เปรี้ยง!หญิงสาวที่วิ่งฝ่าฝนมาเมื่อสักครู่ได้ยินเสียงฟ้าผ่าถึงกับสะดุ้ง แต่ก็ยังคงวิ่งต่อไปอีกมุมหนึ่งก็มีคนวิ่งฝ่าฝนเพื่อจะไปที่หมายเดียวกัน แต่พอเจอฟ้าร้องฟ้าผ่า คนที่ถูกเรียกตัวด่วนรีบหลบเข้ามุม เพราะอยู่ที่กลางแจ้งเสี่ยงถูกฟ้าผ่าได้สูงมากก๊อก ก๊อก"เปิดเข้ามาเลยประตูไม่ได้ล็อก""หึ.." เรียกตัวกันกลางวันแสกๆ ในสถานที่ราชการเลยเหรอ ทศนจะไม่ทนอีกแล้ว เขาต้องเห็นกับตาให้ได้ ว่าสิ่งที่ทุกคนพูดมาแม้แต่เขาก็ยังคิด..ว่ามันเป็นเรื่องจริงไหมแกร็ก!! มือหนากระชากประตูอย่างแรงเพราะคิดว่าคนที่เข้าไปก่อนหน้านี้คงล็อกมันไว้แล้ว แต่ดันไม่เป็นแบบที่คิดไว้"?" พอเปิดประตูเข้ามาทศนก็แปลกใจมาก ที่เห็นเธอคนนั้นยืนตัวเปียกปอนอยู่มุมหนึ่งของห้อง แต่ในนี้ไม่ได้มีแค่พ่อและผู้หญิงคนนั้น ยังมีเจ้านายอีกหลายท่าน"ขอโทษครับ ผมคิดว่าจะมาหลบฝน" สายตาคนที่พูดกรอกมองไปดูหน้าพ่อเล็กน้อย ก่อนที่จะรีบถอยออกมาจากห้องนั้น และเพียงไม่นานก็เห็นผู้หญิงอีก 2-3 คนรีบวิ่งเข้าไป"ข้างในมีอะไรเหรอวะ"ทศนไม่ได้ตอบพายุที่เพิ่งวิ่งตามมาทัน"เดี๋ยวก่อนสิวะ มึงเข้าไปเห็นอะไรในห้องนั้นเหรอ" พายุรีบเดินตามหลังเพื่อนไป แต่ถามยังไงก
หลังจากที่ออกมาจากห้องอบรมแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักตามอัธยาศัย เพราะช่วงบ่ายมีเข้าห้องอบรมอีกครั้งมุกงามก็เลยมาที่ห้องพยาบาลก่อน เธอพอจะรู้เรื่องรักษาพยาบาลอยู่บ้าง ถึงแม้จะไม่ได้เรียนด้านนี้มาโดยตรง แต่เวลาแพทย์สนามออกไปรักษาชาวบ้านเธอก็เป็นหนึ่งในคนที่ไปช่วยที่จริงไม่ใช่แค่ไปช่วยแพทย์สนาม งานช่วยเหลือชาวบ้านเวลาประสบภัยจากธรรมชาติ เธอเป็นคนแรกๆ เลยที่เสนอตัวขอออกไปช่วย เพราะแบบนี้ผลงานของเธอจึงโดดเด่นกว่าคนอื่น แต่สำหรับเพื่อนรุ่นเดียวกันแล้วกลับมองว่าที่เธอทำทุกอย่างไปเพื่อเอาหน้าคติประจำใจของมุกงามก็คือ เธอจะทำให้ถูกใจทุกคนบนโลกนี้คงเป็นไปไม่ได้ แต่สิ่งไหนที่จะทำให้ตัวเองก้าวหน้าได้เธอจะไม่รอช้า ขอแค่ว่าสิ่งนั้นไม่ผิดศีลธรรมก็พอแล้ว"ใครเป็นอะไรเหรองาม""เมื่อวานนี้ตากฝนค่ะ วันนี้ก็เลยรู้สึกไม่สบาย""อ้าว เราไม่สบายเหรอ มาวัดไข้ก่อนเร็ว" รินรดาคือแพทย์ประจำหน่วย เวลาออกนอกสถานที่ก็ได้มุกงามนี่แหละคอยเป็นมือเป็นเท้าช่วย"ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ""จะขอบคุณรินทำไม เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ"คงมีแค่รินรดานี้ล่ะมั้ง ที่ไม่มองเธอเหมือนคนอื่น"ยาตัวนี้อาจทำให้ง่วงนอนนะ อยากให้ลาการฝึกก
