รถยนต์หยุดจอดลงหน้าหอพักนักศึกษาหญิงแห่งหนึ่งซึ่งห่างจากมหาวิทยาลัยไม่ไกลมากเท่าไหร่ เตชินท์มองคนข้างตัวที่นั่งนิ่งเงียบตลอดทาง
‘มีอะไรหรือเปล่า’หญิงสาวส่ายหน้าเป็นคำตอบก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูทว่ากลับเปิดไม่ออก เธอหันมามองด้วยแววตาที่ตกใจแต่นัยแฝงไปด้วยความเศร้า‘เราต้องคุยกันก่อนนะ’ เตชินท์เอื้อมมือไปจับที่ข้อมือ แต่หญิงสาวกลับขัดขืนพลางหลบหลีกสายตาของเขา‘มีอะไรล่ะ ดาไม่ว่างหรอกนะ’ วรรณรดารีบถามเขาทันที‘ทำไมต้องหลบตาด้วย ดามีแฟนแล้วใช่ไหมถึงรู้สึกอึดอัด’ ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นพลางมองหญิงสาวอย่างรอคำตอบ‘ไม่มี’ จะให้เธอบอกเขายังงั้นเหรอ แล้วถ้าเขาไม่คิดกับเธอมากกว่าเพื่อนล่ะ เธอยังไม่อยากเสียเขาไป แค่เป็นเพื่อนแบบนี้ต่อไป...ยังดีซะกว่า‘ถ้าไม่มีก็มองสิ ทำไมต้องหลบหน้าด้วย’ เขาถามก่อนจะเชยคางของหญิงสาวขึ้นสบตา‘ไม่ได้หลบ เลิกคิดเอาเองได้แล้ว’ เธอใช้มืออีกข้างจับมือเขาออก‘อย่าโกหก มีเรื่องอะไรกันแน่ แล้วทำไมต้อง...’‘พอสักทีคำว่าความสุขได้ผ่านพ้นไป เนิ่นนานจนชายหนุ่มเจ้าสำราญอย่าง เตชินท์ไม่เคยได้สัมผัสอีกครั้ง หลังจากเรียนจบเมื่อหลายเดือนก่อนเขาไม่ได้เจอวรรณรดาอีกเลย นี่ก็ผ่านมาเกือบปีเเล้ว...ทำไมเขายังลืมไม่ได้ เขาเองไม่ใช่เหรอที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทุกอย่างไม่มีใครสักคนที่เขาคิดจะจริงจัง เพียงเเค่ผ่านมาเเละผ่านไป ความสัมพันธ์ทางกายไม่ได้ผูกหัวใจเขาเเละผู้หญิงที่เคยนอนด้วยหลาย ๆ คนเอาไว้เเม้เเต่น้อยเตชินท์นั่งอยู่ภายในสตูดิโอของสถานีแห่งหนึ่ง เขาทำงานที่นี่มาเกือบร่วมสี่เดือนเเล้วหลังจากที่พักฟื้นหัวใจมานานเเสงอาทิตย์ค่อย ๆ ลับขอบฟ้า สายตาคมมองออกไปนอกหน้าต่างจากตึกสูงในใจกลางเมือง เสียงถอนหายใจอย่างหนักดังออกมาเป็นระยะ ๆ ก่อนที่จะเดินกลับมานั่งที่โซฟาขนาดใหญ่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาได้จังหวะพอดีกลับที่มีสายเข้ามา ชายหนุ่มมองเบอร์ปลายสายด้วยความชั่งใจก่อนจะตัดสินใจกดรับ‘ครับเมย์’ เขาขานรับ[เตคะ คุณอยู่ไหน]‘สตูดิโอครับ’ เขาตอบเมธาวีผู้หญิงที่เขาควงด้วยอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่ในฐานะเเฟนหรือคนรักเเบบเปิดเผยเเละเขาก็ไม่คิดจะเกินเลยมากกว่าคำว่า คู่ควง
