บทที่ 23วันเวลาล่วงผ่านเลยมาหลายวันจากวันจนกลายเป็นเดือน สายตาคู่ร้ายจับจ้องมองนาฬิกาทรายบนโต๊ะทำงานเขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ทำไมในใจของเขาถึงไม่มีความสุขยิ่งเห็นเวลาที่ผ่านไปเร็วเหลือเพียงอีกแค่ไม่ถึงอาทิตย์แล้วเหรอ "ป้าฮ่าๆ อย่าแกล้งอันนา" คนตัวโตเดินออกมาจากห้องทำงานหลังจากที่รู้สึกหงุดหงิดยิ่งจับจ้องมองนาฬิกาทรายที่ควรจะใจเย็น แต่เขานั้นรู้สึกร้อนรุ่มและกลุ้มใจมากกว่าเดิมยิ่งเห็นนาฬิกาเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ เขายิ่งรู้สึกเหมือนจะสูญเสียอะไรบางอย่างจนไม่อยากอยู่ในห้องทำงาน เขาเดินออกมาด้านนอกได้ยินเสียงแว่วจากสนามหญ้าข้างบ้านเสียงนี้ทำไมคุ้นๆ สายตาของเหมราชจับจ้องมองสนามหญ้าจึงรู้ว่าอันนากับแม่บ้านกำลังวิ่งหยอกล้อกัน เขากอดอกมองเธอดั่งเด็กสาวคนหนึ่งที่ร่าเริงแจ่มใส"พรึ่บ!" เสียงพื้นดังสนั่นเมื่ออันนาสะดุดขาตัวเองล้มเขาตกใจจนจะพุ่งตัวเข้าไปช่วยแต่นึกขึ้นได้และไม่ควรที่เขานั้นจะช่วยเหลือเธอเพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้น้องสาวของเขาตาย แม่บ้านที่วิ่งเล่นด้วยกันอยู่นั้นตกใจรีบวิ่งเข้าไปช่วยพยุงอันนาลุกขึ้นพร้อมกับขอโทษ ส่วนอันนาเธอได้เพียงแต่ยิ้มและหัวเราะบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร "ดูเธอมีความสุ
บทที่ 24 เป็นเวลาเดือนกว่าแล้วที่กรณ์ยังอยู่ในห้องไอซียูอาการของเขาเริ่มดีขึ้นแต่ยังไม่ฟื้นกลับคืนมาเป็นปกติ แต่วันนี้มือของเขานั้นขยับเหมือนจะเริ่มรู้สึกตัวเหมือนสัญญานว่าอีกไม่นานเขาคงฟื้นกลับมาเป็นปกติ หลังจากที่หมอแจ้งข่าวกับทางญาติได้รับรู้ นิตาผู้เป็นลูกสาวรีบมาที่โรงพยาบาลทันทีแต่ในขณะที่เดินผ่านห้องฉุกเฉินเธอหยุดชะงักเมื่อเห็นเหมราชกับเพื่อนสนิทของเขา "อันนาจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมวะ" ดวงตาคู่น้อยเบิกกว้างในห้องฉุกเฉินนั้นต้องเป็นน้องสาวของเธอแน่ๆ เรือนร่างบางไม่รอช้าเธอพุ่งตัวเข้าหาผู้ชายใจร้ายอย่างเหมราชทันที"นี่มันอะไรกันน้องสาวของฉันอยู่ในนั้นใช่ไหม! นายทำอะไรน้องสาวของฉันอีก เมื่อไรจะพอสักที เลิกทำน้องสาวของฉันได้แล้ว" ร่างบางร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้นยิ่งรู้ว่าน้องสาวของตนเองนั้นอยู่ในห้องฉุกเฉินเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน เธอยิ่งโกรธจนพุ่งตัวเข้ากระชากคอเสื้อของเหมราช "ถ้าอยากให้คนอื่นหยุดทำอันนาเธอก็ควรบอกความจริงนะ!!"น้ำเสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้นจากทางด้านหน้าซึ่งทุกคนหยุดชะงักและหันไปมองเสียงนั้น หญิงสาวคนหนึ่งสวมใส่ชุดราตรีสีชมพูอ่อนสั้นเสมอหัวเข่าเดินตรงเข้ามาพร้อมกับกระเป๋า
