ลูน่าอดไม่ได้ที่จะชะงักไปกับคำพูดของเขาหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็กลับมาได้สติรู้สึกตัวจากความทรงจำอันไม่พึงประสงค์เหล่านั้นลูน่าเงยหน้าขึ้นและมองโจชัว “เราอยู่ในเมืองซี ไม่ใช่เมืองบันยันนะคะ”โจชัวกินอาหารหนึ่งคำอย่างสง่างาม เขาเยาะเย้ย “ฉันยังมีหนทางของตัวเองอยู่ แม้ว่าเราจะอยู่ในเมืองซีก็ตาม” เขากล่าวราวกับว่ามันเป็นข้อเท็จจริงลูน่าส่ายหัว“ไม่ว่าคุณจะทำหรือไม่ทำ แล้วต่อไปล่ะคะ? ไม่ว่ายังไงเราก็ยังต้องออกจากเมืองซีไป”ลูน่าสูดหายใจเข้าลึก “ในขณะที่เรายังอยู่ในเมืองซี ฉันยังสามารถโต้ตอบกับสิ่งที่เธอพูดได้ แต่ถ้าเราจากไปแล้วและพวกเขาหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีกครั้ง เราก็จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย”โจชัวขมวดคิ้ว น้ำเสียงของเขาเย็นชาและใช้อำนาจในขณะที่เขากล่าวเย้ยหยัน “เธอคิดว่าฉันไม่สามารถจัดการกับตระกูลที่อ่อนแออย่างลาร์สันได้หรือไง?”ตราบใดที่ต้องการ โจชัวก็สามารถทำได้แม้ว่าพวกเขาจะออกจากเมืองซีไปแล้วก็ตามเขาจะทำให้เกว็นเก็บเรื่องนี้ให้เงียบไปตลอดกาลเองแน่นอนว่าลูน่าก็รับรู้ถึงความสามารถของเขาเช่นกันมันก็แค่...“ฉันไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณคุณมากเกินไป”เธอลดสายตาลงและมองดูอ
“คุณจะได้กลับไปหาลุงแอนดี้ค่ะ”จากนั้นเฮลีย์ก็เก็บโทรศัพท์ของตัวเองเข้ากระเป๋าแล้วจากไปและในทันทีที่เฮลีย์จากไป เกว็นก็ได้รับสายจากอลิซทันที“เกว็นนี่...” เสียงของอลิซที่ปลายสายดูเหมือนเธอกำลังร้องไห้ “ขอบคุณมากที่ช่วยฉันนะ! เธอเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของฉันเลย!”เกว็นกัดริมฝีปากของเธอแน่นกว่าเดิม “ไม่เป็นไร…”อลิซคุยกับเกว็นอย่างตื่นเต้นอยู่พักหนึ่งก่อนจะวางสายไป“เกว็นนี่”เบ็นซึ่งนอนอยู่บนเตียงมองดูเกว็นอย่างจนปัญญา “คุณวางแผน…จะใส่ร้ายลูน่าในงานแถลงข่าวเช้าวันพรุ่งนี้จริง ๆ เหรอ?”เกว็นหลับตาลง “ฉันไม่มีทางเลือก”แม้ว่าลูน่าจะเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอในโรงเรียนมัธยม แต่พวกเขาก็ไม่มีพลังมากพอที่จะต่อกรกับคนพวกนั้นอลิซได้รับการสนับสนุนจากเฮลีย์ ในขณะที่เฮลีย์ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลวอลเตอร์ซึ่งมีอำนาจมากพอที่จะควบคุมทั้งเมืองซีได้เธอไม่สามารถขัดขืนได้เลย…ลูน่านอนอยู่บนโซฟาและหลับไปโดยไม่รู้ตัวหลังจากนั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมันเป็นสายมาจากธีโอ“ลูน่า ตอนนี้คุณอยู่ไหน?” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล “ผมเพิ่งออกมาจากสถานีตำรวจและได้ยินคนเริ่มพูดถึงคุณ ผมโท
