เหอถิงเคยพูดถึงเจียงหยิงหยิงอยู่หลายครั้งว่า เจียงหยิงหยิงเป็นเด็กผู้หญิงที่ขยันหมั่นเพียรและนิสัยดีมากคนหนึ่ง เธอจะถูกให้ลาออกจากโรงเรียนได้อย่างไรกัน?“วันพรุ่งนี้ผมจะไปโรงเรียนเธอเอง ป้าไม่ต้องกังวลไปนะครับ” หานซานเฉียนพูด“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณคุณซานเฉียนมากเลยนะคะ” เหอถิงพูดอย่างซาบซึ้งใจหานซานเฉียนลูบบ่าเหอถิงอย่างแผ่วเบาเพื่อปลอบโยน “วางใจเถอะครับ จะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน”หลังจากปลอบใจเหอถิงแล้ว หานซานเฉียนกลับเข้าไปในห้องรับแขก เขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ซูหยิงเซี่ยฟัง เมื่อซูหยิงเซี่ยได้ฟังเรื่องทั้งหมดก็เห็นด้วยกับหานซานเฉียน ว่าวันพรุ่งนี้เขาควรไปเมืองหลงชื่อเพื่อไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจียงหยิงหยิง ส่วนด้านบริษัทเธอบอกหานซานเฉียนว่าเขาไม่ต้องกังวล เธอสามารถจัดการด้วยตัวคนเดียวได้หานซานเฉียนเชื่อว่าคนที่มีความสามารถอย่างซูหยิงเซี่ย ไหน ๆ บริษัทก็ซื้อมาแล้ว ถ้าบรรดาญาติตระกูลซูมองไม่เห็นความสามารถของเธอจริง ๆ ล่ะ บีบให้พวกเขาออกก็สิ้นเรื่อง จะได้ไม่มีอะไรให้รู้สึกกังวลใจอีกตอนกำลังเข้านอน ซูหยิงเซี่ยพูดถึงเรื่องเส้นด้ายแดงเเบ่งเขตขึ้น เธอพูดเรื่องด้ายแดงออกมาต่อหน้าเขานี่เป็นข
“นั่งเถอะครับ นั่งเลย นั่งตรงนี้เลยมา คุณจงเหลียงรีบนั่งตรงนี้เลยครับ” หลังจากรู้วัตถุประสงค์การมาของจงเหลียง ท่าทีของซูไห่เฉาเปลี่ยนไปทันทีเหมือนคนขี้ประจบคนหนึ่งเมื่อบรรดาญาติ ๆ ตระกูลซูเห็นฉากนี้ก็รู้สึกโกรธจัด เขาเสียตำแหน่งประธานแล้วยังอยากจะลากทุกคนในตระกูลซูไปลงหลุมศพด้วยอีก ถ้าเขาไม่เห็นบริษัทล้มละลายเขาคงไม่รู้สึกยินดีซูกั๋วหลินในฐานะพ่อของซูไห่เฉา เขาเองไม่อาจทนดูจนจบได้ถ้าบริษัทยังอยู่ อย่างน้อยพวกเขายังสามารถใช้ชีวิตอยู่ไป ๆ วันได้ แต่ถ้าบริษัทล้มละลายแล้ว ทุกคนก็ล้มละลายตามกันหมดแน่นอน“ไห่เฉา เจ้าคนสารเลว แกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่?” ซูกั๋วหลินกัดฟันพูดอย่างโกรธจัดภายในใจซูไห่เฉารู้สึกโกรธเกรี้ยว เขาไม่มีทางยอมรับความจริงที่ถูกถอดออกจากตำแหน่งประธาน เขายิ่งหวังว่าทุกคนจะกลายเป็นตัวตลก และตกอยู่ในความลำบากไปพร้อมกับเขาเขาอยากเห็นบริษัทล้มละลายมาก อย่างน้อยแค่ทุกคนตายไปด้วยกัน เส้นทางไปสู่อีกโลกหนึ่งก็ยังมีเพื่อน แล้วจะมีอะไรน่ากลัวอีกล่ะ?“พ่อ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพ่อเลยนะครับ” ซูไห่เฉาพูดอย่างเย็นชาซูกั๋วหลินโกรธจนอยากจะทุบตีลูกอกตัญญูคนนี้สักร้อยร
