คำพูดของหานซานเฉียนทำให้ชายหนุ่มหัวเราะ ตามความคิดของชายหนุ่ม เขาเป็นเพียงคนพิการ ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว เขานั่งอยู่ในรถเข็นจะมีความสามารถแค่ไหนกัน?เหตุผลที่พี่ใหญ่โจวเปลี่ยนท่าทีของเขาต่อหานซานเฉียนก่อนหน้านี้ ก็เพราะว่าหัวหน้าโจวเห็นจำนวนเงินของหานซานเฉียน และเนื่องจากพี่ใหญ่โจวอยู่ในสังคมมานานหลายปี เขาจึงมองออกว่าออร่าของหานซานเฉียนออกว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาแต่สำหรับชายหนุ่มที่ยังไม่รู้จักโลกมากพอ จะสังเกตเห็นภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาของหานซานเฉียนได้อย่างไร เขาเห็นแค่เงิน และเขาต้องการเงินจากหานซานเฉียนเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่คิดมากเกินไป“คนพิการ นายนี่กล้าไม่น้อยเลย ฉันแนะนำให้นายรีบควักเงินออกมาจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องเจ็บปวด” ชายหนุ่มพูดอย่างเหยียดหยาม“ในเมื่อนายไม่จักสำนึกบุญคุณคน งั้นฉันก็จะสั่งสอนแทนพ่อแม่ของนายเอง” หานซานเฉียนพูดเสียงเรียบชายหนุ่มหรี่ตาลง เขาไม่เคยมีความคิดสำนึกบุญคุณอะไรนี่เลย “ในเมื่อนายอยากเจ็บตัวเอง งั้นก็อย่ามาโทษฉัน” หลังจากชายหนุ่มพูดจบ เขาก็เดินไปหาหานซานเฉียอย่างไม่เกรงกลัวแม้ว่าตอนนี้หานซานเฉียนจะมีการเคลื่อนไหวที่จำกัด แต่การจัดการกับผู้ชายหน้า
เมื่อหานซานเฉียนหยุด เหยียนหวี่ที่เดินตามาจากระยะไกลก็หยุดด้วยเช่นกัน ท่าทางที่อยากจะพึ่งพาเขาแบบนี้ทำให้หานซานเฉียนทำตัวไม่ถูก“เธอตามฉันมาทำไม?” หานซานเฉียนอดไม่ได้ที่จะถามเหยียนหวี่“เมื่อกี้ฉันช่วยคุณพูดแบบนั้นแล้ว คงอยู่กับพวกเขาไม่ได้อีกแล้ว” เหยียนหวี่กล่าว“แล้วทำไมไม่กลับบ้านไปหาพ่อแม่ล่ะ?” หานซานเฉียนถาม“พวกเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสองปีที่แล้ว และฉันไม่มีบ้าน” เหยียนหวี่กล่าวหานซานเฉียนขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าเหยียนหวี่จะมีประสบการณ์แบบนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะมีเหตุผลของตัวเองในการออกไปอยู่กับคนกลุ่มนั้น“นี่คือเหตุผลที่เธอติดตามพวกเขางั้นเหรอ?” หานซานเฉียนถาม"ใช่ค่ะ" หลังจากที่เหยียนหวี่พยักหน้า เธอก็ไม่เงยหน้าขึ้นมาอีก หานซานเฉียนมองไม่เห็นสีหน้าของเธอ แต่เขาเห็นว่าร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อย ดูเหมือนเธอจะเจ็บปวดอย่างมาก“ทำไม?” สัญชาตญาณของหานซานเฉียนบอกเขาว่าเหยียนหวี่ไม่ใช่คนไม่ดี และมีเหตุผลที่ต้องติดตามคนเหล่านั้น เหตุผลนี้อาจเป็นเพราะเธอไม่มีที่อยู่อาศัย และเพื่อหาเลี้ยงชีพ หรืออาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับพ่อแม่ของเธอ“อีกฝ่ายเมาแล้วขับ แต่ครอบครัวเขาร