บทที่ 25 นิตาถูกคลาสจับกระชากมาหน้าโรงพยาบาลเขาเหวี่ยงให้เธอล้มลงพร้อมทั้งยังชี้หน้าด่า โดยที่ไม่อายคนอื่น ทุกคนรู้ความจริงนิตาสูญเสียทุกอย่าง จนในตอนนี้เธอไม่อยากอยู่รับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอ ร่างบางเดินออกมาจากโรงพยาบาลขึ้นไปอยู่บนสะพานลอยสายตาคู่น้อยหลั่งไหลน้ำตาออกมาด้วยความเจ็บปวด "ความผิดทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะฉัน อันนาฉันขอโทษ ฉันขอโทษที่โยนความผิดให้กับเธอ ถ้าฉันย้อนเวลากลับไปได้ ฉันจะเชื่อในคำที่เธอเตือนสติทุกอย่างเลย ตอนนี้ฉันสูญเสียจนไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่เหลือแล้วจริงๆ" มือน้อยทั้งสองข้างจับราวสะพานอันใหญ่สายตาคู่น้อยเต็มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นร่างบางเจ็บปวดกับการสูญเสียทุกอย่าง จนกลายเป็นความคิดสั้นที่เธอนั้นอยากปลิดชีพตัวเองนิตาก้าวขาขึ้นหนึ่งข้างต่อให้เธออยู่ต่อชีวิตที่เหลือก็ไม่มีความสุขแล้ว "เธอคิดว่าการที่เธอตายทุกอย่างจะจบอย่างนั้นเหรอ พ่อของเธอใครจะดูแล! ตอนนี้พ่อของเธอได้สติแล้วเอาเวลานี้ไปดูแลพ่อของเธอดีกว่ามาคิดฆ่าตัวตาย หรือว่าคนแบบเธอไม่ต้องการตอบแทนพระคุณแม้แต่พ่อของตัวเองก็อย่างว่าแหละนะขนาดความผิดที่ทำเอาไว้ยังโยนให้กับน้องสาวเลย" เสียงทุ้มดังขึ้
บทที่ 26ในเช้าวันใหม่พระอาทิตย์ส่องแสงสว่างเข้ากระจกบานใหญ่เปลือกตาคู่น้อยค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น เธอสัมผัสได้ว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาลอย่างแน่นอน อันนาเธอไม่ได้พึ่งจะนอนโรงพยาบาลเป็นครั้งแรกแต่หลายครั้งที่ถูกกระทำจนเข้าโรงพยาบาลติดกันถึง 3 รอบ แค่เพียงเธอลืมตาตื่นก็รู้แล้วว่าบรรยากาศที่อยู่นั้นไม่ใช่ที่บ้านของเขา เธอค่อยๆ ขยับร่างกายของตนเองที่รู้สึกว่ามันหนักและปวดเนื้อปวดตัวมากโดยเฉพาะตรงช่วงท้องที่รู้สึกหน่วงๆ เหมือนกับว่าเป็นอะไรที่หน้าท้อง"คนไข้ใจเย็นๆ นะครับ ค่อยๆ ขยับ หิวน้ำหรือเปล่า" ลืมตาตื่นได้อย่างเต็มตาและเห็นพยาบาลกับหมอนั้นอยู่ด้านข้างผู้เป็นหมอเอ่ยถามเธอจึงส่ายหน้าไปมาเพราะว่าไม่รู้สึกหิว "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเหรอคะ" อันนาจำอะไรไม่ได้หลังจากที่เธอถูกผลักแล้วทุกอย่างมืดดับไปหมดจนกระทั่งเธอรู้สึกตัวในตอนนี้ก่อนหน้านี้ที่เธอจะหมดสติไปเธอจำได้ว่ากำลังทะเลาะอยู่กับควีนเพื่อนของเขาและตนเองนั้นถูกผลักจนหัวกระแทกกับขอบโต๊ะ"สามีของคุณเป็นคนพามาตอนนี้เขารออยู่ที่หน้าห้อง" คิ้วน้อยขมวดเข้าหากันสงสัยในคำพูดของคุณหมอที่เอ่ยว่าเป็นสามี ทำไมเขาถึงไม่พูดว่าญาติของคนไข้หรือว่าเขาแส
