เคลวินขับรถมาจอดที่สนามบิน จากนั้นเขาก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา และหันหน้ามามองหล่อน“เหลือเวลาอีกพอสมควรกว่าเครื่องจะออก”หล่อนไม่ได้ตอบเขา เมินหน้าหนีมองออกไปนอกกระจกรถ หยาดน้ำใสๆ ยังคงเอ่อคลอสองดวงตาเขาจะพาหล่อนกลับไปที่นั่นอีกทำไม ในเมื่อเขาไม่ได้ต้องการหล่อนแล้ว ทั้งในฐานะเด็กในปกครอง และเมียชั่วคราว ทุกอย่างมันจบลงแล้ว และก็จบลงอย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่เขาแต่งงานกับณิชาในค่ำคืนนั้นน้ำใสๆ ไหลออกมาจากดวงตา หลั่งรินลงมาตามร่องแก้ม มือเล็กยกขึ้นป้ายทิ้ง กลีบปากอิ่มสั่นระริก“หยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้”คำสั่งเผด็จการของคนใจร้าย ทำให้หล่อนลืมความขลาดกลัวไปชั่วขณะ หล่อนผินหน้ากลับมามองเขา มองดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ตอนนี้กลายเป็นสีดำด้วยแววตาท้าทาย“พ่อเลี้ยงสั่งหนูไม่ได้อีกแล้วล่ะค่ะ”“ทำไม”“พ่อเลี้ยงจำคำพูดของตัวเองไม่ได้เลยเหรอคะ” แววตาท้าทายเต้นระริกอยู่ในดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำแห่งความเสียใจ “คำพูดร้ายๆ ก่อนที่พ่อเลี้ยงจะขับไล่หนูออกมาจากไร่ยังไงล่ะคะ”หล่อนเห็นกรามแกร่งที่มีไรหนวดมากกว่าที่เคยเห็นเป็นประจำขบกันแน่นจนเป็นสันนูนเป่ง ก่อนที่เขาจะปลดเข็มขัดนิรภัยให้กับตนเอง และโน้มตัวเข้าม
ในที่สุดหล่อนก็ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง...เฌอปรางก้าวลงจากรถ จ้องมองไปยังไร่ชากว้างไกลสุดลูกหูลูกตาด้วยสายตาที่มีหยาดน้ำใสๆ คลอ กลีบปากอิ่มเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรงหล่อนไม่คิดว่าจะได้กลับมาที่นี่อีก...“ฉันเพลียมาก จะขึ้นไปพักผ่อน เธอทำอะไรเสร็จแล้วก็ตามฉันขึ้นไปที่ห้องนอน เข้าใจไหม”หล่อนละสายตาจากไร่ชายามพระอาทิตย์อัสดงมามองใบหน้าหล่อเหลาแต่ไร้ความรู้สึกของเคลวิน ก่อนจะเมินหน้าหนี เขาไม่ได้ไยดีอะไรกับความนิ่งเงียบน้ำตาคลอของหล่อน เพราะไม่ช้าเขาก็ก้าวเดินเข้าไปในบ้านหล่อนมองตามเขาไปด้วยความเจ็บช้ำ ขณะหยิบกระเป๋าของตัวเองที่เคลวินมีน้ำใจยกออกมาจากรถยนต์ให้ และก้าวเท้าจะกลับไปยังห้องพักที่เรือนคนงาน แต่เสียงของป้าปราณีก็ดังขึ้นเสียงก่อน หล่อนจำต้องหยุดก้าวเท้า และหันไปมองป้าปราณีรีบเดินเข้ามาหา สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ โดยมีจิตกับแจ่มเดินเร็วๆ ตามหลังมาด้วย“หนูปราง... “หล่อนจำต้องกล้ำกลืนน้ำตาเอาไว้ และยกมือไหว้สตรีสูงวัยตามมารยาท“สวัสดีค่ะป้า สวัสดีจ้ะพี่จิตพี่แจ่ม”“พวกเราดีใจนะที่น้องปรางกลับมาที่นี่อีกครั้ง” จิตกับแจ่มเดินเข้ามาแตะแขนเรียวของหล่อน แสดงท่าทางดีใจออกมาอย่าง
