“เซียวเซียว อย่าพูดจาไร้สาระ รีบกลับไปที่ห้องได้แล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดของเหอเซียวเซียว เหอชิงเฟิงก็ดุขึ้นทันที เมื่อก่อนเวลาเหอเซียวเซียวล้อเลียนอี้เหล่า เหอชิงเฟิงไม่เคยดุเธอ แต่วันนี้เหอชิงเฟิงรู้ว่าอี้เหล่ามาที่ทำไม จึงไม่สามารถปล่อยให้เหอเซียวเซียวทำตามอำเภอใจได้อีกต่อไป การอยู่รอดของเทียนฉีคือการอยู่รอดของพวกเขา ไม่ว่าในอดีตเหอชิงเฟิงจะไม่พอใจกับอี้เหล่ามากแค่ไหน แต่ตอนนี้ซื่อเหมินและซานเตี้ยนจำเป็นต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เหอเซียวเซียวรู้สึกถึงความเข้มงวดของเหอชิงเฟิงเป็นครั้งแรก ซึ่งทำให้เธอหวาดกลัวมากจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา แม้ว่าเจ้าหญิงคนนี้จะเอาแต่ใจ แต่เธอก็ไม่ได้โง่เขลา เธอรู้ว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ท่าทีของพ่อถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ยิ่งไปกว่านั้น การปรากฏตัวของอี้เหล่าในซานเตี้ยนก็เป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องหนึ่ง“จบเรื่องแล้วพ่อต้องให้คำอธิบายกับหนูด้วย ไม่อย่างนั้นหนูจะไม่ยกโทษให้พ่อแน่” เหอเซียวเซียวพูดด้วยดวงตาที่เปียกชื้นเหอชิงเฟิงไม่มีอารมณ์ที่จะปลอบเธอ เขารีบออกไปต้อนรับอี้เหล่าที่ประตูทันที“ผู้เฒ่าอี้ ลมอะไรหอบคุณมาที่นี่” เหอชิงเฟิงพูดด้วยท่าทีสุภาพเมื่
“ผู้เฒ่าอี้ ทำไมคุณถึงให้ความสำคัญกับชายหนุ่มคนนี้มากขนาดนี้” เหอชิงเฟิงถามอย่างงุนงง นี่เป็นคำถามที่เขาสงสัยมาโดยตลอด เขาไม่เคยมีโอกาสถาม แต่ตอนนี้เขาอยากจะไขข้อสงสัยนี้ เพราะหานซานเฉียนเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น แล้วทำไมอี้เหล่าถึงให้ความสำคัญกับเขามากขนาดนี้?“ซื่อเหมินต้องการคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะมาตำแหน่งของผม หลินตงมีความสามารถ แต่น่าเสียดายที่นิสัยของเขาไม่ผ่าน แต่หานซานเฉียนตอบสนองความต้องการของผม” อี้เหล่ากล่าวเหอชิงเฟิงส่ายหัวเมื่อได้ยินแบบนั้นและพูดขึ้นว่า "แม้ว่านิสัยของเขาจะทำให้คุณพึงพอใจ ในแง่ของความแข็งแกร่ง เขาก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์เท่านั้น เทียนฉีเป็นสถานที่ที่เคารพความแข็งแกร่ง ผู้คนจะยอมรับเขาได้อย่างไร"เทียนฉีคือสถานที่ที่พูดกันด้วยความแข็งแกร่ง และวิธีเดียวที่จะพิสูจน์ตัวเองได้คือความแข็งแกร่ง ในมุมมองของเหอชิงเฟิง หานซานเฉียนไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขนี้ได้ บางทีถ้าให้เวลาเขาอีกสิบปี เขาอาจจะสามารถทำได้ แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนความแข็งแกร่ง?นี่คืออคติที่ทุกคนในเทียนฉีมีต่อหานซานเฉียน เนื่องจากคนเหล่านี้ดูถูกปรมาจารย์จากโลกภายนอกมาโดยตลอด ด