วันหยุดสุดสัปดาห์ที่เเทนไทเฝ้ารอก็มาถึง ทั้งที่ปกติก่อนหน้าเเต่งงานเเทบไม่อยากจะให้ถึงวันหยุดที่เเสนจะน่าเบื่อเลยสักนิดเดียว ก็จะให้เบื่อได้ยังไง วันนี้เขาจะไปฮันนีมูนกับภรรยา ถึงแม้อาจจะดูกะทันหันไปสักหน่อยก็ตามณัฐกฤตาเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเดรสรัดรูปสีหวาน สองเท้าก้าวตรงมาที่โต๊ะเครื่องแป้งพลางชำเลืองมองชายหนุ่มที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่“คุณเเต่งตัวเเบบนี้อีกเเล้ว” เเทนไทพูดพร้อมเดินเข้ามาหา“ยังไงคะ” เธอหันไปถามชายหนุ่มพร้อมกับหยิบหวีขึ้นสางผม“ผมไม่ชอบเลย” เเทนไทขยับมาประชิดตัว เอื้อมมือขึ้นลูบที่เเก้มของเธอ ณัฐกฤตาเบี่ยงตัวหลบ พลางถอนหายใจอย่างไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่“เปลี่ยนเถอะ คุณเเต่งตัวเเบบนี้ผมไม่อยากออกไปข้างนอกเลยนะ”ดวงตากลมกลอกมองอย่างชั่งใจ เธอเดินกลับไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกครั้งแล้วหยิบเลือกชุดใหม่ออกมาแล้วไปที่ห้องน้ำ ไม่นานนักประตูก็ถูกเปิดออก เเทนไทมองไปที่ภรรยาสาวในชุดเดรสสีหวาน ถึงจะไม่มิดชิดมากเท่าไหร่เเต่ก็ยังดีกว่าชุดเมื่อกี้“ถ้าไม่ผ่านอีกฉันไม่ไปเเล้วนะคะ” ณัฐกฤตาเ
เป็นเวลานานเกือบสามชั่วโมงหลังจากเดินเล่นถ่ายรูปไปทั่วชายหาด แสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าลง ชายหนุ่มและหญิงสาวกลับมาที่บ้านก่อนจะเปลี่ยนชุดแล้วเดินดูสนามหญ้านอกบ้านที่ถูกจัดแต่งไว้อย่างสวยงามหรูหราแสงเทียนอโรม่าถูกวางเป็นจุด ๆ กลิ่นอายหอมทำให้สูดแล้วดูผ่อนคลายได้ไม่น้อย ณัฐกฤตามองไปยังที่สนามด้วยความตกตะลึงและแปลกใจก่อนหันไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยใบหน้าแผ่วร้อนอาหารมื้อค่ำสุดโรแมนติกที่แทนไทตั้งใจเตรียมไว้ให้ภรรยาในค่ำคืนนี้ ซึ่งเขาใช้เวลาที่เดินแยกจากหญิงสาวในช่วงบ่ายเพื่อมาจัดและดูให้เรียบร้อย“คุณไม่เห็นบอกฉันเลยนี่คะว่าจะจัดอาหารมื้อค่ำที่นี่” เธอหันไปถามชายหนุ่มที่ยืนยิ้มละมุนเปี่ยมไปด้วยความสุข“ถ้าบอกจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์หรือครับ” แทนไทพูดขึ้น“คุณชอบไหม ?”“ชอบค่ะ ขอบคุณนะคะ” เธอพูดเบา ๆ ซึ่งคนได้ยินหัวใจก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ เพียงแค่เธอพูดสั้น ๆ เขาก็รู้สึกอิ่มเอมไปทั้งใจ“มาครับที่รัก” แทนไทจับมือของณัฐกฤตาเดินเข้าไปที่โต๊ะอาหาร ฝ่ามือใหญ่กุมมือของเธอไว้แน่น หญิงสาวม
“แค่นี้บอกหนัก ทีผม...” แทนไทกระซิบเสียงเบาที่ข้างใบหูของหญิงสาว “อยู่บนตัวคุณ คุณไม่เห็นบอกว่าหนักเลย”“คุณแทน คนลามก !” ดวงตากลมมองเขาด้วยความขุ่นเคือง แก้มเนียนผ่าวร้อนแดงก่ำเป็นสีลูกพีช เธอจับแขนเขาสะบัดออกอย่างแรงก่อนจะเดินออกจากบ้านพักไปโดยไม่หันกลับมามองชายหนุ่มที่ยืนอมยิ้มอย่างขบขันแทนไทส่ายหน้าหัวเราะก่อนจะเดินตามออกไป เขามองแผ่นหลังเธอที่ค่อย ๆ ออกห่างไปเรื่อย ๆ สองเท้าก้าวฉับไวเพื่อที่จะตามให้ทัน“ที่รักจะรีบไปไหน แค่ผมเดินตามคุณก็เหนื่อยแล้ว” ชายหนุ่มพูดเสียงหอบพลางมองหญิงสาวที่เชิดหน้าไม่สบตากับเขาแม้แต่น้อย“อย่าเข้ามานะ คุณมีแต่ความคิดสกปรกทั้งนั้นเลย !” ณัฐกฤตาเดินถอยหลังออกห่าง ทว่าแทนไทค่อยๆ เดินเข้าไปหาหญิงสาวอย่างช้าๆ“ผมไม่ได้ลามกสักหน่อย”เขาเอ่ยขึ้นพลางมองหน้าภรรยาสาวที่ยังคงแดงก่ำอยู่“ออกไปเลยนะ” ณัฐกฤตาพูดพร้อมหันตัววิ่งหนีจากชายหนุ่มเธอกำลังโกรธเขาและอายเขา แล้วจะตามเธอมาทำไมเล่า !แทนไทมองณัฐกฤตาที่วิ่งเร็วออกห่างไปเรื่อย ๆ เข
“ไปครับ เดี๋ยวผมอุ้มคุณไปนอนพักที่ห้อง” เขาพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน แต่คนที่กำลังถูกอุ้มนั้นหันมามองด้วยแววตาตกใจ“ไม่ต้องเลยค่ะ ฉันเดินเองได้” หญิงสาวรีบปฏิเสธขึ้นทันทีพลางขยับตัวลุกขึ้นแต่ทว่าขาของเธอนั้นยังไม่มีแรงมากพอที่จะทรงตัวยืนเองได้ตามปกติ ณัฐกฤตาจึงเซล้มลงที่โซฟาอีกครั้งทว่าเขากลับเข้ามาช่วยรั้งเธอไว้นัยน์ตาคมจ้องมองหญิงสาวแบบใกล้ ๆ พลางยิ้มออกมาที่มุมปากก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นดุเข้ม“เห็นไหม ยังไม่หายดียังจะอวดเก่งอีก”“ก็คุณชอบ...”“ผมบอกแล้วไงว่าไม่รังแกคนเจ็บ แต่ถ้าไม่เชื่ออีกผมจะจูบคุณจริง ๆแล้วนะ” แทนไทพูดขู่“คนบ้า !”“ตกลงจะให้ผมอุ้มหรือจะให้ผมจูบคุณดีครับ”ดูเหมือนจะเป็นข้อเสนอที่เธอไม่อยากจะได้ทั้งนั้นเลย ณัฐกฤตามองชายหนุ่มด้วยสายตาที่ลังเลพลางคิดหนักอุ้มหรือจูบ“ที่รักคุณคิดนานเกินไปนะ เดี๋ยวผมเลือกให้เองดีไหม ?”“อุ้ม” เธอตอบพึมพำเบา ๆ“อะไรนะครับ ผมไม่ได้ยินเลย” แทนไทแกล้งทวนคำ
“แล้วนี่หายาทาไปบ้างยัง ?” นิตยลัภย์ถามด้วยความเป็นห่วง“แค่ประคบด้วยน้ำแข็งครับ”“ไป ๆ รีบเข้าบ้านกัน ยืนแบบนี้เดี๋ยวยิ่งเจ็บมากขึ้นอีก” ว่าแล้ว นิตยลัภย์ก็เดินเข้ามาช่วยประคองลูกสะใภ้เดินขึ้นบันไดเข้าไปในบ้านแทนไทพยุงภรรยาเดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับแม่ ก่อนจะนั่งลงที่โซฟา นิตยลัภย์เดินมานั่งที่โซฟาอีกตัวข้างลูกชาย ชายหนุ่มจึงหันไปมองมารดาที่มีหน้าเคร่งเครียด และเต็มไปด้วยคำถามมากมาย“ดูคุณแม่มีเรื่องที่จะถามผมเยอะนะครับ” แทนไทเอ่ยถามขึ้น“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร”“มีอะไรก็บอกผมเถอะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“มีอะไรหรือเปล่าคะ ?” ณัฐกฤตาเอ่ยถามขึ้นบ้างหลังจากที่สังเกตเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของแม่สามี“พักนี้ตาเตมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” นิตยลัภย์พูดด้วยน้ำเสียงกังวล“ทำไมเหรอครับ ?”“ก็พักนี้ตาเตดูแปลกไป ถึงจะเที่ยวผู้หญิงจะไปดื่มมา แต่ครั้งนี้...”“ดูเหมือนคนอกหักใช่ไหมคะ” ณัฐกฤตาตอบขึ้นแทน
