บทที่ 30 ในวันนี้อันนารู้สึกดีขึ้นและยิ่งรู้ว่าลุงของตนเองนั้นอาการดีขึ้นมากจนหมออนุญาตให้ย้ายไปอยู่ในห้องพักฟื้นและสามารถให้ญาติของคนป่วยเข้าเยี่ยมได้ อันนากับนิตาลุกขึ้นแต่เช้าจัดเตรียมข้าวของของกินและของโปรดที่ลุงของตนเองชอบ "อันนาอย่าเดินมากสิเดี๋ยวกระทบกับลูกในท้อง หลานฉันจะเป็นอันตรายเอานะ" นิตาที่เคยมีใบหน้าสวยเฉิดฉายแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางราคาแพงในตอนนี้เธอกลับไม่แต่งเติมอะไรใบหน้าถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งเติมด้วยเครื่องสำอางแต่หน้าตาของเธอก็จิ้มลิ้มและสวยอย่างสง่านิตากลัวว่าอันนาที่เดินไปมาจัดเตรียมข้าวของจะลื่นล้มจึงรีบเดินมาจับแขนของน้องสาวเอาไว้พร้อมกับเอ่ยพูดด้วยคิ้วขมวดเข้าหากัน"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แค่ท้องนะไม่ได้พิการคิดมากเกินไปหรือเปล่า" อันนาส่ายหน้าไปมาให้กับผู้เป็นพี่สาวทั้งสองคนเหมือนเพื่อนสนิทกันมากกว่า "ก็รู้แล้วว่าไม่ได้พิการแต่คนท้องเขาไม่ให้เดินไปมามาก เมื่อคืนนี้นิตาเข้าไปหาข้อมูลมาเขาบอกว่าพยายามให้อยู่เฉยๆ อย่าทำงานหนักให้นั่งทำเอาไม่ใช่ให้เดินอย่างกับนักกีฬา" ใบหน้าน้อยทำหน้าตาบึงตึงแถมยังคิ้วขมวดผูกปมราวกับเด็กไม่พอใจอันนาเธอหัวเราะยกมือจับแก้มของพี่สา
บทที่ 30 ในวันนี้อันนารู้สึกดีขึ้นและยิ่งรู้ว่าลุงของตนเองนั้นอาการดีขึ้นมากจนหมออนุญาตให้ย้ายไปอยู่ในห้องพักฟื้นและสามารถให้ญาติของคนป่วยเข้าเยี่ยมได้ อันนากับนิตาลุกขึ้นแต่เช้าจัดเตรียมข้าวของของกินและของโปรดที่ลุงของตนเองชอบ "อันนาอย่าเดินมากสิเดี๋ยวกระทบกับลูกในท้อง หลานฉันจะเป็นอันตรายเอานะ" นิตาที่เคยมีใบหน้าสวยเฉิดฉายแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางราคาแพงในตอนนี้เธอกลับไม่แต่งเติมอะไรใบหน้าถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งเติมด้วยเครื่องสำอางแต่หน้าตาของเธอก็จิ้มลิ้มและสวยอย่างสง่านิตากลัวว่าอันนาที่เดินไปมาจัดเตรียมข้าวของจะลื่นล้มจึงรีบเดินมาจับแขนของน้องสาวเอาไว้พร้อมกับเอ่ยพูดด้วยคิ้วขมวดเข้าหากัน"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แค่ท้องนะไม่ได้พิการคิดมากเกินไปหรือเปล่า" อันนาส่ายหน้าไปมาให้กับผู้เป็นพี่สาวทั้งสองคนเหมือนเพื่อนสนิทกันมากกว่า "ก็รู้แล้วว่าไม่ได้พิการแต่คนท้องเขาไม่ให้เดินไปมามาก เมื่อคืนนี้นิตาเข้าไปหาข้อมูลมาเขาบอกว่าพยายามให้อยู่เฉยๆ อย่าทำงานหนักให้นั่งทำเอาไม่ใช่ให้เดินอย่างกับนักกีฬา" ใบหน้าน้อยทำหน้าตาบึงตึงแถมยังคิ้วขมวดผูกปมราวกับเด็กไม่พอใจอันนาเธอหัวเราะยกมือจับแก้มของพี่สา