หานซานเฉียนยื่นมือออกไป และจับมือของเหยียนหวี่เพื่อปลอบเธอเหยียนหวี่ตกใจมากจนมือสั่น แต่เธอก็ไม่ได้ถอยมือกลับและพูดต่อว่า "พวกเขาเสียชีวิตก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นคนทำผิดก็ปรากฏตัวขึ้น เขาบอกฉันว่าตราบใดที่เก็บเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เขาก็จะให้เงินฉัน แต่ฉันไม่ยอม แล้วลูกชายของเขาก็มาขู่ฉันว่าถ้าฉันกล้าก่อปัญหา เขาจะให้คนมาฆ่าฉัน"เหยียนหวี่สั่นไปทั้งตัว ราวกับว่าเธอได้กลับไปที่เกิดเหตุในวันนั้น“ตอนนั้นฉันกลัวมาก ไม่รู้ว่าจะทำยังไง เขาเอาแต่ขู่ฉัน ฉันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอม ต่อมาลูกชายของเขาก็มาหาฉันพร้อมเงิน แต่เขาขอให้ฉันนอนกับเขา ก่อนที่เขาจะให้เงินฉัน ฉันไม่ยอม เขาก็เลยทุบตีฉันและจากไปพร้อมเงิน แถมเขายังทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ถ้าต้องการเงินก็ให้ไปหาเขา”ดวงตาของหานซานเฉียนเย็นชาและเต็มไปด้วยแรงสังหาร“กินข้าวกันเถอะ” หานซานเฉียนกล่าวเหยียนหวี่สูญเสียความอยากอาหาร ด้วยอารมณ์ปัจจุบัน เธอกินไม่ลงด้วยซ้ำ“พี่เฉียน ฉันไม่ได้อยากไปคลุกคลีกับคนเหล่านั้น แต่ฉันไม่มีทางเลือก” เหยียนหวี่กล่าวหานซานเฉียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ สำหรับเหยียนหวี่ที่ไม่มีคนให้พึ่งพิ
คำพูดเหล่านี้ทำให้หานซานเฉียนขบขัน แน่นอนว่ามีพ่อแม่ที่ผยองมากพอ ๆ กับที่มีลูกชายที่ผยอง ทัศนคติที่เย่อหยิ่งของสตรีผู้สูงศักดิ์คนนี้ได้รับการถ่ายทอดไปยังหลี่ซานเฟิงอย่างสมบูรณ์ตอนนั้นเอง หญิงผู้สูงศักดิ์คนนี้ก็สังเกตได้ว่าเหยียนหวี่ดูหน้าคุ้น ๆ จึงขมวดคิ้วและถามว่า "สาวน้อย ฉันเหมือนจะเคยเจอเธอที่ไหนสักแห่ง"เหยียนหวี่ก้มศีรษะลง ไม่กล้าสบตาหญิงสาวคนนั้นหานซานเฉียนกล่าวว่า "เมื่อสองปีที่แล้ว สามีของคุณประสบอุบัติเหตุขณะเมา และพ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิต"เมื่อได้ยินเช่นนี้ หญิงผู้สูงศักดิ์ก็ไม่ได้กังวลอะไรเลย กลับแสดงรอยยิ้มเหยียดหยามและพูดว่า "ที่แท้ก็สาวน้อยที่สมควรตายนี่เอง ทำไม วันนี้อยากมาที่นี่เพื่อล้างแค้นให้พ่อแม่ของเธอง้นเหรอ? จะหาคนมาช่วยก็ช่วยหาให้มันดี ๆ หน่อย เธอดูถูกตระกูลหลี่ของฉันมากเกินไปแล้ว”พูดจบ ผู้หญิงคนนั้นก็ยกมือขึ้น ราวกับว่าเธอต้องการสั่งสอนบทเรียนให้กับเหยียนหวี่ด้วยสายตาและมือที่รวดเร็ว หานซานเฉียนหยุดพฤติกรรมของสตรีผู้สูงศักดิ์กลางอากาศหานซานเฉียนบีบข้อมือของผู้หญิงคนนั้นและพูดอย่างเย็นชา "มีราคาที่ต้องจ่ายสำหรับความเย่อหยิ่ง คุณจะแบกรับมันไหวไหม?"น
