ดูจากท่าทีแล้วเขาคงไม่รู้ตัวว่าตอนนี้มีสายการเชื่อมต่อระหว่างเขาและเธอ น้ำหวานได้แต่เก็บก้อนสะอื้นที่มันจุกอยู่ที่คอไว้ ไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา ในขณะที่ดวงตาทั้งสองข้างมิอาจห้ามปรามสายธารของความเจ็บปวดนี้
เจ็บร้าวอยู่ภายในอก แต่สายตายังคงมองจ้องไปที่ภาพตรงหน้า อยากรู้นักจิตใจเขาทำด้วยอะไร เอาคำว่ารักหลอกเธอ ตอนอยู่กับเธอแสดงออกว่าหวง ห่วง พอจากกันเขากลับเป็นอีกคน หรือที่เขาแสดงออกเป็นเพียงละครที่หลอกลวง ให้คนโง่อย่างเธอหลงเชื่อ
อรุณที่อยู่ด้านข้างเห็นความผิดปกติและได้ยินเสียงแปลกดังออกมาจากมือถือจึงหันมองน้ำหวานด้วยความตกใจ และตกใจซ้ำไปอีกเมื่อหันไปเห็นภาพชายหญิงที่กำลังนัวเนียกันอยู่บนเตียง
สองชายหญิงที่อยู่บนเตียงภายในห้องสีขาวสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนักภายในห้องเปิดแสงไฟสลัว ภาพเกิดการส่ายไปมาดูแล้วน่าจะเป็นกลกันต์ที่เป็นฝ่ายถือมือถือเอาไว้ ภาพต่อมาฉายให้เห็นฝ่ายหญิงที่ลุกขึ้นนั่งเอื้อมมือดึงอีกฝ่ายให้เข้ากอบกุมยอดอกที่ยืดอกให้ฝ่ายชายอย่างไม่อาย สายตาท้าทาย เย้ายวนให้ฝ่ายชายจัดการโดยเร็ว
“คุณพระ นี่มันอะไรกัน” อรุณว่าแล้วยึ
เช้าวันรุ่งขึ้น กลกันต์เป็นฝ่ายรู้สึกตัวขึ้นมาก่อน หันมองคนในอ้อมกอด นึกขอบคุณและขอโทษเธอสำหรับเมื่อคืนนี้ เขาเอาแต่ใจและทำให้เธอต้องเสียน้ำตา เขาเกือบ เกือบจะนอกใจเธอหลังจากที่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน เป็นเพราะยาบ้าๆนั่นที่ไม่รู้ว่าเขากินเข้าไปตอนไหน หวังว่าคงจะไม่ใช่ตอนที่นิดนำเครื่องดื่มมาให้เขาหรอกนะ เขาไม่อยากมองเธอในทางลบก่อน น้องนิดที่เขารู้จักนั้นเป็นเด็กดีและหัวอ่อน ไม่ว่าใครจะบอกให้ทำอะไรเธอมักจะทำตามด้วยความซื่อเสมอ แต่เขากับเธอไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้วเนื่องจากตอนเรียนที่เขาต้องไกลบ้านและนานๆกลับมาที ประกอบกับช่วงหลังที่งานในไร่เยอะ จึงไม่ได้มีเวลาพบเจอ เวลาทำให้คนเราเปลี่ยนไปเรื่องนั้นเขารู้ดี แต่ไม่อยากจะคิดว่าจะเปลี่ยนไปถึงขนาดทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ได้&nbs
หลังจากที่กลกันต์และอรุณคุยกันที่ห้องทำงานเรียบร้อยแล้วทั้งคู่จึงเดินทางออกมาจากบ้าน สถานที่แรกที่กลกันต์เดินทางไปคือโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจร่างกายและขอใบรับรองทางการแพทย์เพื่อยืนยันถึงความผิดปกติของร่างกายเมื่อคืนนี้เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วสถานที่ต่อมาคือคอนโดที่เกิดเหตุ เขาได้แจ้งเจตจำนงขอดูภาพวงจรปิด เพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่นี่ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้เวลาสักพักเพื่อทำการตรวจสอบและขออนุญาตเพื่อเปิดดูภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภาพที่ปรากฏเผยให้เห็นช่วงเวลาหนึ่งที่นิดเดินออกไปด้านนอกและกลับเข้ามาหลังจากนั้นอีกสองนาที ในมือถือเครื่องดื่มสองแก้วเดินทางมุ่งมาทิศที่เขานั่งรออยู่ แต่สักพักมีชายหนุ่มผู้หนึ่งรูปร่างผอมสูง แต่งตัวด้วยเสื้อยืดสีดำและกางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบเดินตามนิดเข้ามา ชายผู้นั้นเข้ามาคว้าแขนนิดเอาไว้จากทางด้านหลัง เกิดการฉุดกระชากกันอยู่สักพักก่อนที่ชายผู้นั้นจะยอมหันหลังเดินจากไป“ผา” พนักงานผู้หนึ่งที่ร่วมดูกล้องบันทึกภาพวงจรปิดเอ่ยออกมาเบาๆ และกลกันต์ได้ยินชัดเจน จึงต้องหั
คนที่ทำให้เมียเขาต้องร้องไห้เสียใจเขาคงไม่สามารถปล่อยไปได้ ถือว่ายังโชคดีที่เมื่อคืนเขารอดกลับไปที่บ้าน หากสติอันน้อยนิดไม่สามารถเรียกกลับมาได้ ความผิดหวังและเสียงใจคงเกิดขึ้นมากกว่านี้ จะบอกว่าทำไปเพราะขาดความยับยั้งชั่งใจหรืออะไรก็ตาม มันเอามาทดแทนกันไม่ได้หรอก เมื่อสิ่งที่เธอทำเป็นการทำลายชีวิตของเขาและน้ำหวาน ถ้าจะให้เขายกโทษเพราะเป็นคนรู้จักกันขอบอกเลยว่าไม่ ยิ่งรู้จักยิ่งต้องเกรงใจและมีเมตตาต่อกันไม่ใช่หรือ นิดไม่ใช่เด็กแล้วอายุของเธอตอนนี้ยี่สิบปีและบรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่ได้เด็กจนไม่สามารถแยกแยะสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด แม้ในอดีตเขาจะเอ็นดูนิดในฐานะน้องสาวคนหนึ่ง แต่คงไม่สามารถนำมาหักล้างกับความผิดได้ “ผมขอส่งคุณจอยตรงนี้นะครับ ขอบคุณสำหรับวันนี้มากครับ” “จอย
กว่าที่กลกันต์จะกลับมาถึงบ้านก็มืดค่ำเสียแล้ว โดยระหว่างทางเขาได้แวะส่งอรุณที่บ้านในเมืองเนื่องจากเป็นทางผ่านพอดี อรุณจึงได้ขอแวะที่บ้าน และไม่ลืมเอ่ยเตือนให้กลกันต์ปรับความเข้าใจกับน้ำหวานโดยเร็ว กลกันต์จอดรถไว้ที่โรงรถปกติแต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องแปลกใจคือบ้านที่เวลานี้ควรจะมีแสงไฟเปิดสว่างอยู่กลับปิดมืด และไร้เสียงราวกับไม่มีคนอยู่อาศัย น้ำหวาน ป้าแก้ว ป้าน้อย เวลานี้ทุกคนควรจะอยู่ในบ้าน ไม่รอช้าเขาจึงรีบก้าวเข้าบ้านเปิดไฟที่ห้องโถง ก่อนตรงดิ่งไปที่ห้องปีกซ้าย ซึ่งตลอดทางที่เดินทางทุกพื้นที่ในบ้านถูกปิดไฟมืดสนิท ภายในห้องของน้ำหวาน ที่ตอนนี้มืดสนิท หายไปไหน ใจแกร่งวูบโหวงแปลกๆ รีบดึงมือถือที่สอดอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมากดต่อสายหาน้ำหวานทันที เสียงสัญญาณที่ดึงขึ้นต่อเนื่องแต่กลับไม่มีคนรับสาย เวลานี้เธอจะอยู่ที่ไหน ดังนั้นจึงกดต่อสายหาป้าแก้วต่อ“ป้าแก้วครับ น้ำหวานอยู่กับป้าหรือเปล่า”“ค่ะ คุณกันต์ น้ำหวานเหรอคะ เมื่อเช้าตื่นมาบ่นปวดหัว ป้าเลยไม่กวนปล่อยให้นอนทั้งวันเลย ป้าเห็นว่าบ้านคุณไม่มีคนอยู่เลยให้มานอนกับป้า”“แล
หลังจากที่พลพลอบรมชะนีที่เริ่มมีความรักเสร็จ น้ำหวานจึงมีกำลังใจและตกลงกันว่าจะกลับไปคุยกับกลกันต์ให้รู้เรื่องหลังจากที่แวะกินข้าวกันสักร้านก่อน เพราะหากไม่กลับไปโดยด่วนเขาคงกระหน่ำโทรหาเธอเช่นนี้ทั้งวันเป็นแน่ กลกันต์โทรเข้ามาอีกครั้งขณะที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ เธอจึงกดรับสาย “หวาน หวานอยู่ที่ไหน” ปลายสายที่แม้จะร้อนใจแต่ยังคงควบคุมน้ำเสียงไม่ให้ห้วนจนเกินไป “หวานอยู่ข้างนอกค่ะ” “กลับมาคุยกับพี่นะ เดี๋ยวพี่ออกไปรับ” เสียงปลายสายเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเว้าวอน น้ำหวานที่เปิดเสียงให้พลพลได้ยินด้วย เขาจึงพยักหน้าให้เธอตอบตกลงกลกันต์ “หวานอยู่ที่ร้าน XX นะคะ”
“พอเลยค่ะ กลับไปขับรถได้แล้ว” “กลับบ้านเรานะครับ” แม้น้ำหวานเลือกที่จะไม่ตอบคำถามเขาก็ไม่เป็นไร รอให้เธอพร้อม เขาจะรอวันนั้น กลกันต์จึงหันกลับมาตั้งใจขับรถต่อ ใช้เวลานานจึงมาถึงที่บ้าน รถถูกจอดไว้ที่บริเวณข้างตัวบ้านและมีน้ำหวานเป็นฝ่ายเดินเข้าไปก่อน แรงสวมกอดจากด้านหลัง พร้อมกับร่างสูงของกลกันต์ที่กดทับลงมาบนแผ่นหลังของเธอ เมื่อเขาเดินตามเข้ามาในตัวบ้าน “พี่ขอกอดหน่อยนะ ขอโทษสำหรับทุกเรื่องที่เกิดขึ้น พี่จะชดเชยโดยการให้หวานทำคืนแบบที่พี่ทำดีไหม” “หืมมม แบบไหนคะ” “ก็...” นิ้วของกลกันต์เริ่มไต่ไ
“น่ารักที่สุด” กลกันต์เอ่ยเพ้อๆ เมื่อได้รับจูบที่ข้างแก้มและคำพูดหวานๆจากคนตัวเล็ก ในตอนนี้น้ำหวานนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์มีกลกันต์ยืนเท้าแขนอยู่ที่ขอบ สองแขนของน้ำหวานยังคงประคองใบหน้าของกลกันต์เอาไว้ “อย่าทำลายความไว้ใจของหวานนะคะ” ใบหน้าหวานมองสบตาเอ่ยเสียงจริงจังอีกครั้ง จ้องลึกลงไปนัยน์ตาของคนตัวโต “พี่ขอให้หวานเชื่อใจในตัวพี่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่รักหวานคนเดียว และจะดูแลหวานให้ดีที่สุด พี่สัญญา อืมมม เปลี่ยนๆ แต่ไม่รับปากว่ารักหวานคนเดียวดีกว่า” “พี่กันต์ ถ้าพี่กันต์รักคนอื่นไปพร้อมกับหวาน หวานไม่ยอมนะ” ใบหน้าหวานเริ่มงอง้ำลง “แต่พี่เชื่อว่าคนนี้หวานยอม ก็ลูกขอ
