คำพูดของหลินตงทำให้ใบหน้าของเหอเซียวเซียวเต็มไปด้วยความโกรธอีกครั้ง เรื่องที่ถูกหานซานเฉียนเมินถือเป็นเรื่องน่าอายสำหรับเหอเซียวเซียว แลวเธอจะบอกหลินตงได้อย่างไร?“หลินตง ฉันขอเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้าย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ อย่ามายั่วโมโหฉันจะดีกว่า ฉันรู้ว่าคุณอยากเข้าร่วมซานเตี้ยน และฉันคิดว่าคุณคงจะรู้ดีว่าฉันมีความสำคัญมากแค่ไหนในใจคุณพ่อ ถ้าฉันไม่ต้องการ พ่อของฉัน ท่านก็จะไม่มีวันเห็นด้วยเช่นกัน” เหอเซียวเซียวพูดอย่างเย็นชาหลินตงแค่อยากจะลองถามดูเท่านั้น แต่เขาไม่คิดว่ามันจะทำให้เหอเซียวเซียวอารมณ์ร้อนได้ขนาดนี้ สิ่งนี้ทำให้เขาสงสัยมากขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทั้งสอง ถึงได้ทำให้เหอเซียวเซียวโกรธมากขนาดนี้แต่เขารู้ว่าถ้ายังคงถามต่อไป เขาอาจจะทำให้เหอเซียวเซียวขุ่นเคืองจริง ๆ และเมื่อเธอพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับเขาต่อหน้าเหอชิงเฟิง มันก็คงยากที่เขาจะได้เข้าร่วมซานเตี้ยนทั้งเทียนฉี ใครจะไม่รู้ว่าเหอชิงเฟิงให้ความสำคัญกับเหอเซียวเซียวมากแค่ไหน ไม่ว่าเหอเซียวเซียวจะทำผิดพลาดอะไร เหอชิงเฟิงก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเธอปกปิดมัน คนทั้งเทียนฉีต่างก็รู้ดีว่าห้ามไปยั่วยุเหอเซียวเซ
การต่อสู้ของเจียงหยิงหยิงก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นเช่นกัน ภายในกระบวนท่าเดียวไม่มีใครสามารถหยุดเธอได้ ทั้งสองคนสร้างความประทับใจให้กับผู้คนเหล่านั้นในการต่อสู้เพียงกระบวนท่าเดียว และไม่กล้าที่จะดูถูกพวกเขาอีกต่อไป“ฟางจ้าน ผมต้องแข่งอีกกี่เกม” หลับจบการแข่งขัน หานซานเฉียนก็ถามฟางจ้านผลลัพธ์นี้ไม่ได้ทำให้ฟางจ้านประหลาดใจ เพราะเขาเคยสัมผัสกับความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนด้วยตัวเองมาแล้ว สำหรับเขาระดับฮวงนั้นไม่มีอะไรเลย หากไม่ใช่เพราะกฎที่เข้มงวดของเทียนฉี ตามความเห็นของฟางจ้านแล้ว หานซานเฉียนสามารถเข้าร่วมในการแข่งขันระดับเชวียนได้โดยตรง“ไม่มีแล้ว” ฟางจ้านพูดด้วยรอยยิ้ม“ไม่มีแล้ว?” หานซานเฉียนดูประหลาดใจ มีผู้คนมากมายเข้าร่วมในการแข่งขัน เขาจะมีคู่ต่อสู้เพียงคนเดียวได้ยังไงฟางจ้านตบไหล่หานซานเฉียนแล้วพูดว่า "เมื่อกี้คู่ต่อสู้ของคุณทุกคนได้ถอนตัวไปหมดแล้ว ไม่มีใครกล้าต่อสู้กับคุณ ดังนั้นจึงไม่มีการแข่งขันแล้ว"หานซานเฉียนลูบจมูกของตัวเองแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "ผมเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่า แบบนี้คงไม่กลายเป็นหนามในสายตาของบางคนหรอกนะ"“ไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวในเทียนฉี เพราะนี่คือสถานที่ที่พ