“เตรู้ว่าสายไป แต่ถ้ามันทำให้ดาต้องเสียใจเพราะกลับมาคบกับเตอีกครั้ง...” เตชินท์สูดหายใจเข้าลึก ๆ มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาที่เศร้าโศก “เตจะไม่ขอมายุ่งวุ่นวายกับดาอีก เตจะออกไปจากชีวิตของดา”เพียะ !ฝ่ามือเรียวฟาดลงไปที่แก้มของชายหนุ่มอย่างแรง แววตาของเธอมองเขาด้วยความโกรธ อยากจะไปจากชีวิตเธอแล้วกลับมาขอเธอคบอีกทำไม !“กลับมาทำไมล่ะ ถ้ากลับมาแล้วจะจากฉันไปแบบนี้ คนใจร้าย !” หญิงสาวตวาดใส่ชายหนุ่มทั้งน้ำตา เตชินท์ได้แต่ยืนนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูกเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกมืดแปดด้านจนหาทางออกไม่ได้“ถ้านั่นเป็นความต้องการของดาเตจะไป...”“เป็นเพราะนาย...” วรรณรดาพูดเสียงสั่น “ทำไมฉันถึงไม่ลืมนายสักทีทำไมล่ะ...ทั้งที่นายเองก็ไม่เคยรักฉันเลยสักนิด !”“ดา...”“ฉันกลัว...” หญิงสาวเอ่ยขึ้นพลางสูดหายใจเข้าและยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าของตัวเอง “กลัวว่านายจะทิ้งฉัน กลัวว่านายจะทำเหมือนเมื่อก่อน...”“ดา...เราลองมาคบดูใจกันก่อนได้ไหม ถ้าดายังไม
“เป็นอะไรไปยัยแพงดูร้องเข้า แม่ตกใจหมด”“แพงก็แค่ตกใจค่ะ” พาลินตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพลางก้มหน้าหลบสายตา แทนไทพี่ชายที่เธอหลงรักเขาแต่งงานแล้วหรือนี่ ?“แล้วนี่แต่งกันตอนไหนล่ะ ไม่เห็นโทรมาบอกบ้างเลยนะ”“แต่งกะทันหันเพราะมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ แต่ตอนนี้เห็นเจ้าแทนติดหนูขวัญงอมแงมเลยนะ ฉันกำลังรอหลานอยู่นี่แหละ” นิตยลัภย์พูดด้วยน้ำเสียงดีใจ จนพาลินถึงกับตัวสั่นสะท้านออกมาเพราะว่าทนฟังต่อไปไม่ได้“คุณแม่คะ เดี๋ยวแพงออกไปข้างนอกหน่อยนะคะ พอดีนึกขึ้นได้ว่านัดเพื่อนเก่าเอาไว้ค่ะ” พาลินพูดปดเพราะทนฟังต่อไปไม่ได้“อย่ากลับมาดึกนักล่ะ” กรพรรณพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง“ค่ะ” หญิงสาวขานรับสั้น ๆ พร้อมลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับแขกไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เธอน่าจะกลับมาหาเขาตั้งนานแล้ว ไม่คิดว่าพี่แทนไทผู้ชายแสนดีที่ไม่เคยชายตามองผู้หญิงคนไหนจะแต่งงานไปแล้ว“แล้วเตชินท์ล่ะเป็นยังไงบ้าง” เสียงของกรพรรณเอ่ยถามดังเล็ดลอดออกจากห้องรับแขกจนถึงหูของพาลินที่กำลังเดินออกไปแต่ทว่าเธ
