“เป็นอะไรไปยัยแพงดูร้องเข้า แม่ตกใจหมด”
“แพงก็แค่ตกใจค่ะ” พาลินตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพลางก้มหน้าหลบสายตา แทนไทพี่ชายที่เธอหลงรักเขาแต่งงานแล้วหรือนี่ ?“แล้วนี่แต่งกันตอนไหนล่ะ ไม่เห็นโทรมาบอกบ้างเลยนะ”“แต่งกะทันหันเพราะมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ แต่ตอนนี้เห็นเจ้าแทนติดหนูขวัญงอมแงมเลยนะ ฉันกำลังรอหลานอยู่นี่แหละ” นิตยลัภย์พูดด้วยน้ำเสียงดีใจ จนพาลินถึงกับตัวสั่นสะท้านออกมาเพราะว่าทนฟังต่อไปไม่ได้“คุณแม่คะ เดี๋ยวแพงออกไปข้างนอกหน่อยนะคะ พอดีนึกขึ้นได้ว่านัดเพื่อนเก่าเอาไว้ค่ะ” พาลินพูดปดเพราะทนฟังต่อไปไม่ได้“อย่ากลับมาดึกนักล่ะ” กรพรรณพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง“ค่ะ” หญิงสาวขานรับสั้น ๆ พร้อมลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับแขกไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เธอน่าจะกลับมาหาเขาตั้งนานแล้ว ไม่คิดว่าพี่แทนไทผู้ชายแสนดีที่ไม่เคยชายตามองผู้หญิงคนไหนจะแต่งงานไปแล้ว“แล้วเตชินท์ล่ะเป็นยังไงบ้าง” เสียงของกรพรรณเอ่ยถามดังเล็ดลอดออกจากห้องรับแขกจนถึงหูของพาลินที่กำลังเดินออกไปแต่ทว่าเธหญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดคลุมอาบน้ำซึ่งเป็นที่ตกใจและแปลกใจสำหรับแทนไท“ไม่ต้องจ้องฉันซะขนาดนั้นก็ได้ค่ะ” เธอพูดก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า“ผมก็แค่แปลกใจที่คุณ...”“ก็เมื่อกี้ยังไม่ได้เลือกไว้นี่คะ อีกอย่างฉันรอคุณเข้าไปอาบน้ำอยู่นะ” เธอพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปเปิดตู้เสื้อผ้า“ครับ ผมก็แค่สงสัยวันนี้คุณมาแปลกก็เท่านั้น”“ไม่แปลกหรอกค่ะ ปกติตอนเช้าคุณจะอาบน้ำก่อนฉันนี่คะ จะให้ฉันเปลี่ยนชุดโดยที่มีคุณอยู่ใครจะไปกล้ากันล่ะคะ”“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ถ้าคุณไม่กล้าไว้ผมจะออกมาเปลี่ยนชุดเป็นเพื่อนพร้อมกับคุณ ดีไหม ?” แทนไทถามด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ณัฐกฤตาจ้องมองด้วยสายตาขุ่นเคือง ทั้งที่จริงแล้วใบหน้าของเธอนั้นแดงก่ำด้วยความอายและโกรธ“ผมล้อเล่นน่า” เเทนไทก้าวเข้าไปใกล้“เเต่ฉันไม่เล่นด้วยนี่คะ คุณชอบพูดจาเเบบนี้ทุกที”“โอเคครับ ต่อไปนี้ผมจะไม่พูดจาลามกใส่ภรรยาสุดสวยอีก อย่างอนผมนะ” เขาพูดพร้อมก้าวเข้ามาหาเธอ ทว่าหญิงสาวกลับถอยหลังออกห
“แล้วจะไม่สั่งอะไรหรือยังไง เอาแต่จ้องหน้ากันอยู่นั่น” แทนไทเริ่มเอ่ยปากแซวน้องชายตัวเองบ้าง เตชินท์หันมาฉีกยิ้มให้พี่ชายของเขา“ดาอยากจะทานอะไรหรือเปล่า” เตชินท์เอ่ยถามขึ้นบ้าง“อะไรก็ได้ค่ะ” แทนที่วรรณรดาตอบ แต่เป็นณัฐกฤตาตอบแทน“ยัยขวัญ !” วรรณรดากัดฟันพูดมองหน้าเพื่อนด้วยความเขินอาย“ก็เห็นแกเขินอยู่ไงฉันเลยตอบแทนให้ จริงไหมคะคุณแทน” ว่าแล้วเธอก็หันไปทางชายหนุ่มเพื่อหาพวก สายตาจ้องมองเขาให้ตอบว่า…“จริงครับ” แทนไทตอบพร้อมกับยิ้มให้กับภรรยาสาวเตชินท์ได้แต่เหลือบมองพี่ชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่ ก่อนจะหันไปสั่งอาหารกับพนักงานหนุ่มพร้อมทั้งสั่งของหญิงสาวไปด้วย แต่สิ่งที่น่าแปลกใจสำหรับณัฐกฤตาคือเตชินท์รู้แม้กระทั่งเมนูโปรดที่เพื่อนของเธอชอบทาน“แล้วตกลงจะบอกได้หรือยังว่าไปคบกันรู้จักกันตอนไหน” ทันทีที่พนักงานหนุ่มเดินจากไปณัฐกฤตาก็เอ่ยถามขึ้นถึงประเด็นเดิม“เอ่อ...” วรรณรดาก้มหน้าไม่สบตามองคนบนโต๊ะเช่นเ
แสงไฟสลัว ๆ ที่เปิดไว้ภายในห้องรับแขก ณัฐกฤตากำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เรื่องราวที่ได้ฟังจนสับสนไม่เข้าใจเพราะว่าพยายามถามเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเตชินท์และวรรณรดาอยู่นั่นเอง แต่อีกฝ่ายก็พูดโน่นพูดนี่พยายามที่จะบ่ายเบี่ยงนานกว่าที่ณัฐกฤตาจะไล่ถามจนวรรณรดายอมปริปากเล่าเรื่องความสัมพันธ์กับเตชินท์ให้ฟัง เพียงแค่ฟังไม่ถึงห้านาทีแรกเธอก็ต้องร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ“ว่ายังไงนะ !”[อื้ม...ฉันเจอเขาที่นั่นแหละ] ปลายสายตอบรับมา ยิ่งทำให้ณัฐกฤตาแปลกใจขึ้นมาเรื่อย ๆ เพราะยังจำได้ว่าตอนที่จบมาใหม่ ๆ วรรณรดาเอ่ยถึงเรื่องแฟนที่เพิ่งเลิกกันได้ไม่นานให้ฟังแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร“ยังไงล่ะ เล่าต่อสิ”[หลังจากนั้นเตก็มารับฉันที่หน้าคณะบ่อย ๆ เพราะว่าเราเรียนอยู่ที่เดียวกันแต่คนละสาขาวิชาน่ะ...]“พรหมลิขิตชัด ๆ ยัยดา !” ณัฐกฤตาพูดขึ้นเสียงดัง[จะบ้าหรือไง ก็แค่ความบังเอิญเท่านั้นแหละ] อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง แต่คนฟังก็รับรู้ได้ถึงความเศร้าที่ฟังจากน้ำเสียง“แล้วแกคบกับเตนานหรือเปล่า”[ก็
หลังจากกลับมาประเทศไทย พาลินไม่ได้ออกไปไหนไกลยกเว้นแต่ห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ ในตัวเมืองก็เท่านั้น เธอไม่ได้อยู่มาหลายปีบางสิ่งนั้นก็ยังคงเดิมบางสิ่งนั้นก็ถูกเปลี่ยนแปลงใหม่จนจำไม่ได้ พาลินเดินอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าเพียงลำพัง สายตากวาดมองผู้คนที่ต่างเดินเข้าออกร้านจับจ่ายใช้สอย แต่เธอกลับไม่รู้สึกมีความสุขเลยสักนิดตั้งแต่กลับมาหากรู้ว่ากลับมาแล้วต้องมาพบกับข่าวการแต่งงานของแทนไทผู้ชายที่เธอแอบรักเธอจะไม่กลับมา สู้ไม่รู้เสียดีกว่า ยิ่งรับรู้ว่าเขารักภรรยามากแค่ไหนยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น