สายฝนเม็ดใหญ่ที่ซัดกระหน่ำลงมาไม่ต่างจากคมมีดที่กรีดลงบนผิวหนัง แต่หญิงสาวคนหนึ่งยืนรับมันด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่รู้สึกเจ็บปวดใด ๆ อาจเป็นเพราะใจของเธอในเวลานี้เจ็บปวดยิ่งกว่า เธอแหงนหน้ามองดูหยาดฝนที่หล่นร่วงลงมาจากท้องฟ้าสีหม่น ราวกับว่าเธอเป็นนางเอกในมิวสิควิดีโอเพลงเศร้าของศิลปินดัง
“นี่แม่หนู ลุงไม่รู้หรอกนะว่าแม่หนูไปเสียใจเรื่องอะไรมา แต่รีบจ่ายค่าโดยสาร แล้วรีบเข้าบ้านไปเถอะ ตากฝนนานแบบนี้เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา” เสียงของชายวัยกลางดังออกมาจากกระจกรถแท็กซี่ที่เปิดแง้ม หญิงสาวไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว แต่ฉากหลังนอกจากสายฝนแล้วยังมีรถแท็กซี่คนหนึ่งจอดอยู่ข้างกัน
“เร็วแม่หนู ค่าโดยสาร! ลุงจะได้ไปรับลูกค้าคนอื่นต่อ” สิ่งที่ตวาดย้ำของชายวัยกลางคนที่อยู่หลังพวงมาลัย เรียกสติของหญิงสาวกลับมา เธอรีบเปิดกระเป๋าตังค์ด้วยท่าทางมึน ๆ แล้วยื่นค่าโดยสารไปให้ตามจำนวนที่ลุงคนขับแท็กซี่บอก
เมื่อได้รับเงินมา รถแท็กซี่ก็เคลื่อนออกไปจากถนนเส้นนั้น เหลือไว้เพียงหญิงสาวที่ยังจมอยู่กับความสับสนกลางสายฝน เธอกวาดสายตามองดูรอบ ๆ เพื่อหาว่าเธอกำลังอยู่ที่ไหน ซึ่งก็ทำให้เธอพบกับบ้านสไตล์ลอฟท์สีปูน ดิบๆ เท่ๆ อันคุ้นเคย
“บ้านของคุณอาภูชิชย์เหรอ” ดวงตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เธอจำได้ว่าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เธอยังนั่งดื่มกับเพื่อน ๆ ที่บาร์แห่งหนึ่งอยู่เลย แต่หลังจากที่แยกย้ายกัน เธอก็จำอะไรไม่ได้แล้วมาโผล่ที่นี่แล้ว
“นานแล้วนะที่ไม่ได้แวะมาที่นี่” หญิงสาวบ่นพึมพำ ขณะกำลังนึกย้อนถึงความหลัง เธอรีบก้าวเท้าไปข้างหน้า เพราะตอนนี้ฝนที่ตกลงมาเริ่มทำให้เธอรู้สึกหนาวขึ้นมาแล้วเหมือนกัน แอลกอฮอล์ในร่างกายคงไม่สามารถสร้างความร้อนสู้กับสายฝนที่เย็นยะเยือกในตอนนี้อีกต่อไปแล้ว
เธอเปิดประตูรั้วเล็ก ๆ เข้าไป ซึ่งด้านบนเหนือซุ้มประตู ยังคงมีป้ายสีแดงเขียนเอาไว้เหมือนเดิมว่า “ไม่ใช่ร้านกาแฟ” เนื่องจากมีหลายคนเข้าใจผิดว่าบ้านของอาภูชิชย์เป็นร้านกาแฟ เนื่องจากสไตล์ตบแต่ง แถมเจ้าของบ้านยังชอบสวมเอี๊ยมเดินไปมา
“คุณอาค่ะ คุณอาภูค่ะ หนูแพรเองค่ะ เปิดประตูให้หนูหน่อย” หญิงสาวยกมือเคาะไปบนประตูไม้เก่าขัดเงา ร้องเรียกคนด้านในแข่งกับเสียงฝน เธอเคาะเรียกอยู่นานแต่ก็ไม่มีใครตอบ ถ้าให้เดาจากเสียงดนตรีแจ๊สที่ดังลอดผ่านประตูออกมา คุณอาของเธอคงนั่งจิบไวท์ เพลิดเพลินกับมองสายฝนที่สาดกระทบหน้าต่าง พร้อมกับตวัดพู่กันรังสรรค์งานศิลปะของแก แบบที่ทำทุกครั้งเมื่อฝนมา
“ฮัลโหลค่ะ.. คุณอา หนูอยู่หน้าบ้านคุณอา ช่วยลงมาเปิดประตูให้หน่อยสิคะ” หญิงสาวพูดผ่านโทรศัพท์ด้วยปากที่สั่น เพราะฝนอันหนาวเหน็บที่ซึมลึกลงไปในเสื้อผ้าที่ตัวเธอเปียกชุ่มไปหมด
“ทำไมถึงไปตากฝนมาตัวเปียกแบบนี้ล่ะหนูแพร เกิดอะไรขึ้นกัน” ชายหนุ่มวัย 43 ปี แต่ใบหน้ายังดูหนุ่มเหมือนกับคนอายุ 30 แสดงอาการตื่นตกใจออกมา
“คือว่า…” คำถามของชายหนุ่มได้นำพาความทรงจำที่หายไป เพราะความมึนเมาก่อนหน้านี้กลับมา แววตาของเธอสั่นระริก ก่อนจะทรุดตัวลงแล้วปล่อยโฮออกไป “ฮื้อ..คุณอา หนู.. หนูเลิกกับธันวาแล้ว”
“หนูเลิกกับแฟนของหนูเหรอ เอ่อ..เดี๋ยวเราค่อยคุยเรื่องนี้กันดีกว่า ตอนนี้รีบเข้ามาแล้วทำให้ตัวแห้งก่อน เดี๋ยวไม่สบายเอา” ชายหนุ่มรีบย่อตัวลงไปประคองหญิงสาวขึ้น แล้วพาเธอเข้าไปในบ้าน ก่อนจะรีบพาเธอไปนั่งแล้วหาผ้าเช็ดหัวที่เปียกให้กับเธอ
“เดี๋ยวไปอาบน้ำสระผมเลยดีกว่า เดี๋ยวอาไปหาชุดให้ น่าจะมีชุดของหนูอยู่ ไม่รู้ว่ายังใส่ได้ไหม เพราะมันก็ตั้งนานแล้วที่หนูไม่ได้แวะมา” ภูชิชย์ที่ได้ยินเสียงจามของสาวน้อย ก็รีบวางผ้าขนหนูลง แล้วตรงไปยังห้องเก็บเสื้อผ้า
