจน... แม่เองลูก หนูใจเย็นๆ นะจ๊ะ”“ฉันไม่เชื่อ แกต้องเป็นตำรวจแน่ๆ ไปให้พ้น!”ปิยนุชร้องไห้ เมื่อถูกลูกสาวปาแจกันใส่ และเพราะหลบไม่ทันจึงศีรษะแตก ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่หล่อนถูกเจนจิราทำให้เจ็บเนื้อเจ็บตัว“น้องเจน... แม่เอง... แม่เองลูก...”“ไปให้พ้น กรี๊ดดดดด!”เพล้งงงงงง!ปิยนุชจำต้องออกไปจากห้องของลูกสาว หล่อนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดทรมานใจ ขณะเดินกลับห้องนอนเพื่อไปทำแผลที่ศีรษะ รูปถ่ายของสามีที่ตั้งอยู่บนเตี
หลังจากส่งลูกสาวเข้านอนเรียบร้อยแล้ว เตยหอมก็ออกมายืนเหม่อมองดวงจันทร์ตามลำพัง ใบหน้าของอเล็กซิสปรากฏอยู่บนท้องฟ้า ถึงจะมืดมิดแค่ไหน แต่หล่อนก็ยังคงมองเห็นเขาได้อย่างชัดเจนหล่อนคิดถึงเขาเหลือเกิน...“ป่านนี้... คุณจะเป็นยังไงบ้างคะ” หล่อนพึมพำออกมาทั้งน้ำตา “เตยหวังว่าคุณคงจะมีความสุขกับคุณเจนนะคะ” ตั้งแต่จากมา หล่อนไม่เคยได้รับข่าวสารใดๆ ของคนที่กรุงเทพฯ อีกเลย“วันนี้น้องปิ่นถามหาพ่อเหรอ หนูเตย” ยายฟองจันทร์เดินมาหยุดข้างหลัง และเอ่ยถามขึ้นเตยหอมรีบยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง ก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับหญิงชรา พร้อมกับฝืนยิ้ม“ทำ... ทำไมยายถามแบบนี้ล่ะจ๊ะ”ยายฟองจันทร์ถอนใจเบาๆ ยกมือขึ้นแตะแขนเรียวของเตยหอมเอาไว้“ยายจำได้ว่าหนูเตยจะแอบมาร้องไห้ทุกครั้ง หลังจากที่น้องปิ่นถามหาพ่อ”“เตย...”“ยายว่าหนูเตยควรจะติดต่อกลับไปหาพ่อของลูกบ้างนะ อย่างน้อยๆ เขาก็ควรรู้ว่าตัวเองมีลูกสาวที่น่ารักอย่างน้องปิ่นอยู่บนโลกใบนี้อีกคน”หล่อนทำได้แค่ส่ายหน้าไปมา “เตย... เตยทำแบบนั้นไม่ได้หรอกจ้ะ เตยให้เขารู้ไม่ได้...”“ทำไมล่ะหนูเตย...” ยายฟองจันทร์ถามแบบนี้มาสี่ปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบจากปากของเตยหอมเล
เสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้นในกลางดึก ทำให้เตยหอมสะดุ้งตื่นขึ้นมา หล่อนรีบไปเปิดประตูห้อง เพราะเกรงว่าถ้าปล่อยให้เคาะนานกว่านี้ลูกสาวจะตกใจตื่นเมื่อหล่อนเปิดประตูห้องออกก็พบว่ายายฟองจันทร์กับตาคำสายยืนหน้าตาตื่นอยู่หน้าห้อง“มีอะไรเหรอจ๊ะ ตา ยาย...”หล่อนถามออกไปด้วยความแปลกใจยายฟองจันทร์กับตาคำสายมองหน้ากัน ก่อนจะบอกสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้จากกรุงเทพฯ ให้กับเตยหอมฟัง“ไอ้กอบเพื่อนเก่าตา มันโทร. มาบอกว่าคุณหนูเจนจิรากินยาฆ่าตัวตาย” เพื่อนที่ตาคำสายเอ่ยถึงคือลุงประกอบคนขับรถประจำบ้านเจริญวัฒนากุล“ว่ายังไงนะตา?!”