ลูน่าขี้เกียจเกินกว่าจะมาพูดเรื่องไร้สาระกับอลิซต่อเธอมองไปยังผู้หญิงที่พยายามยั่วยุเธออย่างโจ่งแจ้ง “ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณนายลินช์ คุณคงจะต้องจับตาดูเขาให้ดี ไม่อย่างนั้น…”ลูน่ายิ้มขณะที่เดินไปหาอลิซเพื่อกระซิบข้างหูเธอ “ไม่อย่างนั้น ถ้ามีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาจับคุณลินช์ด้วย คำโกหกทั้งหมดของคุณก็จะสูญเปล่านะ”ลูน่าหันหลังและจากไป ปล่อยให้อลิซตกตะลึงและมีความโกรธเคืองปรากฏในดวงตาของเธออลิซยืนนิ่งอยู่ที่เดิมและมองดูลูน่าจากไปด้วยหมัดของเธอที่กำแน่นลูน่าจองหองมากกว่าเดิมอีก!…ที่ล็อบบี้ ลูน่านั่งลงบนโซฟาและรอให้ธีโอมาถึงเธอง่วงนอนเล็กน้อยจึงหลับตาพักผ่อนบนโซฟานิดหน่อย“วันนี้เจ้านายเราไปไหน?”“ฉันไม่รู้ ไม่ว่าเราจะติดต่อเขาอย่างไร ผู้ช่วยของเขาก็เป็นคนรับสาย แต่เราจะถือเอาคำพูดของผู้ช่วยมาเป็นคำสั่งจากเจ้านายไม่ได้น่ะสิ น่ารำคาญจริง ๆ เลย!”“เจ้านายมักจะมาตอนเที่ยงเพื่อตรวจดูทุกครั้งไม่ใช่เหรอ? วันนี้เขาไม่อยู่ที่นี่ มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาหรือเปล่า?”เสียงของพนักงานโรงแรมดังก้องอยู่ในหูของลูน่าคิ้วของเธอขมวดเข้าหากันตามสัญชาตญาณ แอนดี้ ลาร์สัน หายตัวไปงั้นเหรอ?สัญชาตญาณข
เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องของเธอ ธีโอก็ล้างผลไม้และวางไว้ตรงหน้าลูน่า“คุณวางแผนจะทำยังไง? เมื่อกี้ระหว่างคุยโทรศัพท์ เบ็นยืนกรานว่าพวกเขาแค่พยายามเอาชีวิตรอด พวกเขาจะไม่ยกเลิกงานแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ และเกว็นก็กำลังดำเนินการตามแผนแล้วก็จะบอกเรื่องของคุณ”ลูน่าหันไปมองธีโอแล้วยิ้ม “คุณกำลังจะบอกว่าฉันจำเป็นต้องมีคำอธิบายตามไปด้วยเหรอ?”ธีโอหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า“แต่ฉันไม่อยากทำแบบนั้น”ลูน่ายิ้มและกอดเข่าของเธอ เธอมองออกไปไกล ๆ “ธีโอ ช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”…วันถัดมางานแถลงข่าวของเกว็นดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ในหอประชุมขนาดเล็กใกล้กับโรงเรียนมัธยมโอเชียนเรย์หอประชุมเล็ก ๆ นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยผู้คนจนเกือบล้นออกมาผู้สื่อข่าวคร่ำครวญถึงสถานที่ขนาดเล็กคับแคบนี้ขณะที่พวกเขาถ่ายรูปเกว็นที่อยู่บนเวทีตลอดเวลาเกว็นนั่งอยู่บนเวที เธอเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วมองไปข้างหน้า โดยไม่รู้ว่าเธอกำลังมองอะไรอยู่ลูน่าแฝงตัวเข้าไปกับฝูงชนและนักข่าว ในมือของเธอคือบัตรผ่านที่ธีโอเอามาให้เธอเมื่อวันก่อนหน้านี้ลูน่าหามุมหนึ่งแล้วนั่งลงเธอสวมหูฟังไว้ที่หูซ้ายของตัวเอง เสียงของธีโอดังมาจากหูฟ
