เกือบสัปดาห์แล้วที่เพียงฤดีย้ายมาอยู่ที่บ้านของตัวเอง แต่เธอก็ยังไปทำอาหารเช้าให้คีรินที่บ้านของเขา เพราะเห็นใจไม่อยากให้เขาต้องตื่นมาวุ่นวายกับการหาอาหารรับประทานเอง
ส่วนตอนเย็นเขาจะมากินข้าวกับเธอที่บ้านหลังนี้ และกว่าจะกลับไปบ้านของตัวเองก็ดึกดื่น บางคืนก็แอบเข้าไปนอนหลับอยู่ในห้องน้องชายของเธอ เห็นท่าทางหลับสนิทเธอก็ไม่อยากปลุก จนสุดท้ายเขาก็หลับอยู่ในห้องนั้นจนสว่าง บางทีเธอก็อดขำไม่ได้ ว่าเธอมาอยู่ที่นี่ต่างกับอยู่ที่โน่นตรงไหน
ในเมื่อเขาก็ทำเนียนมานอนค้างที่บ้านหลังนี้ด้วยอยู่ดี เช่นเดียวกับวันนี้ที่เป็นวันหยุด เธอตื่นเช้าตั้งใจว่าจะเข้าครัวไปทำอาหารง่าย ๆ รับประทาน แล้วค่อยเอาอาหารจากบ้านของเธอไปส่งให้เขากับปรัชญาที่บ้านของเขา
ทว่าเปิดประตูบ้านออกมา ก็นึกแปลกใจว่าทำไมประตูไม่ได้ล็อก เพราะก่อนเข้านอนเขาส่งเธอที่หน้าห้อง แล้วบอกว่าเดี๋ยวตอนกลับจะล็อกประตูให้เอง พอเปิดออกไปก็เห็นเขานั่งดื่มกาแฟอยู่ที่เก้าอี้นั่งเล่นริมระเบียงด้วยท่าทางสดใส
“พี่คีรินมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ทำไมไม่เรียกฤดีเปิดประตูให้” หญิงสาวถาม
“ก็เมื่อคืนพี่ไม่ไ
“เอ่อ อ้อ นี่ นี่พี่คีรินค่ะ พี่ชายของยายนภาเพื่อนฤดีไงคะแม่ พี่คีรินคะนี่แม่ของฤดีค่ะ แล้วนี่แม็กซ์น้องชายของฤดีค่ะ” ชายหนุ่มยกมือไหว้มารดาของเธอ ก่อนจะหันไปรับไหว้นภดล มารดาของเธอย่นคิ้ว“พี่ชายหนูนภา”“ใช่ค่ะ ยายนภาที่ฤดีเคยพาไปเที่ยวที่บ้านน่ะค่ะ บ้านพี่คีรินเขาอยู่ตรงโน้นน่ะค่ะ หลังใหญ่นั่นน่ะค่ะ เขา เอ่อ เขามาขอต้นหอมกับผักชีค่ะ ที่บ้านเขาไม่มี เลยมาขอที่ฤดีปลูกไว้ค่ะ” ตอบพลางชี้ไปยังบ้านของเขา คีรินอ้าปากค้าง เขานี่หรือมาขอต้นหอมกับผักชี ชายหนุ่มก้มมองต้นหอมกับผักชีที่อยู่ในมือ“อ้อ ครับ ผม ผมมาขอต้นหอมกับผักชีครับ ที่บ้านหมดพอดี” ตอบพลางส่งยิ้มเก้อ ๆ ให้หญิงวัยกลางคนแล้วยกมือไหว้ ไม่เข้าใจว่าทำไมเพียงฤดีต้องบอกแบบนี้ แต่เขาก็ต้องเออออกับเธอไปก่อน“อุ๊ย โทรศัพท์มาพอดี” เขาล้วงหยิบสมาร์ตโฟนในกระเป๋ากางเกงที่กำลังส่งเสียงร้อง“งั้นผมขอตัวไปรับสายก่อนนะครับคุณแม่” เขาเดินห่างออกไป ปล่อยให้เธอได้อยู่กับครอบครัว ยอมรับบทเป็นคนข้างบ้านที่มาขอต้นหอมกับผักชีไปก่อน แล้วค่อยมาสารภาพผิดกับมารดาของเธอทีหลัง อีกทั้งเธออาจจะมีเรื่องส่วนตัวที่ต้องคุยกับครอ