บทที่ 31 อันนาจับจ้องมองเพื่อนสนิทของเหมราชและรีบเดินออกมาหานิตาทั้งสองคนจึงดีดตัวออกจากกันโดยเฉพาะคลาสที่จับแขนของนิตาเอาไว้ เขาปล่อยออกทันทีหลังจากที่อันนาถามใบหน้าของคลาสเผยรอยยิ้มให้กับเธอ"ผมตั้งใจมาหาอันนานั่นแหละ ว่างหรือเปล่าขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม" "เอาไว้วันหลังนะคะ วันนี้อันนากับนิตาจะไปเยี่ยมคุณลุงที่โรงพยาบาลขออนุญาตคุณคลาสด้วยนะ" อันนาไม่ได้สนใจคลาส เธอจับแขนผู้เป็นพี่สาวเดินมาที่รถ "เขาจะมาคุยอะไรกับเธอ" นิตาคิ้วขมวดเข้าหากัน ทำไมคลาสต้องมาคุยกับอันนาด้วย เธอได้เพียงแต่รู้สึกสงสัยแต่ไม่ได้ถามอะไร หลังจากนั้นคลาสขับรถออกไปนิตากับอันนาก็ตรงมาที่โรงพยาบาลทันที ผู้เป็นลุงและความเป็นพ่อโอบกอดหญิงสาวทั้งสองคนทั้งลูกและหลานสาว ร้องไห้ดีใจที่เขานั้นฟื้นกลับมาเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าอาการยังอยู่ในขั้นทรงตัวไม่ดีเท่าไร แต่เขานั้นรู้แล้วว่ารอดจากวิกฤตการตายเป็นยังไง"ลุงรู้ทุกอย่างแล้วและลุงจะไม่ไขว่คว้าอะไรอีกแล้ว ขอโทษนะที่ทำให้หลานต้องเจ็บที่ทำให้หลานต้องรับชะตากรรมแบบนั้น" มือหนาทั้งสองกุมเข้ามือของหลานสาวพร้อมกับเอ่ยคำขอโทษ อันนาส่ายหน้าไปมา เธอไม่เคยโทษโกรธลุงของตนเองและพ
บทที่ 32เหมราชเดินมาที่สระน้ำของโรงพยาบาลซึ่งใหญ่มากอยู่ตรงช่วงกลางของตึก ลูกน้องคนสนิทรีบตามมาพยายามถามเจ้านายของตัวเองจะทำแบบนั้นจริงๆ เหรอผู้คนมากมายผ่านไปมาเห็นจะต้องมองว่าเขาบ้าลงไปแช่ในสระน้ำทำไม"นายจะทำแบบนี้จริงๆ เหรอครับ" "ก็ถ้าทำแล้วทำให้เมียกับลูกของกูกลับคืนมา กูก็จะทำแค่แช่น้ำอยู่ในสระคงไม่ตายหรอก" เหมราชถอดเสื้อคลุมของตนเองออกพร้อมกับปลดเนกไทนิดหน่อยแล้วโดดลงไปในสระน้ำซึ่งมันไม่ลึกมากอยู่เสมอกับหน้าอกของเขาพอดี "เดี๋ยวนะครับคุณลงไปในสระน้ำแบบนั้นได้ยังไงทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้ใครลงไป" รปภ. รีบวิ่งมาห้ามแต่เหมราชนั่นลงไปยืนอยู่ในกลางสระแล้ว"คุณไม่รู้จักเหรอว่าเจ้านายของผมเป็นใครอย่ามายุ่ง" "ผมไม่สนหรอกนะว่าเจ้านายของคุณจะเป็นใคร แต่ทำผิดกฎของโรงพยาบาลช่วยตามเจ้านายของคุณขึ้นมาด้วยถ้าไม่อยากถูกแจ้งความ" ลูกน้องคนสนิทของเขาได้เพียงแต่ส่ายหน้าไปมาดูเหมือนว่าเขาจะต้องไปจัดการอะไรบางอย่างจึงรีบเดินออกไปปล่อยให้เหมราชนั้นอยู่ในสระน้ำ รปภ.รีบกลับไปทันทีหลังจากได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้าเขาไม่กล้าที่จะมาบอกเหมราชนั้นขึ้นแล้วและรู้ว่าถ้าไม่กล้าจริงหรือว่าใหญ่จริงก็คงไม่ลงไปแช่
