“ไม่ต้องหรอก”ลูน่ายิ้ม “เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ น่ะ” จากนั้นเธอจึงหันหลังเดินไปหาบอดี้การ์ดสองคนอย่างงามสง่า “ไปกันเถอะ”ด้วยกิริยาอาการอันนุ่มนวลและเด็ดเดี่ยวของหญิงสาว เล่นเอาบอดี้การ์ดทั้งสองตกตะลึง แม้แต่คนขับรถเองก็เช่นกันผู้หญิงคนนี้เป็นแค่แม่บ้านจริง ๆ น่ะเหรอ? ทำไมถึงดูเป็นผู้รากมากดี แถมรับมือเหตุไม่คาดฝันได้อย่างใจเย็นขนาดนี้ได้?“ไปกันได้แล้ว”ขณะที่เหล่าบอดี้การ์ดยังคงอึ้งตะลึงงัน ลูน่าจึงเดินผ่านพวกเขาและมุ่งหน้าไปยังรถเก๋งซึ่งจอดอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับเปิดประตูก้าวขึ้นรถทันทีที่สองบอดี้การ์ดรู้สึกตัว ทั้งคู่จึงรีบขึ้นรถก่อนจะขับออกไปเมื่อรถเก๋งหายลับไปจากสายตา คนขับรถจึงค่อย ๆ ยกโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาลูคัส “คุณบีนครับ...”...คุณย่าลินช์กำลังรอลูน่าอยู่ภายในห้องรับประทานอาหารส่วนตัวของภัตตาคารแห่งหนึ่งบอดี้การ์ดผลักประตูให้เปิดออกก่อนลูน่าจะเดินเข้ามาอย่างสุขุม เธอนั่งลงตรงหน้าคุณย่าลินช์ “สวัสดีค่ะ”“เธอคือลูน่าสินะ?”คิ้วของคุณย่าลินช์ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยขณะพิจารณาสุภาพสตรีเจ้าของใบหน้างดงามละเอียดลออตรงหน้า “คิดไว้ไม่ผิด เธอเป็นคนใช้หน้าตาดึงดูดคนอื่นสินะ”ไ
ลูน่าหยิบเช็คขึ้นมาดูใกล้ ๆ ด้วยสายตาห่างเหิน “เงินสิบล้านนี่ไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะคะ”“ก็ใช่น่ะสิ” คุณย่าลินช์ขึ้นเสียงอย่างเย็นชา “เอาเงินไปและเก็บไว้ให้ดี แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน!”“ที่ท่านพูดก็มีเหตุผลค่ะ” ลูน่ารีบเก็บเช็คลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว“แต่สร้อยคอปลอม ๆ บนคอท่านอาจราคาไม่ถึงสิบล้านก็ได้ จริงไหมคะ?”เมื่อถูกทักว่าสร้อยคอเป็นของปลอม คุณย่าลินช์ถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ย “ยัยคนร้ายกาจ เธอนี่เจ้าเล่ห์จริง ๆ แค่เพราะได้ยินว่าหลานสะใภ้ของฉันให้สร้อยคอเส้นนี้มา เธอเลยจงใจบอกว่ามันเป็นของเก๊อย่างนั้นเหรอ?”คุณย่าลินช์กลอกตามองลูน่าอย่างเหยียดหยาม “สาวใช้ต่ำตมอย่างเธอรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับของปลอม? ว่าที่หลานสะใภ้ของฉันน่ะเป็นเด็กเรียบร้อยสมบูรณ์แบบ ไม่มีทางซื้อของเก๊หรอก! เธอเองต่างหากที่ไม่รู้จักมูลค่าของมัน!”คุณย่าลินช์ถลึงตามองลูน่าอย่างขุ่นเคือง “ถ้าเธอรับเงินก้อนนี้ไป ฉันจะถือว่าเธอให้คำสัญญาแล้ว ไปหาข้อแก้ตัวลาออกจากบลูเบย์วิลล่าภายในสามวันซะ! ไม่อย่างนั้น อย่ามาโทษว่าฉันเสียมารยาทล่ะ!”ทันใดนั้นเอง หญิงชราก็ลุกขึ้นยืนและเดินจากไปอย่างงามสง่าโดยมีคนรับใช้
