ลูน่าขมวดคิ้วพร้อมยิ้มอย่างอ่อนแรง “มันเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงคะ?”เธอเห็นข่าวที่ประกาศในห้างตอนที่เธอไปกับนีลเมื่อคืน และมันก็แสดงรูปของเครื่องบินที่ออกบินไปนอกประเทศของออร่า แล้วยังมีรูปที่เธอถ่ายหน้ามหาวิทยาลัยในออสแลนด์ด้วย นั่นแปลว่าเธอจะต้องไม่ได้อยู่ในเมืองบันยันแล้ว“เป็นเรื่องจริงค่ะ” นาตาชาถอนหายใจ เธอเงยหน้าด้วยขอบตาที่เป็นสีแดงขณะมองลูน่า “ที่จริง...โจชัวไม่ใช่คนดีอย่างที่เขาแสดงตัวว่าเป็น เขาสร้างข่าวปลอมว่าออร่าไปต่างประเทศ แม้แต่รูปและวิดีโอที่เธอบินไปต่างประเทศและที่ถ่ายหน้ามหาวิทยาลัยต่างก็เป็นการจัดฉากทั้งนั้น”นาตาชาร้องไห้ออกมา ในตอนนั้นเองขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอใช้ทิชชู่ซับแก้มของตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาและกล่าวต่อ “เขาขังออร่าไว้จริง ๆ ตอนนี้เธอถูกขังไว้ที่ไหนสักที่โดยมีคนคอยเฝ้าตลอดทั้งวันทั้งคืน เธอหนีออกมาไม่ได้”ลูน่าขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เธอไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “เป็นไปไม่ได้”ความซื่อสัตย์อันแน่วแน่และการอุทิศตนต่อออร่าของโจชัวเป็นสิ่งที่ลูน่าเคยรู้มาเมื่อหกปีก่อน จากสิ่งที่ลูน่ารู้เกี่ยวกับโจชัว เขาคงจะเลือกส่งออร่าไปต่างประเทศแทนที่จะล
“ฉันไม่ใช่คนจากเมืองบันยัน แล้วฉันก็ไม่รู้จักใครนอกจากคุณกับตระกูลลินช์...” ลูน่าพยายามประท้วงแต่ก่อนที่ลูน่าจะได้พูดจบ นาตาชาก็ยัดบัตรอีกใบใส่ในมือเธอและพูดว่า “เอาใบนี้ไปด้วย...มีเงินในบัตรใบนี้เยอะมากเหมือนกัน คุณเอาไปทั้งสองใบเลยก็ได้ ตราบเท่าที่คุณจะช่วยฉันตามหาหลักฐานมายืนยันว่าออร่าโดนใส่ร้าย”ลูน่าลดสายตาลงเพื่อดูบัตรสองใบที่นาตาชามอบให้เธอ เธอจำบัตรทั้งสองใบนี้ได้ ใบหนึ่งเป็นบัญชีส่วนตัวของนาตาชาซึ่งมีเงินออมทั้งชีวิตของนาตาชาอยู่ ซึ่งลูน่าเองก็เป็นคนช่วยนาตาชาจัดทำบัญชี แต่อีกใบหนึ่งเป็นบัตรที่เธอให้นาตาชาก่อนที่เธอจะแต่งงานกับโจชัว ใบนี้มีเงินออมและทรัพย์สินทั้งหมดของลูน่าอยู่ ในเวลานั้น ลูน่ารู้ว่าพ่อแม่ของเธอเลี้ยงดูเธอจนโตมาอย่างยากลำบากแค่ไหน แต่เธอกลับแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย เธอจึงไม่รู้ว่าจะตอบแทนพวกเขาอย่างไร เธอจึงสะสมเงินออมทั้งหมดเข้าบัญชีและตัดสินใจมอบเป็นของขวัญให้กับแม่ของเธอลูน่าไม่รู้เลยว่าหลายปีต่อมา บัตรใบนี้จะหวนกลับมาหาเธอ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในโชคชะตาที่พลิกผันของเธอ วันหนึ่งเธอจะได้ยืนอยู่ต่อหน้าแม่ของเธอด้วยรูปลักษณ์และตัวตนใหม่ และแม่ของเธอจะ
