“เซียวเซียว อย่าพูดจาไร้สาระ รีบกลับไปที่ห้องได้แล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดของเหอเซียวเซียว เหอชิงเฟิงก็ดุขึ้นทันที เมื่อก่อนเวลาเหอเซียวเซียวล้อเลียนอี้เหล่า เหอชิงเฟิงไม่เคยดุเธอ แต่วันนี้เหอชิงเฟิงรู้ว่าอี้เหล่ามาที่ทำไม จึงไม่สามารถปล่อยให้เหอเซียวเซียวทำตามอำเภอใจได้อีกต่อไป การอยู่รอดของเทียนฉีคือการอยู่รอดของพวกเขา ไม่ว่าในอดีตเหอชิงเฟิงจะไม่พอใจกับอี้เหล่ามากแค่ไหน แต่ตอนนี้ซื่อเหมินและซานเตี้ยนจำเป็นต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เหอเซียวเซียวรู้สึกถึงความเข้มงวดของเหอชิงเฟิงเป็นครั้งแรก ซึ่งทำให้เธอหวาดกลัวมากจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา แม้ว่าเจ้าหญิงคนนี้จะเอาแต่ใจ แต่เธอก็ไม่ได้โง่เขลา เธอรู้ว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ท่าทีของพ่อถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ยิ่งไปกว่านั้น การปรากฏตัวของอี้เหล่าในซานเตี้ยนก็เป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องหนึ่ง“จบเรื่องแล้วพ่อต้องให้คำอธิบายกับหนูด้วย ไม่อย่างนั้นหนูจะไม่ยกโทษให้พ่อแน่” เหอเซียวเซียวพูดด้วยดวงตาที่เปียกชื้นเหอชิงเฟิงไม่มีอารมณ์ที่จะปลอบเธอ เขารีบออกไปต้อนรับอี้เหล่าที่ประตูทันที“ผู้เฒ่าอี้ ลมอะไรหอบคุณมาที่นี่” เหอชิงเฟิงพูดด้วยท่าทีสุภาพเมื่
“ผู้เฒ่าอี้ ทำไมคุณถึงให้ความสำคัญกับชายหนุ่มคนนี้มากขนาดนี้” เหอชิงเฟิงถามอย่างงุนงง นี่เป็นคำถามที่เขาสงสัยมาโดยตลอด เขาไม่เคยมีโอกาสถาม แต่ตอนนี้เขาอยากจะไขข้อสงสัยนี้ เพราะหานซานเฉียนเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น แล้วทำไมอี้เหล่าถึงให้ความสำคัญกับเขามากขนาดนี้?“ซื่อเหมินต้องการคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะมาตำแหน่งของผม หลินตงมีความสามารถ แต่น่าเสียดายที่นิสัยของเขาไม่ผ่าน แต่หานซานเฉียนตอบสนองความต้องการของผม” อี้เหล่ากล่าวเหอชิงเฟิงส่ายหัวเมื่อได้ยินแบบนั้นและพูดขึ้นว่า "แม้ว่านิสัยของเขาจะทำให้คุณพึงพอใจ ในแง่ของความแข็งแกร่ง เขาก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์เท่านั้น เทียนฉีเป็นสถานที่ที่เคารพความแข็งแกร่ง ผู้คนจะยอมรับเขาได้อย่างไร"เทียนฉีคือสถานที่ที่พูดกันด้วยความแข็งแกร่ง และวิธีเดียวที่จะพิสูจน์ตัวเองได้คือความแข็งแกร่ง ในมุมมองของเหอชิงเฟิง หานซานเฉียนไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขนี้ได้ บางทีถ้าให้เวลาเขาอีกสิบปี เขาอาจจะสามารถทำได้ แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนความแข็งแกร่ง?นี่คืออคติที่ทุกคนในเทียนฉีมีต่อหานซานเฉียน เนื่องจากคนเหล่านี้ดูถูกปรมาจารย์จากโลกภายนอกมาโดยตลอด ด
