วิวาห์(ไม่)ไร้รัก
Writer : Aile'N
ตอนที่ 9
พอพ้นหน้าโรงแรมหรูออกมารินลดาก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา เมื่อพบว่ายังไม่ดึกเท่าไรก็คิดหาทางกลับบ้าน แท็กซี่นั้นเธอตัดทิ้งไปเป็นอย่างแรกเพราะมีประสบการณ์ไม่ค่อยจะดีด้วย แต่ชุดแบบนี้ให้ไปยืนโหนรถเมล์แบบแอร์ธรรมชาติร้อนๆ บวกควันรถก็ดูจะไม่เหมาะสักเท่าไร ถ้ารถเมล์แอร์เย็นๆ ก็คงพอได้อยู่ ถึงจะไม่ได้มีที่ให้นั่งในเวลารีบเร่งแบบนี้ก็ไม่เป็นไร
คิดได้แบบนั้นดวงตาคู่กลมก็สอดส่องหาป้ายรถเมล์ แต่ก็ไม่พบในระยะสายตามองเห็นเลยตัดสินใจออกเดินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบ ซึ่งก็กินเวลาไปหลายนาทีและอากาศก็ร้อนจนเหงื่อซึม ยืนรอสักพักรถเมล์ปรับอากาศสายที่ต้องการขึ้นก็ผ่านมา แม้ผู้คนจะเบียดเสียดเนื่องจากเยื้อแย่งกันกลับบ้าน แต่ไม่เป็นปัญหาเลยสำหรับร่างบางที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะอยู่เป็นประจำ
ใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ เนื่องจากการจราจรติดขัด ในที่สุดรินลดาก็กลับมาถึงบ้านอินทรเกษมกุล ท่ามกลางความแปลกใจระคนตกใจของคุณหญิงนาฏยาที่ยังไม่เข้านอนเพราะรอติดตามสถานการณ์ของลูกชายกับว่าที่ลูกสะใภ้อยู่ทุกขณะ แต่นอกจากจะกลับไวและไม่ได้ยินเสียงรถยนต์ของเจ้าลูกชายแล้วยังเห็นแค่ลูกสะใภ้เดินเข้าบ้านมาเพียงลำพังอีกต่างหาก
"อ้าว ทำไมกลับไวล่ะลูก แล้ว...พี่ธันย์ล่ะ" คุณหญิงเดินเข้ามาหาก่อนเอ่ยถามด้วยความข้องใจ ยิ่งเห็นสีหน้าลำบากใจของอีกฝ่ายก็ยิ่งไม่อยากจะคิดว่าเจ้าลูกชายจะแผลงฤทธิ์อะไรไว้บ้าง
"เขา...มีธุระต่อน่ะค่ะ หนูเลยกลับมาก่อน" รินลดาตอบเลี่ยงๆ ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าธุระที่ว่าคืออะไรและไปกับใคร คาดว่าพรุ่งนี้คุณหญิงก็น่าจะรู้เอง...
"พี่ธันย์เขาไม่ได้ข่มขู่หรือทำอะไรหนูใช่มั้ย" คนมีอายุหรี่ตาจับผิดอย่างไม่ไว้วางใจ จริงๆ ก็คิดไว้แล้วว่าการไปทานข้าวกันเพียงสองคนคงไม่พ้นว่าเจ้าลูกชายจะต้องพูดหรือข่มขู่อะไรคนตัวเล็กแน่ๆ แต่ถ้าไม่แต่งตั้งตัวเองเป็นแม่สื่อแม่ชักชาตินี้ทั้งชาติทั้งคู่ก็คงจะเป็นอยู่แบบนี้ ไม่พัฒนาความสัมพันธ์ไปไหน
"คุณแม่ก็น่าจะทราบดีนะคะว่าคุณเขาเป็นยังไง" รินลดายิ้มบาง ไม่ยอมรับตรงๆ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ ขนาดอยู่ต่อหน้าพ่อแม่เขายังตวาดจนเธอเสียขวัญ ฉะนั้นไม่ต้องเดาถึงโมเม้นท์ที่อยู่ด้วยกันตามลำพังให้เสียเวลาเลย
"อดทนได้มั้ยลูก สักวันพี่เขาคงจะดีขึ้น" มือนุ่มลูบแก้มใสพลางมองสบตากันอย่างเว้าวอน แล้วแบบนี้จะให้เธอปฏิเสธอะไรได้ นอกจากพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้
"หนูจะพยายามค่ะ...ดึกแล้วคุณแม่เข้านอนได้แล้วนะคะ หนูก็จะไปพักแล้วเหมือนกัน" ร่างบางตัดบท เดินจูงมือแม่ว่าที่สามีขึ้นมาส่งที่ห้องอย่างที่เคยทำ คุณหญิงเองก็ยอมว่าง่ายแม้จะยังอยากอยู่คุยต่อ แต่เห็นสีหน้าของว่าที่ลูกสะใภ้แล้วรู้สึกเห็นใจ ยอมปล่อยอีกฝ่ายกลับเข้าห้องไปพักผ่อนแต่โดยดี
เพียงชั่วข้ามคืนข่าวซุบซิบเรื่องรักสามเศร้าเราสามคนก็ถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง เมื่อมีมือดีแช๊ะภาพในตอนที่ทั้งสามนั่งร่วมโต๊ะทานข้าวพร้อมหน้ากัน ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะเหลือเพียงสองคนไปต่อกันที่ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง กระแสเป็นไปในทิศทางที่หลากหลาย บ้างก็เห็นใจรินลดาที่ถูกคนทั้งคู่ทำอะไรข้ามหน้าข้ามตา บ้างก็สงสารเกวลินที่ถูกแย่งคนรัก บ้างก็ต่อว่าวรธันย์ที่ทำตัวไม่เหมาะสม จับปลาสองมือมีคนใหม่ทั้งที่ยังไม่จบกับคนเก่า และอีกมากมายแล้วแต่ผู้คนจะเห็นต่างกันออกไป...
แน่นอนว่าคุณสุรศักดิ์กับคุณหญิงนาฏยาเองก็รู้เรื่องนั้นในวันต่อมา ทั้งคู่ยิ่งเทใจไปทางฝั่งรินลดาจนหมดเพราะนอกจากร่างบางจะไม่พูดถึงเรื่องที่สองคนนั้นทำลับหลังผู้เป็นพ่อแม่แล้วกระการทำของเกวลินยังตอกย้ำให้ยิ่งมั่นใจว่าควรเลือกผู้หญิงแบบไหนมาเป็นสะใภ้ คุณหญิงนั้นยอมไม่ได้กับสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังเรียกร้อง วันนี้ที่เป็นวันที่ร่างบางไม่มีเรียนเธอจึงชวนทั้งสามีและว่าที่ลูกสะใภ้เดินทางไปเยี่ยมเยียนเจ้าลูกชายที่บริษัทเสียหน่อย เมื่อคืนไม่กลับบ้านถ้าไม่เข้าบริษัทอีกเห็นทีคงต้องเรียกมาปรับพฤติกรรมกันเสียหน่อยแล้วล่ะ!