ลูน่ากลับมาที่บ้านจากโรงพยาบาล ในทันทีที่เธอนั่งลงเธอก็ได้รับสายจากไนเจล“คุณแม่ครับ ผมตรวจสอบที่อยู่แอดเดรสนั้นแล้ว ไอพีแอดเดรสที่ออร่าใช้ติดต่อคุณยายดูเหมือนจะมาจากโรงพยาบาล ผมส่งที่อยู่ของโรงพยาบาลนั้นไปให้แล้วนะครับ” ไนเจลพูดผ่านโทรศัพท์ลูน่ามองที่อยู่ที่ไนเจลส่งให้ ดูเหมือนว่าจะเป็นที่ตั้งของสถาบันโรคทางจิตเวชที่อยู่บริเวณชานเมืองบันยัน‘เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอที่ออร่าไม่ได้ถูกส่งไปออสแลนด์’ ลูน่าคิดกับตัวเอง ‘ในเมื่อเธอยังอยู่ในเมืองบันยัน แล้วทำไมโจชัวต้องสร้างข่าวปลอมว่าเธอไปต่างประเทศด้วย? แถมยังปลอมรูปกับคลิปตอนที่ออร่าลงเครื่องที่ออสแลนด์อีกด้วย หรือจะด้วยเหตุผลง่าย ๆ ว่าอยากจะหาข้ออ้างที่อยู่ดี ๆ เธอก็หายตัวไปงั้นเหรอ? ถ้างั้นทำไมต้องขังตัวเธอไว้ล่ะ? แล้วทำไมต้องเป็นสถาบันโรคทางจิตเวช?’หลากหลายคำถามผุดขึ้นในความคิดของเธอ ‘โจชัวเป็นคนขังเหรอ? หรือเพราะว่าเขาจะให้เธอชดใช้ที่พยายามทำร้ายลูกของเขา? ถ้างั้นทำไมเขาถึงไม่ส่งเธอให้ตำรวจหรือว่าลงโทษเธอแทนล่ะ? ทำไมเขาถึงเลือกที่จะขังเธอ ผู้ชายคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่’ “ทุกอย่างชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่พ่อของผมจะเจอเรื่องที่น้าออร
ไนเจลนึกถึงตอนที่ลูน่าตื่นขึ้นมาร้องไห้กลางดึก ทุกครั้งที่เป็นอย่างนั้นเขาจะลุกขึ้นไปกอดเธอไว้และพยายามปลอบเธอแม่ของเขาต้องผ่านอะไรมามากมายเพื่อที่จะให้พวกเขาทั้งสามคนได้ลืมตาขึ้นมาบนโลกใบนี้ เธอผ่านความยากลำบากในการเปลี่ยนรูปลักษณ์และปรับตัวให้เข้ากับตัวตนใหม่ ทั้งหมดนี้เธอจึงสามารถเริ่มใช้ชีวิตใหม่ได้ แต่เพราะเขาและเนลลี่ เธอเลยต้องเข้าไปใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง ชายคนที่นำเรื่องทั้งหมดนี้มาสู่เธอ“คุณแม่ครับ” ไนเจลเงียบไปและสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนที่ในที่สุดเขาจะพูดว่า “ผมรักแม่นะครับ”เขาจะไม่พูดอะไรที่ทำให้เธอผิดหวังอีก ลูน่าไม่คาดคิดเลยว่าจะได้ยินคำสารภาพอันจริงใจจากลูกชายที่ปกติเป็นคนขี้อายและสุขุมของเธอ เธอหัวเราะเบา ๆ เป็นการตอบรับ “แม่รู้จ้ะ ลูกทั้งสามคนคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับแม่เลยล่ะ และแม่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกอยู่เคียงข้างแม่ไปตลอดนะ” พูดจบเธอก็วางสายและทิ้งตัวลงบนโซฟา เธอเหม่อมองเพดานพลางตกอยู่ในห้วงความคิด โจชัว ลินช์...คุณมีลูกไม้อะไรอีกนะ? ...ลูน่ายังคงอยู่ในท่าเดิมบนโซฟาจนถึงเย็น เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปรับนีลที่โรงเรียนอนุบาล เธอก็รีบล
