ดูจากท่าทีแล้วเขาคงไม่รู้ตัวว่าตอนนี้มีสายการเชื่อมต่อระหว่างเขาและเธอ น้ำหวานได้แต่เก็บก้อนสะอื้นที่มันจุกอยู่ที่คอไว้ ไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา ในขณะที่ดวงตาทั้งสองข้างมิอาจห้ามปรามสายธารของความเจ็บปวดนี้
เจ็บร้าวอยู่ภายในอก แต่สายตายังคงมองจ้องไปที่ภาพตรงหน้า อยากรู้นักจิตใจเขาทำด้วยอะไร เอาคำว่ารักหลอกเธอ ตอนอยู่กับเธอแสดงออกว่าหวง ห่วง พอจากกันเขากลับเป็นอีกคน หรือที่เขาแสดงออกเป็นเพียงละครที่หลอกลวง ให้คนโง่อย่างเธอหลงเชื่อ
อรุณที่อยู่ด้านข้างเห็นความผิดปกติและได้ยินเสียงแปลกดังออกมาจากมือถือจึงหันมองน้ำหวานด้วยความตกใจ และตกใจซ้ำไปอีกเมื่อหันไปเห็นภาพชายหญิงที่กำลังนัวเนียกันอยู่บนเตียง
สองชายหญิงที่อยู่บนเตียงภายในห้องสีขาวสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนักภายในห้องเปิดแสงไฟสลัว ภาพเกิดการส่ายไปมาดูแล้วน่าจะเป็นกลกันต์ที่เป็นฝ่ายถือมือถือเอาไว้ ภาพต่อมาฉายให้เห็นฝ่ายหญิงที่ลุกขึ้นนั่งเอื้อมมือดึงอีกฝ่ายให้เข้ากอบกุมยอดอกที่ยืดอกให้ฝ่ายชายอย่างไม่อาย สายตาท้าทาย เย้ายวนให้ฝ่ายชายจัดการโดยเร็ว
“คุณพระ นี่มันอะไรกัน” อรุณว่าแล้วยึ
เช้าวันรุ่งขึ้น กลกันต์เป็นฝ่ายรู้สึกตัวขึ้นมาก่อน หันมองคนในอ้อมกอด นึกขอบคุณและขอโทษเธอสำหรับเมื่อคืนนี้ เขาเอาแต่ใจและทำให้เธอต้องเสียน้ำตา เขาเกือบ เกือบจะนอกใจเธอหลังจากที่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน เป็นเพราะยาบ้าๆนั่นที่ไม่รู้ว่าเขากินเข้าไปตอนไหน หวังว่าคงจะไม่ใช่ตอนที่นิดนำเครื่องดื่มมาให้เขาหรอกนะ เขาไม่อยากมองเธอในทางลบก่อน น้องนิดที่เขารู้จักนั้นเป็นเด็กดีและหัวอ่อน ไม่ว่าใครจะบอกให้ทำอะไรเธอมักจะทำตามด้วยความซื่อเสมอ แต่เขากับเธอไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้วเนื่องจากตอนเรียนที่เขาต้องไกลบ้านและนานๆกลับมาที ประกอบกับช่วงหลังที่งานในไร่เยอะ จึงไม่ได้มีเวลาพบเจอ เวลาทำให้คนเราเปลี่ยนไปเรื่องนั้นเขารู้ดี แต่ไม่อยากจะคิดว่าจะเปลี่ยนไปถึงขนาดทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ได้&nbs
หลังจากที่กลกันต์และอรุณคุยกันที่ห้องทำงานเรียบร้อยแล้วทั้งคู่จึงเดินทางออกมาจากบ้าน สถานที่แรกที่กลกันต์เดินทางไปคือโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจร่างกายและขอใบรับรองทางการแพทย์เพื่อยืนยันถึงความผิดปกติของร่างกายเมื่อคืนนี้เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วสถานที่ต่อมาคือคอนโดที่เกิดเหตุ เขาได้แจ้งเจตจำนงขอดูภาพวงจรปิด เพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่นี่ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้เวลาสักพักเพื่อทำการตรวจสอบและขออนุญาตเพื่อเปิดดูภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภาพที่ปรากฏเผยให้เห็นช่วงเวลาหนึ่งที่นิดเดินออกไปด้านนอกและกลับเข้ามาหลังจากนั้นอีกสองนาที ในมือถือเครื่องดื่มสองแก้วเดินทางมุ่งมาทิศที่เขานั่งรออยู่ แต่สักพักมีชายหนุ่มผู้หนึ่งรูปร่างผอมสูง แต่งตัวด้วยเสื้อยืดสีดำและกางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบเดินตามนิดเข้ามา ชายผู้นั้นเข้ามาคว้าแขนนิดเอาไว้จากทางด้านหลัง เกิดการฉุดกระชากกันอยู่สักพักก่อนที่ชายผู้นั้นจะยอมหันหลังเดินจากไป“ผา” พนักงานผู้หนึ่งที่ร่วมดูกล้องบันทึกภาพวงจรปิดเอ่ยออกมาเบาๆ และกลกันต์ได้ยินชัดเจน จึงต้องหั
คนที่ทำให้เมียเขาต้องร้องไห้เสียใจเขาคงไม่สามารถปล่อยไปได้ ถือว่ายังโชคดีที่เมื่อคืนเขารอดกลับไปที่บ้าน หากสติอันน้อยนิดไม่สามารถเรียกกลับมาได้ ความผิดหวังและเสียงใจคงเกิดขึ้นมากกว่านี้ จะบอกว่าทำไปเพราะขาดความยับยั้งชั่งใจหรืออะไรก็ตาม มันเอามาทดแทนกันไม่ได้หรอก เมื่อสิ่งที่เธอทำเป็นการทำลายชีวิตของเขาและน้ำหวาน ถ้าจะให้เขายกโทษเพราะเป็นคนรู้จักกันขอบอกเลยว่าไม่ ยิ่งรู้จักยิ่งต้องเกรงใจและมีเมตตาต่อกันไม่ใช่หรือ นิดไม่ใช่เด็กแล้วอายุของเธอตอนนี้ยี่สิบปีและบรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่ได้เด็กจนไม่สามารถแยกแยะสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด แม้ในอดีตเขาจะเอ็นดูนิดในฐานะน้องสาวคนหนึ่ง แต่คงไม่สามารถนำมาหักล้างกับความผิดได้ “ผมขอส่งคุณจอยตรงนี้นะครับ ขอบคุณสำหรับวันนี้มากครับ” “จอย
กว่าที่กลกันต์จะกลับมาถึงบ้านก็มืดค่ำเสียแล้ว โดยระหว่างทางเขาได้แวะส่งอรุณที่บ้านในเมืองเนื่องจากเป็นทางผ่านพอดี อรุณจึงได้ขอแวะที่บ้าน และไม่ลืมเอ่ยเตือนให้กลกันต์ปรับความเข้าใจกับน้ำหวานโดยเร็ว กลกันต์จอดรถไว้ที่โรงรถปกติแต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องแปลกใจคือบ้านที่เวลานี้ควรจะมีแสงไฟเปิดสว่างอยู่กลับปิดมืด และไร้เสียงราวกับไม่มีคนอยู่อาศัย น้ำหวาน ป้าแก้ว ป้าน้อย เวลานี้ทุกคนควรจะอยู่ในบ้าน ไม่รอช้าเขาจึงรีบก้าวเข้าบ้านเปิดไฟที่ห้องโถง ก่อนตรงดิ่งไปที่ห้องปีกซ้าย ซึ่งตลอดทางที่เดินทางทุกพื้นที่ในบ้านถูกปิดไฟมืดสนิท ภายในห้องของน้ำหวาน ที่ตอนนี้มืดสนิท