สองปีต่อมา
หลังจากที่เรียนจบปริญญาตรีอิงรักก็ได้ทำงานบริษัทตามความฝันของตัวเอง ใช้ชีวิตอยู่ในห้องพักเล็กๆ คนเดียว เช้าไปทำงานตอนเย็นก็เลิกงานกลับห้อง ชีวิตของเธอวนเวียนอยู่แบบนี้เป็นประจำ
เพื่อนๆ ต่างก็แยกย้ายกันไปเติบโต มีเพียงเฟญ่าที่คอยพูดคุยและโทรหากันอยู่เป็นประจำ คอยอัพเดทชีวิตกันอยู่เรื่อยๆ
แต่ที่น่าแปลกที่สุดก็คือตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาอิงรักเปลี่ยนที่ทำงานมาแล้วห้าบริษัท ถึงจะเปลี่ยนที่ทำงานบ่อยแต่เธอก็ไม่เคยท้อ ตกงานก็แค่หางานใหม่ทำ ตราบใดที่ยังมีชีวิต มีลมหายใจเธอก็ต้องสู้ต่อไป
“พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้วนะ”
หัวหน้าแผนกวัยกลางคนเดินมาบอกหญิงสาวที่โต๊ะทำงาน ทำเอาพนักงานคนอื่นๆ หันมองมาที่เธอเป็นสายตาเดียวกัน
“หมายความว่ายังไงคะ”
หญิงสาวใบหน้าสวยเอ่ยถามกลับด้วยท่าทางใสซื่อ พร้อมกับมองหัวหน้าแผนกด้วยความสงสัย เธอพึ่งจะมาทำงานที่นี่ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ และเธอก็ตั้งใจทำงานเป็นอย่างดี ไม่เคยขาด ไม่เคยลา หรือมาสายเลยสักครั้ง
“ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ” หัวหน้าแผนกยื่นซองจดหมายสีขาวให้กับหญิงสาว
“แต่ว่า…” คำถามมากมายผุดเข้ามาในหัว แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไร อีกฝ่ายก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น”
ซองจดหมายสีขาวสะอาดตาถูกวางลงบนโต๊ะ ก่อนที่หัวหน้าแผนกจะเดินออกไป
เฮ้อ~
หญิงสาวถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้า เธอทำงานได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องหางานใหม่อีกแล้ว
เมื่อถึงเวลาเลิกงานหญิงสาวก็เก็บของใช้ส่วนตัวใส่ในกระเป๋า ก่อนจะเดินออกจากบริษัทไปด้วยความรู้สึกท้อแท้
หญิงสาวตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้น เธอเติบโตมากับบ้านเด็กกำพร้าและได้ออกมาอยู่ห้องเช่าเล็กๆ ตามลำพังและทำงานรับจ้างตามร้านอาหารเล็กๆ โชคดีที่ได้ทุนเรียนต่อ แต่ก็ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองไปด้วย
ความฝันของอิงรักก็คือการเรียนจบปริญญาตรีและได้ทำงานบริษัทใหญ่ๆ เงินเดือนสูงๆ ทำงานเข้าออกเป็นเวลา ได้พบเจอผู้คนมากมายมีเพื่อนร่วมงานที่น่ารัก เธอไม่ชอบทำงานบ้านและงานในครัว เพราะเป็นงานที่เธอรับจ้างทำมาตั้งแต่เด็ก เรียนจบถึงปริญญาตรีก็ขอแค่ได้ทำงานตามที่ฝันเอาไว้ก็พอ
หลายๆ คนในที่ทำงานต่างก็บอกว่าที่เธอโดนไล่ออก เพราะเธอไปยุ่งกับสามีคนอื่น แต่เธอไม่เคยทำแบบที่ใครๆ พูดเลยสักครั้ง แต่เด็กใหม่อย่างเธอจะทำอะไรได้ เส้นสายก็ไม่มี จึงถูกไล่ออกและหางานใหม่ทำไปเรื่อยๆ
แต่ก็หวังว่าสักวันเธอจะได้ทำงานดีๆ เงินเดือนสูงๆ และเป็นบริษัทที่มั่นคงไม่มีใครหาเรื่องหรือไล่เธอออกได้
“ต้องมีสักที่สิ” อิงรักเดินบ่นพึมพำหาที่สมัครงานไปเรื่อยแต่ก็ไม่มีที่ไหนเปิดรับเลยสักที่
“พรุ่งนี้ค่อยหาใหม่”
หลังจากที่เดินมาเกือบสามชั่วโมงและท้องฟ้าตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้ว วันนี้เธอคงต้องกลับไปพักที่ห้องก่อนพรุ่งนี้ค่อยสู้กันใหม่
ร่างบางเดินเข้าห้องเช่าห้องเล็กๆ ที่เธออยู่มาตั้งแต่เรียนจบ ซึ่งเป็นห้องเช่าราคาถูกแต่เงินทำงานที่เธอได้มาก็แทบจะไม่พอจ่าย เพราะกว่าเธอจะหางานทำได้แต่ละครั้งเงินที่ได้มาก็ไม่พอใช้จ่ายอยู่ดี
หญิงสาวทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเล็กๆ ด้วยความเหนื่อยล้า หลังจากที่เดินหาสมัครงานใหม่มาหลายชั่วโมง แต่ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีที่ไหนเปิดรับสมัครพนักงาน
ก๊อก!! ก๊อก!!