ลูน่าเผลอกลั้นหายใจไปชั่วครู่ ที่เธอเดาไว้ถูกต้องแล้ว เนลลี่ต้องการเข้าเรียนโรงเรียนอนุบาลแห่งเดียวกับนีล “คุณลินช์คะ ฉันเชื่อว่าคุณน่าจะเข้าใจผิด” ลูน่าเริ่มพูด “การยืนกรานที่จะเข้าโรงเรียนเดียวกับนีลของเนลลี่ต้องเป็นเพราะพวกเขาสนิทกัน ฉันไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับฉัน ฉันไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเธอด้วยซ้ำ”เธอยิ้มเยาะและกล่าวเพิ่มว่า “คุณลินช์คะ ฉันมีข้อแนะนำนิดหน่อย แทนที่จะกล่าวโทษปัญหาของคุณใส่คนอื่น ทำไมคุณไม่ลองนั่งลงคุยกับลูกสาวของคุณจริง ๆ จัง ๆ ดูว่าจริง ๆ แล้วเธอต้องการอะไร เนลลี่กับนีลเป็นเพื่อนสนิทกัน จึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาอยากจะไปเรียนด้วยกัน” ดวงตาของโจชัวหรี่ลงขณะฟังคำตอบของลูน่า ผู้หญิงคนนี้เข้าใจยากจริง ๆ ไม่เพียงแต่จู่ ๆ เธอจะลาออกจากงานที่บลูเบย์วิลล่า แต่เธอยังทำตัวรุ่มร่ามและไม่สุภาพกับเขามาตลอดด้วยเหมือนกัน เมื่อโจชัวไม่ตอบ ลูน่าก็ขมวดคิ้วและพยายามจะเดินผ่านด้านข้างของเขาไป เธอไม่อยากจะคุยกับเขานาน ดังนั้นเธอจึงต้องการเดินไปยืนรอที่อื่นแทนแทน ถึงอย่างนั้น ในตอนที่เธอขยับไปทางซ้าย โจชัวก็ก้าวไปยืนตรงหน้าแล้วขวางทางเธอไว้ ตอนที่เธอขยับไปทางขวาเขาก็ทำเห
ครูโรงเรียนอนุบาลตกใจกับท่าทีปุบปับของลูน่า เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนเธอจะค่อย ๆ ชี้ไปที่ห้องพยาบาล “เมื่อกี้เนลลี่ได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้นีลก็เลยไปห้องพยาบาลเป็นเพื่อนเธอค่ะ”ทันทีที่เธอพูดจบโจชัวก็รีบเดินไปยังทางที่คุณครูคนนั้นชี้ไป ลูน่าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตามหลังเขาไป ผู้ใหญ่สองคนรีบปรี่ไปยังห้องพยาบาลด้วยความตื่นตระหนกภายในห้องพยาบาล นีลถามว่า “เธอชอบรสไหนมากกว่ากัน ดั้งเดิมหรือว่ากระเทียม” เขานั่งอยู่บนเตียงสำหรับตรวจคนไข้ขณะที่เคี้ยวน่องไก่ไปด้วย“อร่อยทั้งสองรสเลย!” เนลลี่ตอบด้วยอาหารเต็มปาก เธอกำน่องไก่ไว้ข้างละน่อง“โอเค งั้นพรุ่งนี้เราแอบออกไปสั่งมาอีกนะ” นีลยิ้มกว้าง เขาเอื้อมมือเปื้อนน้ำมันออกไปหยิกแก้มเนลลี่ “พรุ่งนี้ ฉันจะแกล้งบาดเจ็บแล้วเธอก็มาเป็นเพื่อนฉันที่ห้องพยาบาลนะ”“ได้เลย!” เนลลี่พยักหน้าอย่างมีความสุข เธอชะงักไปครู่หนึ่งราวกับนึกอะไรออก “นีล คุณแม่ไม่เคยให้เรากินไก่ทอดเลยนะ แม่บอกว่ามันเป็นอาหารขยะ วันนี้เป็นวันแรกที่หนูได้ลองกินอาหารขยะ แล้วมันก็อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลย!” เธอร้องบอกนีลเลิกคิ้วเห็นด้วย “ใช่ อร่อยเนอะ! แต่ไนเจลก็บอกว่าไก่ทอดไม่ดีต่
