หน้าหลัก / รักโบราณ / ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง / บทที่ 18 หาเลี้ยงครอบครัว

แชร์

บทที่ 18 หาเลี้ยงครอบครัว

ผู้เขียน: ซูเมิ่ง 淑梦
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-09 14:49:08

รถม้าหยุดลงหน้าจวนอ๋อง หยางหมิงลงจากรถม้าได้ก็ไม่รีรอผู้ใดเดินจ้ำอ้าวเข้าตำหนักตนไป ทำให้เสวี่ยหนิงที่รอท่านอ๋องช่วยประคองลงรถม้าเช่นที่เคย ต้องหน้างอเรียกหาสาวใช้แทน ต่างจากลี่อินที่ไม่ได้สนใจท่าทีของหยางหมิง ตอนนี้นางเพียงอยากพักผ่อนแล้วค่อยตื่นขึ้นมาหาหนทางทำเงินในภายหลัง

ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้ว ภายในตำหนักเล็กนางกำนัลเริ่มจุดไฟให้แสงสว่าง ลี่อินที่ผล็อยหลับเพราะอาการป่วยปรือตาขึ้นมองสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอีกครั้ง พร้อมกันนั้นเสียงกระดิ่งในข้อเท้าเด็กน้อยดังเป็นจังหวะการก้าวเดินตรงมาที่ลี่อิน ก่อนจะยื่นมือน้อย ๆ ของนาง เป็นสัญญาณให้ผู้เป็นน้าที่นั่งอยู่เป็นเตียงอุ้มตนไว้

“อี้หนิงคิดถึงน้าแล้วหรือ ทำไมดูหนักขึ้นอีกแล้ว” เสียงหวานเย้าหยอกเด็กน้อยมัดแกะในอ้อมแขน

“พระชายา เครื่องเสวยพร้อมแล้วเพคะ” อี้เฉาทูลแจ้ง

เมื่ออุ้มอี้หนิงนั่งลงบนโต๊ะอาหาร เด็กน้อยก็รีบคว้าน่องไก่ขึ้นมากัดด้วยใบหน้าชอบอกชอบใจ ทำให้ลี่อินยิ้มตาหยีมองดูนางกินอย่างเอ็นดูอาหารบนโต๊ะมีสามสี่อย่าง เพราะเป็นคำสั่งของลี่อินเองที่ให้ทำอาหารแค่พอกิน ด้วยค่าใช้จ่ายในตำหน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 19 ขอหย่าหรือ

    ลี่อินใบหน้าเปื้อนยิ้มนั่งรถม้ากลับจวนอย่างอารมณ์ดี เมื่อมีทำเลที่ดีแล้วต่อไปก็หาวัตถุดิบ ซึ่งหากขอความช่วยเหลือจากร้านท่านลุงสามที่อยู่แคว้นฉีก็ง่ายแล้ว หากนางไม่คิดพึ่งพาตระกูลฝั่งมารดามิเช่นนั้นฮองเฮาต้องเป็นห่วงแน่ “แล้วต่อไปต้องทำเช่นไรต่อเพคะ” อี้เฉาสงสัย “ต้องซื้อดอกไม้จากชาวบ้าน เช่นนั้นต้องออกจากซู่โจวก่อน ชานเมืองราคาสินค้าจะถูกกว่าในเมืองหลวง” ลี่อินกล่าวพลางครุ่นคิด “แต่ก่อนอื่นต้องไปตำหนักท่านอ๋องเสียก่อน” นี่ต่างหากที่ทำให้นางกังวล ลี่อินกลับถึงจวนก็เป็นยามโหย่วเสียแล้ว ด้วยความร้อนใจนางยังไม่ทันกลับตำหนักเล็กก็ขอพบหยางหมิงเสียก่อน “ท่านอ๋องอยู่หรือไม่” เมื่อเห็นเย่จินยืนอยู่หน้าห้องบรรทมจึงเอ่ยถามขึ้น ด้วยเกรงว่านางจะก่อกวนในเวลาที่ไม่เหมาะสม “อยู่พ่ะย่ะค่ะ” “แล้วข้า.......” ลี่อินกระอักกระอ่วน ได้แต่ชี้มือเข้าไปให้ห้องบรรทม “ไม่มีผู้ใดอยู่ด้านในนอกจากท่านอ๋อง องค์หญิงสามไม่ต้องกังวล” เย่จินเห็นท่าทีของนางก็เดาได้ว่าองค์หญ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-09
  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 20 บังเอิญ