หายไปไหน ใจแกร่งวูบโหวงแปลกๆ รีบดึงมือถือที่สอดอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมากดต่อสายหาน้ำหวานทันที เสียงสัญญาณที่ดึงขึ้นต่อเนื่องแต่กลับไม่มีคนรับสาย เวลานี้เธอจะอยู่ที่ไหน ดังนั้นจึงกดต่อสายหาป้าแก้วต่อ“ป้าแก้วครับ น้ำหวานอยู่กับป้าหรือเปล่า”“ค่ะ คุณกันต์ น้ำหวานเหรอคะ เมื่อเช้าตื่นมาบ่นปวดหัว ป้าเลยไม่กวนปล่อยให้นอนทั้งวันเลย ป้าเห็นว่าบ้านคุณไม่มีคนอยู่เลยให้มานอนกับป้า”“แล
หลังจากที่พลพลอบรมชะนีที่เริ่มมีความรักเสร็จ น้ำหวานจึงมีกำลังใจและตกลงกันว่าจะกลับไปคุยกับกลกันต์ให้รู้เรื่องหลังจากที่แวะกินข้าวกันสักร้านก่อน เพราะหากไม่กลับไปโดยด่วนเขาคงกระหน่ำโทรหาเธอเช่นนี้ทั้งวันเป็นแน่ กลกันต์โทรเข้ามาอีกครั้งขณะที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ เธอจึงกดรับสาย “หวาน หวานอยู่ที่ไหน” ปลายสายที่แม้จะร้อนใจแต่ยังคงควบคุมน้ำเสียงไม่ให้ห้วนจนเกินไป “หวานอยู่ข้างนอกค่ะ” “กลับมาคุยกับพี่นะ เดี๋ยวพี่ออกไปรับ” เสียงปลายสายเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเว้าวอน น้ำหวานที่เปิดเสียงให้พลพลได้ยินด้วย เขาจึงพยักหน้าให้เธอตอบตกลงกลกันต์ “หวานอยู่ที่ร้าน XX นะคะ”
“พอเลยค่ะ กลับไปขับรถได้แล้ว” “กลับบ้านเรานะครับ” แม้น้ำหวานเลือกที่จะไม่ตอบคำถามเขาก็ไม่เป็นไร รอให้เธอพร้อม เขาจะรอวันนั้น กลกันต์จึงหันกลับมาตั้งใจขับรถต่อ ใช้เวลานานจึงมาถึงที่บ้าน รถถูกจอดไว้ที่บริเวณข้างตัวบ้านและมีน้ำหวานเป็นฝ่ายเดินเข้าไปก่อน แรงสวมกอดจากด้านหลัง พร้อมกับร่างสูงของกลกันต์ที่กดทับลงมาบนแผ่นหลังของเธอ เมื่อเขาเดินตามเข้ามาในตัวบ้าน “พี่ขอกอดหน่อยนะ ขอโทษสำหรับทุกเรื่องที่เกิดขึ้น พี่จะชดเชยโดยการให้หวานทำคืนแบบที่พี่ทำดีไหม” “หืมมม แบบไหนคะ” “ก็...” นิ้วของกลกันต์เริ่มไต่ไ
“น่ารักที่สุด” กลกันต์เอ่ยเพ้อๆ เมื่อได้รับจูบที่ข้างแก้มและคำพูดหวานๆจากคนตัวเล็ก ในตอนนี้น้ำหวานนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์มีกลกันต์ยืนเท้าแขนอยู่ที่ขอบ สองแขนของน้ำหวานยังคงประคองใบหน้าของกลกันต์เอาไว้ “อย่าทำลายความไว้ใจของหวานนะคะ” ใบหน้าหวานมองสบตาเอ่ยเสียงจริงจังอีกครั้ง จ้องลึกลงไปนัยน์ตาของคนตัวโต “พี่ขอให้หวานเชื่อใจในตัวพี่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่รักหวานคนเดียว และจะดูแลหวานให้ดีที่สุด พี่สัญญา อืมมม เปลี่ยนๆ แต่ไม่รับปากว่ารักหวานคนเดียวดีกว่า” “พี่กันต์ ถ้าพี่กันต์รักคนอื่นไปพร้อมกับหวาน หวานไม่ยอมนะ” ใบหน้าหวานเริ่มงอง้ำลง “แต่พี่เชื่อว่าคนนี้หวานยอม ก็ลูกขอ