"อ๊ะ คุณท่านสวัสดีค่ะ" พนักงานต้อนร้อนรีบกุลีกุจอเข้ามาต้อนรับอดีตท่านประธานบริษัทกับภรรยาอย่างตื่นตระหนก เพราะหลังจากวางมือออกไปพักผ่อนที่บ้านก็แทบจะไม่เห็นพวกท่านเดินทางมาที่บริษัทด้วยตัวเองบ่อยนัก
"อืม วันนี้เจ้าธันย์เข้าบริษัทหรือเปล่า" คุณสุรศักดิ์พยักหน้ารับไว้ ก่อนหยุดยืนถามหาผู้เป็นประธานบริษัทคนปัจจุบันอย่างผิดสังเกต เพราะทุกครั้งที่มาก็เห็นขึ้นลิฟต์ไปหาที่ห้องทำงานเลย ไม่หยุดถามคนอื่นให้เสียเวลาแบบนี้
"อยู่ค่ะ...เอ่อ..." อีกฝ่ายตอบกลับ ก่อนจะมีท่าทีอึกอักเมื่อสังเกตเห็นหญิงสาวหน้าตาสวยหวานที่มากับคนทั้งสอง ในเวลานี้จะมีใครไม่รู้ข่าวคราวรักๆ ใคร่ๆ ของท่านประธานกันล่ะ แต่ถ้าทั้งสามคนขึ้นไปหาวรธันย์ตอนนี้...
"มีอะไร" อดีตท่านประธานกดเสียงต่ำจนฟังดูดุดัน คนถูกถามเลยออกอาการลนลาน ไม่อยากพูดก็ต้องพูดเพื่อความปลอดภัยในตำแหน่งหน้าที่การงานของตัวเอง
"ตอนนี้...คุณเกวลินก็อยู่ด้วยค่ะ! " พูดไปหญิงสาวก็แอบหดคอเกร็งโดยไม่รู้ตัว กลัวจะถูกดุทั้งที่หล่อนไม่ได้ทำอะไรผิด คนทั้งสามมีท่าทีเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ฟัง
"เกวลินมาที่นี่บ่อยหรอ? " คุณหญิงถามเสียงเรียบ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปทำอะไรให้คุณท่านถึงดูไม่ชอบหล่อนถึงขนาดชักสีหน้าไม่พอใจแบบนี้
"พักหลังๆ มานี้ก็...ค่อนข้างบ่อยค่ะ มาขลุกอยู่ในห้องกับท่านประธานทั้งวัน บ้างก็เดินโฉบไปโฉบมา" หญิงสาวตอบตามความจริง ไม่ค่อยระวังคำพูดนักเพราะแน่ใจว่าคุณท่านทั้งสองไม่ชอบอีกฝ่ายเช่นเดียวกับเธอและพนักงานคนอื่นๆ ที่เคยโดนเกวลินมองด้วยสายตาเหยียดหยามบ่อยๆ มาทีไรหล่อนก็มักจะเชิดและอวดเบ่งใส่คนอื่นราวกับเป็นเจ้าของบริษัทเสียเอง
"นี่คือคุณรินลดาหรือคุณหญิง เป็นคู่หมั้นและว่าที่ภรรยาของคุณธันย์ อีกหน่อยจะมาฝึกงานที่นี่ ยังไงก็รู้จักกันไว้นะ" คุณหญิงไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเกวลินอีกแต่จงใจแนะนำร่างบางให้พนักงานรู้จักด้วยน้ำเสียงอันดัง ให้ทุกคนได้ยินและรับรู้ทั่วกัน แม้ที่อยู่ตรงนี้จะมีพนักงานแค่ไม่กี่คน แต่ปากต่อปากไม่นานทุกคนจะต้องรู้อย่างแน่นอน
"สวัสดีค่ะคุณหญิง ดิฉันชื่อรัตนานะคะ หรือเรียกสั้นๆ ว่าจิ๊บก็ได้ค่ะ" รัตนารีบแนะนำตัวเองกับร่างบางอย่างกระตือรือร้น มองยังไงคนตรงหน้าก็ดูน่าคบหามากกว่าใครบางคน ยิ่งเป็นคุณท่านแนะนำเองด้วยแล้วไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่าหล่อนจะอยู่ข้างใคร
"สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่จิ๊บ" รินลดายกมือไหว้คนอายุมากกว่าด้วยรอยยิ้มที่ทำคนมองตาพร่าไปชั่วขณะ ขนาดเป็นผู้หญิงด้วยกันยังมองว่าคนตรงหน้ายิ้มสวยเสียจนเคลิ้มไปเลยทีเดียว
"เราขึ้นไปหาตาธันย์กันเถอะค่ะ น่าจะมีเรื่องที่ต้องคุยกันยาว! " คุณหญิงนาฏยาเอ่ยชวนสามีพร้อมคว้ามือว่าที่ลูกสะใภ้มาจับ ก่อนที่ทั้งสามคนจะพากันเดินไปขึ้นลิฟต์ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของเหล่าพนักงานที่มองตามอย่างลุ้นๆ
บ้างก็คิดไปต่างๆ นานาว่าเมื่อขึ้นไปเจอลูกชายอยู่กับผู้หญิงอีกคนทั้งที่พาสะใภ้ตัวจริงมาด้วยแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง บ้างก็นึกอยากจะแปลงร่างเป็นจิ้งจกเกาะผนังตามไปแอบดู บ้างก็แอบแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายว่าจะเชียร์ใคร แน่นอนว่าส่วนใหญ่ต้องเทใจไปให้ร่างบางที่อดีตท่านประธานพามาอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่เชียร์เกวลินแม้จะรู้ว่าสถานะความสำคัญของหล่อนนั้นสู้รินลดาที่มีพ่อแม่ฝ่ายชายหนุนหลังอยู่ไม่ได้ แต่ยังไงหล่อนก็เป็นคนที่มาก่อน ไม่สมควรจะถูกพรากคนรักไปง่ายๆ แบบนี้
"สวัสดีค่ะคุณท่าน คุณหญิง" เลขาคนเก่งรีบลุกขึ้นทักทายผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยใบหน้ายิ้มแย้มปกปิดอาการตื่นตระหนกตกใจที่เห็นทั้งคู่ปรากฏตัวได้อย่างแนบเนียน แต่แล้วก็ต้องคิดหนักเมื่อเห็นอีกคนที่มาด้วย
อดีตท่านประธานและภรรยาเพียงพยักหน้ารับไหว้โดยไม่ได้พูดอะไร และไม่หยุดฝีเท้าที่กำลังเดินตรงไปยังประตูห้องบานใหญ่อันเป็นห้องทำงานของท่านประธานคนปัจจุบัน
ก๊อกๆ
ปัง..!
