ทุกช่วงเวลาที่ใช้กับซูหยิงเซี่ยนั้นคุ้มค่าแก่การจดจำสำหรับหานซานเฉียน เขาจะลืมสิ่งสำคัญเช่นนี้ได้อย่างไร“จำได้สิครับ คุณร้องไห้เหมือนแมวเลย” หานซานเฉียนกล่าวซูหยิงเซี่ยมุ่ยหน้าและพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ "เป็นเพราะคุณนั่นแหละ เซอร์ไพรส์จนเกือบกลายเป็นความตกใจไปแล้ว"หานซานเฉียนยิ้มทันใดนั้นผู้จัดการร้านก็เดินเข้ามาครั้งสุดท้ายที่เจอกับหานซานเฉียน เขายังเป็นคนไร้ประโยชน์ของหยุนเฉิงอยู่เลย แต่วันนี้หานซานเฉียนกลายเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในหยุนเฉิงแล้ว และผู้จัดการก็ให้ความเคารพ และไม่กล้าล่าช้าเลยสักนิดเดียว“คุณหาน เราเตรียมโต๊ะไว้ให้คุณเรียบร้อยแล้วครับ เชิญตามผมมาได้เลย” ผู้จัดการก้มตัวลงก่อนจะพูดขึ้นตำแหน่งถัดจากหน้าต่างมีทิวทัศน์ที่ดีที่สุด มันสามารถมองเห็นวิวกลางคืนของหยุนเฉิงได้แบบพาโนรามา และแทบจะมองเห็นทั้งเมือง นี่คือจุดชมวิวที่ดีที่สุดโดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่สามารถจองโต๊ะนี้ได้จะต้องเป็นคนสำคัญในหยุนเฉิง อย่างเช่นวันนี้มีคนจองโต๊ะนี้ไว้ และเขาก็เป็นคนสำคัญในหยุนเฉิงด้วย แต่เมื่อหานซานเฉียนโทรมาที่ภัตตาคาร พวกเขาก็ยกเลิกการจองทั้งหมดทันที เพื่อเตรียมที่ว่างไว้ให้หานซานเฉียนแล
เกือบสามทุ่ม หานซานเฉียนและซูหยิงเซี่ยก็กลับมาที่คฤหาสน์ใจกลางภูเขา หานเนี่ยนยังอยู่ในช่วงกินและนอน เธอใช้เวลาเกือบทั้งวันในการนอนหลับหานซานเฉียนและภรรยาพาหานเนี่ยนกลับไปที่ห้องของพวกเขา และมองไปที่เด็กหญิงตัวเล็กที่กำลังหลับลึก ทั้งสองก็ยิ้มอย่างหลงใหลสมาชิกครอบครัวทั้งสามคนอยู่ด้วยกันอย่างเงียบ ๆ ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดในโลกแล้วหานซานเฉียนอุ้มหานเนี่ยนไว้ในอ้อมแขนทั้งคืน และไม่อยากปล่อยมือ แม้ว่าทั้งคืนเขาจะนอนหลับไม่สนิท เช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็ไม่รู้สึกเพลียเลยสักนิด ในตอนเช้าหานซานเฉียนก็ถูกหานเทียนหยางเรียกไปที่สวนหลังบ้าน ตอนนี้อาการของซูหยิงเซี่ยหายดีแล้ว และสิ่งต่าง ๆ ในหยุนเฉิงก็สิ้นสุดลงแล้ว ดังนั้นหานเทียนหยางจึงอยากถามหานซานเฉียนว่าเขาจะจากไปเมื่อไหร่"วันนี้ครับ" เมื่อถูกหานเทียนหยางถาม หานซานเฉียนก็รีบตอบ ที่จริงแล้วเขายังไม่อยากจากไป แต่อี้เหล่าบอกว่าความผันผวนในโลกใบที่สองนั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ และเวลาก็ไม่รอใคร หานซานเฉียนจึงไม่กล้าที่ล่าช้า“รีบร้อนขนาดนั้นเลยเหรอ?” หานเทียนหยางถามพลางขมวดคิ้ว“ยังมีหลายเรื่องที่ผมต้องจัดการ ชักช้าไม่ได้ครับ” ห
