วันนี้มีประชุมกับประธานคนใหม่ เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับซูหยิงเซี่ย?บรรดาญาติ ๆ ตระกูลซูทั้งหมดต่างไม่เข้าใจ ทันใดนั้นสีหน้าของทุกคนก็เผยความตกใจออกมาทีละเล็กทีละน้อย หรือว่า… ซูหยิงเซี่ยเป็นประธานคนใหม่เหรอ? เธอคือคนที่ซื้อบริษัทอย่งาลึกลับคนนั้นเองเหรอ?“หยิงเซี่ย… ประธานคนใหม่ คือเธอเหรอ?” หนึ่งในบรรดาญาติตระกูลซูถามเมื่อสิ้นเสียงประโยคนี้ ไม่ใช่แค่ญาติตระกูลซูเท่านั้น แม้แต่พนักงานคนอื่นต่างรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมากซูหยิงเซี่ยที่ลาออกไป ความจริงแล้วเธอซื้อบริษัททั้งหมดไว้!เป็นไปได้อย่างไร?!เธอจะมีศักยภาพที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?“เธอ… เธอเป็นประธานเหรอ?” ซูอี้หานรู้สึกหวาดกลัวทันที ตอนนี้เธอใกล้จะได้ใช้ชีวิตเหมือนกับขอทานแล้ว ถ้าเธอเสียงานนี้ไปอีกแม้แต่ข้าวเธอก็จะไม่มีกิน ถ้าซูหยิงเซี่ยเป็นประธานคนใหม่ของบริษัทจริง คำพูดของเธอเมื่อครู่นี้มากพอที่จะทำให้ซูหยิงเซี่ยไล่เธอออก“ใช่แล้ว” ซูหยิงเซี่ยพูดท่าทีของญาติ ๆ ตระกูลซูแค่ชั่วพริบตาเดียวเปลี่ยนไปเยอะมาก แต่ละคนปั้นหน้ายิ้มต้อนรับอย่างมีไมตรีจิตน่าคบหาทันที“หยิงเซี่ย นึกไม่ถึงเลยว่าเธอคือประธานคนใหม่ ดีจัง ดีจ
ความสัมพันธ์ที่ไม่มีค่าอะไร!ประโยคนี้แทงใจซูไห่เฉาเข้าอย่างแรงเขาใช้คำพูดพวกนี้ในการคุกคามซูหยิงเซี่ย เขาคิดไม่ถึงเลยว่าซูหยิงเซี่ยจะเห็นแก่นลึกของเรื่องราวอย่างทะลุปรุโปร่งหลังจากเขาไม่ได้เป็นประธานอีก ใครจะเห็นเขาอยู่ในสายตา?ยิ่งไปกว่านั้นการตายของคังหลิงคนนั้น หลังจากเขาตายอย่างน่าประหลาดใจ หลายคนต่างเริ่มพูดเกี่ยวกับการร่วมมือกันของบริษัทต่อ ซูไห่เฉารู้ในนั้นต้องมีเบื้องหลังอะไรเกิดขึ้นแน่ บางทีซูหยิงเซี่ยผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนี้อาจจะควบคุมทุกอย่างไว้ตั้งแต่แรก“ซูหยิงเซี่ย ฉันจะทำให้เธอเสียใจ” ซูไห่เฉาพูดจบพลางมองไปยังบรรดาญาติตระกูลซูคนอื่น ๆ แล้วพูดต่อว่า “ผมจะทำให้พวกคุณรู้ว่า ใครที่สามารถพาตระกูลซูเดินไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ คนไร้ประโยชน์อย่างพวกคุณตามเธอไปไม่ช้าก็เร็วต้องเสียใจ”หลังจากซูไห่เฉาออกไป การประชุมตระกูลซูดำเนินไปตามปกติ แผนการบริหารบริษัทของซูหยิงเซี่ยง่ายมาก เริ่มจากการพัฒนาให้มีเสถียรภาพก่อนจากนั้นค่อยแสวงหาความก้าวหน้าในบริษัท บรรดาญาติตระกูลซูและคนอื่น ๆ ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องพึ่งพาบริษัทถึงสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ แต่ตอ
