ดูจากท่าทีแล้วเขาคงไม่รู้ตัวว่าตอนนี้มีสายการเชื่อมต่อระหว่างเขาและเธอ น้ำหวานได้แต่เก็บก้อนสะอื้นที่มันจุกอยู่ที่คอไว้ ไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา ในขณะที่ดวงตาทั้งสองข้างมิอาจห้ามปรามสายธารของความเจ็บปวดนี้
เจ็บร้าวอยู่ภายในอก แต่สายตายังคงมองจ้องไปที่ภาพตรงหน้า อยากรู้นักจิตใจเขาทำด้วยอะไร เอาคำว่ารักหลอกเธอ ตอนอยู่กับเธอแสดงออกว่าหวง ห่วง พอจากกันเขากลับเป็นอีกคน หรือที่เขาแสดงออกเป็นเพียงละครที่หลอกลวง ให้คนโง่อย่างเธอหลงเชื่อ
อรุณที่อยู่ด้านข้างเห็นความผิดปกติและได้ยินเสียงแปลกดังออกมาจากมือถือจึงหันมองน้ำหวานด้วยความตกใจ และตกใจซ้ำไปอีกเมื่อหันไปเห็นภาพชายหญิงที่กำลังนัวเนียกันอยู่บนเตียง
สองชายหญิงที่อยู่บนเตียงภายในห้องสีขาวสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนักภายในห้องเปิดแสงไฟสลัว ภาพเกิดการส่ายไปมาดูแล้วน่าจะเป็นกลกันต์ที่เป็นฝ่ายถือมือถือเอาไว้ ภาพต่อมาฉายให้เห็นฝ่ายหญิงที่ลุกขึ้นนั่งเอื้อมมือดึงอีกฝ่ายให้เข้ากอบกุมยอดอกที่ยืดอกให้ฝ่ายชายอย่างไม่อาย สายตาท้าทาย เย้ายวนให้ฝ่ายชายจัดการโดยเร็ว
“คุณพระ นี่มันอะไรกัน” อรุณว่าแล้วยึ
เช้าวันรุ่งขึ้น กลกันต์เป็นฝ่ายรู้สึกตัวขึ้นมาก่อน หันมองคนในอ้อมกอด นึกขอบคุณและขอโทษเธอสำหรับเมื่อคืนนี้ เขาเอาแต่ใจและทำให้เธอต้องเสียน้ำตา เขาเกือบ เกือบจะนอกใจเธอหลังจากที่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน เป็นเพราะยาบ้าๆนั่นที่ไม่รู้ว่าเขากินเข้าไปตอนไหน หวังว่าคงจะไม่ใช่ตอนที่นิดนำเครื่องดื่มมาให้เขาหรอกนะ เขาไม่อยากมองเธอในทางลบก่อน น้องนิดที่เขารู้จักนั้นเป็นเด็กดีและหัวอ่อน ไม่ว่าใครจะบอกให้ทำอะไรเธอมักจะทำตามด้วยความซื่อเสมอ แต่เขากับเธอไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้วเนื่องจากตอนเรียนที่เขาต้องไกลบ้านและนานๆกลับมาที ประกอบกับช่วงหลังที่งานในไร่เยอะ จึงไม่ได้มีเวลาพบเจอ เวลาทำให้คนเราเปลี่ยนไปเรื่องนั้นเขารู้ดี แต่ไม่อยากจะคิดว่าจะเปลี่ยนไปถึงขนาดทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ได้&nbs
ชีวิตคนเราล้วนมีแต่ความไม่แน่นอน เกิด แก่ เจ็บ ตาย สักวันหนึ่งความสูญเสียจะเข้ามาเยือน อาจจะมีสัญญาณเตือนหรือไม่ แต่หากวันนั้นมาถึงแล้ว เราควรตั้งสติและยอมรับ เรียนรู้และก้าวข้ามผ่านสถานการณ์นี้ ใช้ชีวิตอย่างปกติให้ได้ วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันในชีวิตของน้ำหวานที่ต้องพบเจอกับการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ร่างบางของเด็กน้อยวัยยี่สิบปีเงยหน้ามองรูปของชายผู้หนึ่ง