คนมีมารยาทก่อนจะเข้าไปก็ต้องเคาะประตูบอกกล่าวคนที่อยู่ข้างในก่อน แต่ไม่ได้รอฟังคำอนุญาต ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกไม่เบานัก และด้วยการมาอย่างกะทันหันนี้เองเลยทำให้มาได้จังหวะพอดิบพอดี...ภาพตรงหน้าก็คือเจ้าของห้องนั่งประจำอยู่ที่โต๊ะทำงานโดยมีร่างอรชรเกยอยู่บนตักในสภาพไม่เรียบร้อยทั้งเสื้อผ้าและการกระทำ
"ตาธันย์!! " ภาพที่เห็นทำคุณหญิงนาฏยาโกรธจัดจนเผลอตวาดเรียกลูกชายเสียงดัง
"อุ้ย! คุณพ่อคุณแม่...สวัสดีค่ะ" เกวลินตกใจแต่ไม่ถึงกับลนลาน หล่อนทำเป็นรีบลงจากตักแกร่ง จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางแล้วยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองอย่างมีมารยาท ไม่ลืมเหลือบตามองมาที่รินลดาด้วยแววตาเวทนาระคนเยาะเย้ยอยู่ในที
"...พ่อกับแม่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ จะมาทำไมไม่โทรบอกก่อน" เจ้าของห้องที่เพิ่งหาเสียงเจอถามกลับอย่างเครียดขรึม ลำคอตีบตัน กระอักกระอ่วนใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าพ่อแม่จะบุกมาถึงบริษัท แถมยังพาใครอีกคนมาด้วย
"แม่ก็เพิ่งรู้นะว่าการที่พ่อกับแม่จะมาที่นี่ได้ต้องมีธุระเท่านั้น! และถ้าโทรมาบอกแม่ก็คงไม่ได้เห็นกับตาว่าแกพาใครมาทำตัวบัดสีบัดเถลิงไร้ยางอายในห้องทำงานแบบนี้ไง! " คุณหญิงยังคงไม่ลดระดับเสียง มือเล็กจิกเกรงจนสั่นคล้ายว่าโกรธจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ รินลดาเห็นท่าไม่ดีจึงคอยลูบแขนไว้ให้ใจเย็นๆ ด้วยสุขภาพของคุณหญิงที่ยังไม่แข็งแรงดีเลยกลัวความโกรธจะนำพาสิ่งไม่ดีบังเกิดกับร่างกายอ่อนแรงนี้
"แล้วมันยังไงครับ! เกวลินเป็นแฟนผม! พ่อกับแม่นั่นแหละ เลิกบงการชีวิตผมได้แล้ว ผมจะทำอะไรที่ไหนมันก็เรื่องของผม ผมโตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ เลิกยุ่งกับชีวิตผมสักที มันน่ารำคาญ!! " ร่างสูงตวาดกลับด้วยความโกรธจัดยิ่งกว่า เขาคิดว่ามันไม่แฟร์เลยที่คนเป็นแม่จะโกรธและเอาอารมณ์มาลงที่เขาเพียงเพราะเขาไม่สนใจจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านหามาให้ ชีวิตเป็นของเขาถ้าจะแต่งงานสร้างครบครัวกับใครสักคนเขาก็ต้องมีสิทธิ์เลือกภรรยาเอง ไม่ใช่หาใครที่ไหนก็ไม่รู้มาให้ราวกับหาของเล่นให้เด็กน้อยแบบนี้
สิ้นเสียงปะทะห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบสงบ ทว่าบรรยากาศมาคุจนหายใจลำบาก การทะเลาะกันรุนแรงของทั้งคู่ล้วนส่งผลเสียกับความรู้สึกของทุกคน...ไม่รวมเกวลินที่ยังคงทำหน้าระรื่นได้อยู่ ผู้เป็นแม่ที่ไม่เคยถูกลูกชายเพียงคนเดียวตะคอกใส่ถึงกับน้ำตาคลอก่อนรินไหลด้วยความเสียใจ...ภาพนั้นสะเทือนใจร่างบางอย่างมหาศาล การขึ้นเสียงและพูดจาไม่ดีใส่บุพการีเป็นสิ่งที่รินลดารับไม่ได้แต่ก็ไม่มีสิทธิ์เอ่ยอะไรด้วยเป็นเรื่องในครอบครัวของเขา
"...ก็ได้...ในเมื่อความหวังดีของฉันกับแม่แกมันทำให้แกรำคาญมากถึงขนาดนี้ ฉันกับแม่แกก็จะไม่มายุ่งกับชีวิตของแกอีก เชิญมีความสุขกับสิ่งที่แกเลือกเสียให้พอ...ถึงฉันกับแม่แกจะตาย...ก็ไม่ต้องมาเผาผีกัน! " คุณสุรศักดิ์ทนเห็นน้ำตาภรรยาผู้เป็นที่รักมากไม่ได้ เส้นความอดทนเลยขาดผึงไปตามๆ กัน เขาผิดเองที่ยัดเยียดความหวังดีให้ลูกมากเกินไปจนทำให้อะไรๆ มันย่ำแย่ไปหมด คนเป็นพ่อแม่เลี้ยงลูกได้ก็แค่ตัว...เห็นทีจะเป็นเรื่องจริง!
"มะ แม่...ผม..." วรธันย์หน้าซีดเผือด การที่เผลอตวาดใส่ผู้เป็นแม่ว่าทำเขารู้สึกเสียใจมากพอแล้ว การถูกพ่อตัดรอนความสัมพันธ์ชนิดไม่ให้ไปเผาผีทำเขาทั้งเสียใจและตกใจยิ่งกว่า เพราะไม่ได้ตั้งใจจะให้เรื่องราวมันลงเอยแบบนี้ ถึงเขาจะไม่เห็นด้วยกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ทั้งคู่ทำแต่เขาที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกย่อมต้องรักพ่อรักแม่เต็มหัวใจ
"กลับกันเถอะ...กลับไปอยู่ในที่ของเรา" ไม่มีใครสนใจว่าร่างสูงอยากจะพูดอะไรต่อ คุณสุรศักดิ์หันไปพูดกับภรรยาเสียงนุ่ม ปลายนิ้วยกขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากแก้มขาวแผ่วเบา เมื่อหมดธุระจะพูดก็ประคองร่างผอมบางออกจากห้องไปพร้อมว่าที่ลูกสะใภ้ที่กำลังจะกลายเป็นอดีต...เขาตัดสินใจแล้วว่าจะปล่อยวางเรื่องนี้และปลดปล่อยรินลดาเป็นอิสระ...
ทั้งสามคนเดินทางกลับบ้านด้วยบรรยากาศเศร้าซึม ไม่มีใครพูดอะไรเลยสักคำ มีเพียงมือเล็กของร่างบางกับมือหนาของสามีที่โอบประคองหัวใจอันบอบช้ำของคุณหญิงอย่างเงียบๆ ทั้งสามคนกลับถึงบ้านและเอาแต่นั่งนิ่งปลอบโยนความรู้สึกของกันและกันด้วยฝ่ามือและอ้อมกอดอันอบอุ่น
"ผมจะไม่ฝืนใจใครแล้วล่ะคุณหญิง...ผมไม่อยากให้ครอบครัวเราย่ำแย่ไปมากกว่านี้แล้ว..." ผู้เป็นใหญ่ในบ้านพูดขึ้นมาในที่สุด ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจหนักอย่างพยายามปล่อยวาง คนฟังไม่ได้ตอบอะไรเพียงพยักหน้ารับช้าๆ อย่างเข้าใจ
"เจ้าหญิง..." ดวงตาคมกล้ามองเลยมายังเด็กสาวที่นั่งถัดไปจากภรรยาด้วยแววตาอ่อนแสง ถึงจะรู้จักกันได้ไม่นานแต่ทั้งคู่ก็รู้ว่ารินลดาเป็นเด็กดี ดีจนไม่เหมาะสมกับลูกชายของเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเขาควรปล่อยให้อีกฝ่ายได้ไปพบเจอกับคนที่ดี คนที่รักกันจริงๆ ดีกว่าต้องมาทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักและไม่มีวันจะรักกันได้
"นับจากวันนี้ชีวิตหนูเป็นอิสระแล้วนะ...ลุงจะไม่เอาคำว่าบุญคุณมาบีบบังคับหนู หนูไม่ต้องทนแล้วล่ะ ขอให้ได้เจอคนดีๆ ที่รักหนูจริงๆ นะ ว่างๆ ก็กลับมาเยี่ยมคนแก่ๆ อย่างพวกเราบ้าง หรือจะอยู่ที่นี่ต่อก็ได้ พวกเรายินดีต้อนรับเสมอ" คำอวยพรกึ่งอำลาทำคนฟังใจหาย แม้จะไม่เต็มใจมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะลูกสะใภ้ แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองก็มีพระคุณและดีกับเธอมากจนหาไม่ได้ง่ายๆ ในสังคมคนมีเงิน ทั้งคู่ไม่รังเกียจที่เธอเป็นเพียงลูกแม่ค้า ไม่เคยแบ่งชนชั้น ไม่เคยเลือกปฏิบัติ เอ็นดูเธอตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ การที่เรื่องราวทั้งหมดมันจบไม่สวยทำให้เธอไม่อยากทิ้งพวกท่านไว้กับความเสียใจแบบนี้เลย
"หนูจะไม่ไปไหนทั้งนั้นค่ะ! หนูจะอยู่กับคุณพ่อคุณแม่จนกว่าจะถึงเวลาที่สมควรกลับไปอยู่ที่เดิม ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะถึงคุณธันย์จะยังไม่แต่งงานมีหลานให้อุ้ม แต่คุณพ่อคุณแม่ยังคงมีหนู ให้หนูเป็นลูกสาวอีกคนก็ได้...นะคะ" รินลดาเอ่ยเสียงใส ก่อนทรุดตัวลงไปนั่งบนพื้นซบตักคุณหญิงอย่างออดอ้อน เรียกรอยยิ้มบางเบาจากคนฟังได้อย่างง่ายดาย
"พ่อแม่ของหนูช่างโชคดีที่มีลูกสาวน่ารักขนาดนี้..." คุณหญิงเอ่ยเสียงเครือก่อนโน้มตัวลงไปดึงร่างบางขึ้นมากอดแน่น ใจพยายามปล่อยวางเรื่องลูกชายและมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ตรงหน้า ถึงจะไม่ได้รินลดามาเป็นสะใภ้แต่ก็ยังโชคดีที่ได้พบเจอกัน
"งั้น...วันนี้หนูจะเข้าครัวทำอะไรอร่อยๆ ให้ทานนะคะ คุณพ่อคุณแม่อยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ" ร่างบางบอกอย่างเอาใจ เอาเกียรติของลูกแม่ค้าเป็นประกันได้เลยว่าอาหารที่เธอทำอร่อยไม่แพ้ฝีมือแม่ครัวบ้านนี้อย่างแน่นอน!