ธีโอไม่เจอแอนดี้เป็นไปได้มากว่าตระกูลวอลเตอร์คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะมีใครบางคนพยายามพาตัวแอนดี้ ลาร์สันออกมา ดังนั้นพวกเขาจึงย้ายเขาไปที่อื่นล่วงหน้าในขณะนั้นไม่ว่าพวกเขาจะพยายามทำอะไร พวกเขาก็สายเกินไปแล้วลูน่าเงยหน้าขึ้นมองเกว็นบนเวทีด้วยใบหน้าว่างเปล่าไร้อารมณ์ดวงตาของลูน่าเต็มไปด้วยความสิ้นหวังเธอไม่มีสิทธิและไม่สามารถตำหนิเกว็นได้ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับเกว็นแล้ว เธอเป็นเพียงเพื่อนสนิทในโรงเรียนมัธยมที่เธอไม่ได้พบมานานหลายปีเท่านั้นแต่คนที่ตระกูลวอลเตอร์จับไว้เป็นตัวประกันคือพ่อของเธอทุกคนต่างเห็นแก่ตัว เช่นเดียวกับลูน่า ทุกอย่างที่เธอทำก็เพียงเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยของไนเจลขณะที่ลูน่ากำลังเหม่อ เกว็นก็เริ่มพูดว่า “ฉันไม่พอใจลูน่ามาโดยตลอด”เกว็นจ้องมองกล้องของนักข่าวอย่างเย็นชา และน้ำเสียงของเธอก็มีพลังงานเช่นเดียวกับในดวงตาของเธอ“ตอนที่เธออยู่ในเมืองบันยัน มีข่าวฉาวและข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการที่เธอพยายามยั่วยวนโจชัว ลินช์ ซึ่งโจชัวเป็นสามีของอลิซ กิบสัน เพื่อนข้างโต๊ะสมัยเรียนมัธยมปลายของฉันเอง ดังนั้นฉันจึงมีอคติต่อเธอตั้งแต่แรกเริ่ม”คำพูดของเกว็นทำให้บรรยากาศ
เกว็นยิ้มให้กล้องของนักข่าว “นี่คือความจริงค่ะ”นักข่าวบางคนยังไม่มั่นใจ “แต่คุณเกว็น รูปภาพที่คุณเผยแพร่ก่อนหน้านี้พยายามบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างอย่างชัดเจน คุณยังบอกทุกคนด้วยว่าลูน่ากับโจชัวกำลังมีความสัมพันธ์กัน แล้วคุณจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร?”เกว็นสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วหัวเราะเบา ๆ “ฉันบอกได้แค่ว่าฉันกำลังถูกใครบางคนคุกคาม ส่วนเป็นใครฉันจะเปิดเผยทีหลัง ฉันยังบอกความจริงเบื้องหลังเหตุการณ์นี้กับทุกคนไม่ได้ เพราะมีหลายอย่างที่ฉันยังต้องทำให้แน่ใจ”จากนั้นเกว็นก็ยิ้มและลุกขึ้นยืน เธอโค้งคำนับให้กล้อง “ฉันต้องขอโทษสำหรับสิ่งที่ฉันพูดเมื่อวานนี้นะคะ ฉันขอโทษเพื่อนของฉันลูน่าด้วย ตั้งแต่แรกฉันก็เป็นคนเริ่มหาเรื่องเธอก่อน ฉันมุ่งเป้าไปที่เธอมาโดยตลอด แต่นอกจากเธอไม่ถือสาแล้ว เธอยังเต็มใจให้อภัยฉันและยอมกลายมาเป็นเพื่อนกับฉันด้วย ฉันมีความสุขจริง ๆ ค่ะ”เกว็นอยู่บนเวทีด้วยรอยยิ้มสดใสราวกับตอนพิธีบรรลุนิติภาวะในตอนนั้น“เหตุผลที่ฉันเลือกสถานที่นี้สำหรับงานแถลงข่าวก็เพราะว่าที่นี่คือที่ที่ฉันจัดเข้ารับพิธีบรรลุนิติภาวะ ก่อนหน้านี้ฉันกับเพื่อนรักเคยสาบานกันไว้ว่าเมื่อเราโตขึ้น เราควรมีค