ที่แม้จะอายุมากแต่ยังดูแข็งแรง เป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวของเธอที่เหลืออยู่ ซึ่งเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูเธอมานานกว่าสิบห้าปีนับตั้งแต่ผู้เป็นป้าแท้ๆจากไป น้ำหวานเป็นเด็กกำพร้าที่สูญเสียพ่อและแม่ไปเมื่อครั้งวัยเยาว์ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่อายุเพียงสองขวบ ถูกอุปการะโดยคุณป้าน้ำฟ้าที่เป็นฝาแฝดของแม่น้ำอิงแม่แท้ๆของเธอเอง น้ำหวานเข้ามาอาศัยที่ไร่เกียรติอรุณนับตั้งแต่นั้น เธอได้รับการดูแลอย่างดีจากครอบครัวรวมถึงพี่ชายที่เป็นลูกติดของคุณลุงกลเกียรติ ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของกลเกียรตินายใหญ่ของไร่กับภรรยาคนก่อนที่เลิกรากันไปนานแล้วตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นชื่อว่ากลกันต์ โดยเขาจะอยู่กับแม่เป็นหลักเพราะอยู่ใ
ถ้าคุณกลกันต์เป็นคุณแม่ก็คงดีเธออาจจะปรับความเข้าใจและรักกันเป็นพี่สาวน้องสาวแบบน่ารักๆเหมือนคู่พี่น้องอื่นบ้าง เธอฝันอยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น มีคนที่รักรอคอยอยู่ที่บ้าน และอยากมีพี่สาวหรือพี่ชายสักคนที่คอยปลอบใจในวันที่เศร้า อยากจะงอแงและรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เคยรำคาญในสิ่งที่เธอทำกับกลกันต์ ในครั้งแรกที่เธอย้ายเข้ามาบ้านนี้เขาดีใจมากและบอกกับทุกคนว่าเธอคือน้องสาวของเขา เขาจะดูแลเธอไปตลอด และเขาก็ทำเช่นนั้น จนกระทั่งวันหนึ่งที่เขาเริ่มเปลี่ยนไป จากใจดีกลับเป็นใจร้าย จากคอยเอาใจเป็นขัดใจ และความสนใจของเขาที่เธอมีให้เธอคนเดียวกลับถูกแบ่งครั้งหนึ่งที่เธอขอออกไปเที่ยวงานวันเกิดเพื่อน วันนั้นเป็นวันที่คุณลุงติดงานเลี้ยงต่างอำเภอ เพื่อนของเธอจึงเสนอตัวให้ทางบ้านไปส่ง แต่เพราะวัยเด็กที่สนุกกันพออยู่ด้วยกันหลายคนจึงไม่อยากกลับ พอเห็นเวลาอีกทีดึกดื่นแล้ว ทางผู้ใหญ่จึงต้องบังคับให้เลิกเล่น และรอเจอกันอีกทีที่โรงเรียน หากแต่เมื่อกลับมาถึงบ้าน แสงไฟเปิดสาดส่อง ร่างสูงของผู้เป็นพี่ชายยืนจังก้ารอต้อนรับพร้อมไม้เรียว เขาทั้งดุ ด่าเธอ และลงโทษเธอโดยไม่ถามเหตุผลที่เธอออกไป เข้าใจว่าเธอเป็นฝ่ายหนีเที่ยว
“เสร็จแล้วค่ะ พร้อมแล้ว พร้อมแล้ว ตื่นเต้น ตื่นเต้น” เสียงที่มาพร้อมท่าทางว่าตื่นเต้นหนักหนา ทำท่าเป็นเป็ดเดินมาหาเขา ตอนนี้ร่างเล็กอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ขายาวสีซีด ผมยาวสวยถูกรวบตึงไว้ด้านหลัง และมีกระเป๋าเป้สะพายหลัง 1 ใบถ้วน โอเค นี่เขาจะไปส่งลูกเข้าเรียนหรืออย่างไร ยังดีที่วันนี้พาเข้าไร่ หากพาไปเดินข้างนอกไม่พ้นถูกเข้าใจว่าเดินอยู่กับลูกสาว“เดินดีๆหน่อย เล่นอะไรเป็นเด็ก”ร่างเล็กของน้ำหวานเดินนำมาที่รถ ซึ่งเป็นรถกระบะลูกรักของกลกันต์ที่ใช้สำหรับลุยงานในไร่ ระหว่างรอกลกันต์ปิดบ้านอยู่นั้น น้ำหวานจึงหาเพลงเพราะๆเปิดฟังรอ“นั่งสบายเชียวนะ”“น้ำหวานตื่นเต้นจะแย่แล้ว อยากเรียนรู้มาก”“ดีเป็นแบบนี้ให้ได้ตลอด”รถกระบะคันคู่ใจแล่นออกจากตัวบ้านผ่านพื้นที่ภายในไร่ที่โอบล้อมไปด้วยทิวเขาสวยงาม ไร่เกียรติอรุณเป็นไร่ที่พ่อของกลกันต์เริ่มก่อตั้งด้วยตัวเองตั้งแต่วัยรุ่นมีคุณอรุณคนรักเก่าเป็นแรงบันดาลใจ และด้วยความชอบด้านการเกษตร เพาะปลูกเป็นทุนเดิมก่อนขยายให้มีการดำเนินการเลี้ยงสัตว์เพิ่มเติมในเวลาต่อมา หกปีให้หลังจากที่กลกันต์เข้ามาบริหารเขาได้จัดตั้งศูนย์วิจัยขึ้นภายในไร่เพื่อศึกษา
เป็นเวลาเกือบห้าโมงเย็นที่รถเก๋งคันกลางของพลพลแล่นเข้ามาจอดข้างศูนย์อาหารที่เดิมที่เขามารับน้ำหวาน ตอนนี้ภายในศูนย์อาหารมีลูกค้าสัญจรที่แวะจอดพักอยู่มาก พลพล จึงเลือกหาที่จอดชั่วคราวเพื่อส่งน้ำหวาน พลางปลดล็อกรถให้ แล้วกอดร่ำลากัน เป็นจังหวะที่กลกันต์กำลังเดินมาเห็นพอดี“คนเยอะมากเลยแก เดี๋ยวส่งแกแล้วฉันกลับเลยนะ”ยังไม่ทันก้าวลงจากรถด้วยซ้ำ ร่างสูงใหญ่ที่มองเห็นรถคันนี้มาแต่ไกลเดินมุ่งหน้าเข้ามากระชากประตูหน้าข้างคนขับ“ลงมา”เสียงทุ้มต่ำของกลกันต์ ที่พยายามจะใช้เสียงที่ดูไม่ดุมากแล้วเอ่ยขึ้น ฝ่ามือใหญ่จับเข้าที่ต้นแขนของน้ำหวานแล้วกระชากร่างเล็กออกมา แม้จะไม่รุนแรงแต่ก็ทำให้มึนได้เหมือนกัน“ขอบคุณมากนะพล ไว้วันหลังจะเลี้ยงชาไข่มุกนะ”ฝ่ายพลพลที่รับรู้รังสีจากผู้ปกครองเพื่อนจึงรีบขับรถจากไป ดีๆนะ แก หวังว่าจะไม่โดนดุทางฝั่งน้ำหวานที่แม้จะรู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่แผ่มาแต่ทำใจดีสู้เสือไว้ก่อน“คือ อ อ........”“ไปคุยกันที่บ้าน”เพราะตอนนี้จุดที่ยืนอยู่ผู้คนพลุ้งพล่านและมีเหล่าพนักงานในไร่ที่รู้จักเขาอยู่เยอะ กลกันต์จึงเลือกที่จะสะกดอารมณ์แล้วพาน้ำหวานกลับบ้านก่อนตลอดเส้นทางกลับบ้านแม้ร
“คุณจะทำอะไร” น้ำหวานที่เริ่มกลัวถามขึ้น ตอนนี้กลกันต์ดันร่างเธอเข้ามาในห้องพร้อมตัวเองแล้วปิดประตู ก่อนลากร่างบางมายังเตียงนอนนุ่ม ออกแรงผลักจนเธอล้มลงนอนราบไปบนที่นอนร่างสูงไม่ตอบแต่ใช้ลำตัวนอนลงทาบทับบนคนตัวเล็กจนรู้สึกอึดอัด มือซ้ายของคนตัวโตกว่าจับข้อมือเล็กทั้งสองข้างรวบวางไว้เหนือหัว ขาเรียวเล็กที่พยายามจะดิ้นหนีไม่เป็นผลเพราะโดนคนตัวโตล็อกไว้ร่างบางที่ดีดดิ้นไปมาจึงสัมผัสกับร่างสูงที่มีเพียงเสื้อผ้าขวางกั้นมือขวาที่ยังว่างของกลกันต์ปัดป่ายไปทั่วร่างบาง