หลังจากวางสายพวกเขาก็ไปส่งนีลที่โรงเรียนอนุบาล ส่วนลิลลี่พาเนลลี่กลับไปยังบลูเบย์วิลล่าขณะยืนอยู่ข้างทาง เธอมองรถของเนลลี่ขับห่างออกไป เธอค่อย ๆ หายใจออกก่อนจะโบกมือเรียกแท็กซี่ “ไปโรงพยาบาลเซาท์ซิตี้ค่ะ”ลูน่าไม่สนใจโจชัวนัก แต่เธอจะไม่สนใจนาตาชาไม่ได้แม้ว่านาตาชาจะเข้าใจผิดเธอเหมือนคนอื่น ๆ แต่เธอจะทำเป็นไม่รู้แล้วไม่ไปเยี่ยมไม่ได้ยังไงนาตาชาก็เป็นคนให้ชีวิตเธอ ครั้งหนึ่งนาตาชาเคยเป็นคนสนิทที่สุดของเธอ และใกล้ชิดกว่าออร่าด้วยซ้ำ แต่...ด้วยคำพูดชวนเข้าใจผิดของออร่า ยิ่งนานวันเธอก็ยิ่งห่างจากครอบครัวของตัวเอง จนกระทั่งเธอเสียพวกเขาไป เธอจึงได้รู้ว่าเธอโง่เง่ามากแค่ไหนนาตาชาสุขภาพดีมาตลอด แต่การที่เธอเข้าโรงพยาบาลแบบกะทันหันแบบนี้ เธอเดาว่าคงจะเกี่ยวข้องกับออร่า เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่มีทางเก็บไว้เป็นความลับได้แน่การที่อยู่ ๆ ออร่าก็ถูกส่งตัวไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย ด้วยความคิดระแวดระวังของเธอเธอจะต้องรู้แน่ ๆ ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นในฐานะสมาชิกครอบครัวของออร่าเป็นเรื่องยากถ้าเธอตั้งใจจะสืบหาจริง ๆ ว่าในงานเลี้ยงคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ยังไงเสีย ถึงโจชัวจะมีอำนาจมากล้
ลูคัสเองก็เบียดเข้ามาในลิฟต์มาด้วยเมื่อประตูลิฟต์เปิด ลูคัสก็ตระหนักได้ว่าเขาลืมกดปุ่มชั้นที่เขาจะไป ดังนั้นเขาจึงยกมือขึ้นเพื่อกดปุ่มชั้น 18ไม่คาดคิดเลยว่าไฟปุ่มเลขชั้นนั้นจะสว่างอยู่ก่อนแล้วมีเพียงอีกคนเท่านั้นที่กดปุ่มได้ลูคัสหัวเราะเบา ๆ ขณะที่หยิบผลไม้และเค้กออกจากมือของลูน่า “ฉันช่วยถือนะ เธอนี่รู้จักเอาอกเอาใจจริง ๆ ลูน่า ฉันคิดว่าเธอไม่รู้เสียอีกว่านายท่านอยู่ชั้นไหน ไม่คิดเลยว่าเธอจะรู้ด้วยตัวเอง!”ลูน่าขมวดคิ้วพลางสู้กับลูคัสในการถือของขวัญของตัวเอง “นี่ไม่ใช่ของโจชัว”เธอเช็กกับเคาน์เตอร์แล้วว่านาตาชาอยู่ชั้น 18 เธอไม่รู้ว่าโจชัวอยู่ชั้นไหน และเธอไม่อยากจะรู้ด้วย!“เธอไม่ได้มาเยี่ยมนายท่านที่นี่เหรอ?” ลูคัสกลอกตามองเธอคิดว่าเธอแค่หัวแข็ง “งั้นเธอมาเยี่ยมใครแต่เช้าแบบนี้? เธอมีเพื่อนหรือครอบครัวคนอื่นอยู่ในเมืองบันยันนอกจากคุณหมอซิมเมอร์ด้วยเหรอ? ฉันคิดว่าเธออยู่ต่างประเทศมาตลอดเสียอีก”ลูน่าพูดไม่ออกกับคำถามของลูคัสที่ยิงมาเป็นชุดเสียงดังติ๊ง ประตูลิฟต์เปิดออกก่อนที่ลูน่าจะทันได้ทำอะไร ลูคัสก็ถือของขวัญที่เธอเตรียมไว้ให้นาตาชาเดินไปยังห้องที่อยู่ตรงสุดทางเดิน
