“เสร็จสักที! ยืนจนปวดขาไปหมด” เฟญ่าพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่ดูเหนื่อยล้ากว่าปกติ คนก็เยอะทั้งยืนนานทั้งปวดขา เป็นอีกวันที่ใช้พลังงานเยอะมากจริงๆ
“แค่นี้ก็ทำเป็นบ่น” เซนต์พูดขึ้นเรื่องนิดเดียวเฟญ่าก็บ่น
“ลองมาใส่ส้นสูงแบบนี้ดูไหมล่ะ” เฟญ่าชี้ไปยังรองเท้าถึงจะไม่ได้สูงมากแต่ใช้เวลายืนอยู่หลายชั่วโมงก็ต้องมีปวดขา มีบ่นกันบ้างแหละ
“จะมาบ่นทำไมรีบไปหาที่นั่งก่อนสิ” เซนต์รีบชี้ไปยังโต๊ะว่างที่อยู่มุมตึกคณะ
“ดื่มน้ำเย็นๆ กันก่อน” อิงรักที่ไปยืนต่อคิวซื้อน้ำเย็นๆ มาก็ยื่นให้เพื่อนๆ ทันที
“ขอบใจนะ” เพื่อนๆ ต่างรับน้ำมาดื่มด้วยความกระหาย อากาศก็ยิ่งร้อนๆ คนก็เยอะ
“คืนนี้ไปไหนกันดี” ดีเดย์ถามขึ้นแต่สายตากลับจ้องมองไปยังเอวา ซึ่งเธอก็หันมาจ้องตาเขาพอดี
เอวารับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปของดีเดย์ แต่เธอก็ทำได้เพียงแค่เก็บเงียบเอาไว้ไม่กล้าที่จะถามเขาออกไปตามตรง
“ไปผับไหม” เซนต์แสดงความคิดเห็นพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นมา
“คืนนี้คนเยอะแน่เลย” เฟญ่าบ่นปนแสดงความคิดเห็นขึ้นมา เพราะใครๆ ต่างก็อยากไปฉลองกันทั้งนั้น
“งั้นไปร้านอาหารไหมล่ะ” เอวาไม่ค่อยชอบสถานที่บันเทิงสักเท่าไหร่นอกจากจะเสียงดังแล้วผู้คนยังเยอะอีกด้วย
“ไปร้านอาหารพี่ชายฉันไหม พึ่งเปิดใหม่พอดีเลย” เฟญ่าเสนอขึ้นมาทันทีที่นึกขึ้นได้
“มีส่วนลดไหมล่ะ” ดีเดย์ถามขึ้นมาตามสไตล์
“ก็อยู่ที่ว่าใครจะเป็นคนจ่าย” เฟญ่าอยากจะหาเจ้ามือเลี้ยงเพื่อนๆ ในคืนนี้
“ถ้าน้องเดียร์มาด้วยเดี๋ยวกูจ่ายให้เอง” เซนต์พูดขึ้นมาตามตรงแบบไม่ปิดบังความต้องการเลยสักนิด
“ขอร้องล่ะ ปล่อยน้องไปเจอคนดีๆ เถอะ” เฟญ่าแทบจะยกมือไหว้ขอร้องเพื่อนสนิทอย่างเซนต์ เธอแค่อยากให้น้องรหัสมีชีวิตที่ดีกับผู้ชายที่ดีสักคน
“ทั้งหล่อทั้งรวย หาที่ไหนได้อีกวะ” เซนต์รีบโปรโมตข้อดีของตัวเองทันที
“พักก่อนค่ะ!” เฟญ่ารีบห้ามความคิดของเพื่อนสนิทตัวเองเอาไว้
“งั้นเอาเป็นว่าไปร้านที่เฟย์เสนอ ไอ้เซนต์เป็นคนจ่าย” ดีเดย์ตัดบทสนทนาและสรุปทุกอย่างด้วยตัวเอง
“โอเค เดี๋ยวส่งโลเคชันให้ในไลน์กลุ่มนะ” เฟญ่ายิ้มกริ่มด้วยความดีใจที่มีคนเห็นด้วยกับความคิดของเธอ
หลังจากนั้นไม่นานทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนและรอเวลาที่จะไปเจอกันที่ร้านอาหารตามนัด เพื่อฉลองความสำเร็จก้าวแรกในด้านการเรียน
เมื่อถึงเวลานัดอิงรักก็อยู่ในชุดเดรสสีฟ้าอ่อนยาวเลยเข่าเล็กน้อย ใบหน้าสวยถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางบางเบา ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อน่าหลงใหล
ร่างบางยืนมองร้านอาหารที่อยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางคิดหนัก เพราะเป็นร้านที่สวยและหรูมากจนคนธรรมดาแบบเธอไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปเพียงคนเดียว
หญิงสาวยืนมองซ้ายมองขวามองหาเพื่อนๆ ในกลุ่มแต่ก็ยังไม่มีใครมา เธอจึงเลือกที่จะเดินถอยออกมาที่หน้าร้านเผื่อว่าจะมองเห็นเพื่อนได้ง่ายขึ้น
“ยืนทำอะไร ทำไมไม่เข้าไปรอข้างใน” เฟญ่าที่เพิ่งมาถึงก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ
อิงรักมองเฟญ่าด้วยสายตาที่ชื่นชม เฟญ่าเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยและรวยมาก เรียกได้ว่าชีวิตดีจนน่าอิจฉายกเว้นเรื่องความรัก
“ได้ยินหรือเปล่า” เฟญ่าถามย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ
“เอ่อ… คือว่า…” เมื่อได้สติกลับมาอิงรักก็อ้ำอึ้งไม่กล้าตอบไปตามตรงว่าเธอไม่กล้าเข้าไปคนเดียว
“เข้าไปรอข้างในกัน ฉันจองโต๊ะเอาไว้แล้ว”
อิงรักพยักหน้าก่อนจะเดินตามเพื่อนรักอย่างเฟญ่าเข้าไปภายในร้านอาหารสุดหรู ไม่รู้ว่าชาตินี้เธอจะได้มีโอกาสมาทานข้าวร้านหรูๆ แบบนี้อีกหรือเปล่า ร้านอาหารแบบนี้คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องราคา บอกได้คำเดียวเลยว่าแพง!