ผ่านไปอีกหลายวันจนกระทั่งถึงวันที่น้ำหวานจะต้องเดินทางไปมหาวิทยาลัย วันนี้เธอยังคงตื่นขึ้นมาแต่เช้ามืด ลุกขึ้นมาเตรียมอาหาร และนำไปใส่บาตรในตอนเช้าตามกิจวัตรประจำวัน จะต่างกันที่ในตอนนี้เธอไม่ต้องไปคนเดียวแล้ว กลกันต์ไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัยด้วยตัวเองตามที่ตกลงกันไว้ ของใช้เธอนำไปไม่เยอะ นำเพียงของที่จำเป็นไปก่อน มีของขาดเหลือค่อยกลับมาเอา ระยะทางจากไร่ไปมหาวิทยาลัยไม่ไกลนัก ใช้เวลากลับมาช่วงเสาร์อาทิตย์ได้ น้ำหวานเดินทางก่อนวันลงทะเบียนตามกำหนดการมหาวิทยาลัยหนึ่งวันเพื่อไม่ให้ฉุกละหุกจนเกินไป ในตอนแรกจะออกเดินทางเร็วกว่านี้ แต่กลับขัดใจคุณผู้ปกครอง ดังนั้นการเดินทางจึงถูกเลื่อนมาเป็นวันนี้แทน หอพักที่น้ำหวานอยู่นั้นเป็นหอพักหญิงล้วน กลกันต์จึงพอเบาใจได้สักเล็กน้อย แม้จะไม่สะดวกเมื่อเขาเดินทางมาหาเธอที่หอนี้ แต่ไม่เป็นไร เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหานัก ตัวหอพักเป็นตึกขนาดให
สองร่างที่กำลังกอดพูดคุยให้กำลังใจผละออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงดังอึกกระทึกครึกโครมดังมาจากอีกด้านซึ่งอยู่หลังเวที ในตอนนี้ผู้คนในงานต่างหันไปมองทิศทางของเสียง ก่อนที่สักพักจะได้ยินเสียงโห่ร้องตามมา เสียงเพลงบนเวลาถูกปิดลงจนรอบตัวมีแต่ความเงียบ นิคที่นั่งอยู่บริเวณหน้าเวทีหันไปมองด้วยความสนใจเมื่อเห็นผู้ที่เดินขึ้นมาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นโก๋ ย่างก้าวขึ้นบนเวทีขณะที่มือข้างหนึ่งถือไมโครโฟนและมืออีกข้างกุมอยู่ที่ข้อมือของหญิงสาวที่เขาไม่เคยพบ เจ้าของร่างกำยำอาศัยพละกำลังที่มากกว่าใช้มือกุมข้อมือน้อยๆบังคับให้นิดที่พยายามขัดขืนเดินตามแรงของเขา ไม่ว่าจะทั้งข่วนทั้งขู่ก็ไม่มีทีท่าจะโก๋จะหยุด จนสุดท้ายการฉุดกระชากจึงจบลงที่กลางเวที นิดส่ายหน้าขอร้องให้เขาหยุดการกระทำแต่โก๋ไม่สนใจเมื่อสิ่งที่จะทำต่อจากนี้เขาคิดมาแล้ว “ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะความสนุกทุกคนนะครับ” เสียงเข้มว่าออกไปโดยมีทุกคนสายตากำลังจับจ้องมาที่เขา ต่างรอลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ ผู้จัดการศูนย์อาหารที่หายไปตั้งแต่หัวค่ำ ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับนิดนักบัญชีสาวโสดของไร่