ผ่านไปอีกหลายวันจนกระทั่งถึงวันที่น้ำหวานจะต้องเดินทางไปมหาวิทยาลัย วันนี้เธอยังคงตื่นขึ้นมาแต่เช้ามืด ลุกขึ้นมาเตรียมอาหาร และนำไปใส่บาตรในตอนเช้าตามกิจวัตรประจำวัน จะต่างกันที่ในตอนนี้เธอไม่ต้องไปคนเดียวแล้ว กลกันต์ไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัยด้วยตัวเองตามที่ตกลงกันไว้ ของใช้เธอนำไปไม่เยอะ นำเพียงของที่จำเป็นไปก่อน มีของขาดเหลือค่อยกลับมาเอา ระยะทางจากไร่ไปมหาวิทยาลัยไม่ไกลนัก ใช้เวลากลับมาช่วงเสาร์อาทิตย์ได้ น้ำหวานเดินทางก่อนวันลงทะเบียนตามกำหนดการมหาวิทยาลัยหนึ่งวันเพื่อไม่ให้ฉุกละหุกจนเกินไป ในตอนแรกจะออกเดินทางเร็วกว่านี้ แต่กลับขัดใจคุณผู้ปกครอง ดังนั้นการเดินทางจึงถูกเลื่อนมาเป็นวันนี้แทน หอพักที่น้ำหวานอยู่นั้นเป็นหอพักหญิงล้วน กลกันต์จึงพอเบาใจได้สักเล็กน้อย แม้จะไม่สะดวกเมื่อเขาเดินทางมาหาเธอที่หอนี้ แต่ไม่เป็นไร เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหานัก ตัวหอพักเป็นตึกขนาดให
พลั๊ก ร่างสูงที่เดินตามเข้ามาจับแขนเรียวทั้งสองข้าง หมุนเมียรักให้หันหน้าเข้าหาเขา ดันร่างบางให้ถอยหลังด้วยความระวังจนแผ่นหลังเนียนแบบติดกำแพง ภายในห้องน้ำมีเพียงเทียนหอมให้ความสว่าง และกลิ่นอโรมาอบอวลให้ความผ่อนคลาย “พี่กันต์ขา หวานอยากสระผม” พร้อมกับมือเรียวขืนออกจากข้อมือใหญ่ จับตัวหนีผมบีบให้คลายออกจากเส้นผมยาวสวยจนเส้นผมค่อยๆตกลงปิดไหล่เนียน เชิดใบหน้าขึ้น สะบัดหน้าสองสามทีให้เส้นทิ้งตัวลง นิ้วชี้เรียวยกขึ้นเกี่ยวเอาเส้นผม ก่อนใช้นิ้ววนรอบ ปากบอกอยากสระผมแต่สายตาเมียรักที่ส่งมาน่าจะอยากอย่างอื่นมากกว่า จึงโน้มตัวลงเข้าไปสูดดมผมงามที่โดนนิ้วเรียวเกี่ยวเอาไว้ “ผมหอมขนาดนี้ พี่ว่าค่อยสระก็ได้” เอ่ยบอกคนตัวเล็ก แล้วงับนิ้วเธอเบาๆ ใบหน้าคมค่อยเคลื่อนลงดมกลิ่นหอมจากเมียรัก ไล้ไปตามไหปลาร้า ขบเข้าที่คอสวยจนเกิดรอย มือหนาสองข้างเคลื่อนเข้าไปกอบกุมยอดอกงามที่ใหญ่ขยายตัวขึ้นนับตั้งแต่มีลูก “อื้อ พี่กันต์อย่าทำรอยข้างนอกนะคะ” จบคำ มือใหญ่ปล่อยจากยอดปทุมที่กำลังกอบกุมเอาไว้ให้เป็นอิสระ ก้มลงใช้ปากหยักครอบงับเข้าไปแทนที่