“ฉันต้องการให้แกมาดูแลเหรอ? จำคำพูดของฉันไว้ ทางที่ดีที่สุดคือแกสามารถกลายเป็นเพื่อนกับเขาได้ ต่อจากนี้ไปจะมีคนมาหาแก หินหยกอันนี้เป็นสิ่งยืนยันสถานะของแกด้วย” ชายชราผมขาวพูดชิงอวิ๋นรู้สึกมึนงงไปหมด ให้เขาเป็นเพื่อนกับหานซานเฉียนงั้นเหรอ? เขาต้องใช้วิธีแทงข้างหลังฆ่าอีกฝ่ายหรือไง? แต่ฝืมือเขาตอนนี้ต่อให้เป็นการลอบทำร้ายลับหลังก็ไม่จำเป็นต้องใช้มือนี่ อีกทั้งใครจะมาหาเขา หินหยกอันนี้จะยืนยันอะไรได้?“ฉันรู้ว่าแกมีเรื่องสงสัยมากมาย แต่ต่อจากนี้ไปแกมีโอกาสที่จะรู้ด้วยตัวเอง แต่ก่อนหน้านี้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แกไม่ต้องไปตรวจสอบหาอะไรทั้งนั้น ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ” ชายชราผมขาวเตือน“อาจารย์ครับ ตั้งแต่ผมเด็ก ๆ ท่านเก็บผมมาเลี้ยงจนโต เรื่องที่ท่านให้ผมทำ แน่นอนว่าผมไม่คัดค้าน แต่ผมไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอครับ? ผมยังอยากมาเฝ้าดูใจท่านอาจารย์ก่อนตายนะ”ชายชราผมขาวเตะขาหนึ่งทีแล้วพูดว่า “ไปซะ”เมื่อกลับเข้าไปในอาศรม หลังจากปิดประตูอย่างแรงก็มีเสียงของกระจัดกระจายดังขึ้น “ถอดชุดคลุมออกจากตัวซะ แกสามารถทำเรื่องที่แกอยากทำได้ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกแอ
“ถ้าฉันโพสต์วิดีโอนี้บนอินเทอร์เน็ตของโรงเรียน เธอคิดว่ามันจะฮือฮาไหม?” นักเรียนหญิงคนหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือพูดอย่างยิ้มแย้มเมื่อมองจากมุมมองในวิดีโอ มันน่าจะถูกแอบถ่ายโดยเพื่อนร่วมหอพักแต่สถานการณ์ในตอนนี้ ใครแอบถ่ายวิดีโอนั้นไม่สำคัญแล้ว หากวิดีโอถูกอัพโหลดขึ้นบนอินเทอร์เน็ตของโรงเรียนจริง ๆ ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเธอจะถูกทำลายลงทันที ความคิดแรกของเจียงหยิงหยิงคือพุ่งเข้าไปแย่งโทรศัพท์มือถือมาแต่ทันทีที่เธอเดินไปถึงนักเรียนหญิง นักเรียนหญิงอีกคนก็ดึงปลายผมหางม้าของเจียงหยิงหยิงไว้ แถมยังออกแรงจนเจียงหยิงหยิงล้มลงไปกับพื้น“เจียงหยิงหยิง เห็นเธอน่าสงสาร ฉันจะให้โอกาสเธอ ตราบใดที่เธอยอมเชื่อฟัง ฉันจะลบวิดีโอทิ้ง ว่าไงล่ะ?” นักศึกษาหญิงที่ถือโทรศัพท์มือถือพูดกับเจียงหยิงหยิงอย่างภาคภูมิใจ“ได้ ขอแค่เธอยอมลบวิดีโอนั้น จะให้ฉันทำอะไรก็ได้” เจียงหยิงหยิงพูดด้วยสีหน้าซีดเผือด เธอจะไม่ยอมปล่อยให้วิดีโอหลุดออกไป มิฉะนั้นรอยมลทินจะติดตัวเธอไปทั้งชีวิต “เธอพูดเองนะ ฉันไม่ได้บังคับเธอ” นักเรียนหญิงที่ถือโทรศัพท์ยิ้มหน้าบานราวกับดอกไม้ หน้าตาสะสวย แต่สีหน้าชั่วร้ายทำให้ผู้คนสะอิดสะ