"เอาสิ...เดี๋ยวแม่ไปช่วยด้วยดีกว่า ไม่ได้เข้าครัวเสียนานเลย" คุณหญิงฉีกยิ้มเต็มแก้ม บรรยากาศสีเทาๆ เลือนหายไปชั่วขณะ ในสายตาเห็นแต่คำว่า 'น่ารัก' จากเด็กสาวเต็มไปหมด
"ดีค่ะ งั้นหนูเป็นลูกมือให้เอง" รินลดายิ้มรับอย่างโล่งอกที่คุณหญิงไม่ยึดติดกับความเสียใจแล้ว คุณสุรศักดิ์เองก็เริ่มยิ้มออก ไม่นานคนทั้งคู่ก็ประคับประคองกันเดินเข้าครัวไปด้วยรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า
..
..
..
..
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 10วรธันย์กลับเข้าบ้านมาในตอนสี่ทุ่มครึ่ง ร่างกายหนักอึ้งมีอาการมึนเมาเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับไร้สติ เวลานี้ภายในบ้านเงียบสงัดเนื่องจากทุกคนคงจะเข้านอนกันหมดแล้ว มีเพียงเขาที่จิตใจยังคงกระสับกระส่ายร้อนรุ่มจนยากจะข่มตาหลับ เป็นเหตุให้ฝืนอาการมึนๆ ขับรถจากคอนโดกลับมาบ้าน ไม่รู้เหมือนกันว่ามาในเวลานี้แล้วจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อทุกคนต่างเข้านอนกันหมด รู้เพียงว่าทนอยู่ไม่ได้...ความรู้สึกผิดและเสียใจมันอัดแน่นอยู่เต็มอก ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างไม่มีทางที่เขาจะข่มตาหลับได้แน่ตั้งใจจะกลับมาขอโทษมารดาแต่ก็ดึกเกินกว่าจะกล้าเคาะประตูเรียกเลยเอาแต่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าประตูห้องนอนของอีกฝ่าย ถามว่าทำไมไม่รีบกลับมาตั้งแต่หัววัน ยืดอกสามศอกยอมรับตรงๆ เลยว่าไม่กล้า...ความผิดครั้งนี้ร้ายแรงจนเขาไม่อาจสู้หน้าบุพการี แม้จะระหองระแหงเรื่องแต่งงานกันมาตลอด แต่ไม่มีครั้งไหนที่เขากับพ่อแม่จะทะเลาะกันรุนแรงเท่าครั้งนี้มาก่อน เขาไม่เคยทำให้แม่ร้องไห้และไม่เคยทำให้พ่อโกรธถึงขั้นกล้าตัดความสัมพันธ์ ลูกชายเพียงคนเดียวที่เคยเป็นความหวังในทุกๆ เรื่องของพวกเขา มาวันนี้กลับถูกตั
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 11"พวกแก~ คุณธันนนนนย์!! " เสียงวีดว้ายของนักศึกษาหญิงกลุ่มที่เดินอยู่ข้างหน้าซึ่งก็ได้แก่สามสาว ฟิล์ม บีและต้นอ้อดังขึ้นเรียกความสนใจของนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจโดยเฉพาะสาขาการบัญชีที่เพิ่งได้เวลาเลิกเรียนพอดี ร่างบางที่เดินตามหลังมาหูผึ่งเล็กน้อยตอนได้ยินชื่อใครสักคนที่เหมือนกับว่าที่สามี ก่อนจะสะดุ้งเล็กๆ เมื่อสามสาวหันกลับมาจ้องหน้าด้วยแววตาอิจฉาระคนหมั่นไส้สาเหตุเป็นเพราะร่างสูงโปร่งของใครบางคนที่กำลังยืนทำเท่...สองมือล้วงกระเป๋ากางเกง เอนกายพิงสปอร์ตคาร์สุดหรูรออยู่หน้าตึกคณะฯ ดวงหน้าคมเข้มแม้เรียบนิ่งแต่หล่อเหลาจนคนเดินผ่านเหลียวหลังกลับมามองตามคอแทบเคล็ด ไม่ต้องเดาก็มองออกว่าคงมารอใครสักคน แต่ใครกันล่ะที่เป็นผู้โชคดีคนนั้น..."ไอ้หญิง! รีบๆ เดินเข้าสิ คุณเขามารอนานแล้วนะ! " สามสาวแหวกทางให้รินลดาเดินผ่านและพร้อมใจกันดันแผ่นหลังบางไปข้างหน้าอย่างเร่งเร้า อยากถามเหมือนกันว่ารู้ได้ยังไงว่าเขามารอนานแล้ว เขาอาจจะเพิ่งมาถึงก็ได้ไหม...แต่ก็ได้แค่คิด ไม่ได้พูดออกไปให้ถูกมองแรงใส่แต่อย่างใด...พอถูกสามสาวผลักดันให้เดินเข้าไปหาร่างสูงอย่างออก
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 12"นี่มันหมายความว่ายังไงคะธันย์ ไหนบอกจะช่วยกันกำจัดนังนั่นไงคะ คุณไปทำดีกับมันทำไม! ? " ความสัมพันธ์ของวรธันย์และรินลดาเริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และคนที่คอยจับตามองความเคลื่อนไหวของคนทั้งคู่มีหรือที่จะไม่รู้ว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นบ้าง วันนี้ถึงได้บุกมาหาเขาที่บริษัทตั้งแต่เช้า และใช่...เลขาเขาหยุดพายุลูกนี้ไม่ได้อีกครั้ง"ผมมีวิธีของผม การรวมหัวกันรุมรังแกอีกฝ่ายแบบนั้นไม่ใช่เรื่องดี" ปากกายี่ห้อดังยังคงถูกมือแกร่งจับตวัดไปมาบนเอกสารสำคัญ เช่นเดียวกับดวงตาคมกริบที่ยังคงเพ่งสมาธิไปที่มันมากกว่าคู่สนทนา นั่นยิ่งทำให้เกวลินเดือดดาลกว่าที่เป็น"วิธีอะไรของคุณ เกวไม่เห็นว่าคุณจะทำอะไรตรงไหน ตรงข้าม! คุณพามันไปกินข้าวซื้อแหวน ไม่ใช่ว่าหลงมารยามันแล้วหรือไงคะ! ? " เกวลินนับเป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญน้อยเมื่อเทียบกับคนอื่นที่เขาเคยมีสัมพันธ์มา แต่วันนี้หล่อนทำให้เขารู้แล้วว่าหล่อนไม่ได้ต่างไปจากคนอื่นเลยสักนิด"เกวลิน...คุณมีสิทธิ์ก้าวก่ายเรื่องของผมมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้ายังพูดไม่รู้เรื่องอยู่แบบนี้ก็เชิญที่ประตู ผมจะทำงาน" ด้วยเป็นคนใจร้อน