“มันเล็กไปไหมคะอา นี่มันชุดตอนหนูอยู่ประถม ถ้าไม่มีชุดตอนหนูอยู่มหาลัย อย่างน้อยก็น่าจะเป็นชุดตอน ม.ปลาย สิค่ะ หนูยังแวะมานอนบ้านอาอยู่ตอนนั้น” หญิงสาวส่ายหน้า แม้เธอจะอยู่ในอาการมึนเมา แต่เธอก็ดูรู้ว่าชุดไหนใส่ได้ ใส่ไม่ได้ เพราะชุดที่อาหยิบมาให้ มันเล็กมาก มันเป็นชุดนอนลายแมวที่เธอเคยชอบใส่ตอนยังเด็ก เธอไม่คิดเลยว่ามันจะมาหลงอยู่ที่บ้านของอา
“มานอนก็จริง แต่หนูซักเสื้อผ้าเอง เพราะเป็นสาวแล้วเลยไม่น่าจะมีชุดตอน ม.ปลายอยู่ที่นี่ แต่เดี๋ยวอาจะลองไปหาดู” หนุ่มศิลปะตรงเข้าไปห้องเก็บเสื้อผ้าอีกรอบ เขาสร้างมันเอาไว้ด้านล่าง เพราะขี้เกียจเดินขึ้นลง เนื่องจากเขาขึ้นไปนอนบนห้องน้อยมาก ส่วนมากที่นอนหลักของเขาคือโซฟา พอเสร็จจากงานเขามักจะทิ้งตัวลงนอนหลับไปในทันที
“งั้นนี่ล่ะ พอได้ไหม มันน่าจะใหญ่สุดแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยพลางกางเสื้อกล้ามใส่นอนสีขาวออกมา
“ใหญ่ แต่ว่ามันใหญ่เกินไป ตัวนี้มันของยัยครีม นี่เพื่อนหนูลืมชุดไว้ที่นี่เหรอ ตอนมาค้างคราวนั้น” ดวงตาที่เมามายของหญิงสาวขยายออก และมองเสื้อกล้ามสีขาวตัวนั้น มันเป็นชุดใส่นอนของยัยครีมหญิงสาวรูปร่างอวบเพื่อนสนิท ตอน ม.ปลายของเธอ
“ไม่รู้สิ อาจำไม่ได้เหมือนกัน อาเจอมันในเครื่องซัก เห็นว่าเป็นชุดผู้หญิงเลยคิดว่าเป็นของหนู อาเลยเก็บเอาไว้ให้ ว่าแต่ใส่มันได้ใช่ไหม”
“ใส่ได้สิ แต่ว่ามันตัวใหญ่ แล้วหนูก็ไม่มีเสื้อในด้วย” หญิงสาวแสดงความกังวล
“ไม่เป็นไรหรอกมั้ง อาเห็นแพรตั้งแต่ยังเด็ก จะไปคิดอะไรไม่ดีแบบนั้นได้ยังไง” ชายหนุ่มยิ้มตอบอย่างเอ็นดู
“ใช่สิ.. หนูมันคนไม่มีเสน่ห์ หนูเป็นคนที่ไม่น่าสนใจ เพราะแบบนี้ไง ธันวาถึงทิ้งหนูไปหาคนอื่น” ริมฝีปากของแพรวสั่นระริก ดวงตาของเธอแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้ออกมาอีกรอบ
“เดี๋ยว ๆ .. อะไรของหนูเนี่ย มันคนละเรื่องกัน อาเป็นเพื่อนพ่อของหนูจะมองหนูในแง่นั้นได้ยังไง”
“มันเรื่องเดียวกันค่ะ หนูมันคนไม่มีเสน่ห์ ถึงหนูจะแก้ผ้า อาก็ไม่สนใจหนู” แพรพูดพลางจับไปที่ชายเสื้อครอปสีดำของเธอแล้วถอดมันออกในคราวเดียว
“แพรว! นี่หนูทำอะไรของหนูนิ” ภูชิชย์ตวาดเสียงเข้ม เมื่อเห็นหญิงสาวเหลือเพียงบราเซียตัวน้อย เผยให้เห็นผิวที่ขาวดั่งไขมุกของเธอ
“หนูไม่ได้ทำอะไร! หนูก็แค่ถอดชุดจะไปอาบน้ำ” เธอตอบกลับพลางคว้าไปที่เสื้อกล้ามสีขาวและกางขาสั้นสีเดียวกันในมือของคุณอาของเธอ
“ก็ไปถอดในห้องน้ำสิ” เขายังคงทำเสียงเข้มใส่หญิงสาวที่กำลังตรงไปที่ประตูเหล็กที่มีสัญลักษณ์ห้องน้ำแบบวาดมือ
“ทำไมล่ะ อาไม่ได้มองหนูเป็นผู้หญิงสักหน่อยนิ” พูดจบหญิงสาวกดปลดกระดุมกระโปรงยีนที่ใส่แล้วดึงมันลงมา
“แพร!” ภูชิชย์แผดเสียงดังมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับหันหน้าหนี หญิงสาวที่เหลือเพียงกางเกงในตัวน้อย
“หนูถอดเสื้อในกับกางเกงในแล้วด้วยนะคะอา!” เสียงที่ยียวนตะโกนก้องมาจากหน้าห้องน้ำ “ถ้าอาไม่คิดอะไรกับหนูจริง ๆ ทำไมไม่หันมามองตอนนี้เลยนะ หันมาดูว่าหนูยังเป็นเด็กน้อยของอาอยู่หรือเปล่า”
“แพร! หยุดเลยนะ!! ถ้าเข้ามาใกล้กว่านี้ อาจะโทรบอกไอ้พงษ์ว่าแพรทำตัวแบบนี้” ชายหนุ่มเอ่ยพลางรีบยกโทรศัพท์ขึ้นมา เมื่อเห็นเสียงของคนที่อยู่หน้าห้องน้ำกลับเดินกลับมาหาเขา
“เชอะ! คุณอาขี้ฟ้อง มีอะไรก็จะฟ้องพ่อหนูตลอดไม่เปลี่ยน” หญิงสาวตวัดเสียงใส่ก่อนจะหันกลับ เมื่อเสียงฝีเท้าหายไป และประตูห้องน้ำปิดลง ภูชิชย์ถึงหันกลับไปได้อีกครั้ง
“ยัยเด็กดื้อคนนี้! ยังชอบเอาชนะไม่เปลี่ยน” เขาบ่นพึมพำ ขณะตามเก็บเสื้อผ้าของหญิงสาวที่กองอยู่ตรงพื้นไปจนถึงหน้าห้องน้ำ
“ห้ามเอากางเกงหนูไปดมนะอาภู มันเปียกแนบเนื้อหนูอาจมีกลิ่น!”
