หลังจากที่โจชัวออกไปแล้ว เนลลี่ก็ตื่นนอนและเดินลงมายังชั้นล่างเด็กหญิงตัวน้อยยังอยู่ในชุดนอนสีชมพูลายการ์ตูน เธอนั่งอย่างเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร“ทำไมวันนี้คุณพ่อถึงออกไปแต่เช้าล่ะคะ?”ลูน่าขมวดคิ้ว “เนลลี่”“หืม?”ลูน่ามองไปรอบตัว ทันทีที่แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในบ้าน เธอจึงถอนหายใจยาวขณะพูดอย่างแผ่วเบา “ถ้าวันข้างหน้าแม่ไม่ได้อยู่ที่นี่ หนูจะต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ เข้าใจไหม?”เนลลี่วางมันฝรั่งบดลงด้วยความตกใจ “คุณแม่คะ ทำไมคุณแม่จะไม่อยู่ที่นี่ล่ะคะ? เขาไล่คุณแม่เหรอคะ?”ลูน่าไม่ได้ตอบคำถามข้อนั้น “แม่แค่อยากให้หนูเรียนรู้และอยู่ได้ด้วยตัวเอง”เนลลี่ทำหน้ามุ่ย“หนูไม่อยากอยู่ด้วยตัวเองค่ะ ถ้าหนูอยู่กับตัวเอง ทั้งแม่ นีล และไนเจล ก็จะไม่ดูแลหนูอีก” เนลลี่พึมพำขณะเคี้ยวมันฝรั่งบดอย่างโกรธเกรี้ยว “หนูไม่อยากอยู่ด้วยตัวเอง ไม่อยากเชื่อฟังใคร ไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่!”ลูน่าที่นั่งอยู่เบื้องหน้าเนลลี่มองดูลูกสาวอย่างสิ้นหวังในขณะที่เธอถอนหายใจหญิงสาวหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเลขพัสดุที่มัลคอล์มส่งพัสดุสำหรับการทำเครื่องประดับมาให้เธอการตรวจสอบเลขพัสดุแสดงให้เห็นว่ามัลคอล์มใช
“ที่ย่าต้องเข้าโรงพยาบาลก็เพราะว่านายทำให้ย่าโกรธ ทำไมถึงยังไม่ไล่สาวใช้คนนั้นออกไปอีก?”โจชัวดึงเก้าอี้เข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ คุณย่าลินช์อย่างสง่าผ่าเผย “ออร่าดูแลคุณย่าดีแค่ไหนเหรอ? มันคุ้มไหมที่ทำเพื่อเธอขนาดนี้?”คุณย่าลินช์ไม่พอใจคำพูดของหลานชาย “โจชัว พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง? คิดว่าย่าสร้างเรื่องขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ? ทั้งหมดนี่เป็นเพราะแกนะ!”โจชัวโบกมือ “ผมจะให้แพทย์ฝีมือดีที่สุดจากต่างประเทศมาตรวจอาการของคุณย่าถ้าหากว่าคุณย่าไม่สบายจริง ๆ แต่คุณย่าไม่ได้ป่วย”โจชัวเหลียวมองออร่าที่ยืนอยู่ตรงประตู “ที่คุณตาบวมเพราะร้องไห้ คิดว่าคุ้มค่าหรือเปล่า?”ออร่าก้มศีรษะลงพร้อมทั้งกัดริมฝีปาก “ฉันเป็นห่วงคุณย่า...”โจชัวหัวเราะเยาะและเลิกสนใจเธอ เขาหันกลับมามองผู้เป็นย่า “คุณย่าก็อายุมากแล้ว ข้อห้ามของคุณย่าคือการพูดถึงเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย แต่ทำไมถึงมาอยู่โรงพยาบาลทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรด้วยล่ะครับ? คุณย่าไม่กลัวซวยหรือยังไง?”คุณย่าลินช์หน้าซีดเผือด“พอเถอะครับ ผมรู้ว่าอาการของคุณย่าเป็นยังไง ลืมไปแล้วเหรอว่าผมให้หมอคอยตรวจสุขภาพของคุณย่าทุกสัปดาห์? ครั้งสุดท้ายที่ตรวจคือเมื่อส
“ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้...”นีลซึ่งอยู่ที่ชั้นล่างของบ้านเช่าพยายามโทรหาลูน่า ทว่า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เขาลองติดต่อเนลลี่ผ่านสร้อยคอของเธอ แต่ก็เปล่าประโยชน์เหมือนกันนีลตื่นตระหนก เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ลูน่าโทรหาเด็กชายให้มาช่วยหาภาพสเก็ตช์ที่บ้านซึ่งพวกเขาเช่าอยู่ นีลจงใจรีบหนีออกมาจากบ้านแอนน์ แล้วจู่ ๆ เขากลับติดต่อผู้เป็นแม่กับน้องสาวไม่ได้ซะอย่างนั้น?ด้วยความกังวลใจ นีลขมวดคิ้วเข้าหากันไม่ว่าลูน่าจะอยู่ที่บลูเบย์วิลล่า หรืออยู่ระหว่างทางขับรถ ก็ไม่น่าจะมีที่ไหนที่ไม่มีสัญญาณมือถือเมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป นีลจึงหยิบกุญแจและขึ้นไปชั้นบน เมื่อมาถึงเขาก็สังเกตเห็นใครคนหนึ่งกำลังยืนเฝ้าต้นทางอยู่บริเวณทางเข้าบ้าน ชายคนนั้นจ้องมาที่นีลอย่างดุร้ายนีลรีบทำเป็นเดินไปที่บ้านใกล้ ๆ เด็กน้อยยืนอยู่ตรงประตูของเพื่อนบ้านขณะพยายามโทรออกอีกหลายรอบเป็นไปตามคาด สัญญาณโทรศัพท์ถูกระงับนีลนึกเฉลียวใจทันที แม่กับเนลลี่อยู่ในห้องนั้น! ต้องมีใครบางคนขังทั้งสองจากทางด้านนอกพร้อมกับตัดสัญญาณโทรศัพท์!คนพวกนั้นพยายามจะทำอะไร? นี่ต้องเป็นฝีมือของออร่า กิบสันแน่ ๆ!
ยูริไม่ได้ถามอะไรขณะที่เขาแบกนีลขึ้นหลังแล้ววิ่งขึ้นไปยังชั้นบนเพราะว่ายูริยังแข็งแรงกำยำสมกับเป็นบอดี้การ์ดหนุ่มวัยแรกรุ่นทำให้พวกเขามาถึงยังชั้นเก้าได้อย่างปลอดภัยในเวลารวดเร็วเมื่อเท้าแตะถึงพื้นชั้นเก้า โทรศัพท์ของนีลก็ดังขึ้นทันที “หัวหน้า บ้านที่ให้ผมจับตามองไว้ตอนนี้เกิดไฟไหม้ครับ มีคนหลายคนยืนขวางบ้านไว้ไม่ให้ใครเข้า พวกมันเยอะมากผมสู้ไม่ไหวและเข้าไปไม่ได้เลย แต่ผมแจ้งกู้ภัยไปแล้ว จะให้ผมทำยังไงต่อ?”นีลใกล้หมดสติเต็มทนหายนะไม่เคยรอใครมีคนกันประตูอยู่ แต่บ้านกำลังไฟไหม้ เขาจะทำอย่างไรถ้าหาโจชัวไม่เจอ?นีลรีบสาวเท้ายาว ๆ ตรงไปยังห้องของคุณย่าลินช์ เขากัดฟันกรอดและไม่ลืมที่จะกำชับแซคว่า “ถ่ายรูปกับวิดีโอเอาไว้แล้วส่งรูปของพวกที่กันประตูอยู่แต่ละคนมาให้ชัด ๆ!”ไม่ว่ายังไงเขาจะทำให้พวกมันต้องชดใช้!ในขณะเดียวกันที่ห้องพักผู้ป่วย…หญิงสูงวัยยังคงนอนอยู่บนเตียงและจี้ถามโจชัว “โจชัว ถ้าแกไม่มีเหตุผลให้ย่าภายในวันนี้ ย่าจะไม่ปล่อยแกไปไหนทั้งนั้น”“คุณย่าคะ อย่ามัวแต่คาดคั้นเอาผิดจากพี่โจชัวเลยค่ะ ทั้งหมดมันเป็นความผิดของฉัน…”ร่างเพรียวบางของหญิงสาวนั่งอยู่ข้าง ๆ พลางใช้ท
กลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นไปในอากาศทั้งบ้านตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นควันจนทำให้หายใจไม่ออกบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยวัตถุไวไฟ มันกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีโดยเฉพาะภาพเขียนที่มีอยู่เป็นกองเปลวเพลิงลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ลูน่าไม่มีเวลาจะมาคิดว่าใครต้องการปลิดชีวิตเธอ รู้แค่ว่าต้องรอด! อย่างน้อยเนลลี่ก็ต้องรอด! เธอจัดการห่อตัวเนลลี่ไว้ด้วยผ้าเช็ดตัวชุบน้ำจนชุ่มลูน่าเจอเชือกอยู่ในห้องจึงคว้ามันมาผูกเข้ากับตัวลูกน้อย “หนูยังจำทักษะการเอาตัวรอดที่คุณลุงมัลคอล์มสอนเมื่อครั้งล่าสุดได้ไหม?”“จำได้ค่ะ” เนลลี่กอดลูน่าไว้ด้วยดวงตาที่เอ่อไปด้วยน้ำสีใส “แต่คุณแม่คะ ถ้าเราไม่ไปด้วยกันหนูขอยอมตายด้วยกันเสียยังดีกว่า หนูไม่อยากรอดไปคนเดียว!”“ฟังแม่นะเนลลี่ แม่จะหาวิธีตามลูกออกไปแน่นอน”ลูน่าสูดลมหายใจลึกรวบรวมสติแล้วกล่าว “ยังมีคนอยู่ข้างนอกนั่น แม่จะหย่อนหนูลงไปจากหน้าต่างตรงนี้ ที่ชั้นสามข้างล่างมีคู่รักสูงอายุอยู่ แม่จะหย่อนหนูลงไปตรงระเบียงห้องนั้น ให้พวกเขาพาหนูเข้าไปข้างใน จากนั้นติดต่อพี่ชายของลูกแล้วโทรหาตำรวจ จำไว้ให้ดีว่าก่อนที่ตำรวจจะมาถึงห้ามไปไหน ให้อยู่แต่ในบ้านของพวกเขา เข้าใจไหม?”ลูน่ากลั
มีเพียงภาพในความฝันเท่านั้นที่ลูน่าจะได้เห็นความห่วงใยและความอ่อนโยนของผู้ชายที่ชื่อโจชัวลูน่ามอบหัวใจให้โจชัวมาเป็นเวลาหลายปี แต่เขาไม่เคยตอบรับความรักจากเธอเลยสักครั้งแต่ถึงอย่างนั้นในความฝันนี้เธอก็สัมผัสได้ถึงความรักและความห่วงใยอย่างที่เธอเคยต้องการ “คุณจะไม่เป็นอะไร”ลูน่าอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น แต่เธอยังพอหลงเหลือสติพอให้ได้ยินเสียงทุ้มต่ำที่พร่ำบอกประโยคหนึ่งดังก้องอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมาลูน่ายิ้มอย่างขมขื่น จะดีแค่ไหนหากเธอตกอยู่ในห้วงความฝันนี้ต่อไปโดยไม่ตื่นขึ้นมาอีก...…ลูน่าตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมา เธอค่อย ๆ เปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งจากการหลับใหลเป็นเวลานาน เมื่อได้สติจมูกก็พลันตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นยาฆ่าเชื้อคิ้วสวยขมวดมุ่นในขณะที่ลืมตาด้วยความยากลำบาก เธอพยายามฝืนตัวเองให้ลืมตาตื่นตอนนี้เธออยู่ในโรงพยาบาลและอยู่ในห้องไอซียูมีอีกคนอยู่ในห้องกับเธอ เป็นผู้ชาย เขาสวมหน้ากากออกซิเจนอยู่และนอนอยู่บนเตียงข้าง ๆ ในตอนนี้ดวงตาลึกล้ำนั่นปิดอยู่เผยให้เห็นคิ้วเรียวคมสวยได้รูปและแพขนตายาวแสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ่านหน้าต่างตกกระทบใบหน้าเย็นชาแข็งกระด้างให้ดูอ่อนลงโจชั