โจชัวและลูน่าตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินคำสารภาพของนีล แม้แต่คุณครูที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกเขาก็อ้าปากค้างกับเรื่องที่เกิดขึ้น ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ลูน่าถูคิ้วตัวเองอย่างฉุนเฉียวพลางคิดกับตัวเอง ‘ฉันให้กำเนิดเจ้าพวกจอมวางแผนมาเหรอเนี่ย? ฉันบอกพวกเขาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วไม่ใช่เหรอว่าพวกเขาไม่ควรกินอาหารขยะแบบนี้’ “เป็นความผิดหนูเองค่ะคุณพ่อ” เนลลี่ทำหน้าบึ้ง “ห้องเรียนมันน่าเบื่อจริง ๆ นะคะ แล้วอาหารเที่ยงก็ไม่อร่อยเลย หนูได้ยินเด็กคนอื่นคุยกันเรื่องที่พวกเขาได้กินไก่ทอดกับพ่อแม่ของพวกเขา หนูก็เลยอยากกินไก่ทอดบ้าง แต่...”ความผิดหวังคลุ้งในแววตาของเนลลี่ “หนูรู้ว่าคุณพ่อคงไม่ให้หนูกิน เพราะไก่ทอดมันไม่ดีต่อสุขภาพ หนูก็เลยขอให้นีลช่วย...” ความโกรธเคืองของโจชัวค่อย ๆ จางหายไป หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พลางมองหน้าลูกสาว “หนูนี่ซนจริง ๆ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดค่ะ คุณลินช์” คุณครูมองโจชัวอย่างประหม่า “คุณ...คุณคงจะไม่ปิดโรงเรียนของเราเพราะเรื่องนี้ใช่ไหมคะ?”นี่เป็นครั้งแรกที่โรงเรียนนี้รับเด็กนักเรียน
เมื่อโจชัว ลูน่า นีลและเนลลี่ออกมาจากโรงเรียนอนุบาล กลุ่มผู้ปกครองที่รออยู่ข้างนอกก็แยกย้ายกันไปแล้วลูคัสยืนรออยู่ข้างนอกตามคำสั่ง เขาตัวแข็งไปเพราะความตกใจที่เห็นสองผู้ใหญ่ สองเด็กออกมาจากตึก‘ทำไมโจชัวอยู่กับลูน่าอีกแล้ว? พวกเขาเพิ่งแยกกันเมื่อคืนแล้วก็เพิ่งทะเลาะกันไปเมื่อเช้าด้วยซ้ำ’ ลูคัสคิดกับตัวเองและรู้สึกสับสนกับภาพที่เห็น เขายังนึกภาพใบหน้าจริงจังของโจชัวตอนที่เขากลับไปห้องพักผู้ป่วยเมื่อเช้านี้อยู่เลย นี่พวกเขาคืนดีกันในไม่กี่ชั่วโมงงั้นเหรอ?โจชัวอุ้มเนลลี่ไว้ในอ้อมแขนและสไลด์ตัวเองเข้าไปยังที่นั่งด้านหลังนีลที่ดูเหมือนจะพยายามเลี่ยงโจชัวเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับอย่างรวดเร็วแล้วนั่งข้างหน้าลูน่าชะงัก แต่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเธอก็เปิดประตูรถและนั่งลงที่เบาะหลังโดยที่โจชัวนั่งอยู่ฝั่งซ้ายในขณะที่ลูน่านั่งอยู่ฝั่งขวาโดยมีเนลลี่คั่นกลางระหว่างพวกเขา“ขอบคุณนะคะคุณพ่อ!” เนลลี่มองพ่อของเธอด้วยความหวาดหวั่นในแววตา “หนูคงไม่พูดโกหกถ้ารู้ว่าคุณพ่อจะอนุญาตให้หนูกินไก่ทอด!”โจชัวหรี่ตามองเธอและจับมือเล็ก ๆ ของเธอไว้กับมือใหญ่ของเขา “ต่อไปอยากได้อะไรก็บอกพ่อได้เลย ไม่ต้อง
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