หลังจากเงียบไปนาน ดวงตาของอี้เหล่าแน่วแน่ขึ้นกว่าเดิม เขาเชื่อว่ามีเพียงหานซานเฉียนเท่านั้นที่สามารถแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ และมีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถช่วยผู้คนจากภัยพิบัตินี้ได้"ใช่"น้ำเสียงของอี้เหล่าสงบ แต่ก็เต็มไปด้วยความแน่วแน่หลังจากที่ผู้ช่วยหายใจเข้าลึก เขาก็ต้องเปลี่ยนมุมมองต่อหานซานเฉียนใหม่แม้ว่าในใจของเขาตอนนี้หานซานเฉียนจะยังคงเป็นบุคคลที่ไม่ได้สำคัญอะไร แต่อี้เหล่าแสดงทัศนคติที่มั่นคงออกมาแบบนั้น แสดงให้เห็นว่าหานซานเฉียนเป็นคนที่น่าเชื่อถือ และอย่างน้อยก็ควรให้โอกาสกับเขาสักครั้ง“การแข่งขันแบ่งระดับรอบสองกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว อี้เหล่า คุณจะไปดูไหมครับ?” ผู้ช่วยถามอี้เหล่าส่ายหัวแล้วพูดว่า "ไม่มีอะไรให้ต้องดู เขาสามารถเลื่อนระดับได้ร้อยเปอร์เซ็นต์"อาณาเขตระดับเชวียนหลังจากที่หานซานเฉียนตกอยู่ในอาการโคม่าในคืนนั้น เขาก็พบว่าร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พลังนั้นไม่ได้มีเฉพาะในมือขวาของเขาอีกต่อไป แต่ทั่วร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังไป และเมื่อเขาเกร็งกล้ามเนื้อเพื่อเตรียมเข้าสู่การต่อสู้ ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขานั้นดูจะทรงพลังขึ้นมาก ซึ่งมันช่วยเ
ผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขาเจอครั้งก่อนไม่ใช่เหรอ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอคือลูกสาวของผู้นำแห่งซานเตี้ยน สิ่งนี้ทำให้หานซานเฉียนตกตะลึงแต่ทำไมผู้หญิงที่มีสถานะแบบนี้ถึงได้ไปหาเขาโดยไม่มีเหตุผลล่ะ หรือว่าเสน่ห์ของเขาแพร่กระจายมาถึงเทียนฉีด้วยงั้นเหรอ?สิ่งนี้ทำให้หานซานเฉียนปวดหัว สำหรับผู้ชายคนอื่นดอกพีชที่ส่งมาถึงประตูบ้านของพวกเขาอาจเป็นสิ่งที่ดี ความงามเช่นนี้ยากที่ผู้ชายจะปฏิเสธได้ แต่หานซานเฉียนนั้นต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ชอบผู้หญิงเหล่านี้ และถึงกับเคยปฏิเสธฉี๋อีหยุนนับครั้งไม่ถ้วนหลังจากที่เหอเซียวเซียวเห็นหานซานเฉียน รอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเธอก็เย็นชามาก ไม่รู้ว่าทำไมแค่เห็นหน้าเขาเธอก็รู้สึกขยะแขยงจากก้นบึ้งหัวใจ อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนเมินมาก่อน และสายตาเย็นชาของหานซานเฉียนที่เคยมองมา มันทำให้เธอยอมรับไม่ได้ เมื่อเดินมาถึงข้างหน้าหานซานเฉียน เหอเซียวเซียวก็พูดด้วยใบหน้าเย็นชา "ไม่คิดว่านายพอจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ในสายตาของฉัน ระดับเชวียนก็ยังคงเป็นแค่ขยะเท่านั้น"หานซานเฉียนรู้สึกได้ถึงการกำหนดเป้าอย่างแรงกล้า ผู้หญิงคนนี้คงจะไม่ได้โกรธเพราะครอบครองเขาไม่ไ