ร้านอาหารขนาดใหญ่จัดโต๊ะเป็นโซนตามต้องการของลูกค้า วันนี้เฟญ่าได้จองโต๊ะวีไอพีอยู่ในห้องขนาดใหญ่มีความเป็นส่วนตัวสูง
นั่งรอไม่นานเพื่อนๆ ก็ทยอยมาถึงกันครบทุกคน พนักงานก็เริ่มนำอาหารออกมาเสิร์ฟ เพราะก่อนหน้านี้เฟญ่าได้เลือกเมนูและเครื่องดื่มเอาไว้รอเพื่อนๆ แล้ว จะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งรอ
“ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ไม่รู้ว่าอิงรักเป็นอะไร แต่เวลาจะได้ทานอาหารแพงๆ ทีไรท้องไส้ก็ปั่นป่วนขึ้นมาทุกที
“ห้องน้ำเดินออกไปทางซ้ายมือนะ” เฟญ่ารีบบอกทางในฐานะของคนที่รู้จักทุกอย่างภายในร้านอาหารเป็นอย่างดี
“ให้ไปเป็นเพื่อนไหม” เอวาถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรอิงไปคนเดียวได้” อิงรักยิ้มให้ก่อนจะเดินออกจากห้องและเดินไปตามทางที่เฟญ่าบอก
..
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน
หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จอิงรักก็เดินกลับไปยังห้องอาหารห้องเดิมทันทีตุบ!“โอ๊ย!” อิงรักเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเดินชนใครบางคนเข้าจนเธอเสียหลัก โชคดีที่เขาจับมือและช่วยเธอเอาไว้ทัน ไม่อย่างนั้นเธอคงล้มลงก้นกระแทกพื้นไปแล้ว“ขอโทษครับ” น้ำเสียงนุ่มนวลกล่าวขอโทษหญิงสาวทันที“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ” อิงรักส่ายหน้าตอบ ก่อนจะขอบคุณชายหนุ่มที่ช่วยเหลือเธอเอาไว้“ไม่เป็นไรครับ”ชายหนุ่มใบหน้าหล่อราวกับพระเอกที่หลุดออกมาจากนิยาย นัยตาสีน้ำตาลเข้มน่าหลงใหล จมูกโด่งเป็นสัน ผิวพรรณดีราวกับคนที่อาบน้ำวันละสิบรอบ เขาทั้งหล่อและดูดีจนอิงรักเผลอมองราวกับต้องมนต์เสน่ห์“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้ายืนนิ่งและเงียบจนเกินไป“ไม่ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” เมื่อตั้งสติได้อิงรักก็รีบตอบและขอตัวเดินออกไปทันทีปล่อยให้ชายหนุ่มยืนงงและมองตามเธอด้วยความไม่เข้าใจ ที่อยู่ๆ เธอก็เดินหนีไปแบบนี้“ทำไมหน้าคุ้นๆ จังเลยอะ” อิงรักพูดกับตัวเองระหว่างทางเดิน ในหัวก็คิดวนไปวนมาเหมือนเคยเห็น เคยเจอหน้าที่ไหนมาก่อนร่างบางหยุดและยืนนิ่งอย่างใช้ความคิดอีกครั้ง ในสมองก็ประมวล
สองปีต่อมาหลังจากที่เรียนจบปริญญาตรีอิงรักก็ได้ทำงานบริษัทตามความฝันของตัวเอง ใช้ชีวิตอยู่ในห้องพักเล็กๆ คนเดียว เช้าไปทำงานตอนเย็นก็เลิกงานกลับห้อง ชีวิตของเธอวนเวียนอยู่แบบนี้เป็นประจำเพื่อนๆ ต่างก็แยกย้ายกันไปเติบโต มีเพียงเฟญ่าที่คอยพูดคุยและโทรหากันอยู่เป็นประจำ คอยอัพเดทชีวิตกันอยู่เรื่อยๆแต่ที่น่าแปลกที่สุดก็คือตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาอิงรักเปลี่ยนที่ทำงานมาแล้วห้าบริษัท ถึงจะเปลี่ยนที่ทำงานบ่อยแต่เธอก็ไม่เคยท้อ ตกงานก็แค่หางานใหม่ทำ ตราบใดที่ยังมีชีวิต มีลมหายใจเธอก็ต้องสู้ต่อไป“พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้วนะ”หัวหน้าแผนกวัยกลางคนเดินมาบอกหญิงสาวที่โต๊ะทำงาน ทำเอาพนักงานคนอื่นๆ หันมองมาที่เธอเป็นสายตาเดียวกัน“หมายความว่ายังไงคะ”หญิงสาวใบหน้าสวยเอ่ยถามกลับด้วยท่าทางใสซื่อ พร้อมกับมองหัวหน้าแผนกด้วยความสงสัย เธอพึ่งจะมาทำงานที่นี่ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ และเธอก็ตั้งใจทำงานเป็นอย่างดี ไม่เคยขาด ไม่เคยลา หรือมาสายเลยสักครั้ง“ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ” หัวหน้าแผนกยื่นซองจดหมายสีขาวให้กับหญิงสาว“แต่ว่า…” คำถามมากมายผุดเข้ามาในหัว แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไร อีกฝ่ายก็พูดแทรกข
