“หงส์ไฟ มีอะไรก็พูดกันดี ๆ ทำไมถึงได้ลงไม้ลงมือกันแบบนี้ล่ะ”“พูดมาสิ ฉันจะฉีกปากคุณเป็นชิ้น ๆ แล้วดูว่าคุณพูดยังไงอีก” หงส์ไฟคำรามด้วยความโกรธฟางจ้านขมขื่นไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ เขาไม่รู้ว่าเรื่องของอายุจะทำให้หงส์ไฟมีอารมณ์ที่รุนแรงเช่นนี้ ถ้าเขารู้แบบนี้ เขาจะหุบปากไว้แล้ว“คุณอยากรู้ความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนไม่ใช่เหรอ คุณหยุดก่อนแล้วผมจะบอก” ฟางจ้านกล่าว“ตอนนี้ฉันไม่อยากรู้อะไรแล้ว ฉันแค่อยากจะแหกปากคุณออกมาเท่านั้น” หงส์ไฟไม่ให้โอกาสเขาเลยสักนิด เห็นได้ชัดว่าเรื่องอายุเป็นคำต้องห้ามของหงส์ไฟ“ฟางจ้านคนนี้สมควรตาย เขาไม่รู้หรือไงว่าเรื่องอายุของผู้หญิงเป็นความลับน่ะ ถ้าพูดออกมาง่าย ๆ แบบนี้ก็ต้องถูกตีแน่นอน” เจียงหยิงหยิงที่ยืนอยู่ข้างหานซานเฉียน เฝ้าดูเรื่องสนุกสนานโดยไม่ลืมที่จะซ้ำเติมไปด้วยหานซานเฉียนแอบจำประโยคนี้ไว้ในใจ ในอนาคตเขาต้องระมัดระวังคำพูดของตัวเอง แต่หยิบหัวข้อนี้ออกมาพูดไม่ได้เป็นอันขาด“ฟางจ้านอาศัยอยู่อย่างสันโดษบนภูเขามานานหลายปี เขาอาจลืมไปแล้วว่าจะเข้ากับผู้หญิงได้ยังไง” หานซานเฉียนกล่าวเจียงหยิงหยิงบึนปาก การอยู่อย่างสันโดษในภูเขาไม่ใช่ข้อแก้ตัวส
หากจะทำให้คนอื่นเชื่อในความแข็งแกร่งของหานซานเฉียน ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์ ต้องให้เขาพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นเองแต่หงส์ไฟที่เดิมทีไม่มีความหวังในเรื่องนี้ กลับมีความคาดหวังขึ้นมาเล็กน้อยตอนนี้ทุกคนในเทียนฉีไม่ชอบเขา และมองเขาเป็นตัวตลก ผู้คนของซานเตี้ยนก็คิดว่าการกระทำของอี้เหล่านั้นโง่เขลา และแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นอี้เหล่าถูกตบหน้าหากหานซานเฉียนสามารถพิสูจน์ตัวเองได้จริง ๆ เขาไม่เพียงแต่จะกอบกู้ศักดิ์ศรีของตัวเองเท่านั้น แต่ยังจะสร้างชื่อเสียงให้กับซื่อเหมินด้วยและหากเป็นแบบนั้น การที่หลินตงเข้าร่วมซานเตี้ยนก็จะไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะหานซานเฉียนไม่เพียงแต่มีแนวโน้มที่จะเข้ามาแทนที่หลินตงได้เท่านั้น แต่เขายังแข็งแกร่งกว่าหลินตงด้วยซ้ำ!“ท่านผู้นำ เป็นอะไรไปคะ?”“หรือว่าจะให้พวกเราลองไปคุยกับหลินตงดู”เมื่อเห็นว่าหงส์ไฟเงียบไป สาวกหลายคนก็มีสีหน้าเป็นกังวลหงส์ไฟส่ายหัวและพูดว่า "ฉันสบายดี ส่วนหลินตงจะเลือกอะไรนั้นก็เป็นเรื่องของเขา ประตูหงส์ไฟจะไม่เข้าไปยุ่ง"หลายคนถอนหายใจ ดูเหมือนว่าซื่อเหมินจะถูกทำลายโดยชายที่ชื่อหานซานเฉียน มันไม่คุ้มค่าเลย ซื่อเหมินมีความเท่าเทียมก
หานซานเฉียนรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ ไม่ใช่การลอบทำร้าย แต่เป็นความเจ็บปวดในกะโหลกศีรษะที่ทำให้เขาโคม่ามาจนถึงตอนนี้เมื่อเขานึกถึงกะโหลกศีรษะ หานซานเฉียนก็ตระหนักได้ว่าตอนนี้เขาเปลือยเปล่า และขยับมือไปทางหน้าอกโดยไม่รู้ตัวเพื่อป้องกันตัวเอง“นายทำอะไรน่ะ ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย หรือว่ามีอะไรที่คนอื่นเห็นไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?” ฟางจ้านพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นการกระทำของหานซานเฉียนสีหน้าของหานซานเฉียนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวกะโหลกหายไปแล้ว!มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่เข้ามาในห้อง การที่กะโหลกหายไป หรือว่าพวกเขาเป็นคนเอาไปอย่างนั้นเหรอ?“พี่ซานเฉียน รีบแต่งตัวก่อนเถอะค่ะ แล้วค่อยคิดว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น” เจียงหยิงหยิงหมุนตัวก่อนจะพูดขึ้น“ฉันอยากพักผ่อน พวกเธอออกไปก่อนได้ วันนี้ฉันจะไม่ฝึกซ้อม” หานซานเฉียนกล่าวฟางจ้านลังเลที่จะพูด การแข่งขันรอบที่สองกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว หานซานเฉียนจำเป็นต้องหมั่นฝึกซ้อม ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ผ่านการเลื่อนระดับแน่แต่เมื่อดูสภาพร่างกายของหานซานเฉียน มันก็ดูจะไม่เหมาะกับการฝึกฝน เขาพูดได้เพียงว่า "ได้ คุณพั
“เซียวเซียว อย่าพูดจาไร้สาระ รีบกลับไปที่ห้องได้แล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดของเหอเซียวเซียว เหอชิงเฟิงก็ดุขึ้นทันที เมื่อก่อนเวลาเหอเซียวเซียวล้อเลียนอี้เหล่า เหอชิงเฟิงไม่เคยดุเธอ แต่วันนี้เหอชิงเฟิงรู้ว่าอี้เหล่ามาที่ทำไม จึงไม่สามารถปล่อยให้เหอเซียวเซียวทำตามอำเภอใจได้อีกต่อไป การอยู่รอดของเทียนฉีคือการอยู่รอดของพวกเขา ไม่ว่าในอดีตเหอชิงเฟิงจะไม่พอใจกับอี้เหล่ามากแค่ไหน แต่ตอนนี้ซื่อเหมินและซานเตี้ยนจำเป็นต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เหอเซียวเซียวรู้สึกถึงความเข้มงวดของเหอชิงเฟิงเป็นครั้งแรก ซึ่งทำให้เธอหวาดกลัวมากจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา แม้ว่าเจ้าหญิงคนนี้จะเอาแต่ใจ แต่เธอก็ไม่ได้โง่เขลา เธอรู้ว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ท่าทีของพ่อถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ยิ่งไปกว่านั้น การปรากฏตัวของอี้เหล่าในซานเตี้ยนก็เป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องหนึ่ง“จบเรื่องแล้วพ่อต้องให้คำอธิบายกับหนูด้วย ไม่อย่างนั้นหนูจะไม่ยกโทษให้พ่อแน่” เหอเซียวเซียวพูดด้วยดวงตาที่เปียกชื้นเหอชิงเฟิงไม่มีอารมณ์ที่จะปลอบเธอ เขารีบออกไปต้อนรับอี้เหล่าที่ประตูทันที“ผู้เฒ่าอี้ ลมอะไรหอบคุณมาที่นี่” เหอชิงเฟิงพูดด้วยท่าทีสุภาพเมื่