การยั่วยุของหานซานเฉียนทำให้หลินตงกำหมัดแน่น ในฐานะคนที่หยิ่งผยอง เขาจะยอมถอยได้ยังไง?และถึงแม้ว่าหานซานเฉียนจะแข็งแกร่ง แต่ในสายตาของหลินตง ความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนยังคงมีช่องว่างกับเขามาก เขาพึ่งจะเข้ามาเทียนฉีได้แค่ครึ่งเดือน ไม่สามารถตามเขาทันได้อย่างแน่นอน“หานซานเชียน นายนี่ฉลาดจริง ๆ ด้วยสถานะปัจจุบันของนายมีคุณสมบัติอะไรที่จะมาสู้กับหลินตงงั้นเหรอ? ถึงนายจะแพ้ คนอื่นก็คงไม่แปลกใจ นอกจากนายจะไม่เสียอะไรแล้ว แถมยังได้ความภาคภูมิใจที่ได้สู้กับคนอย่างหลินตง และใช้มันเพิ่มชื่อเสียงให้ตัวเองอีก” เหอเซียวเซียวมองหานซานเฉียนด้วยสีหน้าเยาะเย้ย“ผมชอบความคิดที่แหวกแนวและไร้ข้อจำกัดของคุณมาก” หานซานเฉียนส่ายหัวอย่างจนปัญญา ไม่รู้ว่าเหอเซียวเซียวคิดไปในมุมนั้นได้อย่างไร“หานซานเฉียน หากนายต้องการสู้กับฉัน ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส ฉันจะรอให้นายเลื่อนขึ้นมาระดับตี้ อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ” หลังจากได้ยินคำพูดของหลินตง เหอเซียวเซียวก็คลายหมัดออก ด้วยสถานะปัจจุบันของหานซานเฉียน เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาจริง ๆ เขาจะถูกหานซานเฉียนยั่วยุและเพิ่มชื่อเสียงให้หานซานเฉียนไม่ได้“
ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าหานซานเฉียนต้องตายแน่ ๆ หมัดของชายคนนั้นก็เข้าปะทะหน้าอกของหานซานเฉียน ด้วยพลังรุนแรงของหมัดนี้ แม้แต่ปรมาจารย์ในระดับตี้ก็ไม่กล้าที่จะรับมือด้วยความนิ่งเชยแบบนี้“หมอนี่ไม่หลบจริง ๆ ด้วย แต่ในความคิดของฉัน เขาคงหลบไม่ทันมากกว่า” เมื่อเห็นฉากนี้ เหอเซียวเซียวก็เยาะเย้ยอย่างดูถูก ความแข็งแกร่งแบบนี้ยังคิดที่จะเลื่อนไประดับเทียน ช่างน่าขำจริง ๆหลินตงขมวดคิ้ว จากความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของหานซานเฉียน มันง่ายมากที่เขาจะหลบหมัดนี้ ถึงคู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่เร็วจนเขาไม่สามารถหลบมันได้ มันเกิดอะไรขึ้น!“หมอนี่กำลังทำอะไรอยู่กันแน่!” หลินตงพูดด้วยความสับสน“จะทำอะไรได้อีกล่ะ หมัดนี้เพียงพอที่จะฆ่าเขาได้แล้ว เฮ้อ น่าเบื่อชะมัด นึกว่าเขาจะทำให้ฉันประหลาดใจได้ซะอีก ไม่คิดว่าเขาจะไร้ประโยชน์ขนาดนี้” เหอเซียวเซียวส่ายหัวอย่างผิดหวังและพูดต่อ "ดูเหมือนว่าคนที่คุณเตรียมไว้นั้นจะเสียเวลาเปล่า เป็นไปไม่ได้ที่หานซานเฉียนจะไปถึงขั้นนั้น"ทุกคนต่างก็คิดเหมือนกับเหอเซียวเซียว ในความเห็นของพวกเขา หานซานเฉียนต้องตายแน่ ๆ เพราะถ้าเขาถูกโจมตีเข้าที่หัวใจด้
