“โอ๊ย พี่อย่าเพิ่งโมโห หิวล่ะสิที่ตาลายเนี่ย ได้เบียร์เย็น ๆ สักแก้วคงจะหายตาลายนะพี่ เดี๋ยวไปนั่งตรงโน้นก่อนแล้วกัน ผมจัดที่นั่งอย่างดีพร้อมเบียร์เย็น ๆ ไว้รอรับพี่แล้ว” ว่าแล้วก็ชวนทุกคนไปนั่งตรงโซนครัวเอาท์ดอร์ที่เขาจัดโต๊ะเก้าอี้ไว้พร้อมแล้ว
ซึ่งเขาเพิ่งต่อเติมส่วนที่เป็นที่นั่งเพิ่มจากเดิม มีการมุงหลังคาต่อออกไปจากครัวเดิมที่มีเพียงพื้นที่ครัวไม่มีที่นั่ง แต่ตอนนี้เทพื้นปูนปูกระเบื้องต่อไปเป็นสถานที่ที่สามารถบรรจุคนได้ราวสิบห้าถึงยี่สิบคนทีเดียว
เขาบอกว่าเผื่อคนในครอบครัวหรือเพื่อน ๆ หรือนักท่องเที่ยวได้มาจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ซึ่งคราวนี้ก็ได้ใช้งานแล้ว ส่วนเมื่อก่อนมีเพียงแต่เขาและเพียงฤดีเท่านั้นที่นั่งรับประทานอาหารด้วยกันที่นี่เป็นบางวัน
เสียงทักทายด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองแบบผู้ชายนั้น ทำให้เพียงฤดีที่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ อดยิ้มอย่างขบขันไม่ได้ เธอเพิ่งเห็นความสัมพันธ์และการทักทายกันแบบเพื่อนร่วมงานของคีริน และเพิ่งรู้ว่าเพื่อนร่วมงานทุกคนเรียกเขาสั้น ๆ ว่า ‘คี’ เธอรีบเดินเข้าไปในบ้าน นำน้ำเข้ามาเสิร์ฟทุกคน โดยมีชายหนุ่มที่ชื่อเป้กุลีกุจอลุกขึ้นไปช่วย พอเสิร์ฟน้ำเ
เขาเริ่มเข้าทำงานที่เดียวกับเทพดนัยตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี ทำงานไปได้สองปีก็เริ่มเรียนปริญญาโทไปด้วย จนกระทั่งเรียนจบ ก็ได้เทพดนัยคอยช่วยเหลือเรื่องงานมาตลอดเมื่อเทพดนัยซึ่งทำงานมานานจนเงินเดือนสูง เริ่มถูกบีบจากผู้บริหารชุดใหม่ จนทนไหมไหวต้องลาออกจากงาน ไปเริ่มทำธุรกิจกับเพื่อน ส่วนเขากับทีมก็เริ่มระส่ำระสาย จากเคยทำงานร่วมกันมา ก็โดนปรับเปลี่ยนแยกย้ายกันไปหมดตอนนี้บางคนลาออกแล้วไปรับงานฟรีแลนซ์ บางคนก็ยังทำงานบริษัทเดิม และกำลังจะหาทางไปที่อื่น ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมานาน พอเขาเรียกให้มาคุยกัน ทุกคนต่างก็รีบมาหาทันทีคีรินส่งทุกคนเข้าห้องพักแล้วจึงลงไปข้างล่าง เห็นเพียงฤดีกำลังขนของที่เธอเก็บล้างเรียบร้อยแล้วเข้ามาเก็บในบ้าน“อ้าว ยังไม่เข้านอนอีก เดี๋ยวพี่เก็บเองก็ได้ ดึกแล้วนะ”“ไม่เป็นไรค่ะ ฤดีช่วยเก็บให้เสร็จเลยดีกว่า จะได้ไม่วางเกะกะไว้ข้างนอก เรามีแขกมาบ้านด้วย ทิ้งไว้ก็ดูไม่สะอาดตา” หญิงสาวว่า“มันหนักนะ เดี๋ยวพี่ถือเอง ของข้างนอกยังมีอีกไหม” เขาดึงถาดที่หญิงสาวใส่จานชามที่ล้างเสร็จแล้วมาถือไว้เอง“ยังต้องเก็บกวาดขวดเบ
