“ไม่สนใจเหรอ? ถึงแม้จะเป็นเรื่องชีวิตและการเกิดของเธอก็ตามเหรอ?”“เรื่องชีวิตและการเกิดอะไรของเธอ?”“ฉันรู้ว่าเธอต้องสนใจ”ออร่าคลี่ยิ้ม “ขึ้นมาสิ ฉันไม่กินเธอหรอกน่า” …ออร่าพาลูน่าไปยังร้านกาแฟใกล้ ๆ“ว่ามาสิ”ขณะที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ลูน่าสูดลมหายใจเข้าลึกและมองผู้หญิงตรงหน้าเธอด้วยสายตาเย็นชาออร่าจิบกาแฟ “ฉันก็ต้องใช้เวลาประมวลผลข้อมูลนิดหนึ่ง...”จากนั้นเธอก็วางแก้วกาแฟในมือลง “พอได้ยินฉันบอกว่าอยากคุณเรื่องชีวิตและการเกิดของเธอขึ้นมา เธอเคยคิดไหมว่า บางทีอาจจะเป็นไปได้มาก ๆ นะว่าเธออาจไม่ใช่ลูกของพ่อกับแม่น่ะ”ลูน่าขมวดคิ้วและไม่ได้พูดอะไร“ถ้าเธอคิดอย่างนั้นมันก็เข้าใจได้นะ ยังไงซะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พ่อกับแม่ก็ทำกับเธอเหมือนเป็นลูกบุญธรรมอยู่แล้ว แต่ความจริงน่ะตรงกันข้ามเลย”ออร่าเปลี่ยนท่าเพื่อให้สบายตัว แล้วเอนหลังพิงโซฟา “ฉันไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพวกเขาหรอก”มือของลูน่าที่จับแก้วไว้ยกค้างกลางอากาศหลังจากนั้นครู่ใหญ่เธอจึงเปล่งเสียงอะไรออกมา “เป็นไปได้ยังไง...”พ่อแม่ของเธอ รักออร่าจับจิตจับใจ พวกเขาซื้อของแพง ๆ ดี ๆ ให้เธอ ในขณะที่เธอ ในฐานะพี่สาว ลูน่าได้แต่ใช
หลังออกจากร้านกาแฟ ลูน่าก็ไปตลาดสดเพื่อซื้อของกินของใช้แอนน์ทำอาหารไม่เก่ง ดังนั้นพอพวกเธออยู่ด้วยกัน ลูน่าจึงกลายเป็นคนทำอาหารและซื้อของเข้าบ้านไปขณะที่ถือของที่ซื้อมาไว้ในมือ ลูน่าก็ยืนอยู่ตรงหน้าประตู เธอคว้ากุญแจไว้ในตอนที่ได้ยินเสียงเขินอายของแอนน์ดังมาจากในบ้าน“เดี๋ยวลูน่าก็กลับบ้านมาแล้วนะจอห์น อย่าสิคะ...”“จะว่าไปเธอก็แทบเรียกได้ว่าเป็นกามเทพสื่อรักของเรานะ เธอไม่ว่าอะไรหรอก...”“ช่วงนี้เธออารมณ์ไม่ดีนะคะ ทุกอย่างยากลำบากไปหมดสำหรับเธอ เราไม่ควรไปกวนใจเธอนะคะ”“งั้นเราทำเร็ว ๆ ดีไหม ก่อนที่เธอจะกลับมา...”ลูน่าขมวดคิ้วจังหวะแย่ชะมัดเธอวางของที่ซื้อมาไว้หน้าประตูทางเข้า พ่นลมหายใจออกมาอย่างขุ่นเคืองแล้วหันหลังจากไปท้องฟ้ามืดสนิท และเมืองบันยันก็สว่างไสวไปด้วยแสงไฟนีออนที่ตกแต่งเป็นทิวแถวลูน่าเดินไปตามถนนตามลำพังเป็นเวลานานเธอเดินมาถึงทางเข้าหอศิลป์โดยไม่รู้ตัว เธอเหลือบมองป้ายหน้าทางเข้าที่แสดงว่า เมืองบันยันกำลังจัดแสดงงานของศิลปินชื่อดังธีโอ อัลเลนอยู่ธีโอ อัลเลนเป็นศิลปินที่เธอชื่นชอบมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วตอนเด็ก ๆ ลูน่าเคยเขียนไว้ในไดอารี่ของเธอถึงสิ