เช้าวันต่อมาอิงรักยืนรอเพื่อนรักมารับตามที่ตกลงกันเอาไว้ วันนี้เธอตื่นเช้ากว่าทุกวันเพื่อที่จะขนกระเป๋าของใช้และเสื้อผ้าลงมารออยู่ที่ด้านหน้าห้องพัก“มารอนานหรือยัง”เฟญ่าเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม ถึงเธอจะไม่ได้หางานตำแหน่งดีๆ ในบริษัทให้อิงรักทำ แต่ก็ถือว่าเธอได้ช่วยเพื่อนรักให้มีงานทำและเธอก็ได้พี่เลี้ยงคนใหม่ที่เธอไว้ใจมาช่วยดูแลหลานสาวอีกด้วย“ไม่นานหรอก” หญิงสาวยิ้มให้ก่อนจะยกกระเป๋าทั้งหมดที่มีเอาไว้บนรถให้เรียบร้อย“งั้นไปกันเลยนะ” เฟญ่าถามขึ้นเมื่ออิงรักเข้ามานั่งในรถข้างๆ เธอ“อื้ม” หญิงสาวพยักหน้าตอบด้วยความตื่นเต้น เธอไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อนและกลัวว่าจะทำหน้าที่พี่เลี้ยงไม่ดีพอ“ไม่ต้องคิดมากนะ น้องเฟิร์สเป็นเด็กดีแล้วก็น่ารักมาก รับรองว่าอิงกับน้องเฟิร์สเข้ากันได้ดีอย่างแน่นอน” เฟญ่าพูดอย่างอารมณ์ดี“ขอบใจมากนะเฟย์” หญิงสาวพูดด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง ไม่ว่าเธอจะลำบากหรือเดือดร้อนเฟญ่าก็คอยช่วยเหลือและอยู่ข้างๆ เธอเสมออิงรักกับเฟญ่าเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง เฟญ่าเป็นเพื่อนที่ดีและคอยช่วยเหลือเธออยู่ตลอดและการที่เธอตกลงมาเป็นพี่เลี้ยงในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งต
หลายวันต่อมาการทำหน้าที่พี่เลี้ยงดูง่ายขึ้นเมื่ออิงรักเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับน้องเฟิร์สได้เป็นอย่างดี แต่ตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมาเธอยังไม่เคยเจอพี่ชายของเฟญ่าเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นพี่ชายคนโตหรือพี่ชายคนกลางเธอก็ยังไม่เคยเจออิงรักมีหน้าที่ดูแลน้องเฟิร์สเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากนี้ เพราะแต่ละหน้าที่ก็มีแม่บ้านคนอื่นๆ คอยทำอยู่แล้วทว่าวันนี้เธอได้ยินแม่บ้านในครัวพูดคุยกันว่าจะมีเจ้านายกลับมาบ้าน แต่เธอก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นพี่ชายคนโตหรือว่าจะเป็นคุณพ่อของน้องเฟิร์สอิงรักอยู่กับน้องเฟิร์สแทบจะตลอดเวลา แต่การทำหน้าที่พี่เลี้ยงของเธอก็ไม่ได้หนักหรือยุ่งยากอะไร การใช้ชีวิตเหมือนกันแทบทุกวัน เพราะน้องเฟิร์สถูกสอนมาเป็นอย่างดี เวลาเล่น เวลาทานข้าว เวลานอน ทุกอย่างจะถูกกำหนดเอาไว้ตามตาราง ซึ่งน้องเฟิร์สก็ไม่เคยงอแงเลยสักครั้งวันเวลาผ่านเลยไปจากเช้าจนค่ำอิงรักก็พาน้องเฟิร์สนั่งระบายสีรูปภาพอยู่ที่ห้องรับแขก โดยที่เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีคนกำลังแอบมองเธออยู่“คุณฟาร์มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ” ป้าน้อยที่เป็นแม่บ้านเก่าแก่ประจำบ้านเอ่ยถามเจ้าของบ้านด้วยความสงสัย“น้องเฟ