"มีอะไรหรือเปล่าวะ..นั่นอะไร?" พายุมองของในมือที่ทศนกำแน่นจนของนั่นบู้บี้ไปหมด "อย่าบอกนะว่า?""เลว""มึงใจเย็นก่อนสิวะ.. เฮ้ยแล้วนั่นมึงจะไปไหน" พายุกลัวว่าเพื่อนจะทำร้ายผู้หญิง เพราะทศนรักแม่มาก ถ้ามันเป็นเรื่องจริงทั้งพ่อและกิ๊กต้องเจอดีแน่"ไปหาฟืน!""เอ๊าา กูก็คิดว่าจะเปิดแล้ว" พายุพึมพำเบาๆ ก่อนจะเดินตามหลังเพื่อนไปพอได้ไม้แห้งมา ทั้งสองก็นำกลับมาที่จุดรวมพลโครม!! นั่งอยู่ดีๆ ไม้ก็หล่นลงมาข้างๆ จนมุกงามสะดุ้ง"นั่งอยู่เฉยๆ ช่วยก่อไฟด้วย" ที่จริงไม้ไม่ได้หล่นหรอกมันเป็นความจงใจคนที่อยู่แถวนั้นไม่ใช่ว่ามีอะไรทำกันทุกคน เพราะบางคนเหนื่อยในการเดินทางมากก็นั่งนวดขานวดแข้งกันไป แต่ส่วนมากจะเป็นผู้หญิงมุดงามเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่ทิ้งฟืนลงมาข้างๆ ไม่มีใครไม่รู้จักลูกชายคนเดียวของท่านพลเอก หลายคนนับถือพลเอกทศกัณฐ์ก็เพราะเรื่องนี้ ท่านไม่ใช้เส้นสายเพื่อดันลูกชาย ปล่อยให้เขามีผลงานของเขาเอง"ค่ะ" เธอไม่รู้หรอกว่าเขาคิดเหมือนคนอื่นไหม เรื่องที่คนอื่นนินทาหาว่าเธอเป็นเด็กเลี้ยงของท่าน เรื่องนี้ทำไมมุกงามจะไม่รู้ เธอแค่ทำหูทวนลมหญิงสาวหยิบไฟแช็คออกมาจากกระเป๋า และก็มีน้ำมันที่ใช้สำหรับก
พอได้หอยมามุกงามก็ทำอาหารแบบง่ายๆ เพราะทุกคนต้องรีบเดินทางต่อจนหมดเวลาพัก.. ก็มีคำสั่งให้เดินทางต่อ เพราะถ้าชักช้าจะถึงที่พักค่ำการเดินในครั้งนี้นับรวมๆ แล้วร้อยกว่ากิโลเมตรได้ เพราะจุดหมายปลายทางถูกกำหนดไว้แล้วเดินมาอีกหลายกิโลเมตรฟ้าก็เริ่มมืด หัวหน้าหน่วยที่พาออกฝึกในครั้งนี้ก็เลยสั่งให้หยุดพักกันได้เมื่อวานนี้ได้พักก่อนฟ้าจะมืดก็เลยมีเวลาหาอาหาร แต่วันนี้ฟ้ามืดแล้วถ้าออกหาปลาคงลำบากหน่อย"รู้แบบนี้แบกแต่อาหารมาก็ดี ใครจะออกไปหาอาหารล่ะทีนี้""ก็ไปบอกคนที่เก่งหาอาหารไง" ได้ยินประโยคนี้ทุกคนก็หันมองไปที่มุกงาม ซึ่งกำลังหาไม้มาทำเต็นท์นอนอยู่ เพราะเธอต้องทำให้เสร็จก่อนฝนจะตก ถ้าเปียกคงนอนไม่ได้แน่"ฟ้ามืดมาขนาดนี้จะหาปลายังไงวะ" อีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นผู้ชายกำลังคุยเรื่องหาอาหารเย็นกันอยู่"หาไม่ได้หรอกพายุกำลังมาด้วย""อะไรกันยังไม่ไปหาอาหารอีกเหรอ" คนที่ไปหาไม้มาก่อไฟก็กลับมาแล้ว"ไอ้เอกมันยังไม่หายเจ็บมือ ส่วนพวกเราถึงไปก็ไม่ได้ปลาหรอก"พอมุกงามกางเต็นท์เสร็จ เธอก็หยิบไฟฉายแล้วเดินเข้าป่าหลายคนต่างก็มองตาม พายุมองหน้าทศนเล็กน้อย กลัวเพื่อนไม่พอใจถ้าตามเธอคนนั้นไป แต่ก็แอบเป็นห่ว
