บอดี้การ์ดส่ายหัวและพูดว่า "คนแปลกหน้าห้ามขึ้นไป ถ้าเขารู้จักคุณ เขาต้องแจ้งผม และผมยังไม่ได้รับคำแจ้งเตือนดังกล่าว"ฉินโหรวรู้สึกไม่พอใจจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ทางที่ดีนายควรไปแจ้งเขาให้รู้เดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันเกรงว่านายจะมีความผิดร้ายแรงแน่" ในเวลานี้ เฉินเหมี่ยวก็ยื่นอยู่ข้างฉินโหรว จึงพูดกับบอดี้การ์ดด้วยน้ำเสียงโมโหว่า "นายมันก็แค่คนเฝ้าประตู รีบไปแจ้งเขาเร็วเข้าสิ นายคงไม่อยากถูกเจ้านายลงโทษเพราะเเรื่องแค่นี้รู้สินะ" เจ้านายก็อยู่ข้างบน แถมพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไร ทำไมบอดี้การ์ดยังต้องไปแจ้งด้วย"เจ้านายของพวกเราก็อยู่ข้างบน แต่พวกท่านก็ไม่ได้แจ้งอะไรกับผมไว้ เชิญคุณผู้หญิงทั้งสองลงไปเถอะครับ" บอดี้การ์ดพูดอย่างมีมารยาทเมื่อพวกเธอได้ยินคำว่าเจ้านายอยู่ชั้นบน ทั้งฉินโหรวและเฉินเหมี่ยวก็มุ่งความสนใจไปที่รอบ ๆ ไนท์คลับ เพราะคงมีเพียงเขาเท่านั้นที่ดูเหมือนจะมีศักยภาพในการเป็นเจ้านายแน่นอน สำหรับคนภายนอก ม่อหยางเป็นเจ้าของไนท์คลับเมจิกซิตี้ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าไนท์คลับเมจิกซิตี้ที่แท้เป็นของหานซานเฉียน?"ซานเฉียน ดูสองคนนั้นพยายามจะขึ้นมาข้างบน จะเอายังไง จะ
หานซานเฉียนส่ายหัว ลางสังหรณ์ร้ายเกิดขึ้นในใจของเขา และเขารู้สึกเหมือนว่าคนพวกนี้มีจุดประสงค์ที่ไม่ดีนัก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้ออกล่าเหยื่อ แต่เหมือนกับรอโอกาสจะทำอะไรบางอย่างมากกว่า"ให้หลินหย่งจัดคนสองสามคนเพื่อเฝ้าดู เผื่อว่าพวกเขาจะสร้างปัญหา" หานซานเฉียนกล่าวม่อหยางสีหน้าดูเฉยเมย เพราะตั้งแต่ที่เขาเข้าคุมไนท์คลับเมจิกซิตี้ ยังไม่มีใครกล้ามาสร้างปัญหาที่นี่"นายก็อย่าตื่นตระหนกให้มาก ที่นี่ไนท์คลับเมจิกซีตี้นะเว้ย เว้นแต่จะเป็น…"หลังจากพูดแบบนี้ ม่อหยางก็มองไปที่หานซานเฉียนด้วยความสยดสยอง เขากระโดดลงมาจากชั้นสองอย่างกะทันหัน"เห้ย นี่นายจะทำอะไร!" ม่อหยางตะโกนถามในเวลาเดียวกัน ฉินโหรวและเฉินเหมี่ยวก็ได้เห็นฉากนี้ด้วย พวกเธอก็มีสีหน้าตกใจและตกตะลึง ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน"เขา…เขากระโดดลงมาแล้ว?" เฉินเหมี่ยวพูดติดอ่างและขยี้ตา สงสัยว่าตัวเองตาพร่าไปท่ามกลางสายตาผู้คนต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หานซานเฉียนพุ่งตรงไปที่กลุ่มคนพวกนั้นที่เขาสงสัย ด้วยเหตุนี้เขาจึงกระโดดลงมา เป็นเพราะเขาเห็นว่ามีชายคนหนึ่งในกลุ่มคนพวกนั้นหยิบกมีดในมือออกมา แน่นอนว่าผู้ชายคนนี้มาที่ไนท์คลับไม่ใช
