หานซานเฉียนวางโทรศัพท์ลง และฉี๋อีหยุนก็เดินเข้ามาหาเขา เธอมองโทรศัพท์ที่ผิดรูป และอดไม่ได้ที่จะถามว่า "อะไรทำให้คุณโกรธขนาดนี้?"หานซานเฉียนหายใจเข้าลึก เขาเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดีมาก แต่ในขณะนี้แค่นึกถึงชื่อของเจี่ยงหลาน ความโกรธในใจของเขาก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และเขาก็ไม่สามารถควบคุมมันได้เลยหานซานเฉียนมีเหตุผลมากมายที่จะฆ่าเจี่ยงหลาน แต่เนื่องจากเธอเป็นแม่ของซูหยิงเซี่ย หานซานเฉียนจึงปล่อยเธอไป เขาคิดว่าเธอจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะทำเรื่องเลวร้ายกับหานเนี่ยนมีเพียงหานซานเฉียนเท่านั้นที่รู้ว่าเขารู้สึกนึกเสียใจมากแค่ไหนในขณะนี้ หากได้รับโอกาสอีกครั้ง เขาจะฆ่าเจี่ยงหลานโดยไม่ลังเลอย่างแน่นอน!“ไม่มีอะไรหรอก” หานซานเฉียนพูดนิ่ง ๆฉี๋อีหยุนสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของหานซานเฉียนอย่างชัดเจน เขาพยายามระงับความโกรธของตัวเอง สิ่งที่ทำให้เขาโกรธได้มากขนาดนี้จะต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับซูหยิงเซี่ยและหานเนี่ยนแน่ ๆ เพราะมีเพียงสองคนนี้เท่านั้นที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับหานซานเฉียน“หยิงเซี่ย หรือว่าลูกสาวของคุณ?” ฉี๋อีหยุนยังคงถามต่อไปหานซานเฉียนหันศี
“ฉันเป็นหนี้นายเท่าไหร่?” หานซานเฉียนถามพี่ใหญ่โจวคิดว่ามันตลกเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เขายิ้มขบขัน คงจะดีถ้าได้เงินคืน เพราะขยะพวกนี้จะต่อยตีไปก็ไม่มีความหมาย“สามหมื่นเหรียญ นายมีคืนไหม?” พี่ใหญ่โจวกล่าว“ฉันไม่มีเงินสดติดตัวมากขนาดนั้น” ขณะที่พูด หานซานเชียนก็หยิบบัตรเครดิตออกมาแล้วพูดว่า "รหัสผ่านคือ 123456 นายใช้คนไปกดก็แล้วกัน"พี่ใหญ่โจวขมวดคิ้ว รู้สึกเหมือนตัวเองถูกหลอกผู้ชายคนนี้ดูไม่เหมือนคนรวย และพี่ใหญ่โจวก็มั่นใจว่าเขาไม่ใช่พี่ชายของเด็กหญิงตัวเล็กนี่แน่นอน ยอมคืนเงินสามหมื่นเหรียญทันที เขารวยหรือคุยโม้กันแน่?ที่สำคัญถ้าเขามีเงินในบัตรจริง จะกล้าให้บัตรกับเขาโดยตรงแบบนี้เหรอ? ไม่กลัวว่าเขาจะถอนเงินออกจากบัตรทั้งหมดหรือไง?“นายล้อเล่นเหรอ หากมีเงินในบัตรจริง นายจะกล้าให้ฉันง่าย ๆ แบบนี้ ไม่กลัวว่าฉันจะถอนมันออกมาทั้งหมดเหรอ?” พี่ใหญ่โจวกล่าว"นายกล้าเหรอ?" หานซานเฉียนยิ้มเบา ๆ และมองตรงไปที่พี่ใหญ่โจวหัวใจของพี่ใหญ่โจวเต้นผิดจังหวะผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่งานธรรมดา ที่สำคัญกว่านั้น ออร่าของเขาแข็งแกร่งมาก จนแม้แต่พี่ใหญ่โจวก็ยังรู้สึกทำตั