"ผู้กองคะ" เสียงนกหวีดดังขนาดนี้ทำไมเขาถึงยังไม่รู้สึกตัวอีก แต่ก็ดีเหมือนกันเขาจะได้ไม่รู้ว่าจมูกเราชนแก้ม เดี๋ยวหาว่าอยากหอม "ตื่นได้แล้วค่ะ ต้องรีบเก็บของ""เหลือเวลาอีกสามนาที..แล้วเต็นท์นี้จะไม่ตื่นหรือไง!""ตื่นแล้วค่ะหัวหน้า" ถ้าไม่ตอบรับมีหวังเต็นท์พังแน่ เพราะถ้าถูกหัวหน้าหน่วยปลุก คงไม่ปลุกแบบคนธรรมดาตอนที่ทศนมุดออกมาทุกคนกำลังวุ่นเก็บของกันอยู่ก็เลยไม่มีใครสนใจ แต่ไม่ใช่กับเพื่อนรัก เพราะพายุก็เห็นอยู่ว่าทศนเข้าไปในเต็นท์นั้นแต่พอทศนมุดออกมาแล้วก็ไม่ได้เก็บของอะไรช่วยมุกงามเลย ส่วนเพื่อนคนอื่นตอนนี้เก็บของกันเสร็จหมดแล้ว และพร้อมรวมกลุ่มกัน"ผมช่วยครับ""ขอบคุณค่ะ" เธอก็คิดอยู่นะไม่ใช่ไม่คิด อาศัยเต็นท์มาทั้งคืน แทนที่จะช่วยกัน แต่คนที่มาช่วยกลับเป็นเพื่อนที่มุกงามไม่ปฏิเสธพายุ เพราะถ้าเธอเก็บของไม่เสร็จภายในเวลาที่เหลืออยู่ เธอต้องถูกทำโทษแน่พอมุกงามเข้ามายืนรวมตัวกับเพื่อน หัวหน้าหน่วยก็เป่าหมดเวลา แล้วทุกคนก็เดินกันต่อ"แม่นี่ทำไมดวงดีจัง""ดวงดีหรือมีคนคอยช่วย""หมายความว่ายังไง""ฉันสังเกตหลายทีแล้วนะ หัวหน้านี่แหละตัวดีเลย"เดินกันไปหลายชั่วโมงได้ ก็ยังไม่มีคำสั่ง
"ใคร!? ออกมานะ!" คนตัวเล็กค่อยๆ ก้าวขึ้นมาจากน้ำ เพราะเสื้อผ้าวางไว้โขดหิน "??" แต่พอขึ้นมาก็ไม่เห็นเสื้อผ้าที่วางไว้ตรงนั้นแล้วมันชักจะไม่ปกติ มุกงามก็เลยค่อยๆ ก้าวถอยให้ห่างจากฝั่งก่อน"ผู้กองครับ.. มืดมากแล้วนะ ผมว่าขึ้นจากน้ำดีกว่า" พายุเห็นว่าเธอหายมาได้สักพักแล้ว"ผู้กองคะ ฉันอยู่ทางนี้" มุกงามจำเสียงนาวาตรีพายุได้ดี ที่ยอมส่งเสียงบอก เพราะนอกจากหัวหน้าแล้วก็มีพายุนี่แหละที่เธอไว้ใจ คงไม่ใช่คนที่มาแอบเอาเสื้อผ้าของเธอไปแน่"เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ""มีคนแอบอยู่แถวนี้ค่ะ"พายุหันมองไปดูหน้าทศนที่เพิ่งเดินมาพร้อมกัน"ผมว่าคุณขึ้นมาก่อนดีกว่า""เสื้อผ้าฉันถูกมันขโมยไปหมดเลย""......" ทั้งสองมองหน้ากันอีกครั้ง อย่าบอกนะว่าเธอแก้ผ้าทุกชิ้นเลย"ขึ้นมา" ทศนถอดเสื้อคลุมที่ใส่อยู่ออกมา"ใช้ของกูก็ได้นะ" พายุก็รีบถอดเสื้อของตัวเองเหมือนกัน"มึงกลับไปเอากระเป๋าของเธอมา""อะไรวะ" ถึงแม้จะไม่พอใจแต่ก็ต้องไปพอพายุไปแล้วมุกงามถึงกล้าขยับเข้ามาใกล้ฝั่ง "คุณหันหน้าหนีไปทางอื่นก่อนสิ""มืดขนาดนี้ใครจะไปเห็น เดี๋ยวก็หนาวตายหรอก..ขึ้นมา"เธอค่อยๆ ก้าวขึ้นมาจากน้ำ โดยใช้มือปิดทั้งบนและล่าง แต่ขา
"ฉันคิดว่านั่นมันเป็นเรื่องส่วนตัวค่ะ" เธอไม่ตอบว่ามีแฟนหรือยัง เพราะน้ำเสียงที่ถามมามันแปลกๆ ยังไงไม่รู้ มุกงามก็เลยเลือกที่จะไม่ตอบ"คุณจะนั่งทับขาตัวเองอยู่แบบนั้นทั้งคืนหรือไง" เขาแค่อยากจะรู้ ว่าเธอนับพ่อของเขาเป็นแฟนไหม แต่เรื่องแบบนี้ใครจะมาพูดให้คนอื่นฟัง ยิ่งกับลูกชายของคนนั้นแล้ว"คุณเคลียร์กับชิเมโจได๋ของคุณก่อนสิ""อะไรชิเมโจได๋?""ก็ไอ้ที่มันหนาวอยู่นั่นไง" ถ้าจะพูดว่าไอ้ที่มันแข็งอยู่นั่นไงก็กระดากปาก"หึ หึ ฮ่าาาา" พอคิดได้ว่าชิเมโจได๋ที่เธอหมายถึงคือเจ้าโลกของเขา ทศนขำออกมาจนลืมเลยว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์ไหน"เสียงใคร" คนที่ยังนอนไม่หลับได้ยินเสียงหัวเราะต่างก็ชะโงกหน้าออกมาดู"อืม อืม" หลังจากที่หัวเราะเสียงดัง..