ลูน่าถูกเข็นกลับเข้ามาในห้องไอซียูอีกครั้งห้องไอซียูนี้เต็มไปด้วยหมอ ชายหนุ่มในชุดคลุมของโรงพยาบาลกำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยท่าทีอ่อนแรง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง“พาเธอมาหาผม!”แม้ว่าน้ำเสียงเขาจะอ่อนแรงแต่กลับหนักแน่นและทรงพลังจนคนได้ยินแทบจะหายใจไม่ออกลูน่าค่อย ๆ ก้าวขาลงจากเตียงโดยมีพยาบาลคอยช่วยประคอง เธอเดินเข้าไปหาอีกคนช้า ๆ “ถามหาฉันเหรอคะ คุณลินช์?” เสียงของลูน่าทำให้โจชัวคิ้วกระตุกเขาหันกลับมามองเธอด้วยแววตาเย็นชาราวกับยอดน้ำแข็งที่เสียดแทงทะลุผู้ที่ได้มอง“เธอคือคนที่พูดกับฉันเมื่อกี้นี้เหรอ?”“ใช่ค่ะ”“ที่พูดแบบนั้นหมายความว่ายังไง?” แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธจนไฟแทบปะทุ “รู้หรือไงว่าลูน่า กิบสันอยู่ที่ไหน?”ลูน่ายกมือขึ้นกอดอกพลางมองใบหน้าแสนเย็นชาของชายหนุ่มอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันไม่รู้ ก็แค่พูดไปอย่างนั้น คุณจะได้ตื่นเสียที”คิ้วสวยเลิกขึ้นพลางกล่าวต่ออย่างพอใจ “ดูเหมือนจะได้ผลดีเลยทีเดียว”“เธอ…!”โจชัวลงมาจากเตียงทันที เข็มที่ปักอยู่บนร่างของเขาถูกดึงกระชากออกอย่างแรงจนเลือดพุ่งกระฉูดไปทั่ว อุปกรณ์การรักษาที่เชื่อมต่อกับตัวเขาไว้พลันหล่นลงพื้นล้มระ
ลูน่ายิ้มให้พยาบาลสาวเล็กน้อยก่อนจะกลับมาที่เตียงแล้วถูกเข็นออกจากห้องไอซียู“ใช่ค่ะ” เธอถอนหายใจแล้วกล่าวเสริม “ฉันเคยได้ยินมานานแล้วว่าคุณลินช์ยังคงรักอดีตภรรยาของเขาอย่างสุดซึ้ง ตอนแรกคิดว่าไม่จริงเพราะสุดท้ายเขาก็หมั้นกับน้องสาวของภรรยาตัวเองหลังจากที่เธอตายไปไม่นาน นั่นมันเรียกว่ารักอย่างสุดซึ้งเสียที่ไหน ใช่ไหมล่ะคะ? แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า... เขาคงรักอดีตภรรยาจริง ๆ”ลูน่านอนเอนหลังพิงหัวเตียงขณะที่เธอฟังพยาบาลสาวพูด เมื่อได้ยินแล้วเธอก็อดยิ้มเยาะไม่ได้หากให้เธอเดานี่คงเป็นภาพลักษณ์ที่โจชัวต้องการให้ทุกคนเห็นว่าเขายังรักลูน่า กิบสันอยู่เต็มหัวใจ เขาโกหกเรื่องนี้มานานจนหลงอยู่ในคำโกหกนั่นเสียเองอีกทั้งยังไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนพูดถึงหรือทำร้ายลูน่า กิบสันอีกทว่าในตอนนั้นเขาเป็นคนเดียวที่ทำร้ายเธอมากที่สุดลูน่าหลับตาลงแล้วถอนหายใจพลางเงยหน้าขึ้น “ฉันหมดสติไปนานแค่ไหนคะ?”“สองวันค่ะ”“มีใครมาหาฉันไหมคะ?”“มีค่ะ” พยาบาลสาวกล่าวตอบขณะที่เธอสับเปลี่ยนสายน้ำเกลือ “มีเด็กผู้ชายและแม่ทูนหัวของเขามาเยี่ยมคุณ”กล่าวจบเธอก็แย้มยิ้มให้ลูน่า “เด็กน้อยหน้าตาดีทีเดียว ถ้ามีลูกสาวฉันก็
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