บทที่ 27 เปลือกตาคู่น้อยค่อยๆ ลืมตื่นขึ้นเป็นครั้งที่ 2 การตื่นมาในครั้งนี้เธอรับรู้ถึงเรื่องราวทุกอย่างรวมถึงเด็กในท้องที่เธอไม่ได้ตั้งใจให้เกิดมา มือน้อยขยับเลื่อนไปสัมผัสถึงอะไรบางอย่างกุมเอาไว้สายตาจับจ้องมองลงมาเห็นคนตัวโตนอนมูบหน้าอยู่กับมือของเธอ แค่เห็นเพียงแค่หัวและลำตัวด้านหลังเธอก็รู้แล้วว่าเขาเป็นใครร่างบางกระชากมือของตนเองออกทันที ผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจและน่าขยะแขยงที่สุดสำหรับเธอ เหมราชตกใจในขณะที่ตนเองเผลอหลับและกอดมือของเธอเอาไว้แต่อยู่ๆ มือนั้นก็กระชากออกไปจนทำให้เขาตื่น "ตื่นแล้วเหรอหิวน้ำไหมหิวข้าวหรือเปล่า" ดวงตาคู่น้อยแดงก่ำจับจ้องมองเหมราชด้วยความเกลียดเธอชี้นิ้วไปยังประตูให้เขานั้นนั้นออกไปจากห้องนี้"ออกไป" มือหนาคว้าจับมือเรียวบางที่ชี้ไปหน้าประตูเขาส่ายหน้าไปมาอยากที่จะคุยกับเธออยากที่จะขอโทษแต่พอสัมผัสจับมือได้เท่านั้นร่างบางสะบัดและโวยวายจับข้าวของหมอนเขวี้ยงใส่เขาตามเคย"อย่ามายุ่งกับฉัน อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันบอกให้ออกไปได้แล้วอย่ามายุ่งกับฉัน ฉันเกลียดคุณได้ยินไหมว่าฉันเกลียดคุณ" มือทั้งสองข้างพยายามผลักเขาออกแต่เหมราชไม่ออกไป เขายื้อจับแขนทั้งสองข้างเอ
บทที่ 28 เหมราชอยากจะเข้าใกล้อันนาใจจะขาดอยากปรับความเข้าใจและให้เธอยกโทษให้แต่คลาสได้ห้ามเอาไว้เพราะว่าถ้าเหมราชไม่ใจเย็นรีบร้อนเกินไปทุกอย่างจะแย่ลง ความรู้สึกของอันนาและความโกรธที่เกิดขึ้นจะทำให้มีแต่เสีย คลาสใช้ความคิดของตนเองคือให้นิตาเข้าไปปลอบใจน้องสาวเพื่อให้จิตใจของอันนานั้นรู้สึกดีขึ้น นิตาในตอนนี้เหมือนลูกไก่ในกำมือของเขาที่จะเอ่ยสั่งอะไรก็ได้เพราะเขาคืนทุกอย่างให้กับเธอทั้งบ้านและอำนาจบารมีของผู้เป็นพ่อ แต่ต้องแลกกับการเป็นเมียบำเรอให้กับเขาจนกว่าเขาจะพอใจในขณะที่คลาสคุยกับเหมราชอยู่นั้นโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นจึงพยักหน้าให้กับเพื่อนเดินมารับสายผู้เป็นแม่ที่โทรมาหาบอกว่ากำลังมาจากต่างประเทศให้ลูกชายไปรับที่สนามบินคลาสจึงรีบไป "ทำไมคุณแม่มาเร็วจังไหนบอกว่าจะมาอาทิตย์หน้า?"ผู้เป็นลูกชายหลังจากโอบกอดคุณแม่ด้วยความคิดถึงแล้วเขาจับจ้องมองคิ้วหนาขมวดเข้าหากันแม่ของเขามาเซอร์ไพรส์เร็วกว่าที่คิดในตอนที่คุยกันยังบอกว่ากลับมาอาทิตย์หน้าไหนวันนี้ถึงได้มาอยู่สนามบินแล้ว"แม่ตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์ลูกชายกะว่าจะกลับไปที่บ้านเองแต่กลัวว่าจะไม่เจอลูกเลยโทรให้ลูกชายมารับที่สนามบินจะดีก