หลังจากทักทายกับป้าลำดวนและหอมแก้มน้องหนึ่งอยู่สักพัก เฌอปรางก็เข้ามาเก็บตัวเงียบอยู่ภายในห้องพักเดิมที่เคยอยู่ หล่อนทิ้งตัวลงนั่งกับพื้น ยกหัวเข่าขึ้นมากอด ซบหน้าลงไปร้องไห้เงียบๆหล่อนจะทนอยู่ที่นี่ได้นานแค่ไหนกัน ในเมื่อต้องเห็นภาพบาดตาบาดใจระหว่างเคลวินกับณิชาเขาช่างใจร้ายนัก ไล่หล่อนไปแล้วยังไม่พอใจ ยังคิดจะฆ่าให้ตายทั้งเป็นด้วยการลากหล่อนกลับมาให้เห็นเขากับณิชาพลอดรักกัน“คนใจร้าย... พ่อเลี้ยงใจร้าย...”“เดี๋ยวนี้ปากร้ายขนาดกล้าด่าฉันเชียวหรือ เฌอปราง”คำพูดห้วนๆ ของคนที่ปรากฏขึ้นหลังบานประตูไม้ที่ปิดเอาไว้เฉยๆ โดยไม่ได้ลงกลอนดังมาเข้าหูคนที่นั่งกอดเข่าร้องไห้น้ำตาท่วมใบหน้าอยู่นั้น รีบเงยหน้าขึ้นทันที และเมื่อเห็นว่าเป็นเคลวิน ดวงหน้านวลก็ซีดเผือด“พ่อ... เลี้ยง”เขาก้าวเข้ามาภายในห้อง ดึงบานประตูไม้ปิดลงพร้อมกับลงกลอนตามหลังหล่อนรีบป้ายน้ำตาทิ้ง พร้อมกับขยับกายลุกขึ้น จะกระเถิบถอยหนี แต่เขาคว้าแขนเรียวเอาไว้เสียก่อน พร้อมกับรั้งเพียงเบาๆ ร่างอรชรก็เซถลาเข้าไปในอ้อมอกกว้างอย่างง่ายดาย“ปะ... ปล่อยหนูค่ะ”เขาไม่ปล่อย แถมยังกอดรัดแน่นจนกระดูกของหล่อนแทบจะหักขาดอีกด้วย“ปล่อยค่
หล่อนต่อต้านเขาไม่ไหว... “อา... ได้โปรด... พ่อเลี้ยงขา... หนู... หนูไม่ไหวแล้ว อา... เข้ามา... เข้ามาหาหนู... อา...” หล่อนได้ยินเสียงคำรามแห่งชัยชนะของบุรุษสุดหล่อเหนือกายดังกระหึ่มในลำคอ พร้อมๆ กับที่เขาเร่งจังหวะดูดดึงยอดถันและเรียวลิ้นที่กำลังตวัดโลมเลียเม็ดเต่งให้ถี่ระรัวยิ่งขึ้น “อา... อา... อ๊า...” บั้นท้ายอวบงอนหยัดร่อนตามติดนิ้วยาวพลังอำนาจที่กำลังซอกซอนสำรวจอยู่ภายในกลีบเนื้ออ่อนอย่างไร้ความปรานีตลอดเวลา เขาลากจูงหล่อนไปตะกายอยู่ที่บันไดสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกครั้งที่เขาดูดเลียยอดถัน ทุกครั้งที่นิ้วยาวสะกิดปุ่มกระสัน ร่างกายของหล่อนก็ราวกับจะบิดแตกเสียเดี๋ยวนั้นด้วยความเสียวกระสันทรมาน “ได้โปรด... ได้โปรดเถอะค่ะพ่อเลี้ยง... อย่าทรมานหนูเลย... อา... อา... หนู... อา...” หล่อนบิดกายเร่าๆ กระสับกระส่าย ครวญครางให้เขาช่วยดับไฟร้อนที่ความเป็นหญิงให้ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่เมตตาเลย เพราะเขาไม่ได้ล่วงล้ำเข้ามาอย่างที่หล่อนต้องการ แต่กลับขยับกายออกห่าง “พ่อเลี้ยง... อย่าทิ้งหนู... อา... ได้โปรด...” “
เซ็กซ์ร้อนฉ่าที่เรือนพักคนงานสองครั้ง จากนั้นเคลวินก็พาหล่อนกลับมาที่บ้าน และอุ้มหล่อนเข้ามาในห้องนอนของเขา ก่อนจะจูงมือหล่อนขึ้นไปท่องเที่ยวบนสวรรค์ด้วยกันหลายชั่วโมงต่อเนื่อง จนกระทั่งหล่อนผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียและจากบทรักร้อนฉ่ายาวนานแทบไม่ได้หยุดพักเมื่อคืน ก็ทำให้เช้าวันนี้หล่อนตื่นสาย และตื่นขึ้นพร้อมกับความเมื่อยขบไปทั่วทั้งเรือนร่างเฌอปรางจ้องมองไปยังแสงแดดที่สาดผ่านรอยแยกของหน้าต่างสีเข้มเข้ามาชั่วขณะ ก่อนจะหันมามองที่นอนข้างกาย ซึ่งก็พบแต่รอยยับของผ้าปูเตียงเท่านั้น ร่างกำยำที่มีพละกำลังมหาศาลลุกหายไปแล้วหล่อนทอดถอนใจออกมาอย่างอ่อนล้า ขณะกัดฟันขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มร่นลงไปกองที่หน้าขา ทำให้หล่อนเห็นรอยดูดจากปากของเคลวินเต็มเต้านมทั้งสองข้าง แก้มนวลแดงระเรื่อ และบางส่วนที่ถูกปากของเคลวินโลมเลียอย่างตะกรุมตะกรามก็ร้อนฉ่าคล้ายกับมีใครสุมไฟเอาไว้ในนั้น มือเล็กรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายเอาไว้ด้วยความขัดเขินเขากินดุมาก เลียตรงนั้นของหล่อนราวกับมันคืออาหารจานโปรดที่เขาต้องฟาดให้เรียบหล่อนยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้เป็นอย่างดี ลิ้นอ่อนนุ่มชุ่มชื้นของผู้ชายใจร้าย ปาดเลีย แ
เฌอปรางกำลังจะเลี้ยวเข้าเรือนพักคนงาน แต่ก็ต้องชะงักกึก เมื่อเคลวินปรากฏตัวตรงหน้าเสียก่อน เรือนกายล่ำสันในชุดทำงานและสวมหมวกปีกกว้างเดินเข้ามาหา“เอ่อ...”“เมื่อคืนฉันก็ทำโทษเธอทั้งคืนแล้ว ยังไม่เข็ดอีกหรือเฌอปราง”“หนู... แค่มาเอากระเป๋าค่ะ”“ไม่ต้อง เดี๋ยวให้คนงานยกไปให้” เขาก้าวเข้ามาใกล้จนหล่อนขยับถอยหลังหนีไม่ทัน ดวงตาของเขาที่จ้องมองมา มันทำให้หล่อนอดนึกถึงเรื่องร้อนฉ่าเมื่อคืนนี้ไม่ได้“กลับเข้าบ้านด้วยกัน ฉันหิวแล้ว”“หิว...?”เขาอมยิ้มเมื่อเห็นเด็กสาวตีความหมายของคำพูดไปไกลกว่าที่เป็นจริง“ฉันยังไม่ได้กินมื้อเช้าเลย” เขาจ้องหน้าหล่อน “เพราะรอเด็กขี้เซาคนหนึ่งตื่นน่ะ”“เอ่อ... หนูเหรอคะ”เขายกมือขึ้นยีเส้นผมนุ่มให้ยุ่งมากกว่าเดิม จากนั้นก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ดอมดมกลิ่นหอมละมุนด้วยปลายจมูกอย่างอดใจไม่ไหว เฌอปรางหน้าแดงระเรื่อ“พ่อ... พ่อเลี้ยงคะ เดี๋ยวใครมาเห็นค่ะ”เขาจำต้องตัดใจเงยหน้าออกห่างร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่น จากนั้นก็กุมข้อมือเล็กให้เดินเคียงข้างไปด้วยกันเฌอปรางอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา มองคนตัวโตที่มีพลังทางเพศสูงลิบอย่างเคลวินด้วยความรักหล่อนจะได้เดินเคียงข้างเขาอ
ป้าปราณีอมยิ้มเมื่อเห็นหล่อนเดินเคียงคู่มากับเคลวิน ซึ่งก็ทำให้หล่อนอดที่จะเสหลบสายตาด้วยความขัดเขินไม่ได้“ตั้งโต๊ะเลยครับป้า”“วันนี้พ่อเลี้ยงยิ้มแย้มต่างไปจากทุกวันเลยนะคะ” ป้าปราณีหันไปสั่งจิตกับแจ่มให้ตั้งโต๊ะแล้วก็อดที่จะแซวเคลวินที่เพิ่งจะเลื่อนเก้าอี้ให้เฌอปรางนั่งไม่ได้เคลวินหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะดึงมือเล็กบนตักมากุมเอาไว้“ผู้ชายเวลามีเมียเด็กก็อารมณ์ดีประมาณผมทุกคนแหละครับ”หล่อนได้ยินคำตอบของเคลวินก็ยิ่งเอียงอาย แต่ทันทีที่จิตกับแจ่มยกอาหารมาตั้งบนโต๊ะ และกลิ่นอาหารหน้าตาดีโชยเข้ามาในจมูกเท่านั้น ความวิงเวียนพะอืดพะอมก็ตีตื้นขึ้นมากระจุกรออยู่ที่ลำคอ มือเล็กยกขึ้นปิดปาก“เป็นอะไรไปเฌอปราง ไม่สบายหรือ”หล่อนไม่อาจจะตอบความสงสัยของเคลวินได้ เพราะต้องรีบพุ่งตัวไปห้องน้ำให้ทันเวลาเสียงโอ้กอ้ากของเด็กสาวดังมาเข้าหูเคลวิน เขาลุกขึ้นยืนจะเดินเข้าไปดู แต่ป้าปราณีห้ามเอาไว้เสียก่อน จากนั้นก็สั่งให้จิตเข้าไปดูเฌอปรางแทน“จิต เอ็งเข้าไปดูหนูปรางหน่อย”“จ้ะ ป้า”“ส่วนเอ็งก็ไปยกน้ำส้มมาให้หนูปราง นังแจ่ม”“จ้ะป้า”สองสาวใช้หายกันไปคนละทิศละทางแล้ว ป้าปราณีก็มองหน้าเคลวินและ
“เสียใจไหมที่เรายังจดทะเบียนสมรสกันไม่ได้”คนตัวโตหยุดเดิน ยืนข้างรถ และดึงมือเล็กของหล่อนมากุมเอาไว้ ดวงตาคมเข้มจ้องมองดวงหน้าของหล่อน บอกให้รู้ว่าไม่ค่อยสบายใจนัก“ไม่เสียใจหรอกค่ะ”“ดีมาก” เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนแผ่วเบา ก่อนจะดึงเข้าไปกอดแนบอก เสียงหัวใจของเขาเต้นอยู่ใต้ใบหูของหล่อน เฌอปรางระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุข“ฉันสัญญาว่าถ้าเธออายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์เมื่อไหร่ ฉันจะรีบพาเธอมาจดทะเบียนสมรสทันที” เขาหยุดพูดเล็กน้อย ก่อนจะดันร่างของหล่อนออกห่าง จ้องลึกเข้ามาในดวงตาของหล่อน “ว่าแต่เมื่อไหร่จะครบยี่สิบปีเต็มกันล่ะ หนึ่งปีกับกี่เดือนหรือ”“เอ่อ... หนึ่งปีกับอีกสิบเดือนค่ะ”“เฮ้อ นานจัง นี่ฉันมีเมียเด็กมากจริงๆ สินะ” ว่าแล้วเขาก็อมยิ้ม และดึงหล่อนเข้าไปกอดอีกครั้ง “แล้วฉันก็แก่ว่าเธอมากเสียด้วย หวังว่าเธอจะไม่นอกใจฉันไปหาเด็กหนุ่มๆ รุ่นราวคราวเดียวกันหรอกนะ เฌอปราง”“พ่อเลี้ยงต่างหากล่ะคะ พอเบื่อหนูแล้วก็จะทิ้งหนู ไล่หนูออกจากไร่เหมือนเดิม”เขาขยับตัวออกห่าง ก้มลงมามองดวงหน้านวลของเฌอปราง ก่อนจะจูบปากอิ่มเบาๆ“ไม่มีทางมีวันนั้นหรอก ฉันหลงเธอจะตายไป”ก็แค่หลง...เฌอปรางต่อคำพู
“กำลังคิดถึงฉันอยู่ใช่หรือเปล่า”เสียงนุ่มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมๆ กับอ้อมกอดอบอุ่นที่สอดมาทางด้านหลังเฌอปรางอมยิ้มอย่างมีความสุข ละสายตาจากดวงจันทร์กลมโตหมุนกลับมามองใบหน้าหล่อเหลาของเคลวินแทน มองเขาด้วยความรักหมดหัวใจ“หนูคิดถึงพ่อเลี้ยงทุกวินาทีนั่นแหละค่ะ”เขาหัวเราะร่วน ยกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนไปมา “งั้นก็เหมือนฉันเลยน่ะสิ ที่คิดถึงเธอตลอดเวลา ทุกวินาทีเลยรู้ไหม...”