ความกดอากาศภายในห้องพักผู้ป่วยของโรงพยาบาลลดลงเป็นอย่างมากดวงตาเย็นชาสีเข้มของโจชัวมองลูน่าที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าลูคัสรู้ว่าประโยคถัดมาของบทสนทนาไม่เหมาะกับสายตาของเขา ดังนั้นเขาจึงหันหลังและจากไปโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูข้างหลังตัวเองเมื่อประตูปิดลง โจชัวและลูน่าก็ถูกทิ้งให้อยู่ในสถานที่ปิดอย่างห้องพักผู้ป่วยของโรงพยาบาล บรรยากาศเงียบไปยกเว้นเพียงเสียงของผู้ประกาศข่าวกำลังอ่านข่าวในเมืองบันยันผ่านหน้าจอโทรทัศน์ทั้งสองมองหน้ากันอยู่นานก่อนสุดท้ายโจชัวจะนั่งพิงหัวเตียงด้วยดวงตาเย็นชาและห่างเหิน “เธอมาที่นี่ตั้งแต่เช้าและจงใจพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ดูเหมือนเธอจะผิดหวังมากใช่ไหม?”ทั้งร่างของลูน่าสั่นเทิ้มไปเล็กน้อยเธอหัวเราะเบา ๆ “อย่างแรกนะคะคุณลินช์ ฉันไม่ได้มาที่โรงพยาบาลเพื่อมาเยี่ยมคุณ ลูคัสเข้าใจผิดไปเองและลากฉันมาที่นี่ อย่างที่สอง ฉันผิดหวังกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมากจริง ๆ ในฐานะที่คุณเป็นผู้ชาย ฉันไม่ชอบการยอมแพ้หลังจากผ่านมาครึ่งทางแล้ว และอย่างสุดท้าย...”เธอมองเขาด้วยรอยยิ้มเย่อหยิ่งบนใบหน้าที่งดงามของเธอ “ถ้าคุณพร้อมจะสานต่อ ฉันก็รออยู่เสมอ ยังไงเราก็เค
“คุณลูน่า ไม่คิดเลยว่าคุณจะมาเยี่ยมฉัน” นาตาชาส่งยิ้มมาทางลูน่าอย่างอึดอัดใจ “ฉันได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงวันเกิดแล้วค่ะ”เธอมองลูน่าอย่างจริงจัง “ฉันควรจะขอบคุณคุณ ถึงลูกสาวคนโตของฉันจะไร้ความรับผิดชอบ ไม่ยอมกลับมาตลอดหลายปี แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณที่คุณดูแลเนลลี่มานาน”ลูน่าเม้มปากพลางยิ้มสุภาพ “ฉันเคยเป็นคนดูแลคุณหนูเนลลี่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉันควรทำอยู่แล้วค่ะ”“เอ่อ…” จากนั้นนาตาชาก็หาข้ออ้างขอให้พยาบาลออกจากห้องไป หลังจากพยาบาลจากไป เธอก็ส่งสัญญาณให้ลูน่าปิดประตู “ในฐานะแม่ ฉันก็มีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน“ฉันไม่คิดเลยว่าออร่าจะทำอะไรแบบนี้กับเนลลี่...นี่เป็นความผิดฉันเอง ฉันสอนเธอไม่ดีเอง”พูดจบเธอก็เงยหน้ามองเข้ามาในดวงตาของลูน่า “แต่ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ที่ออร่าอยากจะทำร้ายเนลลี่”คำพูดของเธอทำให้หัวใจของลูน่าดิ่งลงเหวลึกในอกในเมื่อเธอรู้เรื่องที่เกิดในงานเลี้ยงวันเกิด งั้นเธอก็ต้องรู้สิว่าหลักฐานที่ลูน่านำออกมาจะอธิบายทุกอย่างได้ถึงอย่างนั้นท่าทีของนาตาชาในตอนนี้แสดงให้เห็นว่าเธอไม่เชื่อในหลักฐานพวกนั้นเลยสักนิด เธอเชื่อเพียงออร่าเท่านั้นลูน่