บทที่ 29เพียงเวลาไม่กี่วันกรณ์พ่อของนิตาเขาได้ทุกอย่างคืนทั้งอำนาจและบารมีโดยที่คลาสของพ่อเขาคืนทุกอย่างกับพ่อของนิตาเพื่อแลกเปลี่ยนกับข้อเสนอที่นิตานั้นก็ยอมอันนาหนีออกจากโรงพยาบาลแต่ผู้เป็นพี่สาวอย่างนิตาไม่ยอมให้น้องไปเผชิญโลกภายนอกหรือว่าเจออันตรายอีกจะเรียกว่าช่วงจังหวะเวลาที่เธอนั้นมาโรงพยาบาลทันก็ได้ วันนั้นเธอจึงพาอันนาหนีออกไปจากโรงพยาบาลแต่พากลับมาอยู่ที่บ้าน "ขอโทษนะอันนาทุกอย่างเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าฉัน ถ้าฉันเชื่อในคำพูดของเธอตั้งแต่แรกคงไม่ต้องสูญเสียอะไรหลายๆ อย่างแล้ว…”อันนาพยักหน้าให้กับนิตามือน้อยกุมเข้าหากันนิตาเปรียบดั่งพี่สาวที่เธอไม่คิดจะทรยศต่อให้ต้องก้มหน้ายอมรับความผิดแทนอันนาก็ทำโดยไม่มีข้อแม้"อันนาดีใจต่างหาก ที่ตัวเองได้ตอบแทนบุญคุณของคุณลุงแล้วก็นิตาเพราะตั้งแต่คุณพ่อกับคุณแม่เสียอันนาก็ไม่เคยขาดความรักเลย มีคุณลุงที่ใจดีมีพี่สาวที่จริงใจ แล้วทำไมอันนาจะต้องโกรธพี่ตัวเองด้วย เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ" อันนาได้อยู่กับตัวเองทบทวนอะไรหลายๆ อย่าง ถ้าเธอไม่ยอมเจ็บตัวไม่ยอมรับผิดแทนคนที่ถูกกระทำก็คือพี่สาวหรือว่านี่คือชะตาชีวิตที่เธอต้องก้มหน้ายอมรับ นิตาได้เพี
บทที่ 30 ในวันนี้อันนารู้สึกดีขึ้นและยิ่งรู้ว่าลุงของตนเองนั้นอาการดีขึ้นมากจนหมออนุญาตให้ย้ายไปอยู่ในห้องพักฟื้นและสามารถให้ญาติของคนป่วยเข้าเยี่ยมได้ อันนากับนิตาลุกขึ้นแต่เช้าจัดเตรียมข้าวของของกินและของโปรดที่ลุงของตนเองชอบ "อันนาอย่าเดินมากสิเดี๋ยวกระทบกับลูกในท้อง หลานฉันจะเป็นอันตรายเอานะ" นิตาที่เคยมีใบหน้าสวยเฉิดฉายแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางราคาแพงในตอนนี้เธอกลับไม่แต่งเติมอะไรใบหน้าถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งเติมด้วยเครื่องสำอางแต่หน้าตาของเธอก็จิ้มลิ้มและสวยอย่างสง่านิตากลัวว่าอันนาที่เดินไปมาจัดเตรียมข้าวของจะลื่นล้มจึงรีบเดินมาจับแขนของน้องสาวเอาไว้พร้อมกับเอ่ยพูดด้วยคิ้วขมวดเข้าหากัน"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แค่ท้องนะไม่ได้พิการคิดมากเกินไปหรือเปล่า" อันนาส่ายหน้าไปมาให้กับผู้เป็นพี่สาวทั้งสองคนเหมือนเพื่อนสนิทกันมากกว่า "ก็รู้แล้วว่าไม่ได้พิการแต่คนท้องเขาไม่ให้เดินไปมามาก เมื่อคืนนี้นิตาเข้าไปหาข้อมูลมาเขาบอกว่าพยายามให้อยู่เฉยๆ อย่าทำงานหนักให้นั่งทำเอาไม่ใช่ให้เดินอย่างกับนักกีฬา" ใบหน้าน้อยทำหน้าตาบึงตึงแถมยังคิ้วขมวดผูกปมราวกับเด็กไม่พอใจอันนาเธอหัวเราะยกมือจับแก้มของพี่สา
บทที่ 43เด็กชายตัวเล็กนั้นยังไม่หายจากอาการป่วยเพราะว่าบาดแผลยังไม่หายดีแต่หมอให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เหมราชพาอัคคีและอันนามาที่ห้างเพราะอันนาจะมาซื้อของใช้ส่วนตัวให้กับลูกและจะพาลูกมาทานไอศกรีมด้วย ระหว่างที่อยู่ในร้านไอศกรีมแสดงเหมือนครอบครัวที่อบอุ่นต่อหน้าลูกทั้งคุยกันและหัวเราะหยอกกันอย่างกับว่าสามีภรรยาที่รักกันมากแต่จริงๆ แล้วอันนาเธอแกล้งแสดงต่อหน้าลูกเพียงเท่านั้น"อัคคีดีใจดีใจมากๆ ที่คุณพ่อกับคุณแม่อยู่ด้วยกันไม่เหมือนเมื่อก่อนที่อัคคีอยู่กับคุณแม่ 2 คน ไม่สนุกเลย" "อัคคีครับคุณพ่อซื้อบ้านให้อัคคีหลังอย่างใหญ่เลยนะ วันนี้เราไปดูกันไหมครับ" มือหนาลูบหัวของลูกชายเบาๆ บ้านหลังนั้นเหมราชตั้งใจซื้อให้อันนากับอัคคีตั้งแต่วันคลอดแต่เธอกลับพาลูกหนีไปซะก่อนจึงไม่ได้เข้าไปอยู่ส่วนเหมราชให้คนดูแลแต่ไม่เคยเข้าไปอยู่เลยสักครั้ง"คุณพ่อซื้อบ้านหลังใหม่ให้เลยเหรอครับ""ใช่แล้วครับ จริงๆ คุณพ่อตั้งใจซื้อให้อัคคีตั้งแต่อัคคีคลอดเลยนะ""คุณแม่บอกว่าคุณพ่อไปทำงาน" "คุณแม่บอกว่าคุณพ่อไปทำงานเหรอครับ" เหมราชยิ้มด้วยความดีใจที่แท้แล้วอันนาไม่เคยสอนให้ลูกเกลียดพ่อเลยสักนิด"ขอบคุณนะที่ไม่ทำ
บทที่ 42 อันนานั่งกุมมือของลูกชายที่นอนหลับอยู่บนเตียงเฝ้ารอให้ลูกชายฟื้นตื่นขึ้นมานั้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงทุกคนกลับบ้านเหลือเพียงแต่เหมราชที่ยังไม่ยอมกลับ เขานั่งอยู่ที่โซฟากังวลใจและก็รอลูกชายตื่นด้วยเช่นเดียวกัน"ตื่นมาสิครับเดี๋ยวคุณแม่จะพาไปกินไอศกรีมนะ คุณแม่ไม่อยากให้อัคคีนอนหลับนานแบบนี้เลย" น้ำเสียงสั่นเอ่ยบอกกับลูกชายที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงในแววตาคู่น้อยกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ยิ่งเห็นลูกเจ็บเธอนั้นเจ็บยิ่งกว่า ถ้าเป็นไปได้คนเป็นแม่ขอยอมเจ็บแทนเหมราชลุกขึ้น เขาเดินไปอยู่อีกฝั่งของเตียงตรงข้ามกับอันนามือหนากุมจับมือน้อยของลูกชาย"พ่อขอโทษนะที่ไม่ได้มีโอกาสดูแลลูกเลยตื่นขึ้นมานะครับ" ใบหน้าของลูกชายช่างคล้ายกับเขาในวัยเด็กสายตาของผู้เป็นพ่อจับจ้องมองหัวใจดวงน้อยที่พลัดพรากหายไป 2 ปี"หิวน้ำ" ทั้งคู่สายตาเบิกกว้างเมื่อได้ยินเสียงของคนตัวเล็กเอ่ยขึ้น อันนาเธอยิ้มทั้งน้ำตาลูกชายของเธอตื่นขึ้นมาแล้ว"น้ำเหรอเดี๋ยวคุณแม่เอาน้ำให้นะครับ' ดวงตาคู่น้อยมองหน้าเหมราชในระยะใกล้ชิดซึ่งเขาตกใจและแปลกใจทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้มาอยู่ตรงนี้"คุณลุงคุณลุงมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงครับ" เหมราชยกมือลูบ
บทที่ 41 เหมราชไม่ได้ใช้ความรุนแรงอย่างเช่นเคยเขาจับเธอเข้ามาในบ้านก็จริงแต่เป็นการกระทำที่อ่อนโยน เรือนร่างน้อยถูกโอบกอดด้วยแขนหนาทั้งสองข้างด้วยความคิดถึงและความโหยหาของเหมราชมากเกินกว่าจะยับยั้งใจ"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ" มือน้อยทั้งสองทั้งผลักหน้าอกและทุบตีแต่เหมราชไม่ปล่อย เขากระชับกอดแน่นมากกว่าเดิมยิ่งเธอดิ้นแขนหนาทั้งสองยิ่งรัดแน่น"ฉันคิดถึงเธอนะ…คิดถึงเธอกับลูกมากตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาฉันตามหาเธอทุกวันอย่าไปไหนนะ" อันนาผลักหน้าอกของเขาออกจนสำเร็จใบหน้าน้อยจ้องมองเพียงไม่นาน