“ใช่ค่ะ”ลูน่ามองชายหนุ่มด้วยสายตาจริงจัง “ถึงยังไงสำหรับตระกูลลินช์นั้น ฉันมีค่าตัวถึงสิบล้านบาท ขอขึ้นเงินเดือนคงไม่มากไปหรอกใช่ไหมคะ?”“ไม่เลย” โจชัววางเช็คลงแล้วนั่งเอนหลัง เขาเปลี่ยนมาอยู่ในอิริยาบถสบาย ๆ พร้อมทั้งมองไปที่ลูน่า “เธอเอาเช็คนี่มาให้ฉันเพื่อขอค่าจ้างเพิ่มงั้นเหรอ?”ระหว่างพวกเขาทั้งสอง โจชัวคือฝ่ายนั่ง ส่วนเธอคือฝ่ายยืน ทว่า ชายหนุ่มกลับแผ่รังสีความเหนือกว่าออกมา จนลูน่ารู้สึกว่าตัวเองคือคนที่โดนดูถูกหญิงสาวพยักหน้า “ใช่แล้วค่ะ” ใบหน้าเธอไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ “ฉันมีเป้าหมายเล็ก ๆ และอยากให้คุณลินช์ขึ้นเงินเดือน เงินล้านมันเยอะไปสำหรับสาวใช้อย่างฉัน ฉันรู้สึกผิดที่ได้รับมันค่ะ”โจชัวยืนขึ้นและเดินตรงมายังเธอทีละก้าว “อย่างนั้นเหรอ?”“ค่ะ”เขาเอื้อมมือออกไปและเชยคางของลูน่าขึ้นด้วยสองนิ้ว เขาบังคับให้อีกฝ่ายมองเข้าไปในดวงตาลุ่มลึกไร้ที่สิ้นสุดของตัวเอง“เธอปฏิเสธเงินก้อนนี้ไม่ใช่เพราะรู้สึกผิด แต่เป็นเพราะเธอไม่อยากจากฉันไปใช่หรือเปล่า?”เสียงของเขาทุ้มต่ำชวนฟัง น่าหลงใหลและดึงดูดใจถึงแม้ว่าลูน่าจะไม่หลงเหลือความรู้สึก ๆ ใดให้โจชัวอีกต่อไปแล้ว แต่เสียงของเขายัง
“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา”โจชัวพ่นลมหายใจเบา ๆ “เนลลี่ไม่พร้อมปล่อยเธอไป การเปลี่ยนพี่เลี้ยงจะต้องค่อยเป็นค่อยไป”ลูคัสมองดูโจชัวด้วยคิ้วที่ขมวดแน่นเข้าหากัน เขาสงสัยว่าเนลลี่เป็นคนเดียวที่ตัดใจจากลูน่าไม่ได้ หรือว่าโจชัวเองก็ตัดใจไม่ได้เหมือนกันหลังจากลูน่า กิบสันจากไปแล้ว โจชัวไม่เคยมีสาว ๆ คนไหนเคียงข้างกายมาเกือบหกปี ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ลูคัสคิดว่าสาวใช้ลูน่าคือตัวเลือกที่เหมาะเลยทีเดียว เพราะอย่างน้อยเนลลี่ก็ชอบเธอ และโจชัวเองก็ไม่ได้รังเกียจเธออีกด้วยอย่างไรก็ตาม...ลูคัสสูดลมหายใจเข้ายาว เขาคงจะทำอะไรมากไม่ได้นอกจากเตือนสติเจ้านาย “นายท่านครับ อย่าลืมนะครับว่าคุณยังต้องตามหาคุณผู้หญิงกลับมา”โจชัวเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มชวนสงสัย “นายพยายามจะสอนอะไรฉัน?”สายตาของโจชัวช่างเย็นยะเยือกจนลูคัสขนลุกซู่ในทันที“ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าผมจะต้องไปทำงานต่อ”พูดจบ ลูคัสก็รีบเปิดประตูหนีเอาชีวิตรอดไป ประตูห้องทำงานปิดลงอีกครั้งโจชัวดูรูปต่าง ๆ บนจอคอมพิวเตอร์และถอนหายใจเฮือกใหญ่ลูน่าส่งลูกสาวกลับมา แต่เธอกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไรกัน? ลูน่า กิบสัน...
“ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะทำแบบนั้นกับคุณย่าบ้าง คุณย่าใช้เงินสิบล้านเพื่อไล่ลูน่าไปจากผมเพราะคำพูดของออร่า แต่ว่า...“ฟังผมให้ดีนะครับ คุณย่าลินช์ ต่อให้ไม่มีลูน่าและต่อให้เธอรับเงินสิบล้านนี่และจากไป ผมก็ยังจะถอนหมั้นกับออร่าอยู่ดี เรื่องนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของผม เพราะฉะนั้นเก็บเงินของคุณย่าเอาไว้เถอะครับ”จากนั้นโจชัวก็ลุกขึ้นและเดินออกไป“โจชัว ลินช์!” คุณย่าลินช์ผู้เกรี้ยวกราดหยิบถ้วยชาบนโต๊ะกาแฟเขวี้ยงใส่โจชัวทันที เพล้ง!ถ้วยชาตกลงใกล้เท้าของชายหนุ่ม มันแตกเป็นเสี่ยง ๆ ขณะที่น้ำชากระเด็นเปรอะเปื้อนกางเกงของเขาโจชัวหยุดอยู่กับที่ แต่ไม่ได้เหลียวกลับไปมองคุณย่าลินช์ขบฟันแน่น “แกคิดจะทำบ้าอะไรกันแน่? ตอนนั้นแกยืนยันที่จะตบแต่งลูน่า กิบสันเข้ามาในตระกูลลินช์โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของพวกเรา เธอแต่งงานเป็นสะใภ้ของบ้านหลังนี้ตั้งหลายปี แต่กลับไม่มีลูกให้แกสักคน แล้วสุดท้ายเธอก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไป” “พอเธอจากไปแล้ว แกก็ปฏิเสธผู้หญิงทุกคนที่ครอบครัวจัดหาให้ แกยืนยันหนักแน่นที่จะให้ออร่าเป็นคู่หมั้น แต่พอเวลาผ่านมาห้าปีจนถึงตอนนี้ แกกลับคิดที่จะล้มเลิกง
“คุณย่าใจดีที่สุดในโลกเลยค่ะ!”ออร่าส่งกล่องเพชรในมือให้คุณย่าลินช์ด้วยความตื่นเต้น “ดูสิคะ คุณย่า นี่เป็นผลงานของคุณวาย ชุดเดียวกับสร้อยคอคุณย่าเลย สวยไหมคะ?”“สวยสิ” คุณย่าลินช์ชื่นชอบสร้อยคอ แต่จู่ ๆ คำพูดของสาวใช้ลูน่ากลับดังก้องเต็มสองหูของหญิงชราอย่างช่วยไม่ได้‘แต่สร้อยคอปลอม ๆ บนคอของคุณท่านอาจมีราคาไม่ถึงสิบล้านก็ได้ จริงไหมคะ?’คุณย่าลินช์ย่นคิ้วในขณะที่มองออร่าอย่างไม่สบายใจ “ออร่า สร้อยคอเธอน่ะ... ของเก๊หรือเปล่า?”ช่วงสองปีที่ผ่านมา คุณวายเป็นนักออกแบบอัญมณีผู้มีชื่อเสียงในต่างประเทศ ความโด่งดังของเขาเป็นรองนักออกแบบนามว่าออคุสที่โด่งดังที่สุดเท่านั้น แต่แล้วคุณวายกลับทิ้งวงการเครื่องประดับไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เพราะอย่างนั้นจึงทำให้ราคาเครื่องประดับที่เขาออกแบบพุ่งสูงขึ้น จากเดิมที่ราคาเพียงหลักล้านก็กลายเป็นสิบล้านในทันที คุณย่าลินช์เคยเห็นข่าวนี้มาก่อน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหญิงชราจึงมอบเงินจำนวนสิบล้านให้แก่ลูน่าเพราะเห็นแก่ว่าที่หลานสะใภ้คนนี้อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ลูน่าพูดเมื่อวันก่อนเปรียบเสมือนหนามยอกอก ตลอดเวลาที่คุณย่าลินช์นึกถึงถ้อยคำดังกล่าว เธอจะเริ่ม
อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดได้ว่าคุณย่าลินช์คือความหวังสุดท้ายที่จะทำให้เธอได้อยู่เคียงข้างโจชัว...ออร่ากัดฟันกรอดพร้อมกับกระทืบเท้า “ช่วยหาให้ฉันที”“อย่าเสียเวลาเลย” ผู้หญิงที่อยู่ปลายสายถอนหายใจยาว “คุณวายมีผลงานการออกแบบไม่มากมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แถมพวกเรายังซื้อชุดเครื่องประดับเก๊พวกนั้นจากคนที่ไม่รู้จักเจ้าของตัวจริง ส่วนเครื่องประดับที่เหลือก็ตกเป็นของคนอื่นไปแล้ว แต่ฉันได้ยินมาว่า ประธานควินน์กรุ๊ปที่ชื่อมัลคอล์ม ควินน์ มีเครื่องเพชรอยู่ชุดหนึ่ง เดี๋ยวฉันจะลองถามเขาดูให้”“โอเค”…ณ บลูเบย์วิลล่าฝนตกหนักตลอดทั้งคืน พอรุ่งสางอากาศจึงค่อนข้างเย็น ลูน่าใช้เวลาทั้งเช้าจัดการกับตู้เสื้อผ้าของเนลลี่ หญิงสาวซักทำความสะอาดเครื่องแต่งกายหน้าร้อนและจัดเก็บเข้าตู้แม้ว่าเนลลี่เพิ่งจะมาอยู่กับโจชัวได้ไม่ถึงเดือน แต่จำนวนชุดที่เด็กหญิงมีก็มากกว่าที่เคยมีเมื่อปีก่อนไปแล้วลูน่ารู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการจัดการตู้เสื้อผ้าของเนลลี่ จนเธอแทบจะลุกขึ้นยืนไม่ไหวเธอใช้มือทุบเบา ๆ บริเวณแผ่นหลังส่วนล่างและเหยียดตัวนอนลงบนเตียงเพื่อพักผ่อน ก่อนที่โทรศัพท์ของเธอจะดังขึ้นเป็นสายจากมัลคอล์ม ควินน์
หลังจากวางสายจากมัลคอล์มแล้ว ลูน่าก็เหยียดกายนอนลงบนเตียงเพื่อพักผ่อนอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานเธอก็เผลอหลับไปเธอฝันในฝันนั้นคือตอนที่เธอพบโจชัวเป็นครั้งแรก มันคือยามบ่ายในฤดูใบไม้ผลิที่อากาศอบอุ่นและมีแดดจัดลูน่ากำลังนั่งอยู่ใต้ต้นซากุระ เธอถือกระดานวาดรูปขณะสเก็ตช์ภาพไปด้วย ท่ามกลางดอกซากุระบานสะพรั่ง เธอเห็นหนุ่มน้อยคนหนึ่งในชุดสีขาวเขามีโครงหน้าชัดเจนและมีหน้าตาที่โดดเด่น เสื้อผ้าสีขาวยิ่งขับเน้นชายหนุ่มให้ดูห่างเหินและสูงส่งในคราวเดียวเขากำลังอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป ขณะที่คิ้วทั้งสองข้างนั้นขมวดเป็นบางคราวลูน่าร่างภาพของเขาโดยไม่รู้ตัว “ไม่เลวนี่” เมื่อใกล้ลงสีสุดท้ายเสร็จ จู่ ๆ เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มก็ดังขึ้นเต็มสองหูลูน่ามือไม้สั่น เธอจัดการระบายใบหน้าของเขาเป็นสีดำทันทีด้วยความตกใจสุดขีด เธอไม่รู้ว่าจะยืนขึ้นทักทายเขาหรือซ่อนภาพสเก็ตช์เอาไว้ดีในวินาทีนั้นเอง โจชัวซึ่งยืนอยู่ข้างหลังก็หัวเราะขึ้นอย่างอ่อนโยน “คุณทำผมน่าเกลียดซะแล้ว”เขาคว้าดินสอของเธอด้วยฝ่ามือใหญ่และนิ้วเรียวยาวของเขา เขาเขียนชุดตัวเลขลงบนภาพสเก็ตช์ของหญิงสาว“ผมจะให้โอก
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