พยายามจะฉีกทึ้งเสื้อผ้าของคนตัวเล็กออกจากตัว ก่อนเลื้อยเข้าไปกอบกุมบีบเค้นดอกบัวคู่งามด้วยความตกใจ ริมฝีปากอิ่มที่กำลังจะผรุสวาจาออกมา จึงโดนริมฝีปากหนาเข้าประกบจูบอย่างดุดัน เร่งเร้า น้ำหวานเบิกตากว้าง นอนแน่นิ่ง ตัวแข็งทื่อ ไม่คิดว่ากลกันต์จะทำเช่นนี้ ปลายลิ้นร้อนของกลกันต์พยายามจะสอดเข้าไปควานหาความหวานของคนตัวเล็ก“อื้อออ” เสียงต่อต้านเบาๆดังมาจากร่างบางเพราะโดนช่วงชิงลมหายจนจนรู้สึกหายใจไม่ออกกลกันต์จึงหยุดปล่อยให้อีกคนพักหายใจก่อนประกบจูบลงไปอีกครั้ง“อ้ออ” เสียงเล็กหายเข้าไปในริมฝีปากเพราะริมฝีปากหนาที่ประกบลงมา กลกั
น้ำหวานใช้เวลาในห้องน้ำหนึ่งชั่วโมงเต็ม เวลาส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับการนั่งเหม่อลอย ครุ่นคิด และสับสน ปากอิ่มขบเม้มเข้าหากันเมื่อนึกถึงจูบของกลกันต์มือบางที่ถือใยบวมขัดตัว ขัดวนทั่วตัวหวังลบสัมผัสของเขาออกให้หมด แรงถูที่ค่อยๆเพิ่มความแรงขึ้นแต่กลับไม่ทำให้รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย จนตัวนี้ทั่วทั้งตัวของร่างบางแดงราวกับมีใครเอาน้ำแดงมาสาดดวงตาหวานบวมและแดงก่ำ น้ำใสเอ่อคลอรอบดวงตาค่อยๆไหลรินลงมาเธอไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วอยากหนีไปให้ไกลอยากหนีไปตอนนี้เลยยิ่งดีคิดได้ดังนั้นจึงเอื้อมมือปิดสายน้ำที่กำลังไหลรดตัว หยิบผ้าเช็ดตัวจากราวกดซับน้ำออกจากลำตัวเบาๆ เพราะเริ่มรู้สึกแสบจากรอยครูดของใยบวบ แล้วใช้ผ้าผืนเดิมพันรอบลำตัวเอื้อมหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กซับน้ำจากเส้นผมพอหมาดๆ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ กลืนก้อนสะอึกที่จุกอยู่ที่ลำคอลงไป แล้วก้าวออกจากห้องน้ำน้ำหวานเลือกแต่งกายง่ายๆด้วยเสื้อยืดสีดำและกางเกงผ้านิ่มขายาว ยัดเสื้อผ้าและของใช้ที่พอจะนึกออกในยามคับขันลงในกระเป๋าเป้สะพายหลังด้วยความเร่งรีบ เกรงว่ากลกันต์จะมาเจอเข้าร่างบ
กว่าฝนจะหยุดตกก็เป็นเวลากว่าสามทุ่ม ร่างเล็กที่ตอนนี้หลับไปด้วยความเหนื่อย เปลี่ยนจากท่านั่งคุดคู้กอดเข่าเป็นนั่งอยู่บนตักกลกันต์ หลังบางซบลงกับอกหนาเอนหลังพิง ปล่อยตัวตามสบายที่มีกลกันต์โอบกอดอยู่ด้านหลัง เมื่อเห็นว่าถึงเวลาต้องกลับบ้านแล้วจึงสะกิดปลุกหญิงสาว“น้ำหวาน กลับบ้านเรากันนะ” “อื้ออออออ” เสียงหวานเอ่ยประท้วง ที่โดนรบกวนการนอนหลังสบาย “มา พี่ช่วยพยุงขึ้น” ว่าแล้วค่อยประคองร่างเล็กขึ้น “กี่โมงแล้ว” “สามทุ่มแล้ว หิวข้าวไหม” จ๊อกก เสียงท้องร้องเป็นคำตอบแทนเธอ กลกันต์ยิ้มบางๆส่งให้เด็กน้อย แล้วลงไปยืนด้านล่างปลายกระท่