ปากของเขาก็ถูกมือเรียวปิดไว้แน่น"เดี๋ยวคนอื่นก็แตกตื่นกันหมดหรอกคุณ"ปากที่ยังถูกปิดอยู่ไม่ได้พยายามจะพูดอะไรอีกแล้ว เพราะตอนนี้ดวงตาของทั้งสองสบกันใกล้มากมุกงามค่อยๆ ลดมือออกจากที่ปิดปากเขาอยู่แบบช้าๆ ก่อนที่จะขยับสะโพกขึ้นมานั่งทับตัก เพราะเริ่มจะชาที่ขาแล้วแต่ทศนที่ถูกเธอสัมผัสตรงริมฝีปากเมื่อสักครู่นี่สิ เขายังเรียกสติตัวเองกลับมาไม่ได้เลย มือเธอทั้งนุ่ม
สายตาหลายคู่แทนที่จะมองดูคนที่ถูกงูกัด แต่กลับจับจ้องมาดูคนที่กำลังทำการรักษาอยู่"ขอน้ำหน่อยค่ะ"คนที่มีน้ำติดกระเป๋ามาด้วยก็เลยยื่นไปให้ พอได้น้ำมุกงามก็เทใส่มือเล็กน้อยแล้วสะบัด เพื่อเรียกสติเกษรไม่ให้หลับ"ถ้าเธอไม่อยากตายอย่าหลับนะ" เพราะถ้ายังมีสติอยู่ ก็พอจะคุยและบอกอาการกันได้ ถ้าหลับนี่ไม่รู้เลยว่าคนที่ได้รับพิษมีอาการยังไงบ้าง"ฉันจะตายไหม" ยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลย"แค่งูเขียวทำไมต้องตายด้วย หายใจไว้ก็ไม่ตายแล้ว" งูเขียวบางชนิดพิษมันร้ายแรงมาก เธอแค่พูดให้กำลังใจเพื่อนในแบบของเธอ"แต่ฉันไม่รู้สึกตรงที่ถูกงูกัดแล้วนะ"พอได้ยินเกษรพูด มุกงามก็เอาตัวยาทั้งสองชนิดยัดใส่ปากแล้วเคี้ยว เธอเคี้ยวจนละเอียดก่อนที่จะเอาอันที่ขยี้ออกแล้วก็พอกใหม่ เพราะคิดว่ามันคงไม่ถึงยาเท่าไร"ขอแรงผู้ชายหนึ่งคนค่ะ"พอได้ยินว่าเธอขอแรง พายุก็รีบเข้าไปก่อน"ไม่ต้องกูเอง" แต่พายุก็ถูกกำจัดจุดอ่อนโดยทศน"นั่งลง.." จะรออยู่ตรงนี้อย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องรีบพาคนไข้เดินทางไปใกล้ทีมแพทย์ให้มากที่สุด"นั่ง?""ช่วยกันยกหน่อยค่ะ" พอทศนนั่งลง มุกงามก็ให้คนช่วยยกเกษรขึ้นหลังของเขาทหารที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ตั้งแคมป
ลวงรักแฟนเก่า บทที่ 108🔞 ตอนจบงานแต่งวันนี้พายุจัดได้ใหญ่โตมาก เทียบเท่ากับงานของทศนได้เลย เพราะเขาไม่อยากให้เธอน้อยหน้าใคร แถมเจ้าสาวไม่ต้องลงแรงทำอะไรเลยแค่รอรับการเซอร์ไพรส์จากเขาเท่านั้นพอ"ผมรักคุณ" ชายหนุ่มล้วงเอาแหวนเพชรที่เตรียมมาให้กับเธอออกมาเพื่อจะสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายคะน้ายื่นมือข้างซ้ายไปให้เขาได้สวมใส่"ถอดออกก่อนดีกว่าไหมครับ" ตรงนิ้วนางข้างซ้ายยังมีแหวนทองที่เขาขอหมั้นเธอ"ไม่ค่ะ สวมด้วยกันเลย" มันเป็นแหวนที่เขาให้คะน้าก็เลยไม่อยากจะถอดมันออกพายุก็เลยสวมแหวนเพชรเข้าไปนิ้วเดียวกับแหวนทอง วงที่ให้เธอก่อนหน้านั้นพอสวมแหวนเสร็จเสียงปรบมือก็ดังขึ้น "จูบเลย