สองวันต่อมาหานซานเฉียนกลับมาถึงเทียนฉี และทันทีที่เขากลับมา เขาก็ทิ้งระเบิดใส่เทียนฉีทันทีเขาอยากเข้าไปในถ้ำราชาปีศาจอีกครั้งทันทีที่ข่าวนี้เพร่กระจายออกไป มันก็เหมือนกับสายฟ้าฟาดระเบิดไปทั่วเทียนฉีโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่แข็งแกร่งในระดับเทียน พวกเขารู้ดีว่าถ้ำราชาปีศาจนั้นอันตรายแค่ไหน และการสามารถรอดชีวิตออกมาได้นั้นเป็นเพียงโชคเท่านั้น แต่หานซานเฉียนกลับอยากเข้าไปอีกครั้ง ในความเห็นของพวกเขา นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุผลมาก พวกเขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าหานซานเฉียนจะทำแบบนั้นทำไมแม้แต่อี้เหล่าก็ยังปฏิเสธทันที เมื่อต้องเผชิญกับความพยายามฆ่าตัวตายของหานซานเฉียน“ไม่ได้ ตอนนี้นายเองก็น่าจะรู้ดีว่าถ้ำราชาปีศาจนั้นอันตรายแค่ไหน นายโชคดีที่หนีออกมาได้แล้วหนึ่งครั้ง นายคิดว่าจะโชคดีทุกครั้งอย่างนั้นเหรอ?” อี้เหล่าพูดกับหานซานเฉียนด้วยความโกรธ เขาคิดว่าหานซานเฉียนลำพองตัวมากจนอยากกลับไปที่ถ้ำราชาปีศาจ เพื่อแสวงหาความตายเป็นครั้งที่สอง!“อี้เหล่า อย่าตื่นตระหนกไป ในเมื่อผมอยากกลับไปอีกครั้ง แสดงว่ามั่นใจว่าจะรอดออกมาได้แน่” หานซานเฉียนพูดกับอี้เหล่าด้วยสีหน้าพึงพอใจถ้ำราชาปีศาจนั้นอันตรา
หานซานเฉียนและเจียงหยิงหยิงมาถึงทางเข้าถ้ำราชาปีศาจ คนอื่นไม่เข้าใจว่าทำไมหานซานเฉียนจึงอยากกลับไปที่ถ้ำราชาปีศาจ แต่เจียงหยิงหยิงรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีที่ถ้ำราชาปีศาจ งูสีขาวตัวน้อยอยากจะออกมาพร้อมกับหานซานเฉียน แต่เขากังวลว่าหากมันออกมาจากถ้ำมันจะเป็นอันตรายต่อเทียนฉี ดังนั้นเขาจึงใช้กลยุทธ์ถ่วงเวลาเพื่อควบคุมงูสีขาวตัวน้อยตอนนี้หานซานเฉียนกำลังจะไปโลกใบที่สอง และเห็นได้ชัดว่าเขาวางแผนที่จะพางูสีขาวตัวน้อยไปด้วย“พี่ซานเฉียน พี่จะพามันไปด้วยจริง ๆ เหรอคะ? ถึงยังไงมันก็เป็นสัตว์เลือดเย็น ถ้าเกิดว่ามันเป็นอิสระแล้วต่อต้านพี่ขึ้นมาล่ะคะ?” เจียงหยิงหยิงถามหานซานเฉียนอย่างเป็นกังวลไม่ใช่ว่าหานซานเฉียนจะไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ แต่เขามีความรู้สึกว่างูขาวตัวน้อยจะไม่ทำร้ายเขา และถ้าเขาพามันไปโลกใบที่สองด้วย แม้ว่างูขาวตัวน้อยจะหักหลังเขา มันก็จะเป็นเพียงภัยคุกคามกับโลกใบที่สองเท่านั้น“ในโลกใบที่สองมีอันตรายที่ไม่อาจคาดเดาได้มากเกินไป หากมันเต็มใจที่จะช่วยฉัน ก็จะสามารถลดอันตรายของเราในโลกใบที่สองได้มาก และมันก็คุ้มค่าที่จะลอง” หานซานเฉียนกล่าวแม้ว่าเจียงหยิงหยิงจะเป็นกังวล แต่เธอก็
เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่ที่มีผลไม้สีแดง งูสีขาวตัวน้อยก็มองหานซานเฉียนอย่างระมัดระวัง พลางแลบลิ้นออกมาครั้งก่อนที่หานซานเฉียนกินผลไม้สีแดงราวกับเป็นข้าว มันทำให้งูสีขาวตัวน้อยเป็นทุกข์มาก ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่ยอมให้หานซานเฉียนทำตามใจชอบได้อีกแล้ว แต่หานซานเฉียนไม่สนใจ เขากำลังจะไปโลกใบที่สองดังนั้นจึงต้องเตรียมพร้อมอย่างดี หากสามารถนำไปด้วยได้ก็ต้องพกติดตัวไปก่อนเขาใช้ฝ่ามือตบหัวงูสีขาวตัวน้อยแล้วพูดว่า "ไปให้พ้น อยากให้ฉันพาไปด้วยแล้วยังมาหวงของพวกนี้อีก"งูสีขาวตัวน้อยถูกตีอย่างแรงจนหัวสั่น เห็นได้ชัดว่ามันเวียนหัวเล็กน้อย เจียงหยิงหยิงที่อยู่ด้านข้างมองมันก่อนจะหัวเราะออกมาดัง ๆ“พี่ซานเฉียน เจ้าตัวเล็กนี่เข้าใจมนุษย์จริง ๆ มันสนุกสนานมากกว่าหมาแมวซะอีก” เจียงหยิงหยิงกล่าวหานซานเฉียนยิ้มเบา ๆ และพูดกับงูสีขาวตัวน้อยต่อ "ฉันจะพาแกออกไปจากที่นี่ และกลับไปยังที่ที่แกเคยอาศัยอยู่ในตอนแรก ผลไม้เหล่านี้ไม่มีประโยชน์ที่จะทิ้งไว้ที่นี่ ถ้าไม่เอาให้ฉันแล้วจะเอาให้ใคร?”ดวงตาสีแดงของงูขาวตัวน้อยฉายแววด้วยความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด และมันก็คาบผลไม้สีแดงด้วยปากส่งให้หานซานเฉียน
เหอชิงเฟิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขามองไปที่อี้เหล่าด้วยสายตาที่งงงวยแล้วพูดว่า "คุณบ้าไปแล้วเหรอ?"อี้เหล่ายิ้มอย่างจนปัญญา เขาไม่ได้บ้า แต่เขารู้ว่าเขาไม่สามารถหยุดหานซานเฉียนได้ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้อยู่นอกเหนือจินตนาการของเขาอย่างสิ้นเชิง ในการวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย เขาประเมินความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนต่ำเกินไป ดังนั้นแผนของเขาจึงพังทลายลง และตอนนี้สถานการณ์ก็ชัดเจนขึ้นแล้ว ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของหานซานเฉียนได้“คุณหยุดเขาได้ไหมล่ะ? ” อี้เหล่าถามเหอชิงเฟิงเหอชิงเฟิงนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในซื่อเหมินก่อนหน้านี้ตอนที่หานซานเฉียนพูดว่าไม่มีใครหยุดเขาได้ เหอชิงเฟิงคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกแต่ตอนนี้เมื่อคิดดูแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะหยุดหานซานเฉียน“หานซานเฉียน พวกเราหวังดีกับนาย” เหอชิงเฟิงพูดกับหานซานเฉียน“ท่านผู้นำเหอ ผมซาบซึ้งที่ท่านเป็นคนเที่ยงธรรมเมื่อเผชิญกับปัญหาใหญ่ เกี่ยวกับความถูกความผิด แต่ผมหวังว่าท่านผู้นำจะเข้าใจการตัดสินใจของผม” หานซานเฉียนกล่าวเหอชิงเฟิงถอนหายใจและไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเพื่อโน้มน้าวหานซานเฉียนอีก นี่เป็นเพียงหินส่งกลิ่นเหม็นที่น้ำมัน และเ