“เธอค่ะ ในมือถือของเธอ มีวิดีโอตอนที่ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ เพื่อนร่วมห้องของฉันแอบถ่ายไว้” เจียงหยิงหยิงกล่าวหานซานเฉียนขมวดคิ้ว แล้วพูดอย่างเย็นชา “เอาโทรศัพท์มือถือมาให้ฉันหน่อย”“คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร อยากได้ฉันก็ต้องให้เหรอ สำคัญตัวผิดแล้วมั้ง ถ้าฉันไม่ให้แล้วคุณจะทำอะไรฉันได้?” นักเรียนหญิงเชิดหน้าขึ้นพูดอย่างดื้อรั้นหานซานเฉียนหันไปพูดกับเจียงหยิงหยิง “ถ้าเรียนที่โรงเรียนนี้ไม่ได้ งั้นฉันจะเปลี่ยนโรงเรียนให้” ทุกคนยังไม่เข้าใจว่าหานซานเฉียนหมายถึงอะไร ก็เห็นหานซานเฉียนบีบคอนักเรียนหญิงคนนั้นอย่างฉับพลัน แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ทำร้ายคนอื่นหน้าประตูโรงเรียน แค่นี้เพียงพอหรือเปล่าล่ะ หรือว่าเธอจะยอมศิโรราบให้ฉันแต่โดยดี ฉันจะได้ปล่อยเธอไป”นักเรียนหญิงคิดไม่ถึงว่าหานซานเฉียนจะใช้กำลังทุบตีเธอ แถมยังอยู่ในที่สาธารณะต่อหน้าผู้คนมากมายอีกด้วย เขาช่างเหิมเกริมไม่เกรงกลัวสิ่งใดจริง ๆ“คุณ...ปล่อยฉันนะ รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?” นักเรียนหญิงกัดฟันพูด“จะเป็นใครไม่สำคัญ ที่สำคัญคือจะมาหาเรื่องเราไม่ได้” หานซานเฉียนพูดจบก็ชักมือกลับ ดึงนักศึกษาหญิงมาอยู่ตรงหน้าแล้วแย่งมือถือมาหน้าจ
ถ้าเขาอยากจะเล่นงานใคร ย่อมหาข้ออ้างได้เสมออาจารย์ถอนหายใจ เธอพยายามช่วยเจียงหยิงหยิงสืบสวนเรื่องนี้อย่างดีที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายชีวิตของนักเรียนคนหนึ่งไปทั้งชีวิต แต่ด้วยท่าทียืนกรานของหลินเส้าฮุย ไมได้ทำให้เรื่องนี้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น ฐานะของเจียงหยิงหยิงต่อหน้าหลินเส้าฮุยแล้วจัดอยู่ในกลุ่มเปราะบาง ดังนั้นทางโรงเรียนจึงไม่สนใจความรู้สึกของเธออย่างแน่นอน“ไม่จำเป็นต้องหารือเรื่องนี้กันแล้ว ถ้าพวกคุณไม่ไล่เจียงหยิงหยิงออก ฉันจะกระจายเรื่องนี้ออกไป ถ้าชื่อเสียงของโรงเรียนเสียหาย จะมาโทษฉันไม่ได้นะ” เคอหยุนพูดอย่างเย็นชาอธิการบดีและคณะกรรมการบริหารของโรงเรียนทั้งสองคนสบสายตากัน แม้ว่าสมาชิกคณะกรรมการบริหารของโรงเรียนจะยังมาถึงไม่ครบทุกคน แต่พวกเขาทั้งสามคนมีอำนาจตัดสินใจในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ได้แค่ไล่นักเรียนที่ไม่เป็นที่รู้จักออกคนเดียว ก็ลดปัญหายุ่งยากสำหรับทางโรงเรียนได้แล้ว คงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด “ได้ ถ้าอย่างนั้นตกลงตามนี้นะ ผมจะออกประกาศทันที” อธิการบดีกล่าวเคอหยุนยิ้มอย่างพอใจ แต่ดูเธอยังไม่เลิกราอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพูดว่า “อาจารย์คนนี้คอยป