จูบเลย" กองเชียร์หลายคนต่างก็เชียร์ให้คู่บ่าวสาวแสดงความรักให้กับแขกได้เห็นมือหนาถูกยกขึ้นมาบังในขณะที่จูบปากเธออยู่ เพื่อไม่ให้มันเป็นภาพโจ่งแจ้งเกินไปสาวๆ ต่างก็กรี๊ดกันสนั่น เพราะมันเป็นฉากที่ฟินมาก ไม่เคยมีใครทำแบบนี้ เพราะนั่นหมายถึงเขาให้เกียรติเจ้าสาวมากพอพายุปล่อยจูบออกสายตาคนเป็นเจ้าสาวยังคงจับจ้องที่ใบหน้าเจ้าบ่าวของเธอ"คะน้าขอโทษด้วยนะคะ""คุณขอโทษผมทำไม""ขอโทษเรื่องที่พ่อกับแม่ไม่ได้มาร่วมงานนี้ด้วย"
"แน่ใจนะว่านี่ชุดกินเลี้ยง?" คะน้าแปลกใจตั้งแต่ที่มุกงามเลือกชุดให้ลองใส่ดูแล้ว"รับชุดนี้แหละค่ะสวยดี" มุกงามไม่ได้ตอบคะน้าหรอกแต่หันไปพูดกับเจ้าของร้าน"เดี๋ยวก่อนนะงาม..""ไม่เดี๋ยวแล้วเอาชุดนี้แหละ" มุกงามก็เลยยื่นบัตรเครดิตไปให้เจ้าของร้านรูด แต่บัตรที่มุกงามให้ไปไม่ใช่ของตัวเองหรอก เป็นของใครบางคนที่วานให้เธอทำงานนี้ให้"คะน้าจ่ายเองก็ได้" คะน้าพูดแบบเกรงใจก่อนที่จะรับชุดจากเจ้าของร้านมา"กลับกัน"คะน้าเดินตามมุกงามออกมา ทำไมวันนี้เพื่อนดูแปลกๆ ถามอย่างก็ตอบอย่าง[บ้านพักข้าราชการ]"พวกเขาไม่อยู่เหรอ" เข้ามาในบ้านก็ไม่เจอทั้งพายุและทศน ทั้งๆ ที่พวกเขายังอยู่ในช่วงลาพัก"คงออกไปธุระเราไม่ต้องรอหรอก" มุกงามเป็นคนตอบคะน้าขอตัวเอาของเข้าไปเก็บในห้อง และเธอก็อดโทรถามไม่ได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนทำไมโทรศัพท์ถึงไม่เปิด ..แต่โทรไปก็ไม่มีสัญญาณเลยค่ำมืดวันเดียวกัน.."อุ๊ย" ลงจากรถก็เห็นคะน้ายืนเท้าสะเอวอยู่หน้าประตู"ตัวใครตัวมันนะเว้ย" ทศนกระซิบพูดกับพายุก่อนที่จะเดินผ่านคะน้าเข้าไปในบ้าน"ผมไปทำธุระมาครับ""แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ล่ะคะ""สงสัยว่าแบตผมจะหมดแน่เลย" พายุทำทีเป็นล้วงโทรศั
พอได้ยินยอดเงินที่แม่ขอจากเขาแล้วมือเรียวก็เอื้อมไปขอโทรศัพท์คืนไม่อยากให้เขาคุยต่อแล้ว {"ถ้าไม่มีเงินสินสอดถึงหนึ่งล้านบาท ก็อย่ามาคุยกับลูกสาวของฉัน"} เสียงนี้ยังดังเล็ดลอดออกมา"แม่หยุดนะ" พายุไม่ยอมส่งโทรศัพท์คืนให้ เธอก็เลยต้องร้องบอกให้แม่หยุดพูดก่อน>>{"ได้ครับ ผมให้คุณสองล้านเลย ถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับคะน้าอีก"}"มันพูดเล่นหรือพูดจริงวะ" เสียงผู้ชายดังเข้ามาในสาย และคะน้าก็จำได้ว่ามันเป็นเสียงของพ่อ"ผู้พันคะ" คะน้าเรียกเขาให้หันกลับมามองเธอก่อน พอเขาหันกลับมาเธอก็ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณบอกว่าอย่าไปคุยเรื่องเงินกับพ่อกับแม่"เอามาเดี๋ยวกูพูดเอง" เสียงผู้ชายที่ดังมาตามสายยังคงพูดต่อ เหมือนว่ากำลังแย่งโทรศัพท์กันคุย"ไม่ต้องมายุ่งนะนี่ลูกสาวฉัน!""อ้าวอีนี่ลูกมึงก็ลูกกูเหมือนกัน">>{"ผมอยากให้พวกคุณตกลงกันให้รู้เรื่องก่อนค่อยโทรกลับมาแค่นี้นะครับ"} {"อย่าเพิ่งสิคุณ"} พอได้ยินว่าทางฝั่งนี้จะวางสายทางนั้นก็รีบเรียกเอาไว้ก่อน>>{"ถ้าจะตกลงอะไรก็ต้องคิดให้ดีก่อน เพราะพวกคุณกำลังคุยกับข้าราชการระดับสูง จะผิดคำพูดไม่ได้"} {"ได้ๆ แม่ตกลง ถ้าได้เงินสองล้านบาทจริงแม