เช้าวันต่อมาฟาร์ริกซ์ตั้งใจตื่นเช้ามาเล่นกับลูกสาว ตั้งแต่วันที่โรสรินจากไปหัวใจของเขาก็แตกสลายไม่เหลือชิ้นดี ตอนที่เธออยู่เขากลับทิ้งขว้างไม่เห็นค่า แต่พอเธอจากไปเขาก็โหยหาอยากได้เธอกลับมา แต่พอรู้ตัวทุกอย่างก็สายเกินไปถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อให้โรสรินกลับมา แต่เธอก็ยังใจแข็งไม่ยอมกลับมาอยู่ด้วยกัน อาจจะเป็นเพราะอดีตที่เลวร้ายยังคงฝังอยู่ในใจเธอไม่เคยจางหายและเปรียบเสมือนกำแพงสูงที่ปิดกั้นเขาเอาไว้แต่ยังไงฟาร์ริกซ์ก็ไม่ยอมแพ้ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้โรสรินกลับมาอยู่ด้วยกันและจะทำให้ครอบครัวอบอุ่นและสมบูรณ์แบบอีกครั้งให้ได้“ได้เวลาทานอาหารเช้าแล้วค่ะน้องเฟิร์ส” อิงรักเดินเข้ามาหาเด็กสาวที่กำลังนั่งเล่นกับคุณพ่ออยู่ภายในห้องนั่งเล่น“ฝากดูน้องเฟิร์สด้วยนะครับ” ฟาร์ริกซ์บอกพี่เลี้ยงพร้อมรอยยิ้ม“คุณพ่อจะไปไหนคะ ไม่ไปข้าวข้าวกับน้องเฟิร์สเหรอคะ” เด็กตัวเล็กหันไปถามคุณพ่อด้วยสายตาละห้อย“คุณพ่อจะไปอาบน้ำครับ” ฟาร์ริกซ์ตอบลูกสาวก่อนจะเดินแยกเข้าห้องของตัวเองชายหนุ่มไม่กล้าที่จะบอกลูกสาวไปตามตรงว่าเขานั้นมีงานด่วนที่จะต้องไปทำ ถึงแม้ว่าเขาจะพึ่งกลับมาและอยู่กับลูกสาวยังไ
หลังจากที่ทานอาหารเย็นเสร็จอิงรัก เฟญ่าและน้องเฟิร์สก็นั่งดูการ์ตูนด้วยกันอยู่ในห้องนั่งเล่น คุณน้าคนสวยก็ดูการ์ตูนไปเล่นโทรศัพท์ไปเพราะต้องคุยธุระเรื่องงาน ส่วนอิงรักก็ดูกับน้องเฟิร์สอย่างตั้งใจ เรียกได้ว่าเวลาทำงานอิงรักตั้งใจและเต็มที่มากร่างสูงสง่าอยู่ในชุดสูทสีดำสนิทหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องนั่งเล่นพร้อมกับมองสำรวจผู้คนที่อยู่ภายในห้อง เป็นเวลานานหลายเดือนแล้วที่เขาไม่ได้กลับมาที่บ้านหลังนี้ แต่ก็รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้กลับมาสายตาเฉี่ยวคมจ้องมองไปยังหญิงสาวใบหน้าเรียวสวย ตากลมโต ผมยาวสลวย ปากนิดจมูกหน่อย ดูท่าทางใสซื่อแต่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วจะใสซื่อเหมือนกับที่เขาเห็นหรือเปล่า“น้องเฟิร์ส” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียกชื่อหลานสาวตัวเล็กด้วยความคิดถึง“ลุงฟินน์!” เด็กตัวเล็กหันมองไปตามเสียงเรียกก่อนจะเรียกชื่อคุณลุงออกมาพร้อมกับวิ่งเข้าไปหาด้วยความดีใจ“น้องเฟิร์สคิดถึงลุงฟินน์มากๆ เลยค่ะ” น้องเฟิร์สกอดคุณลุงเอาไว้แน่นด้วยความคิดถึง หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายเดือน“ลุงฟินน์ก็คิดถึงน้องเฟิร์สครับ” ชายหนุ่มตอบหลานสาวน้องเฟิร์สเปรียบเสมือนความสุขของทุกคนในบ้านหลังนี้ จุดประสงค์เดีย
หนึ่งเดือนต่อมาตั้งแต่น้องเฟิร์สมีพี่เลี้ยงคนใหม่เข้ามาคอยดูแล ทุกคนภายในบ้านหลังใหญ่ก็กลับบ้านกันบ่อยขึ้น ทำให้บ้านหลังใหญ่ที่เคยเงียบเหงาดูมีสีสันขึ้นมาจนน่าแปลกใจ ซึ่งการที่น้องเฟิร์สมีความสุขมากขึ้น ทุกคนในบ้านก็มีความสุขมากขึ้นเช่นกันส่วนอิงรักก็เริ่มปรับตัวได้ หน้าที่การทำงานก็เริ่มลงตัวมากขึ้น ผู้คนที่นี่ใจดีกับเธอมากทำให้เธอมีความสุขในการทำงานอย่างเห็นได้ชัดหัวใจดวงน้อยยังคงสั่นไหวและเต้นแรงทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้พี่ชายคนโตของเพื่อนสนิทอย่างเฟญ่า ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งได้รู้จักเธอก็เริ่มควบคุมหัวใจตัวเองไม่ได้ถึงครั้งแรกที่เจอกันจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าประทับใจสำหรับเธอ แต่วันนี้ความรู้สึกของเธอได้เปลี่ยนไปแล้ว ถึงเขาจะดูนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดและดูเงียบขรึม แต่พอเวลาอยู่กับหลานสาวเขาดูใจดี พูดเก่ง ราวกับเป็นคนละคนหลายครั้งที่อิงรักต้องคอยหักห้ามใจตัวเองเวลาที่อยู่ใกล้เขา ผู้ชายที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงทุกครั้งและเขาก็เป็นคนที่ทำให้เธอรู้ว่ารักแรกเจอนั้นมีอยู่จริงอิงรักมองเด็กตัวเล็กที่นอนหลับอยู่บนเตียงกว้างด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู น้องเฟิร์สเป็นเด็กน่ารัก นับวันก็ยิ่