“คุณหนูเจนจิรากินยาฆ่าตัวตาย”คราวนี้ยายฟองจันทร์เป็นคนพูดตอบซ้ำออกมา“เป็นไปไม่ได้... คุณเจน... เธอไม่มีทางทำแบบนั้นหรอกจ้ะ...”เตยหอมเต็มไปด้วยความตกใจ และก็คิดภาพของเจนจิราที่จะกินยาฆ่าตัวตายไม่ออกเลยจริงๆ“เห็นไอ้กอบมันบอกว่า ตั้งแต่คุณหนูเจนจิราหย่ากับสามี ก็มีอาการซึมเศร้ามาตลอด”“คุณเจน... หย่ากับ... สามีเหรอจ๊ะ?”ไม่จริง มันจะเป็นไปได้ยังไง อเล็กซิสกับเจนจิราหย่าขาดจากกันแล้วอย่างนั้นเหรอ เจนจิราไม่น่ายอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นได้ นี่หล่อนงงไปหมดแล้ว“ตาว่าเรื่องมันน่า
หลายปีต่อมา... สี่หนุ่มเพื่อนซี้ก็สามารถหาเวลาว่างตรงกันและนัดมาสังสรรค์กันได้ในที่สุดอเล็กซิสยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ ขณะทอดสายตามองไปยังทุ่งกว้างที่บรรดาเด็กน้อยวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน โดยมีสาวๆ ซึ่งเป็นภรรยาของพวกเขาทั้งสี่คนปูเสื่อนั่งคุยกันอยู่ไม่ห่างจากจุดที่เด็กๆ วิ่งเล่นอยู่เขาไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย การมีครอบครัวคือสิ่งที่เขาไม่เคยปรารถนามาก่อน แต่หลังจากที่เตยหอมเข้ามาในชีวิต เขาก็ได้รู้จักกับความสุขที่แท้จริง...ความสุขที่เงินมากเท่าไรก็ซื้อหาไม่ได้...“ในท้องเมียนายกี่คนวะ เห็นท้องใหญ่ๆ” แม็กซิมัสเอ่ยถามอเล็กซิส ซึ่งเป็นหนุ่มหล่อคนสุดท้ายที่เพิ่งได้แต่งเมีย“แฝดสามว่ะ” อเล็กซิสยืดอกตอบอย่างภาคภูมิใจ “น้ำยาฉันมันแรง เห็นไหมล่ะ”เสียงหัวเราะของอีกสามหนุ่มดังกระหึ่ม ก่อนจะรีบเกทับกันยกใหญ่“แค่แฝดสามทำมาคุยไอ้อเล็ก ฉันนี่ลูกหกคนแล้วโว้ย ยังไม่เห็นคุยเลย ถึงจะไม่ใช่แฝดก็ตาม” เคลวินยืดอกบ้างด้วยความภูมิใจในเชื้อพันธุ์ของตนเองไม่ต่างกัน“ให้มันน้อยๆ หน่อยน่ะพวกแก” ชาร์ลีแย้งขึ้นพร้อมกับจิบเหล้า แต่ก็ทำให้เพื่อนอีกสามคนหันมาทับถมกันใหญ่โต“นายน่ะอ่อนสุดเลยรู้ไหมไอ้ชาร์ล พวกเร
Mackenzie, New Zealandสถานที่ตรงหน้ามันสวยเหลือเกิน สวยงามน่าอัศจรรย์จนหล่อนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เลย รู้แต่ว่ามันคือแดนสวรรค์ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่จริงบนโลกรอยยิ้มละไมเปื้อนดวงหน้างามตลอดเวลา เมื่อนึกถึงภาพของทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขาสูงใหญ่ และรอบๆ ก็มีดอกไม้สีสันสดใสประดับประดาอย่างลงตัวคล้ายกับดินแดนในเทพนิยายที่เคยหยิบยืมของเจนจิรามาอ่านตอนเด็กไม่มีผิด“ชอบไหมทูนหัว...”