หลังจากเงียบไปนาน ดวงตาของอี้เหล่าแน่วแน่ขึ้นกว่าเดิม เขาเชื่อว่ามีเพียงหานซานเฉียนเท่านั้นที่สามารถแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ และมีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถช่วยผู้คนจากภัยพิบัตินี้ได้"ใช่"น้ำเสียงของอี้เหล่าสงบ แต่ก็เต็มไปด้วยความแน่วแน่หลังจากที่ผู้ช่วยหายใจเข้าลึก เขาก็ต้องเปลี่ยนมุมมองต่อหานซานเฉียนใหม่แม้ว่าในใจของเขาตอนนี้หานซานเฉียนจะยังคงเป็นบุคคลที่ไม่ได้สำคัญอะไร แต่อี้เหล่าแสดงทัศนคติที่มั่นคงออกมาแบบนั้น แสดงให้เห็นว่าหานซานเฉียนเป็นคนที่น่าเชื่อถือ และอย่างน้อยก็ควรให้โอกาสกับเขาสักครั้ง“การแข่งขันแบ่งระดับรอบสองกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว อี้เหล่า คุณจะไปดูไหมครับ?” ผู้ช่วยถามอี้เหล่าส่ายหัวแล้วพูดว่า "ไม่มีอะไรให้ต้องดู เขาสามารถเลื่อนระดับได้ร้อยเปอร์เซ็นต์"อาณาเขตระดับเชวียนหลังจากที่หานซานเฉียนตกอยู่ในอาการโคม่าในคืนนั้น เขาก็พบว่าร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พลังนั้นไม่ได้มีเฉพาะในมือขวาของเขาอีกต่อไป แต่ทั่วร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังไป และเมื่อเขาเกร็งกล้ามเนื้อเพื่อเตรียมเข้าสู่การต่อสู้ ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขานั้นดูจะทรงพลังขึ้นมาก ซึ่งมันช่วยเ
ผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขาเจอครั้งก่อนไม่ใช่เหรอ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอคือลูกสาวของผู้นำแห่งซานเตี้ยน สิ่งนี้ทำให้หานซานเฉียนตกตะลึงแต่ทำไมผู้หญิงที่มีสถานะแบบนี้ถึงได้ไปหาเขาโดยไม่มีเหตุผลล่ะ หรือว่าเสน่ห์ของเขาแพร่กระจายมาถึงเทียนฉีด้วยงั้นเหรอ?สิ่งนี้ทำให้หานซานเฉียนปวดหัว สำหรับผู้ชายคนอื่นดอกพีชที่ส่งมาถึงประตูบ้านของพวกเขาอาจเป็นสิ่งที่ดี ความงามเช่นนี้ยากที่ผู้ชายจะปฏิเสธได้ แต่หานซานเฉียนนั้นต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ชอบผู้หญิงเหล่านี้ และถึงกับเคยปฏิเสธฉี๋อีหยุนนับครั้งไม่ถ้วนหลังจากที่เหอเซียวเซียวเห็นหานซานเฉียน รอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเธอก็เย็นชามาก ไม่รู้ว่าทำไมแค่เห็นหน้าเขาเธอก็รู้สึกขยะแขยงจากก้นบึ้งหัวใจ อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนเมินมาก่อน และสายตาเย็นชาของหานซานเฉียนที่เคยมองมา มันทำให้เธอยอมรับไม่ได้ เมื่อเดินมาถึงข้างหน้าหานซานเฉียน เหอเซียวเซียวก็พูดด้วยใบหน้าเย็นชา "ไม่คิดว่านายพอจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ในสายตาของฉัน ระดับเชวียนก็ยังคงเป็นแค่ขยะเท่านั้น"หานซานเฉียนรู้สึกได้ถึงการกำหนดเป้าอย่างแรงกล้า ผู้หญิงคนนี้คงจะไม่ได้โกรธเพราะครอบครองเขาไม่ไ
