"คุณกลับมาทำไม!" หลังจากอึ้งอยู่นาน หานซานเฉียนก็ยืนขึ้นและถามฉี๋อีหยุน “ฉันช้อปปิ้งเหนื่อยแล้ว ไม่กลับบ้านแล้วจะให้ไปนอนข้างถนนหรือไง?” ฉี๋อีหยุนทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะลากกระเป๋าของเธอกลับห้องไปหานซานเฉียนยืนอยู่หน้าประตูอย่างช่วยไม่ได้ เขามองฉี๋อีหยุนแขวนเสื้อผ้ากลับเข้าตู้ทีละตัว"คุณรู้ไหมว่าสถานการณ์ของผมตอนนี้เป็นแบบไหน? การอยู่ข้างผมรังแต่จะทำให้คุณเป็นอันตรายมากขึ้น" หานซานเฉียนกล่าวฉี๋อีหยุนดูไม่แยแสและพูดว่า "ฉันรู้ว่าชีวิตนี้มันเป้นไปไม่ได้ที่จะได้คบกับคุณ และคุณก็ไม่มีทางที่จะชอบฉัน แต่ถ้าได้ตายไปพร้อมกับคุณ มันก็ดีไม่ใช่เหรอ? บางทีเราอาจได้พบกันใหม่ ในชาติหน้าที่ไม่มีซูหยิงเซี่ย ฉันจะพยายามทำให้คุณตกหลุมรักฉันให้ได้"คำพูดเหล่านี้ หานซานเฉียนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดี เขาเป็นคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้า และไม่เคยเชื่อว่าชาติหน้าจะมีอยู่จริงชีวิตนี้ หากคุณไม่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะมีชีวิตที่ดีและมีอายุยืนยาว แล้วชาติหน้าจะมีประโยชน์อะไรและฝากความหวังไว้กับความคิดไร้สาระในเรื่องชาติหน้านั้นโง่ยิ่งกว่า“ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน ฉันจะตามไปจนถึงที่สุด ดังนั้น
ระหว่างรับประทานอาหาร หานซานเฉียนก็ได้รับสายจากม่อหยาง"ซานเฉียน เพื่อนนายคนนั้นเป็นสุนัขที่กินแล้วถ่ายไม่เปลี่ยนจริง ๆ ฉันได้ยินมาว่าเขามีปัญหาอีกแล้ว ครั้งนี้เป็นเพราะผู้หญิง นายจะไปดูหน่อยไหม" ม่อหยางทำอะไรไม่ถูกมาก ในสังคมปัจจุบัน มีวิธีเล่นกับผู้หญิงนับหมื่นวิธี แต่ชิงอวิ๋นเลือกที่จะลวนลามตระกูลผู้ดี เขาถูกจับไปหลายครั้งแล้วก็ยังไม่กลับตัวกลับใจอีกหานซานเฉียนไม่ได้สนใจชิงอวิ๋นมานานแล้ว เพราะหางจิ้งจอกของเขาซ่อนอยู่ลึกมาก หานซานเฉียนเพียงแค่ปล่อยให้เวลาพิสูจน์เขาอย่างช้า ๆ แต่หานซานเฉียนไม่คิดเลยว่า นี่มันก็หลายครั้งแล้ว แต่ชิงอวิ๋นยังไม่จำเป็นบทเรียนอีก!“ฉันกินข้าวอยู่ ไว้เดี๋ยวไปดูทีหลัง” หานซานเฉียนพูดหลังจากวางสาย ฉี๋อีหยุนก็ถามว่า "เกิดอะไรขึ้นเหรอ?"“เรื่องเล็กน้อยน่ะ เพื่อนคนนึงถูกตำรวจจับอีกแล้ว ในข้อหาลวนลามผู้หญิง” หานซานเฉียนกล่าว“อีกแล้ว?” ฉี๋อีหยุนขมวดคิ้วและพูดว่า “ดูเหมือนว่าเพื่อนของคุณคนนี้จะดื้อไม่ใช่เล่นเลยนะ”หานซานเฉียนก็แปลกใจเช่นกัน ชิงอวิ๋นแน่วแน่ในเรื่องนี้มาก"น่าจะเป็นอย่างนั้น"หลังจากกินข้าวเสร็จ หานซานเฉียนก็ออกจากบ้านและขับรถไปที่สำนักงาน