“ยัยแพร!” ชายหนุ่มตะเบ็งเสียงใส่คนในห้องน้ำ มือที่หยิบกางเกงในเปียก ๆ ของหญิงสาวขึ้นมาเริ่มเกิดความลังเล..
กลิ่นหอมของแชมพูพวยพุ่งออกมาจากห้องน้ำ เมื่อหญิงสาวเลื่อนประตูเหล็กออกมา ในตอนนี้เธอสวมเสื้อกล้ามสีขาวที่ค่อนข้างหลวมกับกางเกงขาสั้นสีเดียวกัน มันเป็นอะไรที่ใส่สบายแต่ก็รู้สึกหวิว ๆ อยู่เหมือนกันหญิงสาวเช็ดผมที่ยังคงเปียกชื้นไปพร้อมกับย่ำเท้าก้าวเดินตามเสียงเพลงแจ๊สที่แว่วมา เสียงของแซกโซโฟนแสนหวานที่ตัดกับเสียงฝนที่กระหน่ำดังจากด้านนอก ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและโรแมนติก เธอเคลื่อนไหวไปพร้อมกับเสียงดับเบิ้ลเบสที่ทุ้มต่ำเป็นจังหวะได้ไม่นานในที่สุดก็เดินมาถึงพื้นที่ทำงานของคุณอาภูชิชย์ในที่สุด“มาแล้วเหรอยัยตัวแสบ” ชายหนุ่มใบหน้าคมหยุดขยับพู่กันของเขาและหันไปหาเจ้าของเสียงเท้าที่ก้าวเข้ามา“ตัวแสบอะไร หนูออกจะน่ารัก” เธอตอบกับด้วยน้ำเสียงทะเล้น ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งลงบนโซฟาแสนนุ่มนิ่ม “ว่าแต่คุณอาได้แอบดมกางเกงในของหนูไหมคะ” เธอใช้สองมือประสานกันใต้คาง พร้อมกับส่งสายตาแบบลูกแมวน้อยจอมซน“ดมสิ กลิ่นยังกับปลาเค็ม ทำไมไม่ดูแลทำความสะอาดหน่อย”“คุณอา!” หญิงสาวตะเบ็งพร้อมกับตวัดสายตาใส่แผ่นหลังของศิลปินหนุ่มที่กำลังขยับพู่กัน“ไม่ต้องมาทำงอนเลย แพรล้ออาเล่นก่อนเองนะ” ชายหนุ่มหันไปตอบกลับหญิงสาว
“ไม่อาว…หนูยังเล่าไม่จบเลย นี่พึ่งเป็นการจับได้คาหนังคาเขาครั้งที่ 6 ยังเหลืออีกตั้ง 4 ครั้ง” หญิงสาวที่ท่าทางเมาหนักยังคงส่ายหน้าปฏิเสธ“อาว่าหนูควรเลิกกับมัน ตั้งแต่จับได้ครั้งที่ 2 แล้ว หนูให้โอกาสบ้าอะไรถึง 10 ครั้ง” ชายหนุ่มตอบกลับก่อนจิ้มเนื้อทอดชิ้นเล็กเข้าปาก แล้วจิบไวน์ที่เหลือก้นแก้วตาม ตอนนี้เขาได้หยุดวาดรูป และมานั่งดื่มปลอบใจเป็นเพื่อนแทน“ก็มันตั้ง 4 ปี หนูคบกับมันมาตั้ง 4 ปี จะให้เลิกเลยมันก็ยังไงอยู่”“ขนาดอาอยู่ข้างหนูมาตั้ง 18 ปี หนูยังทิ้งอาได้เลย นับภาษาอะไรกับ 4 ปี”“คุณอา..!” คำพูดตัดพ้อเชิงขบขันที่อีกฝ่ายพูดออกมา มันเสียดลึกในใจของแพรมาก “ฮื้อ..คุณอาหนูขอโทษ หนูขอโทษที่เห็นผู้ชายดีกว่าอา”“อาแค่ล้อเล่นนะแพร อย่าคิดมาก อารู้ดีว่าหนูต้องมีเพื่อนมีสังคมของหนู แล้วก็นั่งมันให้ดี ๆ หน่อย” ชายหนุ่มเอ่ยเตือน เพราะการบิดไปมาของหญิงสาวมันทำให้เสียงของเธอดึงรั้งและเห็นเนินเนื้อขาว ๆ ที่แกว่งไปมา“อาเตือนหนูหลายรอบแล้ว หนูว่าหนูควรถอดมันให้จบ ๆ ไปไหม นมจะได้ไม่โผล่อีก แต่เห็นทั้งหมดเลย” เธอเอ่ยพลางดึงชาเสื้อของเธอขึ้นจนเห็นครึ่งหนึ่งของสิ่งที่กลมกลึง“ทำบ้าอะไรของหนูนิแพร”
“เข้าใจค่ะ หนูไม่ได้จะขออะไรแปลก ๆ แล้ว แต่แค่อยากถามว่าอาแข็งไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยถามสิ่งที่ตัวเองสงสัย เนื่องจากตอนนี้เธอกำลังเปลือยกายอยู่บนโซฟา เธออยากรู้ว่าคุณอาคิดเห็นยังไงกับรูปร่างของเธอ เธออยากรู้ว่ามันพอจะกระตุ้นอารมณ์ของเขาได้บ้างไหม“แพร!” ชายหนุ่มตวาดเสียงดุใส่ เพราะสาวน้อยคนนี้ดูเหมือนจะกวนเขาไม่เลิก เรื่องราวมันเริ่มเลยเถิดมาไกลแล้ว ตั้งแต่เธอถอดเสื้อผ้าแล้วขอให้เขาวาดภาพนู้ดให้แล้ว“หนูก็แค่อยากรู้เองว่า เด็กสาวที่คุณอาเห็นมาตั้งแต่ยังเด็ก จะทำให้คุณอาแข็งได้ไหม”“แข็งจบไหม ตอนนี้มันแข็งดันกางเกงจนอึดอัดแล้ว พอใจหรือยัง” ภูชิชย์หยุดการหยอกล้อด้วยการตอบความจริง เผื่อหวังว่าเธอจะเลิกแกล้งเขา แต่ผลลัพธ์มันตรงกันข้าม เพราะอีกฝ่ายดันบอกสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองเหมือนกัน“หนูก็เหมือนกันค่ะ ตอนนี้ชื้น ๆ ตรงนั้นมาก มันรู้สึกเขินหวิว ๆ แปลก ๆ”“แพร! ถ้ายังพูดเล่นแบบนี้อีก อาจะไม่วาดให้แล้วนะ” ชายหนุ่มตวาดเสียงดุใส่ แต่สายตากลับทำตรงกันข้าม เขาจ้องมองไปที่เนินนูนซึ่งถูกต้นขาปิดเอาไว้ตามสัญชาตญาณ ก่อนอีกอึดใจต่อมาเขาจะรู้ตัว และรีบหันหน้ากลับมาแต่ถึงอย่างนั้นภายในหัวของเขาก็ยังจินตน