    รถม้าพร้อมคนของสำนักคุ้มภัยออกเดินทางตั้งแต่ยามเหม่า อี้หนิงยังคงหลับอยู่ในอ้อมแขนของลี่อิน สองข้างทางเริ่มไม่มีบ้านเรือนผู้คน ทิวทัศน์กลับถูกแทนที่ด้วยเหล่าแมกไม้ ลี่อินเร่งเดินทางให้ถึงก่อนค่ำจึงไม่ยอมหยุดพัก ทำให้อี้หนิงเหนื่อยล้าร้องงอแงตลอดเส้นทาง จนกระทั่งยามเซินรถม้าจึงเข้าเขตจิงโจว สองข้างทางมีบ้านเรือนกลับมาแทนที่เหล่าแมกไม้อีกครั้ง รถม้าหยุดลงหน้าโรงเตี๊ยมเจิงไห่ “พระชายาพรุ่งนี้จะไปที่ไหนก่อนดีเพคะ” อี้เฉาทูลถาม พลางใช้น้ำอุ่นแช่เท้าให้ลี่อิน “บอกแล้วอยู่นอกเมืองให้เรียกคุณหนูแทน” ลี่อินที่ห่วงเรื่องความปลอดภัย ด้วยแคว้นเว่ยมีกบฏหลายกลุ่มที่ยังจ้องก่อความวุ่นวายอยู่ “เจ้าค่ะ” อี้เฉารับคำ “พรุ่งนี้ไปดูสวนดอกไม้นอกก่อน แลค่อยไปหาช่างฝีมือที่โรงไม้ในเมือง” ลี่อินไล่เรียงสิ่งที่ต้องทำ หากนางต้องการทำแป้งผัดหน้า แลสีผัดแก้ม จำเป็นต้องมีดอกไม้ และตลับแสนประณีตให้ดูน่าสนใจ “พรุ่งนี้ให้ปิงเซียงพาอี้หนิงเที่ยวเล่นในเมือง แลให้คนของสำนักคุ้มภัยส่วนหนึ่งคอยติดตาม”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-09
  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 21 หมื่นบุปผา

    กว่าครึ่งเดือนที่ลี่อินจัดการโรงเรือนประทินโฉมให้เรียบร้อย ตอนนี้นางมีสินค้าในมือแล้วเหลือเพียงกลับไปเปิดร้านที่ซู่โจวก็เท่านั้น “ท่านอ๋อง หม่อมฉันมาทูลลาเพคะ วันนี้เราจะเดินทางกลับเมืองซู่โจวแล้ว” ลี่อินเข้ามาบอกลาอีกฝ่ายถึงในกระโจม “ข้าจะให้องครักษ์คุ้มกันกลับ” บุรุษที่ยืนมองแผนที่กล่าวเสียงเรียบ “หม่อมฉันมีคนของสำนักคุ้มภัยอยู่แล้ว” “คนพวกนั้นหากเจอกบฏเผยอี้คงตายตั้งแต่ดาบแรก ปกป้องเจ้าไม่ได้หรอก มีแต่คุณหนูไม่รู้จักโลกเท่านั้นแหละที่ยังคงเชื่อมั่นสำนักคุ้มภัยอยู่” คำกล่าวดูแคลนของหยางหมิงไม่เกินจริง นางรู้สึกว่าสำนักคุ้มภัยเพียงรู้วรยุทธ์เล็กน้อย หากแต่ยังไม่สามารถสู้ทหารกองทัพมังกรดำได้เลย ทำให้นางอดเสียดายเงินค่าจ้างร้อยตำลึงนั่นไม่ได้ “เช่นนั้นก็รบกวนท่านอ๋องแล้ว” ลี่อินยอบกายก่อนถอยออกไป จวนอ๋องยังดูโออ่าเช่นเคย เสวี่ยหนิงดูแลจวนได้ดีไม่น้อยหากไม่นับของใช้แสนแพงที่ใช้ประโยชน์อันใดไม่ได้วางระเกะระกะทั่วจวน หากแต่ว่าชินอ๋องก็มิปริปากบ่นให้นางสักคำ อี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 22 ซักไซ้