เมื่อพูดจบ เธอก็ชี้ไปที่รูปที่อยู่ข้างหลังอีกฝ่าย “คุณนายลินช์รู้ไหมคะว่าภาพนี้ชื่ออะไร?”อลิซกลอกตาผู้หญิงคนนี้พยายามจะทำอะไร ทดสอบเธอเหรอ?เธอตอบส่ง ๆ “รูปนี้ชื่อ ‘การแสดง’ มันใช้เพื่อวิจารณ์คนที่จงใจแสดงตัวโอ้อวดคนอื่นซึ่ง ๆ หน้า”ลูน่ายิ้ม “รูปนี้เหมาะกับคุณดีนะคะ”อลิซชะงักไป จากนั้นก็คิดได้ว่าลูน่าใช้รูปภาพนี้เพื่อเสียดสีเธอ!อีกฝ่ายกำลังบอกว่าเธอกำลังแสดงอยู่!ความโกรธเดือดปุด ๆ อยู่ในอกของเธอ เธอดึงแขนโจชัว “ที่รักคะ เธอบอกว่าเราไม่ได้รักกัน จูบฉันเพื่อพิสูจน์ให้เธอดูเลยค่ะ!”โจชัวชะงักไปเล็กน้อย แขนของเขายังคงอยู่ในมือของเธอการเจอลูน่าในสถานการณ์แบบนี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจมาก แล้วตอนนี้อลิซยังมาขอให้เขาแสดงความรักต่อหน้าเธออีกแล้วจะให้เขา...จูบเธองั้นเหรอ?เขาขมวดคิ้ว “เลิกโวยวายเถอะครับ”เพราะอลิซกลับมาหาเขาแล้ว เขาก็คิดว่าอยากจะจูบเธอแต่ทุกครั้งที่เขาเกือบจะได้ทำ ร่างกายของเขาก็ปฏิเสธเองโดยไม่รู้ตัวเขาถึงกับไปหาจิตแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องนี้ด้วยซ้ำจิตแพทย์บอกว่าอาจเป็นเพราะพวกเขาห่างกันมานานเกินไป ถึงแม้จิตใจจะรักกันดี แต่ร่างกายของพวกเขาก็รู้สึกเป็นคนแปล
“พระเจ้าช่วย...”ในทันทีที่นิ้วของลูน่าเจาะเข้าไปในรูปวาด อลิซก็อุทานออกมาอย่างตกใจ “นี่เป็นรูปที่คุณอัลเลนชอบที่สุดนะ! ลูน่า ถึงเธอจะเกลียดฉัน แต่เธอไม่ควรจะทำลายรูปวาดนี้แค่เพียงเพราะฉันชอบก็ได้นี่”โถงแสดงผลงานในตอนกลางคืนมีคนอยู่ไม่มาก และจุดที่พวกเธอยืนอยู่เป็นจุดที่ไฟค่อนข้างมืดสลัว จึงไม่มีใครเห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเธอในตอนแรก แต่ด้วยเสียงร้องของอลิซทำให้ทุกคนหันมามองพวกเธอก่อนที่ลูน่าจะได้ยืนตัวตรง กลุ่มคนก็จ้องมองมาอย่างวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิออกมา“เธอจะมางานนิทรรศการศิลปะทำไมถ้าไม่ได้ชอบงานศิลปะน่ะ”“เท่าที่รู้มามีคนเคยเสนอขอซื้อรูปนี้จากอาจารย์อัลเลนถึงร้อยล้านเลยนะ แต่เขาก็ปฏิเสธไป!”“ว้าวตายแล้ว เธอจะชดใช้ไหวไหมเนี่ย!”“ผู้หญิงขี้อิจฉานี่เสียสติกันไปหมดเลยหรือไง ทำลายของสวย ๆ งาม ๆ เพียงเพราะคนอื่นชอบเนี่ยนะ” …เสียงฝูงชนถกเถียงกันชัดเจนเต็มสองรูหูลูน่ายิ้มเล็กน้อยเธอไม่สนใจเสียงเหล่านั้นแล้วหันไปมองรูในรูปวาดที่เธอบังเอิญใช้นิ้วจิ้มลงไปตลอดมา เธอคิดว่าอลิซเป็นคนที่ฉวยโอกาสเงียบ ๆ และไม่เคยแสดงออกทางสีหน้าเลยยังไงซะการใช้เวลาและความพยายามเ