หญิงสาวเดินไปตามทางด้วยใจที่เหม่อลอย แต่ทว่าต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าคมเข้มที่คุ้นเคยเดินเคียงข้างกับหญิงสาว ด้วยระยะสายตาที่ไกลจากอีกฝากแต่ก็ยังจำเขาได้ ต่อให้จะเห็นเพียงแค่เสี้ยวหน้าก็ตาม หัวใจดวงน้อย ๆ เต้นไม่เป็นจังหวะแค่เพียงได้เห็นใบหน้าของเขาแค่เสี้ยววินาที คำว่า ‘รัก’ ยังคงดังก้องในใจเพื่อรอวันที่จะบอกให้เขารู้ แต่คงไม่มีอีกแล้ว เพราะว่าเขามีเจ้าของไปแล้ว...พาลินไม่รีรอรีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว สายตาจ้องมองแผ่นหลังของเขาที่เดินออกห่างไปเรื่อย ๆ ผ
“คิดถึงเหมือนกันค่ะ เอ่อ...แล้วพี่ชายล่ะคะ”“รออยู่ที่ห้องรับแขกแล้วค่ะ เห็นว่าบ่นใหญ่เลยตั้งแต่รู้ว่าคุณหนูแต่งงานแล้วไม่ยอมบอก”แทนไทที่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ คิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความแปลกใจ“แล้วนี่ขวัญไม่ต้องโดนบ่นอีกหรือคะ”“นมว่าคุณหนูลองเข้าไปเองดีกว่าค่ะ”ณัฐกฤตาพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปข้างในโดยที่แทนไทเดินตามอย่างไม่ค่อยเข้าใจว่าเรื่องที่พูดกันนั้นคือเรื่องอะไร“คุณแม่ทำแบบนี้ได้ยังไงครับ ทำไมไม่โทรมาบอกผมสักคำ และนี่จับให้ขวัญแต่งงานกับผู้ชายที่มีข่าวอีก คุณพ่อคุณแม่คิดอะไรกันอยู่ครับ” เสียงเข้มของพี่ชายเล็ดลอดผ่านออกมาจากห้องรับแขก ทำให้ณัฐกฤตายืนมองโดยไม่กล้าเดินเข้าไป“นั่นไง ขวัญมาพอดีเลย” ทัสนันทน์ลุกขึ้นเดินเข้ามาหาลูกสาว“สวัสดีครับคุณแม่ คุณพ่อ” แทนไทกล่าวทักทายก่อนจะหันไปมอง ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ใบหน้าเรียวคม คิ้วหนาจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักรองรับเข้ากันอยู่ในชุดทำงานสูทเรียบร้อยไร้รอยยับยืนอยู่ตรงกลางห้องรับแขกหันมามองด้วยสีหน้าแววตาโกรธจัด
“เราสองคนทะเละกันน่ะ”เมื่อเขาพูดก็เนิ่นนานที่อีกฝ่ายนิ่งเงียบไป ก่อนจะยอมบอกที่อยู่ให้รู้“ขอบคุณ” เตชินท์กล่าวพร้อมกับตัดสายไปทันที รีบควักเงินจากกระเป๋าสตางค์จ่ายแล้วเดินออกไปจากผับอย่างรวดเร็ว ในใจชายหนุ่มตอนนี้ต้องการที่จะคุยกับหญิงสาวให้รู้เรื่องเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะปล่อยให้เธอเดินจากไปทางด้านวรรณรดานั่งอยู่ในห้องเพียงลำพังตั้งแต่กลับมาตอนเย็น ไม่ได้ออกหรือขยับไปไหนแม้แต่น้อย มีเพียงแค่ความเสียใจที่ล้อมรอบไว้ ทำไมหัวใจยังต้องการเรียกร้องหาเขาทั้งที่เธอเองไม่ใช่เหรอเป็นคนไล่เขาไป ...ไม่อยากเป็นผู้หญิงแค่หนึ่งในนั้นของเขา สุดท้ายแล้วก็ต้องโดนเขี่ยทิ้งอีกครั้ง“ทำไมล่ะ ทำไมถึงเลิกรักไม่ได้สักที” หญิงสาวนั่งกอดเข่าก้มมองรูปถ่ายคู่ที่เคยถ่ายด้วยกันครั้งเมื่อหลายปีก่อน ความทรงจำดี ๆ มากมายได้ไหลเข้ามาในหัว แม้เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เธอคบกับเขาแต่เธอกลับผูกพัน...เตชินท์ผู้ชายที่แสนดีคนนั้นหายไปไหนแล้วกริ๊ง ! กริ๊ง !เสียงออดดังรัวติดต่อกันหลายครั้งจนต้องลุกขึ้นเดินออกไปเพื่อดูผู้ที่มาหา สองมือยกขึ้นปาดน้ำตาบน
