“ได้ยินข่าวหรือยัง ผู้ชายที่ชื่อหานซานเฉียนคนนั้นจะเข้าร่วมการแข่งขันทุกระดับขั้น เขากำลังรนหาที่ตายจริง ๆ”“มากกว่ารนหาที่ตาย เท่าที่ฉันดู เขามาที่นี่เพื่อสร้างเรื่องตลก”“เขาเป็นถึงลูกศิษย์ของอี้เหล่า อาจมีความสามารถจริง ๆ ก็ได้ เพราะอี้เหล่าไม่เคยรับลูกศิษย์มาก่อนเลย”“ความสามารถ? ยอดฝีมือธรรมดา ๆ จะมีความหมายอะไรกับเทียนฉี ไม่ว่าเขาจะทรงพลังแค่ไหน แต่จะเทียบกับหลินตงได้เหรอ?”ภายในเทียนฉี ทุกคนรู้ว่าหานซานเฉียนกำลังจะเข้าร่วมการแข่งขันระดับขั้นต่าง ๆ และคนส่วนใหญ่ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องตลกขบขันเทียน ตี้ เชวียน ฮวง สี่ระดับของเทียนฉี แต่ละระดับเป็นเกณฑ์ที่เข้มงวด โดยเฉพาะระดับเทียนยังคงรักษาสถิติไม่มีใครกล้าท้าทายมาเกือบสิบปี แม้แต่หลินตงซึ่งเป็นที่รู้จักในนามบุตรแห่งสรวงสวรรค์ก็ไม่เคยกล้าที่จะลอง และหานซานเฉียนผู้ที่เพิ่งจะได้เข้ามาในเทียนฉีกลับกล้าเข้าร่วมอย่างหุนหันพลันแล่น ในสายตาของคนในเทียนฉี เขาก็เป็นเหมือนเด็กทารก หรือไม่ก็มีปัญหาทางสมองทุกคนกำลังคุยกันเรื่องนี้ กล่าวได้ว่าหานซานเฉียนยังมาไม่ถึงเทียนฉี ชื่อของเขาโด่งดังในเทียนฉีแล้ว แต่ชื่อเสียงนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกไ
“อีกอย่างการท้าทายระดับฮวงในปีนี้ก็ยังโหดร้ายที่สุด มีผู้คนเข้าร่วมจำนวนมาก มันไม่ง่ายเลยที่จะต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด” กงเทียนไม่ได้สงบเท่าจวงถาง เมื่อเห็นว่าหานซานเฉียนทำสีหน้าดูถูกระดับฮวง เขาจึงพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจ เมื่อหานซานเฉียนเผชิญกับคำเตือนของทั้งสอง เขาก็ไม่ได้สนใจ แต่พยักหน้าแล้วพูดว่า "ขอบคุณสำหรับคำเตือน แต่ในเมื่อผมมาที่นี่แล้ว จะไม่มีวันอยู่ที่นี่ไปตลอดแน่นอน"ต่อมาฟางจ้านก็พาหานซานเฉียนไปยังสถานที่พักผ่อน เนื่องจากในเทียนฉีมีผู้ชายจำนวนมากกว่า ผู้หญิงจึงดูสะดุดตาเป็นพิเศษ คนเหล่านั้นต่างก็จับจ้องเจียงหยิงหยิง ในโลกภายนอกรูปร่างหน้าตาของเจียงหยิงหยิงไม่ได้โดดเด่นมาก แต่เธอก็ถือว่าไม่เลวในหมู่เด็กผู้หญิงธรรมดา สำหรับเทียนฉีรูปร่างหน้าตาของเธอเป็นความงามชั้นยอดอย่างแน่นอน และเพื่อป้องกันไม่ให้พวกผีทะเลมีโอกาส หานซานเฉียนจึงขอให้ฟางจ้านจัดห้องนอนให้สองห้อง“อาจารย์ ผู้ชายคนนี้ดูถูกระดับฮวง ผมอยากจะเห็นเขาพ่ายแพ้ในการแข่งขันนัก” กงเทียนพูดผ่านไรฟันหลังจากที่หานซานเฉียนเดินจากไปจวงถางส่ายหัวเบาแล้วพูดว่า "เกรงว่าจะไม่มีโอกาสนั้นน่ะสิ"“อาจารย์หมายความว่ายังไงครับ
