กลิ่นกายหอมบางเฉพาะตัวของเซย์ยังคงลอยอ้อยอิ่งในอากาศ
ยามที่อัลฟ่าหนุ่มสูดดมเขาไปเขาก็ยิ่งหลงไหลจนแทบถอนตัวไม่ขึ้น แสงเทียนไหวสะท้อนผิวเนื้อขาวเนียนของเซย์จนเทอประกายวาววับร่างที่เปลือยเปล่าของเซย์ที่นั่งมองเขาอยู่บนเตียง ภาพตรงหน้าแทบเหมือนภาพวาดต้องสาป "ที่ยิ่งมองก็ยิ่งลุ่มหลง" โอเมก้าที่ไม่หวาดกลัว ไม่แม้แต่ทำตัวเชื่องเพื่อแลกกับการรอดชีวิต แต่เขากับใช้ร่างกายกำราบอัลฟ่าด้วยไฟราคะที่ไม่มีใครเคยต้านได้ ไคลน์หอบ ลมหายใจติดขัด ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาเบิกกว้างเมื่อเซย์จับแก่นกายเขาไว้แน่นอีกครั้ง มือเรียวนุ่มของเซย์ลูบขึ้นลงอย่างช้า ๆ สัมผัสที่แผ่วเบาแต่ปลุกเร้าความต้องการได้อย่างน่าเหลือเชื่อ นิ้วหัวแม่มือยังคงวุ่นวายเขี่ยวนที่ปลายหัวแดงก่ำจนของเหลวสีใสไหลทะลักออกมาไม่หยุด เสียงเจ้าชายครางต่ำ อื้ออึงในลำคออีกครั้ง “อึก...เซย์ ข้า...” "อ่าห์..ดี" “ชู่ว์” เซย์ยิ้มบาง แตะนิ้วที่ริมฝีปากไคลน์เบา ๆ “ปล่อยให้ข้าดูแลเจ้าสิ ขอลิ้มรสท่านต่ออีกสักหน่อยนะแล้วคืนเราจะได้สนุกกัน” จากนั้น เขาก็โน้มตัวเข้าหาไคลน์อีกครั้งทั้งคู่จูบกันอย่างเร่าร้อน ก่อนที่เซย์จะผละริมฝีปากออกและลากลิ้นเคลื่อนต่ำลงสำรวจร่างกายสุดแสนจะแข็งแกร่งและสมบรูณ์แบบของอัลฟ่าหนุ่มที่เขาเลือกเองกับมือ เสียงหายใจของไคลน์หนักขึ้นทุกวินาทีที่ปลายลิ้นร้อน ๆ ไล้ผ่านแผงอก หน้าท้องของไคลน์หดเกร็งเมื่อลิ้นร้อนลากลงต่ำใกล้เข้ามาที่ปลายลำ และทันใดนั้น... “อ่ะ…!” ไคลน์สะดุ้งอีกครั้ง เมื่อเซย์ ครอบปากดูดเขา แก่นกายลำใหญ่ผลุบหายเข้าไปในโพรงปากนุ่มของเซย์จนสุดความยาว ริมฝีปากนุ่มอุ่นตอดรัดแก่นกายเขาอย่างแนบแน่น ลิ้นร้อนตวัดวนไม่หยุด เสียงดูดดัง “จ๊วบ… จ๊าบ… ม๊วบ…” ไคลน์จิกผ้าปูที่นอนแน่น แผ่นอกแน่นขนัดกระเพื่อมแรงหายใจหอบถี่กระชั้น ใบหน้าหล่อเหลาเหยเกเพราะความเสียวที่ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ไคลน์เพิ่งเสร็จสมแต่เซย์ก็ไม่ยอมให้เขาได้พัก หลังจากรูดลำเข้าออกด้วยปากอย่างเชี่ยวชาญ เขาก็ผละออกช้า ๆ พร้อมเสียง “ม๊วบ!!!” ลมหายใจร้อนเป่ารดปลายที่แดงฉ่ำจนไคลน์แทบคลั่ง “อย่าเพิ่งเสร็จนะ...นี่ต่างหากคือของจริง” เซย์กระซิบ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับขึ้นคร่อมร่างของอัลฟ่าหนุ่ม เรือนร่างบางขาวนวลเปลือยเปล่าสะท้อนแสงของดวงจันทร์ ดวงตาสีเงินของเขาจ้องลึกเหมือนอยากจะกลืนกินวิญญาณของไคลน์ ขณะที่เขาจับแก่นกายใหญ่ของไคลน์มา กดแนบปากทางเข้า “เจ้าพร้อมหรือยัง...ร่างกายของเจ้าให้ข้าบนเตียงนี้” และก่อนที่ไคลน์จะตอบ... เซย์กดสะโพกลงทันที "สวบ" “อ๊า—!” เสียงครางผะแผ่วหลุดจากปากของคนทั้งคู่ ไคลน์จิกแขนของเซย์ไว้แน่น ขณะที่ร่างของเขากระตุกแรงเพราะโดนบีบรัดแน่นอย่างหนักโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว โพรงอุ่นแน่นตอดรัดเขาอย่างบ้าคลั่งเหมือนร่างกายนั้น ออกแบบมาเพื่อปลุกกระตุ้นอารมณ์ของอัลฟ่าโดยเฉพาะ รูจีบของเซย์ตอดรัดเขาหนักหน่วงสร้างควาเสียวซ่านกว่าตอนโดนปากเป็นไหนๆ “อื้อ...แน่น...แน่นเกินไป... เซย์ ข้า...” หน้าของไคลน์แดงก่ำ “อ่า.....อย่าเพิ่งเสร็จนะเจ้าชาย” เซย์ยิ้ม ก่อนจะเริ่มขยับสะโพก ขึ้นลง อย่างต่อเนื่อง เสียงกระแทกเนื้อดัง “ตับ ตับ ตับ” สนั่นห้อง ทุกครั้งที่สะโพกกระทบกันกับต้นขา ผิวเนื้อขาว ๆ ของเซย์จะกระเพื่อมเป็นคลื่นตามความรุนแรงของการกระแทก อ๊ะ..อื้ม..ซี้ด!!!ไคลน์ดีอย่างงั้นล่ะ อู้ว...ซี้ด!!!..อ่าห์แรงอีกเซย์เสียว!!! อ๊ะ..ซี้ด!!!...เจ้าชอบไหมอ่าห์~ ดวงตาเขาฉ่ำเยิ้ม เปล่งประกายทั้งเชิญชวนแต่ก็แลดูอันตราย ไคลน์แทบบ้าเมื่อได้เห็นใบหน้าหวานของเซย์เหยเกเพราะเขา เขายกยิ้มอยากภาคภูมิพร้อมกระแทกสวนขึ้นถี่ระรัวทั้งที่เหงื่อผุดเต็มขมับ เสียงครางของเขาดังขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบฟังไม่เป็นคำ มือของเขาขยุ้มสะโพกแน่น ควบคุมการเคลื่อนไหวไม่ได้อีกแล้ว ไคลน์ขยับสะโพกโยกสวนอย่างเต็มแรงจนเซย์ต้องใช้วงแขนกอดคอของเขาไว้เพื่อเป็นหลักยึด "อื้ม...ฮ่า..ซี้ดดด!!!" "อื้ม..." "ตับ...ตับ...ตับ" “เซย์...เซย์! ข้า...จะอ๊ะ อู้ว...อ่าห์....อื้อ!!!จะเสร็จแล้ว!” “อื้ม...ดีอ่าห์มากเลยไคลน์...” เซย์โน้มหน้าลง กระซิบข้างหู พร้อมเลียติ่งหูเบา ๆ “ปล่อยมันออกมา เจ้าชายของข้า” เซย์ร้องบอกในขณะที่สะโพกของเขายังกดกระแทกลงมาไม่หยุด เสียงเนื้อกระแทกกันดัง “ตับ ตับ ตับ” เซย์เริ่มโยก เอวขยับขึ้นลงอย่างอย่างชำนาญ เขาบดสะโพกขึ้นลงอย่างมั่นคง จังหวะเร่าร้อนจนคนที่ถูกคร่อมทานทนไม่ไหวจนต้องเด้งสะโพกตัวเองสวนแทงแรงขึ้นเรื่อย ๆ "อื้ม..อ่าห์..ไคลน์เจ้าชอบ...หา" "อ๊ะ..อื้ม..อู้ววว..." “มะ...ไม่...” ไคลน์พยายามเอ่ยปฏิเสธแต่เสียงของเขาขาดห้วงเพราะความเสียวที่ปะทุจากภายใน เซย์ยังคงโยกกายขึ้นลงไม่หยุดช่องทางรักบีบกระชั้นจนแก่นกายครูดเสียดสีไปทุกอณู "อื้ม...อ่าาา...ไคลน์" "อ๊ะ...ซี้ด!!!" ไคลน์ครางกระเส่าร่างกายของร้อนผ่าวจนแทบลุกไหม้ ไคลน์ไม่เคยร่วมกับโอเมก้าตนไหนที่เป็นงานขนาดนี้ ใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าชายบิดเบี้ยวเมื่อแก่นกายของเขาถูกภายในของเซย์ตอดรัดไม่หยุด "เซย์..อ่าห์...ซี้ดดด!!!" “ปลดปล่อยออกมาอย่างงั้นล่ะอ่าห์ร้อน!!!” "ตับ ตับ ตับ" "ได้..อ๊ะๆ..อื้ม...ได้เลยเซย์" ไคลน์คำรามลั่น เขาโอบกอดกระชับร่างของเซย์ให้แนบแน่นมากยิ่งขึ้นก่อนจะขยับสะโพกเด้งสวนรัวๆแบบไม่ยั้ง และเใช้เวลาเพียงไม่นานไคลน์ก็ปลดปล่อยทุกน้ำรักทีมีออกมาทุกหยาดหยดจนเข้าไปเติมเต็มช่องวางภายในของเซย์จนล้นมันทะลักล้นออกมาเปลื้อนหน้าขาตัวเอง พร้อม ๆ กับกระตุกแรงสองถึงสามครั้ง ในขณะที่เซย์ยังขย่มต่ออีกไม่หยุดราวกับต้องการรีดน้ำของเขาจนหมดแม้เหลือเพียงหยาดสุดท้ายไคลน์เอนหลังนอนแผ่บนเตียงกว้างอย่างหมดเรี่ยวแรงเขารู้สึกเหนื่อยล้าจากเกมรักเมื่อสักครู่ เซย์หยัดกายขึ้นจนแก่นกายลำเขื่องของไคลน์ค่อยถอดถอนหลุดออกจากกายเขาแต่ด้วยความคับแน่นจนเกิดดัง "พล็อก!!!" "อ่าห์..." เซย์ครางกระเส่าพลางส่งสายตาเย้ายั่วให้ไคลน์อย่างจงใจ และก็ได้ผลไคลน์จ้องมองเขาอย่างไม่วางตา จากนั้นเซย์จับขาของไคลน์แยกออก วางไว้บนหน้าขาของตนเอง ก่อนจะถมน้ำลายลงบนฝ่ามือ แล้วค่อย ๆ เอานิ้วมาจ่อเข้าหาปากทางที่เต้นตุบ ๆ ตอดรัดอากาศของไคลน์และออกแรงกดปลายนิ้วของตัวเองเข้าไปรูจีบอย่างช้า ๆ ไคลน์สะดุ้ง ร่างทั้งร่างสั่นระริก “ไม่...