ภายในห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยสนุกสนานกันหลังจากอาหารมื้อเช้าเสร็จสิ้นไป พาลินได้แต่ยิ้มรับทุกครั้งที่แม่ของเธอและเจ้าบ้านอีกฝ่ายหัวเราะคุยเรื่องตลกกัน เบื่อที่ต้องนั่งฟังและยิ้มอยู่แบบนี้ สายตาคู่เหลือบขึ้นมองออกไปข้างนอกพอดีกับจังหวะที่แทนไทเดินเข้ามาในห้อง จนทำให้รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเห็นเขาเดินโอบกอดภรรยาเข้ามา“นั่นไงเจ้าแทนมาพอดีเลย” ธรรศพูดขึ้น ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างหันไปมองคู่รักหวานที่กำลังเดินเข้ามา พาลินได้แต่สูดหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมปั้นยิ้มให้ชายหนุ่ม“สวัสดีครับคุณน้า” เขากล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ กรพรรณรับไหว้พร้อมมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างแทนไท“ขวัญ...นี่คุณน้ากรพรรณเพื่อนสนิทของแม่ผม ส่วนนี่น้องพาลิน” แทนไทพูดแนะนำ ณัฐกฤตาพยักหน้ารับรู้ เธอยกมือขึ้นไหว้กรพรรณที่ยิ้มให้กับเธอ ก่อนจะหันไปหาพาลินพร้อมยิ้มทักทาย แต่เจ้าตัวยิ้มกลับมาให้เธอแบบไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่“มานั่งลงสิ”แทนไทยิ้มรับพร้อมกับโอบภรรยาสาวนั่งฝั่งตรงข้ามพาลิน“จริงสิแทน ตาเตไปไหนล่ะ”
“สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยทักขึ้น ทุกคนภายในห้องต่างหันไปมองเป็นตาเดียวเตชินท์เดินเข้ามาภายในห้องรับแขกพร้อมกับวรรณรดา“นี่หรือหนูดาเพื่อนของหนูขวัญ มาสิมานั่งก่อน” นิตยลัภย์เอ่ยขึ้นพร้อมสำรวจใบหน้าหวานของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความชอบใจ“แล้วนี่กินข้าวเช้ากันหรือยังล่ะ” นิตยลัภย์ถามด้วยความเป็นห่วง“กินแล้วครับ แฟนผมทำให้” ว่าแล้วก็หันไปยิ้มตาหวานให้หญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ จนแทนไทและณัฐกฤตาที่เรียกว่าหวานแล้วยังต้องหลบ“ออกตัวเชียวนะ” ณัฐกฤตาเอ่ยปากแซว“แล้วนี่ใครจะพาหนูแพงเดินชมบ้านล่ะ” เพียงแค่ได้ยินคำนี้ทั้งแทนไทและเตชินท์ถึงกับทำเป็นไม่รับรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น จนพาลินรู้สึกว่าตัวเธอกำลังถูกเมิน“เอ่อ...ให้แก้วใจละกันครับ” เตชินท์พูดอย่างไม่ใส่ใจมากนัก“พูดอะไรแบบนั้นน่ะ !” นิตยลัภย์ตวาดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ถึงแม้พอจะรู้ว่าลูกชายของเธอนั้นอาจจะไม่ชอบพาลินที่เคยเป็นแฟนเก่ามาก่อน“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณน้า แพงก็เคยมาที่บ้านตั้งหลาย
หลังจากที่กลับมาในตอนหัวค่ำพาลินก็เอาแต่นิ่งเงียบ ภาพที่ปีเตอร์เดินควงกับหญิงสาวสวยคนนั้นกลับผุดขึ้นมาในหัวครั้งแล้วครั้งเล่า พาลินนั่งขดตัวอยู่บนโซฟา มือทั้งสองข้างกุมไหล่ที่เหน็บหนาวเอาไว้ เธอไม่ควรจะคิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป เพราะไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อย ไม่ว่าเขาจะทำอะไรจะไปกับใครก็ตามแต่...“บ้า! บ้าที่สุด” เธอพึมพำกับตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ชินเพราะปกติแล้วเขาไม่เคยเดินไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนอื่นยกเว้นกับเธอ ความรู้สึกนี้เหมือนกับตอนที่พี่แทนรักคุณขวัญ จนไม่สนใจเธอ เจ็บ!เธอเกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุดเสียงออดดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง พาลินสะดุ้งจากภวังค์พร้อมกับมองไปที่ประตู หญิงสาวลุกขึ้นเดินไปที่ประตูก่อนจะมองว่าเป็นใคร มือนั้นลังเลใจที่จะเปิด สุดท้ายแล้วก็เปิดและมองหน้าเขาที่ยิ้มให้กับเธอ“ยังไม่นอนใช่ไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้น พาลินส่ายหน้าเป็นคำตอบ“เข้าไปข้างในได้ไหม?”“อืม” เธอหลีกทางให้เขาเดินเข้ามาในห้องก่อนที่จะปิดประตูลงพาลินสบสายตามองแววตาคู่ที่อบอุ่น หัวใจ ของเธอระทวยลงเมื่อเห็นเขามองแบ
“ไปหาเจฟน่ะ เขาชวนฉันไปเดินเที่ยว”“งั้นเหรอ” เขาขานรับแบบไม่พอใจ แต่ก็ไม่อยากไปขัดขวางจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วพูดว่า “งั้นผมกลับก่อน เที่ยวให้สนุกล่ะ” ขณะที่พาลินเดินเข้าไปในห้องนอนทำนองว่า เธอฟังแต่ไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่ชายหนุ่มหัวเราะให้ตนเองอย่างสมเพช ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้...“คุณดูไม่มีความสุขนะเวลาที่อยู่กับผม” เจฟพูดขึ้น เพราะตั้งแต่เดินซื้อของก็ไม่เห็นเธอปริปากพูดสักคำ มีเพียงแค่เขาถามและเธอตอบเท่านั้น“เปล่าสักหน่อย แค่รู้สึกไม่สบาย” พาลินโกหก“งั้นเหรอ ให้ผมไปส่งดีไหม”หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอก”“งั้นก็แล้วแต่นะ ถ้ามีเรื่องอะไรอยากให้ผมช่วยบอกได้นะ ยินดีเสมอ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับยิ้มให้“ขอบคุณนะ”เจฟ คือเพื่อนที่เรียนอยู่มหา’ ลัยเดียวกับเธอแต่คนละสาขาวิชา เธอรู้มาตลอดว่าตั้งแต่เรียนอยู่หลายครั้งที่ชายหนุ่มแสดงออกกับความรู้สึกที่มีต่อเธอ...ทว่าคงเป็นไปไม่ได้“โอ้นั่น! ปีเตอร์นี่มากับสาว