และแน่นอนว่าลูกของเธอหนีไม่พ้นชื่อว่าน้องน้ำผึ้ง เป็นลูกสาวสมใจอยาก ที่กลกันต์ประคบประหงมอย่าดี โดยมีทั้งคุณตา คุณย่า และบรรดาคุณอาแวะเวียนมาช่วยเลี้ยง กลกันต์เป็นพ่อสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ และยังเป็นสามีที่ดี ไม่มีเรื่องผู้หญิงมากวนใจ เขาทำให้เธอโตขึ้นและมีเป้าหมายในชีวิตแบบที่ไม่เคยคิดมากก่อน ช่วงนี้เธอยังคงเข้าไปเรียนรู้งานในไร่ ส่วนต่างๆ และยังเป็นเลขาส่วนตัวให้กับกลกันต์ที่ไม่ว่าที่ไหนมีเขา ที่นั่นต้องมีเธอ หลังจากที่คลอดลูกคนแรกกลกันต์เป็นฝ่ายเอ่ยกับเธอว่ามีลูกคนเดียวก็พอ เพราะไม่อยากเห็นเธอเจ็บปวดแบบนั้นอีก ยอมรับว่านับตั้งแต่ตั้งท้องและมีลูก คำว่าส่วนตัว และคำว่าสบายไม่มีอยู่จริง แต่เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขไม่สามารถหาสิ่งอื่นมาทดแทนได้ ท้ายที่สุดจึงเลือกที่จะคุมกำเนิดไว้ก่อนเพื่อรอเวลาที่เหมาะสม และวันนี้ก็เป็นวันที่เธอคิดว่าพร้อมแล้วที่จะมีลูกอีกคน เมื่อตอนนี้น้องน้ำผึ้งมีอายุสิบแปดเดือน น้องน้ำผึ้งเดินได้แล้ว และสามารถทานอาหารเองได้บ้าง ถือเป็นพัฒนาการที่ดี นอกจากนี้แล้วช่วงนี้ลูกสาวของเธอเริ่มจดจำสิ่งต่างๆรอบตัว ทำให้ต้องระมัดระวังคำพูดและกา
“แกแน่ใจนะว่าครบแล้ว” เสียงของพลพลเอ่ยท้วงมาแต่ไกลเมื่อเห็นเพื่อนสาวที่ตอนนี้อายุครรภ์ 37 สัปดาห์เข้าไปแล้ว หน้าท้องที่เคยแบนราบเริ่มโตขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น “ครบแล้วแก นี่ฉันตรวจเช็คมาสามรอบแล้ว ของพวกนี้พี่กันต์ก็ช่วยเตรียม” หันไปตอบเพื่อนที่ดูจะเห่อกว่าเธอเสียอีก พร้อมหันไปรับแก้วน้ำผึ้งมะนาวจากกลกันต์ที่ทำหน้าที่ดูแลเธอ ตั้งแต่ที่รู้ว่าตั้งครรภ์สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือน้ำผึ้งมะนาว ถ้าไม่ได้กินจะรู้สึกเหมือนขาดบางอย่างไป จนกลกันต์กลัวว่าเธอจะกินมากไปและขอให้ลดลงกินเพียงสัปดาห์ละสองครั้ง ซึ่งเธอก็เข้าใจความห่วงใยของสามีดี ที่บอกว่าเป็นสามีนั้นก็เพราะว่าเธอและกลกันต์ได้จดทะเบียนสมรสกันไปเมื่อเดือนก่อน ดังนั้นทรัพย์สินที่ถูกจัดแบ่งตามพินัยกรรมของคุณลุงเป็นอันสมบูรณ์ และเพราะคำขอของคุณย่าและคุณตาที่อยากให้เธอและกลกันต์เป็นสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมายถึงได้จูงมือกันไปจดทะเบียน ส่วนงานแต่งคงต้องเอาไว้ก่อน เธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับการจัดการมาก ถึงอย่างไรก็อยู่ด้วยกันแถมยังมีลูกอีกหนึ่ง เพียงแต่กลกันต์ที่อยากจัดงานให้ถูกต้อง โดยให้เหตุผลว่าอยากป่าวประกาศเรื่