พลพลที่กำลังเดินเข้าไปในครัวไม่ลืมที่จะหันกลับมามองนิคเป็นระยะ เมื่อเห็นว่านิคน่าจะอยู่คนเดียวได้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรจึงเดินเข้าห้องครัวไปชีวิตใหม่ของนิคกำลังจะเริ่มขึ้น ในฐานะแฟนแม้ไม่ใช่ความรักชายหญิงเหมือนทั่วไป แต่เขามั่นใจว่าความรักที่มีเป็นรักแท้และไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นเขาคิดเสมอขอให้นิคกลับมา และสัญญาว่าไม่จะเกิดอะไรขึ้นเขาจะยืนข้างนิคไม่ปล่อยมือพลพลหยุดยืนหน้าห้องครัวที่ส่งกลิ่นหอมลอยโชยออกมาตามลม เมื่อเห็นว่าประตูห้องเปิดอยู่จึงก้าวเข้าไปแต่ภาพที่เห็นทำให้ต้องชะงักเท้าเอาไว้ การมาของเขาจะเป็นก้างขวางคอคนแถวนี้หรือเปล่า เมื่อเห็นคู่รักทำอาหารหวานจนมดแทบจะขนกันลงหม้อแล้วรู้สึกยินดีกับเพื่อนที่ได้เจอรักดีๆ ที่พร้อมจะดูแล แม้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะดูรวดเร็ว เร็วกับการพัฒนาแต่เชื่อว่าทั้งคู่ปรับตัวเข้าหากันได้ ก็รู้จักกันมาทั้งชีวิตแล้ว และนึกขอบคุณกลกันต์ที่ให้โอกาสเขาและนิค ตลอดเวลาที่นิครักษาตัวเขาให้ความช่วยเหลืออย่างดี ทำทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้โดยที่พลพลและนิคไม่เคยได้เอ่ยขอ สงสัยเขาและนิคคงจะต้องอยู่เลี้ยงลูกให้น้ำหวานจริงๆ“ทำแบบนี้กับข้าว
ฝ่ามือหนาของโก๋ยังคงจับยึดที่ข้อเท้าสวย บรรจงจูบซ้ำๆ พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนให้หญิงสาวที่ยังคงส่งสายตาปั้นปึ่งให้ เขาเข้าใจดีกับสิ่งที่เธอต้องการ แต่ในมุมของเขาก็ต้องการเวลาเช่นกัน ไม่ใช่อยากเก็บเป็นความลับ แต่คนใกล้กันยิ่งมีคนรู้มากหากไม่ใช่แล้วต้องแยกจากกันไปเธอจะเสียหาย ตัวเขาเองก็ไม่เป็นไรหรอก ไม่สนใจคำพูดอยู่แล้ว จนวันนี้ที่ถูกเธอเมินความสนใจ รู้สึกใจจะขาด ไม่พอใจ เหมือนหัวใจถูกบีบ กลัวเธอยอมแพ้แล้วตัดใจจากเขา“จะปล่อยดีๆไหม” ไม่เพียงแต่สายตาเท่านั้นแต่น้ำเสียงที่ส่งมายังเต็มไปด้วยความโมโห“ไม่” ว่าพร้อมกระตุกเรียวขาสวยที่พยายามขืนออกจากการเกาะกุม“ได้ แล้วอย่ามาเสียใจละกัน” ว่าแล้วจึงชักเรียวขาหดเข้าหาลำตัวก่อนออกแรงเหยียดจนสุดหรือจะเรียกว่าถีบสุดกำลังใส่ร่างล่ำหนา หากแต่ผิดคาดเธอประเมินเขาต่ำไปแรงเท่ามดของเธอไม่สามารถทำอะไรกับผู้ชายถึกทึนแบบเขาได้ จึงตลบหลังเธอด้วยการจับยึดเรียวขาออกแรงพลิกร่างเล็กให้คว่ำลง“อร๊ายยย ทำบ้าอะไรเนี่ย”“พี่คิดว่าจะสู้ผมได้จริงเหรอ” ถามอย่างท้ายทาย ตัวเท่านี้จะเอาอะไรมาสู้เขา“ทำแบบนี้ทำไม”“ขี้เกียจอธิบายแล้ว” โก๋ว่าอย่างมึนๆ พร้อมโน้มตัวลงทาบทับร่างเ