“ตอนนั้นโกรธค่ะ โกรธมากด้วยแต่ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ เพราะฉันก็มีส่วนที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้”“ไม่หรอกครับ ผมต่างหาก ถ้าผมไม่คิดจะทำร้ายคุณผมคงไม่ต้องมาทรมานอยู่แบบนี้ คุณเป็นผู้หญิงที่ดี ผมดีใจที่คุณแทนรักคุณ” วศินพูดพร้อมกับยิ้มให้หญิงสาวสำหรับเขาแล้วความรักของเขาคงจะเป็นเพียงได้แค่การมองดูและแอบชอบต่อไป ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็จะไม่เคยลืม เพราะว่ารักไม่จำเป็นต้องได้อยู่ด้วยกัน สำหรับเขาขอแค่มองห่าง ๆ ต่อไปก็พอ…แทนไทเดินออกจากห้องน้ำพร้อมส่งสายตามองภรรยาที่นอนดูทีวีอยู่บนเตียงก็อดที่จะยิ้มขำออกมาไม่ได้ สองเท้าก้าวย่างเข้าไปหาแล้วนั่งลงที่ปลายเตียงก่อนขยับเข้าไปหาอย่างช้าๆชายหนุ่มหันไปมองซีรีส์เกาหลีที่ภรรยาสาวกำลังดูอยู่นั้น คู่พระนางกำลังกอดกันอย่างหวานซึ้ง ก่อนหันมามองหญิงสาวที่กำลังจิกหมอนดูเพลินพลางหัวเราะยิ้มเขิน ๆ ออกมา เขาเอื้อมมือไปหยิบรีโมตที่ข้างตัวเธอขึ้นมาพร้อมเลื่อนนิ้วไปที่ปุ่มสีแดงเพื่อกดปิดจอให้ดับลงทันทีที่จอภาพดับสนิทเป็นสีดำณัฐกฤตาหันมามองสามีด้วยความไม่พอใจ พลางเอื้อมมือไปเพื่อแย่งรีโมตคืน“เอาคืนฉันมาเล
“แพงไม่กล้าหรอกค่ะ...ในเมื่อพี่แทนพูดอยู่เสมอว่าแพงเป็นน้องสาวคนเดียวของเขา แม่คิดว่าแพงจะกล้าเหรอคะ แพงกลัว กลัวว่าพี่แทนเขาจะรังเกียจ กลัวว่าพี่แทนจะไม่คุยกับแพง...แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว เป็นเพราะแพงทำให้พี่แทนเกลียด แพงทำร้ายคุณขวัญ แพงเลวใช่ไหมคะคุณแม่”พาลินระบายความทุกข์ในใจออกมาให้ฟัง“ลูกผู้หญิงทุกคนก็อยากอยู่กับคนที่ตัวเองรัก แล้วลูกได้ไปพูดกับ ตาแทนหรือยัง เราควรที่จะพูดทำความเข้าใจนะ” กรพรรณพูดอย่างเห็นใจ“ไม่ดีกว่าค่ะ แพงไม่อยากทำให้พี่แทนเกลียดไปมากกว่านี้” เธอส่ายหน้าพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้า“แทนไม่เกลียดลูกหรอก เขาก็แค่โกรธที่ลูกทำร้ายเขา ถึงแม้จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจแต่เราก็ผิดนะแพง แม่ว่าควรไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง”“แพงคุยแล้วค่ะ แต่คงไม่มีประโยชน์ค่ะ”“แล้วเราจะหลบหน้าไม่คุยกับตาแทนไปทั้งชีวิตยังงั้นเหรอ แม่ว่ามันอึดอัดนะ” กรพรรณมองลูกสาวด้วยความห่วงใย“เป็นแบบนี้ดีแล้วค่ะ เพราะแพงเป็นคนก่อ แพงก็ต้องเป็นคนยอมรับผลที่แพงก่อ”พาลินยอมรับ