ลูน่าขมวดคิ้วพร้อมยิ้มอย่างอ่อนแรง “มันเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงคะ?”เธอเห็นข่าวที่ประกาศในห้างตอนที่เธอไปกับนีลเมื่อคืน และมันก็แสดงรูปของเครื่องบินที่ออกบินไปนอกประเทศของออร่า แล้วยังมีรูปที่เธอถ่ายหน้ามหาวิทยาลัยในออสแลนด์ด้วย นั่นแปลว่าเธอจะต้องไม่ได้อยู่ในเมืองบันยันแล้ว“เป็นเรื่องจริงค่ะ” นาตาชาถอนหายใจ เธอเงยหน้าด้วยขอบตาที่เป็นสีแดงขณะมองลูน่า “ที่จริง...โจชัวไม่ใช่คนดีอย่างที่เขาแสดงตัวว่าเป็น เขาสร้างข่าวปลอมว่าออร่าไปต่างประเทศ แม้แต่รูปและวิดีโอที่เธอบินไปต่างประเทศและที่ถ่ายหน้ามหาวิทยาลัยต่างก็เป็นการจัดฉากทั้งนั้น”นาตาชาร้องไห้ออกมา ในตอนนั้นเองขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอใช้ทิชชู่ซับแก้มของตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาและกล่าวต่อ “เขาขังออร่าไว้จริง ๆ ตอนนี้เธอถูกขังไว้ที่ไหนสักที่โดยมีคนคอยเฝ้าตลอดทั้งวันทั้งคืน เธอหนีออกมาไม่ได้”ลูน่าขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เธอไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “เป็นไปไม่ได้”ความซื่อสัตย์อันแน่วแน่และการอุทิศตนต่อออร่าของโจชัวเป็นสิ่งที่ลูน่าเคยรู้มาเมื่อหกปีก่อน จากสิ่งที่ลูน่ารู้เกี่ยวกับโจชัว เขาคงจะเลือกส่งออร่าไปต่างประเทศแทนที่จะล
“ฉันไม่ใช่คนจากเมืองบันยัน แล้วฉันก็ไม่รู้จักใครนอกจากคุณกับตระกูลลินช์...” ลูน่าพยายามประท้วงแต่ก่อนที่ลูน่าจะได้พูดจบ นาตาชาก็ยัดบัตรอีกใบใส่ในมือเธอและพูดว่า “เอาใบนี้ไปด้วย...มีเงินในบัตรใบนี้เยอะมากเหมือนกัน คุณเอาไปทั้งสองใบเลยก็ได้ ตราบเท่าที่คุณจะช่วยฉันตามหาหลักฐานมายืนยันว่าออร่าโดนใส่ร้าย”ลูน่าลดสายตาลงเพื่อดูบัตรสองใบที่นาตาชามอบให้เธอ เธอจำบัตรทั้งสองใบนี้ได้ ใบหนึ่งเป็นบัญชีส่วนตัวของนาตาชาซึ่งมีเงินออมทั้งชีวิตของนาตาชาอยู่ ซึ่งลูน่าเองก็เป็นคนช่วยนาตาชาจัดทำบัญชี แต่อีกใบหนึ่งเป็นบัตรที่เธอให้นาตาชาก่อนที่เธอจะแต่งงานกับโจชัว ใบนี้มีเงินออมและทรัพย์สินทั้งหมดของลูน่าอยู่ ในเวลานั้น ลูน่ารู้ว่าพ่อแม่ของเธอเลี้ยงดูเธอจนโตมาอย่างยากลำบากแค่ไหน แต่เธอกลับแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย เธอจึงไม่รู้ว่าจะตอบแทนพวกเขาอย่างไร เธอจึงสะสมเงินออมทั้งหมดเข้าบัญชีและตัดสินใจมอบเป็นของขวัญให้กับแม่ของเธอลูน่าไม่รู้เลยว่าหลายปีต่อมา บัตรใบนี้จะหวนกลับมาหาเธอ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในโชคชะตาที่พลิกผันของเธอ วันหนึ่งเธอจะได้ยืนอยู่ต่อหน้าแม่ของเธอด้วยรูปลักษณ์และตัวตนใหม่ และแม่ของเธอจะ