“พ่อเลี้ยงปากหวานอีกแล้วนะคะ”เขาโน้มหน้าต่ำลงมาหา รัดรึงร่างอวบอัดของเมียรักแนบแน่นยิ่งขึ้น“ฉันไม่เคยปากหวาน พูดหวานๆ ก็ไม่เป็น ที่เธอได้ยินทุกอย่างนี่ก็คือความจริงจากใจล้วนๆ”“หนูไม่เชื่อหรอกค่ะว่าพ่อเลี้ยงไม่เคยพูดหวานๆ อย่างน้อยๆ ตอนจีบผู้หญิงก็ต้องพูด ไม่งั้นพ่อเลี้ยงจะมีคนรักเหรอคะ” หล่อนได้ทีย่นจมูกใส่เขาอย่างมันเขี้ยวบ้าง“ด้วยความสัตย์จริงนะ ฉันไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนเลย”คนฟังเบิกตากว้าง เหลือเชื่อ “อ้าว ถ้าไม่ได้จีบแล้วคุณณิชามาเป็นแฟนพ่อเลี้ยงได้ยังไงคะ”“ณิชาเป็นฝ่ายจีบฉันน่ะ”“ฮะ?” เฌอปรางเหลือเชื่อมากๆ“จริงๆ นะ เห็นฉันหน้าตาดีแบบนี้ แต่ฉันไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนเลย ตอนเรียนก็เอาแต่เรียน ตอนทำงานก็ทำแต่งาน
เฌอปรางหัวเราะคิกคักเมื่อเคลวินออกคำสั่งเผด็จการแบบนั้นออกไป“พ่อเลี้ยงน่ะ ดูทำเข้าสิคะ”“ทำไมอะไรมิทราบเมียจ๋า” ใบหน้าหล่อจัดโน้มต่ำเข้ามาหาเรื่อยๆ“ก็... สั่งคนงานแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะคะ น่าเกลียดจัง”“ไม่มีอะไรน่าเกลียดหรอกน่า มานี่เลย...”มือใหญ่ช้อนใต้ท้ายทอยเล็กอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ประกบปากลงไปหา“อุ๊บบบ...”เขาบดขยี้จูบแล้วจูบอีก จูบจนเมียรักหายใจหายคอไม่ทัน จึงถอนปาก แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยออกจากอ้อมแขน“หวานจัง...”“พ่อเลี้ยงน่ะ” คนเป็นเมียเอียงอายม้วนต้วน“ก็จริงนี่ ปากเธอหวานมาก แต่ก็ยังมีที่อื่นหวานกว่านะ อยากรู้ไหมว่าตรงไหน”ดวงตาคมกริบของเคลวินเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ร้าย ขณะเลื่อนต่ำลงมองที่กลางลำตัวสาวเฌอปรางเนื้อตัวอุ่นวาบ เลือดสาวเดือดพล่านขึ้นมาในทันที ดวงหน้างามเต็มไปด้วยรอยยิ้มเอียงอาย“พ่อเลี้ยงน่ะ... ลามก”เขาดึงหล่อนเข้ามากอดแนบอก ยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยสวยเอาอย่างแสนรัก“ฉันก็เป็นแบบนี้กับเธอคนเดียวนั่นแหละเฌอปราง... และหวังว่าเธอจะชอบ...”หล่อนยิ้มหวานกับหน้าอกกว้างของสามี “หนูชอบทุกอย่างที่เป็นพ่อเลี้ยงค่ะ”“เมียใครนะปากหวานเจี๊ยบเลย”นิ้วแข็งแรงตรึงปลายคางมน และช
เคลวินถูกส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ทันเวลา แต่เพราะเสียเลือดไปมาก ทำให้เขาต้องได้รับการให้เลือดอยู่หลายถุง เฌอปรางเฝ้าสามีอยู่หน้าห้องผ่าตัดไม่ยอมห่าง แม้ว่าตัวหล่อนเองจะบาดเจ็บที่ศีรษะเช่นกันก็ตาม“หนูปราง... ไปให้พยาบาลทำแผลก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าเฝ้าหน้าห้องให้ค่ะ ถ้าพ่อเลี้ยงออกมาแล้ว ป้าจะรีบไปบอกค่ะ” ป้าปราณีพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่เฌอปรางส่ายหน้าปฏิเสธ“หนูไม่เป็นไรหรอกค่ะป้า แต่พ่อเลี้ยงบาดเจ็บ เลือดพ่อเลี้ยงออกมาเยอะมาก หนู... หนูกลัวว่าพ่อเลี้ยงจะตาย...” เด็กสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น“พ่อเลี้ยงเข้มแข็งมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ ไม่มีทางยอมตายกะอีแค่มีดแทงหรอกค่ะ เชื่อป้านะคะ ไปทำแผลที่หัวก่อน ถ้าพ่อเลี้ยงรู้เข้าว่าหนูปรางไม่ยอมดูแลตัวเอง พ่อเลี้ยงจะโกรธเอานะคะ”“แต่หนูเป็นห่วงพ่อเลี้ยง... หนูอยากรอดูให้มั่นใจก่อนว่าพ่อเลี้ยงจะปลอดภัย...”