“ฉินโหรว เธอสับสนหรือเปล่า เขาแค่ต้องการจะทำร้ายคนด้วยมีด” เฉินเหมี่ยวกล่าว ฉินโหรวพูดคำเหล่านี้ล่วนแต่ถูกหานซานเฉียน แต่หลังจากโพล่งออกมา เธอรู้ว่าเธอได้เผลอหลุดปากไป แต่เธอไม่สามารถกลืนน้ำลายตัวเองได้กัดฟัดและพูดต่อ "ถ้ามีความสามารถ ก็ออกมาสู้กันซึ่ง ๆ หน้า พากเราก็อยากเห็นความตื่นเต้นนี้ด้วยเหมือนกัน" หานซานเฉียนยิ้มจาง ๆ ผู้หญิงคนนี้มีท่าทีเป็นศัตรูกับเขา เช่นเดียวกับมี่เฟยเอ๋อร์อย่างไม่มีสาเหตุหานซานเฉียนรู้สึกแบบนั้น แต่สองคนนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ความรู้สึกที่ถูกมี่เฟยเอ๋อร์นั้นไม่ชอบนั้นเป็นความรู้สึกแบบธรรมดาทั่วไป ในขณะที่ของฉินโหรวนั้นแตกต่างออกไป มันเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองบางอย่าง อย่างไรก็ตาม เธอก็เคยหลงเสน่ห์ของหานซานเฉียนมาก่อน หลังจากที่รู้ว่าเขาเป็นเด็กเลี้ยง จึงรู้สึกรังเกียจแบบนี้ แต่เพราะความรักของเธอที่มีต่อหานซานเฉียน ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วก็ยังมีความแตกต่างอย่างมาก หานซานเฉียนปล่อยมือของคนนั้นและพูดเรียบ ๆ ว่า "เรียกพวกทั้งหมดของแกมาจะดีกว่า แกคนเดียวอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน" ชายคนนั้นรู้ว่าหานซานเฉียนต้องการจัดการพวกเขาทั้งหมดไปด้วยกัน แน่นอนว่าเข
“ผมไม่อยากทำลายความมั่นใจในตัวเองของคุณ ออกไปเถอะ” หานซานเฉียนพูดเบา ๆ ฉินโหรวไม่คิดที่จะออกไปจึงพูดต่อ "คุณจงใจแสดงต่อหน้าฉัน คุณไม่ได้ต้องการเรียกร้องความสนใจจากฉันหรอกหรือ? แต่ให้ฉันบอกคุณว่า ฉันจะไม่มีวันชอบเด็กเลี้ยงอย่างคุณ ฉันหวังว่าคุณจะไม่แสดงตัวต่อหน้าฉันอีก อย่ามาทำให้ฉันขัดลูกหูลูกตา" ม่อหยางที่อยู่ด้านข้างมองไปที่หานซานเฉียนด้วยความประหลาดใจ เด็กที่ถูกเลี้ยงไว้! หานซานเฉียนกลายเป็นคนไม่ดีตั้งแต่เมื่อไหร่? ด้วยเงินจำนวนมาก เขายังต้องการการเลี้ยงดูหรือ? "ฉินโหรว เพื่อเห็นแก่ฉินหลิน ฉันไม่เอามันมาใส่ใจ เธอควรไปถามฉินหลินว่าฉันเป็นใคร" หานซานเฉียนพูดอย่างเย็นชา และผลักฉินโหรวออกไป ระหว่างทางไปห้อง ม่อหยางอดไม่ได้ที่จะถามหานซานเฉียนด้วยความอยากรู้อยากเห็น "ซานเฉียนเกิดอะไรขึ้น เธอบอกว่ามีคนเลี้ยงดูนายคืออะไร" “นอกจากความเข้าใจผิดแล้ว นายคิดว่ามีความเป็นไปได้อื่นอีกไหม?” หานซานเฉียนพูดเบา ๆ ม่อหยางรู้ว่านี่เป็นความเข้าใจผิด ด้วยนิสัยของหานซานเฉียน จะมีคนมาเลี้ยงดูเขาได้อย่างไร และเขาไม่ใช่คนที่จะขัดสนเรื่องเงินทอง ก็แค่อยากรู้ว่าความเข้าใจผิดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรเท
"ฉินโหรว เธอไปทำอะไรมา บอกลุงมาเดี๋ยวนี้ ลุงอยากรู้ทุกอย่าง" ฉินหลินกัดฟันพูด เมื่อรู้สึกถึงความโกรธของฉินหลิน ฉินโหรวรู้สึกกลัวเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงบอกฉินหลินทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่รู้จักหานซานเฉียนจนถึงทุกวันนี้ หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ฉินหลินรู้สึกเวียนหัวและหัวหมุนเป็นอย่างมาก ไม่สำคัญว่าฉินโหรวจะปฏิบัติต่อหานซานเฉียนเหมือนเป็นไก่อ่อน แต่เธอก็พูดต่อหน้าเขา! สิ่งนี้ทำให้หานซานเฉียนโกรธอย่างไม่ต้องสงสัย มิฉะนั้นเขาจะไม่พูดถึงตัวเองกับฉินโหรว "ฉินโหรว ลุงต้องการให้เธอขอโทษเขาเดี๋ยวนี้ และขอให้เขาให้อภัย" ฉินหลินพูดอย่างเฉียบขาด ขอโทษ? ขออภัย! ฉินโหรวรู้สึกอธิบายไม่ถูก ทำไมเธอถึงต้องขอโทษไก่อ่อนนั่น และขออภัยนั่นอีกก็ยิ่งไร้สาระ เธอทำอะไรผิดหรือ? “คุณลุงรอง หนูไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมหนูต้องขอโทษเขาด้วย” ฉินโหรวพูดอย่างไม่พอใจ ฉินหลินหายใจเข้าลึก ถ้าฉินโหรวยืนอยู่ข้างหน้าเขาตอนนี้ เขาจะตบฉินโหรวสักทีสองทีโดยไม่ลังเล แม้ว่าเขาจะรักหลานสาวคนนี้มาก แต่เนื่องจากงานปัจจุบันของฉินโหรวนั้น เะอทำมันด้วยตนเองเพียงคนเดียว แม้ว่าเขาต้องการช่วย ฉินโหรวก็ไม่ยอมให้เขาช่วย ซึ่งทำให้
คนเหล่านี้ออกมาเร็วเพราะไม่มีเหยื่อที่จะได้ในคืนนี้ และพวกเขาก็ไม่กล้าสร้างปัญหาในไนท์คลับเมจิกซิตี้ ดังนั้นพวกเขาจึงออกมาข้างนอก พวกเขาไม่คิดว่าจะเจอสาวสวยที่หน้าประตู พวกเขาจึงมีความคิดที่ชั่วร้ายแวบเข้ามา เมื่ออยู่บนถนนพวกเขาจึงไม่กลัวว่าจะต้องมารับผิดชอบเกี่ยวข้องกับไนท์คลับเมจิกซิตี้ เมื่อมองไปที่สายตาที่มุ่งร้ายของคนหลายคน ฉินโหรวเริ่มรู้สึกกลัวเล็กน้อย เพราะตอนนี้เธอไม่มีเพื่อนอยู่ข้างกาย และในฐานะผู้หญิง เมื่อเธอพบคนเหล่านี้เมื่ออยู่ตัวคนเดียว ก็ต้องกังวลโดยไม่รู้ตัว "ขอโทษ ฉันไม่สนใจ" หลังจากพูดจบฉินโหรว และกำลังจะเข้าไปในไนท์คลับเมจิกซิตี้ เธอรู้ว่าข้างในนั้นปลอดภัย และคนเหล่านี้จะไม่กล้าทำให้เธออับอายในไนท์คลับเมจิกซิตี้ แต่ทันทีที่เธอก้าวออกไป คนเหล่านั้นก็ยืนขวางหน้าเธอไว้ ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ออกไป “สาวสวย แสดงสีหน้าท่าทางแบบนี้ ก็เพราะดูถูกพวกเราไม่ใช่เหรอ” “ใช่ เราเชิญด้วยความจริงใจ เธอไม่ไว้หน้าเช่นนี้ ไม่ละอายใจหน่อยหรือ?” "เรามีสถานที่ที่ดีกว่าที่จะแนะนำให้เธอ รับประกันเลยว่าเธอจะพอใจ มากับเราเถอะ" หลังจากหลายคนพูดจบลง มีคนสองคนเดินไปที่ด้านข้างของฉินโห