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น ทำให้หญิงสาวสะดุ้งตื่นจากภวังค์ความคิดแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู
“ค่าเช่าห้องจ๊ะ” ป้าเจ้าของห้องเช่าเดินมาเก็บค่าเช่าถึงที่ เพราะเธอค้างค่าเช่ามาสองเดือนแล้ว
“นี่ค่ะ”
อิงรักหยิบเงินออกจากซองที่ได้มาวันนี้จ่ายค่าเช่าห้องไปจนหมด เธอตั้งใจว่าจะเอาไปจ่ายพรุ่งนี้ แต่ก็ไม่เป็นไรจะวันไหนเธอก็ต้องจ่ายอยู่ดี
“ขอบใจจ๊ะ” ป้าเจ้าของห้องเช่ารับเงินพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินจากไป
ครืด~ ครืด~
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้อิงรักรีบปิดประตูห้องแล้ววิ่งตรงไปดูโทรศัพท์ทันที
“เฟย์”
หญิงสาวอ่านชื่อบนหน้าจอพร้อมความดีใจ เพราะในวันที่เธอเหนื่อยล้าและท้อแท้ก็ยังมีเฟญ่าโทรมาหา
(ทำอะไรอยู่เหรอ) คนในสายถามขึ้นมาทันที
“ไม่ได้ทำอะไร เฟย์มีอะไรหรือเปล่า” อิงรักพยายามพูดด้วยน้ำเสียงปกติ เพื่อปกปิดความรู้สึกเหนื่อยล้าของตัวเองเอาไว้
(ไม่มีอะไรหรอกคิดถึงก็เลยโทรหา) เฟญ่ามักจะโทรหาอิงรักอยู่บ่อยๆ นอกจากคิดถึงแล้วก็ยังเป็นห่วงเพื่อนอีกด้วย
“คิดถึงเหมือนกัน”
(แล้วงานที่ทำอยู่เป็นยังไงบ้าง) เฟญ่าเข้าเรื่องทันที เพราะตลอดสองปีที่ผ่านมาอิงรักเปลี่ยนงานบ่อยมาก
“ก็เหมือนเดิมแหละ”
(เหมือนเดิมนี่ดีหรือไม่ดี)
“ก็หางานใหม่ทำเหมือนเดิม”
(ล้อเล่นหรือเปล่าทำงานยังไม่ถึงเดือนเลยนะ)
“เรื่องแบบนี้ใครเขาล้อเล่นกันล่ะ”
(งั้นมาทำงานที่บ้านฉันไหม กำลังอยากได้พี่เลี้ยงพอดีเลย) เฟญ่าอยากจะให้อิงรักมาอยู่ด้วย
“แล้วพี่เลี้ยงคนเก่าไปไหน”
(พี่ยุจะลาออกสิ้นเดือนนี้แล้ว)
“แต่ว่า…” อิงรักอยากจะทำงานในสายอาชีพที่เธอเรียนมามากกว่าที่จะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก
(ไม่แต่หรอก เก็บของเตรียมตัวไว้เลยนะเดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปรับ)
“ขอเวลาคิดดูก่อนไม่ได้เหรอ”
(จะไปคิดทำไม มาอยู่กับฉันค่าที่พักก็ไม่ต้องจ่าย ได้เงินเดือนแถมอยู่ฟรีกินฟรีอีก) เฟญ่าไม่อยากให้อิงรักต้องลำบากไปหางานใหม่ทำ ถ้าหากเธอได้อิงรักมาเป็นพี่เลี้ยงให้ เธอคงจะสบายใจและหายห่วงเรื่องพี่เลี้ยงไปเลย
“แต่ฉันไม่ถนัดเลี้ยงเด็กนะ อีกอย่างฉันก็ไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อนด้วย” อิงรักพยายามพูดจาปฏิเสธแบบอ้อมๆ ไม่ให้น่าเกลียดจนเกินไป
(ไม่เป็นไรหรอก น้องเฟิร์สเป็นเด็กดี เลี้ยงง่าย ส่วนเรื่องเงินเดือนฉันจะคุยกับพี่ฟาร์ให้)
“เอ่อ…”
(เงินเก็บจะหมดแล้วไม่ใช่เหรอ มาลองเป็นพี่เลี้ยงดูก่อน ฉันให้เงินเดือนสามหมื่นเลย ถ้าอิงไม่ชอบก็ค่อยหางานใหม่ทำก็ได้)
“....” อิงรักถึงกับเงียบไปทันที ถึงจะไม่ใช่งานที่เธอชอบแต่เงินเดือนที่ได้นั้นน่าสนใจมาก
(เก็บของไว้นะเดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเช้าฉันจะไปรับ) ทันทีที่พูดจบเฟญ่าก็วางสายไปทันที โดยที่ไม่รอให้เพื่อนรักได้ตอบหรือปฏิเสธอะไร
อิงรักนั่งมองเงินจำนวนน้อยนิดที่เหลืออยู่ ถ้าขืนเธอยังเลือกงานอยู่แบบนี้มีหวังไม่มีเงินซื้อข้าวกินแน่นอน
สุดท้ายแล้วอิงรักก็ลุกขึ้นไปเก็บของใช้ที่จำเป็นใส่ในกระเป๋า ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ในเมื่อมีคนหางานมาให้ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรเธอก็ต้องทำอยู่ดี ไม่ลองก็ไม่รู้ ถ้าไม่ชอบก็ค่อยหางานใหม่ทำก็ได้
..