หลังจากได้ยินคำพูดของหานซานเฉียนแล้ว ดวงตาของเจียงหยิงหยิงก็ฉายแววเย็นชา สำหรับเธอ ใครก็ตามที่ต้องการทำร้ายซูหยิงเซี่ยและหานเนี่ยน นั่นถือว่าเป็นศัตรูกับเธอ เนื่องจากเหอเซียวเซียวอาจทำแบบนั้น ในความคิดของเธอก็ควรฆ่าทิ้งซะ“พี่ซานเฉียน ทำไมพี่ไม่ฆ่าเธอล่ะคะ” เจียงหยิงหยิงพูดอย่างเย็นชาหานซานเฉียนยิ้มอย่างจนปัญญา เธอคือเหอเซียวเซียวว เขาจะฆ่าลูกสาวของผู้นำซานเตี้ยนได้อย่างไร?หากสามาถจัดการได้อย่างง่ายดาย หานซานเฉียนคงไม่ต้องให้จวงถางและกงเทียนไปที่หยุนเฉิงหรอกแม้ว่าตอนนี้เหอชิงเฟิงได้ลดระดับเหอเซียวเซียวลงไปอยู่ระดับฮวงแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเหอชิงเฟิงจะไม่ให้ความสำคัญกับเหอเซียวเซียว เหตุผลที่เขาทำสิ่งนี้เพียงเพื่อแสดงให้คนดูเท่านั้น เพราะสิ่งที่เหอเซียวเซียวพูดตรงทางเข้าถ้ำราชาปีศาจในวันนั้น ได้ปลุกเร้าความไม่พอใจของผู้คน แม้ว่าเขาจะเต็มใจปกปิดข่าว แต่เขาก็ต้องคิดถึงผลกระทบของสถานการณ์นี้ด้วย“ถ้าไม่ใช่เพราะอิทธิพลของฉัน เหอชิงเฟิงก็คงจะไม่ลดระดับเหอเซียวเซียวลงไประดับฮวงหรอก เพราะยังไงเธอก็เป็นลูกสาวของเหอชิงเฟิง และเป็นคนที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุด ฉันจะฆ่าเธอได้ยังไง?" ห
พื้นที่ต้องห้ามอี้เหล่าและผู้ช่วยของเขาดูเหมือนจะมาถึงก่อนเวลา นอกจากสองคนนี้แล้ว ยังมีปรมาจารย์ระดับเทียนทั้งหมดในเทียนฉีอีกด้วย น่าเสียดายที่เมื่อเปรียบเทียบกับยุครุ่งเรืองของเทียนฉีแล้ว ปรมาจารย์ระดับเทียนมากกว่าสิบคนเหล่านี้ดูเหมือนจะน่าขำมาก เพราะเทียนฉีเคยมีพลังที่จะต่อกรกับโลกใบที่สอง แต่ตอนนี้ปรมาจารย์ระดับเทียนมากกว่าสิบคนเหล่านี้อาจไม่เพียงพอที่จะอุดรอยรั่วของโลกใบที่สองด้วยซ้ำ“ซานเฉียน ฉันจะไม่โน้มน้าวอะไรนายอีก เพราะฉันรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ แต่หลังจากที่นายไปที่นั่น ฉันก็มีอะไรจะบอกนาย” อี้เหล่าเดินไปหาหานซานเฉียนแล้วพูดขึ้นหานซานเฉียนไม่ได้ตอบ แต่จ้องมองไปที่ทางเข้าโลกอีกใบอย่างไม่วางตา หลังจากที่เขาปรากฏตัว ความผันผวนของพลังงานที่ทางเข้าก็ชัดเจนยิ่งขึ้น และความรู้สึกแผ่วเบาของความคุ้นเคยนี้ก็ปรากฏขึ้นในใจของเขาอีกครั้ง ราวกับว่าโลกใบที่สองกำลังร้องเรียกเขาอยู่“สำหรับนาย โลกใบที่สองนั้นเป็นสถานที่ที่ไม่อาจคาดเดาได้เลย ดังนั้นหลังจากที่นายไปที่นั่นแล้ว นายต้องทำตัวให้ปกติ ก่อนที่นายจะคุ้นเคยกับที่นั่น อย่าทำอะไรที่เอิกเกริกเกินไป และอย่าดึงดูดความสนใจของมนุษย์ในโลก