ที่มุมหนึ่งของชั้นสอง เขากำลังคุยโทรศัพท์และทิศทางที่เขากำลังมอง...ก็เป็นทางที่เธอกำลังผลักลูน่า!ใบหน้าของอลิซขาวซีดราวกับเห็นผีในทันที“คุณลินช์เป็นผู้สนับสนุนหลักของเราและเป็นสามีของคุณ เขาต้องยุติธรรมและเที่ยงตรงแน่นอน”พูดจบผู้จัดการก็รีบสั่งลูกน้องทันที “ไปเชิญคุณลินช์มาที่นี่!”สีหน้าของอลิซดูไม่ได้เลยเธอเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองอย่างสุดซึ้งโจชัวเห็นตอนที่เธอยื่นมือออกไปผลักลูน่าเธอเพิ่งกลับมาหาเขา เขายังไว้ตัวเรื่องเธอ ถ้าเขารู้ว่าเธอไม่ได้ใจดีและอ่อนโยนอย่างที่แสร้งทำละก็...เขาจะสงสัยเธอขึ้นมาไหม“คุณลูน่า”ผู้จัดการมองเธออย่างใจเย็น “ไม่ว่าคุณจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจทำลายรูปวาดนี้หรือว่าคุณถูกใส่ความ เดี๋ยวเราก็จะได้รู้กันในตอนที่คุณลินช์มาถึง”ลูน่ายืนอยู่ตรงที่เดิม มือของเธอกำแน่นอยู่ข้างตัว อลิซใส่ความว่าเธอทำลายภาพของคุณอัลเลน และตั้งใจพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอผ่านคลิปบันทึกภาพกล้องวงจรปิดรวมถึงพยานรู้เห็นด้วยแต่เธอไม่คิดเลยว่าภาพถูกจัดวางไว้ตรงจุดบอดและที่มากไปกว่านั้นคือ เธอไม่คิดเลยว่าโจชัวจะเป็นคนเดียวที่เป็นพยานรู้เห็นเธอหลับตาลงเขาจะ...บอก
โจชัวหยุดเดินเขาหันหลังแล้วมองไปยังผู้ชายที่อยู่ข้างหลังด้วยสีหน้าเย็นชาและพูดว่า “อาจารย์อัลเลน ผมว่าคุณคงจะเข้าใจอะไรผิด...”ข้าง ๆ เขาผู้จัดการรีบเข้าไปหาธีโอ “คนที่ทำลายภาพวาดของคุณคือคุณลูน่าครับ ไม่ใช่คุณนายลินช์”ธีโอยิ้มจาง ๆ แล้วหันไปมองทางลูน่าอย่างอ่อนโยน “ทำไมคุณไม่บอกว่าตัวเองโดนใส่ความล่ะครับ เพราะเขาจ่ายร้อยล้านชดเชยแทนคุณเหรอ?”ลูน่าหน้าซีดเธอเงยหน้ามองธีโอจากนั้นก็หันไปมองโจชัวใบหน้าของชายคนนั้นเย็นชาและไร้อารมณ์“เพราะว่าจะไม่มีใครเข้าข้างฉันต่างหากค่ะ”หลังจากนั้นเธอก็เชิดหน้ามองโจชัว พูดเน้นทีละคำ “ไม่มีคลิปกล้องวงจรปิดและพยานเพียงคนเดียวก็เลือกที่จะเงียบ ไม่ว่าฉันจะพูดอะไรก็คงไม่มีใครเชื่อฉัน”“ทำไมจะไม่มีใครเชื่อคุณ?”ธีโอหัวเราะเบา ๆ ขณะเดินเข้าไปหาลูน่าแล้วมองโจชัวด้วยดวงตาสดใสและใจเย็น “คุณลินช์ ในฐานะที่คุณเป็นพยานเพียงคนเดียว คุณไม่ควรต้องอธิบายให้ชัดเจนเหรอครับว่าใครเป็นคนทำลายภาพวาดนี้กันแน่ ผมให้ค่าภาพวาดนี้มากนะ แค่เงินอย่างเดียวไม่พอชดใช้หรอก”มือของโจชัวที่โอบเอวของอลิซอยู่เกร็งแน่นขึ้นเล็กน้อย “เรื่องนั้นมันสำคัญด้วยเหรอ?”“สำคัญสิครับ”