วันนี้มีประชุมกับประธานคนใหม่ เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับซูหยิงเซี่ย?บรรดาญาติ ๆ ตระกูลซูทั้งหมดต่างไม่เข้าใจ ทันใดนั้นสีหน้าของทุกคนก็เผยความตกใจออกมาทีละเล็กทีละน้อย หรือว่า… ซูหยิงเซี่ยเป็นประธานคนใหม่เหรอ? เธอคือคนที่ซื้อบริษัทอย่งาลึกลับคนนั้นเองเหรอ?“หยิงเซี่ย… ประธานคนใหม่ คือเธอเหรอ?” หนึ่งในบรรดาญาติตระกูลซูถามเมื่อสิ้นเสียงประโยคนี้ ไม่ใช่แค่ญาติตระกูลซูเท่านั้น แม้แต่พนักงานคนอื่นต่างรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมากซูหยิงเซี่ยที่ลาออกไป ความจริงแล้วเธอซื้อบริษัททั้งหมดไว้!เป็นไปได้อย่างไร?!เธอจะมีศักยภาพที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?“เธอ… เธอเป็นประธานเหรอ?” ซูอี้หานรู้สึกหวาดกลัวทันที ตอนนี้เธอใกล้จะได้ใช้ชีวิตเหมือนกับขอทานแล้ว ถ้าเธอเสียงานนี้ไปอีกแม้แต่ข้าวเธอก็จะไม่มีกิน ถ้าซูหยิงเซี่ยเป็นประธานคนใหม่ของบริษัทจริง คำพูดของเธอเมื่อครู่นี้มากพอที่จะทำให้ซูหยิงเซี่ยไล่เธอออก“ใช่แล้ว” ซูหยิงเซี่ยพูดท่าทีของญาติ ๆ ตระกูลซูแค่ชั่วพริบตาเดียวเปลี่ยนไปเยอะมาก แต่ละคนปั้นหน้ายิ้มต้อนรับอย่างมีไมตรีจิตน่าคบหาทันที“หยิงเซี่ย นึกไม่ถึงเลยว่าเธอคือประธานคนใหม่ ดีจัง ดีจ
ความสัมพันธ์ที่ไม่มีค่าอะไร!ประโยคนี้แทงใจซูไห่เฉาเข้าอย่างแรงเขาใช้คำพูดพวกนี้ในการคุกคามซูหยิงเซี่ย เขาคิดไม่ถึงเลยว่าซูหยิงเซี่ยจะเห็นแก่นลึกของเรื่องราวอย่างทะลุปรุโปร่งหลังจากเขาไม่ได้เป็นประธานอีก ใครจะเห็นเขาอยู่ในสายตา?ยิ่งไปกว่านั้นการตายของคังหลิงคนนั้น หลังจากเขาตายอย่างน่าประหลาดใจ หลายคนต่างเริ่มพูดเกี่ยวกับการร่วมมือกันของบริษัทต่อ ซูไห่เฉารู้ในนั้นต้องมีเบื้องหลังอะไรเกิดขึ้นแน่ บางทีซูหยิงเซี่ยผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนี้อาจจะควบคุมทุกอย่างไว้ตั้งแต่แรก“ซูหยิงเซี่ย ฉันจะทำให้เธอเสียใจ” ซูไห่เฉาพูดจบพลางมองไปยังบรรดาญาติตระกูลซูคนอื่น ๆ แล้วพูดต่อว่า “ผมจะทำให้พวกคุณรู้ว่า ใครที่สามารถพาตระกูลซูเดินไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ คนไร้ประโยชน์อย่างพวกคุณตามเธอไปไม่ช้าก็เร็วต้องเสียใจ”หลังจากซูไห่เฉาออกไป การประชุมตระกูลซูดำเนินไปตามปกติ แผนการบริหารบริษัทของซูหยิงเซี่ยง่ายมาก เริ่มจากการพัฒนาให้มีเสถียรภาพก่อนจากนั้นค่อยแสวงหาความก้าวหน้าในบริษัท บรรดาญาติตระกูลซูและคนอื่น ๆ ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องพึ่งพาบริษัทถึงสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ แต่ตอ