ข้าไม่!”มือเรียวยังคงจับสะโพกของไคลน์ไว้แน่น "อึก..อื้อ..อัลฟ่าหนุ่มร้องห้าม"ด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน เซย์จงใจใช้นิ้วเบิกทางให้ไคลน์ได้ปรับตัว "อื้ม..ยะ..หยุดนะ" เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับอัลฟ่าเช่นเขาแต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธสัมผัสของเซย์ได้เลย นิ้วของเซย์รุกล้ำเข้าไปจนสุดความยาว และเมื่อเขาเห็นว่าไคลน์เริ่มปรับเขายิ่งได้ใจเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปภายในอีก "ฮ่าห์..ซะ..เซย์" นี่มันความรู้สึกอะไรกัน ไคลน์ทั้งสับสนทั้งเสียดเสียวปิดเปลือกเข
แสงจันทร์สาดส่องผ่านซี่ลูกกรงคุก ร่างเปลือยขาวท่อนบนของเซย์สะท้อนแสงสีเงินเป็นประกายวาววับบนเตียงไม้เก่า ผิวเนียนละเอียดเหมือนหิมะที่ต้องแสงเช้า ราวกับสิ่งของที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่กลับเป็นราคะที่ทำให้ภาพตรงหน้านั้น...งดงามจนเจ็บใจ ไคลน์ยืนมองเซย์ หอบแรง ดวงตาแดงฉานด้วยไฟปรารถนา ยิ่งนึกถึงเรื่องเมื่อคืน เหตุการณ์ที่เขาถูกคร่อม ควบขี่ โดยชายผู้ที่ควรจะเป็นแค่ ทาสโอเมก้าที่ต่ำต้อย แต่ตอนนี้...เขากลับกลายเป็นบุคคลที่ไคลน์หวาดระแวง สับสนทุกครั้งที่พบหน้า “อึ่ก...เซย์...!” ร่างสูงสะดุ้งเมื่อนึกถึงสัมผัสที่แนบชิดที่เซย์มอบให้เมื่อคืน "มาแล้วเหรอ..เจ้าชายของข้า" เสียงโซ่กระทบเหล็กดัง "กึก" กลบทุกความเงียบในคุกใต้ดิน แสงจากคบไฟสลัวส่องให้เห็นเพียงเงาลางค่อยๆเดินเข้ามาหาไคลน์อย่างช้าๆ บรรยากาศรอบตัวของไคลน์เริ่มอึดอัดจนเขาหายใจแทบไม่ออก เซย์ถูกล่ามไว้เพียงเส้นโซ่เส้นเดียว แต่สำหรับเซย์มันไม่ต่างอะไรจากเส้นด้าย เขเป็นแค่ทาสผู้ต่ำต้อยที่รอประหาร แต่กลับมีค่ามากพอให้เจ้าชายผู้สูงศักดิ์ต้องร้อนรน เพราะแค่เขา “พูด” ก็สามารถร้อยคอเจ้าชายไคลน์ให้เดินลงมาหาเขาได้ถึงที่นี่ แ
“เจ้าจะทำอะไร…” ไคลน์หอบ แต่ไม่ขัดขืน เซย์ใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจปลดเปลื้องอาภรเจ้าชายออกจนหมดสิ้น ร่างเปลือยเปล่าของไคลน์ถูกจับให้นั่งพิงกำแพง และร่างของเซย์...คร่อมลงมาอีกครั้ง “จูบข้าอีกสิ” เซย์กระซิบเสียงพร่า “อย่าเงียบสิ...หรือว่าเจ้าหวาดกลัวข้าเข้าแล้ว” ก่อนจะทันได้ตอบ เซย์ก็ นั่งทับลงไป กลืนกินความใหญ่โตของเจ้าชายเข้าไปทีละนิด ทีละนิด "อ่าห์...ใหญ่เสียจริง" เสียงครางแหบพร่าของไคลน์หลุดออกไม่หยุด เขาจิกเล็บลงกับท่อนขาเนื้อแน่นของเซย์ ร่างกระตุกเพราะความเสียวที่กัดกินทั้งกายและใจ "ตับ ตับ ตับ" "อื้อ...ซี้ดดด!!!!" เซย์โยกเอวช้า ๆ จังหวะเนิบแต่แน่นลึก ทุกครั้งที่เขากระแทกลงมา เสียงดัง "ตับ ตับ ตับ" ก็ดัง สนั่นคุกใต้ดินราวกับตั้งใจให้สะท้อนกลับทุกผนัง "อ่าาา...ไคลน์แน่นมากเสียวเหลือเกิน" "อื้ม...อ๊ะ...อ่าห์" ไคลน์พยายามกลั้นเสียงแห่งความหฤหรรษ์เพราะเขาไม่อยากให้เซย์รับรู้ว่าตนพอใจกับลีลารักของเซย์มากเหลือเกิน ลมหายใจของเจ้าชายเริ่มติดขัด เขาร้องเบา ๆ พร้อมมือที่คว้าเอวเซย์ไว้แน่น "กลั้นไว้เจ้าชายของข้าอย่าแพ้จนเสร็จก่อนล่ะ" “อื้อออ..อ่าห์..ข้า.