การยั่วยุของหานซานเฉียนทำให้หลินตงกำหมัดแน่น ในฐานะคนที่หยิ่งผยอง เขาจะยอมถอยได้ยังไง?และถึงแม้ว่าหานซานเฉียนจะแข็งแกร่ง แต่ในสายตาของหลินตง ความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนยังคงมีช่องว่างกับเขามาก เขาพึ่งจะเข้ามาเทียนฉีได้แค่ครึ่งเดือน ไม่สามารถตามเขาทันได้อย่างแน่นอน“หานซานเชียน นายนี่ฉลาดจริง ๆ ด้วยสถานะปัจจุบันของนายมีคุณสมบัติอะไรที่จะมาสู้กับหลินตงงั้นเหรอ? ถึงนายจะแพ้ คนอื่นก็คงไม่แปลกใจ นอกจากนายจะไม่เสียอะไรแล้ว แถมยังได้ความภาคภูมิใจที่ได้สู้กับคนอย่างหลินตง และใช้มันเพิ่มชื่อเสียงให้ตัวเองอีก” เหอเซียวเซียวมองหานซานเฉียนด้วยสีหน้าเยาะเย้ย“ผมชอบความคิดที่แหวกแนวและไร้ข้อจำกัดของคุณมาก” หานซานเฉียนส่ายหัวอย่างจนปัญญา ไม่รู้ว่าเหอเซียวเซียวคิดไปในมุมนั้นได้อย่างไร“หานซานเฉียน หากนายต้องการสู้กับฉัน ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส ฉันจะรอให้นายเลื่อนขึ้นมาระดับตี้ อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ” หลังจากได้ยินคำพูดของหลินตง เหอเซียวเซียวก็คลายหมัดออก ด้วยสถานะปัจจุบันของหานซานเฉียน เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาจริง ๆ เขาจะถูกหานซานเฉียนยั่วยุและเพิ่มชื่อเสียงให้หานซานเฉียนไม่ได้“
ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าหานซานเฉียนต้องตายแน่ ๆ หมัดของชายคนนั้นก็เข้าปะทะหน้าอกของหานซานเฉียน ด้วยพลังรุนแรงของหมัดนี้ แม้แต่ปรมาจารย์ในระดับตี้ก็ไม่กล้าที่จะรับมือด้วยความนิ่งเชยแบบนี้“หมอนี่ไม่หลบจริง ๆ ด้วย แต่ในความคิดของฉัน เขาคงหลบไม่ทันมากกว่า” เมื่อเห็นฉากนี้ เหอเซียวเซียวก็เยาะเย้ยอย่างดูถูก ความแข็งแกร่งแบบนี้ยังคิดที่จะเลื่อนไประดับเทียน ช่างน่าขำจริง ๆหลินตงขมวดคิ้ว จากความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของหานซานเฉียน มันง่ายมากที่เขาจะหลบหมัดนี้ ถึงคู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่เร็วจนเขาไม่สามารถหลบมันได้ มันเกิดอะไรขึ้น!“หมอนี่กำลังทำอะไรอยู่กันแน่!” หลินตงพูดด้วยความสับสน“จะทำอะไรได้อีกล่ะ หมัดนี้เพียงพอที่จะฆ่าเขาได้แล้ว เฮ้อ น่าเบื่อชะมัด นึกว่าเขาจะทำให้ฉันประหลาดใจได้ซะอีก ไม่คิดว่าเขาจะไร้ประโยชน์ขนาดนี้” เหอเซียวเซียวส่ายหัวอย่างผิดหวังและพูดต่อ "ดูเหมือนว่าคนที่คุณเตรียมไว้นั้นจะเสียเวลาเปล่า เป็นไปไม่ได้ที่หานซานเฉียนจะไปถึงขั้นนั้น"ทุกคนต่างก็คิดเหมือนกับเหอเซียวเซียว ในความเห็นของพวกเขา หานซานเฉียนต้องตายแน่ ๆ เพราะถ้าเขาถูกโจมตีเข้าที่หัวใจด้