หลังจากแนะนำจัดท่าทางอยู่เล็กน้อย ภูชิชย์ก็เริ่มร่างภาพเปลือยของลูกสาวเพื่อน แม้จะตะขิดตะขวงใจอยู่หน่อย ๆ แต่เขาก็ได้เริ่มวาดมันไปแล้ว เพราะความรู้สึกของศิลปินมันบอกเขาว่า นี่จะเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีของเขาภูชิชย์เริ่มขยับดินสอร่างเส้นอย่างลื่นไหล เขาเน้นย้ำเส้นโค้งของสะโพกและหน้าอกของเธอ สร้างความรู้สึกเคลื่อนไหวและความเย้ายวนใจ ไม่นานภาพร่างด้วยเส้นหยาบ ๆ ของนางแบบสาวที่นอนเอนกายอยู่บนโซฟาบุหนังสีน้ำตาลก็เสร็จสิ้นภูชิชย์เริ่มทำงานต่อไปด้วยการหยิบพู่กันมาจุ่มสีน้ำมันที่เตรียมไว้โต๊ะข้าง ๆ เขาเริ่มลงสีกลางลงบนผืนผ้าใบ โดยใช้สีเทา สีน้ำตาล เพื่อสร้างโทนสีพื้นฐานของภาพวาด ทำให้ร่างกายของแพรที่ทอดยาวอย่างสง่างามดูโดดเด่น พอลงสีที่เข้มกว่าในบริเวณที่มืด และสีที่อ่อนกว่าในบริเวณที่สว่าง เพื่อสร้างความลึกและมิติให้กับภาพต่อมาเขาก็เริ่มลงสีเนื้อผสมกับสีน้ำตาลอ่อนๆ ไปตามผิวของหญิงสาวเพื่อสร้างผิวที่ดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวา ทว่าฝีแปรงของเขาต้องชะงักอีกครั้ง เมื่อหญิงสาวเอ่ยถามเรื่องชวนสยิวขึ้นมาอีกเพราะตลอดการวาดภาพของเขา มันไม่ได้เงียบสงบเลย หญิงสาวเอาแต่ถามนู้นถามนี่ไปเรื่อย ยังดีที่เธอยังคง
“แพร!!!” ภูชิชย์ตวาดเสียงดังลั่น เพราะสิ่งที่หญิงสาวทำมันเกินไป เธอเอาก้อนเนื้อที่งดงามมายื่นใส่หน้าเขา ความขาวเนียนของมัน ลานนมที่เป็นสีน้ำตาลอ่อนอมแดง และหัวนมสีชมพูอ่อน มันชวนให้เขาอยากสัมผัสมันมากจริง ๆ สายตาของเขาหยุดมองมันไม่ได้“จับเลยค่ะ อาจับเลย เพราะยังไงเราก็ไม่ได้จะทำอะไรกันอยู่แล้ว เรามีเส้นที่ขีดเอาไว้อยู่ เผลอ ๆ ถ้าอาเลยเส้นหนูจะเป็นคนกรี้ดลั่นขอให้อาหยุดเองด้วยซ้ำ” หญิงสาวยิ้มอย่างเชิญชวนภูชิชย์ได้รับฟังคำของหญิงสาวก็เกิดความลังเล เพราะมันเป็นจริงตามหญิงสาวว่า หากเธอและเขารู้ขอบเขต มันก็คงไม่เป็นอะไร แต่อีกใจหนึ่งเขาก็กังวล เขากลัวว่าถ้าเอื้อมมือออกไปทำตามสัญชาตญาณ เขากลัวจะหยุดตัวเองให้ทำอย่างอื่นไม่ได้“อาจะแค่จับมันแล้วปล่อยโอเคไหม สมองอามันน่าจะพอใจแล้ว ถือว่าทำเรื่องนี้แล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยพลางดึงมือออกมาจากเก้าอี้ เขาเลือกที่จะดับความกระหายด้วยการดื่มน้ำ มันคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหยุดความต้องการของส่วนลึกในจิตใจเขา เพียงแค่สัมผัสมันแล้วปล่อยออก เขาตั้งใจเพียงแค่นั้น“ได้สิค่ะ” หญิงสาวเอ่ยพลางเขยิบเข้าไปใกล้แล้วโน้มตัวลงไปเล็กน้อย เพื่อให้เขาจับมันได้สะดวก พอเธอเ
น้ำสีขาวขุ่นเปรอะเปื้อนไปเต็มหน้าอกและบางส่วนกระเซ็นมาโดนบริเวณคาง แพรยังคงยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน เพราะเธอช็อกมาก เธอเข้ามาผิดจังหวะสุด ๆ เขาไม่ได้แค่กำลังแข็งสุด ๆ ตอนเธอเปิดเข้ามา แต่เขาไปสุดกว่านั้น เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะแตกออกมาไวแบบนี้ นี่เขาอัดอั้นกับการหยอกล้อของเธอมามากแค่ไหนกัน“แพร! ทำไมหนูถึงเปิดเข้ามาแบบนี้” ชายหนุ่มเลือกจะใช้เสียงเข้มเพื่อควบคุมสถานการณ์“อะ..อะ..เอ่อ.. คือหนู” แพรพูดตะกุกตะกัก สมองของเธอเหมือนหยุดทำงานไปแล้ว ไม่ว่าจะแก้ตัว หรือยอมรับ เธอทำตัวไม่ถูกและไม่รู้จะทำอะไรต่อไปเลย สิ่งที่เธอรู้สึกได้ในตอนนี้มีเพียงความรู้สึกอุ่น ๆ ที่แผ่มาจากของเหลวที่ติดตามใบหน้า“พอใจแล้วหรือยัง ได้เห็นแล้วพอใจไหม ดูสิ อยากดูนักไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มเอ่ยแล้วพลางจับสิ่งนั้นแกว่งไปมา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง เพราะความดื้อซนของเธอ ทำให้เขาทำสิ่งที่ไม่สมควรอย่างการแตกใส่เพื่อนลูกสาวของตัวเองไป“นะนะ..หนู หนูขอโทษค่ะคุณอา” แพรผงกหัวก้มหน้ารับความผิดของเธอ ก่อนจะหันหลังเพื่อเดินกลับออกไป“เดี๋ยวก่อน แพร.. เดี๋ยวค่อยไป รีบมาล้างตัวก่อน” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลงและรีบคว้าไปร