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
เช้าวันต่อมาอิงรักยืนรอเพื่อนรักมารับตามที่ตกลงกันเอาไว้ วันนี้เธอตื่นเช้ากว่าทุกวันเพื่อที่จะขนกระเป๋าของใช้และเสื้อผ้าลงมารออยู่ที่ด้านหน้าห้องพัก“มารอนานหรือยัง”เฟญ่าเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม ถึงเธอจะไม่ได้หางานตำแหน่งดีๆ ในบริษัทให้อิงรักทำ แต่ก็ถือว่าเธอได้ช่วยเพื่อนรักให้มีงานทำและเธอก็ได้พี่เลี้ยงคนใหม่ที่เธอไว้ใจมาช่วยดูแลหลานสาวอีกด้วย“ไม่นานหรอก” หญิงสาวยิ้มให้ก่อนจะยกกระเป๋าทั้งหมดที่มีเอาไว้บนรถให้เรียบร้อย“งั้นไปกันเลยนะ” เฟญ่าถามขึ้นเมื่ออิงรักเข้ามานั่งในรถข้างๆ เธอ“อื้ม” หญิงสาวพยักหน้าตอบด้วยความตื่นเต้น เธอไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อนและกลัวว่าจะทำหน้าที่พี่เลี้ยงไม่ดีพอ“ไม่ต้องคิดมากนะ น้องเฟิร์สเป็นเด็กดีแล้วก็น่ารักมาก รับรองว่าอิงกับน้องเฟิร์สเข้ากันได้ดีอย่างแน่นอน” เฟญ่าพูดอย่างอารมณ์ดี“ขอบใจมากนะเฟย์” หญิงสาวพูดด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง ไม่ว่าเธอจะลำบากหรือเดือดร้อนเฟญ่าก็คอยช่วยเหลือและอยู่ข้างๆ เธอเสมออิงรักกับเฟญ่าเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง เฟญ่าเป็นเพื่อนที่ดีและคอยช่วยเหลือเธออยู่ตลอดและการที่เธอตกลงมาเป็นพี่เลี้ยงในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งต
หลายวันต่อมาการทำหน้าที่พี่เลี้ยงดูง่ายขึ้นเมื่ออิงรักเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับน้องเฟิร์สได้เป็นอย่างดี แต่ตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมาเธอยังไม่เคยเจอพี่ชายของเฟญ่าเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นพี่ชายคนโตหรือพี่ชายคนกลางเธอก็ยังไม่เคยเจออิงรักมีหน้าที่ดูแลน้องเฟิร์สเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากนี้ เพราะแต่ละหน้าที่ก็มีแม่บ้านคนอื่นๆ คอยทำอยู่แล้วทว่าวันนี้เธอได้ยินแม่บ้านในครัวพูดคุยกันว่าจะมีเจ้านายกลับมาบ้าน แต่เธอก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นพี่ชายคนโตหรือว่าจะเป็นคุณพ่อของน้องเฟิร์สอิงรักอยู่กับน้องเฟิร์สแทบจะตลอดเวลา แต่การทำหน้าที่พี่เลี้ยงของเธอก็ไม่ได้หนักหรือยุ่งยากอะไร การใช้ชีวิตเหมือนกันแทบทุกวัน เพราะน้องเฟิร์สถูกสอนมาเป็นอย่างดี เวลาเล่น เวลาทานข้าว เวลานอน ทุกอย่างจะถูกกำหนดเอาไว้ตามตาราง ซึ่งน้องเฟิร์สก็ไม่เคยงอแงเลยสักครั้งวันเวลาผ่านเลยไปจากเช้าจนค่ำอิงรักก็พาน้องเฟิร์สนั่งระบายสีรูปภาพอยู่ที่ห้องรับแขก โดยที่เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีคนกำลังแอบมองเธออยู่“คุณฟาร์มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ” ป้าน้อยที่เป็นแม่บ้านเก่าแก่ประจำบ้านเอ่ยถามเจ้าของบ้านด้วยความสงสัย“น้องเฟ
เช้าวันต่อมาฟาร์ริกซ์ตั้งใจตื่นเช้ามาเล่นกับลูกสาว ตั้งแต่วันที่โรสรินจากไปหัวใจของเขาก็แตกสลายไม่เหลือชิ้นดี ตอนที่เธออยู่เขากลับทิ้งขว้างไม่เห็นค่า แต่พอเธอจากไปเขาก็โหยหาอยากได้เธอกลับมา แต่พอรู้ตัวทุกอย่างก็สายเกินไปถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อให้โรสรินกลับมา แต่เธอก็ยังใจแข็งไม่ยอมกลับมาอยู่ด้วยกัน อาจจะเป็นเพราะอดีตที่เลวร้ายยังคงฝังอยู่ในใจเธอไม่เคยจางหายและเปรียบเสมือนกำแพงสูงที่ปิดกั้นเขาเอาไว้แต่ยังไงฟาร์ริกซ์ก็ไม่ยอมแพ้ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้โรสรินกลับมาอยู่ด้วยกันและจะทำให้ครอบครัวอบอุ่นและสมบูรณ์แบบอีกครั้งให้ได้“ได้เวลาทานอาหารเช้าแล้วค่ะน้องเฟิร์ส” อิงรักเดินเข้ามาหาเด็กสาวที่กำลังนั่งเล่นกับคุณพ่ออยู่ภายในห้องนั่งเล่น“ฝากดูน้องเฟิร์สด้วยนะครับ” ฟาร์ริกซ์บอกพี่เลี้ยงพร้อมรอยยิ้ม“คุณพ่อจะไปไหนคะ ไม่ไปข้าวข้าวกับน้องเฟิร์สเหรอคะ” เด็กตัวเล็กหันไปถามคุณพ่อด้วยสายตาละห้อย“คุณพ่อจะไปอาบน้ำครับ” ฟาร์ริกซ์ตอบลูกสาวก่อนจะเดินแยกเข้าห้องของตัวเองชายหนุ่มไม่กล้าที่จะบอกลูกสาวไปตามตรงว่าเขานั้นมีงานด่วนที่จะต้องไปทำ ถึงแม้ว่าเขาจะพึ่งกลับมาและอยู่กับลูกสาวยังไ