คำพูดของหานซานเฉียนทำให้ชายหนุ่มหัวเราะ ตามความคิดของชายหนุ่ม เขาเป็นเพียงคนพิการ ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว เขานั่งอยู่ในรถเข็นจะมีความสามารถแค่ไหนกัน?เหตุผลที่พี่ใหญ่โจวเปลี่ยนท่าทีของเขาต่อหานซานเฉียนก่อนหน้านี้ ก็เพราะว่าหัวหน้าโจวเห็นจำนวนเงินของหานซานเฉียน และเนื่องจากพี่ใหญ่โจวอยู่ในสังคมมานานหลายปี เขาจึงมองออกว่าออร่าของหานซานเฉียนออกว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาแต่สำหรับชายหนุ่มที่ยังไม่รู้จักโลกมากพอ จะสังเกตเห็นภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาของหานซานเฉียนได้อย่างไร เขาเห็นแค่เงิน และเขาต้องการเงินจากหานซานเฉียนเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่คิดมากเกินไป“คนพิการ นายนี่กล้าไม่น้อยเลย ฉันแนะนำให้นายรีบควักเงินออกมาจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องเจ็บปวด” ชายหนุ่มพูดอย่างเหยียดหยาม“ในเมื่อนายไม่จักสำนึกบุญคุณคน งั้นฉันก็จะสั่งสอนแทนพ่อแม่ของนายเอง” หานซานเฉียนพูดเสียงเรียบชายหนุ่มหรี่ตาลง เขาไม่เคยมีความคิดสำนึกบุญคุณอะไรนี่เลย “ในเมื่อนายอยากเจ็บตัวเอง งั้นก็อย่ามาโทษฉัน” หลังจากชายหนุ่มพูดจบ เขาก็เดินไปหาหานซานเฉียอย่างไม่เกรงกลัวแม้ว่าตอนนี้หานซานเฉียนจะมีการเคลื่อนไหวที่จำกัด แต่การจัดการกับผู้ชายหน้า
เมื่อหานซานเฉียนหยุด เหยียนหวี่ที่เดินตามาจากระยะไกลก็หยุดด้วยเช่นกัน ท่าทางที่อยากจะพึ่งพาเขาแบบนี้ทำให้หานซานเฉียนทำตัวไม่ถูก“เธอตามฉันมาทำไม?” หานซานเฉียนอดไม่ได้ที่จะถามเหยียนหวี่“เมื่อกี้ฉันช่วยคุณพูดแบบนั้นแล้ว คงอยู่กับพวกเขาไม่ได้อีกแล้ว” เหยียนหวี่กล่าว“แล้วทำไมไม่กลับบ้านไปหาพ่อแม่ล่ะ?” หานซานเฉียนถาม“พวกเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสองปีที่แล้ว และฉันไม่มีบ้าน” เหยียนหวี่กล่าวหานซานเฉียนขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าเหยียนหวี่จะมีประสบการณ์แบบนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะมีเหตุผลของตัวเองในการออกไปอยู่กับคนกลุ่มนั้น“นี่คือเหตุผลที่เธอติดตามพวกเขางั้นเหรอ?” หานซานเฉียนถาม"ใช่ค่ะ" หลังจากที่เหยียนหวี่พยักหน้า เธอก็ไม่เงยหน้าขึ้นมาอีก หานซานเฉียนมองไม่เห็นสีหน้าของเธอ แต่เขาเห็นว่าร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อย ดูเหมือนเธอจะเจ็บปวดอย่างมาก“ทำไม?” สัญชาตญาณของหานซานเฉียนบอกเขาว่าเหยียนหวี่ไม่ใช่คนไม่ดี และมีเหตุผลที่ต้องติดตามคนเหล่านั้น เหตุผลนี้อาจเป็นเพราะเธอไม่มีที่อยู่อาศัย และเพื่อหาเลี้ยงชีพ หรืออาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับพ่อแม่ของเธอ“อีกฝ่ายเมาแล้วขับ แต่ครอบครัวเขาร