ภูชิชย์ยื่นนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ภายใต้สายน้ำจากฝักบัวที่ไหลลงมา เขาไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อ เขาควรไปง้อแพรดีไหม ถ้าง้อเขาก็อาจจะต้องถูกเธอชวนทำเรื่องแปลก ๆ อีก แต่ถ้าเขาไม่ง้อความสัมพันธ์ของเธอกับเขาก็จะแย่ลง ซึ่งเขาไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ตอนนี้เธอเสียใจและต้องการที่พักพิง หากไม่มีคนที่อยู่เคียงข้างเธอแล้ว เขาเกรงว่าเธออาจจะคิดทำอะไรไม่ดีภูชิชย์ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่สักพัก ในที่สุดเขาก็เลือกที่จะไปง้อเธอ หลังจากเช็ดตัวและใส่ชุดเรียบร้อยแล้ว เขาก็ตรงขึ้นไปที่ห้องนอนชั้นบน เพราะแพรไม่ได้อยู่ที่โซฟาอีกต่อไปแล้วเมื่อเขามาถึงห้องนอน เสียงร่ำไห้ก็ดังแว่วออกมาผ่านช่องประตู แพรกำลังร้องไห้อยู่ น้ำเสียงฟังดูทรมานและเจ็บปวด ภูชิชย์จับที่ลูกบิดประตู เขาเกิดความลังเลว่าควรเข้าไปดีไหม เขากลัวว่าถ้าเข้าไป เขาอาจจะต้องเกินเลยกับเธอ เพราะมันน่าจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เตียงนอน หญิงสาวที่กำลังร้องไห้ และชายหนุ่มที่มาปลอบใจ องค์ประกอบนี้สามารถทำให้เกิดฉากที่วาบหวิวได้แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเปิดประตูเข้าไป เขาไม่อาจทนฟังเสียงครวญที่แสนเจ็บปวดนี้ได้ แม้มันอาจจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น แต่เขาทั้งสองคนก็รู้ดีถึงเส้นท
ก้อนเนื้อนุ่มเด้งที่กดทับหน้าอกของเขา กลิ่นหอมอันแสนเย้ายวน และริมฝีปากอิ่มสวยที่เลื่อนเข้ามา และสายตาคู่นั้นที่จ้องมองเข้ามา มันทำให้ส่วนที่เคยอ่อนหยวบกลับมาแข็งขันอีกครั้ง“ทำอะไรของหนูนะแพร” เขาเอ่ยพลางใช้สองมือจับไหล่เล็กทั้งสองข้างดันออก“หนูก็จะเริ่มใหม่กับคนที่หนูรักยังไงค่ะ คุณอาคะ เรามาคบกันเถอะ” เธอเอ่ยพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่สดใสออกมา ก่อนจะเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ และใช้มือเล็กๆ ของเธอลูบไล้ไปตามเส้นผมของเขา การรุกไล่ของเธอ กำลังทำให้ใจของเขาเต้นสั่นระรัว“ไม่ได้ เราจะคบกันได้ยังไง เราเป็นอาหลานกันนะ” ภูชิชย์ไม่เข้าใจเลยว่าเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง เขาปลอบใจเผื่อให้เธอได้เริ่มต้นใหม่กับใครสักคน แต่ใครคนนั้นมันกลายเป็นเขาได้ยังไง“คุณอาที่ไหน ถึงมาแข็งกับหลานแบบนี้ค่ะ” เธอเอ่ยก่อนจะคว้ามือไปสัมผัสลำเนื้อยาวที่อยู่ใกล้ต้นขาของเธอ ลำเนื้อร้อนระอุในกำมือเล็ก ๆ ของเธอ ทำให้ใจของสั่นเล็ก ๆ แต่เธอก็ยังทำใจกล้าพูดต่อไป “คุณอาพึ่งแตกมาไม่ใช่เหรอ ทำไมมันถึงกลับมาแข็งได้อีกครั้งแล้วล่ะค่ะ หรือเป็นเพราะหนู” ใบหน้างดงามของเธอเผยรอยยิ้มเยาะ พร้อมกับขยับมือรูดรั้งลำยาวที่อยู่ในกางเกง“เพร