“ฉันต้องการให้แกมาดูแลเหรอ? จำคำพูดของฉันไว้ ทางที่ดีที่สุดคือแกสามารถกลายเป็นเพื่อนกับเขาได้ ต่อจากนี้ไปจะมีคนมาหาแก หินหยกอันนี้เป็นสิ่งยืนยันสถานะของแกด้วย” ชายชราผมขาวพูดชิงอวิ๋นรู้สึกมึนงงไปหมด ให้เขาเป็นเพื่อนกับหานซานเฉียนงั้นเหรอ? เขาต้องใช้วิธีแทงข้างหลังฆ่าอีกฝ่ายหรือไง? แต่ฝืมือเขาตอนนี้ต่อให้เป็นการลอบทำร้ายลับหลังก็ไม่จำเป็นต้องใช้มือนี่ อีกทั้งใครจะมาหาเขา หินหยกอันนี้จะยืนยันอะไรได้?“ฉันรู้ว่าแกมีเรื่องสงสัยมากมาย แต่ต่อจากนี้ไปแกมีโอกาสที่จะรู้ด้วยตัวเอง แต่ก่อนหน้านี้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แกไม่ต้องไปตรวจสอบหาอะไรทั้งนั้น ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ” ชายชราผมขาวเตือน“อาจารย์ครับ ตั้งแต่ผมเด็ก ๆ ท่านเก็บผมมาเลี้ยงจนโต เรื่องที่ท่านให้ผมทำ แน่นอนว่าผมไม่คัดค้าน แต่ผมไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอครับ? ผมยังอยากมาเฝ้าดูใจท่านอาจารย์ก่อนตายนะ”ชายชราผมขาวเตะขาหนึ่งทีแล้วพูดว่า “ไปซะ”เมื่อกลับเข้าไปในอาศรม หลังจากปิดประตูอย่างแรงก็มีเสียงของกระจัดกระจายดังขึ้น “ถอดชุดคลุมออกจากตัวซะ แกสามารถทำเรื่องที่แกอยากทำได้ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกแอ
“ถ้าฉันโพสต์วิดีโอนี้บนอินเทอร์เน็ตของโรงเรียน เธอคิดว่ามันจะฮือฮาไหม?” นักเรียนหญิงคนหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือพูดอย่างยิ้มแย้มเมื่อมองจากมุมมองในวิดีโอ มันน่าจะถูกแอบถ่ายโดยเพื่อนร่วมหอพักแต่สถานการณ์ในตอนนี้ ใครแอบถ่ายวิดีโอนั้นไม่สำคัญแล้ว หากวิดีโอถูกอัพโหลดขึ้นบนอินเทอร์เน็ตของโรงเรียนจริง ๆ ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเธอจะถูกทำลายลงทันที ความคิดแรกของเจียงหยิงหยิงคือพุ่งเข้าไปแย่งโทรศัพท์มือถือมาแต่ทันทีที่เธอเดินไปถึงนักเรียนหญิง นักเรียนหญิงอีกคนก็ดึงปลายผมหางม้าของเจียงหยิงหยิงไว้ แถมยังออกแรงจนเจียงหยิงหยิงล้มลงไปกับพื้น“เจียงหยิงหยิง เห็นเธอน่าสงสาร ฉันจะให้โอกาสเธอ ตราบใดที่เธอยอมเชื่อฟัง ฉันจะลบวิดีโอทิ้ง ว่าไงล่ะ?” นักศึกษาหญิงที่ถือโทรศัพท์มือถือพูดกับเจียงหยิงหยิงอย่างภาคภูมิใจ“ได้ ขอแค่เธอยอมลบวิดีโอนั้น จะให้ฉันทำอะไรก็ได้” เจียงหยิงหยิงพูดด้วยสีหน้าซีดเผือด เธอจะไม่ยอมปล่อยให้วิดีโอหลุดออกไป มิฉะนั้นรอยมลทินจะติดตัวเธอไปทั้งชีวิต “เธอพูดเองนะ ฉันไม่ได้บังคับเธอ” นักเรียนหญิงที่ถือโทรศัพท์ยิ้มหน้าบานราวกับดอกไม้ หน้าตาสะสวย แต่สีหน้าชั่วร้ายทำให้ผู้คนสะอิดสะ