เมื่อมองไปที่ชิงอวิ๋นที่สวมชุดเครื่องแบบของศูนย์กักกัน หานซานเฉียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "รอเดี๋ยว"พอออกมาจากห้องกักกัน หานซานเฉียนก็โทรหม่อหยาง จากนั้นไม่นานชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาหานซานเฉียนด้วยท่าทางเคารพ"ไม่ทราบว่าคุณคือ คุณหานหรือเปล่าครับ?" ชายวัยกลางคนถามหานซานเฉียน เมื่อครู่เขาได้คุยกับม่อหยาง และม่อหยางบอกให้เขาทำตามคำขอของหานซานเฉียน และเขาก็ไม่กล้าละเลยกับคนใหญ่คนโตเช่นนี้ได้"สวัสดี ผมต้องการตรวจสอบทรัพย์สินส่วนตัวของชิงอวิ๋นได้ไหมครับ?" หานซานเฉียนไม่ได้ยกตนขึ้นสูง และเขาไม่เคยใช้สถานะรังแกผู้อื่น ยิ่งตอนนี้เขามีเรื่องที่รบกวนขอร้องให้คนอื่นช่วย เขายิ่งไม่วางมาด“ไม่มีปัญหาครับ โปรดตามผมมาได้เลย” ชายวัยกลางคนกล่าวเมื่อมาถึงห้องเก็บของทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ถูกคุมขัง ทั้งหมดถูกเก็บไว้ในถุงใสที่มีป้ายชื่อติดอยู่ หลังจากที่ชายวัยกลางคนพบทรัพย์สินของชิงอวิ๋น เขาก็มอบมันให้กับหานซานเฉียน"คุณหาน นี่คือทรัพย์สินของชิงอวิ๋น ผมจะไปรออยู่ที่ประตู ถ้าคุณต้องการอะไรเพิ่มเติมก็เรียกผมได้ตลอดเวลา" ชายวัยกลางคนกล่าว ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คนนอกจะเข้ามาได้ แต่เขากล
เจตนาฆ่าฉายในดวงตาของชิงอวิ๋น เมื่อหานซานเฉียนยึดสิ่งสำคัญนี้ไป!"พี่ใหญ่ ของชิ้นนี้ไม่มีค่าอะไร พี่จะเอามันไปทำไม คืนมาให้ผมเถอะครับ" ชิงอวิ๋นกล่าว“นายให้ความสำคัญกับของที่เก็บได้มากขนาดนั้นเลยเหรอ ดูเหมือนว่าของที่อยู่ข้างในจะไม่ใช่ของธรรมดาสินะ ถ้านายอยากได้คืน ก็มาแย่งกลับไปสิ” หานซานเฉียนพูดเสียงนิ่ง ชิงอวิ๋นอดทนที่จะไม่ลงมือ เพราะนี่ไม่เพียงแต่จะเปิดเผยตัวตนของเขา และเขาอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหานซานเฉียนด้วยซ้ำชิงอวิ๋นหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า "พี่ใหญ่ ที่จริงแล้ว สิ่งนี้เป็นของที่ระลึกที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้ผม ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าข้างในมีอะไร ผมไม่เคยเปิดมันออกมาเลย"“อาจารย์ของนาย? เป็นนักบวชลัทธิเต๋าที่หลอกลวงผู้คนเหรอ” หานซานเฉียนถาม เขาค่อนข้างอ่อนไหวกับนักบวชเต๋า เพราะถ้าตอนนั้นนักบวชเต๋าไม่พูดจาไร้สาระ วัยเด็กของเขาในตระกูลหานก็จะไม่กลับตาลปัดแบบนี้หานซานเฉียนพยายามอย่างหนักเพื่อสืบสวนเรื่องนี้ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่พบเบาะแสใด และเขาก็ไม่รู้ว่านักบวชลัทธิเต๋าคนนั้นคือใคร และร่วมมือกับใครชิงอวิ๋นส่ายหัวซ้ำ ๆ และพูดว่า "อาจารย์ของผมมีทักษะอย่างแท้จริง เขาแตกต่างจากผม"