เช้าวันรุ่งขึ้น กลกันต์เป็นฝ่ายรู้สึกตัวขึ้นมาก่อน หันมองคนในอ้อมกอด นึกขอบคุณและขอโทษเธอสำหรับเมื่อคืนนี้ เขาเอาแต่ใจและทำให้เธอต้องเสียน้ำตา เขาเกือบ เกือบจะนอกใจเธอหลังจากที่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน เป็นเพราะยาบ้าๆนั่นที่ไม่รู้ว่าเขากินเข้าไปตอนไหน หวังว่าคงจะไม่ใช่ตอนที่นิดนำเครื่องดื่มมาให้เขาหรอกนะ เขาไม่อยากมองเธอในทางลบก่อน น้องนิดที่เขารู้จักนั้นเป็นเด็กดีและหัวอ่อน ไม่ว่าใครจะบอกให้ทำอะไรเธอมักจะทำตามด้วยความซื่อเสมอ แต่เขากับเธอไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้วเนื่องจากตอนเรียนที่เขาต้องไกลบ้านและนานๆกลับมาที ประกอบกับช่วงหลังที่งานในไร่เยอะ จึงไม่ได้มีเวลาพบเจอ เวลาทำให้คนเราเปลี่ยนไปเรื่องนั้นเขารู้ดี แต่ไม่อยากจะคิดว่าจะเปลี่ยนไปถึงขนาดทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ได้&nbs
ดูจากท่าทีแล้วเขาคงไม่รู้ตัวว่าตอนนี้มีสายการเชื่อมต่อระหว่างเขาและเธอ น้ำหวานได้แต่เก็บก้อนสะอื้นที่มันจุกอยู่ที่คอไว้ ไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา ในขณะที่ดวงตาทั้งสองข้างมิอาจห้ามปรามสายธารของความเจ็บปวดนี้เจ็บร้าวอยู่ภายในอก แต่สายตายังคงมองจ้องไปที่ภาพตรงหน้า อยากรู้นักจิตใจเขาทำด้วยอะไร เอาคำว่ารักหลอกเธอ ตอนอยู่กับเธอแสดงออกว่าหวง ห่วง พอจากกันเขากลับเป็นอีกคน หรือที่เขาแสดงออกเป็นเพียงละครที่หลอกลวง ให้คนโง่อย่างเธอหลงเชื่ออรุณที่อยู่ด้านข้างเห็นความผิดปกติและได้ยินเสียงแปลกดังออกมาจากมือถือจึงหันมองน้ำหวานด้วยความตกใจ และตกใจซ้ำไปอีกเมื่อหันไปเห็นภาพชายหญิงที่กำลังนัวเนียกันอยู่บนเตียงสองชายหญิงที่อยู่บนเตียงภายในห้องสีขาวสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนักภายในห้องเปิดแสงไฟสลัว ภาพเกิดการส่ายไปมาดูแล้วน่าจะเป็นกลกันต์ที่เป็นฝ่ายถือมือถือเอาไว้ ภาพต่อมาฉายให้เห็นฝ่ายหญิงที่ลุกขึ้นนั่งเอื้อมมือดึงอีกฝ่ายให้เข้ากอบกุมยอดอกที่ยืดอกให้ฝ่ายชายอย่างไม่อาย สายตาท้าทาย เย้ายวนให้ฝ่ายชายจัดการโดยเร็ว“คุณพระ นี่มันอะไรกัน” อรุณว่าแล้วยึ
ตอนนี้ทุกคนในบ้านทานอาหารอิ่มแล้วด้านทนายเดชาขอตัวเดินทางกลับไปก่อนเพราะมีงานต่อในช่วงบ่าย ส่วนน้าสร้อยกำลังเข้าไปเก็บเสื้อผ้าเตรียมเดินทางกลับเหลือเพียงป้าสา อรุณ นิด ที่ยังคงอยู่ที่บ้านแห่งนี้ อรุณตั้งใจว่าจะอยู่อีกสองสามวัน ส่วนป้าสานั้นเธออ้างว่าไม่ได้เข้ามาที่ไร่นานแล้วจึงอยากให้กลกันต์พาเที่ยวชม เพราะขัดใจไม่ได้ ตอนนี้กลกันต์จึงพาทั้งหมดออกมาเดินเล่นบริเวณพื้นที่ของไร่ที่ที่เปิดสำหรับนักท่องเที่ยวจนกระทั่งถึงสนามม้า