แม้แต่ปรมาจารย์ระดับเทียนก็ไม่สามารถมีร่างกายที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ ดังนั้นผู้ช่วยจึงไม่เชื่อ เพราะในความเห็นของเขา สิ่งนี้มันเกินความแข็งแกร่งของร่างกายมนุษย์อี้เหล่าก็สงสัยเช่นกัน ความแข็งแกร่งของร่างกายดังกล่าวมันเกินกว่าคำอธิบายของเขา และมันไม่ได้อยู่ในความเข้าใจของเขาด้วยซ้ำ แต่สิ่งนี้ทำให้เขามั่นใจมากยิ่งขึ้นว่ามีเพียงหานซานเฉียนเท่านั้นที่จะสามารถแก้ไขวิกฤตินี้ได้ผู้กอบกู้โลกคงจะมีแค่หานซานเฉียนเท่านั้นที่ทำได้“อย่างที่ฉันบอกไป เขาเป็นผู้กอบกู้โลก และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาจะทำให้เขาได้เปรียบมากขึ้นเมื่อต้องรับมือกับสิ่งมีชีวิตในโลกอีกใบ นี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับ เทียนฉีและคนทั้งโลก” อี้เหล่ากล่าวผู้ช่วยพยักหน้า ตามบันทึกลับของเทียนฉี สิ่งมีชีวิตในโลกอีกใบนั้นทรงพลังมาก นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมปรมาจารย์ระดับเทียนจำนวนมากถึงได้ล้มตายในตอนนั้น หากปรมาจารย์ระดับเทียนสามารถมีความแข็งแกร่งอย่างหานซานเฉียน จุดจบของสงครามคงไม่น่าเศร้าขนาดนี้“อี้เหล่า ผมเชื่อคำพูดของคุณมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วครับ” ผู้ช่วยกล่าวขณะเดียวกัน ข่าวก็แพร่ไปถึงซานเตี้ยนเช่นกันหลังจากที่เหอชิงเฟิงได้ยินเกี
เหอเซียวเซียวหน้าตาบูดบึ้งและเงียบลง เธอไม่สนใจว่าเทียนฉีจะมีปัญหาอะไร ในโลกของเธอ เธอต่างหากที่เป็นแกนกลางของทุกสิ่ง หากใครทำให้เธอไม่มีความสุข เธอก็จะทำให้พวกเขาไม่มีความสุขเช่นกันหากไม่ได้ระบายความโกรธนี้ เหอเซียวเซียวจะรู้สึกสบายใจได้อย่างไร?“พ่อคะ ในเมื่อพ่อไม่ช่วย งั้นหนูก็จะหาทางเอง” เหอเซียวเซียวพูดอย่างเย็นชาเหอชิงเฟิงอยากจะเกลี้ยกล่อมเธอ แต่เหอเซียวเซียวหันหลังแล้วจากไป ดังนั้นเขาจึงทำได้แต่ถอนหายใจอย่างจนปัญญา“ตามเธอไป และอย่าปล่อยให้เธอทำสิ่งที่โง่เขลา” เหอชิงเฟิงพูดกับลูกน้องของตัวเองหลังจากที่ออกจากซานเตี้ยน เหอเซียวเซียวก็ไปพบหลินตง เนื่องจากเหอชิงเฟิงปฏิเสธที่จะช่วย เธอจึงต้องแน่ใจว่าคนที่หลินตงหามานั้นแข็งแกร่งพอที่จะฆ่าหานซานเฉียนในการทดสอบวันพรุ่งนี้ตอนนี้เหอเซียวเซียวตั้งเป้าหมายชัดเจน เธอต้องฆ่าหานซานเฉียนให้ตาย มีเพียงการตายของหานซานเฉียนเท่านั้นที่จะทำให้เธอรู้สึกมีความสุข“ฉันอยากเจอคนที่คุณหาไว้” เหอเซียวเซียวพูดกับหลินตงด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่งหลินตงรู้จักนิสัยของเหอเซียวเซียวดี เมื่อคุณหนูอารมณ์ขึ้นก็ไม่มีใครสามารถควบคุมได้“ผมจะเรียกเขามาเดี๋