เมื่อกลับมาถึงบ้าน หานซานเฉียนก็หยิบกล่องออกมาและศึกษามันเป็นเวลานาน แต่ไม่มีกลไกบนพื้นผิวที่สามารถเปิดออกได้ ราวกับว่ามันถูกปิดผนึก และดูเหมือนว่าวิธีเดียวที่จะรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน คือต้องใช้ความรุนแรงในการเปิดมันออกมาแต่วิธีนี้อาจทำให้สิ่งของภายได้รับความเสียหายได้ ทำให้หานซานเฉียนยังไม่กล้าลองใช้วิธีนั้นหานซานเฉียนนั่งบนเตียงด้วยความงุนงง ที่เขาไม่ฆ่าชิงอวิ๋นก็ถือว่าเมตตาแล้ว และการที่เขาอดทนสะกดเจตนาฆ่านี้ไว้ได้ แสดงให้เห็นว่าหานซานเฉียนควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดีมากเพราะถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องไร้สาระของนักบวชเต๋าในตอนนั้น ชะตากรรมของเขาคงไม่กลายเป็นแบบนี้แม้ว่าความสำเร็จในปัจจุบันของหานซานเฉียนจะไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลหานในเมืองเหยียนจิง แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่ในวัยเด็กที่เจ็บปวด หากเขามีทางเลือก หานซานเฉียนก็หวังว่าเขาจะได้มีความสุขมากกว่านี้ในวัยเด็กเขายกมือขึ้นลูบสร้อยคอ เป็นเพราะการหายตัวไปของปู่ของเขา การเปลี่ยนแปลงที่สั่นสะเทือนโลกถึงได้เกิดขึ้นกับตระกูลหานในใจของหานซานเฉียน หานเทียนหยางเป็นคนเดียวที่นับเขาเป็นญาติในตระกูลหาน หากหานเทียนหยางยังไม่ตาย เขาจะพยายามค้นหาเ
มี่เฟยเอ๋อร์และหยางเหมิงกลับมาจากการทำโอที เมื่อพวกเธอเดินมาถึงชั้นล่างของอพาร์ทเมนต์ พวกเธอก็เห็นพวกของหานลี่สามคน สำหรับพวกเธอทั้งสอง ออร่าของหานลี่นั้นไม่ธรรมดา แค่แวบแรกก็รู้ได้ทันที โดยเฉพาะมี่เฟยเอ๋อร์ที่รู้สึกได้อย่างรุนแรง เนื่องจากเธอเคยเข้าร่วมงานเลี้ยงระดับไฮเอนด์หลายแห่ง และได้พบกับบุคคลระดับสูงมากมาย คนประเภทนี้มักมีออร่าที่แข็งแกร่งและสง่างามจากภายในสู่ภายนอก“พี่เฟยเอ๋อร์ คนเหล่านี้อาศัยที่นี่เหรอ ทำไมฉันไม่เคยเห็นพวกเขามาก่อนเลย” หยางเหมิงถามอย่างสงสัยมี่เฟยเอ๋อร์ส่ายหัว ออร่าหานลี่นั้นแข็งแกร่งกว่าชายร่างใหญ่ทุกคนที่เธอเคยเห็นมา ซึ่งหมายความว่าตัวตนของคน ๆ นี้ไม่ธรรมดาแน่นอน แล้วเขาจะมาอาศัยอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?“เธอควรไปเช็คสายตาที่โรงพยาบาลได้แล้วนะ คนแบบนี้มาอยู่ในที่แบบนี้ได้ยังไง แต่พวกเราตามไปดูได้ว่าเขามาทำอะไรที่นี่ รีบไปเร็ว”เมื่อพวกของหานลี่เดินเข้าไปในลิฟต์ ขณะที่มันกำลังจะปิด มี่เฟยเอ๋อร์ก็เอื้อมมือไปกั้นเอาไว้ประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง เมื่อมี่เฟยเอ๋อร์และหยางเหมิงกำลังจะเข้าไปในลิฟต์ ตี้หยางก็ก้าวไปข้างหน้าและขวางทางเข้าประตูลิฟต์ทันที ความหมายนั้น