“ไม่มีอะไรน่าชื่นชมหรอก” หานซานเฉียนส่ายหัวอย่างไม่แยแสในความคิดของเขา ความรักคือการภักดีต่อคน ๆ เดียว หากสั่นคลอนเพราะความสวยงาม ก็ไม่อาาจเรียกว่าความรักได้ ในฐานะผู้ชาย หากไม่สามารถแบกรับความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานของครอบครัวได้ และไม่สามารถปกป้องผู้หญิงของตัวเองได้ แล้วจะเรียกว่าผู้ชายได้อย่างไร“อ้อ ถึงเวลาที่จะอธิบายเกี่ยวกับซื่อเหมินและซานเตี้ยนให้ผมฟังได้หรือยัง?” หานซานเฉียนถามฟางจ้าน รูปแบบของเทียนฉีคืออะไรกันแน่ หานซานเฉียนไม่รู้อะไรเลย ในเมื่อตอนนี้เขามาถึงเทียนฉีแล้ว ก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องรู้สิ่งเหล่านี้“คำว่า 'ซื่อเหมิน' มาจากชื่อของสัญลักษณ์ทั้งสี่ในแปดทิศ ได้แก่ ประตูชิงหลง ประตูเสือขาว ประตูหงส์ไฟ และประตูเต่าดำ ทั้งสี่ประตูล้วนมีผู้นำแต่ละประตู ส่วนอี้เหล่าคือผู้นำของซื่อเหมิน มีสิทธิ์สูงสุดในซื่อเหมิน ส่วนซานเตี้ยนได้แก่ ห้องโถงเฉียนคุน ห้องโถงเหลียงอี้ และห้องโถงหยินหยาง ผู้นำของซานเตี้ยนมีชื่อว่าเหอชิงเฟิง” ฟางจ้านอธิบาย “หรืออาจกล่าวได้ว่าทั้งเทียนฉี อี้เหล่าและคนที่ชื่อว่าเหอชิงเฟิงมีอำนาจมากที่สุด?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัย หากผู้นำของซื่อเหมินและซานเตี้ยน
"คุณเรียกหาผมเหรอ?"ในเขตบริเวณซานเตี้ยนของเทียนฉี หลินตงมองไปที่ด้านหลังที่สวยงามตรงหน้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหลงใหล สำหรับหลายคนในเทียนฉี ผู้หญิงคนนี้คือความใฝ่ฝันของพวกเขา เหอเซียวเซียวไม่เพียงแต่มีสถานะสูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีบุคลิกที่ทำให้ผู้คนตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น และหลินตงก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบเหอเซียวเซียว น่าเสียดายที่เหอเซียวเซียวมีนิสัยเย็นชา แม้ว่าหลินตงจะเป็นถึงบุตรแห่งสรวงสวรรค์ เธอก็ไม่เคยหวั่นไหวเลย เนื่องจากพ่อของเหอเสี่ยวเซียวเป็นผู้นำซานเตี้ยน วิสัยทัศน์ของเธอจึงสูงกว่าคนทั่วไป แม้ว่าหลินตงจะถูกเรียกว่าบุตรแห่งสรวงสวรรค์ แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเหอเซียวเซียวเลย คนที่เธอจะให้ความสนใจจะต้องผ่าการทดสอบถ้ำราชาปีศาจ และได้เป็นแกนกลางของเทียนฉีที่อยู่ในระดับเทียนเท่านั้น น่าเสียดายที่ไม่มีใครในเทียนฉีสามารถทำได้มาเป็นสิบปีแล้ว ระดับเทียนในปัจจุบันนั้นมีอายุแก่กว่าเหอเซียวเซียวมากเหอเซียวเซียวหันกลับมา และดวงตาของหลินตงก็หลงใหลมากขึ้นนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลินตงได้เห็นเธอ แต่ทุกครั้งที่เขาเห็นเธอ เขาก็รู้สึกเหมือนถูกโจมตีอย่างหนัก ในความคิดของหลินตงไม่มีใค