เช้าวันรุ่งขึ้น… ไคลน์ตื่นขึ้นมาบนเตียงของตัวเองในพระตำหนัก แต่ผ้าห่มที่คลุมตัวไว้ไม่อาจปกปิดร่องรอยที่เซย์ฝากไว้บนร่างกายของเขาได้ ทั้งรอยช้ำสีกุหลาบ และรอยฟัน เขาอยากให้เรื่องเมื่อคืนเป็นแค่ฝันเป็นเพียงภาพหลอน อัลฟ่าที่ไหนกันที่พลาดท่าให้โอเมก้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันน่าอายที่สุด แต่ทว่ามันกลับชัดเจน รุนแรง และแนบแน่นจนเหมือนยังรู้สึกได้ถึงปลายหัวร้อนที่แนบชิดดุนดันเข้ามาจนถึงจุดที่ลึกที่สุดของเขา กลิ่นตัวของเซย์ติดอยู่ในโพรงจมูก กลิ่นหอมบาง ๆ ที่ไม่เหมือนโอเมก้าคนไหน มันปลุกความปรารถนาในตัวเขาให้พวยพุ่งขึ้นอีกครั้ง…ความปรารถนาที่จะถูกเซย์สัมผัสคุกกรุ่นภายในจนไคลน์แทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เขากัดฟันแน่นเมื่อรู้ตัวว่า ‘อยาก...อยากที่จะสัมผัสเซย์’ อีกแล้ว อยากจนแทบบ้า แต่มันไม่ควรเป็นแบบนี้...เขาคืออัลฟ่าผู้สูงศักดิ์ เซย์ควรถูกลืม ถูกเหยียบ ถูกทำลายไปพร้อมกับความอ่อนแอในตัวเขา เขาจ้องมองเซย์อย่างเดือดดาล “ขังมันอีกครั้ง” ไคลน์สั่งเสียงกร้าวกับหัวหน้าทหาร “แยกขังเดี่ยว อย่าให้มันได้พูดกับใคร อย่าให้ใครได้เห็นมัน...แม้แต่เงา” แต่สั่งเสร็จกลับยังรู้สึกหายใจไม่เต็มปอด ร่างกายเริ่มเสี
หลังจากไคลน์จากไปเซย์ก็ไม่มีทางเลือกต้องใช้มือลูบไล้ตัวเองจนปล่อยปลดความอัดอั้นภายในให้ประทุออกมา "แม่งเอ้ย..." เขาสบทออกมาอีกแค่เดี๋ยวเดียวเขาก็ได้ฝั่งเมล็ดพันธ์ของเขาในกายไคลน์อีกครั้งแล้ว ถ้าไคลน์ไม่หนีไปเสียก่อน ค่ำคืนผ่านไปท้องฟ้ามืดดำสว่างขึ้นเมื่อแสงแรกของวันมาเยือน เซย์เฝ้ารออย่างใจเย็นว่าเมื่อไหร่ไคลน์จะหวนคืนมาหาเขา ตราประทับที่เขาฝังบนร่างกายของไคลน์ตอนที่เขามีสัมพันธ์กัน น่าจะเริ่มออกฤทธิ์ได้แล้ว ช่วงกลางคืน เสียงโซ่กระทบกันดังกังวานในห้องใต้ดินเย็นจัด เซย์ยังคงถูกล่ามกับผนังคุกแต่โซ่ที่ล่ามเขาวันนี้ถูกทำด้วยเหล็กที่หนายิ่งขึ้น ตัวเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าบางปิดช่วงล่างพอให้ไม่อุจาดตา ผิวขาวเนียนของเขาสะท้อนกับแสงตะเกียงน้ำมันที่ไหวสั่นระริกปลิวตามสายลม จนเหล่าทหารยังอดใจที่จะจ้องมองเรือนร่างของเขาไม่ได้ ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ประตูอย่างสงบนิ่ง ใจจดจ่ออยู่ใครบางคนที่มั่นอกมั่นใจว่าต้องมา และไม่นานเสียงประตูคุกก็เปิดออก ไคลน์ก้าวเข้ามาในห้องขัง สวมชุดคลุมสีดำพลิ้วไหว ใบหน้าตึงเครียดจนดูเย็นชา เขาถือขวดยาเล็ก ๆ ไว้ในมือ ก่อนโยนใส่พื้นข้างเตียง "ดื่มมันซะ" เซย์
กลิ่นหอมจางๆ ในห้องทรงงานลอยตลบอยู่ในอากาศ มันไม่ใช่น้ำหอม ไม่ใช่กลิ่นจากยาใด แต่มันคือกลิ่นเฉพาะตัวของคนคนหนึ่งที่ไคลน์ไม่อาจลืมได้เลย เซย์... ไคลน์หยัดลุกขึ้นยืนมองไปรอบ ๆ ตัว มองหาร่างของใครบางคนที่มั่นใจว่าถูกล่ามโซ่ไว้กับหัวเตียงด้วยคำสั่งของเขาเอง ริมฝีปากหยักเม้มแน่น ขณะที่ดวงตาคมไปสะดุดกับเซย์ที่เดินเข้ามาหาไคลน์ใกล้กับโต๊ะทำงาน ก่อนจะปลดเปลื้องผ้าคลุมตัวออกเผยให้เห็นร่างบางที่เกือบจะเปลือยเปล่าต้องแสงจันทร์มันเป็นภาพที่งดงามและล่อลวงจนเขาไม่อาจละสายตาไปจากเรือนร่างนั้นได้ร่างที่เคยรู้สึกว่า 'เป็นเจ้าของ' แต่กลับถูกควบคุมจนหมดสิ้น "ข้าต้องการท่าน" ไคลน์สะดุ้งตัวตื่นและพบว่าตัวเองทำงานจนเผลอหลับไป ความรุ่มร้อนในกายแผดเผาเขาจนเจ้าชายต้องเร่งฝีเท้ากลับไปยังห้องลับที่เขาซ่อนเซย์เอาไว้จากสายตาที่หื่นกระหายของอัลฟ่าในวัง ทันทีที่ห้องลับเปิดออกไคลน์กลับไม่พบเซย์บนเตียงทั้งที่มั่นใจว่าเขาล่ามเซย์ไว้ด้วยโซ่ที่เหล่าโอเมก้าแพ้ทาง เขาหายไป เขาหายไปไหน ไคลน์ร้อนใจรีบเดินเข้าไปในห้อง ทันใดนั้นเองไคลน์ก็ถูกใครบางคนเข้ามาประชิดจากทางด้านหลังและถูกจับกดลงบนเตียง “เจ้า…ทำอะไรกับข้า”