ฝ่ามือฟาดตบเข้าที่ใบหน้าของเหมราชสายตาของเขามองกลับมาหาอันนาด้วยแววตาจำนนและยอมทุกอย่าง"ฉันไม่เคยมีความสงสารคุณเลยและฉันก็ไม่ได้สมเพชคุณด้วยแต่ที่ฉันไป ฉันสะใจและรู้สึกดีที่เห็นคุณเป็นแบบนี้เป็นยังไงล่ะลิ้มรสกับความเจ็บปวด" "รู้สึกหมดทุกอย่างแล้วและเจ็บปวดมาเกือบ 2 ปี ฉันไม่รู้หรอกนะว่าผู้ชายข้างนอกเป็นใครหรือว่าเป็นคนใหม่ของเธอจริงๆ ฉันอยากขอโอกาสได้ดูแลลูกได้ใกล้ชิดกับลูกบ้าง" "ผัวใหม่คุณคิดถูกแล้วผู้ชายข้างนอกคือผัวใหม่ของฉันและเขาก็ใจกว้างพอที่ให้ฉันมาคุยกับคนแบบคุณ ที่ฉันมาในวันนี้ฉันต้องการของข
บทที่ 40 เหมราชดีใจมากจนเขาทำอะไรไม่ถูกได้เห็นหน้าลูกชายตัวเล็ก เขาช่างเหมือนกับตัวเองอย่างกับฝาแฝดใบหน้ายิ้มกรุ้มกริ่มกลับบ้านมาด้วยความดีใจ ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมาเหมราชไม่เคยหยุดตามหาอันนากับลูกเลย แต่เขานั้นจนปัญญาแล้วจริงๆ ให้ผู้มีอำนาจช่วยตามก็ไร้วี่เเววที่จะตามหาเธอเจอ จนกระทั่งวันนี้เธอปรากฏตัวอยู่ที่บริษัทของเธอเองและเธอตั้งใจที่จะมาขอบริษัทคืน "นายครับแล้วจะทำยังไงต่อไป" ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาใกล้เหมราชเงยหน้ามองลูกน้องคนสนิท เขายกยิ้มด้วยมุมปากหัวใจที่เหี่ยวเฉามา 2 ปี เต็มเริ่มพองโตขึ้นมีความหวังอีกครั้งจนกลายเป็นรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าร้าย"มึงคิดเหรอวะ ว่ากูจะยอมปล่อยเมียกับลูกไปได้อีก กูต้องเอาอันนากลับมาเป็นเมียกูเหมือนเดิมให้ได้" "แล้วนายจะทำยังไงเหรอครับ ดูเหมือนว่าการกลับมาของคุณอันนาครั้งนี้ก็ไม่ได้ง่ายเลยนะครับ และอยู่ๆ ทำไมถึงไปหานายที่บริษัท ถ้าตั้งใจไปขอบริษัทคืนจริงๆ เธอต้องมีข้อต่อรองแต่นี่ดูเหมือนว่าจะไปของ่ายๆ มันต้องมีอะไรสักอย่าง" เหมราชลุกขึ้นจากโซฟามือถือแก้วไวน์กระดกดื่มจนหมดแก้ว ลูกน้องคนสนิทพูดก็ถูกทำไมอยู่ๆ อันนาถึงไปที่บริษัทและตั้งใจเอาลู
บทที่ 392 ปีผ่านไป กาลเวลาหมุนเวียนตามเข็มนาฬิกา วันเวลาที่ผ่านไปนั้นล้วนมีทั้งความสุขและความทุกข์ ทว่าชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งกุมมืออยู่บนโซฟาตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน การรอคอยและตามหานั้นช่างทรมานสำหรับเขาเหลือเกิน มีทุกอย่างยกเว้นความสุขเหมราชใช้ชีวิตไปวันๆ ด้วยความหวังที่จะได้เจอลูกชายและอันนาอีกครั้งเสียงถอนหายใจดังขึ้นชายหนุ่มร่างโตลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานเปิดประตูห้องเดินออกมาพรวดพราดไม่ทันจะได้ตั้งตัว ทว่ามือของเขานั้นจึงคว้าเด็กตัวเล็กที่วิ่งมาด้วยความซุกซนชนกับเขาจนจะล้ม"มือหนาทั้งสองข้างประคองเด็กผู้ชายไว้ เด็กวัยสองขวบที่กำลังวิ่งซุกซนสายตาของเขาจ้องมองหน้าเด็กชายคนนั้นเพียงแค่ไม่นานหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นรู้สึกหวั่นไหว"ใครเอาลูกมาทำงาน" เหมราชกวาดสายตามองเลขาหน้าห้องตนเองสายตาของเลขามองไปยังด้านข้าง "คุณแม่" มือน้อยของเด็กชายตัวเล็กชี้ไปทางด้านหลัง เขาจึงเงยมอง เหมราชแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเขาลุกขึ้นยืนจับจ้องมองหญิงสาวเดินเข้ามาอย่างสง่า ลมหายใจแผ่วเบาผายออกเบาๆ อันนาเดินเข้ามาใกล้ๆ และเด็กผู้ชายคนนั้นรีบวิ่งเข้าไปหา"อันนา" ยิ่งกว่าฟ้าผ่าลงกลาง
บทที่ 38เหมราชเดินออกมาจากบ้านของคลาสด้วยความว่างเปล่าเขาไม่ได้คำตอบจากแม่ของคลาส แต่รู้อยู่ในใจว่ายังไงต้องเป็นเขาที่ช่วยอันนาหนีไป"มึงส่งคนไปดูทีว่าคลาสไปจังหวัดไหน" ในขณะที่นั่งรถกลับเหมราชสั่งกับลูกน้องคนสนิทให้จัดการส่งคนไปดูว่าคลาสไปอยู่ที่ไหน เขาพยายามทำทุกทางและตามหาทุกที่จนกว่าจะเจอเมียกับลูก "ได้ครับนาย" ใช้เวลาเพียงไม่นานไมถึง 10 นาที ด้วยซ้ำภาพของคลาสและที่อยู่นั้นปรากฏขึ้นบนหน้าจอช่องแชทในไลน์ของมือถือเหมราช คลาสอยู่จังหวัดกำแพงเพชรซึ่งอยู่บ้านพักตากอากาศแต่ไม่ได้อยู่กับอันนาคนที่อยู่ด้วยนั้นคือนิตาเหมราชคิ้วขมวดเข้าหากันทำไมเพื่อนสนิทของตัวเองถึงอยู่กับผู้หญิงฆาตกรที่ฆ่าน้องสาวของเขา"หมายความว่ายังไงวะ…ทำไมคลาสถึงอยู่กับนิตา?"เหมราชเงยหน้าขึ้นมองลูกน้องคนสนิทที่ไร้คำตอบเช่นเคยเขาได้เพียงแต่ส่ายหน้าไปมา"แล้วอันนากับลูกอยู่ไหน" เหมราชไม่ยอมหยุดที่จะตามหาภรรยาและลูกอย่างแน่นอน เขาส่งข้อความไปบอกกับท่านรองให้ช่วยตามหาอันนากับลูกให้เขา ไม่ว่าจะเสียเงินสักเท่าไรเขายอมเสียเพื่อที่จะได้เจอเมียกับลูก มือหนาทั้งสองข้างกุมเข้าหากัน เขานั่งอยู่โซฟากลางบ้านใบหน้าที่เหม่อลอยห
บทที่ 37 เรือนร่างหนาเดินออกมาท่ามกลางฝนตกหนักอย่างไร้เรี่ยวแรงใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลรินออกมาสู้กับสายฝนในแววตาแดงก่ำได้เพียงแต่กำหมัดทุบลงพื้นด้วยความเจ็บปวด เขาได้เห็นหน้าเจ้าตัวเล็กผู้เป็นสายเลือดและดวงใจของเขาเพียงแค่ไม่กี่วัน เธอก็นั้นพาลูกหนีไปจากเขา"อันนาได้โปรดกลับมาเดี๋ยวนี้ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอกับลูกฉันขอโทษได้โปรดกลับมาหาฉัน" เสียงฟ้าที่ผ่าดังเปรี้ยงยังไม่ทำให้เหมราชตกใจหวาดกลัว เขาร้องไห้สู้กับสายฝนระบายความเจ็บปวดนั้นเป็นน้ำตามากมายทุกอย่างที่เคยหวังไว้พังทลายลงสิ้นดี บ้านหลังใหม่กับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอย่างที่หวังนั้นไม่มีอีกต่อไป"กลับมาได้ไหม ฉันอยู่ไม่ได้ขอร้องพาลูกชายของฉันกลับมาเถอะนะ" หลับตาลงก็เห็นเพียงแต่ใบหน้าลูกชายตัวเล็กในอ้อมกอดเขาได้สัมผัสและจับลูกเพียงแค่ 3 วัน เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขานั้นไม่รู้เลยว่าจะต้องเสียลูกกับเธอไปเพื่อนสนิทอย่างคลาสได้เพียงแต่ส่ายหน้าไปมามองเหมราชเจ็บปวดท่ามกลางสายฝน เขาเองก็ไม่รู้ว่าน้องสาวของเขานั้นไปไหนพยายามถามแม่แล้วแต่ก็ไม่รู้"เหมราชมึงทำแบบนี้ร่างกายของมึงจะแย่เอานะ ทำไมไม่เก็บแรงไว้ตามหาลูกกับเมียล่ะ" คลาสทนเห