บทที่ 33 เจ้าของเรือนร่างบางนอนหลับอยู่บนเตียงด้วยอาการอ่อนเพลีย วันนี้ทั้งวันเธอทานอะไรไม่ได้เลย จนกระทั่งได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามาคิดว่าน่าจะเป็นเหมราชจึงไม่ลืมตาตื่นขึ้น เสียงฝีเท้าก้าวเดินเข้ามาใกล้ๆ เตียง เธอกลับรู้สึกแปลกใจทำไมเขาถึงไม่เรียกเธอดวงตาคู่น้อยลืมตื่นขึ้นมาดูว่าเป็นใครที่เดินเข้ามา "คุณลุง" เรือนร่างบางขยับลุกขึ้นนั่งทันที กรณ์ผู้เป็นลุงของเธอนั้นฟื้นตื่นขึ้นกลับมาเป็นปกติแล้ว"หลานเป็นยังไงบ้างลุงขอโทษ ลุงขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ทำให้หลานต้องเป็นแบบนี้" ในดวงตาของลุงเต็มไปด้วยความเศร้าที่ต้องทำให้ชีวิตของหลานสาวนั้นเจ็บปวดปางตาย "ไม่เป็นไรเลยค่ะ…อันนาอยากตอบบุญคุณของคุณลุงกับนิตา แล้วคุณลุงเป็นยังไงบ้างค่ะ" "ลุงหายแล้วและลุงก็ได้ทุกอย่างกลับคืนมา แต่ลุงไม่อยากได้แล้ว ลุงอยากได้หลานสาวของลุงกลับคืนมา" ผู้เป็นลุงนั้นคว้ามือของหลานสาวกุมเอาไว้ด้วยความสำนึกผิดและเสียใจกับการกระทำของตัวเอง ลุงที่สำนึกผิดพยายามขอโทษหลานสาวแต่หลานสาวของเขานั้นไม่เคยโกรธทั้งสองคนเลย ได้คุยกันหลายๆอย่างจนกระทั่งวางแผนชีวิตใหม่ กรณ์เอ่ยถามหลานสาวตรงๆ ว่าจะเก็บเด็กในท้องไว้หรือเปล่า อันนา
บทที่ 34เสียงคลื่นทะเลนั้นกระทบเข้าฝั่งด้วยบรรยากาศที่เย็นเยือกหญิงสาวร่างบางได้เพียงแต่นั่งกอดเข่ามองไปไกลแสนไกลทำไมชีวิตของเธอเจอแต่ความเจ็บปวดขนาดนี้ ทุกๆ อย่างที่เคยคิดว่าดีกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากที่สุดในชีวิต อันนามาอยู่กับป้าที่แท้จริงแม่ของคลาสขอดูแลอันนา เขาพาเธอมาพักใจบ้านพักต่างจังหวัด "อันนาชีวิตของคนเราต้องเดินต่อนะ ลูกป้ารู้ว่าหนูเสียใจแต่ทุกอย่างมันไม่สามารถคืนกลับมาได้ ชีวิตของเราก็ต้องเดินต่อ ไม่มีใครพบเจอแต่ความสุขทุกคนต้องสูญเสียและเจอกับความทุกข์กันทั้งนั้นล้วนแต่เป็นชะตากรรมใครชะตากรรมมันก็เท่านั้นเอง ต่อจากนี้ไปหนูต้องดูแลตัวเองและเจ้าตัวน้อยในท้อง ป้าจะคอยดูแลอยู่ข้างๆ สนับสนุนหนูกับหลานเองนะ" ดวงตาคู่น้อยมองผู้เป็นป้าน้ำตาคลอจนร่วงหล่นเต็มแก้มเธอร้องไห้สะอื้นพุ่งตัวเข้ากอดป้าเอาไว้"ทำไมชีวิตหนูเจอแต่คนใจร้ายจัง หนูไม่เคยคิดเลยว่าลุงจะทำแบบนั้นหนูคิดว่าเขารักหนูและดีกับหนูมาโดยตลอด จริงๆ แล้วเขาไม่เคยรักหนูเลย ถ้าเขาไม่มีผลประโยชน์กับหนูป่านนี้เขาคงฆ่าหนูตายไปแล้ว" มือหนาของผู้เป็นป้าลูบหัวของหลานสาวเบาๆ"ชีวิตของเขาก็ไม่มีความสุขอีกต่อไปแล้ว ถ้าไม่มีหนูเช