หลังจากที่กลับมาในตอนหัวค่ำพาลินก็เอาแต่นิ่งเงียบ ภาพที่ปีเตอร์เดินควงกับหญิงสาวสวยคนนั้นกลับผุดขึ้นมาในหัวครั้งแล้วครั้งเล่า พาลินนั่งขดตัวอยู่บนโซฟา มือทั้งสองข้างกุมไหล่ที่เหน็บหนาวเอาไว้ เธอไม่ควรจะคิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป เพราะไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อย ไม่ว่าเขาจะทำอะไรจะไปกับใครก็ตามแต่...“บ้า! บ้าที่สุด” เธอพึมพำกับตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ชินเพราะปกติแล้วเขาไม่เคยเดินไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนอื่นยกเว้นกับเธอ ความรู้สึกนี้เหมือนกับตอนที่พี่แทนรักคุณขวัญ จนไม่สนใจเธอ เจ็บ!เธอเกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุดเสียงออดดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง พาลินสะดุ้งจากภวังค์พร้อมกับมองไปที่ประตู หญิงสาวลุกขึ้นเดินไปที่ประตูก่อนจะมองว่าเป็นใคร มือนั้นลังเลใจที่จะเปิด สุดท้ายแล้วก็เปิดและมองหน้าเขาที่ยิ้มให้กับเธอ“ยังไม่นอนใช่ไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้น พาลินส่ายหน้าเป็นคำตอบ“เข้าไปข้างในได้ไหม?”“อืม” เธอหลีกทางให้เขาเดินเข้ามาในห้องก่อนที่จะปิดประตูลงพาลินสบสายตามองแววตาคู่ที่อบอุ่น หัวใจ ของเธอระทวยลงเมื่อเห็นเขามองแบ
“ไปหาเจฟน่ะ เขาชวนฉันไปเดินเที่ยว”“งั้นเหรอ” เขาขานรับแบบไม่พอใจ แต่ก็ไม่อยากไปขัดขวางจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วพูดว่า “งั้นผมกลับก่อน เที่ยวให้สนุกล่ะ” ขณะที่พาลินเดินเข้าไปในห้องนอนทำนองว่า เธอฟังแต่ไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่ชายหนุ่มหัวเราะให้ตนเองอย่างสมเพช ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้...“คุณดูไม่มีความสุขนะเวลาที่อยู่กับผม” เจฟพูดขึ้น เพราะตั้งแต่เดินซื้อของก็ไม่เห็นเธอปริปากพูดสักคำ มีเพียงแค่เขาถามและเธอตอบเท่านั้น“เปล่าสักหน่อย แค่รู้สึกไม่สบาย” พาลินโกหก“งั้นเหรอ ให้ผมไปส่งดีไหม”หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอก”“งั้นก็แล้วแต่นะ ถ้ามีเรื่องอะไรอยากให้ผมช่วยบอกได้นะ ยินดีเสมอ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับยิ้มให้“ขอบคุณนะ”เจฟ คือเพื่อนที่เรียนอยู่มหา’ ลัยเดียวกับเธอแต่คนละสาขาวิชา เธอรู้มาตลอดว่าตั้งแต่เรียนอยู่หลายครั้งที่ชายหนุ่มแสดงออกกับความรู้สึกที่มีต่อเธอ...ทว่าคงเป็นไปไม่ได้“โอ้นั่น! ปีเตอร์นี่มากับสาว