ลูน่ากลับมาที่บ้านจากโรงพยาบาล ในทันทีที่เธอนั่งลงเธอก็ได้รับสายจากไนเจล“คุณแม่ครับ ผมตรวจสอบที่อยู่แอดเดรสนั้นแล้ว ไอพีแอดเดรสที่ออร่าใช้ติดต่อคุณยายดูเหมือนจะมาจากโรงพยาบาล ผมส่งที่อยู่ของโรงพยาบาลนั้นไปให้แล้วนะครับ” ไนเจลพูดผ่านโทรศัพท์ลูน่ามองที่อยู่ที่ไนเจลส่งให้ ดูเหมือนว่าจะเป็นที่ตั้งของสถาบันโรคทางจิตเวชที่อยู่บริเวณชานเมืองบันยัน‘เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอที่ออร่าไม่ได้ถูกส่งไปออสแลนด์’ ลูน่าคิดกับตัวเอง ‘ในเมื่อเธอยังอยู่ในเมืองบันยัน แล้วทำไมโจชัวต้องสร้างข่าวปลอมว่าเธอไปต่างประเทศด้วย? แถมยังปลอมรูปกับคลิปตอนที่ออร่าลงเครื่องที่ออสแลนด์อีกด้วย หรือจะด้วยเหตุผลง่าย ๆ ว่าอยากจะหาข้ออ้างที่อยู่ดี ๆ เธอก็หายตัวไปงั้นเหรอ? ถ้างั้นทำไมต้องขังตัวเธอไว้ล่ะ? แล้วทำไมต้องเป็นสถาบันโรคทางจิตเวช?’หลากหลายคำถามผุดขึ้นในความคิดของเธอ ‘โจชัวเป็นคนขังเหรอ? หรือเพราะว่าเขาจะให้เธอชดใช้ที่พยายามทำร้ายลูกของเขา? ถ้างั้นทำไมเขาถึงไม่ส่งเธอให้ตำรวจหรือว่าลงโทษเธอแทนล่ะ? ทำไมเขาถึงเลือกที่จะขังเธอ ผู้ชายคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่’ “ทุกอย่างชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่พ่อของผมจะเจอเรื่องที่น้าออร
ไนเจลนึกถึงตอนที่ลูน่าตื่นขึ้นมาร้องไห้กลางดึก ทุกครั้งที่เป็นอย่างนั้นเขาจะลุกขึ้นไปกอดเธอไว้และพยายามปลอบเธอแม่ของเขาต้องผ่านอะไรมามากมายเพื่อที่จะให้พวกเขาทั้งสามคนได้ลืมตาขึ้นมาบนโลกใบนี้ เธอผ่านความยากลำบากในการเปลี่ยนรูปลักษณ์และปรับตัวให้เข้ากับตัวตนใหม่ ทั้งหมดนี้เธอจึงสามารถเริ่มใช้ชีวิตใหม่ได้ แต่เพราะเขาและเนลลี่ เธอเลยต้องเข้าไปใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง ชายคนที่นำเรื่องทั้งหมดนี้มาสู่เธอ“คุณแม่ครับ” ไนเจลเงียบไปและสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนที่ในที่สุดเขาจะพูดว่า “ผมรักแม่นะครับ”เขาจะไม่พูดอะไรที่ทำให้เธอผิดหวังอีก ลูน่าไม่คาดคิดเลยว่าจะได้ยินคำสารภาพอันจริงใจจากลูกชายที่ปกติเป็นคนขี้อายและสุขุมของเธอ เธอหัวเราะเบา ๆ เป็นการตอบรับ “แม่รู้จ้ะ ลูกทั้งสามคนคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับแม่เลยล่ะ และแม่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกอยู่เคียงข้างแม่ไปตลอดนะ” พูดจบเธอก็วางสายและทิ้งตัวลงบนโซฟา เธอเหม่อมองเพดานพลางตกอยู่ในห้วงความคิด โจชัว ลินช์...คุณมีลูกไม้อะไรอีกนะ? ...ลูน่ายังคงอยู่ในท่าเดิมบนโซฟาจนถึงเย็น เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปรับนีลที่โรงเรียนอนุบาล เธอก็รีบล
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