หานซานเฉียนยื่นมือออกไป และจับมือของเหยียนหวี่เพื่อปลอบเธอเหยียนหวี่ตกใจมากจนมือสั่น แต่เธอก็ไม่ได้ถอยมือกลับและพูดต่อว่า "พวกเขาเสียชีวิตก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นคนทำผิดก็ปรากฏตัวขึ้น เขาบอกฉันว่าตราบใดที่เก็บเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เขาก็จะให้เงินฉัน แต่ฉันไม่ยอม แล้วลูกชายของเขาก็มาขู่ฉันว่าถ้าฉันกล้าก่อปัญหา เขาจะให้คนมาฆ่าฉัน"เหยียนหวี่สั่นไปทั้งตัว ราวกับว่าเธอได้กลับไปที่เกิดเหตุในวันนั้น“ตอนนั้นฉันกลัวมาก ไม่รู้ว่าจะทำยังไง เขาเอาแต่ขู่ฉัน ฉันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอม ต่อมาลูกชายของเขาก็มาหาฉันพร้อมเงิน แต่เขาขอให้ฉันนอนกับเขา ก่อนที่เขาจะให้เงินฉัน ฉันไม่ยอม เขาก็เลยทุบตีฉันและจากไปพร้อมเงิน แถมเขายังทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ถ้าต้องการเงินก็ให้ไปหาเขา”ดวงตาของหานซานเฉียนเย็นชาและเต็มไปด้วยแรงสังหาร“กินข้าวกันเถอะ” หานซานเฉียนกล่าวเหยียนหวี่สูญเสียความอยากอาหาร ด้วยอารมณ์ปัจจุบัน เธอกินไม่ลงด้วยซ้ำ“พี่เฉียน ฉันไม่ได้อยากไปคลุกคลีกับคนเหล่านั้น แต่ฉันไม่มีทางเลือก” เหยียนหวี่กล่าวหานซานเฉียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ สำหรับเหยียนหวี่ที่ไม่มีคนให้พึ่งพิ
คำพูดเหล่านี้ทำให้หานซานเฉียนขบขัน แน่นอนว่ามีพ่อแม่ที่ผยองมากพอ ๆ กับที่มีลูกชายที่ผยอง ทัศนคติที่เย่อหยิ่งของสตรีผู้สูงศักดิ์คนนี้ได้รับการถ่ายทอดไปยังหลี่ซานเฟิงอย่างสมบูรณ์ตอนนั้นเอง หญิงผู้สูงศักดิ์คนนี้ก็สังเกตได้ว่าเหยียนหวี่ดูหน้าคุ้น ๆ จึงขมวดคิ้วและถามว่า "สาวน้อย ฉันเหมือนจะเคยเจอเธอที่ไหนสักแห่ง"เหยียนหวี่ก้มศีรษะลง ไม่กล้าสบตาหญิงสาวคนนั้นหานซานเฉียนกล่าวว่า "เมื่อสองปีที่แล้ว สามีของคุณประสบอุบัติเหตุขณะเมา และพ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิต"เมื่อได้ยินเช่นนี้ หญิงผู้สูงศักดิ์ก็ไม่ได้กังวลอะไรเลย กลับแสดงรอยยิ้มเหยียดหยามและพูดว่า "ที่แท้ก็สาวน้อยที่สมควรตายนี่เอง ทำไม วันนี้อยากมาที่นี่เพื่อล้างแค้นให้พ่อแม่ของเธอง้นเหรอ? จะหาคนมาช่วยก็ช่วยหาให้มันดี ๆ หน่อย เธอดูถูกตระกูลหลี่ของฉันมากเกินไปแล้ว”พูดจบ ผู้หญิงคนนั้นก็ยกมือขึ้น ราวกับว่าเธอต้องการสั่งสอนบทเรียนให้กับเหยียนหวี่ด้วยสายตาและมือที่รวดเร็ว หานซานเฉียนหยุดพฤติกรรมของสตรีผู้สูงศักดิ์กลางอากาศหานซานเฉียนบีบข้อมือของผู้หญิงคนนั้นและพูดอย่างเย็นชา "มีราคาที่ต้องจ่ายสำหรับความเย่อหยิ่ง คุณจะแบกรับมันไหวไหม?"น