“ตอนนั้นโกรธค่ะ โกรธมากด้วยแต่ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ เพราะฉันก็มีส่วนที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้”“ไม่หรอกครับ ผมต่างหาก ถ้าผมไม่คิดจะทำร้ายคุณผมคงไม่ต้องมาทรมานอยู่แบบนี้ คุณเป็นผู้หญิงที่ดี ผมดีใจที่คุณแทนรักคุณ” วศินพูดพร้อมกับยิ้มให้หญิงสาวสำหรับเขาแล้วความรักของเขาคงจะเป็นเพียงได้แค่การมองดูและแอบชอบต่อไป ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็จะไม่เคยลืม เพราะว่ารักไม่จำเป็นต้องได้อยู่ด้วยกัน สำหรับเขาขอแค่มองห่าง ๆ ต่อไปก็พอ…แทนไทเดินออกจากห้องน้ำพร้อมส่งสายตามองภรรยาที่นอนดูทีวีอยู่บนเตียงก็อดที่จะยิ้มขำออกมาไม่ได้ สองเท้าก้าวย่างเข้าไปหาแล้วนั่งลงที่ปลายเตียงก่อนขยับเข้าไปหาอย่างช้าๆชายหนุ่มหันไปมองซีรีส์เกาหลีที่ภรรยาสาวกำลังดูอยู่นั้น คู่พระนางกำลังกอดกันอย่างหวานซึ้ง ก่อนหันมามองหญิงสาวที่กำลังจิกหมอนดูเพลินพลางหัวเราะยิ้มเขิน ๆ ออกมา เขาเอื้อมมือไปหยิบรีโมตที่ข้างตัวเธอขึ้นมาพร้อมเลื่อนนิ้วไปที่ปุ่มสีแดงเพื่อกดปิดจอให้ดับลงทันทีที่จอภาพดับสนิทเป็นสีดำณัฐกฤตาหันมามองสามีด้วยความไม่พอใจ พลางเอื้อมมือไปเพื่อแย่งรีโมตคืน“เอาคืนฉันมาเล
“แพงไม่กล้าหรอกค่ะ...ในเมื่อพี่แทนพูดอยู่เสมอว่าแพงเป็นน้องสาวคนเดียวของเขา แม่คิดว่าแพงจะกล้าเหรอคะ แพงกลัว กลัวว่าพี่แทนเขาจะรังเกียจ กลัวว่าพี่แทนจะไม่คุยกับแพง...แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว เป็นเพราะแพงทำให้พี่แทนเกลียด แพงทำร้ายคุณขวัญ แพงเลวใช่ไหมคะคุณแม่”พาลินระบายความทุกข์ในใจออกมาให้ฟัง“ลูกผู้หญิงทุกคนก็อยากอยู่กับคนที่ตัวเองรัก แล้วลูกได้ไปพูดกับ ตาแทนหรือยัง เราควรที่จะพูดทำความเข้าใจนะ” กรพรรณพูดอย่างเห็นใจ“ไม่ดีกว่าค่ะ แพงไม่อยากทำให้พี่แทนเกลียดไปมากกว่านี้” เธอส่ายหน้าพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้า“แทนไม่เกลียดลูกหรอก เขาก็แค่โกรธที่ลูกทำร้ายเขา ถึงแม้จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจแต่เราก็ผิดนะแพง แม่ว่าควรไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง”“แพงคุยแล้วค่ะ แต่คงไม่มีประโยชน์ค่ะ”“แล้วเราจะหลบหน้าไม่คุยกับตาแทนไปทั้งชีวิตยังงั้นเหรอ แม่ว่ามันอึดอัดนะ” กรพรรณมองลูกสาวด้วยความห่วงใย“เป็นแบบนี้ดีแล้วค่ะ เพราะแพงเป็นคนก่อ แพงก็ต้องเป็นคนยอมรับผลที่แพงก่อ”พาลินยอมรับ
“คุณวศินตอนนี้เป็นอัมพาตครับ เพราะตอนกระแทกฝั่งคนขับถูกกระแทกเข้าอย่างแรงครับ”“เป็นเพราะฉันที่ทำให้...”“ไม่ใช่ความผิดคุณ แต่เป็นความผิดของวศินต่างหากละครับ ถ้าไม่คิดจะทำร้ายคุณคงไม่ต้องพบจุดจบแบบนี้หรอกครับ ดีนะที่ยังไม่พาคุณเข้าโรงแรมไม่ยังงั้นผมจะเป็นคนอัดคุณวศินเอง” แทนไทพูดตามความจริง เพราะถ้าวศินไม่คิดจะทำร้ายภรรยาเขาทุกอย่างก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้ เวรกรรมตามทันเร็วราวกับติดปีก ก็ต้องให้วศินรับกรรมที่ก่อไว้“แล้วทำไมถึงรู้ว่าคุณวศินจะพาฉันเข้าโรงแรมล่ะคะ ในเมื่อฉันก็ไม่ได้โทร. บอก หรือว่าคุณไปเยี่ยมเขามาแล้ว ?” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ“เปล่าครับ ผมไม่ได้ไปเยี่ยม แต่แพงเป็นคนบอกผม...เธอร่วมมือกับคุณวศิน” น้ำเสียงของแทนไทดูหมองเศร้าลงเมื่อพูดถึงพาลิน“คุณพาลิน ? เธอทำแบบนั้นทำไมคะ” ณัฐกฤตาเอ่ยขึ้น“แพงชอบผม เธอเลยทำแบบไม่ทันคิด”“แล้วคุณได้คุยกับคุณแพงหรือยังคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง สายตาคู่สวยมองชายหนุ่มที่ก้มหน้าลง เธอรู้ว่าเขาคิดกับพาลินเหมือ
สามวันแล้วที่ณัฐกฤตายังไม่ฟื้นขึ้นมา ทำให้แทนไทเริ่มเป็นห่วงว่าหญิงสาวจะเป็นอะไรไป เขาไม่ได้เข้าทำงานตลอดสามวัน เพราะว่าจิตใจตอนนี้ไม่อยู่กับงานเลยแม้แต่น้อย ส่วนวศินนั้นอาการสาหัสเพราะเป็นอัมพาตส่วนล่างโดยทั้งหมดเพราะถูกแรงกระแทกอย่างแรง จะกลับมาเดินได้ใหม่คงต้องใช้เวลาอีกสักปีหรือสองปีตามที่หมอบอกแทนไทเอื้อมมือไปลูบที่เส้นผมบางของภรรยาด้วยความรักแล้วความห่วง ส่งสายตามองหญิงสาวในยามหลับ เขาอยากจะให้เธอตื่นขึ้นมาคุย นี่ก็ผ่านมาแล้วสามวันช่างทรมานใจเขาเหลือเกิน คิดถึง...จนแทบปวดใจ“ที่รัก ตื่นขึ้นมานะครับ ผมคิดถึงคุณ” แทนไทพูดพร่ำพร้อมพรมจูบไปทั่วมือสวยของภรรยา“ได้เวลาเช็ดตัวคนไข้แล้วนะคะ”ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เมื่อพยาบาลเดินเข้ามาพร้อมกับถาดเช็ดตัวคนไข้แทนไทเดินออกจากห้อง ขณะที่พยาบาลเลื่อนผ้าม่านปิดล้อมเตียงไว้ เขาเดินออกมาตามทางเดินเรื่อย ๆ ก่อนหยุดเดินลงเมื่อเห็นพาลินเดินเข้ามาหา“พี่แทน”พาลินเรียกชายหนุ่มในสรรพนามที่เหมือนเดิม แต่แววตาที่เขามองแตกต่างออกไปอย่างชัดเจ
“ผมรักคุณแทน !”เพียงเท่านี้ก็ไขกระจ่างทุกเรื่องที่อยู่ในใจของหญิงสาวได้หมดคุณวศินเป็น…!“คะ...คุณ...”“ใช่ ! แต่ถ้าไม่เพราะคุณตกลงแต่งงานกับคุณแทนป่านนี้เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ ! ผมวางแผนเพื่อสร้างข่าวให้ผมและคุณแทนกลายเป็นคู่จิ้นในวงการบันเทิงแต่คุณก็ดันมาปิดข่าว และแต่งงานกับคุณแทน...”“แล้วจะจับฉันมาทำไม ทำไมไม่ไปหาคุณแทนล่ะ !”เหมือนจะเข้าใจว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่ทำไมไม่ไปบอกคุณแทนไทโดยตรง ทำไมต้องลากเธอเข้ามาเกี่ยวด้วย !“เพราะเมื่อวานไงล่ะที่คุณไปหาผม คุณรู้ไหมว่าคุณแทนตอบว่าอะไร !” วศินยังคงขับรถต่อไปทั้งที่สายตาของเขาสลับมองใบหน้าของณัฐกฤตา“คุณทำแบบนี้คุณแทนก็ไม่ได้หันมาชอบคุณหรอก เขาไม่ได้มีรสนิยมชอบเพศเดียวกันเหมือนกับคุณสักหน่อย”“ชอบไม่ชอบผมไม่สนแล้ว แต่นี้ผมสนแค่ว่าเขาจะเจ็บปวดยังไงบ้าง”“ฉันไม่อยากฟัง ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ !” หญิงสาวเอื้อมมือไปแย่งพวงมาลัยรถที่ชายหนุ่มบังคับอยู่ให้เขาหยุดจอดรถวศินใช้มือข้างซ้า