บริเวณนี้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจใช้เวลาเรียนรู้ไม่นานและสามารถบังคับม้าเที่ยวชมได้ ด้วยการดูและของครูฝึกที่ชำนาญ เดินเที่ยวกันมาหลายจุดแล้วป้าสาและอรุณจึงเลือกที่จะนั่งพักปล่อยให้คนหนุ่มสาวขี่ม้าท่องเที่ยวกัน“พี่กันต์นิดขอลองหน่อยนะคะ ไม่ได้ขี่ม้านานแล้ว” นิดที่มีทักษะการขี่ม้าแม้จะนานมาแล้วแต่ยังถือว่ามีทักษะจึงไม่กลัวเดินเข้าไป ครูฝึกจึงเข้าไปประกบและสอนทักษะให้เธอ“หวานลองไหม” กลกันต์หันไปถามน้ำหวานที่ยืนอยู่ด้านข้าง น้ำหวานหันมองอรุณไม่อยากปล่อยผู้ใหญ่ไว้สองคน หากอากา
กว่าคนเอาแต่ใจจะยอมหยุดฉลองการเป็นแฟนกันลงในเวลาเกือบเจ็ดโมงเช้า น้ำหวานก็แทบหมดแรง ทั้งสองจึงแต่งตัวเดินทางกลับไปบ้านพัก“อ้าวตากันต์ น้ำหวาน ไปไหนกันมาแต่เช้า” ป้าสาที่กำลังนั่งทานข้าวเช้าเอ่ยทัก เมื่อเห็นทั้งสองซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์กลับมาด้วยกัน“หวานไปใส่บาตรมาค่ะ”“ใส่บาตร นี่จนจะเจ็ดโมง”“พอดีผมเข้าไปในไร่ต่อครับ เลยกลับมาช้าหน่อย” กลกันต์ช่วยตอบเพราะรู้ดีว่าป้าตนนั้นเป็นคนชอบไล่บี้ขนาดไหน มีเพียงป้าแก้วและป้าน้อยที่มองตามกันอย่างสงสัยและพอจะรู้ว่าทั้งสองหายไปไหนมา“พี่กันต์มาทานข้าวกันค่ะ หวานด้วยนะ” นิดที่นั่งอยู่ข้างป้าสาเอ่ยขึ้นก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้าหากลกันต์แล้วคล้องแขนให้เดินตามตนไป โดยที่กลกันต์ไม่ลืมที่จะเอื้อมมืออีกฝั่งฉุดน้ำหวานให้เดินตามนั่งข้างตนอีกทีจนกระทั่งวันเดียวกันเวลาตามที่ได้นัดหมายทนายเดชาเดินทางมาพร้อมเลขาคู่ใจอีกหนึ่งคนเพื่อทำเรื่องสำคัญตามหน้าที่“ตามที่ทราบนะครับวันนี้จะมีการเปิดพินัยกรรมของคุณกลเกียรติ เมื่อ
เมื่อคืนหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จกลกันต์และน้ำหวานไม่ได้คุยกันอีกเลย พอกินข้าวเสร็จกลกันต์ถูกดึงตัวไว้ด้านล่างโดยป้าสาและนิด ส่วนคนอื่นๆแยกย้ายกันไปนอน กว่ากลกันต์จะขอตัวแยกออกมาก็เป็นเวลาดึกเสียแล้วเขาจึงไม่อยากรบกวนน้ำหวาน ให้เธอได้พักผ่อน หากเข้าไปหากลางดึกหรือเรียกเธออกมากลางดึกอาจจะเป็นที่สงสัยได้เป็นครั้งแรกที่ได้กลับมานอนห้องตนเอง ตั้งแต่มีความสัมพันธ์กันเขาก็ย้ายตัวไปอยู่ห้องปีกซ้าย จะกลับมาห้องแค่ตอนที่เข้ามาแต่งตัวก่อนไปทำงาน คิดถึงกลิ่นหอมๆร่างนุ่มที่นอนกอดมาหลายคืน อยากนอนกอดเมียโว๊ยยยไม่ว่าจะขัดใจเพียงไรสิ่งที่ทำได้คืออดทน ข่มตาให้หลับ เมื่อน้ำหวานยังไม่พร้อมเขาจะกลับขัดใจเธอด้วยการเดินเขาไปบอกแม่ได้ยังไง ท่องเอาไว้ อีกไม่กี่วันก็ได้เมียคืน เช้ามืดวันต่อมาน้ำหวานที่ตื่นเช้าเป็นปกติมีป้าแก้วและป้าน้อยที่มาแต่เช้าจัดเตรียมอาหารสำหรับใส่บาตรในเช้านี้และสำหรับทุกคนรับประทาน พื้นที่ที่จะทำการใส่บาตรนั้นจะอยู่บริเวณด้านหน้าไร่ ดังนั้นเมื่อจัดเตรียมอาหารเสร็จจึงจัดอาหารเป็นชุดเตรียมไว้ให้น้ำหวาน“วันนี้หวานไปคนเดียวได้