๑๖หุ้นส่วน ในห้องประชุมบรรยากาศการประชุมมีความจริงจัง ไม่ใช่การพูดคุยสนุกสนานเหมือนกับวันแรกที่มาถึง เพียงฤดีเห็นการทำงานของทุกคน ที่พูดคุยเรื่องงานที่คีรินเพิ่งจะรับมา โดยที่คีรินมีการแจกจ่ายงานให้แต่ละคนรับผิดชอบไปตามความถนัดของตน “เอาเป็นว่างานที่ผมรับมาก็ไม่ได้ยากเกินไปใช่ไหมครับ อันนี้ผมออกแบบไว้ตามนี้ รบกวนพี่เทพกับพี่ณัฐคำนวณโครงสร้างและต้นทุนต่าง ๆ ให้ผมหน่อยนะครับ” “เอาเถอะ อาคารหอประชุมขนาดนี้ พี่ทำมาหลายอาคารแล้ว เดี๋ยวพี่ดูให้ ขอบใจนะที่ส่งงานให้พี่ เดี๋ยวเรื่องสัญญาก็ร่างส่งมาแล้วกัน ตอนนี้บริษัทพี่เริ่มอยู่ตัวแล้ว ถึงเล็ก ๆ แต่ทีมงานคุณภาพแน่นอน” เทพดนัยเอ่ยอย่างมั่นใจ&nb
“กูก็ห้าหมื่นแล้วกัน แหะ ๆ แอบเมียมาลงทุน ขืนเอาเงินออกจากบัญชีทีละเยอะเดี๋ยวเมียด่า” ณัฐพลว่า“ผมก็สักห้าหมื่นเท่าบุ๋มแล้วกันพี่ พอดีกำลังจะจัดงานแต่ง รถก็ต้องผ่อน ต้องใช้เงินเยอะ กลัวพลาด” นับหนึ่งยิ้มเก้อ ๆ“แล้วมึงล่ะไอ้เป้ มีสองร้อยก็ลงสองร้อยได้ อ้ำอึ้งอะไรอยู่ สองร้อยมึงได้ตั้งยี่สิบหุ้นนะมึง หุ้นละสิบบาท” ณัฐพลหันไปยังปรัชญา“แหมพี่ จะเร่งทำไม ผมคำนวณอยู่”“คำนวณอะไร กลัวไม่มีค่าเหล้าหรือไง”“ผมจริงจังมากพี่เรื่องนี้ ผมลงแสนห้าแล้วกันจะได้ครบ” ปรัชญาว่า“เฮ้ย มึงเอาเงินจากไหนมาตั้งแสนห้าวะ” ณัฐพลตาโต“ยืมเงินพอร์ตเกษียณมานิดหน่อยน่ะพี่ เดี๋ยวค่อยหาเงินไปคืน แต่งานนี้ผมตั้งใจจริง ๆ นะพี่ จะอยู่ช่วยพี่คีทำงานที่นี่เลย สองแรงช่วยกันเราต้องรอดใช่ไหมพี่ บอกตรง ๆ ผมไม่อยากอยู่เคว้งคว้างแบบไม่มีงานทำ เลยเอาเงินมาลงทุนทำกับพี่คีดีกว่า โอกาสรอดมีสูงกว่าทำคนเดียว” ปรัชญาว่า“พอร์ตเกษียณอะไรของมึงวะ” ณัฐพลถามอึ้ง ๆ“อ้าว ก็ผมเก็บเงินใส่บัญชีไว้ใช้ตอนแก่เป็นพอร์ตเกษียณไง บางส่วนก็เอาไปลงทุนหุ้นบ้างไรบ้าง บางส่วนก็เก็บไ
“งั้นเป้นายไปตระเวนดูสวนกับพี่ก่อน ว่าจะเริ่มวางแผนยังไงดี พี่ออกแบบไว้คร่าว ๆ แล้วละ ว่าจะสร้างรีสอร์ตยังไง บ้านแต่ละหลังจะสร้างตรงไหน เราเดินไปคุยไปก็แล้วกัน ฤดีจะไปเดินเล่นกับพี่ไหมครับ” บอกกับปรัชญาก่อนจะหันมาชวนหญิงสาวไปด้วยกัน“เอ่อ พี่คีรินไปกับพี่เป้เถอะค่ะ เดี๋ยวฤดีจะเตรียมเอกสารจดทะเบียนบริษัทให้เสร็จ พรุ่งนี้จะได้ไปจดทะเบียนให้เรียบร้อยค่ะ”“จ้ะ แต่ถ้าทำเสร็จแล้วก็ตามมานะครับ พี่พกโทรศัพท์ไปด้วย มีอะไรก็โทร. หานะ พี่เดินอยู่แถว ๆ ในไร่เรานี่แหละ ไม่ไปไหนไกลหรอก” บอกราวกับจะห่างกันนาน“ค่ะ เดี๋ยวถ้าฤดีทำเสร็จเร็วจะตามไปค่ะ”“พี่ขอบคุณมากนะครับ วันนี้ฤดีน่ารักที่สุด ช่วยงานพี่ได้ดีมาก ๆ”ว่าพลางดึงร่างเล็กมาซบอก มองตาหวานฉ่ำบอกว่า“พี่รักฤดีนะ รักมากด้วย”“เอ่อ พี่คีรินคะ” หญิงสาวปรามแก้มแดงเรื่อ ที่เขาแสดงออกและบอกรักเธอต่อหน้าปรัชญาอย่างไม่นึกเขินอายสักนิด“หืม มีอะไร” เขาเลิกคิ้วถาม“ไปเถอะค่ะ พี่เป้รออยู่ เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยบอกก็ได้” เธออ้อมแอ้มตอบ พลางดันตัวเขาออกห่าง ชายหนุ่มมองท่าทางเขินอายนั้นแล้วยิ้มอย่
“แล้วพี่ล่ะ” ถามพลางทำหน้าละห้อย “พี่คีรินก็มีพี่เป้อยู่ด้วยแล้วนี่คะ” “โอ๊ย ไม่เอา หรือฤดีไม่ชอบที่มีไอ้เป้มาอยู่ด้วย อึดอัดหรือเปล่า เดี๋ยวพี่จะได้ไล่ให้มันไปทำบ้านอยู่เอง” “ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ แต่ฤดีอยากอยู่ที่บ้านสักพัก ให้คุ้มกับที่ไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง อยากมีโมเมนต์ตื่นเช้ามาก็รดน้ำต้นไม้ข้างบ้าน ทำอาหารเช้า กินข้าวเสร็จก็ไปทำงานอะไรแบบนี้ค่ะ” “อ้อ แบบนี้นี่เอง งั้นก็ได้ แต่ตอนเช้าพี่มากินข้าวที่บ้านนี้ด้วยนะ ตอนเที่ยงกับตอนเย็นด้วย กลางคืนจะมานอนเป็นเพื่อน ที่โน่นก็เอาไว้ทำออฟฟิศอย่างเดียว” วางแผนอย่างรวดเร็ว “ให้มากินข้าวเช้า ข้าวเที่ยง ข้าวเย็นได้ค่ะ แต่กลับไปนอนบ้าน ฤดีไม่ไว้ใจ” เธอตอบแล้วยิ้มขบขัน เพราะถ้าจะอันตราย ก็ตัวเขานี่แหละที่น่าอันตรายที่สุด อีกอย่างเธอกับเขายังไม่ได้แต่งงานกัน ไม่อยากให้มารดาและน้องชายไม่ชอบใจที่เธอยัง
๑๗ชีวิตพอเพียง“พี่คี ๆ พี่คีอยู่มั้ย” “ไอ้เชี่ยเป้ มาทำไมตอนนี้วะ” คนที่กำลังหวานชื่นกับความรักอดบ่นอย่างหงุดหงิดไม่ได้“อยู่ มีอะไร” ถามเสียงห้วน พลางเดินออกไปยืนระเบียงหน้าบ้าน“อ้อ ทำอะไรกันน่ะ แหม มาขัดจังหวะหรือเปล่า พอดีผมเห็นพี่กำลังขนของกันเมื่อกี้ นึกว่ายังทางสะดวก เลยมาเรียกนี่แหละ” มองอย่างมีเลศนัย“ก็ขัดนิดหน่อย แล้วยังไงหือ มึงมีอะไรก็ว่ามา”“แหมพี่ก็ ต้องทำเสียงเข้มด้วย ผมก็แค่จะมาถามว่าที่ดินที่รก ๆ ตรงนั้น ก่อนถึงสวนยางพาราน่ะ ของพี่หรือเปล่า ผมอยากขอเช่าทำกระท่อมอยู่สักหลัง อยู่บ้านพี่นาน ๆ ผมก็เกรงใจ นี่ผมก็ยังไม่มีกำหนดจะกลับกรุงเทพฯ เลย ยังอยากอยู่ยาว ๆ อีกอย่างบ้านพี่มันสบายเกินไป อยากอยู่แบบบรรยากาศลูกทุ่ง ลูกผักเลี้ยงปลาแบบลูกผู้ชายตัวจริงงี้”ปรัชญาถามพลางชี้ไปยังที่ดินที่ต้องการ เพราะฝันมานานแล้วว่าอยากมีพื้นที่เล็ก ๆ ไว้ปลูกผักทำสวน ใข้วิถีชีวิตพอเพียงแบบที่ด