“เรื่องอะไรบอกพี่มาพาลิน !”“พี่แทนแพงเจ็บค่ะ ปล่อยแพงก่อน...” หญิงสาวยกมือขึ้นจับมือของเขาที่บีบไหล่เธออยู่ให้ปล่อยออก“บอกพี่มา ขวัญทำไม ?”“พี่แทนรับปากว่าจะไม่เกลียดแพง...”“บอกพี่มา” แทนไทกัดฟันพูด“คุณวศิน...เขาจะวางแผนข่มขืนคุณขวัญ...เลยให้แพงมาถ่วงเวลา...” เพียงแค่ได้ยินหัวใจของแทนไทก็ร้อนรนจนแทบทำอะไรไม่ถูก เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ดูแตกต่างไปจากเดิม“บอกมาว่าตอนนี้วศินอยู่ที่ไหน ! ถ้าขวัญเป็นอะไรไป พี่จะโทษแพงคนเดียว !” แทนไทพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม มองพาลินตรงหน้าด้วยแววตาโกรธเคือง“คุณวศินจะพาคุณขวัญไปที่โรงแรม...”ทันทีที่ได้ฟังจบแทนไทก็ผลักพาลินออกอย่างไม่แยแส เขาก้าวฉับไวเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เธอมองชายหนุ่มเดินจากไปทั้งน้ำตา“พี่แทน...แพงขอโทษ” พาลินพูด ขณะมองไปทางประตูพร้อมกับหยดน้ำตาที่เปรอะบนใบหน้าที่ทำไปเพราะรักพี่แทน...แต่แพงทำใจไม่ได้ที่ต้องเห็นพี่แทนเสียใจเกือบเที่ยงหลังจากที่ลูกค้านั้นออกจ
พาลินนั่งอยู่ภายในห้องคนเดียวตั้งแต่ที่กลับมา ในมือกดเปิดและปิดหน้าจอโทรศัพท์อยู่เป็นเวลานาน นั่นเพราะจิตใจสับสนวุ่นวายดูลังเล เบอร์ที่ขึ้นโชว์หน้าจอนั้นไม่ใช่ใครเลยแต่เป็นเบอร์ของวศินพระเอกหนุ่มชื่อดังนั่นเอง ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป ถ้าร่วมมือกับวศินแล้วแทนไทจะเกลียดเธอไหม ? พาลินนั่งอยู่นานจนกระทั่งตัดสินใจกดเบอร์ปลายสายนั้นโทรออก[ตัดสินใจได้แล้วหรือครับ]“ค่ะ คุณจะให้ฉันทำอะไรบ้าง” พาลินเอ่ยถามอีกฝ่ายขึ้นทันที[ก็แค่แยกคุณแทนออกจากคุณขวัญก็พอแล้ว]อีกฝ่ายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก แต่พาลินก็ยังไม่เข้าใจแผนการทั้งหมดของวศินอยู่ดีว่าเขาต้องการทำอะไร“ฉันยังไม่เข้าใจว่าคุณต้องการทำอะไร”[แค่ทำให้คุณขวัญมาเป็นของผม ทีนี้คุณเข้าใจหรือยัง ?]พาลินเริ่มแสดงสีหน้าลังเลและหวาดกลัวออกมา“ได้ แล้วจะให้ฉันแยกพี่แทนออกวันไหน” ในเมื่อเธอตัดสินใจไปแล้วคงจะย้อนกลับไม่ได้อีกต่อไป เธออยากให้เขารู้ว่าเธอยังสำคัญ ดีเหมือนกัน ถ้ารู้ว่าณัฐกฤตามีชู้ เขาคงจะเกลียดผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่นอน[พรุ่งนี้ได้ยิ่งดีเลย]&l