ลวงรักแฟนเก่า บทที่ 105🔞"คิดถึงคุณจังเลย" พอเข้ามาในห้องนอนลับตาเพื่อนเท่านั้นแหละ พายุก็คว้าร่างของเธอเข้ามากอดไว้แน่น"คะน้าก็คิดถึงคุณค่ะ" ใบหน้างามแนบลงแผ่นอกของชายคนรักเบาๆแต่กอดกันอยู่เพียงไม่นานเขาก็โน้มลงมาขอจูบหญิงสาวยื่นริมฝีปากขึ้นไปรับจูบนั้นแบบรู้งานเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ค่อยๆ ถูกปลดกระดุมออกโดยการช่วยกันคนละไม้ละมือ"ซี๊ดด ขอก่อนนะแล้วค่อยออกไปอาบน้ำกัน""ค่ะ อืออ" เนินอวบถูกของแข็งที่เขา จับถูไถอยู่เมื่อสักครู่สอดใส่เข้ามา ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่ต้องการสิ่งนี้..เธอก็ต้องการมันเหมือนกันขาเรียวค่อยๆ แยกออกจากกันเองแบบไม่ต้องให้เขาใช้แรง แต่พายุก็ช่วยจับเพราะเธอไม่มีที่ยึดเหนี่ยว"เบาๆ นะคะ""ครับ" ใบหน้าคลอเคลียร์ฝังจูบลงซอกคอของหญิงอันเป็นที่รักเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ ขยับ ดันสะโพกนั้นเข้าไปช่องกลางระหว่างขาเรียว "ไปที่เตียงดีไหมครับ"คะน้าส่ายหน้าตอบไป เขาคงอยากได้ในท่ายืนแต่คงกลัวว่าเธอจะเมื่อยขา"ซี๊ดด น่ารักจัง" ริมฝีปากหนาพรมจูบและสูดดมกลิ่นกายอันหอมละมุนพร้อมกับดันสะโพกเข้ามา"อ่ะ อ่ะ อื้อ" คนตัวเล็กเกาะร่างแกร่งไว้แน่น เพียงไม่นานพายุก็พาเธอมานอนลงที่เตียง เพราะตอนกระ
"ใครนั่งฮ.มาลงที่นี่" จากที่กำลังจะเม้าท์เรื่องของผู้พันคะน้า ตอนนี้เปลี่ยนมาพูดถึงเฮลิคอปเตอร์ที่เพิ่งจะลงจอด"ใครจะรู้ล่ะ ถ้าไม่ใช่เรือกลางทะเลก็ต้องเป็นท่านๆ นั่นแหละ" เรือกลางทะเลหมายถึงทหารที่ออกทำภารกิจอยู่บนเรือ ถ้ามีเหตุด่วนฉุกเฉินสามารถขอกลับฝั่งได้โดยเฮลิคอปเตอร์ แต่นั่นต้องผ่านการเซ็นต์ยินยอมจากคนที่มีอำนาจถือว่าเฮลิคอปเตอร์มาช่วยชีวิตแล้วกัน คะน้าไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องของตัวเองอยู่แล้ว ดีไปที่ขาเม้าท์มีเรื่องอื่นพูดคุยกันหญิงสาวนั่งทำงานจนถึงช่วงเย็นของวันเดียวกัน เธอก็รีบเก็บของแล้วกลับลงมาเพราะรู้สึกวิงเวียนศีรษะหนักมาก"?!?" ขาเรียวเก้าลงมาถึงขั้นสุดท้ายของบันได สายตามองไปเห็นผู้ชายที่ถือช่อดอกไม้ยืนอยู่เบื้องหน้า นี่เราคิดถึงเขามากเลยเหรอมองเห็นแสงตะวันที่สาดส่องมาเป็นเขาได้ยังไงเพื่อนๆ หลายคนที่ทยอยลงมาจากชั้นบนต่างก็หยุดไปตามๆ กัน ถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่มีอะไรพิเศษก็คงทำให้คนอื่นหยุดมองไม่ได้ แต่นี่เขาถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่มาก จนเป็นเป้าสายตาของทุกคนที่อยู่แถวนั้น"......" ชายหนุ่มที่ยืนหอบช่อดอกไม้ช่อใหญ่อยู่แปลกใจ ทำไมเธอถึงทำเหมือนว่าคนที่ยืนอยู่ตร