“ทำแผลที่หัวนิดเดียวค่ะ และก็แป๊บเดียวด้วย ยังไงก็เสร็จก่อนที่พ่อเลี้ยงจะผ่าตัดเสร็จอยู่แล้วค่ะ”เฌอปรางลังเลอยู่เล็กน้อย“นะคะ เชื่อป้าเถอะ ถ้าหนูปรางไม่สบายไปจะทำยังไงคะ อย่าลืมสิคะว่าตอนนี้ในท้องหนูปรางมีลูกของพ่อเลี้ยงอยู่ด้วยนะคะ”“ลูก...”มือเล
ณิชาหัวเราะราวกับคนบ้า จากนั้นก็จิกหัวของเฌอปรางแรงๆ ลากลงมาจากรถ ซึ่งก็ทำให้คนที่สลบไสลอยู่ได้สติ“มึงฟื้นแล้วเหรอ อีเด็กบ้า”“คุณณิชา...” เฌอปรางตกใจมาก หน้าตาซีดเผือด และก็พยายามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหล่อนกับเคลวินกำลังขับรถกลับไร่ แต่จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนนั้นวิ่งตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ทำให้รถเสียหลักชนเข้ากับต้นไม้ และหล่อนก็สลบไปหล่อนไม่ตาย แล้วเคลวินล่ะ...?“พ่อเลี้ยง... พ่อเลี้ยงอยู่ไหนคะ พ่อเลี้ยงไม่เป็นอะไรใช่ไหม พ่อเลี้ยง”“ฉันอยู่นี่เฌอปราง”เฌอปรางหันไปเห็นว่าเคลวินปลอดภัยหล่อนก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา“หนูดีใจที่พ่อเลี้ยงปลอดภัย”เคลวินได้ยินได้เห็นความห่วงใยที่เฌอปรางมีให้ตนเอง เขาก็ยิ่งรู้สึกละอายใจยิ่งนัก ที่ปกป้องหล่อนไม่ได้“ณิชา... ปล่อยเฌอปรางไป แล้วคุณมาจัดการผมนี่ ผมจะไม่ต่อสู้คุณเด็ดขาด ผมสัญญา...”“ไม่นะคะพ่อเลี้ยง... อย่าพูดแบบนี้นะคะ” เฌอปรางร้องไห้ออกมา และพยายามวิงวอนคนที่เอามีดจี้คอของตนเองอยู่ “คุณณิชา... หนูผิดเองค่ะ ผิดเองทุกอย่าง หนูรักพ่อเลี้ยง แอบรักพ่อเลี้ยงมานาน ก็เลย... ใช้โอกาสที่พ่อเลี้ยงเลิกกับคุณณิชา เข้าหาพ่อเลี้ยงค่ะ ดังนั้นถ้าเรื่องนี้จะมีคนผ
หลังจากเลือกซื้อข้าวของเด็กอ่อนเสร็จแล้ว เคลวินก็พาหล่อนเข้าร้านเพชรร้านเดิม แต่หนนี้ทุกอย่างแตกต่างไปจากเดิม เพราะเขาบังคับให้หล่อนรับแหวนเพชรเม็ดโต พอหล่อนอึกอักปฏิเสธ เขาก็ดึงนิ้วนางข้างซ้ายขึ้นมาและสวมแหวนให้ทันที“ห้ามถอดออกเด็ดขาดนะเด็กน้อย” เขาพูดเสียงนุ่มแต่เต็มไปด้วยความเผด็จการหล่อนอมยิ้มหวาน และก็ตอบรับเขาด้วยการผงกศีรษะขึ้นลงเล็กน้อยหลังจากนั้นเขาก็พาหล่อนกินข้าวกลางวัน สั่งให้หล่อนกินยาบำรุงครรภ์ที่หมอจ่ายมาให้ และก่อนกลับบ้านก็แวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้ออาหารบำรุงสำหรับคนท้องมาจนเต็มรถ“ทีนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว”เขาอมยิ้ม ดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดทับลำตัว จากนั้นก็เคลื่อนรถกลับขึ้นไปวิ่งบนท้องถนนอีกครั้งเฌอปรางนั่งอยู่ในแอ่งแห่งความสุข แต่กระนั้นก็ยังมีคำถามค้างคาใจติดอยู่“พ่อเลี้ยงคะ”“ว่าไง” คนที่ขับรถอยู่เอ่ยถาม“คือ...”“มีอะไรก็ว่ามาสิ” เขาเห็นหล่อนอึกอักก็เร่งเร้าให้พูด“หนู... หนูอยากรู้ว่า...”“อยากรู้อะไรก็ถามมาสิ”“พ่อเลี้ยงรู้ใช่ไหมคะว่าหนู... เอ่อ... รักพ่อเลี้ยง”หล่อนเห็นเขาอมยิ้ม และก็หันมามองหล่อนเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปจ้องถนนเช่นเดิม“รู้สิ ฉันไม่ได้ตาบอดสั