วันนี้เป็นอีกวันที่ไร่กลเกียรติมีการรวมตัวเพื่อจัดงานต้อนรับการออกจากโรงพยาบาลของนิค และเป็นการเริ่มชีวิตใหม่ของหลายๆคน บรรยากาศเป็นไปตามสไตล์บ้านไร่เสียงเพลงเพราะๆกับบรรยากาศเย็นสบายในตอนเย็นทำให้นิคระบายยิ้มออกมาขณะรับแก้วเครื่องดื่มจากพลพล“ทุกคนน่ารักมากนะ” นิคหันไปพูดกับแฟนหนุ่มก่อนยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ“นิคอยากไปเต้นสักเพลงไหม” พลพลถามพลางยื่นมือออกไปหาคนรัก ซึ่งเอาแต่ส่ายหน้า“ไม่ดีกว่า พี่เห็นทุกคนสนุกก็พลอยสนุกไปด้วยแล้ว พลเข้าไปช่วยน้ำหวานในครัวก่อนก็ได้นะ”“พลไม่อยากทิ้งพี่นิคไว้คนเดียว”“คนเดียวที่ไหน คนเต็มงานเลย เดี๋ยวมีอะไรพี่เรียกพลเอง ไปเถอะ แล้วตักของอร่อยๆมาให้พี่ด้วย” นิค พยักหน้าอีกครั้งเพื่อยืนยันคำพูด เขาอยู่คนเดียวได้จริงๆ ตอนนี้ทั้งงานเต็มไปด้วยผู้คนในไร่ที่มาร่วมงาน ขณะที่รออาหารจากในครัวมาเสิร์ฟ ขาแดนซ์จึงเริ่มออกลวดลาย“พี่โก๋ก็ไม่อยู่ ไม่รู้หายไปไหนของเขา พี่นิคกลับมาทั้งทีกลับหายตัว ไม่ห่วงเพื่อนเลยหรือไง” พลพลบ่นไปตามประสา เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่เขาและนิคเข้ามาที่ไร่แห่งนี้ ด้วยคำขอของกลกันต์ที่อยากให้นิคพักฟื้นที่ไร่ ตั้งแต่ที่กลับเข้ามาที่ไร่เมื่อ
เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้วที่โก๋ย้ายมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไร่เกียรติอรุณแห่งนี้ จากช่วงแรกที่เข้ามาขอเริ่มงานในไร่ที่ต้องใช้แรงพละกำลังตามแบบถนัด จนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเขาได้ขอกลกันต์ย้ายเข้ามาช่วยงานศูนย์อาหารด้านหน้า ให้เหตุผลว่าอยากดูแลแม่ของเขาซึ่งอยู่เฉยๆไม่ได้จึงต้องออกมาช่วยงานที่นี่อยู่เรื่อยไปกลกันต์นั้นแสนจะยินดี เพราะภาระงานอันมากมายที่ต้องรับผิดชอบและอยากแบ่งเบา โดยเฉพาะกับผู้มีพระคุณของครอบครัว ครั้นเขาจะเอ่ยปากแต่แรกก็เกรงว่าจะทำให้โก๋ลำบากใจ จนกระทั่งโก๋เข้ามาขอทำงานในร้านอาหารเขาจึงอนุมัติทันที ผ่านมาเกือบเดือนที่โก๋ย้ายมาดูแลร้านอาหาร ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายที่บุคลิกดูโผงผางแบบโก๋จะทำให้ลูกค้าติดหนึบจนยอดขายเพิ่มขึ้นมาก แถมยังมีสาวๆเข้ามาติดพัน สงสัยจะได้สละโสดก็คราวนี้“พี่กันต์คิดอะไรอยู่คะ” น้ำหวานที่เดินเข้ามาใกล้ตัวกลกันต์ที่ยืนเท้าแขนอยู่ระเบียงห้อง“ก็คิดว่าคืนนี้จะให้หวานช่วยพี่ยังไงดี ท่าไหนดี” กระซิบริมใบหูของน้ำหวานเบาๆท้ายประโยค และเธอเข้าใจดีกับคำว่าช่วยของเขาจนดวงหน้าเริ่มแดงซ่าน แม้จะแนบชิดกันมาหลายครั้ง แต่เธอยังคงไม่ชินและเขินอายเสมอเมื่อโดนเขากลั่นแกล