“อ๊างง!..” มินนี่แผดเสียงครางดังออกมา ความอุ่นร้อนที่แทรกเข้ามาในตัวกำลังภายในของเธอเหมือนถูกหลอมละลาย มันบีบรัดแน่นและกระตุกเกร็งซ้ำ ๆ เธอเสร็จออกมาแล้ว เพียงแค่เขาเสียบเธอเสร็จแล้ว เนื่องจากถูกเขาหยอกเย้าปลุกอารมณ์ให้เธอสูงมากก่อนหน้า เธอทนไม่ไหวจริง ๆ เพียงแค่เขาเติมเต็มเข้ามา ร่างกายของเธอก็ตอบสนองด้วยการกระตุกรัว ๆ เธอใช้สองมือโอบรอบขอเขาเอาไว้เพื่อพยุงขาที่อ่อนแรงไปชั่วขณะธันวายิ้มออกมาอย่างภูมิใจ ที่ได้เห็นหญิงสาวเสร็จเพราะเขาเสียบ แต่เขาก็ไม่ได้ให้เวลาเธอพักนาน เรียกว่าไม่มีให้เธอพักเลยดีกว่า เพราะเขาฝืนดันเอ็นยาวของเขาซอยเข้าใส่รูเสียวที่กำลังบีบรัดแน่น เพราะพึ่งเสร็จไม่ยั้ง ธันวาไม่ได้ผ่อนปรนให้กับเธอเลย เขายังคงกระหน่ำความหื่นกระหายใส่เธอไม่หยุด พร้อมทั้งกระแทกปลายหัวร้อน จูบปากมดลูกของเธอซ้ำ ๆ“ยะ..หยุด..ก่อนธันวา หยุดก่อน” เธอวอนขอให้เขาหยุดเคลื่อนไหว เพราะตอนนี้ใจของเธอมันเต้นรัวเร็วจนแทบระเบิด เธอหายใจไม่ทั่วท้องเลย แต่เขาก็ยังทำให้เธอตื่นเต้นไม่หยุด แท่งยาวที่แทงเข้าใส่ซ้ำ ๆ มันทำให้มินนี่รู้สึกเสียวจนสมองว่างเปล่า“ธะ... ธันวา... หยุด...” มินนี่ครางออกมาเสียงดัง เธอว
เมื่อพวกเขามาถึงโรงแรมใกล้ ๆ ผับ ประตูห้องถูกเปิดออกและปิดลงอย่างแรง ยังไม่ทันได้ไปถึงเตียง มินนี่ถูกดันไปติดกำแพงไม่ไกลจากประตู ธันวาก้มหน้าซุกไซ้ลำคอขาวเนียนของเธอ กดริมฝีปากหนักดูดเม้มจนเกิดเสียงดังออกมา“อย่าธันวา!.. เดี๋ยวเสี่ยเห็น” มินนี่พยายามผลักร่างของชายหนุ่มออกไป แต่ธันวาไม่สนใจ ยิ่งดิ้นเขายิ่งกระทำกับเธอรุนแรงขึ้น เขาจับข้อมือของเธอทั้งสองข้างตรึงไว้กับกำแพง ลิ้นร้อนลากไล้ไปตามลำคออย่างหื่นกระหาย เขาดูดเม้มบนคอสวยของเธอแรงจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำ ความต้องการที่มากล้นของเขาทำให้ลำคอของเธอเปียกเลอะไปด้วยน้ำลาย“ธะ...ธันวา” มินนี่พยายามอ้อนวอน แต่เสียงของเธอกลับหายไปเมื่อริมฝีปากหนาบดขยี้ลงบนปากของเธออย่างรุนแรง เขาบีบสองมือของเธอเอาไว้แน่น กดเธอติดไว้กับกำแพงและบดเบียดริมฝีปาก แล้วสอดลิ้นเข้าไปตวัดโรมรันอย่างเร่าร้อน ดุนและดูดจนเกิดเสียงหวานดังซ้ำ ๆ น้ำลายเปียกชุ่มหยดย้อยทั่วคาง ริมฝีปากบดเบียดแน่นไม่ยอมปล่อยเธอทุบหน้าอกของเขาอย่างแรง เพราะตอนนี้สติของเธอเริ่มหลุดลอย ใบหน้าซีดลง เพราะกำลังขาดอากาศหายใจ จูบของเขาร้อนแรงจนอาจทำให้เธอตายได้จริง ๆ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเหมือนจะสลบไปธัน
หลังจากส่งเสี่ยชัยเสร็จ มินนี่ก็เลิกปั้นหน้ายิ้ม จัดการเงินที่วางอยู่บนเตียง แบ่งประเภทว่าส่วนไหนเก็บ ส่วนไหนใช้ หรือสำรองไว้ให้พ่อแม่ที่แสนห่วยแตกของเธอ เพราะพวกเขาไม่ใช่ชาวสวนธรรมดา แต่เป็นชาวสวนที่ติดพนัน บางทีเงินที่เสี่ยวิชัยได้มา บางทีอาจจะมาจากพ่อแม่ของเธอที่หลงเข้าไปเล่นสักเว็บ เธอหัวเราะเบา ๆ กับเรื่องขมขื่นตลกร้ายนี้พอจัดการเรียบร้อย เธอก็เก็บมันใส่เซฟข้างเตียง แล้วเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาชุดไปดื่ม เติมแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายในค่ำคืนนี้ มินนี่มองผ่านชุดต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและหยิบชุดที่เธอรู้สึกว่าดูดีที่สุดมินนี่เลือกชุดเดรสรัดรูปสีแดง เพราะมันช่วยขับผิวขาว ๆ ของเธอได้เป็นอย่างดี เธอส่องกระจกและหมุนตัวดูความสวยของตัวเอง ส่วนเหตุผลที่ต้องเป็นชุดรัดรูป ก็เพราะเธออยากอวดความสวยงามที่หมอทำให้ และนอกจากนี้เธอยังรู้สึกดีที่มีผู้ชายมองเธอด้วยแววตาหวานเยิ้ม เธอยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เมื่อสวมชุดและแต่งหน้าเรียบร้อยแล้วระหว่างขับรถออกไป มินนี่ก็สูบบุหรี่อีกมวนในรถ พร้อมกับซ้อมหูด้วยการเปิดเพลงที่มีเบสหนัก ๆ เคาะนิ้วตามจังหวะเพลงพร้อมกับพ่นควันอย่างสบายอารมณ์ ถ้าถามเหตุผลว่าทำไมเธอถึงดื