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 13ตั้งแต่แยกกันที่ร้านอาหารเมื่อวานรินลดาก็ไม่ได้เจอกับวรธันย์อีกเลยจนถึงตอนนี้ เขาไม่ได้กลับมานอนบ้านและเธอก็ได้ลุงพรเป็นสารถีขับรถรับส่งในวันนี้ เธอไม่คิดถามใครและก็ไม่มีใครบอกว่าเขาไปไหน ติดธุระอะไร ได้แต่เก็บความสงสัยและไม่พอใจลึกๆ เอาไว้ในใจ..."พี่ธันย์เขามีประชุมตั้งแต่เช้าตลอดทั้งวัน แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะจ๊ะ พี่เขากลับมาทันแน่นอน" คล้ายว่าแม่สามีจะรู้อะไรแม้กระทั่งความคิดตน จู่ๆ ท่านก็พูดขึ้นมาในตอนที่กำลังนั่งเฉิดฉายให้ช่างแต่งหน้าส่วนตัวสะบัดแปรงไปมาทั่วใบหน้า คนฟังเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่ายผ่านกระจกบานใหญ่ ไม่ได้ตอบอะไร เพียงยิ้มบางและพยักหน้ารับรู้เท่านั้นใช้เวลาร่วมชั่วโมงคุณหญิงก็แต่งหน้าทำผมเสร็จ ลุคสวยเปรี้ยวไม่เกรงใจอายุทำร่างบางจ้องมองอย่างตื่นเต้น ดูท่างานที่ไปจะไม่ธรรมดาจริงๆ เธอถึงมีโอกาสได้เห็นแม่สามีในลุคที่ฉีกจากเดิมออกไปไกลเสียขนาดนี้"จินนี่...เอาให้สวยที่สุดในงาน! " คำสั่งเฉียบขาดที่ถ่ายทอดไปยังช่างประจำตัวทำรินลดารู้สึกเสียวสันหลังพิกล..."ไม่มีปัญหาค่ะคุณแม่ จินนี่เอาประสบการณ์กว่ายี่สิบปีเป็นประกัน! น้องหญิงจะต้องสว
วิวาห์(ไม่)ไร้รัก Writer : Aile'N ตอนที่ 14"หื้ม? เป็นอะไรหรือเปล่าลูก ไม่สบายหรอคะ หน้าแดงๆ " คุณหญิงนาฏยาเอ่ยถามว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงอาทรห่วงใย นึกสงสัยว่าก่อนหน้านี้ยังเห็นอีกฝ่ายดีๆ อยู่เลย แต่หลังกลับจากไปตักอาหารกับเจ้าลูกชายไหงนั่งเงียบแก้มแดงปลั่งขนาดนี้ไปเสียได้"อะ เอ่อ หนู...ร้อนน่ะค่ะ" พอถูกทักกะทันหัน ใครคนนั้นก็ลนลานเลิกลั่ก กอปรกับยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริงอย่างมีพิรุธคนฟังหรี่ตาจับผิดตามสัญชาตญาณแต่ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ เพียงเหลือบตามองลูกชายที่ดูจะมีบรรยากาศรอบๆ ตัวเปลี่ยนไปเล็กน้อย ริมฝีปากหยักคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มแปลกๆ หรือว่า...ระหว่างที่หายไปด้วยกันจะมีอะไรเกิดขึ้น?"แม่ว่าแอร์ก็เย็นอยู่นะ เอ...หรือว่าเป็นอาการคนเขิน พี่ธันย์ทำหรือพูดอะไรให้เขินหรือเปล่าจ๊ะเนี่ย" คำถามลอยๆ เหมือนคนรู้ทันทำคนฟังลมหายใจสะดุด คล้ายคนทำผิดกำลังจะถูกจับได้ เพียงแต่เธอไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเสียหน่อย ก็แค่รู้สึกหน้าร้อนแปลกๆ ตอนได้ยินร่างสูงแทนตัวเองว่า 'พี่' ก็เท่านั้น...คนถูกไล่ต้อนมัวแต่อ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอะไร กระทั่งมีคนรู้จักมาชวนว่าที่แม่สามีไปทักทายเพื่อนๆ กลุ่มใหม่แล้ว
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 15ในตอนนี้...รินลดากำลังยืนเคว้งอยู่กลางห้องชุดสุดหรูของว่าที่สามีอย่างคนไม่รู้จะทำยังไงต่อไป คอนโดของท่านประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ดูเบาไม่ได้เลยจริงๆ นอกจากความกว้างขวางหรูหราแล้วยังแบ่งแยกสัดส่วนได้เหมือนกับยกบ้านทั้งหลังมาไว้ที่นี่ ความอลังการนี้ทำให้ทั้งชั้นมีเพียงสองห้องเท่านั้น อีกห้องหนึ่งเป็นของอดีตท่านประธานซึ่งก็คือคุณสุรศักดิ์ที่ทุ่มเงินซื้อเอาไว้ตั้งแต่สำนักงานขายยังไม่ทันเปิดให้จอง นานๆ ทีท่านจะมาพักบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่ ชั้นนี้จึงมีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวสูงมากๆ"เดี๋ยวพาไปดูห้องนอน" คนเหม่อได้สติในตอนที่เจ้าของห้องเดินมาบอก ก่อนที่เขาจะเดินนำไปที่ห้องนอนสองห้องที่อยู่ติดกันและเดินไปหยุดอยู่ที่ประตูห้องฝั่งซ้ายมือ"เธอพักห้องนี้ ส่วนข้างๆ นั่นห้องฉัน ขาดเหลืออะไรก็บอก ไม่ต้องเกรงใจ" วรธันย์ทำตัวเป็นเจ้าของบ้านที่ดี แม้จะมีผู้มาอาศัยร่วมกันทั้งที่ไม่เคยมีมาก่อนเขาก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด"ไปอาบน้ำเถอะ แล้วออกมาทานข้าว" ร่างบางพยักหน้ารับคำ ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันเข้าห้อง ระหว่างนั้นเจ้าบ้านก็โทรสั่งอาหารไว
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 16ตากลมเหล่มองผู้ร่วมโดยสารลิฟต์หลายต่อหลายครั้งอย่างไม่เข้าใจ อีกฝ่ายเอาแต่ยืนนิ่งทำหน้าทะมึนเหมือนจะไปฆ่าใครตาย ไอเย็นที่แผ่ออกมาสร้างความกดดันในพื้นที่คับแคบอย่างห้องโดยสารลิฟต์อย่างมหาศาลจนร่างบางแทบจะหายใจไม่ออก เขากำลังโกรธอันนี้เธอแน่ใจ แต่โกรธเรื่องอะไร?...เรื่องที่เธอไปเพ่นพ่านชั้นอื่น? เธอไปเพราะเรื่องงานนะ ไม่ได้หนีเที่ยวเล่นสักหน่อยหรือจะโกรธเรื่องอื่น?แล้ว...มันเรื่องอะไรกันเล่า"คุณ...โกรธฉันหรอคะ" จนแล้วจนเล่ารินลดาก็นึกไม่ออกว่าจริงๆ แล้ววรธันย์โกรธเธอเรื่องอะไรกันแน่ เมื่อคิดไม่ออกก็เลยตัดสินใจถามออกไปเสียเลย"ฉันไปเพราะเรื่องงานนะคะ ไม่ได้หนีเที่ยว" เสียงหวานพยายามแก้ต่างเมื่อร่างสูงไม่ยอมตอบคำถามก่อนหน้า ทำเพียงปรายตามองด้วยสายตาเรียบนิ่ง ให้ตาย...เธอเคยเจอแต่ตอนที่เขาโกรธแล้วโวยวาย ไม่เคยเจอโกรธแล้วเงียบแบบนี้มาก่อน"เอ่อ...ขอโทษด้วยนะคะ ถ้าเกิดว่าทำให้คุณไม่พอใจ" พออีกฝ่ายเอาแต่นิ่งเงียบ เธอก็จนปัญญาที่จะเซ้าซี้เอาคำตอบ สุดท้ายก็เลือกที่จะเอ่ยขอโทษทั้งที่ไม่รู้ว่าผิดอะไรออกไปแทน"พี่! " "คะ? " คำแรกที่ร่างสูงกระแทกเสีย