    ร้านประทินโฉมหมื่นบุปผาแม้เปิดกิจการวันแรกกลับมีลูกค้าไม่น้อย ด้วยแป้งผัดหน้าที่เรียบเนียนกว่า ผงสีปัดแก้มที่สีสวยกว่า แลมีเหล่าสาวงามคอยแนะนำ ทำให้เหล่าคุณหนูแม้แต่ฮูหยินหลายท่านกว้านซื้อไปหลายชิ้น อีกทั้งร้านผ้าที่อยู่ติดกับร้านประทินโฉมยังพลอยขายดิบขายดีไปด้วย ทำเอาเถ้าแก่ร้านยิ้มหน้าบาน ลี่อินกลับจวนด้วยร่างกายที่ปวดเหมื่อย หน้าตาดูอิดโรยไม่น้อยโดยมีอี้เฉาที่คอยช่วยงานเดิมตามหลัง “เดี๋ยวถึงตำหนักหม่อมฉันนวดให้นะเพคะ” “อือ เจ้ารู้ใจข้าที่สุดแล้ว” ใบหน้าออดอ้อนเหมือนเด็กหันไปมองนางกำนัลที่เดินคามหลัง ลี่อินเดินผ่านตำหนักอ๋องที่บัดนี้ห้องโถงถูกเปิดอยู่ บ่งบอกถึงเจ้าของตำหนักกลับมาแล้ว“ท่านอ๋องดื่มน้ำซุปนี่ก่อนเพคะ หม่อมฉันกำชับให้โรงครัวทำให้อย่างดี มันช่วยบำรุงกำลังให้หายเหนื่อยได้” เสียงหวานของเสวี่ยหนิงลอยมาตามลม จนทำให้ลี่อินต้องหยุดมอง ภาพสตรีกิริยาอ่อนหวานที่กำลังป้อนซุปให้หยางหมิงจนเกินพอดี หากผู้ใดที่ไม่รู้อาจจะคิดว่าชินอ๋องพิการแขนขาจนช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ต้องให้ภรรยาป้อนแม้กระทั่งอาหารให้ เสวี่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 23 หูเบา

    ภายในห้องอักษร หยางหมิงยังคงครุ่นคิดเรื่องของรัชทายาทแคว้นหานกับลี่อิน การมาแคว้นเว่ยครั้งนี้อาจจะไม่ใช่เพราะเรื่องการค้าเพียงอย่างเดียว “เย่จิน!” เสียงเย็นเรียกหาองครักษ์ข้างกาย “กระหม่อมอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ” องครักหนุ่มผู้มีใบหน้าเย็นชาไม่แพ้เจ้านายรีบเข้ามาด้านใน “เรื่องลี่อินที่ให้ไปสืบได้เรื่องหรือยัง” “ทูลท่านอ๋องสายลับส่งข่าวมาแล้วพะย่ะค่ะ องค์หญิงสามตอนที่อยู่แคว้นฉี มักออกจากวังทุกวันคนภายในวังคิดว่านางออกเที่ยวเล่นเช่นองค์หญิงใหญ่ แต่เมื่อสอบถามคนนอกวังกลับพบว่าองค์หญิงสามมักช่วยงานในร้านค้าหลายแห่งของตระกูลหลาน ทั้งร้านประทินโฉม ร้านยา ร้านขายผ้า ร้านขายข้าว และโรงเตี๊ยม คนละแวกจวนตระกูลหลานบอกว่าองค์หญิงสามมักเรียนตำรากุลสตรีกับท่านยายภายในจวนด้วย” หยางหมิงคล้ายโดนตบจนหน้าชา เขาเคยดูแคลนนางไม่น้อยตอนนางขอทำกิจการหาว่านางเป็นเพียงสตรีในวังไม่รู้การค้า แต่นางกลับร่ำเรียนมาไม่น้อย “แล้วเหตุใดเสวี่ยหนิงถึงบอกว่าลี่อินออกเที่ยวเล่น และฮ่องเต้แคล้วฉีเองยังเชื่อเช่นนั้นอีก” ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 24 อ้อนวอน

    แม้ลี่อินอยากเข้าไปตำหนักตะวันออกเร็วเพียงใด กลับถูกเย่จินยืนขวางไว้ด้านหน้า “ข้าต้องการพบท่านอ๋อง” เสียงสั่นเครือดังขึ้น หากแต่สายตายังจ้องมองไปเบื้องหน้า“องค์หญิงสาม โปรดอภัยบัดนี้ท่านอ๋องไม่ว่างรับแขก” เย่จินยืนกรานปฏิเสธ“ข้ามีเรื่องด่วน โปรดหลีกทาง”ดวงตาแดงก่ำที่ยังคงมีน้ำตาไหลอาบแก้มจ้องมองเย่จิน ทำให้องครักษ์หนุ่มทำสิ่งใดไม่ถูก “ตอนนี้ดึกมากแล้ว ท่านอ๋องกับพระชายารองบรรทมแล้ว หากรบกวนท่านอ๋องทรงกริ้วพวกหม่อมฉันรับไม่ไหวนะเพคะ” เจียฮุ่ยไม่ยอมให้โอกาสของนายตนหลุดลอย “ข้ารับเอง!” ดวงตาแข็งกร้าวจ้องนางกำนัลของเสวี่ยหนิง “หลีก!” เสียงหนักแน่นของลี่อิน ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าขวางอีกภายในห้องนอน สองร่างยังคลอเคลียเสื้อคลุมไหล่เสวี่ยหนิงบัดนี้กองอยู่ที่พื้น ร่างกายร้อนผ่าวด้วยความต้องการ เชื้อเชิญให้หมิงหยางเข้าหา รอยจูบจากริมฝีปากอวบอิ่มพรหมจนทั่วลำคอแกร่งของบุรุษ โดยที่ชินอ๋องเพียงยืนประคองสตรีในอ้อมกอดไม่ให้ล้มลง “ท่านอ๋อง! หม่อมฉันลี่อินเพคะ”เสียงร้อนรนของลี่อินดังมาจากด้านนอก ทำให้การกระทำของทั้งสองต้องหยุดลง หยางหมิงรีบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 25 คำสัญญา