คนที่นอนหลับตาอยู่ก่อนหน้าขยับเปลือกตาลืมขึ้น และมองหน้าหล่อน ดวงตาของเขาระยิบระยับสวยแข่งกับดวงดาวบนท้องฟ้ากว้างเหลือเกินมือเล็กยกลูบแก้มสากที่มีตอหนวดขึ้นประปรายแผ่วเบา “ชอบมากค่ะ มันสวยเหลือเกิน...”คนตัวโตยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวสะอาดสะท้อนกับแสงของดวงดารานับหมื่นบนท้องฟ้า“ผมดีใจนะที่คุณชอบ...”“ขอบคุณมากนะคะที่พาเตยมาที่นี่ มันสวยมาก สวยเหมือนสวรรค์เลยค่ะ”คนที่นอนพักอยู่ลุกขึ้นนั่ง ยกมือใหญ่ขึ้นโอบประคองแก้มนวลของภรรยาเอาไว้ ก่อนจะจุมพิตกลีบปากอวบอิ่มนุ่มนวล จากนั้นก็กระซิบแผ่วเบา“แล้วที่นี่คุณชอบอะไรที่สุดล่ะ ทะเลสาบ ดอกลูพิน หรือว่าดวงดาวบนฟ้าในตอนนี้”หล่อนฉีกยิ้มกว้าง
และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความสุขคือสิ่งที่เตยหอมพบเจอเป็นประจำจนเคยชิน หล่อนไม่เคยพบประสบกับความทุกข์ใจใดๆ อีกเลย เมื่อมีอุ้งมือของอเล็กซิสคอยโอบประคอง จนหล่อนอดคิดไม่ได้ว่าตนเองคือผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก“อุ้ยยย...” หล่อนสะดุ้งตกใจเมื่อถูกสวมกอดจากทางด้านหลัง แต่สัมผัสและกลิ่นหอมที่คุ้นเคยทำให้อมยิ้มกว้างในเวลาต่อมา อ้อมแขนที่แสนอบอุ่นนี้จะเป็นของใครไปได้ล่ะ นอกจาก...อเล็กซิส โอคอนเนอร์ สามีดีเด่นของหล่อนนั่นเอง...หล่อนหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับสามีสุดหล่อที่ตัวสูงใหญ่ มองจ้องตาสีฟ้าสวยของเขาด้วยความรักหมดหัวใจ“น้องปิ่นหลับแล้วเหรอคะ”“หลับแล้วครับทูนหัว...” คุณพ่อคนเก่งก้มลงจูบแก้มภรรยาอย่างแสนรัก จากนั้นก็เลยมาอ้อยอิ่งที่กลีบปากหวานราวกับหยาดน้ำผึ้งป่าของภรรยา “กว่าจะหลับได้ ผมหมดนิทานในสต็อกไปเกือบห้าเรื่องแน่ะ” เขาพูดและก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ดวงตากวาดมองหน้าหวานของเตยหอมตลอดเวลา“ตอนเด็ก คุณจ้อเก่งแบบน้องปิ่นหรือเปล่าเนี่ย”หล่อนหัวเราะร่วน “เปล่านะคะ ตอนเล็กๆ เตยไม่ค่อยจะพูดด้วยซ้ำไปค่ะ”“อ้าว งั้นก็คงเหมือนผมน่ะสิ” เขาหัวเราะก๊าก ซึ่งหล่อนเองก็อดที่จะหัวเราะออกมาอีกครั้