โจชัวเงยหน้ามองไปยังทิศทางที่ลูน่าและธีโอเดินออกไป มือของพวกเขายังคงประสานกันแนบแน่น พวกเขาเพิ่งรู้จักกันไม่กี่นาที แต่กลับจับมือถือแขนกันแบบคู่รักซะแล้ว!โจชัวอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วกับภาพที่เห็น“โจชัวคะ...คุณไม่เห็นอะไรจริง ๆ เหรอ?” อลิซถามอย่างไม่มั่นใจในตอนที่พวกเขากำลังเดินลงบันไดไปในขณะที่มือของเธอก็ยังจับแขนของเขาไว้ โจชัวมองไปข้างหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า “คุณคิดว่ายังไงล่ะ?”อลิซกัดปากและเงียบไป หลังจากนั้นเธอก็กล่าวว่า “ที่จริงฉัน...”“ผมรู้” โจชัวกล่าวแทรกอย่างอ่อนโยน “ผมรู้ว่าคุณพยายามแก้แค้นลูน่าเรื่องที่เธอขโมยเด็ก ๆ ไป แต่นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายนะอลิซ”เขาถอนหายใจก่อนจะพูดต่อว่า “ถ้าคุณยังโมโหเธอ คุณก็ไม่ควรขอให้ผมปล่อยเธอออกมา แล้วตอนนี้เราปล่อยเธอออกมาแล้ว คุณก็ไม่ควรพยายามแก้แค้นอะไรเธออีก” น้ำเสียงของเขาทุ้มลึกจริงจังอลิซกัดปากตัวเองอย่างประหม่า “ก็ได้ค่ะ ฉันจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”คราวหน้าเธอจะระวังมากกว่านี้โจชัวรู้ว่าเธออารมณ์เสีย เขาถอนหายใจและลูบมือเธออย่างอ่อนโยน “ผมรู้ว่าคุณยังเป็นผู้หญิงที่ใจดีและมีความคิดคนนั้นที่ผมเคยรู้จัก เพราะฉะนั้น
“ฉันแค่สงสัยน่ะค่ะ” ลูน่าที่นั่งอยู่ตรงเบาะข้างคนขับรู้สึกสนุกสนานพลางมองไปยังถนนตรงหน้าเธอ “คุณรู้ได้ยังไงคะว่าฉันไม่ใช่คนที่ทำรูปของคุณพัง?”ธีโอยิ้มตอบในขณะที่มือของเขายังคงกำไว้ที่พวงมาลัย “ถ้าผมบอกว่า ผมเชื่อว่าจันทร์เจ้าไม่ใช่คนแบบนั้นล่ะครับ คุณจะว่าไง?”ลูน่าตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะจากคำตอบของเขา ก่อนที่เสียงหัวเราะเบา ๆ จะหลุดออกมาจากปากของเธอ “คุณอัลเลนรู้จักฉันเหรอคะ?”“ผมเคยสนใจการออกแบบเครื่องเพชรด้วยเหมือนกัน แล้วก็ลองทำอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ายผมก็ยอมแพ้เพราะว่ามันยากเกินไป ในตอนนั้น ผมศึกษาค้นคว้าเยอะมากผมก็เลยคุ้นเคยกับงานของคุณ จะบอกว่าจันทร์เจ้าเป็นชื่อสามัญประจำวงการออกแบบเครื่องประดับก็คงไม่เกินจริง”ลูน่าแปลกใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น แต่หลังจากครุ่นคิดไปพักหนึ่ง เธอก็คิดว่าเรื่องนี้เป็นเหตุเป็นผล ถ้าไม่ใฃ่เพราะเขาจำได้ว่าเธอคือจันทร์เจ้า ตอนนั้นธีโอก็คงไม่ช่วยเธอและคงไม่เสนอตัวจะไปส่งเธอที่บ้านด้วยเธอแย้มยิ้มบาง ๆ “โลกกลมมากเลยนะคะ”“ต้องขอบคุณที่ตอนเด็ก ๆ ผมศึกษามาค่อนข้างเยอะ ถ้าไม่อย่างนั้น ผมคงพลาดโอกาสในการได้รู้จักกับท่านอาจารย์ในวันนี้ไป” เสียงของธีโอยังคงนุ่
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