สองร่างที่กำลังกอดพูดคุยให้กำลังใจผละออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงดังอึกกระทึกครึกโครมดังมาจากอีกด้านซึ่งอยู่หลังเวที ในตอนนี้ผู้คนในงานต่างหันไปมองทิศทางของเสียง ก่อนที่สักพักจะได้ยินเสียงโห่ร้องตามมา เสียงเพลงบนเวลาถูกปิดลงจนรอบตัวมีแต่ความเงียบ นิคที่นั่งอยู่บริเวณหน้าเวทีหันไปมองด้วยความสนใจเมื่อเห็นผู้ที่เดินขึ้นมาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นโก๋ ย่างก้าวขึ้นบนเวทีขณะที่มือข้างหนึ่งถือไมโครโฟนและมืออีกข้างกุมอยู่ที่ข้อมือของหญิงสาวที่เขาไม่เคยพบ เจ้าของร่างกำยำอาศัยพละกำลังที่มากกว่าใช้มือกุมข้อมือน้อยๆบังคับให้นิดที่พยายามขัดขืนเดินตามแรงของเขา ไม่ว่าจะทั้งข่วนทั้งขู่ก็ไม่มีทีท่าจะโก๋จะหยุด จนสุดท้ายการฉุดกระชากจึงจบลงที่กลางเวที นิดส่ายหน้าขอร้องให้เขาหยุดการกระทำแต่โก๋ไม่สนใจเมื่อสิ่งที่จะทำต่อจากนี้เขาคิดมาแล้ว “ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะความสนุกทุกคนนะครับ” เสียงเข้มว่าออกไปโดยมีทุกคนสายตากำลังจับจ้องมาที่เขา ต่างรอลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ ผู้จัดการศูนย์อาหารที่หายไปตั้งแต่หัวค่ำ ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับนิดนักบัญชีสาวโสดของไร่
พลพลที่กำลังเดินเข้าไปในครัวไม่ลืมที่จะหันกลับมามองนิคเป็นระยะ เมื่อเห็นว่านิคน่าจะอยู่คนเดียวได้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรจึงเดินเข้าห้องครัวไปชีวิตใหม่ของนิคกำลังจะเริ่มขึ้น ในฐานะแฟนแม้ไม่ใช่ความรักชายหญิงเหมือนทั่วไป แต่เขามั่นใจว่าความรักที่มีเป็นรักแท้และไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นเขาคิดเสมอขอให้นิคกลับมา และสัญญาว่าไม่จะเกิดอะไรขึ้นเขาจะยืนข้างนิคไม่ปล่อยมือพลพลหยุดยืนหน้าห้องครัวที่ส่งกลิ่นหอมลอยโชยออกมาตามลม เมื่อเห็นว่าประตูห้องเปิดอยู่จึงก้าวเข้าไปแต่ภาพที่เห็นทำให้ต้องชะงักเท้าเอาไว้ การมาของเขาจะเป็นก้างขวางคอคนแถวนี้หรือเปล่า เมื่อเห็นคู่รักทำอาหารหวานจนมดแทบจะขนกันลงหม้อแล้วรู้สึกยินดีกับเพื่อนที่ได้เจอรักดีๆ ที่พร้อมจะดูแล แม้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะดูรวดเร็ว เร็วกับการพัฒนาแต่เชื่อว่าทั้งคู่ปรับตัวเข้าหากันได้ ก็รู้จักกันมาทั้งชีวิตแล้ว และนึกขอบคุณกลกันต์ที่ให้โอกาสเขาและนิค ตลอดเวลาที่นิครักษาตัวเขาให้ความช่วยเหลืออย่างดี ทำทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้โดยที่พลพลและนิคไม่เคยได้เอ่ยขอ สงสัยเขาและนิคคงจะต้องอยู่เลี้ยงลูกให้น้ำหวานจริงๆ“ทำแบบนี้กับข้าว