“แล้วถ้าพ่อเลี้ยงรักหนูไม่ได้ล่ะคะ”“มันไม่มีวันนั้นหรอก”“ทำไมพ่อเลี้ยงถึงมั่นใจนักล่ะคะว่าจะรักหนูได้”เคลวินอยากจะกระชากแม่เด็กสาวช่างถามเข้ามาจูบปิดปากเสียให้รู้แล้วรู้รอด นี่หล่อนต้องการให้เขาสารภาพออกไปเลยหรือไงว่าตอนนี้เขารักหล่อนเรียบร้อยแล้วบ้าจริง...เขาไม่กล้าสารภาพออกไปหรอก ให้เฌอปรางรับรู้ถึงความรักของเขาผ่านการกระทำดีกว่า“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามาซักไซ้ผู้ใหญ่นักเลย นั่งอยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนนะ ฉันไปจ่ายเงินก่อน” คนตัวโตได้จังหวะหลบเลี่ยงในที่สุด“ถึงพ่อเลี้ยงจะใจดีกับหนูมากกว่าเมื่อก่อน แต่หนูก็ยังต้องการให้พ่อเลี้ยงรักหนู... เหมือนที่หนูรักพ่อเลี้ยง...” เฌอปรางมองตามร่างสูงใหญ่ของเคลวินที่เดินไปยังเคาน์เตอร์คิดเงินด้วยสายตาตัดพ้อน้อยใจหล่อนนั่งเศร้าอยู่สักพักเคลวินก็เดินกลับมา พร้อมกับถุงใส่ยาที่คุณหมอจ่ายให้สำหรับหญิงตั้งครรภ์“กลับกันเถอะ”รอยยิ้มอบอุ่นของเขาทำให้หล่อนตัดสินใจวางมือเล็กลงในอุ้งมือใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้าอุ้งมือของเขาอบอุ่นเหลือเกิน และมันก็ทำให้หล่อนรู้สึกปลอดภัยยิ่งนัก“ค่อยๆ เดินนะ มาฉันประคอง”“หนูเดินได้ค่ะพ่อเลี้ยง”“ก็บอกแล้วไงอย่าดื้อ... เดินดีๆ ค่อ
“เสียใจไหมที่เรายังจดทะเบียนสมรสกันไม่ได้”คนตัวโตหยุดเดิน ยืนข้างรถ และดึงมือเล็กของหล่อนมากุมเอาไว้ ดวงตาคมเข้มจ้องมองดวงหน้าของหล่อน บอกให้รู้ว่าไม่ค่อยสบายใจนัก“ไม่เสียใจหรอกค่ะ”“ดีมาก” เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนแผ่วเบา ก่อนจะดึงเข้าไปกอดแนบอก เสียงหัวใจของเขาเต้นอยู่ใต้ใบหูของหล่อน เฌอปรางระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุข“ฉันสัญญาว่าถ้าเธออายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์เมื่อไหร่ ฉันจะรีบพาเธอมาจดทะเบียนสมรสทันที” เขาหยุดพูดเล็กน้อย ก่อนจะดันร่างของหล่อนออกห่าง จ้องลึกเข้ามาในดวงตาของหล่อน “ว่าแต่เมื่อไหร่จะครบยี่สิบปีเต็มกันล่ะ หนึ่งปีกับกี่เดือนหรือ”“เอ่อ... หนึ่งปีกับอีกสิบเดือนค่ะ”“เฮ้อ นานจัง นี่ฉันมีเมียเด็กมากจริงๆ สินะ” ว่าแล้วเขาก็อมยิ้ม และดึงหล่อนเข้าไปกอดอีกครั้ง “แล้วฉันก็แก่ว่าเธอมากเสียด้วย หวังว่าเธอจะไม่นอกใจฉันไปหาเด็กหนุ่มๆ รุ่นราวคราวเดียวกันหรอกนะ เฌอปราง”“พ่อเลี้ยงต่างหากล่ะคะ พอเบื่อหนูแล้วก็จะทิ้งหนู ไล่หนูออกจากไร่เหมือนเดิม”เขาขยับตัวออกห่าง ก้มลงมามองดวงหน้านวลของเฌอปราง ก่อนจะจูบปากอิ่มเบาๆ“ไม่มีทางมีวันนั้นหรอก ฉันหลงเธอจะตายไป”ก็แค่หลง...เฌอปรางต่อคำพู
