ออกมาจากโรงแรมได้ไม่นาน หานซานเฉียนก็รู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังสะกดรอยตามพวกเขาอยู่ คนคนหนึ่งทำลับ ๆ ล่อ ๆ ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาออกจากโรงแรมแล้ว“ดูเหมือนว่าสองคนบนเครื่องบินจะตามมาแก้แค้นเรานะ หาพวกเราเจอเร็วจริง ๆ” หานซานเฉียนพูดเบา ๆ กับฉี๋อีหยุนเมื่อฉี๋อีหยุนหันไปมองก็สังเกตเห็นตงฮ้าวที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน แม้จะเป็นเพียงด้านหลัง แต่ฉี๋อีหยุนก็จำได้แม่นตงฮ้าวเคยพบกับหานซานเฉียนในเวทีมวย ถ้าให้หานซานเฉียนเห็นหน้าเขาชัด ๆ เขาจะต้องสงสัยอย่างแน่นอน“แล้วเราจะทำยังไงดี?” ฉี๋อีหยุนถามหานซานเฉียน“ไม่เป็นไรหรอก แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลยก็พอ ถ้าเขากล้าเคลื่อนไหวจริง ๆ เราก็แค่วิ่งหนีให้เร็วหน่อย” หานซานเฉียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อทั้งสองหันกลับมาและเดินมุ่งหน้าต่อไป มือทั้งสองข้างของฉี๋อีหยุนที่ไพล่อยู่ข้างหลังก็แอบส่งสัญญาณ “ทำได้แค่วิ่งหนีอย่างนั้นเหรอ? คุณเป็นผู้ชาย คงไม่ได้กลัวการต่อสู้หรอกนะ” ฉี๋อีหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม หานซานเฉียนพยักหน้ายอมรับแล้วพูดว่า “คุณลืมไปแล้วเหรอว่าผมมีฉายาว่าอะไร ผมจะกล้าไปสู้กับคนอื่นได้ยังไงล่ะ?” ฉี๋อีหยุนได้แต่ยิ้มและไม่ได้พูดอะไรต่อ เขามีความสัมพั
“ลงรถ”ฉางหลางกับโต้วเว๋ยรีบลงจากรถตามเสียงคำสั่งของชายคนนั้นทันทีแสงจันทร์อ่อน ๆ แต่สามารถมองเห็นรูปร่างหน้าตาของผู้คนได้อย่างเลือนราง ตอนที่เขาถอดหมวกออกจึงเผยให้เห็นใบหน้าในทันที นี่ตงฮ้าวไม่ใช่เหรอ?ฉางเหลียงรีบก้มหัวลงต่ำไม่กล้าสบตาตงฮ้าว เพราะเขารู้ว่าลักษณะท่าทางของนักเลงแบบนี้ไม่อยากให้คนเห็นหน้า ไม่อย่างนั้นเขาอาจถูกฆ่าปิดปากได้“คุกเข่าลง” ตงฮ้าวเล่นกริชที่อยู่ในมือ แล้วพูดอย่างเยือกเย็นฉางหลางคุกเข่าทั้งสองอย่างอ่อนแรง โต้วเว๋ยก็เช่นกัน ความรู้สึกเหนือกว่าจากครอบครัวที่มีฐานะดีตอนนี้จบสิ้นแล้ว“พวกแกสองคนคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามารังแกคุณหนูตระกูลฉัน” ตงฮ้าวพูดด้วยหน้าที่หัวเราะอย่างเยือกเย็น“พี่ชาย คุณจับผิดคนแล้วหรือเปล่าครับ ผมจะไปกล้ารังแกคุณหนูตระกูลพี่ได้ยังไงกัน ผมไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ” ฉางหลางกล่าวปฏิเสธทันที เพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง เขาสามารถเอาโต้วเว๋ยเป็นโล่กำบังได้ และตอนนี้จะยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไรอีกทั้งในความทรงจำของฉางหลาง เขาไม่ได้ไปมีเรื่องกับใครเลยนี่นา“ไม่ใช่งั้นเหรอ แว่นตาของคุณหนูฉันแตกหมดแล้ว แกไม่ใช่คนทำหรอกเหรอ” ตงฮ้าวพูดแว่นตา!ฉ
รสชาติลิปสติกที่เขาจะได้ลิ้มรสนับไม่ถ้วน แค่คิดถึงเรื่องนี้ หานซานเฉียนก็ไม่สามารถชะล่าใจในการแข่งขันได้แล้ว ดังนั้นสำหรับเขาความกังวลใจของหวางเม่านั้นไม่จำเป็นเลย“จริงสิ ช่วงนี้ทางที่ดีคุณก็อย่าออกไปที่ไหนเลย พักผ่อนอยู่ที่โรงแรมนี่แหละ ตอนนี้เมืองฟู่หยางไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ ผมไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นกับคุณ” หวางเม่าพูดกับหานซานเฉียนด้วยความเป็นห่วง“ไม่ปลอดภัยยังไงเหรอครับ?” หานซานเฉียนเอ่ยถามอย่างสงสัย“วันนี้ตื่นมาตอนเช้าผมเห็นข่าวว่าเมื่อคืนมีคนสองคนถูกฆ่าที่ชานเมือง ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ยังวัยรุ่นกันอยู่เลย แต่โดนฆ่าปาดคอน่าสลดจริง ๆ ไม่ได้ใช้ชีวิตอีกแล้ว” หวางเม่าพูดพลางถอนหายใจ เหตุการณ์โลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่มีทางรู้เลยว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นฆ่าปาดคอ!จะต้องมีความเคียดแค้นมากขนาดไหนถึงจะใช้วิธีนี้เพื่อฆ่าคนได้หานซานเฉียนรีบเปิดโทรทัศน์อย่างรวดเร็ว ข่าวสถานีท้องถิ่นหลายแห่งกำลังออกอากาศเรื่องนี้เต็มไปหมด“ได้ยินว่าวัยรุ่นชายคนนี้ชื่อฉางหลาง สถานะทางครอบครัวของเขาดีไม่น้อย แถมเขายังสามารถใช้ชีวิตที่ดีได้อีกเยอะแยะในอนาคต แต่ตอนนี้เขากลับไม่มีโอกาสใช้ชีวิตแล
แววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของหานซานเฉียนเมื่อครู่นี้ ฉี๋อีหยุนสังเกตเห็นมันได้อย่างชัดเจน ก่อนหน้านี้หานซานเฉียนเคยสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเธอฉี๋อีหยุนก็รู้ดี ยิ่งตงฮ้าวทำเรื่องแบบนี้มันยิ่งทำให้หานซานเฉียนสงสัยในตัวเธอมากขึ้นกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัยฉี๋อีหยุนรีบล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะสวมแว่นตา เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปที่ชั้นสามของโรงแรมอย่างรวดเร็วหลังจากที่ตงฮ้าวฆ่าคนลงไปแล้วนั้น เขาก็ไม่รู้สึกผิดปกติอะไร สำหรับเขาแล้วนี่เป็นแค่เรื่องปกติธรรมดาเท่านั้น ที่อเมริกานั้นแมลงวันที่คอยตอมฉี๋อีหยุนมากมายนับไม่ถ้วน ล้วนแต่ตายด้วยน้ำมือของเขา สำหรับตงฮ้าวแล้ว การปกป้องฉี๋อีหยุนเป็นสิ่งที่ต้องทำชั่วชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากเขาแล้ว เขาก็ไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้ฉี๋อีหยุนเด็ดขาดถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉี๋อีหยุนเตือนเขาเอาไว้ แม้แต่หานซานเฉียนเขาก็ฆ่าได้อย่างไม่ลังเล!“คุณหนูครับ” หลังจากเปิดประตูและเห็นฉี๋อีหยุน ตงฮ้าวก็พูดอย่างยิ้มแย้มฉี๋อีหยุนเดินเข้าไปในห้อง หลังจากปิดประตู เธอก็ตบหน้าตงฮ้าวไปหนึ่งที จนเห็นคราบเลือดเป็นรอยนิ้วมือของเธอในทันที“ในเมื่อนายคิดว่าไม่จำเป็นต้องฟังคำพูดของฉัน และสามารถ