ผ่านไปหลายวันน้ำหวานและกลกันต์ยังคงใช้ชีวิตด้วยกันราวกับเป็นคู่สามีภรรยาซึ่งรับรู้เพียงป้าแก้วและป้าน้อย เหตุผลเพราะน้ำหวานยังไม่พร้อมและเธออยากให้เรียนจนจบก่อนและวันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ทั้งสองต้องทำตัวให้เป็นดังเดิมเพราะพรุ่งนี้เป็นวันที่จะมีการเปิดพินัยกรรมของกลเกียรติโดยมีทนายเดชา แม่ของกลกันต์ ป้าสาผู้มีศักดิ์เป็นพี่สาวของกลเกียรติ น้าสร้อยผู้เป็นน้องสาวของกลเกียรติ น้ำหวาน รวมถึงป้าแก้วและป้าน้อยวันนี้จึงกลายเป็นวันรวมญาติเพราะไร่เกียรติอรุณอยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร เหล่าญาติพี่น้องจึงรวมตัวก่อนหนึ่งวันซึ่งรวมถึงลูกหลานของผู้เป็นป้าและน้าของกลกันต์ ห้องที่จัดไว้ให้ทุกคนจึงอยู่ที่ชั้นสองและชั้นหนึ่ง มีเพียงแม่ของกลกันต์ที่เลือกจะนอนกับน้ำหวานที่ชั้นสาม“หนูหวานเหงาไหมลูก กลัวไหม อยู่บ้านกับพี่เขาสองคนแบบนี้ ตากันต์ยังชอบดุเราบ่อยๆอยู่หรือเปล่า” อรุณแม่ของกลกันต์เอ่ยขึ้นขณะที่กำลังจัดเก็บสัมภาระที่เตรียมมา“กะ ก็ ไม่ค่อยดุแล้วค่ะ”“จริงนะ ไม่ใช่ว่าเกรงใจที่ตากันต์อยู่ในห้องแล้วไม่กล้าบอกแม่”อรุณที่เห็นน้ำหวานมาตั้งแต่เล็ก ถึงแม้เธอจะไม่ได้สนิทสนมกับน้ำหวานนักแต่เธอรู้ว่าชีวิตน
เช้าวันต่อมากลกันต์เดินทางมาถึงบ้านป้าน้อยในเวลาหกโมงตรง ตามที่แจ้งกับน้ำหวาน เมื่อเขาเดินเข้าไปพบว่าตอนนี้ภายในบ้านมีป้าน้อยและน้ำหวาน ทั้งสองกำลังทานอาหารเช้าอยู่ที่โต๊ะกลางบ้าน“คุณกันต์มาพอดีเลย มากินข้าวต้มกัน ป้าทำไว้เยอะ”ป้าน้อยเป็นฝ่ายที่เอ่ยขึ้นก่อน เช้านี้ป้าแก้วมาหาเธอตั้งแต่ไก่โห่และเล่าเรื่องราวเมื่อคืนให้เธอฟังแล้วก่อนออกไปเฝ้าหลานที่โรงพยาบาลในเมืองต่อ และตกลงกันว่าจะดูห่างๆ หวังว่าทั้งกลกันต์และน้ำหวานจะลงเอยกันด้วยดี คนแก่อย่างพวกเธอก็จะเอาใจช่วย ส่วนเรื่องหัวใจก็ให้ทั้งสองค่อยๆเรียนรู้กันไป กลายเป็นว่าตอนนี้จึงเหลือเพียงน้ำหวาน ป้าน้อย และกลกันต์ที่มาใหม่“ขอบคุณครับ” กลกันต์เดินไปนั่งลงตำแหน่ที่ว่างซึ่งอยู่ข้างน้ำหวาน“โอ๊ยตายจริง ป้าก็ลืมว่าคุณกันต์ไม่ชอบกินข้าวต้ม ป้ามีข้าวที่หุงไว้กับอาหารเมื่อวานเดี๋ยวป้าเข้าไปอุ่นให้ประเดี๋ยวเดียวค่ะ” ป้าน้อยว่าจบจึงลุกออกไป กลกันต์พยายามจะค้านแต่ก็ไม่ทันคนแก่ที่ยังคล่องแคล่วอย่างป้าน้อย“ป้าน้อย กับป้าแก้ว รู้เรื่องของเราแล้วนะคะ” น้ำหวานเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่ตามลำพัง“รู้ก็รู้สิ ไม่ใช่ความลับสักหน่อย”“คุณกันต์ช่วยเก็บเป็นความลับ
