มีเพียงภาพในความฝันเท่านั้นที่ลูน่าจะได้เห็นความห่วงใยและความอ่อนโยนของผู้ชายที่ชื่อโจชัวลูน่ามอบหัวใจให้โจชัวมาเป็นเวลาหลายปี แต่เขาไม่เคยตอบรับความรักจากเธอเลยสักครั้งแต่ถึงอย่างนั้นในความฝันนี้เธอก็สัมผัสได้ถึงความรักและความห่วงใยอย่างที่เธอเคยต้องการ “คุณจะไม่เป็นอะไร”ลูน่าอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น แต่เธอยังพอหลงเหลือสติพอให้ได้ยินเสียงทุ้มต่ำที่พร่ำบอกประโยคหนึ่งดังก้องอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมาลูน่ายิ้มอย่างขมขื่น จะดีแค่ไหนหากเธอตกอยู่ในห้วงความฝันนี้ต่อไปโดยไม่ตื่นขึ้นมาอีก...…ลูน่าตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมา เธอค่อย ๆ เปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งจากการหลับใหลเป็นเวลานาน เมื่อได้สติจมูกก็พลันตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นยาฆ่าเชื้อคิ้วสวยขมวดมุ่นในขณะที่ลืมตาด้วยความยากลำบาก เธอพยายามฝืนตัวเองให้ลืมตาตื่นตอนนี้เธออยู่ในโรงพยาบาลและอยู่ในห้องไอซียูมีอีกคนอยู่ในห้องกับเธอ เป็นผู้ชาย เขาสวมหน้ากากออกซิเจนอยู่และนอนอยู่บนเตียงข้าง ๆ ในตอนนี้ดวงตาลึกล้ำนั่นปิดอยู่เผยให้เห็นคิ้วเรียวคมสวยได้รูปและแพขนตายาวแสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ่านหน้าต่างตกกระทบใบหน้าเย็นชาแข็งกระด้างให้ดูอ่อนลงโจชั
ลูน่าถูกเข็นกลับเข้ามาในห้องไอซียูอีกครั้งห้องไอซียูนี้เต็มไปด้วยหมอ ชายหนุ่มในชุดคลุมของโรงพยาบาลกำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยท่าทีอ่อนแรง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง“พาเธอมาหาผม!”แม้ว่าน้ำเสียงเขาจะอ่อนแรงแต่กลับหนักแน่นและทรงพลังจนคนได้ยินแทบจะหายใจไม่ออกลูน่าค่อย ๆ ก้าวขาลงจากเตียงโดยมีพยาบาลคอยช่วยประคอง เธอเดินเข้าไปหาอีกคนช้า ๆ “ถามหาฉันเหรอคะ คุณลินช์?” เสียงของลูน่าทำให้โจชัวคิ้วกระตุกเขาหันกลับมามองเธอด้วยแววตาเย็นชาราวกับยอดน้ำแข็งที่เสียดแทงทะลุผู้ที่ได้มอง“เธอคือคนที่พูดกับฉันเมื่อกี้นี้เหรอ?”“ใช่ค่ะ”“ที่พูดแบบนั้นหมายความว่ายังไง?” แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธจนไฟแทบปะทุ “รู้หรือไงว่าลูน่า กิบสันอยู่ที่ไหน?”ลูน่ายกมือขึ้นกอดอกพลางมองใบหน้าแสนเย็นชาของชายหนุ่มอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันไม่รู้ ก็แค่พูดไปอย่างนั้น คุณจะได้ตื่นเสียที”คิ้วสวยเลิกขึ้นพลางกล่าวต่ออย่างพอใจ “ดูเหมือนจะได้ผลดีเลยทีเดียว”“เธอ…!”โจชัวลงมาจากเตียงทันที เข็มที่ปักอยู่บนร่างของเขาถูกดึงกระชากออกอย่างแรงจนเลือดพุ่งกระฉูดไปทั่ว อุปกรณ์การรักษาที่เชื่อมต่อกับตัวเขาไว้พลันหล่นลงพื้นล้มระ