หลังจากที่ทานอาหารเย็นเสร็จอิงรัก เฟญ่าและน้องเฟิร์สก็นั่งดูการ์ตูนด้วยกันอยู่ในห้องนั่งเล่น คุณน้าคนสวยก็ดูการ์ตูนไปเล่นโทรศัพท์ไปเพราะต้องคุยธุระเรื่องงาน ส่วนอิงรักก็ดูกับน้องเฟิร์สอย่างตั้งใจ เรียกได้ว่าเวลาทำงานอิงรักตั้งใจและเต็มที่มากร่างสูงสง่าอยู่ในชุดสูทสีดำสนิทหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องนั่งเล่นพร้อมกับมองสำรวจผู้คนที่อยู่ภายในห้อง เป็นเวลานานหลายเดือนแล้วที่เขาไม่ได้กลับมาที่บ้านหลังนี้ แต่ก็รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้กลับมาสายตาเฉี่ยวคมจ้องมองไปยังหญิงสาวใบหน้าเรียวสวย ตากลมโต ผมยาวสลวย ปากนิดจมูกหน่อย ดูท่าทางใสซื่อแต่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วจะใสซื่อเหมือนกับที่เขาเห็นหรือเปล่า“น้องเฟิร์ส” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียกชื่อหลานสาวตัวเล็กด้วยความคิดถึง“ลุงฟินน์!” เด็กตัวเล็กหันมองไปตามเสียงเรียกก่อนจะเรียกชื่อคุณลุงออกมาพร้อมกับวิ่งเข้าไปหาด้วยความดีใจ“น้องเฟิร์สคิดถึงลุงฟินน์มากๆ เลยค่ะ” น้องเฟิร์สกอดคุณลุงเอาไว้แน่นด้วยความคิดถึง หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายเดือน“ลุงฟินน์ก็คิดถึงน้องเฟิร์สครับ” ชายหนุ่มตอบหลานสาวน้องเฟิร์สเปรียบเสมือนความสุขของทุกคนในบ้านหลังนี้ จุดประสงค์เดีย
หนึ่งเดือนต่อมาตั้งแต่น้องเฟิร์สมีพี่เลี้ยงคนใหม่เข้ามาคอยดูแล ทุกคนภายในบ้านหลังใหญ่ก็กลับบ้านกันบ่อยขึ้น ทำให้บ้านหลังใหญ่ที่เคยเงียบเหงาดูมีสีสันขึ้นมาจนน่าแปลกใจ ซึ่งการที่น้องเฟิร์สมีความสุขมากขึ้น ทุกคนในบ้านก็มีความสุขมากขึ้นเช่นกันส่วนอิงรักก็เริ่มปรับตัวได้ หน้าที่การทำงานก็เริ่มลงตัวมากขึ้น ผู้คนที่นี่ใจดีกับเธอมากทำให้เธอมีความสุขในการทำงานอย่างเห็นได้ชัดหัวใจดวงน้อยยังคงสั่นไหวและเต้นแรงทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้พี่ชายคนโตของเพื่อนสนิทอย่างเฟญ่า ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งได้รู้จักเธอก็เริ่มควบคุมหัวใจตัวเองไม่ได้ถึงครั้งแรกที่เจอกันจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าประทับใจสำหรับเธอ แต่วันนี้ความรู้สึกของเธอได้เปลี่ยนไปแล้ว ถึงเขาจะดูนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดและดูเงียบขรึม แต่พอเวลาอยู่กับหลานสาวเขาดูใจดี พูดเก่ง ราวกับเป็นคนละคนหลายครั้งที่อิงรักต้องคอยหักห้ามใจตัวเองเวลาที่อยู่ใกล้เขา ผู้ชายที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงทุกครั้งและเขาก็เป็นคนที่ทำให้เธอรู้ว่ารักแรกเจอนั้นมีอยู่จริงอิงรักมองเด็กตัวเล็กที่นอนหลับอยู่บนเตียงกว้างด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู น้องเฟิร์สเป็นเด็กน่ารัก นับวันก็ยิ่
วันต่อมา“ทำอะไรกันอยู่เอ่ย” เฟญ่าเอ่ยถามพร้อมกับเดินเข้าไปหาน้องเฟิร์สที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับพี่เลี้ยง“น้องเฟิร์สกำลังต่อเลโก้อยู่ค่ะ” เด็กตัวเล็กตอบอย่างอารมณ์ดี“สนุกไหมคะ” เฟญ่ายังคงถามหลานสาวต่อ“สนุกค่ะ ว่าแต่วันนี้น้าเฟย์ไม่ได้ไปทำงานเหรอคะ” น้องเฟิร์สเป็นฝ่ายถามคุณน้าบ้าง เพราะปกติคุณน้าเอาแต่ทำงานจนไม่มีเวลาว่างและวันหยุดมาเล่นกับน้องเฟิร์สเลย“วันนี้วันหยุดน้าเฟย์อยู่เล่นกับน้องเฟิร์สได้ทั้งวันเลยค่ะ” เฟญ่าตอบอย่างเอาใจหลานสาวตัวเล็ก เพราะนานๆ จะมีวันหยุดและเวลามาเล่นด้วย ช่วงนี้งานที่บริษัทก็ยุ่งทำให้เธอแทบจะไม่มีเวลาให้กับใครเลย“เย้ๆ วันนี้จะมีน้าเฟย์มาเล่นด้วยแล้วค่ะพี่อิง” เด็กตัวเล็กหันไปคุยกับพี่เลี้ยงด้วยท่าทางดีใจ“วันนี้เรามาช่วยกันคิดดีกว่าว่าวันเกิดน้องเฟิร์สปีนี้จะจัดแบบไหนกันดี” เฟญ่าพูดเข้าประเด็นทันทีเพราะใกล้ถึงวันเกิดหลานสาวแล้ว เธอจะต้องรีบเตรียมจัดงานและหาของขวัญเอาไว้เซอร์ไพร์สน้องเฟิร์สด้วย“น้องเฟิร์สยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยค่ะ” เด็กตัวเล็กตอบไปตามประสาเด็ก“แต่นี่ก็ใกล้ถึงวันเกิดน้องเฟิร์สแล้วนะคะ” เฟญ่ากลัวจะซื้อของและเตรียมงานไม่ทันเพราะใกล้จะถึงวั