“เฮ้ยยยยยยยยยยย”ร่างสูงดีดตัวขึ้นด้วยความตกใจ รีบก้าวลงจากเตรียม พุ่งตัวไปกดสวิตช์ไฟที่อยู่บริเวณประตูห้องพรึบแสงไฟที่ส่องไสวเผยให้เห็นผู้หญิงร่างท้วมที่กำลังนอนหันหลังให้เขา ก่อนจะค่อยๆเริ่มขยับตัวเพราะได้รับการรบกวนจากเสียงของกลกันต์ และแสงไฟที่สาดส่อง“ป้าแก้ว!” กลกันต์พึมพำออกมาด้วยความตกใจทันทีที่ป้าแก้วหันพลิกตัวกลับมาทางฝั่งที่เขายืนอยู่“ป้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เอ่ยถามเสียงไม่เบานัก“คุณกันต์เหรอคะ ป้าคงเผลอหลับไป” มือเหี่ยวยกขึ้นขยี้ตาเบาๆ ใช้เวลาปรับโฟกัสสายตาอยู่เกือบหนึ่งนาทีเผลอหลับอย่างงั้นเหรอ แล้วเมียเขาหายไปไหน“แล้วน้ำหวานไปไหนครับป้า”“หนูหวานเหรอคะ ตอนนี้กี่โมงแล้ว”ไม่รู้ว่าป้ากำลังกวนเขาอยู่ หรือยังไม่ตื่นเต็มที่กันแน่จึงตอบไม่ตรงกับคำถาม หรือเขาเองที่ถามไม่ตรงคำตอบ“จะสี่ทุ่มแล้วป้า”“ตายจริง ป้าเผลอหลับยาวเลย”“แล้วน้ำหวานไปไหนครับ ป้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เมื่อเห็นว่าป้าแก้วเริ่มตื่นดีจึงถามย้ำอีกครั้ง“ใช่ ป้ามาที่นี่เพราะจะมาคุยกับคุณกันต์”“ผม” กลกันต์ขี้มือเข้าหาตัวเอง“ค่ะ และขอร้องให้ตอบความจริงถ้ายังมีความเคารพให้ป้าคนนี้อยู่ และคุณกันต์ต้องตอบป้าม
“ไม่ต้องรบกวนคุณกันต์หรอกนังแก้ว ช่วงนี้งานในไร่ยิ่งมีปัญหาเยอะแยะเต็มไปหมดจะเอาเวลาไหนมาจัดการ ฉันว่าเรื่องนี้คนร้ายมันหาไม่ยากหรอก คนเราหรือทำอะไรมันมีหลักฐานมัดตัวอยู่แล้วล่ะ”“พูดอะไรของแกนังน้อย เรื่องเกิดขึ้นในไร่ แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก คงมีแต่คุณกันต์ที่ช่วยพวกเราได้” ป้าแก้วหันไปพูดกับป้าน้อย เพราะสำหรับเธอแล้วที่พอจะพึ่งพาได้ตอนนี้เธอมองเห็นแค่กลกันต์“เอาไว้ให้น้ำหวานหายดี เราค่อยคุยเรื่องนี้กันนะครับ” เพราะอยากคุยกับน้ำหวานและจัดการสถานะตนเองให้ชัดเจนก่อน เขาขอเวลาสักนิด“ไปแก้ว ไปส่งกูที่บ้านด้วย” ป้าน้อยบอกป้าแก้ว ก่อนหันมามองกลกันต์อีกครั้ง แล้วสะบัดหน้าหนีอะไรวะป้าน้อยทำยังกะงอนเขา“ไปอิน้อย เดี๋ยวกูไปส่ง”“งั้นป้าไปก่อนนะคะ คุณกันต์ ยังไงป้าฝากเรื่องนี้ด้วยครับ”“ครับ ผมสัญญาว่าจะจัดการให้แน่นอน”ป้าน้อยที่หลังจากสะบัดหน้าใส่กลกันต์หนึ่งหนก่อนเดินนำหน้าป้าแก้วออกประตูไป“งั้นป้าไปก่อนนะคะ คุณกันต์”“ครับ”“อะไรของมึงนังแก้ว อยู่ดีๆก็ทำท่างอนคุณกันต์ ผีวัยทองเข้าสิงหรือไง”“ฮึ คนเรามันก็รู้หน้าไม่รู้ใจไงมึง!”“อะไรของมึง”“ถึงบ้านกูค่อยเล่า”ป้าน้อยข่มเก็บควา