ลูน่ายิ้มให้พยาบาลสาวเล็กน้อยก่อนจะกลับมาที่เตียงแล้วถูกเข็นออกจากห้องไอซียู“ใช่ค่ะ” เธอถอนหายใจแล้วกล่าวเสริม “ฉันเคยได้ยินมานานแล้วว่าคุณลินช์ยังคงรักอดีตภรรยาของเขาอย่างสุดซึ้ง ตอนแรกคิดว่าไม่จริงเพราะสุดท้ายเขาก็หมั้นกับน้องสาวของภรรยาตัวเองหลังจากที่เธอตายไปไม่นาน นั่นมันเรียกว่ารักอย่างสุดซึ้งเสียที่ไหน ใช่ไหมล่ะคะ? แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า... เขาคงรักอดีตภรรยาจริง ๆ”ลูน่านอนเอนหลังพิงหัวเตียงขณะที่เธอฟังพยาบาลสาวพูด เมื่อได้ยินแล้วเธอก็อดยิ้มเยาะไม่ได้หากให้เธอเดานี่คงเป็นภาพลักษณ์ที่โจชัวต้องการให้ทุกคนเห็นว่าเขายังรักลูน่า กิบสันอยู่เต็มหัวใจ เขาโกหกเรื่องนี้มานานจนหลงอยู่ในคำโกหกนั่นเสียเองอีกทั้งยังไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนพูดถึงหรือทำร้ายลูน่า กิบสันอีกทว่าในตอนนั้นเขาเป็นคนเดียวที่ทำร้ายเธอมากที่สุดลูน่าหลับตาลงแล้วถอนหายใจพลางเงยหน้าขึ้น “ฉันหมดสติไปนานแค่ไหนคะ?”“สองวันค่ะ”“มีใครมาหาฉันไหมคะ?”“มีค่ะ” พยาบาลสาวกล่าวตอบขณะที่เธอสับเปลี่ยนสายน้ำเกลือ “มีเด็กผู้ชายและแม่ทูนหัวของเขามาเยี่ยมคุณ”กล่าวจบเธอก็แย้มยิ้มให้ลูน่า “เด็กน้อยหน้าตาดีทีเดียว ถ้ามีลูกสาวฉันก็
“คุณย่าทวดคะ!”เนลลี่กัดริมฝีปาก เธอจับนิ้วของลูน่าไว้ด้วยมือเล็กของเธอ “หนูบอกไปแล้วนี่คะ ว่าหนูต้องการให้คุณน้าเป็นคนดูแลหนูเท่านั้น! ถ้าคุณย่าทวดจะเป็นอย่างนี้ งั้นหนูไม่ชอบคุณย่าทวดแล้ว!”คุณย่าลินช์ลดความเย็นชาของตนเองลงและฝืนยิ้มออกมา “เนลลี่ ย่าบอกแล้วใช่ไหม หนูเป็นเจ้านาย จะไปทำตัวยึดติดกับคนรับใช้มากไม่ได้นะ”จากนั้นเธอก็มองพ่อบ้านอย่างเย็นชา “พาคุณหนูเจ้าหญิงน้อยออกไปเล่นซะสิ ฉันอยากคุยกับคุณลูน่าตามลำพัง”เนลลี่กัดริมฝีปาก เธอรู้ว่าบทสนทนาคงไม่เป็นประโยชน์อะไรมาก ดังนั้นเธอจึงรีบกอดแขนผอมบางของลูน่าไว้ในทันที“ไม่! หนูจะอยู่กับคุณน้า ใครมาแยกเราออกจากกัน หนูจะเกลียดคนคนนั้นตลอดไป!” สีหน้าของคุณย่าลินช์ดูน่าเกลียดน่ากลัวเมื่อเนลลี่พูดแบบนั้นออกมาโดยไม่ระมัดระวังโจชัวไม่ได้สนิทสนมใกล้ชิดกับผู้หญิงคนไหนมาตลอดหลายปีแล้ว คุณย่าลินช์ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าตัวเองจะได้มีโอกาสเห็นภาพคนทั้งสี่รุ่นพร้อมหน้าพร้อมตากันในตอนนี้อยู่ดี ๆ เหลนของเธอก็โผล่ออกมาอย่างไม่มีที่มาที่ไป คุณย่าลินช์จึงกลัวว่าจะเสียเธอไป ดังนั้นจึงดูแลเนลลี่ราวกับว่าเธอเป็นไข่ในหินถึงเธอจะยอมเนลลี่มาตลอด แต่