"ฉันมาขอพบคุณพ่อค่ะ" ไม่มีใครไม่รู้จักเธอในฐานะลูกสะใภ้ของท่านนายพลทศกัณฐ์"เชิญผู้พันได้เลยครับ" ทหารที่เฝ้าอยู่หน้าห้องเคาะส่งสัญญาณบอกท่านเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดประตูห้องให้"ว่าไงเรา" ทศกัณฐ์ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วชวนให้ลูกสะใภ้มานั่งอีกมุมหนึ่งซึ่งเป็นมุมรับแขก"งามมีเรื่องจะมาขอร้องคุณพ่อค่ะ""มีเรื่องจะมาขอร้อง เรื่องอะไร""คือว่า..." มุกงามทนเห็นเพื่อนอุ้มท้องโดยไม่มีพ่อไม่ได้แล้ว เธอต้องรีบจัดการเรื่องทุกอย่างก่อนที่ท้องของคะน้าจะโตขึ้นมา ถึงแม้ทั้งสองจะไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กัน แต่ความคิดของมุกงามก็ไม่ได้ต่างจากคะน้าเลย ถ้าท้องของคะน้าโตขึ้นมาโดยที่ยังไม่แต่งงาน ยิ่งเธอเป็นข้าราชการด้วยแล้ว มันก็จะดูไม่ดีบางทีอาจจะถูกตรวจสอบเลยก็ได้[บนเรือ] เวลาผ่านไปเพียงไม่นานจากตอนที่มุกงามขอเข้าพบพ่อของสามี ก็ได้มีทหารที่ทำงานในห้องสื่อสารมาตามผู้พันพายุไปรับโทรศัพท์ถ้ามีคนโทรขึ้นมาบนเรือแบบนี้ทหารจะตกใจมาก เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนและคนที่โทรเข้ามาไม่ใหญ่พอตัวก็ไม่สามารถที่จะทำแบบนี้ได้ ที่ตกใจส่วนมากคนที่ได้รับโทรศัพท์ มีแค่ไม่กี่เรื่องถ้าญาติไม่ป่วยหนักก็คือญาติเสีย"มันคงไม่มีอะไรหรอก ไ
"งามว่าไปหาหมอดีกว่า" คะน้าไม่ได้มีอาการแค่ตอนทำกับข้าว ตอนทานข้าวคะน้าก็ทานไม่ค่อยลง"นอนให้เต็มอิ่มสักคืนพรุ่งนี้ตื่นมาคงหายดี""ถ้าไม่หายพรุ่งนี้ต้องไปหาหมอกับงามนะ" มุกงามรู้สึกคาใจกับอาการที่เพื่อนเป็นอยู่ แต่เพื่อนยังไม่แต่งงานคงไม่ปล่อยให้ตัวเองท้องก่อนแต่งหรอกมั้ง เธอก็เลยไม่กล้าพูดกล้าถามออกมา นอกเสียจากพาไปให้หมอเช็คให้แน่ใจคะน้าทานข้าวต้มที่มุกงามทำมาให้แล้วก็นอนพักผ่อน มุกงามสั่งไว้ว่าห้ามทานยาตัวไหนทั้งนั้น คะน้าก็เลยไม่ทานที่มุกงามสั่งไว้แบบนี้เพราะถ้าเป็นแบบที่คิดไว้จริง กลัวจะมีผลกระทบ...จนถึงเช้าวันต่อมา..เมื่อคืนนี้คะน้าพยายามนอนให้หลับ บังคับตัวเองไม่ให้คิดอะไร พอตื่นขึ้นมาก็อาการดีขึ้น"ดีขึ้นแล้วแน่นะ""ดีขึ้นแล้วไม่เวียนหัวเหมือนเมื่อวาน ขอบใจมากนะงาม""ถ้าไม่ไหวก็กลับมาพักผ่อนนะ""จ้ะ" ทั้งสองก็เลยออกมาทำงานพร้อมกันคะน้าทำงานปกติ และอาการแบบเมื่อวานก็ไม่ได้เกิดขึ้นอีกเลยจนมาถึงช่วงเย็น ทั้งสองกลับมาเจอกันที่บ้านอีกครั้ง"วันนี้เป็นยังไงบ้าง" มุกงามเป็นห่วงเพื่อนตอนเที่ยงก็ยังโทรไปถามอาการ ถึงตอนเย็นก็ยังถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ"ไม่เป็นอะไรแล้ว""อาการอาเ