มีไนท์คลับมากมายบนถนนสายนี้ แต่เนื่องจากพวกเขาพาฉินโหรวออกไป พวกเขาจึงไม่ไปดื่มต่ออย่างแน่นอน ตามปกติแล้วพวกเขาจะต้องไปที่โรงแรมแห่งใดแห่งหนึ่ง หานซานเฉียนมาที่โรงแรมที่ใกล้ที่สุด เมื่อเขาถามแผนกต้อนรับว่าเห็นผู้ชายสองสามคนพาผู้หญิงมาเปิดห้องหรือไม่ แผนกต้อนรับพูดอย่างกระวนกระวาย "นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของลูกค้า ฉันจะบอกคุณได้อย่างไร?” หานซานเฉียนมีสีหม่นลง เฉินเหมียวทนรอแทบไม่ไหวจึงพูดว่า "เพื่อนของฉันถูกพวกเขาบังคับมา โปรดบอกเราด้วยเถอะนะคะ ไม่อย่างนั้นจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่" เกือบทุกวันที่แผนกต้อนรับจะเห็นผู้หญิงขี้เมาถูกผู้ชายพามาเปิดห้อง สำหรับเธอเป็นเรื่องปกติ และผู้หญิงเหล่านั้นเองก็สกปรกพอสมควร "ขออภัยค่ะ ฉันไม่สามารถบอกได้ค่ะ" แผนกต้อนรับส่วนหน้ากล่าว ในเวลานี้ผู้จัดการได้เข้ามาและมองไปที่เฉินเหมี่ยว ที่สวมเครื่องแบบพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งค่อนข้างคล้ายกับผู้หญิงที่ขึ้นไปชั้นบน เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่าคนเหล่านี้เก่งขึ้นเรื่อย ๆ กับการเล่น และแม้กระทั่งการจัดฉากของเครื่องแบบ “พวกคุณทำอะไร ถ้าไม่เข้าพักก็ออกไป อย่ามารบกวนธุรกิจของเรา” ผู้จัดการพูดด้วยน้ำเสีย
ม่อหยางเดินไปหาหานซานเฉียนทีละสองก้าว โดยไม่แม้แต่จะชายตามองผู้จัดการและถามว่า "ซานเฉียนเกิดอะไรขึ้น?" "ฉินโหรวอาจจะอยู่ที่นี่" หานซานเฉียนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ เมื่อผู้จัดการได้ยินม่อหยางพูดกับหานซานเฉียน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปจากความพึงพอใจเป็นความสิ้นหวังทันที เห็นได้ชัดว่าม่อหยางมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชายหนุ่มคนนี้ และม่อหยางดูเหมือนว่าจะเพ่งเล็งมาที่เขา แต่เขาต้องการม่อหยางเพื่อให้ช่วยเขาล้างแค้น นั่นไม่ใช่เรื่องตลกเหรอ? ม่อหยางมองไปที่ผู้จัดการอย่างเย็นชาและพูดว่า "คนอยู่ที่ไหน? ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น วันพรุ่งนี้แกก็ไม่ต้องหวังว่าจะได้เห็นดวงอาทิตย์อีก" ผู้จัดการรู้สึกหวาดกลัวกับประโยคนี้ ม่อหยางบอกเขาว่าไม่ต้องหวังจะได้เห็นดวงอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้ และเขาจะไม่มีโอกาสได้เห็นมันอย่างแน่นอน ในพื้นที่นี้ สถานะของม่อหยางทียบเท่ากับพระราชา ใครก็ตามที่เขาอยากให้ตาย ก็ต้องตาย!"อยู่ อยู่ 302 ที่ 302 พี่ใหญ่ม่อ ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนของคุณ ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ" ผู้จัดการคุกเข่าลงในทันที และรีบทำความเคารพหานซานเฉียนอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของพนักงานที่แผนกต้อนรับตอนนี้ถึงกับซีดเซียว เ