    หยางหมิงกลับมานอนที่ตำหนักอ๋อง ไม่ได้กลับไปหาเสวี่ยหนิงอีกภายในใจครุ่นคิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตำหนักเล็ก แม้ว่าเขาจะใจกว้างมากพอแล้วกับการให้เด็กที่ไม่ใช่เลือดของตนอยู่ในฐานะท่านหญิง เพื่อหวังปกป้องนางจากคำครหาของผู้คน แลอันตรายที่จะเกิดกับเด็กน้อยผู้นี้หากพระชายารัชทายาทยังมิอาจคลอดโอรสได้ แต่ตำหนักที่ให้นางอยู่ การละเลยต่อการใช้ชีวิตของนางจากเขา กลับนำพาความเจ็บป่วยมาให้นางหรือเป็นเขาเองที่นำความแค้นจากมารดามาให้เด็กน้อยรับไว้กันแน่ รุ่งเช้าหยางหมิงที่ไม่ได้เข้าร่วมว่าราชการ จึงตรงไปยังตำหนักเล็ก โดนภายในตำหนักทุกอย่างกลับเข้าสู่ความสงบ เด็กน้อยยังคงนอนอยู่บนเตียงโดยมีลี่อินนั่งเฝ้าไม่ห่าง “เด็กเป็นอย่างไรบ้าง” หยางหมิงเอ่ยถามเสียงเบา “คารวะท่านอ๋องเพคะ อี้หนิงไข้ลดลงแล้ว ท่านหมอพึ่งกลับไป” ลี่อินยอบกายก่อนกล่าวตอบ “อือ เช่นนั้นก็ดีข้ามีเรื่องอยากคุยกับเจ้า” น้ำเสียงจริงจังของชินอ๋องทำให้นางอดกังวลไม่ได้ “ท่านอ๋องมีสิ่งใดจะตรัส” เมื่อออกมายังสวนหน้าจวนลี่อินรีบเอ่ยถามด้วยความสงสัย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-11
  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 26 ออกหน้าแทน

    เทศกาลหยวนเซียวกำลังจะมาถึง ทั่วเมืองโซ่โจวถูกประดับประดาด้วยโคมไฟรูปทรงต่าง ๆ แต่ละจวนตกแต่งโอ้อวดกันไปมาไม่เว้นแม้แต่จวนอ๋องที่เสวี่ยหนิงใช้เงินไปไม่น้อยเพื่อทำให้จวนอ๋องโดดเด่นกว่าจวนใด ๆ ในเมืองซู่โจว หยางหมิงแม้จะไม่เห็นด้วยกับการใช้เงินซื้อของสิ้นเปลืองพวกนี้ มันไม่เกิดประโยชน์อันใดนอกจากทำให้สวยงาม หากแต่เขากลับไม่เอ่ยออกมาปล่อยให้มันเป็นไปตามความต้องการของเสวี่ยหนิง ภายในตำหนักอ๋องบ่าวไพร่ต่างนำโคมแดงประดับทั่วบริเวณเพื่อรับความมงคล โดยที่ชินอ๋องมิขัดขืน“ท่านอ๋องเพคะ” เสวี่ยหนิงเอ่ยทักบุรุษที่นั่งอ่านตำราในห้องโถงของเรือน“เสวี่ยหนิมีสิ่งใดหรือไม่” หยางมิงละสายตาจากตำรา ก่อนจะสบตานาง หลังจากเกิดเรื่องกับอี้หนิงเขาไม่ได้ไปยังตำหนักตะวันออกอีกเลย ในใจรู้สึกผิดกับนางไม่น้อย“เทศกาลหยวนเซียว หม่อมฉันอยากไปเที่ยวเดินชมงานกับพระองค์ได้หรือไม่” ใบหน้าเศร้าแต้มด้วยแววตาอ้อนวอนถูกส่งไปยังชินอ๋อง“ได้ ข้ารับปากพระชายา” หยางหมิงรู้ว่าตนผิด จึงคิดไถ่โทษด้วยการเที่ยวชมงานเป็นเพื่อนนาง“ขอบพระทัยเพคะ” เสวี่ยหนิงดีใจจนยิ้มกว้างรีบยอบกายขอบคุณ ด้านตำหนักเล็กเสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-11