“ที่แท้ก็อยากมีลูกเพิ่มใช่ไหมคะเนี่ย”เขาผงกศีรษะตอบรับด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์น้อยๆ “ก็ฉันกลัวน้องปิ่นจะเหงา ก็เลยอยากมีน้องๆ ให้มาเป็นเพื่อนวิ่งเล่น ว่าแต่ตกลงไหมทูนหัว”เตยหอมยิ้มเอียงอาย ก่อนจะซบหน้าลงกับแผ่นอกกว้างอย่างแสนรัก“ค่ะ”“น่ารักจังทูนหัว”เสียงหัวเราะพึงพอใจของอเล็กซิสดังกระหึ่มขึ้น ก่อนที่มือใหญ่จะเริ่มต้นซุกซน“อุ้ยยย... จะทำอะไรเหรอคะ”“ก็เร่งมือทำน้องให้น้องปิ่นไงจ๊ะทูนหัว”“ตะ... ตอนนี้เลยเหรอคะ” มือของเขาซุกซนมาก สัมผัสลูบไล้ไปทั้งบั้นท้ายทำเอาหล่อนสยิวเสียวซ่าน“ไม่ทำตอนนี้จะทำตอนไหนล่ะทูนหัว...”“ก็... ตอนค่ำไงคะ” หล่อนอ้อมแอ้มตอบด้วยความขัดเขิน“รอไม่ไหวจ๊ะที่รัก... ได้โปรดขอตอนนี้เลย... นะ...”น้ำเสียงของอเล็กซิสทั้งกระเส่าทั้งแปร่งพร่า ทำเอาหล่อนไม่กล้าที่จะขัดใจเลย“ก็... ได้ค่ะ”กายสาวร้อนผะผ่าว เลือดในกายก็เดือดพล่าน ยิ่งอเล็กซิสมือไม่อยู่สุขแบบนี้ หล่อนก็ยิ่งร้อนฉ่าราวกับจับไข้สูง“ทูนหัว... อวบใหญ่ไปทั้งตัวเลย... อืมมม”มือใหญ่ทั้งขยำทั้งบีบเต้านมอย่างเมามัน ก่อนจะฉีกทึ้งเสื้อผ้าที่หล่อนสวมอยู่จนกระเด็นหวือลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้นห้อง ส่วนกายสาวก็ล่อนจ้อน
ในที่สุดช่วงเวลาที่น่าหวาดหวั่นก็เดินทางมาถึงจนได้ อเล็กซิสพาหล่อนกับปิ่นงามกลับมายังบ้านของเขา เพื่อที่จะได้พบเจอกับเจสสิก้ามารดาของเขานั่นเองเขาบอกกับหล่อนว่าได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้มารดาและบิดาฟังหมดแล้ว ซึ่งตอนนี้มารดาของเขาก็ต้องการที่จะพบหล่อนกับปิ่นงาม“มือเย็นเชียว ไม่มีอะไรหรอก เชื่อฉันสิ” คนตัวโตเอื้อมมือมากุมมือเล็กเอาไว้ และก็บีบให้กำลังใจ“ค่ะ... เตย... เชื่อคุณอเล็กค่ะ”อเล็กซิสระบายยิ้มหวาน เขาย่อตัวลงวางปิ่นงามให้ลงยืนกับพื้นห้อง เมื่อพาหล่อนกับลูกสาวเข้ามาในห้องรับแขกหรูแล้ว หล่อนเห็นเจสสิก้านั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว จับจ้องมองมาที่หล่อนและปิ่นงามไม่วางตาสมัยตอนที่หล่อนอยู่ที่บ้านของปิยนุช ก็มีโอกาสได้เจอะเจอกับเจสสิก้าหลายครั้ง แต่ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดมาก่อน“สวัสดีค่ะคุณเจสสิก้า”หล่อนยกมือไหว้สตรีสูงวัยที่ยังสวยไม่สร่างตรงหน้าด้วยความนอบน้อม ก่อนจะหันไปบอกลูกสาวให้ยกมือไหว้เช่นกัน ซึ่งปิ่นงามก็ทำตามอย่างว่านอนสอนง่าย เรียกรอยยิ้มเอ็นดูของเจสสิก้าได้อย่างมากมายเลยทีเดียว“หลานย่า... มาให้ย่ากอดหน่อยลูก”ปิ่นงามมองหน้าหล่อนเล็กน้อยราวกับขอความเห็น และเมื่อหล่อนพยักหน้าอน