ควันบุหรี่ลอยเอื่อย ๆ ในคืนที่เกิดฝน หญิงสาวที่มีร่างกายเปลือยเปล่าผิวขาวเนียนตากำลังพ่นควัน เหม่อมองท้องฟ้าที่สว่างขึ้นและฝนเริ่มซา แต่ในความรู้สึกของเธอยังคงดูมืดหม่นมินนี่หรี่ตาและถอนหายใจเบา ๆ แสงไฟจากปลายบุหรี่สว่างวาบเป็นประกายสีแดงตามจังหวะลมหายใจ เธอจับจ้องไปที่ภาพของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจก หน้าอกที่เต่งตึงได้ทรงสวย ลานนมเป็นสีชมพู และติ่งเนื้อเล็กที่ปลายยอดเป็นสีชมพูเปล่งประกาย นี่คือเรือนร่างที่ชายทุกคนต่างหมายปอง แน่นอนว่าเธอไม่ได้โชคดีมีมันแต่กำเนิด แต่เป็นเพราะหมอศัลยกรรมมอบความงามนี่ให้กับเธอมา และคนที่ให้เงินเธอมาทำก็คือ เสี่ยวิชัย ที่นอนหลับอยู่บนเตียงไม่ไกลจากเธอเธอหันไปมองเขาก่อนจะหันกลับมาถอนหายใจ แม้ครอบครัวของเธอจะมีชีวิตที่ดีขึ้น เธอควรดีใจที่เป็นแบบนั้นไง แต่พอเวลาผ่านไปเธอก็ยิ่งรู้สึกว่างเปล่า มินนี่เหม่อมองไปฝนที่กำลังตกพรำนอกหน้าต่าง ก่อนจะยกบุหรี่แทรกมันเข้ามาในริมฝีปาก สูดมันเข้าไป และพ่นควันสีเทาออกมาอีกรอบมินนี่หันไปหยิบแก้วไวน์ที่วางอยู่ข้าง ๆ ดื่มมันเข้าไปอึกหนึ่งก่อนจะวางกลับที่เดิม เมื่อสูบมันจนหมดมวน เธอก็ลุกเดินไปที่ห้องน้ำ เพื่อชำระคราบน้ำกาม
“หนูติดเซ็กส์มากไปไหมคะอา” หญิงสาวที่เปลือยกายหันไปเอ่ยถามชายหนุ่มที่มีเอ็นเนื้อใหญ่ยาวซึ่งนอนอยู่ข้าง ๆ“นั่นสิ น้ำของอาจะหมดตัวแล้ว” ชายหนุ่มตอบกลับไป เขายังเหม่อมองเพดาน และส่งเสียงหายใจหอบ ๆ เพราะนี่เป็นครั้งที่ 10 ในรอบวันแล้วที่ทำกัน“ก็มันไม่รู้จะทำอะไรนี่ค่ะ งานที่ลูกค้าสั่งมาก็ส่งไปหมดแล้ว ดูหนังหรือดูซีรีย์ก็ไม่สนุกเท่าตอนทำกับอา แถมวันนี้เม็ดทรายกับแสงจันทร์ก็ไปอยู่กับคุณพ่อด้วย หรือว่าอาไม่อยากทำแล้ว”“อาอยากทำสิ อาเป็นผู้ชายนะ เรื่องลามกมันอยู่ในดีเอ็นเออยู่แล้ว แต่อาเป็นห่วงตรงนั้นของหนูมากกว่า แต่ก่อนคนที่ทำกับอามากสุดแค่ 3 ครั้งก็เจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว”“เพราะหนูไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาพวกนั้นยังไงค่ะ หนูคือคนพิเศษ หนูคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของอา สำหรับหนู 20 ครั้งก็ยังไหวเลย” แพรกล่าวด้วยท่าทีขึงขังพลางขึ้นคร่อมและลูบไล้มือไปบนหน้าท้องแน่น ๆ ของเขา ก่อนจะลูบต่ำลงไป“หนูไหว แต่อาไม่ไหวน่ะสิ อา45แล้วนะ” ภูชิชย์หันไปส่ายหน้าเบา ๆ ให้กับแม่เสือสาวที่กำลังใช้นิ้วเรียวเล็กนั่นรูดรั้งเอ็นเนื้อของเขาไปมา“เพราะแบบนี้ไงค่ะ เราถึงต้องเอากันบ่อย ๆ ร่างกายอาจะได้แข็งแรง” หญิงสาวหันมาส
หกเดือนผ่านไป ความวุ่นวายลดลงอย่างเห็นได้ชัด เม็ดทรายเริ่มนอนหลับได้ยาวขึ้นในตลอดคืน มันจึงทำให้แพรกับภูชิชย์ได้มีเวลาสวีทกันมากขึ้น“เราทำกันไหมคะอาคืนนี้ หรือจะนอนกันเลย”“หนูอยากทำไหมล่ะ หนูเพลียหรือเปล่า?”“อยากทำค่ะ เราจะได้มีแสงจันทร์ไว ๆ พอโตอีกสักหน่อยเม็ดทรายจะได้มีเพื่อนเล่น ไม่เงียบเหงาอยู่คนเดียว” แพรพยักหน้า โดยแสงจันทร์ที่แพรกำลังพูดถึงเป็นชื่อเล่นของลูกคนที่สองที่เธอตั้งใจว่าจะมี อาจเป็นเพราะเธอต้องอยู่คนเดียวบ่อยครั้งในตอนเด็ก เธอคิดเสมอว่าถ้าเธอมีพี่สาวหรือน้องสาวสักคนก็คงดี“ได้สิ ถ้าหนูต้องการ” ภูชิชย์ตอบกลับพลางก้มลงจูบแพรเบาๆ ส่งผ่านความรักที่เขามี เพราะเขาไม่ติดอยู่แล้วเรื่องมีอะไรกัน เขาเป็นผู้ชาย ดังนั้นจึงแข็งได้เสมอ เพียงแค่ภรรยาของเขาลูบไล้ที่ต้นขาเบา ๆ มันก็เริ่มตื่นตัวขึ้นมาแล้ว แต่สาเหตุที่เขาไม่ค่อยทำบ่อย ก็เพราะกลัวเธอเพลีย“อ่าส์..” แพรเผยอปากเปล่งเสียงครางออกมา เมื่อสามีอันเป็นที่รักของเธอสอดเอ็นเนื้อที่ใหญ่โตเข้ามาจนลึกสุด ไม่ว่าจะทำกี่ครั้งเธอก็ยังไม่ชินกับความคับแน่นเลย การคลอดไม่ได้ทำให้รูเสียวของเธอกว้างขึ้นได้เลย ผนังเนื้อนุ่ม ๆ ด้านในยังคงบีบรั