บทล่าสุด

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   ตอนพิเศษ ชีวิตเรียบง่าย

    สายลมฤดูใบไม้ผลิพัดปลิวไหว ม่านรถม้าสะบัดไปมาตามแรงลม เด็กชายวัยสองขวบเล่นซนบนรถม้าโดยไม่เหน็ดเหนื่อย “ถานจุนเฟิง หยุดเล่นได้แล้วตอนนี้จะถึงจวนแล้ว” ลี่อินที่กำลังอ่านบัญชีร้านกล่าวกับโอรสของตน “จุนเฟิงมาหาพ่อ ท่านแม่กำลังคร่ำเคร่ง” หยางหมิงเรียกลูกชายมาหา บัดนี้เขาสิ้นคราบชิงอ๋องผู้บ้าคลั่ง กลายเป็นพ่อค้าธรรมดาเท่านั้น “จื้อหาวบอกว่า ดินแดนทางตอนเหนือของแคว้นหานมีดอกไม้กลิ่นหอมมากมาย แลไข่มุกก็ราคาถูกฮูหยินสนใจหรือไม่” หยางหมิงเอ่ยถึงสหายเก่าที่หลังจากสำนึกตนมาสองปี จึงติดต่อหาเขาอีกครั้ง “สนใจสิเพคะ ท่านพี่แจ้งโหวน้อยด้วยว่าหลังจากงานเฉลิมฉลองการก่อตั้งแคว้นเว่ย เราจะเดินทางไปเจรจาราคาอีกครั้ง” ลี่อินยิ้มกว้างนางดีใจทุกครั้งหากสามารถหาวัตถุดิบราคาถูกและดีได้ “ของขวัญอี้หนิงครบสี่ปีจะให้สิ่งใดนางดีเพคะ” ลี่อินขอความเห็นกับหยางหมิง “เช่นนั้นมอบร้านขายอัญมณีในเมืองเถียนชิง พร้อมกับเงินอีกหมื่นตำลึงให้นางดีหรือไม่ โตขึ้นมานางจะได้เป็นสตรีที่ร่ำรวยที่สุดในแค้นฉี ไม่มีผู

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   ตอนพิเศษ อวดชายา

    ใกล้พิธีอภิเษกสมรสของฉินตงหยาง หยางหมิงพาลี่อิงเข้าวังหลวงเพื่อขอพระราชทานอนุญาตร่วมพิธีอภิเษกสมรส “ทูลเสด็จพ่อ เสด็จแม่ กระหม่อมและพระชายามาขอให้ทั้งสองพระองค์พระราชทานอนุญาตเข้าร่วมงานอภิเษกสมรสของรัชทายาทแคว้นหานพ่ะย่ะค่ะ” “กำลังตั้งครรภ์จะเดินทางไกลได้อย่างไร ให้เพียงหยางหมิงไปก็พอ ส่วนลี่อินพักอยู่ที่จวนเถอะ” ฮองเฮากล่าวแย้งทั้งที่ยังปักผ้าอยู่ “ทูลฮองเฮา รัชทายาทแคว้นหานเป็นสหายของหม่อมฉันจึงจำเป็นต้องไปร่วมยินดีเพคะ” ลี่อินไม่ยินยอมทำตาม “เจ้าไปรังแต่จะเป็นภาระ เดินเหินลำบากอยู่จวนดีแล้ว” “หม่อมฉันยังคล่องแคล่ว ครรภ์ยังอ่อนไม่ได้เป็นภาระแต่อย่างใด” นางโต้แย้งทุกคำห้ามของมารดาสวามี หยางหมิงกับฮ่องเต้ทำได้เพียงนั่งดื่มน้ำชาอย่างเงียบเชียบ ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดกระหว่างที่สตรีทั้งสองกำลังโต้แย้งกัน “นี่ เหตุใดถึงมิยอมเชื่อฟังเอาซะเลยเจ้าเป็นลูกสะใภ้สมควรเชื่อฟังแม่สามีมิใช่หรือ” อวิ๋นซินจ้องมองลี่อินด้วยสายตาตำหนิ หากแต่ลูกสะใภ้ผู้นี้กลับ