“ซานเฉียน คุณกำลังกังวลเรื่องการแข่งขันอยู่เหรอ?” เมื่อหวางเม่าเห็นสีหน้าที่ดูกังวลใจของหานซานเฉียน ก็เอ่ยถามด้วยความห่วงใย การแข่งขันหมากล้อม สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุดคือความตื่นเต้นและความประหม่า เขารู้ว่าหานซานเฉียนเข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังเป็นการแข่งขันขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้มีฝีมือการเล่นหมากล้อมระดับสูง จึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นธรรมดา แต่ห้ามนำอารมณ์นี้ไปเล่นในเกม ไม่อย่างนั้นจะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันเป็นอย่างมาก“เปล่าครับ การแข่งขันไม่มีอะไรน่ากังวล” หานซานเฉียนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยหวางเม่าไม่รู้ว่าภายในใจของหานซานเฉียนกำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อเขาได้ยินดังนั้น เขาจึงคิดว่าหานซานเฉียนกำลังปลอบใจตัวเอง จึงพูดขึ้นว่า “ถ้างั้นผมช่วยคุณหาวิธีผ่อนคลายหน่อยดีไหม”“คุณปู่หวาง ผมไม่เป็นอะไรจริง ๆ ครับ การแข่งขันสำหรับผมมันไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรเลย” เมื่อหานซานเฉียนพูดจบ จู่ ๆ เขาก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามหวางเม่าว่า “คุณปู่หวาง การแข่งขันครั้งนี้ ซ่างกวนเฮยไป๋จะเข้าร่วมด้วยไหมครับ?”“ไม่นะ ซ่างกวนเฮยไป๋ไม่เข้าร่วมการแข่งขันในประเทศมานานมากแล้ว แม้แต่การแข่ง
เดิมทีการแข่งขันนี้กำหนดไว้สี่วัน ในช่วงการแข่งขันตลอดสามวันที่ผ่านมาของหานซานเฉียน เขาชนะทุกเกมส์ด้วยพลังงานที่ล้นเหลือ สำหรับเขาแล้วผู้เข้าแข่งขันเหล่านั้นแทบจะทำอะไรเขาไม่ได้เลย แต่ในช่วงการแข่งขันช่วงสามวันที่ผ่านมานี้ก็เกิดเหตุการณ์แปลก ๆ ขึ้นมากมาย การแข่งขันในสองวันแรกผ่านมาอย่างง่ายดาย แต่ในวันที่สามเขากลับต้องแข่งขันหมากล้อมกับผู้เล่นมากมายจนแทบจะไม่มีเวลาได้พักเลยในการแข่งขันของฉี๋อีหยุน เธอพ่ายแพ้ให้กับโอวหยางซิวเจี๋ย ดังนั้นการแข่งขันของเธอจึงสิ้นสุดลงในวันนี้ แต่หานซานเฉียนที่วันนี้ลงแข่งถึงสี่สนามยังคงดำเนินต่อไปไม่หยุดเลย“ทำไมตารางการแข่งขันดูแปลกประหลาดขนาดนี้ เขายังต้องแข่งอีกสองเกม และไม่มีช่วงเวลาพักคั่นกลางเลย การต่อสู้ที่ดุเดือดแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถทำได้หรอกนะ” ฉี๋อีหยุนพูดด้วยความงุนงงอยู่นอกสนาม คู่ต่อสู้ของเธอโอวหยางซิวเจี๋ยได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในวันพรุ่งนี้แล้ว และหานซานเฉียนก็มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะได้เป็นคู่ต่อสู้ของโอวหยางซิวเจี๋ย แต่เขายังต้องแข่งต่ออีกสองเกมโดยไม่ได้พัก“การแข่งขันของเมื่อสองวันก่อนนั้นง่ายดายสำหรับเขามาก แต่ในวันนี้ผู