หลังจากที่หล่อนบอกความจริงกับยายฟองจันทร์และตาคำสาย ทั้งสองตายายก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นตกใจ ก่อนที่ยายฟองจันทร์จะพูดออกมา“ยายว่าแล้วเชียวว่ามันต้องมีอะไรในกอไผ่”“ทำไมแกพูดอย่างนั้นล่ะยายฟองจันทร์ หรือว่าแกเดาออกว่าคุณอเล็กกับหนูเตยเป็น...” ตาคำสายเอ่ยถามภรรยายังไม่ทันจบก็ถูกแทรกขึ้นเสียก่อน “ก็แกไม่เห็นสายตาที่คุณอเล็กมองหนูเตยในงานศพคุณเจนหรือไงล่ะ มองตาเชื่อมจนมดกัดแบบนั้น แล้วยังที่บุกมาถามวันเดือนปีเกิดของน้องปิ่นอีก”ตาคำสายผงกศีรษะรับหงึกๆ ก่อนจะหันไปถามอเล็กซิสที่ยืนอุ้มปิ่นงามเอาไว้ในอ้อมแขน“นี่ถ้าผมเป็นคุณอเล็กนะ ผมคงไม่ยอมปล่อยให้เมียหนีไปนานถึงสี่ปีหรอกครับ แค่สี่วันผมก็อกจะแตกตายอยู่แล้ว”อเล็กซิสอมยิ้ม ทอดสายตามองเตยหอมที่ยืนหน้าแดงระเรื่ออยู่ข้างกาย“ใครว่าผมยอมปล่อยกันล่ะครับ หนูเตยของคุณตาคุณยายหนีไปต่างหาก ผมตามหาแทบพลิกแผ่นดินก็ไม่เจอ จนเกือบถอดใจอยู่แล้วล่ะครับ”“ที่เตยหนีไปก็เพราะเตยจำเป็น คุณอเล็กก็รู้นี่คะ ยังมาว่าเตยอีก” สาวน้อยอ้อมแอ้มตัดพ้อสามีเสียงอ่อยอเล็กซิสมองภรรยาด้วยความเอ็นดูก่อนจะก้มหน้าลงมาจูบแก้มแดงๆ โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย สองตายายเห็นเข้าก็อมยิ้มฟิ
“ใครว่าล่ะ เธอทั้งสวยทั้งหวานต่างหาก”“เตย...”“ฉันก็บอกเธอตลอดนี่ว่าเธอน่ะหอมหวานแค่ไหน ตอนที่เรา...”อเล็กซิสอมยิ้มและเว้นวรรคเอาไว้ แต่หล่อนก็เข้าใจความหมายได้เป็นอย่างดีหล่อนเสหลบสายตาด้วยความเอียงอาย โดยมีคนตัวโตพรมจูบไปทั่วทั้งใบหน้า“ความจริง ฉันไม่ได้คิดจะบอกความในใจกับเธอตรงนี้หรอกนะ”“คะ?”“ฉันเตรียมสถานที่เอาไว้แล้ว แต่ก็พลาด บอกเธอออกมาเสียก่อน”มือเล็กไต่ไปมาอยู่บนหน้าอกกว้าง หัวใจของหล่อนพองฟูจนคับทรวงอก“เอาไว้บอกอีกครั้งก็ได้ค่ะ เตย... ชอบฟัง...”“ขี้โกงนี่นา”“ทำไมว่าเตยขี้โกงล่ะคะ” หล่อนช้อนตามองอเล็กซิส และก็อมยิ้มหวานฉ่ำ“ก็เธอให้ฉันบอกความในใจอยู่เดียว ส่วนเธอไม่พูดอะไรออกมาเลย”“เตย...”“ถึงแม้ว่าฉันจะรู้อยู่แล้วว่ายังไงซะ เธอก็ต้องรักฉัน แต่ฉันก็อยากฟังเป็นคำพูดเหมือนกันนะ”หล่อนหัวเราะออกมา สองแก้มนวลร้อนผ่าวด้วยความขัดเขินเอียงอาย“ใครว่าเตยรักคุณอเล็กกันล่ะคะ” หล่อนแสร้งดิ้นขลุกขลัก จะหนีออกจากอ้อมแขนกำยำ แต่อเล็กซิสไม่ยอมปล่อย“ก็ฉันหล่อขนาดนี้ เธอไม่รักก็บ้าไปแล้วล่ะ”“แหวะ คนหลงตัวเอง อุ๊ยยย...” หล่อนย่นจมูกใส่เขา และก็ถูกจูบปากเป็นการลงโทษทันควัน“แล้วสร