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาบรรยากาศภายในบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยความเงียบ เมื่อวันนี้เป็นวันที่น้องเฟิร์สจะต้องออกไปซื้อของเพื่อที่จะไปบริจาคให้บ้านเด็กกำพร้า หลังจากที่เลื่อนวันซื้อของมาแล้วหลายครั้งและพรุ่งนี้ก็จะถึงวันเกิดของน้องเฟิร์สแล้ว“แล้ววันนี้เราจะได้ไปซื้อของกันไหมคะพี่อิง” น้องเฟิร์สถามเสียงเศร้า เพราะแต่งตัวเรียบร้อยพร้อมจะออกไปข้างนอกแล้ว แต่ภายในบ้านก็ยังเงียบไม่มีใครมาเลยสักคน“คือว่า…”อิงรักอ้ำอึ้งไม่รู้ว่าจะบอกน้องเฟิร์สยังไงดีเพราะเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวันนี้จะได้ไปซื้อของหรือเปล่า“จะไปไหนกันครับ”ยังไม่ทันที่อิงรักจะได้ตอบอะไรอยู่ๆ ก็มีน้ำเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากหน้าประตูบ้าน ทำเอาน้องเฟิร์สยิ้มกว้างและรีบวิ่งเข้าไปหาทันที“คุณพ่อ!” น้องเฟิร์สกอดคุณพ่อเอาไว้แน่นด้วยความคิดถึง“สวัสดีค่ะคุณฟาร์” อิงรักยกมือไหว้ทักทายชายหนุ่มพร้อมรอยยิ้ม“สวัสดีครับ กำลังจะไปไหนกันเหรอครับทำไมน้องเฟิร์สถึงได้แต่งตัวสวยขนาดนี้” ฟาร์ริกซ์ถามพร้อมกับมองหน้าลูกสาว ทั้งชีวิตของเขาคงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าน้องเฟิร์สอีกแล้ว“จะออกไปซื้อของข้างนอกค่ะ แต่ก็ไม่มีใครว่างพาน้องเฟิร์สกับพี่อิงไปเลย” น้องเฟิ
เช้าวันต่อมาวันนี้เป็นวันที่น้องเฟิร์สตื่นเช้ากว่าใครทุกคนในบ้าน รีบลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่เช้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนพี่เลี้ยงอดที่จะแซวไม่ได้“พร้อมกว่าทุกคนเลยนะคะน้องเฟิร์ส”“ก็น้องเฟิร์สตื่นเต้นหนิคะ วันเกิดน้องเฟิร์สไม่เคยมีเพื่อนมาเลย มีแต่คนในบ้านน้องเฟิร์สไม่มีเพื่อนเล่นเลยค่ะ” น้องเฟิร์สยังคงพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นไม่หาย“เดี๋ยวอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้เจอน้องๆ พี่ๆ ที่บ้านเด็กกำพร้าแล้วนะคะ” อิงรักเข้าใจความรู้สึกของน้องเฟิร์สในตอนนี้เป็นอย่างดี เวลาที่จะได้ทำอะไรใหม่ๆ เด็กก็มักจะดีใจและตื่นเต้นเป็นธรรมดา“น้องเฟิร์สตื่นเต้นมากเลยค่ะ”“ทุกคนที่บ้านเด็กกำพร้าก็คงจะดีใจและตื่นเต้นเหมือนกับน้องเฟิร์สค่ะ”“ทำไมคะ” เด็กตัวเล็กสงสัยและคิดว่าตัวเองจะตื่นเต้นอยู่คนเดียว“ก็นานๆ จะมีคนซื้อขนมไปให้ยังไงคะ” พี่เลี้ยงคนสวยบอกไปตามความรู้สึก เพราะตอนที่เธออยู่บ้านเด็กกำพร้า เธอก็ตื่นเต้นมากเหมือนกันถ้ารู้ว่าวันไหนจะมีคนมาแจกขนม“งั้นเราไปรอข้างล่างกันเถอะค่ะพี่อิง” น้องเฟิร์สดึงมือพี่เลี้ยงออกจากห้องทันทีทั้งสองคนมานั่งรอที่ห้องรับแขก วันนี้จะมีฟาร์ริกซ์และเฟญ่าไปด้วย ไปทำบุญด
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงหลังจากที่ถ่ายรูปกับแขกที่มาร่วมงานเพื่อเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกเสร็จก็ถึงเวลาที่จะต้องส่งตัวเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเข้าห้องหอ ซึ่งเป็นเวลาที่ฟินนิคซ์รอคอยมากที่สุดมีญาติผู้ใหญ่และแขกเพียงไม่กี่คนที่ได้เข้ามาอวยพรในช่วงพิธีการที่สำคัญในครั้งนี้ เพราะการส่งตัวถือเป็นพิธีที่สำคัญมาก“ขอให้ทั้งสองความรักยืดยาว ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชรนะ” แขกผู้ใหญ่คนสำคัญที่มาร่วมงานก็อวยพรให้บ่าวสาวในห้องหอ“ขอบคุณครับ / ขอบคุณค่ะ” เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวต่างก็ยกมือไหว้ขอบคุณญาติผู้ใหญ่ที่สละเวลาที่มีค่ามาร่วมงานและร่วมอวยพรในงานแต่งของเขาและเธอเมื่ออวยพรเสร็จญาติผู้ใหญ่ก็เริ่มทยอยออกไป เหลือเพียงแค่คนในครอบครัวที่ยืนรออวยพรให้ทั้งสองคนอยู่“ขอให้พี่ฟินน์กับอิงรักมีความสุขมากๆ ในชีวิตคู่นะคะ” โรสรินยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่วันนี้ทั้งสองคนได้แต่งงานกันและทั้งสองยังมีส่วนร่วมที่ทำให้เธอกับฟาร์ริกซ์ได้กลับมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอีกครั้ง“ดีใจด้วยนะ ถ้าหากมีเรื่องหรือมีปัญหาอะไรเข้ามาก็ขอให้ทั้งสองคนหันหน้าคุยกันให้เข้าใจนะ” ฟาร์ริกซ์ยินดีและดีใจกับพี่ชาย“รีบมีน้องไวๆ นะคะเดี๋ยวน้องเฟิร์สจะช่ว
ห้าวันต่อมาและแล้ววันที่ใครหลายๆ คนรอคอยก็มาถึง งานแต่งถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูชื่อดังอยู่ใจกลางเมืองอย่างยิ่งใหญ่และสมฐานะ แขกในงานที่มาร่วมแสดงความยินดีต่างก็เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงกันทั้งนั้นบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยเสียงเพลงช้าๆ ที่เปิดคลอเอาไว้เบาๆ เพื่อที่จะไม่ทำให้บรรยากาศในงานนั้นดูเงียบจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้เปิดเสียงดังจนรู้สึกว่าดังรบกวนแขกในงานที่พูดคุยกัน“ขอบคุณที่มาร่วมงานนะครับ” ฟินนิคซ์เดินขอบคุณแขกที่มาร่วมงานด้วยตัวเองระหว่างที่รอเวลาเข้าสู่พิธีการของงาน“ยินดีด้วยนะครับ” หุ้นส่วนของบริษัทที่มาร่วมงานก็แสดงความยินดีกับเจ้าบ่าว“ไม่ทราบว่าจ้างบริษัทไหนมาจัดงานให้คะ สวยมากเลย” ภรรยาสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็เอ่ยถามด้วยความสนใจ“น้องสาวผมเป็นคนจัดการทุกอย่างให้หมดเลยครับ” ฟินนิคซ์ตอบด้วยความภูมิใจ เพราะนี่ไม่ใช่คนแรกที่ถามเขา ทุกคนที่มาร่วมงานต่างเอ่ยชมและพูดเป็นเสียงเดียวกัน“เก่งมากเลยนะครับ แขกในงานก็ชมใหญ่เลยว่าจัดงานได้สวยมาก” แขกในงานชมไม่หยุด ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูสวยงามไปหมด“ขอบคุณนะครับ”“ไม่ทราบว่าน้องสาวคุณฟินน์มีแพลนจะเปิดร้านออร์แกไนซ์ไหมคะ” แขกที่มาร่วมงานถึงกั
หนึ่งเดือนต่อมางานแต่งถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็วตามสไตล์ของคนใจร้อนที่ไม่อยากเสียเวลารออะไรนานๆ ทำเอาน้องสาวอย่างเฟญ่าวุ่นวายไปหมด เพราะนอกจากเธอจะต้องเตรียมชุดของตัวเองที่จะใส่วันงานแต่งของพี่ชายแล้วเธอยังต้องเป็นคนจัดการและเตรียมงานในครั้งนี้ด้วย“เลื่อนออกไปอีกสักเดือนไม่ได้เหรอคะพี่ฟินน์” เฟญ่านั่งทำหน้าเซ็งหลังจากที่ไปผสานงานกับทีมต่างๆ มาตลอดทั้งวัน บทจะช้าก็ช้าแต่พอถึงบทจะรีบก็รีบแบบไม่รอใครเลยจริงๆ“ไม่ได้ ก็บอกทุกคนไปหมดแล้วจะให้เลื่อนอะไรอีก” ฟินนิคซ์มองหน้าน้องสาวด้วยความไม่เข้าใจ หลังจากที่คุยเรื่องนี้ไปหลายรอบแล้ว แต่เฟญ่าก็ยังคงบ่นไม่หยุด“แต่เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วันเองนะคะ” เฟญ่ายังคงทำหน้าเซ็งไม่หาย ถ้าไม่ติดว่าเป็นงานแต่งของพี่ชายกับเพื่อนสนิทของเธอ เธอคงไม่ต้องมานั่งวุ่นวายทำทุกอย่างคนเดียวแบบนี้“เฟย์ก็เตรียมงานใกล้เสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มเชื่อมั่นในฝีมือของน้องสาว เพราะรู้ว่าน้องสาวเก่งเรื่องนี้ ถ้าหากว่างานนี้เฟญ่าทำออกมาได้ดี หลังเสร็จงานเขาคงต้องเปิดร้านออร์แกไนซ์ให้น้องสาวอย่างแน่นอน“ใกล้เสร็จอะไรกันคะ เฟย์เพิ่งจะคอนเฟิร์มแบบไปเอง” เฟญ่ายกมือกุมขมับด้วยท่าทา