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 52 รักแรก

    ม้าศึกคู่กายชินอ๋องหยุดนิ่งหน้าจวนอ๋อง บุรุษบนหลังม้าไม่รีรอมุ่งหน้าไปตำหนักตะวันออกด้วยความร้อนใจ ทว่าภายในตำหนักกลับไม่มีผู้ใดอยู่ทำให้แน่ใจแล้วว่าลี่อินหนีเขาไปจริง ร่างทั้งร่างของหยางหมิงหนักอึ้งจนมิอาจย่างก้าวได้ หัวใจทั้งดวงเต้นช้าลงเรื่อย ๆ น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาที่เจ้าของร่างไม่รู้ตัว ภพของลี่อินในเวลาโกรธ เวลาร้องไห้ หัวเราะ แข็งกร้าว ผุดขึ้นในหัวเขาซ้ำไปซ้ำมา “ไปแค้วนฉี!” คำสั่งเดียวของหยางหมิง ทำทั้งกองทัพต้องเดินทางอีกครั้ง ประชาชนต่างงุนงง กองทัพที่กลับเข้าเมืองเพียงหนึ่งชั่วยาม บัดนี้กลับเดินทัพอีกครั้งมีเหตุใดสำคัญจนมิหยุดพัก การเดินทางโดยไม่หยุดพักทำเหล่าทหารอ่อนล้าไม่น้อย หากแต่มิมีใครกล้าปริปากบ่น กองกำลังเรือนหมื่นเหยียบเข้าใกล้เมืองเถียนชิง “ท่านอ๋อง สายสืบแคว้นหานแจ้งข่าวว่ารัชทายาทตงหยางจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสอีกสิบห้าวันข้างหน้าพ่ะย่ะค่ะ” เย่จินรายงาน ม้าศึกของหยางหมิงหยุดชะงักทันที เขาหวาดกลัวว่าสิ่งที่ตนคาดเดาจะเป็นจริง “ข่าวนี้แคว้นฉีรู้เรื่องหรือไม่” มือหนากำบังเหียนแน่นจนเ

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 51 ผิดสัญญา

    หิมะในเมืองเหออันสงบลง คนเจ็บป่วยเพราะภัยหนาวไม่มีแล้ว หน้าที่ของลี่อินในเมืองเหออันจึงสิ้นสุดลง นางไม่มีความจำเป็นที่จะรั้งอยู่ที่เหออันอีก จึงคิดขอกลับเมืองหลวงเพราะเป็นห่วงร้านประทินโฉมอีกทั้งเรื่องในจวนไม่มีผู้ใดคอยจัดการ “ท่านอ๋อง ข้าจะกลับซู่โจวก่อนได้หรือไม่” ลี่อินยืนอยู่หน้าโต๊ะทรงอักษร สีหน้าจริงจังจ้องบุรุษที่ยังอ่านสาน์สของทัพอยู่ “รอกลับพร้อมข้า” เสียงเอาแต่ใจดังขึ้น “กว่าท่านอ๋องจะเสด็จกลับ ก็อีกครึ่งเดือน หม่อมฉันเป็นกังวลเรื่องร้านหมื่นบุปผา อีกทั้งกิจการของจวนอ๋องก็ไม่ได้ตรวจบัญชีมาแรมเดือน” “แต่หากเจ้าแอบหนีหลับแคว้นฉีเล่า” ครานี้หยางหมิงยอมเงยหน้าจากสาน์สกองทัพ มองมายังนางด้วยแววตาเศร้าสร้อย “หม่อมฉันจะหนีไปทำไมกัน” ลี่อินท้อใจที่จะอธิบาย “ก็เจ้าไม่มีใจให้ข้า หากครบสองเดือนสัญญาระหว่างข้ากับฮ่องเต้แคว้นฉีก็ถือว่าเป็นโมฆะ” น้ำเสียงเศร้าหมองนั้นลี่อินไม่ได้ตอบกลับ ยิ่งทำให้หยางหมิงรู้สึกหวาดหวั่น หากแต่นางกลับเดินไปหยุดเบื้องหน้าเขาพลางยอบก

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 50 เหน็บหนาว

    ตงหยางมิอาจรั้งอยู่ในแคว้นอื่นได้นาน ยิ่งเป็นชายแดนแล้วความอึดอัดยิ่งเพิ่มมากขึ้น ก่อนหิมะจะตกหนักอีกครั้งจึงจำต้องบอกลาลี่อิน “ข้ายังยืนกรานคำเดิม หากเจ้ามิอยากอยู่กับชินอ๋องแล้ว ไปหาข้าที่แคว้นหาน แม้ไม่อาจห่วงใยในฐานะคนรักแต่ข้ายังห่วงใยเจ้าในฐานะสหายเสมอ” ตงหยางยื่นหยกประจำตัวกลับให้นางเช่นเดิม “ขอบพระทัยรัชทายาท” ลี่อินยอบกายกล่าวลา ก่อนรถม้าจะเคลื่อนตัวออกจากประตูเมืองไป หยางหมิงยิ้มพอใจเมื่อเห็นบุรุษอื่นที่นางห่วงใยจากไปเสียที แม้เป็นเพียงสหายแต่เขาก็ยอมรับไม่ได้เช่นเดิม “รัชทายาทยังคงตัดใจจากเจ้าไม่ได้” หยางหมิงมองหยกในมือลี่อิน “สักวันเขาจะเจอสตรีที่ตนรักเพคะ” ลี่อินกล่าวพลางหันกายเข้าเมืองไป “เหมือนข้าที่เจอแล้ว” หยางหมิงเดินตามนาง “ใครกันหรือเพคะ” “เจ้าไง อาอิน” ลี่อินหน้าแดงเมื่อเขาบอกชื่อสตรีในดวงใจ ก่อนก้มหน้ารีบเดินหนีเข้าโรงหมอไป ทำให้ชินอ๋องยิ้มอย่างมีหวังว่าภายในสองเดือนนางต้องยินยอมอยู่ข้างกายเขาเป็นแน่