“ฉันแค่ชอบเนลลี่”“แค่ชอบเหรอ?” คุณย่าลินช์กล่าวเสียงต่ำอย่างเย็นชา “คงชอบพ่อมากกว่ามั้ง! ตอนที่ฉันไม่รู้ว่ามีเนลลี่อยู่ ฉันไม่รู้เลยว่าเธอชักจูงเก่งขนาดไหน เธอใช้ความรักและความผูกพันของเนลลี่มาอาศัยอยู่ในบลูเบย์วิลล่าอย่างหน้าไม่อาย เธอปลอบเนลลี่ไปด้วย อ่อยโจชัวไปด้วยน่ะสิ ถึงเธอจะมีหน้าสวย ๆ แต่จิตใจโสมมสิ้นดี!”ลูน่าคิดไว้แล้วว่าคุณย่าลินช์จะต้องพูดอย่างนั้น เธอหัวเราะเบา ๆ “คุณย่าลินช์ การคาดเดาของคุณย่าค่อนข้างมีตรรกะนะคะ แต่น่าเสียดายที่มันผิดหมดเลย”จากนั้นสายตาของลูน่าก็สะดุดเข้ากับสร้อยคอของคุณย่าลินช์ “คุณกิบสันมอบของขวัญให้คุณอีกแล้วเหรอคะ?”สร้อยคอครั้งนี้ก็มาจากชุดเดียวกันกับครั้งก่อน และแน่นอนว่าเป็นของปลอมอย่างไม่ต้องสงสัยคุณย่าลินช์กลอกตาอย่างเย็นชาใส่ลูน่า “ออร่าให้ฉันมา หล่อนตาถึงเรื่องพวกนี้มากกว่าเธอ! และที่สำคัญ ออร่าเป็นน้าแท้ ๆ ของเนลลี่ด้วย! เธอเอาชนะเรื่องนี้ไม่ได้หรอก! ถ้าให้ฉันเลือกระหว่างเธอกับออร่า ฉันก็ต้องเลือกออร่าเป็นหลานสะใภ้โดยไม่ลังเลใจแน่!”จากนั้นคุณย่าลินช์ก็ครางเสียงทุ้มต่ำ “สำหรับเธอ เธอควรรู้จักที่ต่ำที่สูง ที่เธอไปบลูเบย์วิลล่าก็เพื่อจง
เมื่อคุณย่าลินช์จากไป เนลลี่ก็รีบวิ่งไปที่ห้องพักผู้ป่วยของลูน่า เธอล็อกประตูและฝังตัวเองไว้ในอ้อมแขนของลูน่าพลางร้องไห้อย่างเศร้าโศก“คุณแม่ หนูไม่อยากแยกจากคุณแม่เลยค่ะ อย่ายอมตกลงกับคุณย่าทวดนะคะ หนูจะหาทางให้คุณแม่อยู่ต่อให้ได้!”ลูน่าส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “อย่าเสียแรงเปล่าเลย”เธอลูบแก้มของเนลลี่เบา ๆ “สุดท้ายลูกก็ต้องโตขึ้นใช่ไหม?”เนลลี่ร้องไห้โดยไม่พูดอะไร“ไม่ต้องห่วง แม่จะไม่ยอมให้ลูกตกอยู่ในอันตราย อีกไม่กี่วันหลังจากนี้พอเรื่องต่าง ๆ เข้ารูปเข้ารอย ลูกจะได้อยู่กับตระกูลลินช์ได้อย่างปลอดภัย ถึงพ่อของลูกจะมีข้อเสียเยอะ แต่เขาก็ทำดีกับลูก คุณย่าทวดของลูกก็เหมือนกัน แม่เห็นนะว่าท่านรักลูกมาก”เนลลี่กัดปากอย่างไม่พอใจ “ท่านไม่ได้รักหนู! ถ้าท่านรัก ทำไมท่านถึงไม่ยอมให้แม่อยู่กับหนู”“เพราะว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ เพราะอย่างนั้นท่านเลยมีเรื่องให้เป็นห่วงเยอะ”ที่จริงลูน่าเข้าใจว่าคุณย่าลินช์คิดอย่างไร ยังไงเนลลี่ก็เป็นลูกรักตระกูลลินช์ ถ้าเธอมายึดติดกับสาวใช้เอามาก ๆ เข้า คนในตระกูลลินช์คงไม่มีใครรับได้“หนูไม่สน หนูแค่ไม่ชอบ” เนลลี่เบ้ปากอย่างไม่พอใจ “ถ้าคุณย่าจะกำจัดแม่ คราว