คำพูดของหลินตงทำให้ใบหน้าของเหอเซียวเซียวเต็มไปด้วยความโกรธอีกครั้ง เรื่องที่ถูกหานซานเฉียนเมินถือเป็นเรื่องน่าอายสำหรับเหอเซียวเซียว แลวเธอจะบอกหลินตงได้อย่างไร?“หลินตง ฉันขอเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้าย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ อย่ามายั่วโมโหฉันจะดีกว่า ฉันรู้ว่าคุณอยากเข้าร่วมซานเตี้ยน และฉันคิดว่าคุณคงจะรู้ดีว่าฉันมีความสำคัญมากแค่ไหนในใจคุณพ่อ ถ้าฉันไม่ต้องการ พ่อของฉัน ท่านก็จะไม่มีวันเห็นด้วยเช่นกัน” เหอเซียวเซียวพูดอย่างเย็นชาหลินตงแค่อยากจะลองถามดูเท่านั้น แต่เขาไม่คิดว่ามันจะทำให้เหอเซียวเซียวอารมณ์ร้อนได้ขนาดนี้ สิ่งนี้ทำให้เขาสงสัยมากขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทั้งสอง ถึงได้ทำให้เหอเซียวเซียวโกรธมากขนาดนี้แต่เขารู้ว่าถ้ายังคงถามต่อไป เขาอาจจะทำให้เหอเซียวเซียวขุ่นเคืองจริง ๆ และเมื่อเธอพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับเขาต่อหน้าเหอชิงเฟิง มันก็คงยากที่เขาจะได้เข้าร่วมซานเตี้ยนทั้งเทียนฉี ใครจะไม่รู้ว่าเหอชิงเฟิงให้ความสำคัญกับเหอเซียวเซียวมากแค่ไหน ไม่ว่าเหอเซียวเซียวจะทำผิดพลาดอะไร เหอชิงเฟิงก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเธอปกปิดมัน คนทั้งเทียนฉีต่างก็รู้ดีว่าห้ามไปยั่วยุเหอเซียวเซ
การต่อสู้ของเจียงหยิงหยิงก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นเช่นกัน ภายในกระบวนท่าเดียวไม่มีใครสามารถหยุดเธอได้ ทั้งสองคนสร้างความประทับใจให้กับผู้คนเหล่านั้นในการต่อสู้เพียงกระบวนท่าเดียว และไม่กล้าที่จะดูถูกพวกเขาอีกต่อไป“ฟางจ้าน ผมต้องแข่งอีกกี่เกม” หลับจบการแข่งขัน หานซานเฉียนก็ถามฟางจ้านผลลัพธ์นี้ไม่ได้ทำให้ฟางจ้านประหลาดใจ เพราะเขาเคยสัมผัสกับความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนด้วยตัวเองมาแล้ว สำหรับเขาระดับฮวงนั้นไม่มีอะไรเลย หากไม่ใช่เพราะกฎที่เข้มงวดของเทียนฉี ตามความเห็นของฟางจ้านแล้ว หานซานเฉียนสามารถเข้าร่วมในการแข่งขันระดับเชวียนได้โดยตรง“ไม่มีแล้ว” ฟางจ้านพูดด้วยรอยยิ้ม“ไม่มีแล้ว?” หานซานเฉียนดูประหลาดใจ มีผู้คนมากมายเข้าร่วมในการแข่งขัน เขาจะมีคู่ต่อสู้เพียงคนเดียวได้ยังไงฟางจ้านตบไหล่หานซานเฉียนแล้วพูดว่า "เมื่อกี้คู่ต่อสู้ของคุณทุกคนได้ถอนตัวไปหมดแล้ว ไม่มีใครกล้าต่อสู้กับคุณ ดังนั้นจึงไม่มีการแข่งขันแล้ว"หานซานเฉียนลูบจมูกของตัวเองแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "ผมเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่า แบบนี้คงไม่กลายเป็นหนามในสายตาของบางคนหรอกนะ"“ไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวในเทียนฉี เพราะนี่คือสถานที่ที่พ