คืนแล้วคืนเล่าที่ไคลน์ไม่เคยกลับไปนอนที่เตียงของตัวเองเลย ดูเหมือนว่าเสียงโซ่เหล็กกระทบกับหัวเตียงอย่างเบา ๆ มันจะกลายเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคยไปเสียแล้ว เมื่อไคลน์เอนตัวลงบนเตียงกว้าง เสียงของโซ่ตรวนก็จะยิ่งเคาะกันดังขึ้น โดยที่ไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เขายอมถอยหลังให้เซย์นำ แต่ไม่ทันที่ไคลน์จะได้กระจ่างแจ้งในการหาคำตอบเขาก็ถูกรบกวนจนเสียสมาธิซะแล้ว ริมฝีปากของเซย์แตะที่ลำคอของเขา เบา ๆ ริมฝีปากนุ่ม ๆ ลมหายใจร้อน ๆ และความรุนแรงในแบบที่เจ้าชายไม่เคยสัมผัสมาก่อน เขาทั้งดูดดึงขบกัดจนไคลน์สั่นสะท้านไปทั้งตัว “อืม…” ไคลน์เผลอหลุดเสียงต่ำอย่างไม่ตั้งใจ เซย์หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ “เสียงแบบนี้…ข้าคิดถึงเหลือเกิน” แล้วเขาก็ไล้ปลายจมูกลงมาตามแนวสันไหล่ หยุดที่กระดูกไหปลาร้า และกดจูบลงไปช้า ๆ อีกครั้ง และ อีกครั้ง มือของเขาเลื่อนเข้าไปใต้เสื้อคลุมของไคลน์ ปลายนิ้วร้อนลากผ่านอกแน่นด้วยจังหวะเชื่องช้า แต่มั่นคง ไคลน์บิดตัวเล็กน้อย ความรู้สึกประหลาดที่กำลังเล่นงานเขาในช่วงนี้ยิ่งเหมือนถูกจุดขึ้นทุกครั้งที่เซย์แตะต้อง ริมฝีปากร้อนผ่าวขบเม้มเข้าที่จุกสีหวานและดูดดึงจนแก้มตอบ เซย์ไม่เร
เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นไปตามทางเดินหินเย็นเฉียบของยอดปราสาท ร่างสูงในชุดคลุมเจ้าชายเดินตรงมาที่ห้องลับที่เขาสั่งให้เปลี่ยนจากห้องลับส่วนตัวของเขาให้กลายเป็นห้องที่เอาไว้ขังเซย์ให้อยู่ใกล้ตัว ภายในห้องแคบที่ไร้หน้าต่าง มีเพียงแสงเทียนวูบไหวจากเชิงเทียนเงิน และเตียงไม้ขนาดใหญ่หัวเตียงติดโซ่ตรวนที่ใช้สำหรับตรึงข้อมือของเซย์ไว้ และตรงนั้น...บนเตียงกว้างที่ปูผ้าไหมสีแดง สีที่ไคลน์คิดว่ามันเหมาะสมกับร่างขาว ๆ ของเซย์ เซย์นั่งอยู่ พิงหมอนนุ่มในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย แววตาเย้ายวนจ้องกลับมาราวกับรู้ว่าคืนนี้จะเกิดอะไร ไคลน์กลืนน้ำลาย ฝ่ามือเขาเหงื่อซึม ทั้งที่นี่หนาวยะเยือก “ข้า...แค่มาดูว่าเจ้าตายหรือยัง” เขาเอ่ยเสียงต่ำ ทั้งที่ตัวเองเปิดประตูเข้ามาที่นี่คืนแล้วคืนเล่า เซย์ยิ้มบาง เอียงคออย่างยั่วเย้า “แต่เจ้าก็มาทุกคืนเลยนี่…เจ้าเป็นห่วงว่าข้าจะตาย....หรือเจ้าติดใจสัมผัสข้ากันแน่?” ไคลน์ชะงัก ร่างกายเขาร้อนวูบตั้งแต่สายตากระทบผิวขาวเนียนของเซย์ที่เผยให้เห็นเนื้อหนังเกินควร เสื้อผ้าหลุดจากไหล่ ลำคอมีรอยแดงจางๆ ที่ไคลน์เป็นคนกระทำไว้เมื่อคืนก่อน เขาอยากดึงคอเสื้อนั้นขึ้นปิดเพื่อลบเลื
ราชสภา กลางวัน เสียงก้องภายในหอประชุมกดดันยิ่งกว่าลมพายุ เสียงกระซิบกระซาบมากมายดังอยู่ทั่วห้อง ไม่มีใครนั่งนิ่ง ไม่มีใครไม่รู้ว่าทุกสิ่งกำลังเปลี่ยนไป “ราชาอัลฟ่าสิ้นพระแล้วจริงเหรอ?” “ว่าแต่ องค์ชายไคลน์ ยังมีชีวิตอยู่จริงรึเปล่า?” “บุตรของพระชายาจะขึ้นนั่งบัลลังก์?” ผ่านไปหนึ่งปี เซย์กับไคลน์เร้นกายซ่อนตัวจากโลกภายนอกเพิ่มรวบรวมกำลังที่จะทำศึกครั้งใหญ่ ค่ำคืนหนึ่งในปลายฤดูใบไม้ผลิ ภายในห้องนอนที่เรียบง่าย กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากดอกไม้แห้งลอยตลบอยู่กลางอากาศ แสงจากตะเกียงน้ำมันสะท้อนบนผิวเนียนของคนสองคนที่นอนแนบกันใต้ผ้าห่มสีอุ่น เซย์ซุกหน้าลงกับแผงอกของไคลน์ ฟังเสียงหัวใจเต้นสม่ำเสมอของอีกฝ่าย แขนของไคลน์โอบรัดเขาไว้ราวกับกลัวจะหลุดหาย “เจ้าหลับแล้วหรือยัง” เซย์กระซิบเสียงนุ่ม “…ยัง” เสียงตอบกลับอู้อี้ แต่มีรอยยิ้มปนอยู่ เซย์เลื่อนนิ้วขึ้นมาวาดวนบนอกไคลน์เป็นวงกลมเล็ก ๆ ก่อนจะพูดเสียงเบาแต่เจือจงใจ “เจ้าเคยบอกว่า อยากมีลูกอีกคน…ถ้าโลกปลอดภัยพอ” ไคลน์ชะงักเล็กน้อยก่อนจะชันกายลุกขึ้นนั่งมองทารกน้อยที่นอนหลับอยู่บนเตียงเล็ก ๆ ข้างเขา ก่อนจะหันไปมองคนที