“หนูท้องกับแฟนเก่าหนูค่ะ อาไม่เกี่ยวอะไรด้วย นี่คือความจริงค่ะพ่อ” แพรรีบหันไปแก้ตัวกับพ่อของเธอ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวลและน้ำตาที่เริ่มคลอเบ้าเธอหันกลับมาทางชายหนุ่มผมยาวที่ยืนอยู่ด้านหลัง ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมและจริงจัง สายตาของเขาจับจ้องไปที่พ่อของเธออย่างไม่ละสายตา ท่าทางเหมือนกำลังจะพูดอะไรสำคัญบางอย่าง ริมฝีปากของเขาแสดงอาการสั่นแฝงความกังวล แพรรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เธอเข้าไปยืนขวางระหว่างชายหนุ่มกับพ่อของเธอ“ไม่นะคะอา ได้โปรดอย่าพูดมันออกมา” แพรยกมือขึ้นมาจับแขนของชายหนุ่มเอาไว้ เพื่อขอร้องให้เขาเงียบ หยุดพูดสิ่งที่กำลังคิดออกไปภูชิชย์จ้องมองไปที่แพร จ้องมองเข้าไปในดวงตาอ้อนวอนคู่นั้น เขารู้ดีว่าเธอต้องการปกป้องเขา แต่ความลับไม่สามารถคงอยู่ได้ตลอดไป สักวันหนึ่งพงษ์ก็ต้องรู้ความจริงเมื่อเด็กคลอดออกมา ใบหน้าที่ผสมรวมเป็นทารกน้อย คงมีใบหน้าของตัวเขาที่เป็นเพื่อนรักผสมรวมอยู่ด้วยเขาไม่อยากรอให้ถึงวันนั้น เขาอยากเคียงข้างเธอตลอดเวลา เขาอยากเป็นที่พึ่งและให้ความมั่นคงในทุกๆ วัน เขาอยากจับมือเธอไว้แน่น เมื่อเธอรู้สึกหวาดกลัวหรือไม่แน่ใจ เขาอยากให้เธอรู้ว่าเขาจะอยู่
“หนูท้องกับแฟนเก่าหนูค่ะ อาไม่เกี่ยวอะไรด้วย นี่คือความจริงค่ะพ่อ” แพรรีบหันไปแก้ตัวกับพ่อของเธอ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวลและน้ำตาที่เริ่มคลอเบ้าเธอหันกลับมาทางชายหนุ่มผมยาวที่ยืนอยู่ด้านหลัง ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมและจริงจัง สายตาของเขาจับจ้องไปที่พ่อของเธออย่างไม่ละสายตา ท่าทางเหมือนกำลังจะพูดอะไรสำคัญบางอย่าง ริมฝีปากของเขาแสดงอาการสั่นแฝงความกังวล แพรรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เธอเข้าไปยืนขวางระหว่างชายหนุ่มกับพ่อของเธอ“ไม่นะคะอา ได้โปรดอย่าพูดมันออกมา” แพรยกมือขึ้นมาจับแขนของชายหนุ่มเอาไว้ เพื่อขอร้องให้เขาเงียบ หยุดพูดสิ่งที่กำลังคิดออกไปภูชิชย์จ้องมองไปที่แพร จ้องมองเข้าไปในดวงตาอ้อนวอนคู่นั้น เขารู้ดีว่าเธอต้องการปกป้องเขา แต่ความลับไม่สามารถคงอยู่ได้ตลอดไป สักวันหนึ่งพงษ์ก็ต้องรู้ความจริงเมื่อเด็กคลอดออกมา ใบหน้าที่ผสมรวมเป็นทารกน้อย คงมีใบหน้าของตัวเขาที่เป็นเพื่อนรักผสมรวมอยู่ด้วยเขาไม่อยากรอให้ถึงวันนั้น เขาอยากเคียงข้างเธอตลอดเวลา เขาอยากเป็นที่พึ่งและให้ความมั่นคงในทุกๆ วัน เขาอยากจับมือเธอไว้แน่น เมื่อเธอรู้สึกหวาดกลัวหรือไม่แน่ใจ เขาอยากให้เธอรู้ว่าเขาจะอยู่
พอกลับไปบ้าน หลังจากโทรเช็คที่อยู่ของพงษ์เรียบร้อยแล้ว ภูชิชย์ก็เริ่มมอบความสุขให้แพรตามต้องการ เขาเริ่มจากใช้ลิ้นมอบความสุขให้กับแพรที่นั่งอยู่บนโซฟาแหกขาให้เขาเลีย เขาทั้งใช้มือและใช้นิ้วช่วยเธอ แต่มันก็ไม่เพียงพอ เธอต้องการสิ่งที่ใหญ่กว่านั้น ภูชิชย์ลังเลมาก เพราะเขากลัวว่าความใหญ่โตของเขาจะทำร้ายเด็กในท้องดังนั้นขณะเขาสอดเอ็นเนื้อเข้าไปในตัวแพร เขาจึงระวังมาก เขาไม่เคยดันเข้าไปจนสุดเลย เพราะกลัวว่ามันจะไปโดนมดลูกและเกิดเรื่องไม่ดีเข้า แต่ถึงอย่างนั้นด้วยขนาดและความยาวของมัน แม้จะใส่เข้าไปเพียงแค่ครึ่งลำ แต่มันก็ทำให้แพรพึงพอใจอย่างมาก เธอทำหน้าฟินและเสียวจนผ้าที่ปูรองโซฟาเปียกชุ่มไปหมด“อ่าส์…ดีค่ะ อา แบบนั้นแหละค่ะ” แพรส่งเสียงครางอย่างพึงพอใจ ขณะชายตรงหน้าจับที่รองแขนของโซฟาและโถมตัวซอยใส่เธอแบบนุ่มนวล แต่ภูชิชย์ก็เริ่มควบคุมความเร็วไม่ได้ในช่วงหลัง ๆ เมื่อภายในรูเสียวของแพรตอดเขาถี่และแรงขึ้นเรื่อย ๆ มันก็ทำให้ไฟสวาทในตัวของเขาลุกโชน อาจเป็นเพราะไม่ได้ทำมานาน เขาเลยซอยใส่เธอไม่ยั้งในช่วงท้าย แต่ก็พยายามจะไม่ไปกระแทกข้างในบ่อย ๆ เขาพยายามจะขยับเข้าออกรูดเอ็นเนื้อเข้าออกเพียงครึ