“เธอค่ะ ในมือถือของเธอ มีวิดีโอตอนที่ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ เพื่อนร่วมห้องของฉันแอบถ่ายไว้” เจียงหยิงหยิงกล่าวหานซานเฉียนขมวดคิ้ว แล้วพูดอย่างเย็นชา “เอาโทรศัพท์มือถือมาให้ฉันหน่อย”“คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร อยากได้ฉันก็ต้องให้เหรอ สำคัญตัวผิดแล้วมั้ง ถ้าฉันไม่ให้แล้วคุณจะทำอะไรฉันได้?” นักเรียนหญิงเชิดหน้าขึ้นพูดอย่างดื้อรั้นหานซานเฉียนหันไปพูดกับเจียงหยิงหยิง “ถ้าเรียนที่โรงเรียนนี้ไม่ได้ งั้นฉันจะเปลี่ยนโรงเรียนให้” ทุกคนยังไม่เข้าใจว่าหานซานเฉียนหมายถึงอะไร ก็เห็นหานซานเฉียนบีบคอนักเรียนหญิงคนนั้นอย่างฉับพลัน แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ทำร้ายคนอื่นหน้าประตูโรงเรียน แค่นี้เพียงพอหรือเปล่าล่ะ หรือว่าเธอจะยอมศิโรราบให้ฉันแต่โดยดี ฉันจะได้ปล่อยเธอไป”นักเรียนหญิงคิดไม่ถึงว่าหานซานเฉียนจะใช้กำลังทุบตีเธอ แถมยังอยู่ในที่สาธารณะต่อหน้าผู้คนมากมายอีกด้วย เขาช่างเหิมเกริมไม่เกรงกลัวสิ่งใดจริง ๆ“คุณ...ปล่อยฉันนะ รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?” นักเรียนหญิงกัดฟันพูด“จะเป็นใครไม่สำคัญ ที่สำคัญคือจะมาหาเรื่องเราไม่ได้” หานซานเฉียนพูดจบก็ชักมือกลับ ดึงนักศึกษาหญิงมาอยู่ตรงหน้าแล้วแย่งมือถือมาหน้าจ
ถ้าเขาอยากจะเล่นงานใคร ย่อมหาข้ออ้างได้เสมออาจารย์ถอนหายใจ เธอพยายามช่วยเจียงหยิงหยิงสืบสวนเรื่องนี้อย่างดีที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายชีวิตของนักเรียนคนหนึ่งไปทั้งชีวิต แต่ด้วยท่าทียืนกรานของหลินเส้าฮุย ไมได้ทำให้เรื่องนี้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น ฐานะของเจียงหยิงหยิงต่อหน้าหลินเส้าฮุยแล้วจัดอยู่ในกลุ่มเปราะบาง ดังนั้นทางโรงเรียนจึงไม่สนใจความรู้สึกของเธออย่างแน่นอน“ไม่จำเป็นต้องหารือเรื่องนี้กันแล้ว ถ้าพวกคุณไม่ไล่เจียงหยิงหยิงออก ฉันจะกระจายเรื่องนี้ออกไป ถ้าชื่อเสียงของโรงเรียนเสียหาย จะมาโทษฉันไม่ได้นะ” เคอหยุนพูดอย่างเย็นชาอธิการบดีและคณะกรรมการบริหารของโรงเรียนทั้งสองคนสบสายตากัน แม้ว่าสมาชิกคณะกรรมการบริหารของโรงเรียนจะยังมาถึงไม่ครบทุกคน แต่พวกเขาทั้งสามคนมีอำนาจตัดสินใจในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ได้แค่ไล่นักเรียนที่ไม่เป็นที่รู้จักออกคนเดียว ก็ลดปัญหายุ่งยากสำหรับทางโรงเรียนได้แล้ว คงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด “ได้ ถ้าอย่างนั้นตกลงตามนี้นะ ผมจะออกประกาศทันที” อธิการบดีกล่าวเคอหยุนยิ้มอย่างพอใจ แต่ดูเธอยังไม่เลิกราอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพูดว่า “อาจารย์คนนี้คอยป