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 17"วันนี้กลับก่อนเลยนะ ฉันมีงานต้องเคลียร์ต่ออีกนิดหน่อย เดี๋ยวให้เมฆไปส่ง" ท่านประธานที่กลับเข้าห้องไปทำงานต่อตั้งแต่บ่ายเดินออกมาอีกครั้งในตอนสี่โมงเย็นพร้อมกับยื่นคีย์การ์ดสำรองให้คนที่อยู่ในสถานะนักศึกษาฝึกงาน"แล้ว...คุณศรัณไปไหนหรอคะ ไม่เห็นนานแล้ว" ร่างบางพยักหน้ารับ ก่อนทำท่าฉุกคิดเล็กน้อยแล้วถามออกมา คนชื่อเมฆเธอไม่เคยเห็นหน้าแต่ก็คงจะเป็นคนของเขา ส่วนคนที่เคยเห็นอยู่ช่วงแรกๆ ที่เข้ามาอยู่ในบ้านอีกฝ่ายก็ดันหายหน้าไป"ศรัณไปดูงานแทนฉันที่ระยอง" เขาตอบคำถาม แม้ฟังแล้วจะสงสัยว่าศรัณทำหน้าที่อะไรกันแน่ถึงได้ไปดูงานแทนเจ้านายได้ แต่เธอก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้อะไร ท่าทางของศรัณก็ดูภูมิฐาน อาจไม่ได้เป็นแค่คนขับรถอย่างที่เข้าใจ"อยากกินแกงเลียงกุ้งสด..." เสร็จธุระแล้วร่างสูงก็ยังไม่หนีไปไหน เอาแต่ยืนจ้องหน้าก่อนจะเปรยออกมาเสียงเรียบ"คะ? อ้อ ค่ะ" รินลดาทำหน้างงเล็กน้อย กว่าที่สมองจะประมวลผลจนเข้าใจก็ตอบรับออกไป แต่เขาก็ยังอยู่ที่เดิม"อยากทานอะไรอีกมั้ยคะ จะได้ทำไว้รอ" เธอเป็นฝ่ายถามบ้าง เผื่อว่าเขาจะอยากทานอะไรเพิ่ม"อะไรก็ได้แล้วแต่ถนัด" วรธันย์ต
วิวาห์ (ไม่) ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 34 (ตอนจบ) วันเวลาผ่านพ้นไปกิจวัตรประจำวันของรินลดาก็ยังคงวนเวียนแบบเดิมซ้ำๆจนอายุครรภ์ล่วงเลยมาจนถึงแปดเกือบเก้าเดือนและมีวันกำหนดคลอดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแต่เธอรู้ว่าอาจจะอยู่ได้ไม่ถึงวันนั้นเนื่องจากช่วงนี้มีอาการเจ็บท้องเตือนบ่อยขึ้นบางทีก็เจ็บจนร้องไห้ผู้เป็นสามีจึงต้องลางานมาอยู่เป็นเพื่อนในช่วงใกล้คลอด"ไหวไหม"ร่างสูงเอ่ยถามภรรยาท้องแก่ที่นั่งเอนหลังดมยาดมพลางหอบหายใจแรงกว่าปกติเนื่องจากเจ็บท้องเตือนขึ้นมาอีกแล้วและดูเหมือนวันนี้จะเจ็บมากกว่าปกติเขาจึงให้คนเตรียมรถเตรียมของใช้สำหรับคลอดไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน"อึก...ไม่ไหว...แฮ่ก"แรงปวดไม่มีท่าทีว่าจะเบาลงเลยแม้แต่น้อยมือเล็กที่บีบมือใหญ่ไว้ส่งผ่านความรู้สึกมาถึงร่างสูงแม้ไม่ทั้งหมดแต่ก็ทำให้เขาได้รับรู้ว่าเธอกำลังจะทนไม่ไหวไม่ต้องรอให้พูดอะไรซ้ำวรธันย์ก็เรียกเด็กในบ้านให้รีบเตรียมของขึ้นรถส่วนเขาก็ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีช้อนตัวภรรยาขึ้นอุ้มและตรงไปที่รถอย่างรวดเร็วเรียกได้ว่าสถานการณ์เริ่มวุ่นวายแต่ก็ไม่ถึงกับทำอะไรไม่ถูกเพราะทุกคนเตรียมการนี้ไว้สักพักใหญ่แล้วเพียงตื่นเต้นยิน
วิวาห์ (ไม่) ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 33ตกเย็นวรธันย์ก็พาภรรยามาที่บ้านใหญ่พร้อมด้วยกล่องของขวัญหนึ่งใบที่ทำเอาทุกคนต่างมองด้วยความสนใจครั้นถามว่าเอามาให้ใครและข้างในมีอะไรเจ้าตัวก็บ่ายเบี่ยงบอกแค่ว่าจะเฉลยในตอนที่ทานข้าวเสร็จเล่นเอาคุณหญิงนาฏยาคันไม้คันมือยิกๆอยากแย่งมาเปิดดูให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ทำได้แค่เก็บอาการและอดใจรออย่างใจเย็น"เอ้อแม่มีอะไรจะบอก"คุณหญิงพูดขึ้นท่ามกลางมื้ออาหารที่เริ่มดำเนินมาสักพักหนุ่มสาวเลยพร้อมใจกันวางช้อนส้อมเพื่อรอฟังในสิ่งที่มารดากำลังจะบอก"แม่คุยพ่อและคุยกับพ่อแม่หนูแล้วว่าจะให้ทั้งสองคนย้ายเข้ามาอยู่กับพวกเราที่นี่เนี่ยน้ากว่าจะเกลี้ยกล่อมได้เหนื่อยแทบตายแน่ะ"คุณหญิงบอกอย่างอารมณ์ดีได้ยินแบบนั้นรินลดาก็จ้องหน้าแม่สามีอย่างไม่อยากจะเชื่อหูก่อนจะหันไปมองพ่อกับแม่ที่ทำหน้าเกรงอกเกรงใจอยู่ไม่คลาย"ก็จะให้มาอยู่เฉยๆไม่ให้ทำอะไรเลยมันไม่ได้จริงๆค่ะเกรงใจ"อรนภาเอ่ยแทรกขึ้นมาความจริงคุณหญิงชวนเธอกับสามีมาอยู่ด้วยกันหลายครั้งแล้วแต่เธอปฏิเสธเพราะเกรงใจอีกอย่างก็ไม่คุ้นชินกับบ้านหลังใหญ่หรูหราแบบนี้เท่าไรคราวนี้ที่ยอมก็เพราะยื่นข้อเสนอไปว่าถ้าให้อยู่ก็ข