หน้าตาของอลิซเปลี่ยนเป็นสีหน้าน่าเกลียดในทันทีเธอขมวดคิ้วและมองนักข่าวหญิงคนนั้นด้วยสายตาไม่เป็นมิตร “ฉันไม่เคยให้ใครบังคับลูน่าดื่ม ไปได้ยินมาจากไหน?”เมื่อเผชิญหน้ากับการจ้องมองและน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรของเธอ นักข่าวหญิงก็หัวเราะเบา ๆ “คุณกำลังบอกว่าไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นงั้นเหรอคะ?”จากนั้นนักข่าวก็ยิ้ม “แต่พยานคนอื่น ๆ ที่อยู่ที่นั่นพูดเป็นอย่างอื่นนะ”อลิซหรี่ตาลงเห็นได้ชัดว่านักข่าวคนนี้เตรียมตัวมาดังนั้นอลิซจึงเปลี่ยนกลยุทธ์ของเธอ “ก็ใช่ มันเกิดขึ้นแล้ว”เธอจับมือของลูน่าอย่างรักใคร่ด้วยฝ่ามือทั้งสองข้างของเธอ “ลูน่าและฉันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ดังนั้นฉันจึงจงใจหยอกล้อเธอเล่น เมื่อคืนเธอถูกใครบางคนพาตัวไปขณะมึนเมา สามีของฉันถึงกับส่งคนออกตามหาเธอเลยนะคะ”ลูน่ารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งที่อลิซจับมือของเธอเอาไว้แบบนั้นเธอขมวดคิ้วและพยายามดึงมือกลับ แต่ก็ทำไม่ได้นักข่าวหญิงที่อยู่ยืนอยู่ไกล ๆ ขมวดคิ้ว เธอต้องการพูดอย่างอื่น แต่คนอื่นขัดจังหวะเธอนักข่าวต่างรีบรุดไปข้างหน้าและถ่ายรูปที่อลิซกับลูน่าจับมือกัน“ใครจะคิดว่าพวกคุณสองคนจะสนิทกันขนาดนี้! ข่าวลือได้ถูกปัดเ
เขาส่งข้อความหาเธอ[ตระกูลวอลเตอร์ย้ายตัวแอนดี้ไปเมื่อเช้านี้ ขณะที่พวกเขากำลังย้ายเขาไป ลูคัสกับฉันก็ตามพวกเขาไป แอนดี้สบายดี ฉันจะจัดการส่วนที่เหลือ เรื่องนี้ให้จบลงที่นี่]ลูน่ามองโทรศัพท์ของเธอและจับจ้องที่ประโยคสุดท้าย [เรื่องนี้ให้จบลงที่นี่]พ่อของเกว็นถูกจับเอาไว้และแทบจะหนีไม่พ้น เกว็นเกือบจะฆ่าพ่อของเธอเองเธอเองก็เกือบจะถูกทำลายเช่นกันทั้งหมดนี้แลกกับข้อความสบาย ๆ ของโจชัวที่พูดออกมาง่าย ๆ ว่า [เรื่องนี้ให้จบลงที่นี่]ลูน่ายังคงยืนอยู่ในจุดเดิม เธอเห็นอลิซวิ่งไปหาเขาและกอดแขนของเขาไว้เธอรู้สึกราวกับว่ามีคนกำลังแทงหัวใจของเธอ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเขาตามใจและปกป้องอลิซอยู่เสมอเธอเป็นใครกัน เธอมันไม่ได้เป็นอะไรเลย ไม่ใช่ทั้งในตอนนั้น และไม่ใช่ทั้งในตอนนี้ด้วยเธอไม่กล้าคิดเลยว่า ถ้าเธอกลับมาหาเขาในฐานะลูน่า กิบสันเช่นเดียวกับอลิซ เขาจะปฏิบัติต่อเธออย่างดีหรือเปล่าเธอเดาว่ามันไม่น่าเป็นไปได้เขาอาจจะชอบผู้หญิงหลายคนได้ เขาอาจจะชอบผู้หญิงที่ใช้ชื่อและใบหน้าของเธอได้ แต่เขาก็จะไม่มีวันชอบเธอไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนไปเป็นใครก็ตามลูน่าจมอยู่กับความสิ้นหวังและความผิดหวังลูน่า
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