สำหรับการแข่งขันแบ่งระดับรอบที่สอง ทั้งหานซานเฉียนและเจียงหยิงหยิงต่างก็ใช้พลังงานอย่างมากในการฝึกฝน พวกเขาไม่ได้ประมาทเลยแม้แต่นิดเดียว เนื่องจากช่องว่างระหว่างระดับเชวียนและระดับฮวงนั้นต่างกันมากจริง ๆ และหานซานเฉียนก็ไม่ต้องการให้เกิดความผิดพลาดใด ๆ ในการแข่งขันแบ่งระดับสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่การพิสูจน์ตัวเอง หรือทำให้คนนอกรู้ว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เพื่อไขข้อข้องใจให้เร็วที่สุด และไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ในเวลาเดียวกัน หลินตงและเหอเซียวเซียวกำลังวางแผนให้หานซานเฉียนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหลินตงไม่ต้องการให้ชื่อเสียงของเขาในฐานะบุตรแห่งสรวงสวรรค์ต้องสั่นคลอนเพราะหานซานเฉียน และเหอเซียวเซียวก็ต้องการให้หานซานเฉียนชดใช้กับการเมินเฉยต่อเธอแม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้ลงเรือลำเดียวกันแล้ว แต่พวกเขาก็มีเป้าหมายเหมือนกัน ดังนั้นช่วงนี้พวกเขาจึงพบกันค่อนข้างบ่อยส่วนความปรารถนาของหลินตงที่ต้องการเข้าร่วมซานเตี้ยน อี้เหล่ารู้เรื่องนี้นานแล้ว เพราะตอนนี้หลินตงไม่ได้ปกปิดเรื่องการไปซานเตี้ยนของเขาเลย“อี้เหล่า ถ้าหลินตงเข้าร่วมซานเตี้ยน มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับเรา เขาจะทำให้ซาน
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลินตงก็ยิ้มอย่างเย็นชา แต่ก็รู้สึกพอใจอยู่ในใจ เขาไม่คิดว่าผู้นำทั้งสี่ประตูจะออกหน้ารั้งเขาไว้ในเรื่องการเข้าร่วมซานเตี้ยน นี่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีอิทธิพลมากแค่ไหนในซื่อเหมินการได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะมีกันได้แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น หลินตงจะเปลี่ยนใจงั้นเหรอ?เขาจะไม่เปลี่ยนใจ เพราะเขาไม่มีวันอยู่ร่วมกันกับคนอย่างหานซานเฉียนเด็ดขาด“ผมจะไม่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับขยะ และหากต้องการให้ผมเปลี่ยนใจ เว้นเสียแต่อี้เหล่าจะไล่เขาออกไปจากเทียนฉี” หลินตงพูดอย่างเย็นชาไล่หานซานเฉียนออกจากเทียนฉีอย่างนั้นเหรอ!สีหน้าของผู้นำทั้งสี่ประตูเปลี่ยนไปอย่างมาก ทุกคนในเทียนฉีรู้ว่าอี้เหล่ายอมรับลูกศิษย์แล้ว แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะขับไล่หานซานเฉียนออกจากเทียนฉี หากทำแบบนั้นไม่เพียงแต่เป็นการตบหน้าอี้เหล่า แต่ทั้งซื่อเหมินก็จะถูกซานเตี้ยนหัวเราะเยาะด้วยเช่นกัน“หลินตง นายเติบโตในซื่อเหมิน และซื่อเหมินก็ทำให้นายมีทุกวันนี้ นายคิดจะทรยศซื่อเหมินจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”“ใช่ ที่นายมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะการฝึกฝนของซื่อเหมิน”
“หงส์ไฟ มีอะไรก็พูดกันดี ๆ ทำไมถึงได้ลงไม้ลงมือกันแบบนี้ล่ะ”“พูดมาสิ ฉันจะฉีกปากคุณเป็นชิ้น ๆ แล้วดูว่าคุณพูดยังไงอีก” หงส์ไฟคำรามด้วยความโกรธฟางจ้านขมขื่นไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ เขาไม่รู้ว่าเรื่องของอายุจะทำให้หงส์ไฟมีอารมณ์ที่รุนแรงเช่นนี้ ถ้าเขารู้แบบนี้ เขาจะหุบปากไว้แล้ว“คุณอยากรู้ความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนไม่ใช่เหรอ คุณหยุดก่อนแล้วผมจะบอก” ฟางจ้านกล่าว“ตอนนี้ฉันไม่อยากรู้อะไรแล้ว ฉันแค่อยากจะแหกปากคุณออกมาเท่านั้น” หงส์ไฟไม่ให้โอกาสเขาเลยสักนิด เห็นได้ชัดว่าเรื่องอายุเป็นคำต้องห้ามของหงส์ไฟ“ฟางจ้านคนนี้สมควรตาย เขาไม่รู้หรือไงว่าเรื่องอายุของผู้หญิงเป็นความลับน่ะ ถ้าพูดออกมาง่าย ๆ แบบนี้ก็ต้องถูกตีแน่นอน” เจียงหยิงหยิงที่ยืนอยู่ข้างหานซานเฉียน เฝ้าดูเรื่องสนุกสนานโดยไม่ลืมที่จะซ้ำเติมไปด้วยหานซานเฉียนแอบจำประโยคนี้ไว้ในใจ ในอนาคตเขาต้องระมัดระวังคำพูดของตัวเอง แต่หยิบหัวข้อนี้ออกมาพูดไม่ได้เป็นอันขาด“ฟางจ้านอาศัยอยู่อย่างสันโดษบนภูเขามานานหลายปี เขาอาจลืมไปแล้วว่าจะเข้ากับผู้หญิงได้ยังไง” หานซานเฉียนกล่าวเจียงหยิงหยิงบึนปาก การอยู่อย่างสันโดษในภูเขาไม่ใช่ข้อแก้ตัวส
หากจะทำให้คนอื่นเชื่อในความแข็งแกร่งของหานซานเฉียน ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์ ต้องให้เขาพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นเองแต่หงส์ไฟที่เดิมทีไม่มีความหวังในเรื่องนี้ กลับมีความคาดหวังขึ้นมาเล็กน้อยตอนนี้ทุกคนในเทียนฉีไม่ชอบเขา และมองเขาเป็นตัวตลก ผู้คนของซานเตี้ยนก็คิดว่าการกระทำของอี้เหล่านั้นโง่เขลา และแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นอี้เหล่าถูกตบหน้าหากหานซานเฉียนสามารถพิสูจน์ตัวเองได้จริง ๆ เขาไม่เพียงแต่จะกอบกู้ศักดิ์ศรีของตัวเองเท่านั้น แต่ยังจะสร้างชื่อเสียงให้กับซื่อเหมินด้วยและหากเป็นแบบนั้น การที่หลินตงเข้าร่วมซานเตี้ยนก็จะไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะหานซานเฉียนไม่เพียงแต่มีแนวโน้มที่จะเข้ามาแทนที่หลินตงได้เท่านั้น แต่เขายังแข็งแกร่งกว่าหลินตงด้วยซ้ำ!“ท่านผู้นำ เป็นอะไรไปคะ?”“หรือว่าจะให้พวกเราลองไปคุยกับหลินตงดู”เมื่อเห็นว่าหงส์ไฟเงียบไป สาวกหลายคนก็มีสีหน้าเป็นกังวลหงส์ไฟส่ายหัวและพูดว่า "ฉันสบายดี ส่วนหลินตงจะเลือกอะไรนั้นก็เป็นเรื่องของเขา ประตูหงส์ไฟจะไม่เข้าไปยุ่ง"หลายคนถอนหายใจ ดูเหมือนว่าซื่อเหมินจะถูกทำลายโดยชายที่ชื่อหานซานเฉียน มันไม่คุ้มค่าเลย ซื่อเหมินมีความเท่าเทียมก
หานซานเฉียนรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ ไม่ใช่การลอบทำร้าย แต่เป็นความเจ็บปวดในกะโหลกศีรษะที่ทำให้เขาโคม่ามาจนถึงตอนนี้เมื่อเขานึกถึงกะโหลกศีรษะ หานซานเฉียนก็ตระหนักได้ว่าตอนนี้เขาเปลือยเปล่า และขยับมือไปทางหน้าอกโดยไม่รู้ตัวเพื่อป้องกันตัวเอง“นายทำอะไรน่ะ ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย หรือว่ามีอะไรที่คนอื่นเห็นไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?” ฟางจ้านพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นการกระทำของหานซานเฉียนสีหน้าของหานซานเฉียนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวกะโหลกหายไปแล้ว!มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่เข้ามาในห้อง การที่กะโหลกหายไป หรือว่าพวกเขาเป็นคนเอาไปอย่างนั้นเหรอ?“พี่ซานเฉียน รีบแต่งตัวก่อนเถอะค่ะ แล้วค่อยคิดว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น” เจียงหยิงหยิงหมุนตัวก่อนจะพูดขึ้น“ฉันอยากพักผ่อน พวกเธอออกไปก่อนได้ วันนี้ฉันจะไม่ฝึกซ้อม” หานซานเฉียนกล่าวฟางจ้านลังเลที่จะพูด การแข่งขันรอบที่สองกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว หานซานเฉียนจำเป็นต้องหมั่นฝึกซ้อม ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ผ่านการเลื่อนระดับแน่แต่เมื่อดูสภาพร่างกายของหานซานเฉียน มันก็ดูจะไม่เหมาะกับการฝึกฝน เขาพูดได้เพียงว่า "ได้ คุณพั
“เซียวเซียว อย่าพูดจาไร้สาระ รีบกลับไปที่ห้องได้แล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดของเหอเซียวเซียว เหอชิงเฟิงก็ดุขึ้นทันที เมื่อก่อนเวลาเหอเซียวเซียวล้อเลียนอี้เหล่า เหอชิงเฟิงไม่เคยดุเธอ แต่วันนี้เหอชิงเฟิงรู้ว่าอี้เหล่ามาที่ทำไม จึงไม่สามารถปล่อยให้เหอเซียวเซียวทำตามอำเภอใจได้อีกต่อไป การอยู่รอดของเทียนฉีคือการอยู่รอดของพวกเขา ไม่ว่าในอดีตเหอชิงเฟิงจะไม่พอใจกับอี้เหล่ามากแค่ไหน แต่ตอนนี้ซื่อเหมินและซานเตี้ยนจำเป็นต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เหอเซียวเซียวรู้สึกถึงความเข้มงวดของเหอชิงเฟิงเป็นครั้งแรก ซึ่งทำให้เธอหวาดกลัวมากจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา แม้ว่าเจ้าหญิงคนนี้จะเอาแต่ใจ แต่เธอก็ไม่ได้โง่เขลา เธอรู้ว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ท่าทีของพ่อถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ยิ่งไปกว่านั้น การปรากฏตัวของอี้เหล่าในซานเตี้ยนก็เป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องหนึ่ง“จบเรื่องแล้วพ่อต้องให้คำอธิบายกับหนูด้วย ไม่อย่างนั้นหนูจะไม่ยกโทษให้พ่อแน่” เหอเซียวเซียวพูดด้วยดวงตาที่เปียกชื้นเหอชิงเฟิงไม่มีอารมณ์ที่จะปลอบเธอ เขารีบออกไปต้อนรับอี้เหล่าที่ประตูทันที“ผู้เฒ่าอี้ ลมอะไรหอบคุณมาที่นี่” เหอชิงเฟิงพูดด้วยท่าทีสุภาพเมื่