ฝ่ามือหนาของโก๋ยังคงจับยึดที่ข้อเท้าสวย บรรจงจูบซ้ำๆ พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนให้หญิงสาวที่ยังคงส่งสายตาปั้นปึ่งให้ เขาเข้าใจดีกับสิ่งที่เธอต้องการ แต่ในมุมของเขาก็ต้องการเวลาเช่นกัน ไม่ใช่อยากเก็บเป็นความลับ แต่คนใกล้กันยิ่งมีคนรู้มากหากไม่ใช่แล้วต้องแยกจากกันไปเธอจะเสียหาย ตัวเขาเองก็ไม่เป็นไรหรอก ไม่สนใจคำพูดอยู่แล้ว จนวันนี้ที่ถูกเธอเมินความสนใจ รู้สึกใจจะขาด ไม่พอใจ เหมือนหัวใจถูกบีบ กลัวเธอยอมแพ้แล้วตัดใจจากเขา“จะปล่อยดีๆไหม” ไม่เพียงแต่สายตาเท่านั้นแต่น้ำเสียงที่ส่งมายังเต็มไปด้วยความโมโห“ไม่” ว่าพร้อมกระตุกเรียวขาสวยที่พยายามขืนออกจากการเกาะกุม“ได้ แล้วอย่ามาเสียใจละกัน” ว่าแล้วจึงชักเรียวขาหดเข้าหาลำตัวก่อนออกแรงเหยียดจนสุดหรือจะเรียกว่าถีบสุดกำลังใส่ร่างล่ำหนา หากแต่ผิดคาดเธอประเมินเขาต่ำไปแรงเท่ามดของเธอไม่สามารถทำอะไรกับผู้ชายถึกทึนแบบเขาได้ จึงตลบหลังเธอด้วยการจับยึดเรียวขาออกแรงพลิกร่างเล็กให้คว่ำลง“อร๊ายยย ทำบ้าอะไรเนี่ย”“พี่คิดว่าจะสู้ผมได้จริงเหรอ” ถามอย่างท้ายทาย ตัวเท่านี้จะเอาอะไรมาสู้เขา“ทำแบบนี้ทำไม”“ขี้เกียจอธิบายแล้ว” โก๋ว่าอย่างมึนๆ พร้อมโน้มตัวลงทาบทับร่างเ
วันนี้เป็นอีกวันที่ไร่กลเกียรติมีการรวมตัวเพื่อจัดงานต้อนรับการออกจากโรงพยาบาลของนิค และเป็นการเริ่มชีวิตใหม่ของหลายๆคน บรรยากาศเป็นไปตามสไตล์บ้านไร่เสียงเพลงเพราะๆกับบรรยากาศเย็นสบายในตอนเย็นทำให้นิคระบายยิ้มออกมาขณะรับแก้วเครื่องดื่มจากพลพล“ทุกคนน่ารักมากนะ” นิคหันไปพูดกับแฟนหนุ่มก่อนยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ“นิคอยากไปเต้นสักเพลงไหม” พลพลถามพลางยื่นมือออกไปหาคนรัก ซึ่งเอาแต่ส่ายหน้า“ไม่ดีกว่า พี่เห็นทุกคนสนุกก็พลอยสนุกไปด้วยแล้ว พลเข้าไปช่วยน้ำหวานในครัวก่อนก็ได้นะ”“พลไม่อยากทิ้งพี่นิคไว้คนเดียว”“คนเดียวที่ไหน คนเต็มงานเลย เดี๋ยวมีอะไรพี่เรียกพลเอง ไปเถอะ แล้วตักของอร่อยๆมาให้พี่ด้วย” นิค พยักหน้าอีกครั้งเพื่อยืนยันคำพูด เขาอยู่คนเดียวได้จริงๆ ตอนนี้ทั้งงานเต็มไปด้วยผู้คนในไร่ที่มาร่วมงาน ขณะที่รออาหารจากในครัวมาเสิร์ฟ ขาแดนซ์จึงเริ่มออกลวดลาย“พี่โก๋ก็ไม่อยู่ ไม่รู้หายไปไหนของเขา พี่นิคกลับมาทั้งทีกลับหายตัว ไม่ห่วงเพื่อนเลยหรือไง” พลพลบ่นไปตามประสา เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่เขาและนิคเข้ามาที่ไร่แห่งนี้ ด้วยคำขอของกลกันต์ที่อยากให้นิคพักฟื้นที่ไร่ ตั้งแต่ที่กลับเข้ามาที่ไร่เมื่อ
เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้วที่โก๋ย้ายมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไร่เกียรติอรุณแห่งนี้ จากช่วงแรกที่เข้ามาขอเริ่มงานในไร่ที่ต้องใช้แรงพละกำลังตามแบบถนัด จนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเขาได้ขอกลกันต์ย้ายเข้ามาช่วยงานศูนย์อาหารด้านหน้า ให้เหตุผลว่าอยากดูแลแม่ของเขาซึ่งอยู่เฉยๆไม่ได้จึงต้องออกมาช่วยงานที่นี่อยู่เรื่อยไปกลกันต์นั้นแสนจะยินดี เพราะภาระงานอันมากมายที่ต้องรับผิดชอบและอยากแบ่งเบา โดยเฉพาะกับผู้มีพระคุณของครอบครัว ครั้นเขาจะเอ่ยปากแต่แรกก็เกรงว่าจะทำให้โก๋ลำบากใจ จนกระทั่งโก๋เข้ามาขอทำงานในร้านอาหารเขาจึงอนุมัติทันที ผ่านมาเกือบเดือนที่โก๋ย้ายมาดูแลร้านอาหาร ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายที่บุคลิกดูโผงผางแบบโก๋จะทำให้ลูกค้าติดหนึบจนยอดขายเพิ่มขึ้นมาก แถมยังมีสาวๆเข้ามาติดพัน สงสัยจะได้สละโสดก็คราวนี้“พี่กันต์คิดอะไรอยู่คะ” น้ำหวานที่เดินเข้ามาใกล้ตัวกลกันต์ที่ยืนเท้าแขนอยู่ระเบียงห้อง“ก็คิดว่าคืนนี้จะให้หวานช่วยพี่ยังไงดี ท่าไหนดี” กระซิบริมใบหูของน้ำหวานเบาๆท้ายประโยค และเธอเข้าใจดีกับคำว่าช่วยของเขาจนดวงหน้าเริ่มแดงซ่าน แม้จะแนบชิดกันมาหลายครั้ง แต่เธอยังคงไม่ชินและเขินอายเสมอเมื่อโดนเขากลั่นแกล
สามวันต่อมา วันนี้เป็นวันที่โก๋และแม่เดินทางเข้ามาที่ไร่เป็นวันแรก จากที่ควรจะมาตั้งแต่เมื่อวานแต่เพราะยังจัดการข้าวของจากบ้านเก่าไม่แล้วเสร็จการเดินทางจึงถูกเลื่อนออกไปหนึ่งวันรถเก๋งคันเก่าคู่ใจเคลื่อนที่เข้ามาในไร่ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์อยู่ตรงศีรษะอันร้อนระอุ ป้าน้อยทำหน้าที่ต้อนรับทั้งสองและพาเข้าไปแนะนำบ้านพักซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับหลังของป้าน้อยเนื่องจากวันนี้น้ำหวานต้องเดินทางเข้าไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อทำการสอบในรายวิชาที่เหลือและตัดสินใจทำเรื่องพักการเรียนเอาไว้ก่อนด้วย กลกันต์ที่ไม่อยากให้น้ำหวานต้องอยู่ห่างตัวจึงตามเธอไปด้วยอีกคน ทำให้ต้องฝากป้าแก้วและป้าน้อยช่วยดูแลโก๋และคุณยายณีแม่ของเขาโก๋หยุดรถลงที่หน้าบ้านหลังสีขาวเป็นบ้านชั้นเดียว ดูร่มรื่นโอบล้อมไปด้วยทิวทิศน์ธรรมชาติเขียวขจี และด้านข้างยังมีบ้านอีกหลายหลังที่อยู่ใกล้เคียงกัน ด้วยอากาศที่ร้อนจัดโก๋จึงละสายตาจากความงามของบรรยากาศรอบตัว รีบเข้าไปช่วยพยุงแม่เข้าไปพักในตัวบ้านที่ทำความสะอาดไว้เป็นอย่างดีเดินทางการมาเหนื่อยป้าน้อยจึงปล่อยให้ทั้งสองได้นอนพักเอาแรง ทางด้านยายณีหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าในขณะที่โก๋ยังคงตื่นเต้นกับส