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 49 เดินทางขึ้นเหนือ

    “เราต้องกลับแคว้นเว่ยพรุ่งนี้” น้ำเสียงเคร่งเครียดเอ่ยขึ้น “มีอะไรหรือไม่เพคะ” “เมืองอันเหอมีพายุหิมะถล่ม ราษฎรขาดแคลนเสบียง กองทัพที่นั่นมิอาจรับมือได้ข้าต้องรีบไปจัดการ “แล้วเหตุใดหม่อมฉันต้องไปด้วย ท่านอ๋องเดินทางลำพังจะไม่เร็วกว่าหรือ หม่อมฉันจะไปรอพระองค์ที่จวนพร้อมอี้หนิง” “ข้าจะไม่ไปไหนหากไม่มีเจ้า” หยางหมิงแววตาจริงจังจ้องนางอยู่เช่นนั้น “หากแต่อี้หนิงยังเด็กหากเผชิญหิมะ...” “นางจะอยู่ที่แคว้นฉี” หยางหมิงกล่าวขัด “ท่านอ๋องตรัสว่าอย่างไรนะเพคะ?”ลี่อินไม่อยากเชื่อว่าหยางหมิงจะยินยอมให้อี้หนิงที่มีสายเลือดของตระกูลถานอยู่ที่แคว้นฉี “นางอยู่ที่นี่จะมีความสุขกว่า ไม่ต้องถูกสายตาดูแคลนของผู้อื่นจ้องมองเช่นที่อยู่ในแคว้นเว่ย ที่นั่นไม่สามารถให้ความรักกับนางได้ต่างจากไทเฮาเสวี่ยฉีที่มอบความรักให้กับเด็กคนนั้นได้ไม่สิ้นสุด”คำพูดของหยางหมิง ทำให้นางรู้ว่าบุรุษผู้นี้ห่วงใยผู้อื่นมากกว่าที่เขาแสดงออก คลื่นความสุขจึงก่อตัวขึ้นภายในใจของนางอ

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 48 ข้อแลกเปลี่ยน

    กบฏยอมจำนน เจ๋อหานเสด็จประทับบนบัลลังก์มังกร ขุนนางประกาศโองการ“ด้วยโองการสวรรค์ ฮ่องเต้เจ๋อหานขึ้นครองบัลลังก์ ราษฎรเป็นสุขไร้ทุกข์นิรันดร์ เริ่มต้นศักราชหย่งฉีนับแต่นี้” สิ้นคำประกาศ เหล่าขุนนางคุกเข่ากราบถวายบังคม “น้อมรับบัญชาฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น หมื่นปี” “ขุนนางทุกท่านลุกขึ้นเถิด ราชโองการแรกของข้า อภัยโทษทหารที่ร่วมก่อกบฏ ส่งไปชายแดนทำดีไถ่โทษ แม่ทัพอู๋ไท่และรองแม่ทัพ ปลดออกจากตำแหน่ง ยึดทรัพย์กึ่งหนึ่ง เนรเทศไปดินแดนรกร้าง ไม่เอาความคนในตระกูล องค์ชายจี้หานให้ไว้ทุกข์ยี่สิบปีเฝ้าสุสานฮ่องเต้หย่งเฮ่า” “น้อมรับราชโองการ” หยางหมิงยืนข้างลี่อิน มองดูเหตุการณ์สำคัญของแคว้นฉีโดยไม่คิดก้าวก่าย ส่วนลี่อินเงยหน้ามอกบุรุษที่ตัวสูงกว่าสายตาเต็มไปด้วยคำถามมากมาย “ชินอ๋องถานหยางหมิง ขอบใจที่ตอบรับสาน์สขอความช่วยเหลือจากเรา” พระราชดำรัสของฮ่องเต้ ทำผู้คนในท้องพระโรงหรือแม้แต่ลี่อินต่างสับสน เหตุเพราะว่าการขอความช่วยเหลือจากแคว้นเว่ยไม่ได้มีการหารือในหมู่ขุนนางหรือแม่ทัพ “แคว้นฉี เป็นบ้านเกิดของพระชายา