วันต่อมา“ทำอะไรกันอยู่เอ่ย” เฟญ่าเอ่ยถามพร้อมกับเดินเข้าไปหาน้องเฟิร์สที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับพี่เลี้ยง“น้องเฟิร์สกำลังต่อเลโก้อยู่ค่ะ” เด็กตัวเล็กตอบอย่างอารมณ์ดี“สนุกไหมคะ” เฟญ่ายังคงถามหลานสาวต่อ“สนุกค่ะ ว่าแต่วันนี้น้าเฟย์ไม่ได้ไปทำงานเหรอคะ” น้องเฟิร์สเป็นฝ่ายถามคุณน้าบ้าง เพราะปกติคุณน้าเอาแต่ทำงานจนไม่มีเวลาว่างและวันหยุดมาเล่นกับน้องเฟิร์สเลย“วันนี้วันหยุดน้าเฟย์อยู่เล่นกับน้องเฟิร์สได้ทั้งวันเลยค่ะ” เฟญ่าตอบอย่างเอาใจหลานสาวตัวเล็ก เพราะนานๆ จะมีวันหยุดและเวลามาเล่นด้วย ช่วงนี้งานที่บริษัทก็ยุ่งทำให้เธอแทบจะไม่มีเวลาให้กับใครเลย“เย้ๆ วันนี้จะมีน้าเฟย์มาเล่นด้วยแล้วค่ะพี่อิง” เด็กตัวเล็กหันไปคุยกับพี่เลี้ยงด้วยท่าทางดีใจ“วันนี้เรามาช่วยกันคิดดีกว่าว่าวันเกิดน้องเฟิร์สปีนี้จะจัดแบบไหนกันดี” เฟญ่าพูดเข้าประเด็นทันทีเพราะใกล้ถึงวันเกิดหลานสาวแล้ว เธอจะต้องรีบเตรียมจัดงานและหาของขวัญเอาไว้เซอร์ไพร์สน้องเฟิร์สด้วย“น้องเฟิร์สยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยค่ะ” เด็กตัวเล็กตอบไปตามประสาเด็ก“แต่นี่ก็ใกล้ถึงวันเกิดน้องเฟิร์สแล้วนะคะ” เฟญ่ากลัวจะซื้อของและเตรียมงานไม่ทันเพราะใกล้จะถึงวั
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงหลังจากที่ถ่ายรูปกับแขกที่มาร่วมงานเพื่อเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกเสร็จก็ถึงเวลาที่จะต้องส่งตัวเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเข้าห้องหอ ซึ่งเป็นเวลาที่ฟินนิคซ์รอคอยมากที่สุดมีญาติผู้ใหญ่และแขกเพียงไม่กี่คนที่ได้เข้ามาอวยพรในช่วงพิธีการที่สำคัญในครั้งนี้ เพราะการส่งตัวถือเป็นพิธีที่สำคัญมาก“ขอให้ทั้งสองความรักยืดยาว ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชรนะ” แขกผู้ใหญ่คนสำคัญที่มาร่วมงานก็อวยพรให้บ่าวสาวในห้องหอ“ขอบคุณครับ / ขอบคุณค่ะ” เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวต่างก็ยกมือไหว้ขอบคุณญาติผู้ใหญ่ที่สละเวลาที่มีค่ามาร่วมงานและร่วมอวยพรในงานแต่งของเขาและเธอเมื่ออวยพรเสร็จญาติผู้ใหญ่ก็เริ่มทยอยออกไป เหลือเพียงแค่คนในครอบครัวที่ยืนรออวยพรให้ทั้งสองคนอยู่“ขอให้พี่ฟินน์กับอิงรักมีความสุขมากๆ ในชีวิตคู่นะคะ” โรสรินยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่วันนี้ทั้งสองคนได้แต่งงานกันและทั้งสองยังมีส่วนร่วมที่ทำให้เธอกับฟาร์ริกซ์ได้กลับมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอีกครั้ง“ดีใจด้วยนะ ถ้าหากมีเรื่องหรือมีปัญหาอะไรเข้ามาก็ขอให้ทั้งสองคนหันหน้าคุยกันให้เข้าใจนะ” ฟาร์ริกซ์ยินดีและดีใจกับพี่ชาย“รีบมีน้องไวๆ นะคะเดี๋ยวน้องเฟิร์สจะช่ว
ห้าวันต่อมาและแล้ววันที่ใครหลายๆ คนรอคอยก็มาถึง งานแต่งถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูชื่อดังอยู่ใจกลางเมืองอย่างยิ่งใหญ่และสมฐานะ แขกในงานที่มาร่วมแสดงความยินดีต่างก็เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงกันทั้งนั้นบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยเสียงเพลงช้าๆ ที่เปิดคลอเอาไว้เบาๆ เพื่อที่จะไม่ทำให้บรรยากาศในงานนั้นดูเงียบจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้เปิดเสียงดังจนรู้สึกว่าดังรบกวนแขกในงานที่พูดคุยกัน“ขอบคุณที่มาร่วมงานนะครับ” ฟินนิคซ์เดินขอบคุณแขกที่มาร่วมงานด้วยตัวเองระหว่างที่รอเวลาเข้าสู่พิธีการของงาน“ยินดีด้วยนะครับ” หุ้นส่วนของบริษัทที่มาร่วมงานก็แสดงความยินดีกับเจ้าบ่าว“ไม่ทราบว่าจ้างบริษัทไหนมาจัดงานให้คะ สวยมากเลย” ภรรยาสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็เอ่ยถามด้วยความสนใจ“น้องสาวผมเป็นคนจัดการทุกอย่างให้หมดเลยครับ” ฟินนิคซ์ตอบด้วยความภูมิใจ เพราะนี่ไม่ใช่คนแรกที่ถามเขา ทุกคนที่มาร่วมงานต่างเอ่ยชมและพูดเป็นเสียงเดียวกัน“เก่งมากเลยนะครับ แขกในงานก็ชมใหญ่เลยว่าจัดงานได้สวยมาก” แขกในงานชมไม่หยุด ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูสวยงามไปหมด“ขอบคุณนะครับ”“ไม่ทราบว่าน้องสาวคุณฟินน์มีแพลนจะเปิดร้านออร์แกไนซ์ไหมคะ” แขกที่มาร่วมงานถึงกั
หนึ่งเดือนต่อมางานแต่งถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็วตามสไตล์ของคนใจร้อนที่ไม่อยากเสียเวลารออะไรนานๆ ทำเอาน้องสาวอย่างเฟญ่าวุ่นวายไปหมด เพราะนอกจากเธอจะต้องเตรียมชุดของตัวเองที่จะใส่วันงานแต่งของพี่ชายแล้วเธอยังต้องเป็นคนจัดการและเตรียมงานในครั้งนี้ด้วย“เลื่อนออกไปอีกสักเดือนไม่ได้เหรอคะพี่ฟินน์” เฟญ่านั่งทำหน้าเซ็งหลังจากที่ไปผสานงานกับทีมต่างๆ มาตลอดทั้งวัน บทจะช้าก็ช้าแต่พอถึงบทจะรีบก็รีบแบบไม่รอใครเลยจริงๆ“ไม่ได้ ก็บอกทุกคนไปหมดแล้วจะให้เลื่อนอะไรอีก” ฟินนิคซ์มองหน้าน้องสาวด้วยความไม่เข้าใจ หลังจากที่คุยเรื่องนี้ไปหลายรอบแล้ว แต่เฟญ่าก็ยังคงบ่นไม่หยุด“แต่เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วันเองนะคะ” เฟญ่ายังคงทำหน้าเซ็งไม่หาย ถ้าไม่ติดว่าเป็นงานแต่งของพี่ชายกับเพื่อนสนิทของเธอ เธอคงไม่ต้องมานั่งวุ่นวายทำทุกอย่างคนเดียวแบบนี้“เฟย์ก็เตรียมงานใกล้เสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มเชื่อมั่นในฝีมือของน้องสาว เพราะรู้ว่าน้องสาวเก่งเรื่องนี้ ถ้าหากว่างานนี้เฟญ่าทำออกมาได้ดี หลังเสร็จงานเขาคงต้องเปิดร้านออร์แกไนซ์ให้น้องสาวอย่างแน่นอน“ใกล้เสร็จอะไรกันคะ เฟย์เพิ่งจะคอนเฟิร์มแบบไปเอง” เฟญ่ายกมือกุมขมับด้วยท่าทา
เมื่อดอกไม้ที่สั่งมาถึงเฟญ่า น้องเฟิร์สและแม่บ้านต่างก็ช่วยกันจัดตกแต่งมุมปาร์ตี้ที่สวนหลังบ้านให้สวยงามและเหมาะกับการขอแต่งงานมากที่สุดน้องเฟิร์สทั้งดีใจและตื่นเต้นช่วยแถมยังช่วยคุณน้าคนสวยจัดดอกไม้ด้วยถึงจะทำไม่เป็นก็ตาม แต่เด็กตัวเล็กก็อยากจะช่วยส่วนฟินนิคซ์กับฟาร์ริกซ์ก็นั่งดูอยู่ไม่ห่าง ด้วยความที่เป็นผู้ชายก็เลยไม่มีความสามารถที่จะช่วยจัดดอกไม้ได้ จึงทำได้เพียงแค่นั่งดูและให้กำลังใจทุกคน“มีของมาส่งค่ะ” พี่นิดหน่อยเดินเข้ามาบอกผู้เป็นเจ้านาย“พี่ฟินน์พี่เขามาส่งแหวนแล้วค่ะ” เฟญ่าที่เห็นพนักงานที่ร้านเดินเข้ามาก็รีบตะโกนบอกทันทีเพราะเธอจำหน้าพนักงานที่ร้านเพชรได้“มาส่งแหวนใช่ไหมครับ” ฟินนิคซ์เอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง“ใช่ค่ะ” พนักงานตอบก่อนจะหยิบกล่องแหวนพร้อมใบเสร็จขึ้นมาให้ชายหนุ่มดู“เฟย์มาดูก่อน ใช่แบบที่สั่งไว้ไหม” ฟินนิคซ์ตะโกนเรียกน้องสาวให้มาดู เพราะเขาไม่รู้ว่าเธอสั่งแบบไหนและถูกต้องตามที่สั่งหรือเปล่าเฟญ่าวางงานจัดดอกไม้ตรงหน้าแล้วรีบมาตรวจดูแหวนเพชรเม็ดโตที่เธอสั่งทำพิเศษเพื่อพี่ชายกับเพื่อนรักของเธอโดยเฉพาะ“สวยมากเลยค่ะ พี่ฟินน์จ่ายเงินด้วยนะ” เฟญ่าเปิดกล่องแ