สามวันต่อมา วันนี้เป็นวันที่โก๋และแม่เดินทางเข้ามาที่ไร่เป็นวันแรก จากที่ควรจะมาตั้งแต่เมื่อวานแต่เพราะยังจัดการข้าวของจากบ้านเก่าไม่แล้วเสร็จการเดินทางจึงถูกเลื่อนออกไปหนึ่งวันรถเก๋งคันเก่าคู่ใจเคลื่อนที่เข้ามาในไร่ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์อยู่ตรงศีรษะอันร้อนระอุ ป้าน้อยทำหน้าที่ต้อนรับทั้งสองและพาเข้าไปแนะนำบ้านพักซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับหลังของป้าน้อยเนื่องจากวันนี้น้ำหวานต้องเดินทางเข้าไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อทำการสอบในรายวิชาที่เหลือและตัดสินใจทำเรื่องพักการเรียนเอาไว้ก่อนด้วย กลกันต์ที่ไม่อยากให้น้ำหวานต้องอยู่ห่างตัวจึงตามเธอไปด้วยอีกคน ทำให้ต้องฝากป้าแก้วและป้าน้อยช่วยดูแลโก๋และคุณยายณีแม่ของเขาโก๋หยุดรถลงที่หน้าบ้านหลังสีขาวเป็นบ้านชั้นเดียว ดูร่มรื่นโอบล้อมไปด้วยทิวทิศน์ธรรมชาติเขียวขจี และด้านข้างยังมีบ้านอีกหลายหลังที่อยู่ใกล้เคียงกัน ด้วยอากาศที่ร้อนจัดโก๋จึงละสายตาจากความงามของบรรยากาศรอบตัว รีบเข้าไปช่วยพยุงแม่เข้าไปพักในตัวบ้านที่ทำความสะอาดไว้เป็นอย่างดีเดินทางการมาเหนื่อยป้าน้อยจึงปล่อยให้ทั้งสองได้นอนพักเอาแรง ทางด้านยายณีหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าในขณะที่โก๋ยังคงตื่นเต้นกับส
กว่าที่หมอปพนธีร์จะซักไซ้เรื่องราวของทั้งคู่จบลง ตบท้ายด้วยให้ความรู้ลูกสาวในการดูแลตนเองก็กินเวลาไปอีกเกือบสองชั่วโมง กลกันต์ที่รับรู้ได้ถึงรังสีบางอย่าง ที่ทำให้เขารู้ตัวดีว่าคงต้องโดนพ่อตาเฉ่งเข้าสักวัน ข้อหาทำลูกสาวท้องแน่ๆถามว่าตกใจไหม ในฐานะพ่อที่มีลูกสาว เขารู้สึกเป็นห่วงและหวง แต่รู้ดีว่าตัวเขาเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร ได้แต่หวังว่ากลกันต์จะไม่ทำผิดพลาดแบบเขา เรื่องความรักก็คงต้องให้ลูกตัดสินใจด้วยตัว เขารู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่ายความสัมพันธ์มาไกลกว่าที่ใครจะแยกทั้งสองได้แล้ว คงต้องปล่อยให้ทั้งสองได้เรียนรู้กันมากขึ้นกับบทบาทที่กำลังเปลี่ยนไปอีกรูปแบบ คนแก่แบบเขามีหน้าที่เฝ้ามองดูลูกหลานเติบโตไปทางของตนเอง แม้ไม่ชอบขี้หน้าลูกเขยเท่าไหร่ แต่ในเมื่อลูกสาวเขาบอกว่ารัก ก็คงต้องตามนั้นทั้งสองเดินทางกลับไร่ด้วยกันโดยมีลุงคำทำหน้าที่เป็นสารถีให้ เป็นเวลาเกือบบ่ายสองที่ทั้งคู่เดินทางมาถึงไร่ โดยมีป้าน้อยและป้าแก้วจัดเตรียมอาหารไว้รอ ทั้งสองรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจากการถ่ายทอดคำบอกเล่าของลุงคำ หากทั้งสองขับรถเป็นคงจะรีบบึ่งไปหาน้ำหวานที่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อน จะขี่รถเครื่