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 47 ชิงบัลลังก์

    พิธีราชาภิเษกจัดขึ้นตามกำหนดเดิม ลานหน้าท้องพระโรงถูกตระเตรียมสำหรับราชพิธี เหล่าขุนนางยังคงเข้าร่วมพระราชพิธีโดยมิหวาดหวั่นการชิงบัลลังก์ขององค์ชายสี่จี้หาน รัชทายาทซ่งเจ๋อหานสวมชุดมังกรพิธีการ ก้าวเดินอย่างมั่นคงมุ่งตรงสู่ท้องพระโรง เหล่าข้าราชบริพารค่อมกายเคารพฮ่องเต้พระองค์ใหม่ เครื่องประโคมบรรเลงตามจังหวะการเสด็จของฮ่องเต้ ไทเฮายืนอยู่เหนือบันไดท้องพระโรง พร้อมเหล่าเชื้อพระวงศ์เพื่อรอรับเสด็จฮ่องเต้พระองค์ใหม่ ฮ่องเต้เจ๋อหานคุกเข่าถวายพระพรพระราชมารดาก่อนจะนำเสด็จเข้าสู่ท้องพระโรง หากแต่ประตูวังกลับมีกองกำลังของอู๋ไท๋บุกเข้ามาล้อมรอบลานพิธี “องค์ชายเจ๋อหานจะเสด็จไปที่ใดพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพหลวงอู๋ไท่ลงจากม้าศึกชี้ดาบตรงมายังว่าที่ฮ่องเต้ของแคว้น “บังอาจ เจ้าเป็นขุนนางของราชสำนัก กล้าดีอย่างไรไม่เรียกฮ่องเต้ตามธรรมเนียม แลยังถือดาบต่อหน้าพระพักตร์อีก” มหาราชครูหลานต่อว่าอย่างมิเกรงกลัว “หึ! ตาเฒ่าหลานซื่อ ใครนับหลานชายเจ้าเป็นกษัตริย์กัน ทั้งอ่อนแอ ขลาดกลัวใช้แต่การเจรจาต่อรองไม่เห็นความสำคัญของการรบ แล้วเช่นนี้จะปก

  • ลิขิตรัก ตำหนักอ๋อง   บทที่ 46 ฮ่องเต้แคว้นฉีสิ้นพระชนม์

    เสวี่ยหนิงถูกส่งกลับแคว้นฉี ฮองเฮาเสวี่ยฉีนำเหล่าขุนนางบีบบังคับฝ่าบาทให้สั่งประหารเสวี่ยหนิง จนฮ่องเต้ที่ไร้ทางเลือกสั่งประหารธิดาของตนเองเพื่อความมั่นคงของราชวงศ์ สนมคนโปรดถูกเนรเทศไปชายแดน ส่วนซิ่วหรูถูกสั่งกักบริเวณในตำหนักนานสองปี โหวน้อยหวงจื้อหาวแม้มิได้มีเจตนาทำร้ายเหมยหลิง หากแต่มอบยาสวาทมิรู้จบเพราะสงสารน้องสาว ถูกส่งไปต่างแคว้นทำหน้าที่ทูตเจรจาการค้าเพื่อประโยชน์ของแคว้นเว่ย ลี่อินกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง บัดนี้ทุกอย่างจบสิ้น นางย้ายกลับมาอยู่ตำหนักพระชายาพร้อมอี้หนิง เด็กน้อยที่ได้วิ่งเล่นในตำหนักกว้างยิ้มอย่างพอใจ “ชอบ” อี้หนิงที่พึ่งฝึกพูดเปล่งเสียงบอก “อี้เออร์ชอบก็ดีแล้ว” ลี่อินลูบศีรษะทุยนั้นอย่างรักใคร่ หากแต่ความสุขกลับอยู่ได้ไม่นาน เมื่อม้าเร็วจากแคว้นฉีขอเข้าเฝ้า “ทูลองค์หญิงสาม บัดนี้ฮ่องเต้สิ้นพระชนม์แล้ว ฮองเฮาทูลเสด็จพระองค์กลับไปสักการะพระศพพ่ะย่ะค่ะ” ลี่อินแม้รู้ว่าบิดาป่วยมานาน หากแต่เมื่อได้ยินว่าฝ่าบาทจากไปแล้ว สติของนางขาวโพลนทันที เสียงสุดท้ายที่นางได้ยินกลับเป็นเสี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status