หลี่ซานเฟิงก็เสียใจมากเช่นกัน เขาไม่คิดเลยว่าสองปีผ่านไปเหยียนหวี่จะหาผู้สนับสนุนแบบนี้ได้ หากหลี่ซานเฟิงได้รับโอกาสให้ย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะมอบเงินให้กับเหยียนหวี่อย่างซื่อสัตย์ และจะไม่กล้าที่จะมีเจตนาร้ายต่อเหยียนหวี่เลยด้วย แต่น่าเสียดายที่มันสายเกินไปแล้วหลังจากที่ถูกพ่อของเขาทุบตีอย่างรุนแรง หลี่ซานเฟิงก็คุกเข่าต่อหน้าหานซานเฉียน ชายผู้โหดเหี้ยมที่สามารถบังคับให้หานเทียนเซิงออกจากพื้นที่เขตจีนได้คนนี้ เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดที่จะมีปัญหาด้วย“พี่ซานเฉียน ผมเลอะเลือนไปชั่วขณะ ถ้าเหยียนหวี่ต้องการสิ่งตอบแทน ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้เธอพอใจ” หลี่ซานเฟิงก้มศีรษะลง และพูดด้วยความเคารพเมื่อเห็นฉากนี้ เหยียนหวี่ก็หายใจเข้าลึก ตระกูลหลี่ที่หยิ่งยโสก็มีวันนี้ด้วยเช่นกัน เธอใฝ่ฝันที่จะแก้แค้นมาโดยตลอด แต่เธอไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงในลักษณะนี้ เธอไม่ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เธอได้พบกับหานซานเฉียน เพราะเธอไม่เคยเชื่อเรื่องพระเจ้า ในใจของเธอตอนนี้ หานซานเฉียนก็คือพระเจ้า“นายเคยได้ยินคำพูดนี้ ฆ่าคนก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต” หานซานเฉียนพูดนิ่ง ๆสีหน้าของทั้งสามคนในตระกูลหลี่เปลี่ยนไปอย่างมา
แม้ว่าหานซานเฉียนจะทำผลงานได้อย่างเหลือเชื่อในพื้นที่เขตจีน แต่ในมุมมองของหม่าเฟยห่าว เขาสามารถทำทั้งหมดนี้ได้ไม่เพียงเพราะความกล้าหาญของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะโชคของเขาด้วย เพราะถ้าไม่ใช่เพราะหม่าอวี้ลุงของเขามาถึงทันเวลา หานซานเฉียนคงตายด้วยน้ำมือของหานเซี่ยวไปแล้วสำหรับหม่าเฟยห่าว หานซานเฉียนจริง ๆ แล้วเป็นเพียงผู้ชายที่บ้าบิ่น แต่ตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจถึงด้านที่โหดเหี้ยมของหานซานเฉียนแล้ว และในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าการเผชิญหน้ากับหานซานเฉียนนั้นมีความเสี่ยงสูงเพียงใด"ครับ" หม่าเฟยห่าวพยักหน้า จากนั้นก็ทำตามที่หานซานเฉียนบอกหานซานเฉียนพาเหยียนหวี่ไปนั่งบนอัฒจันทร์เหยียนหวี่ในขณะนี้ แม้ว่าเธอกำลังจะได้แก้แค้นแล้ว แต่ในใจเธอกลับรู้สึกหวาดกลัวมาก การที่ต้องการจะแก้แค้น ไม่ได้หมายความว่าเมื่อวันนั้นมาถึงเธอจะยอมรับมันได้อย่างใจเย็นจริง ๆ เพราะเธอเป็นเพียงเด็กสาวตัวเล็ก ๆ หากเธอต้องเผชิญกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่น่าสลดใจนี้อีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นศัตรูของเธอก็ตาม แต่เธอก็ยังคงหวาดกลัวอยู่ดี“กลัวเหรอ?” หานซานเฉียนถามเหยียนหวี่เหยียนหวี่ก้มศีรษะลงไม่กล้าตอบหานซานเฉียนพูดข