บ้าจริง เมื่อคืนหล่อนยอมให้อเล็กซิสทำแบบนั้นที่ผนังห้องได้ยังไงกันนะ!เตยหอมเต็มไปด้วยความรู้สึกอับอาย เมื่อมองไปยังผนังห้องพักที่เมื่อคืนตนเองกับอเล็กซิสใช้เป็นที่ระเบิดความใคร่ใส่กัน พวงแก้มนวลแดงระเรื่อ กายสาวก็ร้อนวูบวาบจนน่าอับอายหญิงสาวรูดซิปกระเป๋าเดินทางจนสุด เมื่อเก็บเสื้อผ้าของตัวเองกับลูกสาวเข้าไปภายในนั้นครบทั้งหมดแล้วช่างมันเถอะ อย่างน้อยๆ หล่อนก็จะได้จดจำความสุขยามที่ได้อยู่ในอ้อมแขนของอเล็กซิสเอาไว้หล่อเลี้ยงหัวใจ หล่อนคงมีความสุขมาก เวลาคิดถึงสัมผัสของเขาแม้จะพยายามฝืนยิ้มออกมา แต่หัวใจก็ยังคงเจ็บปวดทรมานจนเลือดทะลักเตยหอมกัดฟันลุกขึ้นจากพื้น มองร่างของลูกสาวที่ยังคงนอนหลับปุ๋ยบนเตียงด้วยความรัก ก่อนจะเดินตรงไปยังประตูห้อง แต่ยังไม่ทันถึงเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเสียก่อน หล่อนคิดว่าเป็นยายฟองจันทร์ หรือไม่ก็ตาคำสาย จึงรีบเปิดออกโดยไม่ทันได้เอ่ยถาม“คุณ... อเล็ก...”แต่พอเปิดประตูออกแล้วก็ต้องตกใจระคนแปลกใจ เมื่อเห็นอเล็กซิสผู้ชายเจ้าของบั้นเอวคลั่งยืนกอดอกอยู่ตรงหน้า พวงแก้มนวลแดงก่ำ เลือดสาวร้อนฉ่า เมื่อสบตากับดวงตาสีฟ้าสดสวย"เอ่อ... คุณมีธุระอะไรกับเตยเหรอคะ”“ฉัน
ความอึดอัดจนน่าคลุ้มคลั่งบนรถสปอร์ตหรูจบสิ้นลงเมื่ออเล็กซิสวางร่างหลับปุ๋ยของปิ่นงามลงบนเตียง ทุกกิริยาของเขาที่ปฏิบัติกับปิ่นงามช่างอ่อนโยนจนหล่อนแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่“ขะ... ขอบคุณมากค่ะที่อุตส่าห์สละเวลามาส่งเราสองแม่ลูก”หล่อนพูดขึ้น เมื่อเขาเดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อนที่ยืนขาสั่นอยู่กลางห้องพักใบหน้าของอเล็กซิสหล่อเหลา และก็มีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ หล่อนก้มหน้างุดลงมองพื้น พร้อมกับภาวนาให้ตัวเองสามารถข่มความโหยหาเอาไว้ได้จวบจนกระทั่งเขาจากไป“ด้วยความยินดี”“เอ่อ... เตย... ออกไปส่งที่รถค่ะ อ๊ะ...”หล่อนกำลังจะหมุนตัวเดินไปที่ประตูห้อง แต่เอวคอดถูกมือใหญ่คว้าเอาไว้ พร้อมกับรั้งร่างอวบอัดเข้าไปปะทะแผ่นอกกว้าง“ปะ... ปล่อยเตยค่ะ”“ชูว์... อย่าส่งเสียงดังเชียวนะ เพราะจะรบกวนเวลานอนของลูก เข้าใจไหม”หล่อนหน้าซีดเผือดสลับแดงก่ำ เลื่อนสายตาไปมองลูกสาวที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงแล้ว ก็จำต้องกัดปากแน่นเพื่อไม่ให้เสียงใดเล็ดลอดออกมา“เก่งมากเด็กดี...”“อื้อ... อย่าค่ะ”มือใหญ่ยกขึ้นลูบใบหน้านวล หล่อนพยายามเอียงหน้าหนีแต่เขาก็ยอมให้ทำได้ สุดท้ายมือของอเล็กซิสก็สอดรองเอาไว้ใต้ท้ายทอย นิ้วแกร่ง