เกือบสัปดาห์แล้วที่เพียงฤดีย้ายมาอยู่ที่บ้านของตัวเอง แต่เธอก็ยังไปทำอาหารเช้าให้คีรินที่บ้านของเขา เพราะเห็นใจไม่อยากให้เขาต้องตื่นมาวุ่นวายกับการหาอาหารรับประทานเองส่วนตอนเย็นเขาจะมากินข้าวกับเธอที่บ้านหลังนี้ และกว่าจะกลับไปบ้านของตัวเองก็ดึกดื่น บางคืนก็แอบเข้าไปนอนหลับอยู่ในห้องน้องชายของเธอ เห็นท่าทางหลับสนิทเธอก็ไม่อยากปลุก จนสุดท้ายเขาก็หลับอยู่ในห้องนั้นจนสว่าง บางทีเธอก็อดขำไม่ได้ ว่าเธอมาอยู่ที่นี่ต่างกับอยู่ที่โน่นตรงไหนในเมื่อเขาก็ทำเนียนมานอนค้างที่บ้านหลังนี้ด้วยอยู่ดี เช่นเดียวกับวันนี้ที่เป็นวันหยุด เธอตื่นเช้าตั้งใจว่าจะเข้าครัวไปทำอาหารง่าย ๆ รับประทาน แล้วค่อยเอาอาหารจากบ้านของเธอไปส่งให้เขากับปรัชญาที่บ้านของเขาทว่าเปิดประตูบ้านออกมา ก็นึกแปลกใจว่าทำไมประตูไม่ได้ล็อก เพราะก่อนเข้านอนเขาส่งเธอที่หน้าห้อง แล้วบอกว่าเดี๋ยวตอนกลับจะล็อกประตูให้เอง พอเปิดออกไปก็เห็นเขานั่งดื่มกาแฟอยู่ที่เก้าอี้นั่งเล่นริมระเบียงด้วยท่าทางสดใส“พี่คีรินมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ทำไมไม่เรียกฤดีเปิดประตูให้” หญิงสาวถาม“ก็เมื่อคืนพี่ไม่ไ
“เอ่อ อ้อ นี่ นี่พี่คีรินค่ะ พี่ชายของยายนภาเพื่อนฤดีไงคะแม่ พี่คีรินคะนี่แม่ของฤดีค่ะ แล้วนี่แม็กซ์น้องชายของฤดีค่ะ” ชายหนุ่มยกมือไหว้มารดาของเธอ ก่อนจะหันไปรับไหว้นภดล มารดาของเธอย่นคิ้ว“พี่ชายหนูนภา”“ใช่ค่ะ ยายนภาที่ฤดีเคยพาไปเที่ยวที่บ้านน่ะค่ะ บ้านพี่คีรินเขาอยู่ตรงโน้นน่ะค่ะ หลังใหญ่นั่นน่ะค่ะ เขา เอ่อ เขามาขอต้นหอมกับผักชีค่ะ ที่บ้านเขาไม่มี เลยมาขอที่ฤดีปลูกไว้ค่ะ” ตอบพลางชี้ไปยังบ้านของเขา คีรินอ้าปากค้าง เขานี่หรือมาขอต้นหอมกับผักชี ชายหนุ่มก้มมองต้นหอมกับผักชีที่อยู่ในมือ“อ้อ ครับ ผม ผมมาขอต้นหอมกับผักชีครับ ที่บ้านหมดพอดี” ตอบพลางส่งยิ้มเก้อ ๆ ให้หญิงวัยกลางคนแล้วยกมือไหว้ ไม่เข้าใจว่าทำไมเพียงฤดีต้องบอกแบบนี้ แต่เขาก็ต้องเออออกับเธอไปก่อน“อุ๊ย โทรศัพท์มาพอดี” เขาล้วงหยิบสมาร์ตโฟนในกระเป๋ากางเกงที่กำลังส่งเสียงร้อง“งั้นผมขอตัวไปรับสายก่อนนะครับคุณแม่” เขาเดินห่างออกไป ปล่อยให้เธอได้อยู่กับครอบครัว ยอมรับบทเป็นคนข้างบ้านที่มาขอต้นหอมกับผักชีไปก่อน แล้วค่อยมาสารภาพผิดกับมารดาของเธอทีหลัง อีกทั้งเธออาจจะมีเรื่องส่วนตัวที่ต้องคุยกับครอ