นีลอายุเพียงหกขวบ แต่เขาพูดจาราวกับคนอายุ 26 ปีลูน่าถอนหายใจแผ่วเบาและตอบกลับ ‘แม่ตัดสินใจจะออกจากบลูเบย์วิลล่า หลังจากงานวันเกิดคุณย่าลินช์นะ’‘จะทิ้งเนลลี่ไว้คนเดียวเหรอครับ’‘ใช่’‘งั้นเราต้องจัดการกับออร่า กิบสันก่อน’นีลรีบตอบกลับไปว่า ‘ผมให้แซครวบรวมหลักฐานสำคัญ ถึงคนเลวนั่นจะไม่ทำอะไร แต่ผมจะเอาหลักฐานพวกนี้ไปให้ตำรวจ ออร่าต้องติดคุกอย่างน้อยสองถึงสามปี’ลูน่าถอนหายใจ ลูกชายของเธอเป็นผู้ใหญ่และเข้าใจทุกอย่างมาเสมอ ‘ช่วงสองสามวันนี้ลูกต้องปลอบเนลลี่ เธอไม่อยากให้แม่ไป ในเมื่อลูกเป็นคนแนะนำให้เธอกลับไปหาโจชัว ลูกก็ควรรับผิดชอบเรื่องนี้’นีลเงียบอยู่นานก่อนที่สุดท้ายเขาจะพูดว่าแอนน์กลับบ้านมาแล้วเพื่อยุติบทสนทนาหลังจากผ่านไปนาน โทรศัพท์ของลูน่าก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นข้อความจากไนเจล‘แม่ครับ ผมจะจัดการเรื่องเนลลี่เอง ยังไงเธอก็ฟังผมมากที่สุด แม่จัดการเรื่องออร่ากับนีลไปเถอะครับ’ไนเจลแทบจะไม่เคยส่งข้อความหาลูน่าเลย เมื่อเห็นข้อความเธอก็ถอนหายใจออกมา‘ขอบคุณนะ’‘ไม่เป็นไรครับ’ไนเจลถอนหายใจ‘แม่ครับ ผมไม่สนใจหรอกว่าตัวเองจะอยู่ได้อีกกี่ปี แต่ผมเป็นห่วงแม่นะ แล
ลูน่าตามลูคัสเข้าไปในห้องโจชัวกำลังนั่งพิงหัวเตียง เขาวางเอกสารไว้ด้านข้างด้วยท่าทางอันสง่างามก่อนจะเลิกคิ้วมองลูน่า “เธอยืนข้างนอกมองฉันมาตั้ง 12 นาที”ลูน่ายิ้มเล็กน้อย “คุณลินช์ คุณหล่อมากเสียจนฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึงยังไงล่ะคะ”โจชัวไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธคำชมของเธอโจชัวค่อย ๆ ใช้มือใหญ่ของเขาหยิบแก้วน้ำอุ่นที่ตั้งอยู่ข้างเตียงขึ้นมาจิบ“หล่อขนาดที่เธอต้องมาแอบมองเวลานี้เลยเหรอ?”จากนั้นเขาก็มองลูน่า “อยากได้สักหน่อยไหม?” โจชัวถามด้วยริมฝีปากที่เปื้อนน้ำเธอเดินไปหาเขาด้วยรอยยิ้มห่างเหินและรับแก้วมา เธอดื่มมันหมดในรวดเดียว “ขอบคุณค่ะ คุณลินช์”น้ำอุ่นไหลผ่านลำคอของเธอ อบอุ่นร่างกายของเธอ แต่หัวใจของเธอก็ยังคงเย็นเยียบ“ฉันได้ยินมาว่าเธอสัญญากับคุณย่าว่าจะไปจากบลูเบย์วิลล่าเหรอ?” โจชัวหรี่ตา ดวงตาของเขาลึกล้ำเสียจนยากจะเข้าใจ“เธอได้สิ่งที่เธอต้องการจากการอยู่ข้าง ๆ ฉันหรือยัง?”“ยังค่ะ” ลูน่าพาตัวเองไปนั่งลงบนเก้าอี้ และขยับเป็นท่าที่สบายตัว“ไม่ใกล้เลย”“แต่ก็ยังวางแผนจะไปงั้นเหรอ?”“ค่ะ” ลูน่าหัวเราะเบา ๆ “ฉันคิดว่าคุณจะอยากกำจัดฉันมาตลอดเสียอีก หลังงานวันเกิ
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