หลี่ซานเฟิงก็เสียใจมากเช่นกัน เขาไม่คิดเลยว่าสองปีผ่านไปเหยียนหวี่จะหาผู้สนับสนุนแบบนี้ได้ หากหลี่ซานเฟิงได้รับโอกาสให้ย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะมอบเงินให้กับเหยียนหวี่อย่างซื่อสัตย์ และจะไม่กล้าที่จะมีเจตนาร้ายต่อเหยียนหวี่เลยด้วย แต่น่าเสียดายที่มันสายเกินไปแล้วหลังจากที่ถูกพ่อของเขาทุบตีอย่างรุนแรง หลี่ซานเฟิงก็คุกเข่าต่อหน้าหานซานเฉียน ชายผู้โหดเหี้ยมที่สามารถบังคับให้หานเทียนเซิงออกจากพื้นที่เขตจีนได้คนนี้ เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดที่จะมีปัญหาด้วย“พี่ซานเฉียน ผมเลอะเลือนไปชั่วขณะ ถ้าเหยียนหวี่ต้องการสิ่งตอบแทน ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้เธอพอใจ” หลี่ซานเฟิงก้มศีรษะลง และพูดด้วยความเคารพเมื่อเห็นฉากนี้ เหยียนหวี่ก็หายใจเข้าลึก ตระกูลหลี่ที่หยิ่งยโสก็มีวันนี้ด้วยเช่นกัน เธอใฝ่ฝันที่จะแก้แค้นมาโดยตลอด แต่เธอไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงในลักษณะนี้ เธอไม่ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เธอได้พบกับหานซานเฉียน เพราะเธอไม่เคยเชื่อเรื่องพระเจ้า ในใจของเธอตอนนี้ หานซานเฉียนก็คือพระเจ้า“นายเคยได้ยินคำพูดนี้ ฆ่าคนก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต” หานซานเฉียนพูดนิ่ง ๆสีหน้าของทั้งสามคนในตระกูลหลี่เปลี่ยนไปอย่างมา
แม้ว่าหานซานเฉียนจะทำผลงานได้อย่างเหลือเชื่อในพื้นที่เขตจีน แต่ในมุมมองของหม่าเฟยห่าว เขาสามารถทำทั้งหมดนี้ได้ไม่เพียงเพราะความกล้าหาญของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะโชคของเขาด้วย เพราะถ้าไม่ใช่เพราะหม่าอวี้ลุงของเขามาถึงทันเวลา หานซานเฉียนคงตายด้วยน้ำมือของหานเซี่ยวไปแล้วสำหรับหม่าเฟยห่าว หานซานเฉียนจริง ๆ แล้วเป็นเพียงผู้ชายที่บ้าบิ่น แต่ตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจถึงด้านที่โหดเหี้ยมของหานซานเฉียนแล้ว และในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าการเผชิญหน้ากับหานซานเฉียนนั้นมีความเสี่ยงสูงเพียงใด"ครับ" หม่าเฟยห่าวพยักหน้า จากนั้นก็ทำตามที่หานซานเฉียนบอกหานซานเฉียนพาเหยียนหวี่ไปนั่งบนอัฒจันทร์เหยียนหวี่ในขณะนี้ แม้ว่าเธอกำลังจะได้แก้แค้นแล้ว แต่ในใจเธอกลับรู้สึกหวาดกลัวมาก การที่ต้องการจะแก้แค้น ไม่ได้หมายความว่าเมื่อวันนั้นมาถึงเธอจะยอมรับมันได้อย่างใจเย็นจริง ๆ เพราะเธอเป็นเพียงเด็กสาวตัวเล็ก ๆ หากเธอต้องเผชิญกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่น่าสลดใจนี้อีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นศัตรูของเธอก็ตาม แต่เธอก็ยังคงหวาดกลัวอยู่ดี“กลัวเหรอ?” หานซานเฉียนถามเหยียนหวี่เหยียนหวี่ก้มศีรษะลงไม่กล้าตอบหานซานเฉียนพูดข