สายลมในรุ่งเช้าพัดปะทะร่างกายของไคลน์ที่นอนหลับอยู่บนเตียง ไคลน์ตื่นจากนิทรา เส้นผมเปียกชื้นเพราะเหงื่อ แต่คราวนี้ไม่ใช่เพราะฮีท...แต่เพราะฝันร้าย เขาตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่เขาไม่เคยรู้จัก “ข้าจะปกป้องท่านไม่วางอะไรจะเกิดขึ้น” เซย์พูดไว้เมื่อคืน ขณะโอบเขาไว้ในอ้อมแขน และไคลน์...เชื่อทุกคำของเขา ห้องบัญชาการลับของคาลิกซ์ “ทุกอย่างพร้อม” “ทหารจะบุกวังเก่าเวลาค่ำ…ทำเหมือนเป็นการ 'กวาดล้างกบฏกลุ่มลัทธิอีนิกม่า'” คาลิกซ์ยกยิ้ม “และเมื่อองค์รัชทายาท...บังเอิญอยู่ในนั้น” ขุนนางข้างกายกลืนน้ำลาย “ท่านแน่ใจหรือไม่ ว่าจะไม่มีใครรอด?” “ไม่จำเป็นต้องไม่มีใครรอด” “และต้องไม่มีใคร ‘กล้าพูดชื่อของไคลน์’ อีกต่อไป” พระราชวังลับกลางป่า ไคลน์ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินไปโอบกอดไคลน์จากด้านหลัง เซย์ถือแผนที่เมืองในมือก่อนจะวางมันลงโต๊ะ เขาวางหมุดเล็ก ๆ ไว้ตรง "ประตูใต้ดินฝั่งตะวันตก" “ถ้าหากข้าตายที่นี่...คือทางหนีสุดท้าย ถ้าทุกอย่างผิดพลาด เจ้าจะพาลูกของเราหนีไปทางนี้” ไคลน์ตวัดมือปัดแผนที่ “ไม่ ข้าไม่หนีอีกแล้ว” เซย์เงียบครู่หนึ่ง ก่อนกลับตัวมากอดไคลน์ “เจ้ากำลังตั้งครรภ์ ไคลน์” ไ
ภายในห้องประชุมชั้นสูงของราชสภา อากาศเย็นจัดกว่าทุกวัน คาลิกซ์นั่งนิ่งอยู่หัวโต๊ะ ชายหนุ่มผู้สง่างาม วางท่าทรงพลังในชุดคลุมอัลฟ่าสีดำล้วน ปักสัญลักษณ์พิเศษที่แปลกตา...เพราะมันไม่เคยมีในเครื่องแบบของราชวงศ์มาก่อน มันคือ "ตราสภาเงา" — กลุ่มขุนนางหัวรุนแรงที่เริ่มเคลื่อนไหวอย่างเงียบงัน “ข่าวลือกระจายแล้ว…” “ข้าหวังว่า...สภาทุกคนจะพร้อมเลือกผู้นำที่ คู่ควรกับบัลลังก์โดยแท้จริง” ประโยคนั้นทิ้งไว้ในอากาศราวกับหมอกพิษ ขุนนางบางคนเริ่มกระซิบ บางคนหลุบตา แต่ไม่มีใครกล้าพูดตรง ๆ คาลิกซ์เป็นบุตรของพระชายา แต่ทว่าไคลน์เป็นบุตรของพระราชินี แต่ทว่าไม่มีใครกล้ายืนยันว่า “ไคลน์” ยังเป็นอัลฟ่าอยู่ ตัดกลับมา ในวังส่วนตัวของไคลน์ ไคลน์นั่งอยู่บนเก้าอี้ใกล้หน้าต่าง มือกำรายงานสภาแน่นพอ ๆ กับร่างกายที่ยังไม่หายร้อนจากอาการ “ฮีทที่ยังไม่จาง” เซย์ยืนอยู่ข้างหลัง เงียบ แต่จับตามองทุกอย่าง “เจ้าคิดว่าเขาจะทำอะไรต่อจากนี้” ไคลน์เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า เซย์ตอบนิ่ง ๆ “คาลิกซ์ไม่ใช่เด็กขี้อิจฉา เขาคือหมากตัวสำคัญของกลุ่มที่ไม่อยากเห็นโลกเปลี่ยน...และเจ้าคือภัยคุกคามที่เดินได้” “เ
กลิ่นกำยานราชสภาจางลงไปแล้ว แต่ในหัวของไคลน์ยังดังก้องอยู่ "เจ้าได้รับการคัดเลือกเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์แห่งอัลฟ่า..." "...