“คุณวศินตอนนี้เป็นอัมพาตครับ เพราะตอนกระแทกฝั่งคนขับถูกกระแทกเข้าอย่างแรงครับ”“เป็นเพราะฉันที่ทำให้...”“ไม่ใช่ความผิดคุณ แต่เป็นความผิดของวศินต่างหากละครับ ถ้าไม่คิดจะทำร้ายคุณคงไม่ต้องพบจุดจบแบบนี้หรอกครับ ดีนะที่ยังไม่พาคุณเข้าโรงแรมไม่ยังงั้นผมจะเป็นคนอัดคุณวศินเอง” แทนไทพูดตามความจริง เพราะถ้าวศินไม่คิดจะทำร้ายภรรยาเขาทุกอย่างก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้ เวรกรรมตามทันเร็วราวกับติดปีก ก็ต้องให้วศินรับกรรมที่ก่อไว้“แล้วทำไมถึงรู้ว่าคุณวศินจะพาฉันเข้าโรงแรมล่ะคะ ในเมื่อฉันก็ไม่ได้โทร. บอก หรือว่าคุณไปเยี่ยมเขามาแล้ว ?” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ“เปล่าครับ ผมไม่ได้ไปเยี่ยม แต่แพงเป็นคนบอกผม...เธอร่วมมือกับคุณวศิน” น้ำเสียงของแทนไทดูหมองเศร้าลงเมื่อพูดถึงพาลิน“คุณพาลิน ? เธอทำแบบนั้นทำไมคะ” ณัฐกฤตาเอ่ยขึ้น“แพงชอบผม เธอเลยทำแบบไม่ทันคิด”“แล้วคุณได้คุยกับคุณแพงหรือยังคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง สายตาคู่สวยมองชายหนุ่มที่ก้มหน้าลง เธอรู้ว่าเขาคิดกับพาลินเหมือ
สามวันแล้วที่ณัฐกฤตายังไม่ฟื้นขึ้นมา ทำให้แทนไทเริ่มเป็นห่วงว่าหญิงสาวจะเป็นอะไรไป เขาไม่ได้เข้าทำงานตลอดสามวัน เพราะว่าจิตใจตอนนี้ไม่อยู่กับงานเลยแม้แต่น้อย ส่วนวศินนั้นอาการสาหัสเพราะเป็นอัมพาตส่วนล่างโดยทั้งหมดเพราะถูกแรงกระแทกอย่างแรง จะกลับมาเดินได้ใหม่คงต้องใช้เวลาอีกสักปีหรือสองปีตามที่หมอบอกแทนไทเอื้อมมือไปลูบที่เส้นผมบางของภรรยาด้วยความรักแล้วความห่วง ส่งสายตามองหญิงสาวในยามหลับ เขาอยากจะให้เธอตื่นขึ้นมาคุย นี่ก็ผ่านมาแล้วสามวันช่างทรมานใจเขาเหลือเกิน คิดถึง...จนแทบปวดใจ“ที่รัก ตื่นขึ้นมานะครับ ผมคิดถึงคุณ” แทนไทพูดพร่ำพร้อมพรมจูบไปทั่วมือสวยของภรรยา“ได้เวลาเช็ดตัวคนไข้แล้วนะคะ”ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เมื่อพยาบาลเดินเข้ามาพร้อมกับถาดเช็ดตัวคนไข้แทนไทเดินออกจากห้อง ขณะที่พยาบาลเลื่อนผ้าม่านปิดล้อมเตียงไว้ เขาเดินออกมาตามทางเดินเรื่อย ๆ ก่อนหยุดเดินลงเมื่อเห็นพาลินเดินเข้ามาหา“พี่แทน”พาลินเรียกชายหนุ่มในสรรพนามที่เหมือนเดิม แต่แววตาที่เขามองแตกต่างออกไปอย่างชัดเจ
“ผมรักคุณแทน !”เพียงเท่านี้ก็ไขกระจ่างทุกเรื่องที่อยู่ในใจของหญิงสาวได้หมดคุณวศินเป็น…!“คะ...คุณ...”“ใช่ ! แต่ถ้าไม่เพราะคุณตกลงแต่งงานกับคุณแทนป่านนี้เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ ! ผมวางแผนเพื่อสร้างข่าวให้ผมและคุณแทนกลายเป็นคู่จิ้นในวงการบันเทิงแต่คุณก็ดันมาปิดข่าว และแต่งงานกับคุณแทน...”“แล้วจะจับฉันมาทำไม ทำไมไม่ไปหาคุณแทนล่ะ !”เหมือนจะเข้าใจว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่ทำไมไม่ไปบอกคุณแทนไทโดยตรง ทำไมต้องลากเธอเข้ามาเกี่ยวด้วย !