แม้แต่ปรมาจารย์ระดับเทียนก็ไม่สามารถมีร่างกายที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ ดังนั้นผู้ช่วยจึงไม่เชื่อ เพราะในความเห็นของเขา สิ่งนี้มันเกินความแข็งแกร่งของร่างกายมนุษย์อี้เหล่าก็สงสัยเช่นกัน ความแข็งแกร่งของร่างกายดังกล่าวมันเกินกว่าคำอธิบายของเขา และมันไม่ได้อยู่ในความเข้าใจของเขาด้วยซ้ำ แต่สิ่งนี้ทำให้เขามั่นใจมากยิ่งขึ้นว่ามีเพียงหานซานเฉียนเท่านั้นที่จะสามารถแก้ไขวิกฤตินี้ได้ผู้กอบกู้โลกคงจะมีแค่หานซานเฉียนเท่านั้นที่ทำได้“อย่างที่ฉันบอกไป เขาเป็นผู้กอบกู้โลก และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาจะทำให้เขาได้เปรียบมากขึ้นเมื่อต้องรับมือกับสิ่งมีชีวิตในโลกอีกใบ นี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับ เทียนฉีและคนทั้งโลก” อี้เหล่ากล่าวผู้ช่วยพยักหน้า ตามบันทึกลับของเทียนฉี สิ่งมีชีวิตในโลกอีกใบนั้นทรงพลังมาก นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมปรมาจารย์ระดับเทียนจำนวนมากถึงได้ล้มตายในตอนนั้น หากปรมาจารย์ระดับเทียนสามารถมีความแข็งแกร่งอย่างหานซานเฉียน จุดจบของสงครามคงไม่น่าเศร้าขนาดนี้“อี้เหล่า ผมเชื่อคำพูดของคุณมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วครับ” ผู้ช่วยกล่าวขณะเดียวกัน ข่าวก็แพร่ไปถึงซานเตี้ยนเช่นกันหลังจากที่เหอชิงเฟิงได้ยินเกี
เหอเซียวเซียวหน้าตาบูดบึ้งและเงียบลง เธอไม่สนใจว่าเทียนฉีจะมีปัญหาอะไร ในโลกของเธอ เธอต่างหากที่เป็นแกนกลางของทุกสิ่ง หากใครทำให้เธอไม่มีความสุข เธอก็จะทำให้พวกเขาไม่มีความสุขเช่นกันหากไม่ได้ระบายความโกรธนี้ เหอเซียวเซียวจะรู้สึกสบายใจได้อย่างไร?“พ่อคะ ในเมื่อพ่อไม่ช่วย งั้นหนูก็จะหาทางเอง” เหอเซียวเซียวพูดอย่างเย็นชาเหอชิงเฟิงอยากจะเกลี้ยกล่อมเธอ แต่เหอเซียวเซียวหันหลังแล้วจากไป ดังนั้นเขาจึงทำได้แต่ถอนหายใจอย่างจนปัญญา“ตามเธอไป และอย่าปล่อยให้เธอทำสิ่งที่โง่เขลา” เหอชิงเฟิงพูดกับลูกน้องของตัวเองหลังจากที่ออกจากซานเตี้ยน เหอเซียวเซียวก็ไปพบหลินตง เนื่องจากเหอชิงเฟิงปฏิเสธที่จะช่วย เธอจึงต้องแน่ใจว่าคนที่หลินตงหามานั้นแข็งแกร่งพอที่จะฆ่าหานซานเฉียนในการทดสอบวันพรุ่งนี้ตอนนี้เหอเซียวเซียวตั้งเป้าหมายชัดเจน เธอต้องฆ่าหานซานเฉียนให้ตาย มีเพียงการตายของหานซานเฉียนเท่านั้นที่จะทำให้เธอรู้สึกมีความสุข“ฉันอยากเจอคนที่คุณหาไว้” เหอเซียวเซียวพูดกับหลินตงด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่งหลินตงรู้จักนิสัยของเหอเซียวเซียวดี เมื่อคุณหนูอารมณ์ขึ้นก็ไม่มีใครสามารถควบคุมได้“ผมจะเรียกเขามาเดี๋
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