ป้าปราณีอมยิ้มเมื่อเห็นหล่อนเดินเคียงคู่มากับเคลวิน ซึ่งก็ทำให้หล่อนอดที่จะเสหลบสายตาด้วยความขัดเขินไม่ได้“ตั้งโต๊ะเลยครับป้า”“วันนี้พ่อเลี้ยงยิ้มแย้มต่างไปจากทุกวันเลยนะคะ” ป้าปราณีหันไปสั่งจิตกับแจ่มให้ตั้งโต๊ะแล้วก็อดที่จะแซวเคลวินที่เพิ่งจะเลื่อนเก้าอี้ให้เฌอปรางนั่งไม่ได้เคลวินหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะดึงมือเล็กบนตักมากุมเอาไว้“ผู้ชายเวลามีเมียเด็กก็อารมณ์ดีประมาณผมทุกคนแหละครับ”หล่อนได้ยินคำตอบของเคลวินก็ยิ่งเอียงอาย แต่ทันทีที่จิตกับแจ่มยกอาหารมาตั้งบนโต๊ะ และกลิ่นอาหารหน้าตาดีโชยเข้ามาในจมูกเท่านั้น ความวิงเวียนพะอืดพะอมก็ตีตื้นขึ้นมากระจุกรออยู่ที่ลำคอ มือเล็กยกขึ้นปิดปาก“เป็นอะไรไปเฌอปราง ไม่สบายหรือ”หล่อนไม่อาจจะตอบความสงสัยของเคลวินได้ เพราะต้องรีบพุ่งตัวไปห้องน้ำให้ทันเวลาเสียงโอ้กอ้ากของเด็กสาวดังมาเข้าหูเคลวิน เขาลุกขึ้นยืนจะเดินเข้าไปดู แต่ป้าปราณีห้ามเอาไว้เสียก่อน จากนั้นก็สั่งให้จิตเข้าไปดูเฌอปรางแทน“จิต เอ็งเข้าไปดูหนูปรางหน่อย”“จ้ะ ป้า”“ส่วนเอ็งก็ไปยกน้ำส้มมาให้หนูปราง นังแจ่ม”“จ้ะป้า”สองสาวใช้หายกันไปคนละทิศละทางแล้ว ป้าปราณีก็มองหน้าเคลวินและ
เฌอปรางกำลังจะเลี้ยวเข้าเรือนพักคนงาน แต่ก็ต้องชะงักกึก เมื่อเคลวินปรากฏตัวตรงหน้าเสียก่อน เรือนกายล่ำสันในชุดทำงานและสวมหมวกปีกกว้างเดินเข้ามาหา“เอ่อ...”“เมื่อคืนฉันก็ทำโทษเธอทั้งคืนแล้ว ยังไม่เข็ดอีกหรือเฌอปราง”“หนู... แค่มาเอากระเป๋าค่ะ”“ไม่ต้อง เดี๋ยวให้คนงานยกไปให้” เขาก้าวเข้ามาใกล้จนหล่อนขยับถอยหลังหนีไม่ทัน ดวงตาของเขาที่จ้องมองมา มันทำให้หล่อนอดนึกถึงเรื่องร้อนฉ่าเมื่อคืนนี้ไม่ได้“กลับเข้าบ้านด้วยกัน ฉันหิวแล้ว”“หิว...?”เขาอมยิ้มเมื่อเห็นเด็กสาวตีความหมายของคำพูดไปไกลกว่าที่เป็นจริง“ฉันยังไม่ได้กินมื้อเช้าเลย” เขาจ้องหน้าหล่อน “เพราะรอเด็กขี้เซาคนหนึ่งตื่นน่ะ”“เอ่อ... หนูเหรอคะ”เขายกมือขึ้นยีเส้นผมนุ่มให้ยุ่งมากกว่าเดิม จากนั้นก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ดอมดมกลิ่นหอมละมุนด้วยปลายจมูกอย่างอดใจไม่ไหว เฌอปรางหน้าแดงระเรื่อ“พ่อ... พ่อเลี้ยงคะ เดี๋ยวใครมาเห็นค่ะ”เขาจำต้องตัดใจเงยหน้าออกห่างร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่น จากนั้นก็กุมข้อมือเล็กให้เดินเคียงข้างไปด้วยกันเฌอปรางอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา มองคนตัวโตที่มีพลังทางเพศสูงลิบอย่างเคลวินด้วยความรักหล่อนจะได้เดินเคียงข้างเขาอ