"พอดีเลยค่ะ" คะน้ายกมือขึ้นมามองแหวนวงที่เขาเพิ่งสวมให้ด้วยรอยยิ้มที่ยากจะบรรยายพายุเห็นรอยยิ้มเธอก็อดที่จะอมยิ้มไปด้วยไม่ได้ จะไม่ให้พอดีได้ยังไงเขาแอบวัดขนาดตอนที่เธอหลับอยู่"รอผมกลับมานะเราจะจัดงานแต่งกัน""ค่ะ" ใบหน้างามแนบลงกับอกแกร่งเบาๆเช้าวันต่อมา..เมื่อคืนนี้ไม่รู้เผลอหลับไปตอนไหน แต่พอตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นเขานอนอยู่ข้างๆ แล้ว"เขาไปแล้วเหรอ" หญิงสาวที่ร่างกายเปลือยเปล่าแต่ก็มีผ้าห่มคลุมร่างของเธออยู่ รีบลุกขึ้นแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวพันรอบร่างกายไว้ ก่อนที่จะรีบออกมาจากห้อง"ทำไมออกมาแบบนี้" พายุออกจากห้องน้ำก็เห็นเธอมีแค่ผ้าเช็ดตัว"ฉันคิดว่าคุณออกไปแล้ว""ถ้าไปผมก็ต้องปลุกสิ ผมแค่มาอาบน้ำ"พอได้ยินเสียงปลดล็อกประตูห้องของทศน พายุก็รีบพาเธอเข้ามาในห้อง"คุณจะไปลงเรือตอนไหนคะ""คงสายๆ หน่อย""สายๆ เหรอ" เมื่อวานนี้เธอก็ลางานครึ่งวันแล้ว ถ้าลาวันนี้ไปส่งเขาอีกจะเป็นอะไรไหม"ส่งผมแค่นี้ก็ได้" เขาพอจะเดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่"โทรมาหาฉันบ่อยๆ นะคะ""ครับ"[ที่ทำงานของคะน้า]"ผู้พันมองอะไรอยู่คะ" เพื่อนร่วมงานเห็นคะน้ามองไปทางท่าเรือก็เลยสงสัย"ป่านนี้เรือจะออกหรือยัง""เห็นว่าต
จากคนที่เคยพูดหยอกล้อ ตอนนี้นั่งเศร้าไม่ต่างกัน เพราะพรุ่งนี้มีคำสั่งขึ้นเรือแล้ว"เราขอย้ายดีไหมวะ""กว่าคำสั่งย้ายจะออกมา เป็นปีเลยนะ""ถ้ากูไม่อยู่แล้วเมียกูจะอยู่ยังไงล่ะ""เรียกเมียได้เต็มปากเลยนะ มึงขอเขาแต่งงานหรือยัง"เที่ยงวันเดียวกัน.."ทำไมคุณไม่โทรมาก่อนคะ" คะน้าลงมาก็เห็นเขายืนทำมาดเท่รออยู่หน้ารถแล้ว"ผมก็เพิ่งมาถึง" พายุพูดพร้อมกับเปิดประตูรถให้เธอขึ้น[ร้านอาหารนอกกอง]"ทำไมออกมาทานไกลจังคะ เดี๋ยวก็เข้างานไม่ทันหรอก""ผมอยากทำอะไรพิเศษๆ ให้กับคุณบ้าง""มีอะไรหรือเปล่าคะ" ทั้งสองคุยกันระหว่างรออาหารที่เพิ่งสั่งไป"พรุ่งนี้มีคำสั่งให้ขึ้นเรือแล้ว"ไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากของผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้า เพราะเธอพูดไม่ออก"ครั้งนี้ไม่รู้จะออกเรือกี่เดือน ถ้าทะเลสงบก็คงอยู่นานหน่อย""ค่ะ" เธอก็เป็นทหารเหมือนกันทำไมจะไม่รู้ แต่ถึงแม้เป็นทหารก็มีหัวใจ"ผมจะโทรมาหาคุณบ่อยๆ นะ" แต่ก่อนเคยเห็นแต่เพื่อนแย่งโทรขึ้นฝั่งกัน ครั้งนี้คงมีเขาร่วมด้วยอีกคนเพียงไม่นานอาหารก็ถูกยกมาบริการ ถ้าเขาบอกหลังทานข้าวก็คงจะดี แล้วตอนนี้ใครจะทานลงล่ะ"ทานนี่สิครับ" มือหนาตักอาหารวางใส่ชามข้าวให้คะน้าพ