หานซานเฉียนมองตรงไปที่อธิการบดีทั้งสาม และยังคงนิ่งเฉยต่อคำพูดของหลินเส้าฮุยอธิการบดีไม่รู้ว่าหานซานเฉียนเป็นใคร แต่หลินเส้าฮุยมีความเกี่ยวข้องกับอธิการบดี และเขาเพิ่งได้รับโทรศัพท์แจ้งมาว่า เรื่องสกปรกนี้ให้โยนไปที่เจียงหยิงหยิงเท่านั้น ดังนั้นผลลัพธ์จึงไม่มีทางเปลี่ยนแปลง“ตัดสินใจแล้ว ในเมื่อเธอเป็นน้องสาวของคุณ วันนี้คุณก็พาเธอออกไปด้วยเถอะ” อธิการบดีกล่าว“พวกคุณสองคนก็มีความเห็นเหมือนกันเหรอ?” หานซานเฉียนมองไปที่อธิการบดีทั้งสอง“น้องชาย ผมว่าคุณควรรู้นะว่าต้องทำยังไง รีบออกไปจากที่นี่ซะ”“ถ้าคุณไม่รู้ว่าพวกเราเป็นใคร ก็ออกไปสืบจากข้างนอกดู ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของเรื่องนี้ได้หรอก”อธิการบดีสองคนดูเหมือนจะไม่เห็นหานซานเฉียนอยู่ในสายตาเลยเจียงหยิงหยิงรู้สึกกลัวบ้างแล้ว เธอกังวลว่าหากสถานการณ์ร้ายแรงเกินไป จะทำให้หานซานเฉียนต้องเดือดร้อนไปด้วย เธอรู้ว่าอธิการบดีเป็นคนใหญ่คนโตในเมืองหลงชื่อ หากล่วงเกินพวกเขาเข้าจะไม่ส่งผลดีใด ๆ เลย“พี่ซานเฉียน เราไปกันเถอะ” เจียงหยิงหยิงกระซิบบอก“น้องสาวของคุณยังรู้ว่าอะไรควรไม่ควร รีบออกไปซะ ไม่อย่างนั้นถ้าผ
ตอนนี้เจียงหยิงหยิงรู้สึกทรมานใจมาก เพราะเธอกังวลมากว่าจะทำให้หานซานเฉียนเดือดร้อนไปด้วยเพราะเรื่องของตัวเอง ในสายตาของเธอ การลาออกจากโรงเรียนไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตราบใดที่หานซานเฉียนไม่เดือดร้อน ส่วนหานซานเฉียนจะช่วยเธอแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้หรือไม่ เธอไม่กล้าที่จะคาดหวังมากนัก สมาชิกคณะกรรมการบริหารหลายคนของโรงเรียนล้วนแต่เป็นคนใหญ่คนโตที่เจียงหยิงหยิงล่วงเกินไม่ได้ ดูท่าทางหานซานเฉียนจะร่ำรวย แต่การแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้วัดกันที่ปริมาณเงินทองแล้ว“อย่าทำให้ต้องปวดหัวเลย บอกเพื่อนของคุณว่าเขาทำให้หลินเส้าฮุยขุ่นเคือง มาดูกันว่าเขาจะกล้าแสดงตัวไหม” หลินเส้าฮุยกล่าวขณะที่หานซานเฉียนเคาะโต๊ะประชุม ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากนอกห้องประชุม เขายิ้มพร้อมกับพูดว่า “ไม่ต้อง มาถึงแล้วล่ะ”หลินเส้าฮุยขยับคอเสื้อแล้วพูดว่า “มาแล้วก็ดี ผมก็อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร”หลินเส้าฮุยทำท่าทำทางเสแสร้ง พอเห็นบุคคลแรกที่เดินเข้ามาก็มีสีหน้าตกตะลึง เพราะคณะกรรมการบริหารโรงเรียนคนนี้เป็นผู้หนุนหลังของเขา ส่วนคนที่ทยอยตามเข้ามาทีละคนทำให้หลินเส้าฮุยตกใจจนถึงกับพูดไม่ออกนอกจากคณะกรรมการบริหารทุกคนแล้ว ยังมีลู