เมื่อดอกไม้ที่สั่งมาถึงเฟญ่า น้องเฟิร์สและแม่บ้านต่างก็ช่วยกันจัดตกแต่งมุมปาร์ตี้ที่สวนหลังบ้านให้สวยงามและเหมาะกับการขอแต่งงานมากที่สุดน้องเฟิร์สทั้งดีใจและตื่นเต้นช่วยแถมยังช่วยคุณน้าคนสวยจัดดอกไม้ด้วยถึงจะทำไม่เป็นก็ตาม แต่เด็กตัวเล็กก็อยากจะช่วยส่วนฟินนิคซ์กับฟาร์ริกซ์ก็นั่งดูอยู่ไม่ห่าง ด้วยความที่เป็นผู้ชายก็เลยไม่มีความสามารถที่จะช่วยจัดดอกไม้ได้ จึงทำได้เพียงแค่นั่งดูและให้กำลังใจทุกคน“มีของมาส่งค่ะ” พี่นิดหน่อยเดินเข้ามาบอกผู้เป็นเจ้านาย“พี่ฟินน์พี่เขามาส่งแหวนแล้วค่ะ” เฟญ่าที่เห็นพนักงานที่ร้านเดินเข้ามาก็รีบตะโกนบอกทันทีเพราะเธอจำหน้าพนักงานที่ร้านเพชรได้“มาส่งแหวนใช่ไหมครับ” ฟินนิคซ์เอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง“ใช่ค่ะ” พนักงานตอบก่อนจะหยิบกล่องแหวนพร้อมใบเสร็จขึ้นมาให้ชายหนุ่มดู“เฟย์มาดูก่อน ใช่แบบที่สั่งไว้ไหม” ฟินนิคซ์ตะโกนเรียกน้องสาวให้มาดู เพราะเขาไม่รู้ว่าเธอสั่งแบบไหนและถูกต้องตามที่สั่งหรือเปล่าเฟญ่าวางงานจัดดอกไม้ตรงหน้าแล้วรีบมาตรวจดูแหวนเพชรเม็ดโตที่เธอสั่งทำพิเศษเพื่อพี่ชายกับเพื่อนรักของเธอโดยเฉพาะ“สวยมากเลยค่ะ พี่ฟินน์จ่ายเงินด้วยนะ” เฟญ่าเปิดกล่องแ
เช้าวันต่อมาวันนี้เป็นวันหยุดบ้านหลังใหญ่ก็เต็มไปด้วยความสดใสและเสียงหัวเราะจากสมาชิกในบ้านที่นานๆ ทีจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา“น้องเฟิร์สอยากให้เป็นแบบนี้ทุกวันเลยค่ะ” เด็กตัวเล็กพูดออกมาด้วยท่าทางสดใสชีวิตของน้องเฟิร์สตอนนี้กลับมาสดใสและมีความสุขอีกครั้งเมื่อคุณแม่กลับมาอยู่ที่บ้านด้วย ส่วนคุณพ่อก็กำลังจัดการเรื่องบริษัทที่กำลังจะย้ายกลับมาทำที่ประเทศไทยอย่างถาวร จะได้มีเวลาอยู่กับลูกสาวและภรรยามากขึ้นหลังจากที่น้องเฟิร์สเศร้าเรื่องที่พี่เลี้ยงอย่างอิงรักลาออก แต่ไม่นานคุณลุงฟินนิคซ์ก็ไปตามตื้อพี่เลี้ยงให้กลับมาอยู่บ้านด้วยกันเหมือนเดิมจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งปีเต็มและสมาชิกในบ้านก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น ฟาร์ริกซ์ก็มีโรสรินมาอยู่ด้วย ส่วนพี่ชายคนโตอย่างฟินนิคซ์ก็มีอิงรักมาอยู่ด้วยเช่นกัน จะเหลือก็แต่เฟญ่าที่ยังไม่มีคู่ทำให้ต้องมานั่งเหงาอยู่คนเดียว“งั้นเย็นนี้เราจัดปาร์ตี้กันดีไหมคะ” เฟญ่าถามอย่างเอาใจหลานสาว“ดีค่ะ” น้องเฟิร์สดีใจและเห็นด้วยก็รีบปรบมือรัวๆ ทันที“เมนูอะไรดีนะ” เฟญ่าถามหลานสาว“บาร์บีคิวกับไก่ทอดดีไหมคะน้าเฟย์” เด็กตัวเล็กเสนอเมนูโปรดของตัว
หนึ่งปีต่อมา“อิงขอรายชื่อลูกค้าทั้งหมดที่จะมาร่วมงานภายในวันนี้ด้วยนะคะ” หญิงสาวในชุดทำงานสุดเนี๊ยบสั่งพนักงานด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่จริงจัง“วันนี้!” หญิงสาวในตำแหน่งผู้ช่วยพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ เมื่อเจ้านายสั่งให้ทำงานสำคัญให้เสร็จภายในวันนี้“ใช่ค่ะ” อิงรักพยักหน้าตอบด้วยความมั่นใจ“แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเวลาเลิกงานแล้วนะคะ” พนักงานที่ทำหน้าที่ผู้ช่วยก็ถึงกับคิดหนักขึ้นมาทันที เมื่อเหลือเวลาทำอีกไม่นาน“แล้วยังไงคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถาม ถึงรายชื่อทั้งหมดจะมีเยอะก็จริง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แค่รวบรวมรายชื่อทั้งหมดมาให้เธอ“ได้ค่ะ” ผู้ช่วยก้มหน้าตอบเพราะไม่มีทางที่จะปฏิเสธอะไรได้ คำสั่งของเจ้านายยังไงก็ต้องทำ“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณก่อนจะก้มหน้าอ่านเอกสารที่อยู่ตรงหน้า เพื่อที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้อิงรักเข้ามาทำงานในตำแหน่งเลขาและผู้ช่วยของฟินนิคซ์ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงประธานบริษัทและเธอก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่และออกมาดีที่สุดนี่ก็ครบหนึ่งปีแล้วที่เธอมาทำงานที่บริษัทและย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของฟินนิคซ์ในฐานะแฟนอย่างเป็นทางการ นอกจาก