วันนี้หานซานเฉียนเจอกับหกคู่ต่อสู้ สำหรับเขาแล้วเป็นการแข่งขันที่เหนื่อยมาก แต่โอวหยางซิวเจี๋ยเข้าร่วมแข่งขันแค่สองรอบเท่านั้น ทำให้สภาพกำลังวังชาเขายังเหลือเฟือ ภายใต้สถานการณ์การแข่งขันรอบตัดสินนี้ สำหรับหานซานเฉียนแล้วไม่ยุติธรรมเป็นอย่างมาก“ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้? วันนี้หานซานเฉียนเหนื่อยมากแล้ว พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาดำเนินการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศล่วงหน้ากะทันหัน อีกทั้งตอนนี้ก็สี่ทุ่มแล้ว” หวางเม่าโต้แย้งอย่างโกรธเกรี้ยวฝ่ายผู้รับผิดชอบการจัดการแข่งขันหมากล้อมมองหวางเม่า พูดอย่างเหยียดหยามว่า “นี่เป็นข้อตกลงของพวกเรา คุณมีคุณสมบัติอะไรมาขัดขวางการแข่งขัน? แถมคนที่เข้าร่วมการแข่งขันก็ไม่ใช่คุณด้วย สุนัขจนตรอกอย่างคุณจะทำอะไรได้”ทันใดนั้นใบหน้าฉี๋อีหยุนก็มีสีหน้าเย็นชาทันที ก่อนหน้านี้เธอไม่มีทางเข้าใจเลยว่าทำไมกำหนดการแข่งขันวันนี้ถึงแปลกไป แต่ตอนนี้เธอเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งแล้วซ่างกวนเฮยไป๋เดิมทีไม่ใช่เรื่องกะทันหันอะไร เขาจัดการเรื่องนี้ไว้ตั้งนานแล้ว ถึงขนาดจัดคู่ผู้เข้าแข่งขันพวกนั้นของหานซานเฉียนในวันนี้ ซ่างกวนเฮยไป๋เป็นคนจัดการอย่างสุดความสามารถ พวกเขาจงใจทำให้ระดับการแข
แม้คำพูดของซ่างกวนเฮยไป๋จะดูเหมือนการยอมถอย แต่ความจริงแล้วเขายอมถอยเพื่อให้ชนะใจคนอื่นเท่านั้น เพราะเขารู้ว่าแม้จะตอบรับด้วยความยินยอม แต่คนอื่นที่อยู่ที่นี่ต่างไม่มีทางยินยอมอย่างแน่นอนด้วยตำแหน่งนักวิชาการของหมากล้อมระดับโลก ในฐานะที่โอวหยางซิวเจี๋ยเป็นศิษย์เอก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นดาวเด่นในอนาคตของวงการหมากล้อมฮวาเซี่ย และยังสามารถเป็นผู้นำหมากล้อมจีน และนำเกียรติยศฮวาเซี่ยไปสู่ในระดับนานาชาติจนถึงระดับโลกได้ พวกเขาจะให้โอวหยางซิวเจี๋ยถอนตัวออกจากการแข่งขันแล้วให้หานซานเฉียนเอาแชมป์ไปได้อย่างไร“ผู้อาวสุโสซ่างกวน ไม่ได้เด็ดขาดเลยนะครับ”“นั่นน่ะสิครับ อย่างนี้ไม่ได้แน่ โอวหยางซิวเจี๋ยสามารถเอาแชมป์มาได้ จะให้เขาถอนตัวได้ยังไงกันครับ?”“หานซานเฉียน ถ้านายไม่ยอมดำเนินการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศตอนนี้ ก็ถอนตัวออกจากการแข่งขันไปเถอะ ต่อให้นายได้แชมป์อย่างง่าย ๆ ก็ไม่มีทางได้รับการยอมรับจากพวกเราหรอก”“คนรุ่นหลังที่ไม่มีชื่อเสียง พวกเรารู้ว่าคุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโอวหยางซิวเจี๋ย แชมป์ครั้งนี้คุณยังกล้าจะเอามันไปอีกเหรอ?”“ถ้าสมาคมหมากล้อมแห่งเมืองหยุนเฉิงใช้วิธีการนี้ในการเอาแชมป์ไป ก
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