“ผู้เฒ่าอี้ ทำไมคุณถึงให้ความสำคัญกับชายหนุ่มคนนี้มากขนาดนี้” เหอชิงเฟิงถามอย่างงุนงง นี่เป็นคำถามที่เขาสงสัยมาโดยตลอด เขาไม่เคยมีโอกาสถาม แต่ตอนนี้เขาอยากจะไขข้อสงสัยนี้ เพราะหานซานเฉียนเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น แล้วทำไมอี้เหล่าถึงให้ความสำคัญกับเขามากขนาดนี้?“ซื่อเหมินต้องการคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะมาตำแหน่งของผม หลินตงมีความสามารถ แต่น่าเสียดายที่นิสัยของเขาไม่ผ่าน แต่หานซานเฉียนตอบสนองความต้องการของผม” อี้เหล่ากล่าวเหอชิงเฟิงส่ายหัวเมื่อได้ยินแบบนั้นและพูดขึ้นว่า "แม้ว่านิสัยของเขาจะทำให้คุณพึงพอใจ ในแง่ของความแข็งแกร่ง เขาก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์เท่านั้น เทียนฉีเป็นสถานที่ที่เคารพความแข็งแกร่ง ผู้คนจะยอมรับเขาได้อย่างไร"เทียนฉีคือสถานที่ที่พูดกันด้วยความแข็งแกร่ง และวิธีเดียวที่จะพิสูจน์ตัวเองได้คือความแข็งแกร่ง ในมุมมองของเหอชิงเฟิง หานซานเฉียนไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขนี้ได้ บางทีถ้าให้เวลาเขาอีกสิบปี เขาอาจจะสามารถทำได้ แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนความแข็งแกร่ง?นี่คืออคติที่ทุกคนในเทียนฉีมีต่อหานซานเฉียน เนื่องจากคนเหล่านี้ดูถูกปรมาจารย์จากโลกภายนอกมาโดยตลอด ด
หลังจากเงียบไปนาน ดวงตาของอี้เหล่าแน่วแน่ขึ้นกว่าเดิม เขาเชื่อว่ามีเพียงหานซานเฉียนเท่านั้นที่สามารถแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ และมีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถช่วยผู้คนจากภัยพิบัตินี้ได้"ใช่"น้ำเสียงของอี้เหล่าสงบ แต่ก็เต็มไปด้วยความแน่วแน่หลังจากที่ผู้ช่วยหายใจเข้าลึก เขาก็ต้องเปลี่ยนมุมมองต่อหานซานเฉียนใหม่แม้ว่าในใจของเขาตอนนี้หานซานเฉียนจะยังคงเป็นบุคคลที่ไม่ได้สำคัญอะไร แต่อี้เหล่าแสดงทัศนคติที่มั่นคงออกมาแบบนั้น แสดงให้เห็นว่าหานซานเฉียนเป็นคนที่น่าเชื่อถือ และอย่างน้อยก็ควรให้โอกาสกับเขาสักครั้ง“การแข่งขันแบ่งระดับรอบสองกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว อี้เหล่า คุณจะไปดูไหมครับ?” ผู้ช่วยถามอี้เหล่าส่ายหัวแล้วพูดว่า "ไม่มีอะไรให้ต้องดู เขาสามารถเลื่อนระดับได้ร้อยเปอร์เซ็นต์"อาณาเขตระดับเชวียนหลังจากที่หานซานเฉียนตกอยู่ในอาการโคม่าในคืนนั้น เขาก็พบว่าร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พลังนั้นไม่ได้มีเฉพาะในมือขวาของเขาอีกต่อไป แต่ทั่วร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังไป และเมื่อเขาเกร็งกล้ามเนื้อเพื่อเตรียมเข้าสู่การต่อสู้ ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขานั้นดูจะทรงพลังขึ้นมาก ซึ่งมันช่วยเ
ผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขาเจอครั้งก่อนไม่ใช่เหรอ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอคือลูกสาวของผู้นำแห่งซานเตี้ยน สิ่งนี้ทำให้หานซานเฉียนตกตะลึงแต่ทำไมผู้หญิงที่มีสถานะแบบนี้ถึงได้ไปหาเขาโดยไม่มีเหตุผลล่ะ หรือว่าเสน่ห์ของเขาแพร่กระจายมาถึงเทียนฉีด้วยงั้นเหรอ?สิ่งนี้ทำให้หานซานเฉียนปวดหัว สำหรับผู้ชายคนอื่นดอกพีชที่ส่งมาถึงประตูบ้านของพวกเขาอาจเป็นสิ่งที่ดี ความงามเช่นนี้ยากที่ผู้ชายจะปฏิเสธได้ แต่หานซานเฉียนนั้นต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ชอบผู้หญิงเหล่านี้ และถึงกับเคยปฏิเสธฉี๋อีหยุนนับครั้งไม่ถ้วนหลังจากที่เหอเซียวเซียวเห็นหานซานเฉียน รอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเธอก็เย็นชามาก ไม่รู้ว่าทำไมแค่เห็นหน้าเขาเธอก็รู้สึกขยะแขยงจากก้นบึ้งหัวใจ อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนเมินมาก่อน และสายตาเย็นชาของหานซานเฉียนที่เคยมองมา มันทำให้เธอยอมรับไม่ได้ เมื่อเดินมาถึงข้างหน้าหานซานเฉียน เหอเซียวเซียวก็พูดด้วยใบหน้าเย็นชา "ไม่คิดว่านายพอจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ในสายตาของฉัน ระดับเชวียนก็ยังคงเป็นแค่ขยะเท่านั้น"หานซานเฉียนรู้สึกได้ถึงการกำหนดเป้าอย่างแรงกล้า ผู้หญิงคนนี้คงจะไม่ได้โกรธเพราะครอบครองเขาไม่ไ
การยั่วยุของหานซานเฉียนทำให้หลินตงกำหมัดแน่น ในฐานะคนที่หยิ่งผยอง เขาจะยอมถอยได้ยังไง?และถึงแม้ว่าหานซานเฉียนจะแข็งแกร่ง แต่ในสายตาของหลินตง ความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนยังคงมีช่องว่างกับเขามาก เขาพึ่งจะเข้ามาเทียนฉีได้แค่ครึ่งเดือน ไม่สามารถตามเขาทันได้อย่างแน่นอน“หานซานเชียน นายนี่ฉลาดจริง ๆ ด้วยสถานะปัจจุบันของนายมีคุณสมบัติอะไรที่จะมาสู้กับหลินตงงั้นเหรอ? ถึงนายจะแพ้ คนอื่นก็คงไม่แปลกใจ นอกจากนายจะไม่เสียอะไรแล้ว แถมยังได้ความภาคภูมิใจที่ได้สู้กับคนอย่างหลินตง และใช้มันเพิ่มชื่อเสียงให้ตัวเองอีก” เหอเซียวเซียวมองหานซานเฉียนด้วยสีหน้าเยาะเย้ย“ผมชอบความคิดที่แหวกแนวและไร้ข้อจำกัดของคุณมาก” หานซานเฉียนส่ายหัวอย่างจนปัญญา ไม่รู้ว่าเหอเซียวเซียวคิดไปในมุมนั้นได้อย่างไร“หานซานเฉียน หากนายต้องการสู้กับฉัน ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส ฉันจะรอให้นายเลื่อนขึ้นมาระดับตี้ อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ” หลังจากได้ยินคำพูดของหลินตง เหอเซียวเซียวก็คลายหมัดออก ด้วยสถานะปัจจุบันของหานซานเฉียน เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาจริง ๆ เขาจะถูกหานซานเฉียนยั่วยุและเพิ่มชื่อเสียงให้หานซานเฉียนไม่ได้“