บทที่ 36 อันนาลืมตาตื่นหลังจากฤทธิ์ยาสลบนั้นหมดฤทธิ์แล้วในช่วงเวลากลางคืน เธอได้ยินเสียงของเด็กน้อยร้องอยู่ด้านข้างดวงใจของเธอที่เคยหดหู่และเจ็บปวดมานานได้ยินเสียงของเด็กน้อยนั้นมันเริ่มกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง ดีใจจนน้ำตาไหล เรือนร่างบางขยับร่างกายเตรียมที่จะลุกขึ้นแต่รู้สึกเจ็บที่หน้าท้องเพราะว่าแผลผ่าตัด"อันนาใจเย็นๆ นะ แผลจะฉีก" คิ้วน้อยขมวดเข้าหากันคนที่พูดขึ้นนั้นคือเขา ผู้ชายใจร้ายที่เธอเกลียดมากที่สุดในชีวิตเขาพุ่งตัวเข้ามาประคองเธอ"มาที่นี่ทำไม" สายตาคู่น้อยกวาดมองด้วยความไม่พอใจน้ำเสียงกระชากพูดใส่เขาอย่างไม่พอยังสะบัดมือออกไม่ให้เขาจับตัวเอง"มาดูแลเมียกับลูกสิอันนา ลูกของเราน่ารักมากๆ เลยนะไม่สิเขาต้องเรียกว่าน่าเกลียดน่าชังมากๆ เลย ดูสิเขาเลี้ยงง่ายด้วย" อันนาเธอได้เพียงแต่มองหน้าเขานิ่งๆ ในครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกๆ ครั้งที่เธอเอ่ยไล่เขาและใช้อารมณ์รุนแรงไม่เขวี้ยงข้าวของใส่เขา อันนาก็มักจะเขวี้ยงข้าวของใส่เขาแต่ในครั้งนี้เธอกลับนิ่งสายตาคู่น้อยหันไปมองลูกตัวเอง "อันนาอยากเห็นลูกใกล้ๆ ใช่ไหมเดี๋ยวฉันขยับลูกเข้าไปใกล้ๆ ให้นะ" เหมราชดีใจจนเนื้อตัวสั่นเขารีบขยับลูกเข้าไปใกล้
บทที่ 35 8 เดือนผ่านไป อันนาเธอขออยู่บ้านพักต่างจังหวัดติดทะเลของป้า เธอและไม่กลับมาที่กรุงเทพฯอีกไม่ติดต่อกับนิตาเพราะยังโกรธในสิ่งที่พ่อของนิตาทำกับพ่อแม่ตัวเอง อันนาอยู่ที่บ้านหลังนี้เพียงคนเดียวแต่มีแม่บ้านคอยแวะเวียนมาทำความสะอาดให้แทบจะทุกวัน อันนาท้องโตมาก คลาสลูกพี่ลูกน้องนั้นแวะเวียนมาบ่อยเพราะว่าพาอันนาไปฝากท้องและในทุกๆ ครั้งที่หมอนัดคลาสจะเป็นคนพาไป ส่วนเหมราชตั้งแต่วันนั้นเขาไม่มาให้เธอเห็นหน้าอีก ความโกรธเบาลงด้วยตามกาลเวลาแต่เธอนั้นยังไม่ลืมสิ่งที่เหมราชกระทำกับเธอได้เลย"อันนาแต่งตัวเสร็จหรือยัง วันนี้หมอนัดแต่เช้านะ" จากเด็กสาวตัวเล็กในวันนั้นกลายเป็นคุณแม่ท้องแก่ที่ท้องใหญ่มากเหมือนกับว่าได้ลูกแฝด แต่หมอดูแล้วเด็กในท้องเป็นเด็กผู้ชายไม่ใช่แฝดเพียงแต่เขาตัวใหญ่และสมบูรณ์มากน้ำหนักจึงเกินเกณฑ์ "เสร็จแล้วค่ะ…วันนี้คุณหมอบอกว่าให้เตรียมข้าวของไปด้วยเพราะว่าใกล้ถึงกำหนดคลอดแล้ว ถ้าเกิดปากมดลูกไม่เปิดคุณหมอจะให้นอนโรงพยาบาลเพื่อที่เตรียมเข้าห้องผ่าตัดในวันพรุ่งนี้" ใบหน้าน้อยฉีกยิ้มให้กับผู้เป็นพี่ชายและสะพายกระเป๋าข้าวของที่ตนเองนั้นเตรียมไว้ออกมาด้วย"วันนี้ทำไมรอยยิ