“นายไปเถอะ ฤดีทำกับข้าวไว้แล้ว บอกแม่ว่าพรุ่งนี้จะพาฤดีไปกินข้าวด้วย” คีรินว่าพลางโอบเอวของภรรยาข้าวใหม่ปลามันเข้ามาชิด “โอเค งั้นผมไปละ โคตรหิว” ปรัชญาโบกมือลาแล้วเดินดุ่ม ๆ มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังน้อยของเพียงฤดีที่ตอนนี้เปิดไฟสว่างขึ้น คีรินและเพียงฤดีมองตามร่างสูงของปรัชญาที่เดินเข้าไปยังบ้านหลังเล็กที่อยู่ไกล ๆ เพียงฤดีมองภาพนั้นอย่างมีความสุข เพราะบ้านหลังน้อยของเธอนอกจากจะเป็นบ้านที่ให้แม่และน้องได้อยู่อย่างมีความสุขแล้วยังเป็นที่พึ่งพิงของชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ทำตัวเป็นคนโปรดของมารดาเธอได้อย่างน่าเอ็นดู แถมยังทำให้มารดามีความสุขกับการได้มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ร้อนให้ต้องกังวลใจอีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่เคยชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้เดือนไม่เคยชนเดือน ตอนนี้ท่านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทองอีก เพราะเดือนละหนึ่งหมื่นบาทที่เธอให้ ท่านแทบไม่ได้เอาไปซื้ออะไรเลย เพราะใช้เงินจากที่นภดลนำผักไปขายเอาเงินไปซื้ออาหารสด และนภดลก็เริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็ใช้ความพยายามกล่อมภรรยาจนได้กินเธออีกรอบอย่างที่ต้องการ นอนคลอเคลียด้วยกันอยู่บนที่นอนจนถึงอาหารมื้อเที่ยง ถึงได้ออกจากห้องคีรินเปิดประตูออกไปหน้าบ้าน เห็นคนงานกำลังเคลียร์สถานที่ที่ใช้จัดงาน โดยมีปรัชญาคอยดูแล“อ้าว พี่คี ออกมาได้แล้วเหรอ เมื่อคืนคงหนักสินะ” รุ่นน้องหนุ่มเอ่ยแซวพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย“แล้วมึงละ หนักเหมือนกันละสิไอ้เป้ ป่านนี้ถึงได้เพิ่งมาเก็บของ”“แหม ก็ยันเช้าอ่ะพี่ พี่ณัฐกับไอ้บุ๋มยังไม่ตื่นเลย พี่เทพพาเมียไปเดินเล่นในสวน ส่วนไอ้หนึ่งพาเมียไปออกไปซื้อของตลาดเดี๋ยวคงจะมา เห็นว่าจะกลับกันเย็นนี้” ปรัชญารายงาน“แล้วยายนภาล่ะ เมื่อคืนนอนที่ไหน”“เห็นพี่ชลพากลับไปนอนบ้านโน้น แต่รถยังอยู่ที่นี่เห็นว่าค่อยกลับมาเอาตอนจะกลับกรุงเทพฯ” ปรัชญาตอบ“อืม งั้นนายก็ทำงานไปเถอะ ฝากช่วยหน่อยนะ วันนี้เพลีย ๆ เดี๋ยวพี่ไปช่วยเมียทำกับข้าวก่อน นายก็หากินเอาเองนะ”“ไปเลยพี่ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องกินน่ะผมฝากท้องกับแม่แล้ว ผูกปิ่นโตทุกวัน เดี๋ยวก็ว่าจะย้ายของในห้องไปอยู่กระท่อมแล้วละ ส่วนพี่ก็เก็บแ