“เพราะเมื่อวานไงล่ะที่คุณไปหาผม คุณรู้ไหมว่าคุณแทนตอบว่าอะไร !” วศินยังคงขับรถต่อไปทั้งที่สายตาของเขาสลับมองใบหน้าของณัฐกฤตา“คุณทำแบบนี้คุณแทนก็ไม่ได้หันมาชอบคุณหรอก เขาไม่ได้มีรสนิยมชอบเพศเดียวกันเหมือนกับคุณสักหน่อย”“ชอบไม่ชอบผมไม่สนแล้ว แต่นี้ผมสนแค่ว่าเขาจะเจ็บปวดยังไงบ้าง”“ฉันไม่อยากฟัง ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ !” หญิงสาวเอื้อมมือไปแย่งพวงมาลัยรถที่ชายหนุ่มบังคับอยู่ให้เขาหยุดจอดรถวศินใช้มือข้างซ้า
“เรื่องอะไรบอกพี่มาพาลิน !”“พี่แทนแพงเจ็บค่ะ ปล่อยแพงก่อน...” หญิงสาวยกมือขึ้นจับมือของเขาที่บีบไหล่เธออยู่ให้ปล่อยออก“บอกพี่มา ขวัญทำไม ?”“พี่แทนรับปากว่าจะไม่เกลียดแพง...”“บอกพี่มา” แทนไทกัดฟันพูด“คุณวศิน...เขาจะวางแผนข่มขืนคุณขวัญ...เลยให้แพงมาถ่วงเวลา...” เพียงแค่ได้ยินหัวใจของแทนไทก็ร้อนรนจนแทบทำอะไรไม่ถูก เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ดูแตกต่างไปจากเดิม“บอกมาว่าตอนนี้วศินอยู่ที่ไหน ! ถ้าขวัญเป็นอะไรไป พี่จะโทษแพงคนเดียว !” แทนไทพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม มองพาลินตรงหน้าด้วยแววตาโกรธเคือง“คุณวศินจะพาคุณขวัญไปที่โรงแรม...”ทันทีที่ได้ฟังจบแทนไทก็ผลักพาลินออกอย่างไม่แยแส เขาก้าวฉับไวเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เธอมองชายหนุ่มเดินจากไปทั้งน้ำตา“พี่แทน...แพงขอโทษ” พาลินพูด ขณะมองไปทางประตูพร้อมกับหยดน้ำตาที่เปรอะบนใบหน้าที่ทำไปเพราะรักพี่แทน...แต่แพงทำใจไม่ได้ที่ต้องเห็นพี่แทนเสียใจเกือบเที่ยงหลังจากที่ลูกค้านั้นออกจ
พาลินนั่งอยู่ภายในห้องคนเดียวตั้งแต่ที่กลับมา ในมือกดเปิดและปิดหน้าจอโทรศัพท์อยู่เป็นเวลานาน นั่นเพราะจิตใจสับสนวุ่นวายดูลังเล เบอร์ที่ขึ้นโชว์หน้าจอนั้นไม่ใช่ใครเลยแต่เป็นเบอร์ของวศินพระเอกหนุ่มชื่อดังนั่นเอง ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป ถ้าร่วมมือกับวศินแล้วแทนไทจะเกลียดเธอไหม ? พาลินนั่งอยู่นานจนกระทั่งตัดสินใจกดเบอร์ปลายสายนั้นโทรออก[ตัดสินใจได้แล้วหรือครับ]“ค่ะ คุณจะให้ฉันทำอะไรบ้าง” พาลินเอ่ยถามอีกฝ่ายขึ้นทันที[ก็แค่แยกคุณแทนออกจากคุณขวัญก็พอแล้ว]อีกฝ่ายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก แต่พาลินก็ยังไม่เข้าใจแผนการทั้งหมดของวศินอยู่ดีว่าเขาต้องการทำอะไร“ฉันยังไม่เข้าใจว่าคุณต้องการทำอะไร”[แค่ทำให้คุณขวัญมาเป็นของผม ทีนี้คุณเข้าใจหรือยัง ?]พาลินเริ่มแสดงสีหน้าลังเลและหวาดกลัวออกมา“ได้ แล้วจะให้ฉันแยกพี่แทนออกวันไหน” ในเมื่อเธอตัดสินใจไปแล้วคงจะย้อนกลับไม่ได้อีกต่อไป เธออยากให้เขารู้ว่าเธอยังสำคัญ ดีเหมือนกัน ถ้ารู้ว่าณัฐกฤตามีชู้ เขาคงจะเกลียดผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่นอน[พรุ่งนี้ได้ยิ่งดีเลย]&l