วิวาห์ (ไม่) ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 32สองอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกงเข็มนาฬิกา ว่าที่เจ้าสาวถูกปลุกขึ้นมาแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันด้วยทีมช่างที่คุณหญิงนาฏยาจัดหามาให้ ได้คุณหญิงและผู้เป็นแม่คอยช่วยดูแลอีกที กำหนดการในช่วงเช้าวันนี้คือการเข้าพิธีแต่งงานแบบไทย เรียบง่าย ลดขั้นตอนพิธีบางอย่างออกไป คงเหลือไว้แต่พิธีหลักๆ ที่สำคัญ สถานที่จัดงานคือบ้านหลังใหญ่ของฝ่ายว่าที่สามีที่ยังคงนอนหลับอยู่อีกห้องหนึ่ง เพราะขั้นตอนการแต่งตัวน้อยกว่าฝ่ายเจ้าสาวจึงยังไม่ถูกปลุกขึ้นมาพร้อมกันใช้เวลาร่วมสามชั่วโมงในการแต่งหน้าทำผมให้เจ้าสาวและบรรดาแม่ๆ กระทั่งแล้วเสร็จในช่วงเช้าพอดี ฝ่ายเจ้าบ่าวเองก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วทว่ายังถูกขัดขวางไม่ให้ได้เจอเจ้าสาวจนกว่าจะเริ่มพิธีไม่เพียงแค่เจ้าของงานที่ต้องเตรียมตัวแต่เช้า ฝ่ายจัดสถานที่และฝ่ายแม่ครัวเองก็วิ่งวุ่นไม่ต่างกันเพราะต้องเตรียมอาหารเลี้ยงพระและ แขกคนสำคัญที่แม้จะเชิญมาแค่ไม่กี่คนก็ต้องดูแลให้ดีสมฐานะเจ้าบ้าน พยายามให้มีข้อผิดพลาดน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"ใจเย็นๆ อย่าตื่นเต้นมากนัก เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไปซะก่อน" อรนภาลูบหลังลูกสาวเ
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 31ด้วยไม่ได้นอนทั้งคืนและอ่อนเพลียจากพิษไข้ คืนแรกที่ต้องนอนแยกห้องกันตามข้อตกลงเลยทำให้รินลดาหลับสนิท ต่างจากวรธันย์ที่นอนมองเพดานว่างเปล่ามานานหลายชั่วโมงแล้ว เขายังไม่มีทีท่าว่าจะง่วงเลยแม้แต่น้อย เขาคิดถึงร่างนุ่มนิ่มของคนรักที่เคยได้นอนกอด มากไปกว่านั้นคือเป็นห่วงกลัวว่าคนป่วยจะไข้ขึ้นสูงกลางดึกแล้วไม่มีคนดูแลสุดท้ายร่างสูงก็ยอมแพ้ต่อความห่วงใย เขาทนไม่ไหวจึงหอบเอาผ้าห่มกับหมอนเดินไปที่ห้องนอนเล็ก มือหมุนเปิดลูกบิดอย่างแผ่วเบา ก่อนเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียง ลงมือปูผ้าห่มลงบนพื้น ไม่ลืมตรวจเช็คอุณหภูมิของคนหลับด้วยว่าน่าเป็นห่วงหรือไม่ เมื่อพบว่ายังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงวรธันย์ก็ล้มตัวลงนอนข้างเตียง แต่ตั้งใจไว้ว่าจะต้องตื่นก่อนและรีบออกไปจากห้อง บทลงโทษของคนที่ทำอะไรไม่คิดคือแยกห้องนอนและห้ามวอแวอีกฝ่ายจนกว่าจะถึงวันแต่งงานในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า นี่แค่วันเดียวก็แทบจะทนไม่ได้แล้ว ไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะอดทนได้จนถึงวันแต่งงานหรือเปล่ารินลดาหลับยาวจนถึงเช้า เธอลืมตามองไปรอบๆ อย่างสำรวจ เพราะเมื่อคืนเหมือนจะมีบางช่วงที่กึ่งหลับกึ่งตื่นและรู้สึก
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 30"เฮ้อ...""อะไร ถอนหายใจแต่เช้า ไหวไหมเนี่ย ท่าทางเราดูเพลียๆ นะ ไม่ได้หลับได้นอนหรือไงหื้ม" เลขาท่านประธานถามขึ้นอย่างห่วงใยเมื่อเห็นเด็กฝึกงานในความปกครองนั่งถอนหายใจก่อนฟุบหน้าลงกับโต๊ะด้วยท่าทางอ่อนล้าในเช้าวันหนึ่ง จะว่าถูกเธอใช้งานหนักก็ไม่ใช่ ถึงจะเป็นเพียงนักศึกษาฝึกงานแต่พ่วงตำแหน่งคู่หมั้นของเจ้านาย ยังไงก็เปรียบเสมือนเจ้านายเธออีกคน ใครจะไปกล้าใช้งานหนักกัน"ประมาณนั้นแหละค่ะ เจ้าที่แรงมาก ไม่ยอมให้หลับให้นอนเลย" เสียงหวานอ่อนระโหยโรยแรงบ่นพึมพำออกมาคล้ายคุยกันตัวเองมากกว่า คำว่า 'เจ้าที่แรง' ทำคนฟังได้แต่ทำหน้าสงสัย พลันนึกไปถึงคอนโดหรูที่เจ้านายพัก ก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเจ้าที่แรง...ขณะที่รุ่นพี่คิดไปไกล...เจ้าที่ในความหมายของคนอายุน้อยกว่าตอนนี้กำลังนั่งจามอยู่ในห้องทำงานอย่างไม่ทราบสาเหตุ ใช่...เจ้าที่ที่ก่อกวนเวลานอนของเธอก็คือเจ้านายพี่นั่นแหละ!หลังจากวันสารภาพบาป (?) นี่ก็ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้ว และตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมารินลดาต้องรับมือกับ 'ผีทะเลกินดุ' แทบจะทุกคืน! พอได้มีคืนแรกด้วยกัน คืนต่อๆ ไปก็มาไวและถี่เสียจนตั้งรับไม
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 29"หนูกลัว..." น้ำเสียงเบาหวิวเอ่ยขึ้นในตอนที่ได้กลับมาเหยียบบ้านอินทรเกษมกุลอีกครั้ง แววตากลมใสสั่นระริก ดวงหน้าปรากฏความกังวลอย่างเห็นได้ชัด แม้จะคุยกันมาดีแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงๆ เธอก็ยังมีความพร้อมไม่มากพออยู่ดี"พี่อยู่ทั้งคน" ฝ่ามือใหญ่กุมทับมือเล็กที่เย็นเฉียบสร้างความอบอุ่นแผ่ซ่านไปถึงหัวใจ ทว่าก็ทำคนฟังใจชื้นขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะความวิตกกังวลมันมีมากกว่า เธอกลัวว่าพ่อกับแม่จะผิดหวังในตัวเธอมากกว่าว่าใครจะมองยังไง แต่ถ้าไม่พูดก็ไม่สบายใจอีกเหมือนกัน"ไปเถอะ เชื่อใจพี่...ไม่มีอะไรต้องกลัว" ร่างสูงให้กำลังใจ กระชับมือเล็กแน่นขึ้น ก่อนพาเดินเข้าบ้านไป ในเวลานี้ทุกคนต่างมานั่งรวมตัวกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นตามที่วรธันย์ได้โทรมาขอไว้ ทั้งพ่อแม่ของเขาและพ่อแม่ของรินลดา"อ้าว มากันแล้ว สวัสดีจ้ะ นั่งๆ" คุณหญิงนาฏยาทักทายทั้งคู่ด้วยรอยยิ้ม มือรับไหว้ว่าที่ลูกสะใภ้ก่อนเชิญทั้งสองมานั่งคุยกันระหว่างรอทานมื้อค่ำ"น้องหญิง ไม่สบายหายดีหรือยังคะ พี่ธันดูแลน้องดีหรือเปล่าเนี่ย" ประโยคแรกเอ่ยกับร่างบางด้วยรอยยิ้มสดใส ประโยคหลังหันมามองแรงใส่ล