โดยอำนาจสูงสุดจากสายเลือดและชัยชนะ" คำประกาศนั้นทำให้ห้องทั้งห้องเงียบสนิท ก่อนเสียงตบมือแผ่ว ๆ จะเริ่มขึ้นจากเหล่าขุนนางที่ไม่มีทางเลือก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ไคลน์หวั่นใจเท่ากับคนสนิทที่อยู่ตรงหน้า คาลิกซ์ ยืนอยู่อย่างสงบรอยยิ้มที่มุมปากคือความนิ่งเฉยของคนที่ ราวกับเขาไม่ได้รู้สึกยินดีเลยสักนิด ในคืนนั้น... ไฟในหัวใจไคลน์ปะทุอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ด้วยความดีใจจากตำแหน่ง ร่างกายเขากำลัง “ฮีท” ไม่ใช่เพียงความร้อนที่เคยรู้จักแต่เป็นไฟที่แผดเผาจากข้างใน กระตุ้นความโหยหาที่ไม่อาจควบคุมได้ ทั้งเหงื่อ ทั้งลมหายใจ ทั้งหัวใจที่เต้นรัว เขาทิ้งร่างลงบนเตียง เหงื่อไหลซึมทั่วแผ่นหลัง เสียงหอบพร่าก้องอยู่ในห้องบรรทม "ข้าไม่ใช่โอเมก้า...แต่ร่างกายข้ากำลังจะเผาข้าทั้งหมดเป็นเพราะเขา..." ประตูเปิดออก เซย์ก้าวเข้ามาเงียบ ๆ เหมือนรู้ว่านี่คือค่ำคืนที่ไคลน์ “จะเรียกหา” เขาไม่พูดอะไร แค่เดินมานั่งขอบเตียง สบตาคนที่ครั้งหนึ่งเคยแนบชิดกัน "เจ้ามาทำไม" "ถ้าข้าไม่มา เจ้าจะคลุ้มค
ภายในห้องบรรทมที่เงียบสนิท มีเพียงแสงไฟสลัวจากโคมเทียนที่สาดแสงสั่นไหวสะท้อนเงาอ่อนบนผนังหินเย็น ไคลน์ยืนพิงกรอบหน้าต่าง มือกำแน่น เขายังไม่อาจมองเซย์ตรง ๆ ได้ หลังจากร่างกายเริ่มแปรเปลี่ยนไปตามวิถีที่เขาไม่อาจควบคุม "เจ้ายังหนีไม่ได้สินะ เจ้าชายของข้า..." เสียงทุ้มนุ่มของเซย์ดังขึ้นจากด้านหลัง แผ่วเบาแต่ราวกับคมมีดที่กรีดกลางอกไคลน์ ฝ่ามือร้อนจัดของเซย์แตะลงบนต้นคอไคลน์ก่อนจะลูบลงช้า ๆ ตามแนวสันหลัง ความอ่อนไหวซ่อนอยู่ในทุกจังหวะสัมผัสนั้น ไม่รีบร้อน ไม่เร่งเร้า แต่ทำให้เจ้าชายที่เคยแข็งแกร่งสะดุดลมหายใจตัวเอง "ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงยอมให้ข้าเข้ามาได้ขนาดนี้" เซย์กระซิบ พลางกดจูบลงบนบ่าของเขา "แต่ข้าจะไม่ถอย" ไคลน์หันขวับมา ดวงตาสั่นไหว แววตาแข็งกร้าวที่เคยมีเหลือเพียงเปลวไฟแปลกประหลาดที่ปะทุอยู่ใต้ความลังเล เขาควรจะผลักไส ควรจะหนีไปจากสิ่งนี้ แต่กลับยืนนิ่ง ให้เซย์เข้ามาแนบชิดจนไร้ช่องว่าง "เจ้า... ทำให้ข้าเป็นแบบนี้" เสียงของไคลน์แหบพร่า มือของเขาจับไหล่เซย์ไว้แน่นแต่ไม่ใช่เพื่อผลักออก เซย์เลื่อนมือขึ้น ประคองใบหน้าไคลน์เอาไว้ แววตาของเขานุ่มลึกแต่แรงกล้า ริมฝีปากเขาแตะริมฝ
เซย์กดร่างไคลน์ลงบนเตียง เสียงโซ่ข้างเตียงกระทบกันเบา ๆ เป็นจังหวะเดียวกับหัวใจของเจ้าชายที่เต้นแรงจนแทบระเบิด “เจ้าบอกว่าเกลียดข้า…” เซย์กระซิบ พลางลากปลายนิ้วช้า ๆ ลงมาบนแผ่นอกของอีกฝ่าย “…แต่หัวใจเจ้ากลับเต้นแรงทุกครั้งที่ข้าแตะต้อง” ไคลน์หอบหายใจถี่ ราวกับกำลังต่อสู้กับพายุในตัวเอง มือเขาดันอกของเซย์ไว้ แต่แรงดันกลับอ่อนยวบไม่ต่างจากคนยอมแพ้ “อย่าแกล้งฝืนอีกเลย...” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่ากระซิบแนบใบหู ก่อนริมฝีปากของเซย์จะเลื่อนลงไล้ลำคอของเขาอย่างจงใจ ไคลน์สะดุ้ง ร่างสั่นไหว เปลือกตาหลุบลงอย่างหมดหนทาง เขาเคยคิดว่าตนเป็นผู้ควบคุม เป็นอัลฟ่าผู้สูงศักดิ์ แต่ตอนนี้...กลับรู้สึกเหมือนแค่คนที่ถูก ปราบจนเชื่อง เซย์จัดร่างของไคลน์ให้นั่งคร่อมบนตักตัวเอง มือข้างหนึ่งโอบสะโพกแน่น อีกข้างประคองท้ายทอยให้ก้มหน้าลงมารับจูบ เสียงหอบของไคลน์ดังก้องในห้อง เงาสะท้อนในดวงตาของเขาไม่ใช่เหมือนเดิม แต่เต็มไปด้วยความโหยหาที่ไม่อาจดับได้ “ข้า...ข้าไม่เข้าใจว่าทำไม…” “เพราะร่างเจ้ากำลังโหยหาข้า” เซย์กระซิบ พร้อมจงใจบดเบียดสะโพกเข้าหาเขาอย่างลึกซึ้งราวกับจะย้ำในสิ่งที่เขาพูด “อึก…!” ไคลน์กัดฟั
เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นไปตามทางเดินหินเย็นเฉียบของยอดปราสาท ร่างสูงในชุดคลุมเจ้าชายเดินตรงมาที่ห้องลับที่เขาสั่งให้เปลี่ยนจากห้องลับส่วนตัวของเขาให้กลายเป็นห้องที่เอาไว้ขังเซย์ให้อยู่ใกล้ตัว ภายในห้องแคบที่ไร้หน้าต่าง มีเพียงแสงเทียนวูบไหวจากเชิงเทียนเงิน และเตียงไม้ขนาดใหญ่หัวเตียงติดโซ่ตรวนที่ใช้สำหรับตรึงข้อมือของเซย์ไว้ และตรงนั้น...บนเตียงกว้างที่ปูผ้าไหมสีแดง สีที่ไคลน์คิดว่ามันเหมาะสมกับร่างขาว ๆ ของเซย์ เซย์นั่งอยู่ พิงหมอนนุ่มในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย แววตาเย้ายวนจ้องกลับมาราวกับรู้ว่าคืนนี้จะเกิดอะไร ไคลน์กลืนน้ำลาย ฝ่ามือเขาเหงื่อซึม ทั้งที่นี่หนาวยะเยือก “ข้า...แค่มาดูว่าเจ้าตายหรือยัง” เขาเอ่ยเสียงต่ำ ทั้งที่ตัวเองเปิดประตูเข้ามาที่นี่คืนแล้วคืนเล่า เซย์ยิ้มบาง เอียงคออย่างยั่วเย้า “แต่เจ้าก็มาทุกคืนเลยนี่…เจ้าเป็นห่วงว่าข้าจะตาย....หรือเจ้าติดใจสัมผัสข้ากันแน่?” ไคลน์ชะงัก ร่างกายเขาร้อนวูบตั้งแต่สายตากระทบผิวขาวเนียนของเซย์ที่เผยให้เห็นเนื้อหนังเกินควร เสื้อผ้าหลุดจากไหล่ ลำคอมีรอยแดงจางๆ ที่ไคลน์เป็นคนกระทำไว้เมื่อคืนก่อน เขาอยากดึงคอเสื้อนั้นขึ้นปิดเพื่อลบเลื
คืนแล้วคืนเล่าที่ไคลน์ไม่เคยกลับไปนอนที่เตียงของตัวเองเลย ดูเหมือนว่าเสียงโซ่เหล็กกระทบกับหัวเตียงอย่างเบา ๆ มันจะกลายเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคยไปเสียแล้ว เมื่อไคลน์เอนตัวลงบนเตียงกว้าง เสียงของโซ่ตรวนก็จะยิ่งเคาะกันดังขึ้น โดยที่ไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เขายอมถอยหลังให้เซย์นำ แต่ไม่ทันที่ไคลน์จะได้กระจ่างแจ้งในการหาคำตอบเขาก็ถูกรบกวนจนเสียสมาธิซะแล้ว ริมฝีปากของเซย์แตะที่ลำคอของเขา เบา ๆ ริมฝีปากนุ่ม ๆ ลมหายใจร้อน ๆ และความรุนแรงในแบบที่เจ้าชายไม่เคยสัมผัสมาก่อน เขาทั้งดูดดึงขบกัดจนไคลน์สั่นสะท้านไปทั้งตัว “อืม…” ไคลน์เผลอหลุดเสียงต่ำอย่างไม่ตั้งใจ เซย์หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ “เสียงแบบนี้…ข้าคิดถึงเหลือเกิน” แล้วเขาก็ไล้ปลายจมูกลงมาตามแนวสันไหล่ หยุดที่กระดูกไหปลาร้า และกดจูบลงไปช้า ๆ อีกครั้ง และ อีกครั้ง มือของเขาเลื่อนเข้าไปใต้เสื้อคลุมของไคลน์ ปลายนิ้วร้อนลากผ่านอกแน่นด้วยจังหวะเชื่องช้า แต่มั่นคง ไคลน์บิดตัวเล็กน้อย ความรู้สึกประหลาดที่กำลังเล่นงานเขาในช่วงนี้ยิ่งเหมือนถูกจุดขึ้นทุกครั้งที่เซย์แตะต้อง ริมฝีปากร้อนผ่าวขบเม้มเข้าที่จุกสีหวานและดูดดึงจนแก้มตอบ เซย์ไม่เร
กลิ่นหอมจางๆ ในห้องทรงงานลอยตลบอยู่ในอากาศ มันไม่ใช่น้ำหอม ไม่ใช่กลิ่นจากยาใด แต่มันคือกลิ่นเฉพาะตัวของคนคนหนึ่งที่ไคลน์ไม่อาจลืมได้เลย เซย์... ไคลน์หยัดลุกขึ้นยืนมองไปรอบ ๆ ตัว มองหาร่างของใครบางคนที่มั่นใจว่าถูกล่ามโซ่ไว้กับหัวเตียงด้วยคำสั่งของเขาเอง ริมฝีปากหยักเม้มแน่น ขณะที่ดวงตาคมไปสะดุดกับเซย์ที่เดินเข้ามาหาไคลน์ใกล้กับโต๊ะทำงาน ก่อนจะปลดเปลื้องผ้าคลุมตัวออกเผยให้เห็นร่างบางที่เกือบจะเปลือยเปล่าต้องแสงจันทร์มันเป็นภาพที่งดงามและล่อลวงจนเขาไม่อาจละสายตาไปจากเรือนร่างนั้นได้ร่างที่เคยรู้สึกว่า 'เป็นเจ้าของ' แต่กลับถูกควบคุมจนหมดสิ้น "ข้าต้องการท่าน" ไคลน์สะดุ้งตัวตื่นและพบว่าตัวเองทำงานจนเผลอหลับไป ความรุ่มร้อนในกายแผดเผาเขาจนเจ้าชายต้องเร่งฝีเท้ากลับไปยังห้องลับที่เขาซ่อนเซย์เอาไว้จากสายตาที่หื่นกระหายของอัลฟ่าในวัง ทันทีที่ห้องลับเปิดออกไคลน์กลับไม่พบเซย์บนเตียงทั้งที่มั่นใจว่าเขาล่ามเซย์ไว้ด้วยโซ่ที่เหล่าโอเมก้าแพ้ทาง เขาหายไป เขาหายไปไหน ไคลน์ร้อนใจรีบเดินเข้าไปในห้อง ทันใดนั้นเองไคลน์ก็ถูกใครบางคนเข้ามาประชิดจากทางด้านหลังและถูกจับกดลงบนเตียง “เจ้า…ทำอะไรกับข้า”