แม้ว่าหลายคนจะได้เห็นเหตุการณ์บนสนามแข่ง แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ดำเนินต่อ เพราะมันเกี่ยวข้องกับหานซานเฉียน และไม่มีใครอยากนำไฟนี้มาสู่ตัวเอง ดังนั้นการแพร่กระจายจึงน้อยมาก มีการลือกันในหมู่ตระกูลชนชั้นสูงอันดับต้น ๆ เท่านั้น และไม่มีใครกล้านำข่าวนี้ไปพูดกับคนนอกการเสียชีวิตของพ่อแม่ตระกูลหลี่กลายเป็นรายงานอุบัติเหตุทางรถยนต์ตามปกติ และไม่มีใครกล้าเจาะลึกเบื้องหลังเหตุการณ์นี้เหยียนหวี่ผู้ได้ล้างแค้น จู่ ๆ ก็แต่งตัวเซ็กซี่และมาปรากฏตัวต่อหน้าหานซานเฉียน ไม่มีการแต่งหน้าที่หนาเตอะ และชุดแหวกแนวก็จางหายไป และเธอก็ดูเป็นสาวมากขึ้น“เธอจะทำอะไร?” หานซานเฉียนถามเหยียนหวี่อย่างสงสัย“ฉันต้องการตอบแทนคุณ” เหยียนหวี่ก้มศีรษะลงแล้วพูดด้วยแก้มแดงเล็กน้อยแม้ว่าคำพูดจะไม่ชัดเจน แต่หานซานเฉียนก็เข้าใจได้ว่าเหยียนหวี่ต้องการทำอะไร ในใจของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ นี้ เธอไม่สามารถคิดหาวิธีอื่นได้นอกจากการตอบแทนหานซานเฉียนด้วยวิธีนี้สินะ“ฉันจัดเตรียมงานให้เธอแล้ว หากเธอสามารถทำงานได้อย่างขยันขันแข็ง มันจะเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับฉัน” หานซานเฉียนกล่าวทันใดนั้น เหยียนหวี่ก็ดึงไหล่เสื้อของเธอลง เ
คำพูดของหนานกงซุนล้วนแล้วแต่เป็นเพียการโม้ทั้งสิ้น เขาไม่เพียงแต่ไม่มีความสามารถในการฆ่าหานซานเฉียนถึงได้มาหาหลี่ซานเฟิงเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะว่าเขากลัวว่าตัวเองจะตาย หากเกิดข้อผิดพลาดด้วย สำหรับหนานกงซุน ทุกย่างก้าวเป็นอันตรายถึงชีวิต เพราะหนานกงป๋อหลิงไม่ได้สนใจชีวิตของเขาอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ระมัดระวังอย่างมาก ถึงจะสามารถฆ่าหานซานเฉียนได้โดยที่ตัวเขาเองยังปลอดภัยแต่น่าเสียดายที่หลี่ซานเฟิงไม่รู้เรื่องนี้ เขาถูกความโกรธครอบงำและต้องการแก้แค้น และการปรากฏตัวของหนานกงซุนก็เหมือนโอกาสที่ตกลงมาจากฟากฟ้า หลี่ซานเฟิงคิดว่าถ้าเขาไม่รีบคว้าโอกาสนี้ไว้ เขาจะไม่มีโอกาสได้แก้แค้นอีก และไม่มีโอกาสพลิกฟื้นกลับคืนมาตลอดกาล “ผมต้องทำยังไง?” หลี่ซานเฟิงถามหนานกงซุนยิ้มเบา ๆ ดูเหมือนว่าหลี่ซานเฟิงจะเชื่อคำพูดของเขา ซึ่งมันดีมาก เพราะการมีหุ่นเชิดใช้ช่วยลดความเสี่ยงของเขาได้อย่างมากเลยทีเดียว“ฉี๋อีหยุน” หนานกงซุนกล่าวหลี่ซานเฟิงขมวดคิ้วและถามว่า "คุณหมายถึงอะไร? เรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับฉี๋อีหยุนหรือเปล่า?"“นายไม่รู้เหรอว่าผู้หญิงคนนี้อาศัยอยู่กับหานซานเฉียน พวกเขามีความสัม
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