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 28"คุณพิมพ์ วันนี้ผมไม่เข้าบริษัทนะ เลื่อนงานออกไปทั้งหมด บอกศรัณซื้อยาลดไข้กับข้าวต้มมาให้ผมที่คอนโดด้วย ขอบคุณ" มือเรียวกดวางสายทันทีหลังจากพูดธุระกับผู้เป็นเลขาจบ โทรศัพท์เครื่องหรูถูกวางทิ้งไว้อย่างไม่ใยดีหลังจากหมดประโยชน์ เนื่องจากเจ้าของเครื่องมีสิ่งสำคัญมากกว่าให้สนใจร่างบอบบางภายใต้เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขากำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอทว่าร่างกายแผ่ไอร้อนออกมาจนรู้สึกได้ คนเป็นไข้ต้องเช็ดตัว...คิดได้แบบนั้นวรธันย์จึงผละออกไปหาผ้าสะอาดกับชามใบเล็กๆ รองน้ำเกือบเต็ม ก่อนจะเดินกลับเข้ามาหาคนหลับอีกครั้งมือเรียวคว้ารีโมทมากดปิดแอร์เพราะกลัวคนป่วยจะหนาวระหว่างที่เช็ดตัวให้ ก่อนทำการขุดร่างคนป่วยขึ้นมาจากผ้าห่มผืนใหญ่ เปลื้องผ้าเธอจนหมด แล้วนำผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดไปตามลำตัวขาวผ่องซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยสีแดงเรื่อที่เขาฝากไว้เมื่อคืนอย่างระมัดระวังวรธันย์ข่มใจเช็ดตัวให้คนรักจนเสร็จก็ใส่เสื้อผ้ากลับคืนให้ ดึงผ้าห่มคลุมถึงลำคอก่อนกดเปิดแอร์และเพิ่มอุณหภูมิให้อุ่นขึ้น ก่อนเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำบ้าง ออกมาทันตอนได้ยินเสียงก
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 27รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังบอบบางก็แตะลงบนที่นอนนุ่ม ริมฝีปากอุ่นร้อนที่ตักตวงเอาความหอมหวานจนพอใจถูกถอนออกไปก่อนจูบซับเข้าที่ข้างขมับ พวงแก้ม ปลายคางและเลื่อนต่ำลงไปที่ซอกคอขาว ขณะที่ฝ่ามือลากไล้ไปตามส่วนเว้าโค้งของคนรัก กลิ่นกายหอมกรุ่นราวกับดอกไม้แรกแย้มทำสติสัมปชัญญะกระจัดกระเจิงยากที่จะควบคุมวรธันย์ห่างหายจากเรื่องบนเตียงไปนานมากๆ ตลอดมาเขาไม่เคยต้องอดทนกับใคร และก็คิดว่ายังทนต่อไปได้อีกนาน กระทั่งได้ยินคำว่า 'รัก' จากปากอิ่มเล็กๆ นั่น เขาถึงได้รู้ความจริงว่าความอดทนของเขามันหมดไปตั้งแต่วินาทีนั้น เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว!ด้านรินลดาเองก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปถ้าขืนเธอยังคงนิ่งเงียบ ปล่อยให้สถานการณ์มันไหลต่อเนื่องไปแบบนี้ เธอกำลังสับสนกับความต้องการจริงๆ ของตัวเองเพราะความคิดด้านดีกับด้านลบกำลังขัดแย้งกันมั่วไปหมด...'ห้ามชิงสุกก่อนห่าม' คือประโยคที่ไม่ว่าหญิงหรือชายก็มักจะเคยได้ยินพวกผู้ใหญ่พร่ำสอนกันมาตั้งแต่เล็กจนโตในสังคมไทย ทว่าเธอไม่เคยมีคนรักเลยไม่รู้ว่าคนอื่นๆ ที่เขามี เขาทำตามคำสอนนั้นได้จริงๆ หรือเปล่า เพราะอีกด้านหนึ่งเราก็
วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 26การอยู่เฉยๆ ในห้องชุดอันแสนกว้างใหญ่มันไร้ประโยชน์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อยากทำอะไรก็ขยับไม่ได้ดั่งใจ แต่จะให้อยู่เฉยๆ ทั้งวันรินลดาก็ทำไม่ได้ เมื่อทำงานบ้านทุกอย่างเสร็จสิ้นเธอก็ตั้งใจว่าจะลงไปเดินเล่นที่ซุปเปอร์มาเก็ตข้างล่างคอนโด เพราะตอนดูทีวีบังเอิญเปิดไปเจอรายการทำอาหารและขนม เลยนึกอยากทำขนมอร่อยๆ ไว้รอเจ้าของห้องกลับจากที่ทำงานร่างบางพาตัวเองค่อยๆ เดินไปที่ลิฟต์อย่างไม่รีบร้อน โชคดีที่คอนโดหรูแห่งนี้เงียบสงบ ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านเลยไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหรือกลัวว่าจะไปยืนเก้ๆ กังๆ ขวางทางใครเข้า"หญิง! " ใครสักคนที่กำลังจะเดินสวนเข้ามาในคอนโดเรียกชื่อเธอเสียงดัง ครั้นหันไปมองก็เห็นอีกฝ่ายยืนยิ้มแฉ่งก่อนจะปรี่เข้ามาลูบหัวลูบหาง (?) เธอด้วยความดีใจ"พี่อิฐ! " คราแรกที่ถูกเรียกเสียงดังยอมรับว่าค่อนข้างตกใจ แต่พอรู้ว่าเป็นใครรินลดาก็ออกอาการดีใจไม่ต่างกัน บุรุษเพศนั้นผ่านเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเธอแค่ไม่กี่คน หนึ่งในนั้นก็คือพี่รหัสคนนี้นี่เอง"โหย ไม่เจอกันนาน คิดถึงนะเนี่ย" อิทธิพัทธ์เขย่าไหล่เล็กเบาๆ ด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่สุดท้ายจะอดใ