เมื่อหานเหยียนเห็นท่าทางสงบของหานซานเฉียน เธอก็ได้แต่หัวเราะในใจ ไอ้สารเลวนี่ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นหรือตาย ยังกล้านั่งอยู่ได้ แม้แต่เธอก็ต้องยืนขึ้นทำความเคารพเมื่ออยู่ต่อหน้าหานลี่ แล้วนับประสาอะไรกับการเด็กที่ถูกทอดทิ้งจากสาขาย่อย?"ฉี๋อีหยุน ไม่นึกเลยนะว่าเราจะได้พบกันที่นี่" หานลี่พูดกับฉี๋อีหยุนด้วยใบหน้าเย็นชาฉี๋อีหยุนยืนขึ้นด้วยความเคารพต่อผู้อาวุโส ก่อนจะตะโกนทักทายว่า "ลุงหาน"“หานเฟิงมาหาเธอใช่ไหม” หานลี่ถาม"เคยเจอกันครั้งนึงค่ะ" ฉี๋อีหยุนพูดตามจริง ไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องนี้ เพราะหานเฟิงซื้อบ้านที่นี่ ถ้าเธอบอกว่าเธอไม่เคยเจอ มันจะดูเกินจริงไป และมันจะทำให้หานลี่สงสัยว่าเธอจงใจปกปิดมัน“แล้วเขาล่ะ?” หานลี่ถามฉี๋อีหยุนส่ายหัวและพูดว่า "หลังจากเจอเขาครั้งนั้น เขาไม่ปรากฏตัวแล้วค่ะ ถ้าลุงหานต้องการพบเขา ทำไมเขาไม่ถามลูกสาวท่านล่ะคะ?""ฉี๋อีหยุน ตั้งแต่หานเฟิงมาหยุนเฉิง ฉันก็ไม่เคยเจอเขาเลย เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?" หานเหยียนผู้กินปูนร้อนท้องโต้กลับทันที ถ้าไม่ใช่เพราะฆ่าหานเฟิงไปแล้ว เธอคงไม่ร้อนตัว และไม่แสดงท่าทีรีบร้อนในการอธิบายแบบนี้หากเป็นคนนอก ปฏิกิร
หานลี่เคร่งครัดในศาสนา ดังนั้นเขาจึงยังไม่ฆ่าหานซานเฉียนแต่นี่ไม่ได้หมายความว่าหานซานเฉียนสามารถทำอะไรก็ได้ต่อหน้าเขาหานลี่เหยียบหัวหานซานเฉียนอย่างแรง "ฉันไม่ฆ่าแก แต่ก็มีเป็นหมื่นวิธีที่จะทำให้แกตายทั้งเป็น อยากลองดูไหม?""ลุงหาน ถ้าลุงมาที่นี่เพื่อหาหานเฟิง ที่นี่ไม่มีคำตอบที่ลุงต้องการค่ะ" ฉี๋อีหยุนพูดขึ้น เธอรู้สึกเจ็บปวดจนยากที่จะหายใจ เมื่อเห็นหานซานเฉียนถูกทุบตี เธอจึงต้องหาทางพาหานซานเฉียนออกจากสถานการณ์ปัจจุบันเหตุผลที่ทำให้หานลี่รำคาญก็คือ การที่หานซานเฉียนดูถูกเขา แต่จุดประสงค์ของเขาที่มาที่นี่ไม่ใช่มาหาเรื่องหานซานเฉียน แต่เพื่อหาหานเฟิง ดังนั้นหลังจากได้ยินคำพูดของฉี๋อีหยุน หานลี่ก็สงบลง“แกรู้ไหมว่าหานเฟิงอยู่ที่ไหน?” หานลี่ถามหานซานเฉียนหานเฟิงตายแล้ว โดยถูกหานเหยียนฆ่าหานซานเฉียนมีหลักฐานในมือ แม้ว่าจะไม่สามารถพิสูจน์ได้โดยตรงว่าหานเหยียนฆ่าหานเฟิง แต่การหายตัวไปของหานเฟิงนั้นเกี่ยวข้องกับหานเหยียนอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม การเอาวิดีโอออกมาใช้เร็วแบบนี้ หานซานเฉียนจะไม่ได้รับประโยชน์อะไร และอาจทำให้หานลี่โกรธจนฆ่าเขาก็ได้ “ผมไม่รู้” หานซานเฉียนกัดฟันและพู