น้ำหวานขืนตัวออกจากวงแขนของผู้เป็นพ่อเล็กน้อย หันมองผู้เป็นพ่อสลับกับกลกันต์อย่างขบคิด “คุณไม่อยากให้หวานมีแฟนเหรอคะ” เสียงหวานเอ่ยถาม หรือหมอปพนธีร์ไม่อยากให้เธอมีแฟน เขาจะผิดหวังหรือเปล่าถ้ารู้ว่าเธอข้ามขั้นของคำว่าแฟนไปแล้ว “พ่อว่าลูกตั้งใจเรียนก่อนไหม เราชอบเรียนไม่ใช่เหรอ ไว้เรียนจบแล้วพ่อจะพาหวานไปเที่ยวรอบโลกกันดีไหม” “แค่กๆๆ” ร่างสูงที่ฟังอยู่กระแอมออกมาเบาๆเพื่อบอกให้รู้ว่าเขายังอยู่ตรงนี้ นี่ขนาดหมอปพนธีร์พึ่งได้เจอหน้าลูกสาวครั้งแรกยังคิดแผนพาลูกสาวหนีออกจากอกเขาเสียแล้ว แต่เสียใจด้วยหวานอยู่ที่ไหนกลกันต์อยู่ที่นั่น แถมลูกๆของเขาอีก “น้ำอยู่บนโต๊ะครับคุณกันต์” หมอปพนธีร์พยักพเยิดหน้าไปทางโต๊ะขาวตรงมุมห้องที่มีเหยือกน้ำตั้งอยู่ มองกลกันต์ทีไร ช่างขัดหูขัดตาเขาจริงๆ นอกจากแตะเนื้อต้องตัวน้ำหวานแล้วยังคอยส่งสายตาหลงใหลที่มองดูลูกสาวเขาราวกับจะกลืนกิน ก็ไหนว่าเป็นแค่พี่น้อง แบบนี้เขาคงต้องหาวิธีแยกทั้งสองคนออกจากกันก่อนที่ลูกสาวแสนรักจะตกเป็นเหยื่อเสือเจ้าเล่ห์ ทางกลกันต์เดินเข้าไปรินน้ำจากเหยือกลงในแก้วที่วางอยู่ด้านข
กลกันต์ใช้เวลาพักรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเดิมในจุดเกิดเหตุ และได้ทำเรื่องส่งตัวนิคไปยังโรงพยาบาลในกรุงเทพที่มีอุปกรณ์การรักษาที่ครบครันโดยมีนิคและโก๋ตามไปด้วยเมื่อสองวันก่อนแผลของเขาเริ่มประสานกันเพราะมีพยาบาลพิเศษคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ยังมีความปวดตึงบริเวณบาดแผล ทำให้การขยับตัวลำบากอยู่บ้าง ที่กลกันต์ยังรักษาอยู่ที่นี่เป็นเพราะคำขอร้องของน้ำหวานที่ไม่ยอมกลับไร่กับเขา เธออยากอยู่ตามอาการของหมอปพนธีร์ จนกระทั่งวันนี้ที่หมอปพนธีร์อาการดีขึ้นจึงขอให้เขาพามาพบก่อนที่จะเดินทางกลับไร่ไปด้วยกันทั้งสองหยุดอยู่หน้าห้องพักของหมอปพนธีร์โดยมีน้ำหวานช่วยเข็นรถเข็นผู้ป่วยที่มีกลกันต์นั่งอยู่ แม้เขาจะขอเดินมาเองแต่คนตัวเล็กกลับไม่พอใจนักเพราะกลัวบาดแผลของเขาจะกระทบกระเทือนได้ และสุดท้ายเขาจึงต้องยอมทำตามความต้องการของเธอน้ำหวานเคาะประตูสามครั้งก่อนเอื้อมมือเล็กหมุนลูกบิดประตูเข้าไป ภายในเป็นห้องพักผู้ป่วยสีขาวคล้ายกับห้องของกลกันต์ หมอปพนธีร์ที่รออยู่แล้วจึงพยายามหยัดกายขึ้นด้วยความลำบากน้ำหวานที่มองอยู่ลังเลว่าควรจะเข้าไปช่วยดีไหม เพราะความห่างเหิน ไม่เคยรู้จักมาก่อนจึงรู้สึกประหม่า กลกันต์ที่มองอย