“งั้นเดี๋ยวพี่ป้อนให้” ว่าแล้วก็ดันร่างบางของหญิงสาวให้มาเผชิญหน้า เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย มือเรียวปิดหน้าอกเอาไว้ เขาเพิ่งรู้ว่ามันไม่ได้เล็กอย่างที่เขาคิด แต่ความอวบอิ่มนั้นล้นมือของเธอทีเดียว ปกติเขาจะเห็นเธอแต่งชุดเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ใส่แบบหลวม ๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับมีจนเขาต้องแอบกลืนน้ำลาย เขาเอาองุ่นใส่ปากหญิงสาวที่กำลังจะอ้าปากท้วง “อร่อยไหม” ถามด้วยดวงตามระยิบระยับ ที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา “พี่คีริน ไปอาบน้ำสิคะ ฤดีกินเองได้ค่ะ” เธอหลบสายตาหวานฉ่ำนั้นด้วยความเขินอาย พลางไล่ให้เขาไปอาบน้ำก่อน “พี่ไม่อาบคนเดียวหรอก เราต้องไปอาบกับพี่ด้วย รู้ไหมตอนตกแต่งห้องนี้ พี่แอบคิดว่าถ้าวันหนึ่งพี่แต่งงานกับฤดี ก็อยากอาบน้ำด้วยกันทุกวัน จึงได้ติดตั้งอ่างจากุชซี่ไว้ในห้องนอนด้วย” “อะไรน
๒๒วิวาห์แสนหวาน งานแต่งงานที่จัดขึ้นที่ไร่คีรินจบลงอย่างสวยงาม แม้ว่าเพื่อนเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าสาวออกอาการเขม่นกันอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ทำให้งานแต่งงานเสียบรรยากาศแต่อย่างใดส่วนเอกกมลผู้เป็นพี่ชายของเจ้าสาวนั้นพาภรรยาวัยสาวน้อยมาด้วย แต่อยู่ร่วมงานเพียงไม่นาน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ก็พาภรรยากลับไปซึ่งเพียงฤดีก็เข้าใจและเห็นใจในความลำบากใจของพี่ชาย ซึ่งรู้ว่าภรรยาของตนกับมารดานั้นไม่ค่อยลงรอยกันนัก จึงไม่ได้ว่าอะไรที่เขาไม่ได้อยู่จนจบงาน แค่เขาได้มาร่วมงาน เธอก็ดีใจมากแล้ว และเห็นว่าเอกกมลเปลี่ยนตัวเองให้ใจเย็นลงได้อย่างมากก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว “น้องฝากยายฤดีด้วยนะพี่คีริน ดูแลให้ดีนะ ไม่งั้นน้องโกรธจริง ๆ ด้วย” นภาธรว่า ขณะที่อยู่ในห้องหอของบ่าวสาวที่เพิ่งทำพิธีจบลง และหมดหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวของเธอแล้ว&nb
ปรัชญาเดินดุ่มขึ้นมาบนบ้านหลังเล็กของเพียงฤดีเมื่อเห็นคีรินนั่งอยู่หน้าบ้าน เขาเดินขึ้นระเบียง ถอดหมวกแก๊ปวางบนโต๊ะด้วยท่าทางหงุดหงิด แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าชายหนุ่มรุ่นพี่“เป็นอะไรไอ้เป้” คีรินถาม“ก็ผู้หญิงอะไรไม่รู้ หน้าตาก็ดี แต่เหมือนคนบ้า ผมจอดรถของผมอยู่ดี ๆ ก็มาเคาะกระจกเรียก ด่าผมว่าเสียมารยาทไปจอดรถตรงที่ที่เขาจองไว้แล้ว บ้าบอมาก มันตลาดนัด ใครไปถึงก็จอดก่อน ผมก็ไม่เห็นว่าเขากำลังจะเข้าจอด เห็นรถถอยออกก็เสียบเข้าไป ยังไม่ทันได้ดับเครื่องก็มาเคาะเรียก บังคับให้ผมเอารถออกทั้ง ๆ ที่ตรงอื่นก็จอดได้เยอะแยะ ผมขี้เกียจรำคาญก็เลยถอยรถออกมานี่แหละ จะแวะซื้อเป็ดตุ๋นมากินสักหน่อยเลยไม่ได้กินเลย”“เออน่า