เช้าวันต่อมาวันนี้เป็นวันหยุดบ้านหลังใหญ่ก็เต็มไปด้วยความสดใสและเสียงหัวเราะจากสมาชิกในบ้านที่นานๆ ทีจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา“น้องเฟิร์สอยากให้เป็นแบบนี้ทุกวันเลยค่ะ” เด็กตัวเล็กพูดออกมาด้วยท่าทางสดใสชีวิตของน้องเฟิร์สตอนนี้กลับมาสดใสและมีความสุขอีกครั้งเมื่อคุณแม่กลับมาอยู่ที่บ้านด้วย ส่วนคุณพ่อก็กำลังจัดการเรื่องบริษัทที่กำลังจะย้ายกลับมาทำที่ประเทศไทยอย่างถาวร จะได้มีเวลาอยู่กับลูกสาวและภรรยามากขึ้นหลังจากที่น้องเฟิร์สเศร้าเรื่องที่พี่เลี้ยงอย่างอิงรักลาออก แต่ไม่นานคุณลุงฟินนิคซ์ก็ไปตามตื้อพี่เลี้ยงให้กลับมาอยู่บ้านด้วยกันเหมือนเดิมจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งปีเต็มและสมาชิกในบ้านก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น ฟาร์ริกซ์ก็มีโรสรินมาอยู่ด้วย ส่วนพี่ชายคนโตอย่างฟินนิคซ์ก็มีอิงรักมาอยู่ด้วยเช่นกัน จะเหลือก็แต่เฟญ่าที่ยังไม่มีคู่ทำให้ต้องมานั่งเหงาอยู่คนเดียว“งั้นเย็นนี้เราจัดปาร์ตี้กันดีไหมคะ” เฟญ่าถามอย่างเอาใจหลานสาว“ดีค่ะ” น้องเฟิร์สดีใจและเห็นด้วยก็รีบปรบมือรัวๆ ทันที“เมนูอะไรดีนะ” เฟญ่าถามหลานสาว“บาร์บีคิวกับไก่ทอดดีไหมคะน้าเฟย์” เด็กตัวเล็กเสนอเมนูโปรดของตัว
หนึ่งปีต่อมา“อิงขอรายชื่อลูกค้าทั้งหมดที่จะมาร่วมงานภายในวันนี้ด้วยนะคะ” หญิงสาวในชุดทำงานสุดเนี๊ยบสั่งพนักงานด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่จริงจัง“วันนี้!” หญิงสาวในตำแหน่งผู้ช่วยพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ เมื่อเจ้านายสั่งให้ทำงานสำคัญให้เสร็จภายในวันนี้“ใช่ค่ะ” อิงรักพยักหน้าตอบด้วยความมั่นใจ“แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเวลาเลิกงานแล้วนะคะ” พนักงานที่ทำหน้าที่ผู้ช่วยก็ถึงกับคิดหนักขึ้นมาทันที เมื่อเหลือเวลาทำอีกไม่นาน“แล้วยังไงคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถาม ถึงรายชื่อทั้งหมดจะมีเยอะก็จริง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แค่รวบรวมรายชื่อทั้งหมดมาให้เธอ“ได้ค่ะ” ผู้ช่วยก้มหน้าตอบเพราะไม่มีทางที่จะปฏิเสธอะไรได้ คำสั่งของเจ้านายยังไงก็ต้องทำ“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณก่อนจะก้มหน้าอ่านเอกสารที่อยู่ตรงหน้า เพื่อที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้อิงรักเข้ามาทำงานในตำแหน่งเลขาและผู้ช่วยของฟินนิคซ์ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงประธานบริษัทและเธอก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่และออกมาดีที่สุดนี่ก็ครบหนึ่งปีแล้วที่เธอมาทำงานที่บริษัทและย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของฟินนิคซ์ในฐานะแฟนอย่างเป็นทางการ นอกจาก
ฟินนิคซ์กลับบ้านมาด้วยท่าทางอารมณ์ดี เขาตั้งใจที่จะกลับมาเตรียมความพร้อมและเตรียมคำพูดที่จะพูดกับอิงรักในค่ำคืนนี้ชายหนุ่มซ้อมคำพูดกับตัวเองอยู่ในห้องเพื่อที่จะไม่ให้ใครเห็น ฟินนิคซ์พยายามหาคำพูดต่างๆ มาปรับและรวมกันให้เป็นตัวเขามากที่สุด เพื่อที่จะไม่ให้ดูเป็นทางการและกดดันอีกฝ่ายมากเกินไปเมื่อใกล้ถึงเวลาฟินนิคซ์ก็รีบอาบน้ำแต่งตัว จะได้ออกไปรับอิงรักที่คอนโด ส่วนเรื่องร้านอาหารเขาได้ให้เลขาจองโต๊ะและให้ทางร้านจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว คืนนี้ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามแผนและออกมาดีที่สุด“พี่ฟินน์!” เฟญ่าที่นั่งอยู่ที่ห้องรับแขกเมื่อเห็นพี่ชายเดินมาเธอจึงเอ่ยเรียก“มีอะไร” ชายหนุ่มก้มหน้าจัดเน็กไทอยู่รีบหันไปมองตามเสียงเรียก“จะออกไปไหนคะ” การแต่งตัวของพี่ชายเรียกความสงสัยจากเธอได้ไม่น้อย“ไปทานข้าว”“ทำไมต้องแต่งตัวเต็มขนาดนี้ด้วยคะ”“ก็แต่งตัวปกติหนิ” ฟินนิคซ์สำรวจชุดที่ตัวใส่ด้วยความมั่นใจ เพราะเขาแต่งตัวแบบนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว“เฟย์ก็นึกว่าจะไปประชุมที่ไหนซะอีก”“มันดูทางการเกินไปเหรอ” เมื่อโดนน้องสาวทักความมั่นใจที่มีก็เริ่มลดน้อยลงทันที“จะไปทานข้าวกับใครคะ”เฟญ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาอิงรักย้ายออกจากบ้านหลังใหญ่เข้าไปอยู่ที่คอนโดขนาดกลาง มีห้องต่างๆ แยกเป็นสัดส่วนและมีระบบรักษาความปลอดภัยพร้อมทั้งกล้องวงจรปิด ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยเป็นอย่างมาและการจัดตกแต่งห้องก็น่ารักตามสไตล์ที่เธอชอบซึ่งราคาห้องพักค่อนข้างแพงถ้าให้เธอเช่าอยู่ เงินทั้งหมดที่มีของเธอคงอยู่ได้ไม่ถึงครึ่งปีแน่นอน แต่โชคดีที่ฟาร์ริกซ์ซื้อพร้อมทั้งจัดตกแต่งห้องตามแบบที่เธอชอบ แถมยังให้เธอจ่ายค่าเช่าในราคาที่ถูกมากจนเธอรู้สึกเกรงใจ แต่เขาก็บอกว่าถือเป็นค่าตอบแทนที่เธอช่วยเลี้ยงและดูแลน้องเฟิร์สมาเป็นอย่างดีอิงรักรู้สึกโล่งและสบายใจมากที่ได้ย้ายออกมาอยู่คนเดียว โชคดีที่ฟินนิคซ์ไม่อยู่เธอจึงย้ายออกมาทันที ถึงจะคิดถึงและยังรักแต่วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเธอแล้วร่างบางเก็บของในห้องให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่นถูกจัดเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็ดูดสวยงามถูกใจอิงรักไปหมดตอนนี้อิงรักมีเงินเก็บเยอะพอสมควร แต่ถึงจะมีเงินเยอะแค่ไหนอิงรักก็ยังไม่สบายเมื่อความจริงแล้วเธอยังไม่ได้งานทำ ทุกอย่างเป็นเพียงแค่คำพูดโกหกเพื่อให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงเธอเท่
ตลอดทั้งวันจากเช้าจนถึงเย็นฟาร์ริกซ์พาอิงรักไปหาห้องพัก กว่าจะได้ห้องที่ปลอดภัยและราคาถูกก็ใช้เวลานานพอสมควรสุดท้ายเพื่อความปลอดภัยของอิงรัก ฟาร์ริกซ์ก็ได้ทำการเซ็นสัญญาซื้อห้องที่ปลอดภัยและเป็นห้องที่อิงรักชอบ เพื่อที่จะให้อิงรักได้ผ่อนกับเขาในราคาที่ถูกลง“ขอบคุณพี่ฟาร์มากเลยนะคะ”เมื่อกลับมาถึงบ้านอิงรักก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณชายหนุ่มใจดีที่พาเธอไปดูห้องแถมยังซื้อเอาไว้ให้เธอเช่าในราคาที่ถูกลง ซึ่งเป็นราคาที่ถูกมากๆ และเธอคงหาราคานี้ที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว“ไม่เป็นไร อย่าลืมไปบอกเฟญ่าด้วยล่ะ ห้องสวยแถมยังปลอดภัยด้วย”วันนี้ทั้งวันฟาร์ริกซ์เอาชื่อเฟญ่ามาอ้างตลอด และพูดย้ำกับอิงรักทุกครั้งว่าเฟญ่าบอกให้เอาเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก จนอิงรักต้องยอมเมื่อเป็นคำสั่งของเฟญ่า“ค่ะ” อิงรักพยักหน้าตอบ“อิงไปพักได้เลยนะ วันนี้โรสจะมานอนกับน้องเฟิร์ส” ฟาร์ริกซ์หันไปบอกหญิงสาวเมื่อวันนี้โรสรินโทรบอกเขาล่วงหน้าแล้ว“ค่ะ อิงขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวก้มหัวให้ชายหนุ่มก่อนจะเดินแยกออกไปส่วนฟาร์ริกซ์ก็ตัดสินใจไปนั่งรอพี่ชายที่ห้องทำงาน เพราะถ้ากลับมาบ้านพี่ชายจะเข้าห้องทำงานก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งวันนี้เขามีเรื