สำหรับการแข่งขันแบ่งระดับรอบที่สอง ทั้งหานซานเฉียนและเจียงหยิงหยิงต่างก็ใช้พลังงานอย่างมากในการฝึกฝน พวกเขาไม่ได้ประมาทเลยแม้แต่นิดเดียว เนื่องจากช่องว่างระหว่างระดับเชวียนและระดับฮวงนั้นต่างกันมากจริง ๆ และหานซานเฉียนก็ไม่ต้องการให้เกิดความผิดพลาดใด ๆ ในการแข่งขันแบ่งระดับสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่การพิสูจน์ตัวเอง หรือทำให้คนนอกรู้ว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เพื่อไขข้อข้องใจให้เร็วที่สุด และไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ในเวลาเดียวกัน หลินตงและเหอเซียวเซียวกำลังวางแผนให้หานซานเฉียนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหลินตงไม่ต้องการให้ชื่อเสียงของเขาในฐานะบุตรแห่งสรวงสวรรค์ต้องสั่นคลอนเพราะหานซานเฉียน และเหอเซียวเซียวก็ต้องการให้หานซานเฉียนชดใช้กับการเมินเฉยต่อเธอแม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้ลงเรือลำเดียวกันแล้ว แต่พวกเขาก็มีเป้าหมายเหมือนกัน ดังนั้นช่วงนี้พวกเขาจึงพบกันค่อนข้างบ่อยส่วนความปรารถนาของหลินตงที่ต้องการเข้าร่วมซานเตี้ยน อี้เหล่ารู้เรื่องนี้นานแล้ว เพราะตอนนี้หลินตงไม่ได้ปกปิดเรื่องการไปซานเตี้ยนของเขาเลย“อี้เหล่า ถ้าหลินตงเข้าร่วมซานเตี้ยน มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับเรา เขาจะทำให้ซาน
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลินตงก็ยิ้มอย่างเย็นชา แต่ก็รู้สึกพอใจอยู่ในใจ เขาไม่คิดว่าผู้นำทั้งสี่ประตูจะออกหน้ารั้งเขาไว้ในเรื่องการเข้าร่วมซานเตี้ยน นี่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีอิทธิพลมากแค่ไหนในซื่อเหมินการได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะมีกันได้แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น หลินตงจะเปลี่ยนใจงั้นเหรอ?เขาจะไม่เปลี่ยนใจ เพราะเขาไม่มีวันอยู่ร่วมกันกับคนอย่างหานซานเฉียนเด็ดขาด“ผมจะไม่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับขยะ และหากต้องการให้ผมเปลี่ยนใจ เว้นเสียแต่อี้เหล่าจะไล่เขาออกไปจากเทียนฉี” หลินตงพูดอย่างเย็นชาไล่หานซานเฉียนออกจากเทียนฉีอย่างนั้นเหรอ!สีหน้าของผู้นำทั้งสี่ประตูเปลี่ยนไปอย่างมาก ทุกคนในเทียนฉีรู้ว่าอี้เหล่ายอมรับลูกศิษย์แล้ว แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะขับไล่หานซานเฉียนออกจากเทียนฉี หากทำแบบนั้นไม่เพียงแต่เป็นการตบหน้าอี้เหล่า แต่ทั้งซื่อเหมินก็จะถูกซานเตี้ยนหัวเราะเยาะด้วยเช่นกัน“หลินตง นายเติบโตในซื่อเหมิน และซื่อเหมินก็ทำให้นายมีทุกวันนี้ นายคิดจะทรยศซื่อเหมินจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”“ใช่ ที่นายมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะการฝึกฝนของซื่อเหมิน”