ฟินนิคซ์กลับบ้านมาด้วยท่าทางอารมณ์ดี เขาตั้งใจที่จะกลับมาเตรียมความพร้อมและเตรียมคำพูดที่จะพูดกับอิงรักในค่ำคืนนี้ชายหนุ่มซ้อมคำพูดกับตัวเองอยู่ในห้องเพื่อที่จะไม่ให้ใครเห็น ฟินนิคซ์พยายามหาคำพูดต่างๆ มาปรับและรวมกันให้เป็นตัวเขามากที่สุด เพื่อที่จะไม่ให้ดูเป็นทางการและกดดันอีกฝ่ายมากเกินไปเมื่อใกล้ถึงเวลาฟินนิคซ์ก็รีบอาบน้ำแต่งตัว จะได้ออกไปรับอิงรักที่คอนโด ส่วนเรื่องร้านอาหารเขาได้ให้เลขาจองโต๊ะและให้ทางร้านจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว คืนนี้ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามแผนและออกมาดีที่สุด“พี่ฟินน์!” เฟญ่าที่นั่งอยู่ที่ห้องรับแขกเมื่อเห็นพี่ชายเดินมาเธอจึงเอ่ยเรียก“มีอะไร” ชายหนุ่มก้มหน้าจัดเน็กไทอยู่รีบหันไปมองตามเสียงเรียก“จะออกไปไหนคะ” การแต่งตัวของพี่ชายเรียกความสงสัยจากเธอได้ไม่น้อย“ไปทานข้าว”“ทำไมต้องแต่งตัวเต็มขนาดนี้ด้วยคะ”“ก็แต่งตัวปกติหนิ” ฟินนิคซ์สำรวจชุดที่ตัวใส่ด้วยความมั่นใจ เพราะเขาแต่งตัวแบบนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว“เฟย์ก็นึกว่าจะไปประชุมที่ไหนซะอีก”“มันดูทางการเกินไปเหรอ” เมื่อโดนน้องสาวทักความมั่นใจที่มีก็เริ่มลดน้อยลงทันที“จะไปทานข้าวกับใครคะ”เฟญ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาอิงรักย้ายออกจากบ้านหลังใหญ่เข้าไปอยู่ที่คอนโดขนาดกลาง มีห้องต่างๆ แยกเป็นสัดส่วนและมีระบบรักษาความปลอดภัยพร้อมทั้งกล้องวงจรปิด ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยเป็นอย่างมาและการจัดตกแต่งห้องก็น่ารักตามสไตล์ที่เธอชอบซึ่งราคาห้องพักค่อนข้างแพงถ้าให้เธอเช่าอยู่ เงินทั้งหมดที่มีของเธอคงอยู่ได้ไม่ถึงครึ่งปีแน่นอน แต่โชคดีที่ฟาร์ริกซ์ซื้อพร้อมทั้งจัดตกแต่งห้องตามแบบที่เธอชอบ แถมยังให้เธอจ่ายค่าเช่าในราคาที่ถูกมากจนเธอรู้สึกเกรงใจ แต่เขาก็บอกว่าถือเป็นค่าตอบแทนที่เธอช่วยเลี้ยงและดูแลน้องเฟิร์สมาเป็นอย่างดีอิงรักรู้สึกโล่งและสบายใจมากที่ได้ย้ายออกมาอยู่คนเดียว โชคดีที่ฟินนิคซ์ไม่อยู่เธอจึงย้ายออกมาทันที ถึงจะคิดถึงและยังรักแต่วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเธอแล้วร่างบางเก็บของในห้องให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่นถูกจัดเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็ดูดสวยงามถูกใจอิงรักไปหมดตอนนี้อิงรักมีเงินเก็บเยอะพอสมควร แต่ถึงจะมีเงินเยอะแค่ไหนอิงรักก็ยังไม่สบายเมื่อความจริงแล้วเธอยังไม่ได้งานทำ ทุกอย่างเป็นเพียงแค่คำพูดโกหกเพื่อให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงเธอเท่
ตลอดทั้งวันจากเช้าจนถึงเย็นฟาร์ริกซ์พาอิงรักไปหาห้องพัก กว่าจะได้ห้องที่ปลอดภัยและราคาถูกก็ใช้เวลานานพอสมควรสุดท้ายเพื่อความปลอดภัยของอิงรัก ฟาร์ริกซ์ก็ได้ทำการเซ็นสัญญาซื้อห้องที่ปลอดภัยและเป็นห้องที่อิงรักชอบ เพื่อที่จะให้อิงรักได้ผ่อนกับเขาในราคาที่ถูกลง“ขอบคุณพี่ฟาร์มากเลยนะคะ”เมื่อกลับมาถึงบ้านอิงรักก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณชายหนุ่มใจดีที่พาเธอไปดูห้องแถมยังซื้อเอาไว้ให้เธอเช่าในราคาที่ถูกลง ซึ่งเป็นราคาที่ถูกมากๆ และเธอคงหาราคานี้ที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว“ไม่เป็นไร อย่าลืมไปบอกเฟญ่าด้วยล่ะ ห้องสวยแถมยังปลอดภัยด้วย”วันนี้ทั้งวันฟาร์ริกซ์เอาชื่อเฟญ่ามาอ้างตลอด และพูดย้ำกับอิงรักทุกครั้งว่าเฟญ่าบอกให้เอาเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก จนอิงรักต้องยอมเมื่อเป็นคำสั่งของเฟญ่า“ค่ะ” อิงรักพยักหน้าตอบ“อิงไปพักได้เลยนะ วันนี้โรสจะมานอนกับน้องเฟิร์ส” ฟาร์ริกซ์หันไปบอกหญิงสาวเมื่อวันนี้โรสรินโทรบอกเขาล่วงหน้าแล้ว“ค่ะ อิงขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวก้มหัวให้ชายหนุ่มก่อนจะเดินแยกออกไปส่วนฟาร์ริกซ์ก็ตัดสินใจไปนั่งรอพี่ชายที่ห้องทำงาน เพราะถ้ากลับมาบ้านพี่ชายจะเข้าห้องทำงานก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งวันนี้เขามีเรื