อย่าเพิ่งโมโหหิว แม่กับฤดีทำกับข้าวอยู่ น่าจะใกล้เสร็จแล้วละ เดี๋ยวก็กินด้วยกันที่นี่แหละ แล้วว่าไง ออกไปหาลูกค้าไร่พิงอรุณมาเป็นยังไงบ้าง”“ก็ดี ลุงแกก็โอเคแหละ คนแก่น่ะ ให้เราออกแบบระบบให้แล้วเสนอราคาไปก่อน เห็นบอกว่าลูกสาวที่อยู่กรุงเทพฯ อยากให้วางระบบฟาร์มอัจฉริยะไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาอยู่บ้านแล้ว”“อืม เห็นลุงแกจะขายที่ดินให
งานแต่งงานกำลังจะจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า วันนี้ทั้งประสิทธิ์ สายชล และชลธรมาช่วยเตรียมงานในไร่ตั้งแต่เช้า ไหนจะช่วยจัดเตรียมวางแผนเรื่องอาหาร การจัดสถานที่ รวมทั้งชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แม้ว่าทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะบอกว่าอยากได้งานเล็ก ๆ อบอุ่น ๆ ภายในครอบครัวแต่ในที่สุดก็ไม่สามารถจัดแบบนั้นได้ เมื่อพ่อแม่เจ้าบ่าวไม่ยอม เนื่องจากเป็นลูกชายคนแรกที่ได้แต่งงาน และไม่รู้ว่าลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็กจะมีโอกาสได้แต่งงานไหม จึงขอจัดงานให้ถูกใจพ่อแม่เจ้าบ่าวก่อน“อย่าว่าฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะแม่หทัย ฉันน่ะก็ไม่อยากให้ทุกคนเหนื่อยกันหรอก แต่ฉันก็มีลูกอยู่แค่สามคน อีกสองคนยังไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งงาน เลยขอจัดงานพ่อคีรินให้มันใหญ่หน่อย ให้พออวดเพื่อนได้ว่าฉันได้ลูกสะใภ้ดี แม่หทัยนี่สอนลูกดีจริง ๆ น่ารักน่าเอ็นดู ขยันขันแข็ง อ่อนน้อมถ่อมตน ฉันเห็นครั้งแรกก็หลงรักแล้ว” สายชลว่าพลางนั่งตรวจเช็คของชำร่วยไปพลาง ว่าจำนวนชิ้นพอกับแขกเหรื่อที่เชิญไว้หรือไม่ขณะคนที่ถูกชมกลับยิ้มเจื่อน ๆ เพราะตนเองก็ไม่ได้สอนอะไรลูกสาวมากนัก มีแต่ใช้งานหนักให้ทำโน่น
๒๑ปรับตัวเองง่ายกว่าเพียงฤดีอัดคลิปนิยายเสียงเสร็จก็เดินกลับไปที่บ้านเพื่อช่วยมารดาทำอาหารเย็น ปล่อยให้คีรินได้กลับไปทำงานของเขา ซึ่งช่วงเย็นเขาก็จะมากินข้าวที่บ้านของเธอ เนื่องจากมารดาจะทำกับข้าวไว้ให้ตั้งแต่หทัยรัตน์รู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ คีรินก็ถือโอกาสไม่กินข้าวตอนเย็นที่บ้านตัวเองอีก จะหิ้วท้องไปนั่งรอกินข้าวที่บ้านของเธอทุกเย็นมีเพียงช่วงเช้าที่เธอจะมาทำอาหารเช้าให้เขาตามปกติ โดยทำเผื่อไปถึงมื้อเที่ยงด้วย และเธอก็กินมื้อเช้ากับมื้อเที่ยงร่วมกับเขา โดยที่มารดาของเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก แต่ช่วงเย็นเธอจะกลับไปช่วยมารดาทำอาหารและรอเขาไปกินด้วยกันเมื่อไปถึงบ้านเธอเห็นนภดลกับมารดานั่งดูสมาร์ตโฟนแล้วคุยอะไรกันอยู่“ดูอะไรเหรอแม็กซ์” เพียงฤดีเดินเข้าไปถาม“ส่องเฟซบีอยู่ ทะเลาะกับพี่ท็อปแล้วโพสต์เฟซด่ากระจาย แถมกรีดข้อมือตัวเองด้วย สยองมาก”“แล้วพี่ท็อปเป็นยังไงบ้างล่ะ”“ก็คงเหนื่อยหน่อยน่ะ เมื่อกี้ผมแค่โทร. ไปจะถามว่ามางานแต่งงานพ
เสียงดังที่อยู่ในห้องนอนฝั่งตรงข้าม ทำให้คีรินต้องเงี่ยหูแนบกับประตูแล้วย่นคิ้วเบา ๆ เมื่อมีเสียงแปลก ๆ เหมือนมีคนสองสามคนอยู่ในนั้น เขาจึงตัดสินใจเคาะประตู “ฤดี ฤดี” ไม่มีเสียงตอบ แต่เขาได้ยินเสียงเดินมาเปิดประตู “มีอะไรหรือคะพี่คีริน” หญิงสาวถาม “ฤดีเข้ามาทำอะไรในนี้น่ะ แล้วเมื่อกี้พี่ได้ยินเสียงคนคุยกัน”“ไม่มีใครค่ะ ฤดีอยู่คนเดียว” เธอว่าพลางเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม เขาเดินเข้ามาในห้องนอนของเธอ กวาดตามองไปทั่วห้อง ซึ่งตอนนี้ไม่ได้มีข้าวของของเธอมากนัก เพราะขนกลับไปไว้ที่บ้านของตัวเองหมดแล้ว เขาเปิดประตูห้องน้ำดูก็ไม่มีใคร ก่อนจะหันมาถาม “เมื่อกี้พี่ได้ยินเสียงคนคุยกันจริง ๆ นะ แล้วฤดีทำอะไรน่ะ” เขาเห็นไมค์โครโฟนตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานเลยเดินเข้ามาดู
นิรานั่งมองไลฟ์สดในเพจไร่คีรินที่เธอเห็นเอกภพเปิดดู แล้วลองมาเปิดดูเองบ้าง เห็นท่าทางมีความสุขของเขาแล้วเธอถึงกับน้ำตาปรี่ลงมา เขากำลังมีความสุข ธุรกิจใหม่ก็กำลังรุ่งเรืองในขณะที่เธอสูญเสียเขาไปแล้วส่วนกิตติกรหรือกอล์ฟผู้กำกับชื่อดังซึ่งเธอเอาเงินของคีรินไปฝากลงทุนกับเขา และหวังว่าเขาจะดูแลเธอต่อจากคีรินได้เป็นอย่างดีเพราะมีฐานะดีกว่า และสามารถส่งเสริมอาชีพของเธอได้ แต่ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงที่ลำบากเพราะแม้คีรินจะไม่เอาเรื่อง แต่ก็มีคดีความที่ยังต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะเป็นคดีแชร์ลูกโซ่ออนไลน์ชื่อดัง จึงมีการฟ้องร้องของคู่กรณีคนอื่น ๆอีกทั้งเมื่อเธอมาลองคบกับดนุวัฒน์ไฮโซชื่อดัง ก็กลับกลายเป็นว่าคุณสมบัติของเธอไม่เพียงพอที่จะเป็นสะใภ้ผู้ดีเก่าในสายตามารดาของเขา ความหวังที่จะขึ้นไปอยู่บนที่สูงตกวูบลงมาทันใดตอนนี้มีเพียงบริษัทผลิตละครสั้นเล็ก ๆ ที่เธอขอให้คีรินลงทุนให้เท่านั้น ที่เป็นหลักให้กับชีวิต แต่พอเขาออกไป แฟนคลับของเขาก็ติดตามเขาไปด้วย จนตอนนี้ช่องของเธอมียอดวิวน้อยลงมาก รายได้ก็ลดน้อยลงตาม เอานักแสดงใหม่เข้ามาแทนเขา ก็เข้ากับทีมงานไ