บทที่ 35 8 เดือนผ่านไป อันนาเธอขออยู่บ้านพักต่างจังหวัดติดทะเลของป้า เธอและไม่กลับมาที่กรุงเทพฯอีกไม่ติดต่อกับนิตาเพราะยังโกรธในสิ่งที่พ่อของนิตาทำกับพ่อแม่ตัวเอง อันนาอยู่ที่บ้านหลังนี้เพียงคนเดียวแต่มีแม่บ้านคอยแวะเวียนมาทำความสะอาดให้แทบจะทุกวัน อันนาท้องโตมาก คลาสลูกพี่ลูกน้องนั้นแวะเวียนมาบ่อยเพราะว่าพาอันนาไปฝากท้องและในทุกๆ ครั้งที่หมอนัดคลาสจะเป็นคนพาไป ส่วนเหมราชตั้งแต่วันนั้นเขาไม่มาให้เธอเห็นหน้าอีก ความโกรธเบาลงด้วยตามกาลเวลาแต่เธอนั้นยังไม่ลืมสิ่งที่เหมราชกระทำกับเธอได้เลย"อันนาแต่งตัวเสร็จหรือยัง วันนี้หมอนัดแต่เช้านะ" จากเด็กสาวตัวเล็กในวันนั้นกลายเป็นคุณแม่ท้องแก่ที่ท้องใหญ่มากเหมือนกับว่าได้ลูกแฝด แต่หมอดูแล้วเด็กในท้องเป็นเด็กผู้ชายไม่ใช่แฝดเพียงแต่เขาตัวใหญ่และสมบูรณ์มากน้ำหนักจึงเกินเกณฑ์ "เสร็จแล้วค่ะ…วันนี้คุณหมอบอกว่าให้เตรียมข้าวของไปด้วยเพราะว่าใกล้ถึงกำหนดคลอดแล้ว ถ้าเกิดปากมดลูกไม่เปิดคุณหมอจะให้นอนโรงพยาบาลเพื่อที่เตรียมเข้าห้องผ่าตัดในวันพรุ่งนี้" ใบหน้าน้อยฉีกยิ้มให้กับผู้เป็นพี่ชายและสะพายกระเป๋าข้าวของที่ตนเองนั้นเตรียมไว้ออกมาด้วย"วันนี้ทำไมรอยยิ
บทที่ 36 อันนาลืมตาตื่นหลังจากฤทธิ์ยาสลบนั้นหมดฤทธิ์แล้วในช่วงเวลากลางคืน เธอได้ยินเสียงของเด็กน้อยร้องอยู่ด้านข้างดวงใจของเธอที่เคยหดหู่และเจ็บปวดมานานได้ยินเสียงของเด็กน้อยนั้นมันเริ่มกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง ดีใจจนน้ำตาไหล เรือนร่างบางขยับร่างกายเตรียมที่จะลุกขึ้นแต่รู้สึกเจ็บที่หน้าท้องเพราะว่าแผลผ่าตัด"อันนาใจเย็นๆ นะ แผลจะฉีก" คิ้วน้อยขมวดเข้าหากันคนที่พูดขึ้นนั้นคือเขา ผู้ชายใจร้ายที่เธอเกลียดมากที่สุดในชีวิตเขาพุ่งตัวเข้ามาประคองเธอ"มาที่นี่ทำไม" สายตาคู่น้อยกวาดมองด้วยความไม่พอใจน้ำเสียงกระชากพูดใส่เขาอย่างไม่พอยังสะบัดมือออกไม่ให้เขาจับตัวเอง"มาดูแลเมียกับลูกสิอันนา ลูกของเราน่ารักมากๆ เลยนะไม่สิเขาต้องเรียกว่าน่าเกลียดน่าชังมากๆ เลย ดูสิเขาเลี้ยงง่ายด้วย" อันนาเธอได้เพียงแต่มองหน้าเขานิ่งๆ ในครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกๆ ครั้งที่เธอเอ่ยไล่เขาและใช้อารมณ์รุนแรงไม่เขวี้ยงข้าวของใส่เขา อันนาก็มักจะเขวี้ยงข้าวของใส่เขาแต่ในครั้งนี้เธอกลับนิ่งสายตาคู่น้อยหันไปมองลูกตัวเอง "อันนาอยากเห็นลูกใกล้ๆ ใช่ไหมเดี๋ยวฉันขยับลูกเข้าไปใกล้ๆ ให้นะ" เหมราชดีใจจนเนื้อตัวสั่นเขารีบขยับลูกเข้าไปใกล้