เมื่อผ่านบ้านของเพียงฤดีจึงชะเง้อคอมอง แต่หญิงสาวแอบโบกมือให้เขาเดินผ่านไปก่อน เขาจึงทำได้เพียงทำหน้ามุ่ยใส่แล้วเดินผ่านไปเพียงฤดีอมยิ้ม ก่อนจะหันไปมองมารดา ที่กำลังชะเง้อมองรอบ ๆ บ้านของเธอ แล้วถามว่า“นี่มันบ้านของแกจริง ๆ เหรอ ฤดี” ท่าทางของท่านดูเหมือนไม่อยากเชื่อว่ามันเป็นความจริง“จริงสิคะแม่ เดี๋ยวแม่เข้าไปข้างในก่อนนะคะ ฤดีจะเอาทะเบียนบ้านกับโฉนดให้ดูค่ะ ตอนนี้เรามีบ้านของตัวเองแล้วนะคะแม่” หญิงสาวกุลีกุจอพามารดาเข้าไปในบ้าน แล้วเข้าไปเอาโฉนดที่ดิน กับทะเบียนบ้านมาให้ดู“แม่ดูสิคะ นี่ฤดีแต่งบ้านไว้รอแม่มาอยู่ด้วยเลยนะคะ”หทัยรัตน์มองชื่อในทะเบียนบ้านและโฉนดที่ดินที่เป็นชื่อของลูกสาวแล้วเงยหน้ามองเพดานไม้สีทองที่ติดโคมไฟคริสตัลระย้าไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งเพียงฤดีซื้อมาจากร้านขายวัสดุก่อสร้างตอนลดราคา จึงได้มาในราคาไม่แพงมากนักซึ่งเมื่อแสงไฟสะท้อนกับฝ้าเพดานไม้สีน้ำตาลทองเงาวับก็ดูหรูหราเหมือนราคาแพง หทัยรัตน์นั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทางอ่อนเพลีย ขณะที่นภดลเดินเข้ามาในบ้านแล้วกวาดตามองบ้านหลังใหม่อย่างทึ่ง ๆ“สวยมากเลยนะครับ พี่ฤดีเก่งจั
“ค่ะ พี่คีริน เขาเป็นเจ้าของที่ดินแปลงโน้น ที่มองเห็นจากห้องนอนแม่น่ะค่ะ ส่วนที่ดินฝั่งนี้เป็นของยายนภา แต่พี่คีรินจะให้พี่เป้ที่เป็นหุ้นส่วนของเขามาทำบ้านตรงนั้นค่ะ เพราะเห็นว่ายายนภาไม่ได้กลับมาทำประโยชน์ก็เลยให้พี่เป้อยู่ไปก่อน วันนี้ก็เลยเอารถมาไถ พวกเขาใจดีทั้งครอบครัวเลยค่ะ ใครลำบากมาก็ช่วยเหลือ ถ้ายายนภาไม่แบ่งขายที่ดินแปลงนี้ให้ฤดี ป่านนี้ฤดียังไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหนเลยค่ะ พี่คีรินกับยายนภาดีกับฤดีมาก รวมทั้งพ่อแม่และพี่ชายอีกคนของเขาด้วยค่ะ” เพียงฤดีเริ่มต้นเล่าให้มารดาฟัง“อืม” หทัยรัตน์พยักหน้าเบา ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร เธอจึงเล่าต่อ“ตอนฤดีมาอยู่ที่นี่ รอบข้างรกเป็นป่าเลยค่ะ พี่คีรินก็เพิ่งมาอยู่พร้อม ๆ กับฤดีนี่แหละค่ะ ยายนภาฝากให้ฤดีอยู่บ้านพี่คีรินไปก่อนระหว่างที่ยังหาเงินสร้างบ้านไม่ได้ ฤดีเลยช่วยงานพี่คีรินในสวน ช่วยซ่อมบ้าน ช่วยขายผลไม้ ช่วยเพาะพันธุ์ต้นไม้ขาย เขาก็ให้ค่าแรงเลยได้มีรายได้พอส่งให้แม่กับแม็กซ์ พี่คีรินเห็นว่าฤดีช่วยงานหนักมากเพราะอยากหาเงินสร้างบ้านเป็นของตัวเอง ไร่พี่คีรินมีสวนป่า คุณปู่เขาปลูกไม้ไว้เยอะมาก เขาเลยตัดไม้มาให้ฤดีมาท
๑๘เป็นคนโรแมนติก “พี่คีรินคะ มาดูนี่สิคะ” เสียงตื่นเต้นดังขึ้น ขณะที่คีรินกำลังนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ เขาเห็นเพียงฤดีโผล่หน้ามาแล้วยิ้มระรื่น วันนี้เธอมาทำงานแต่เช้าตามปกติ โต๊ะทำงานของเธออยู่ในห้องเดียวกับเขา เพราะนอกจากบัญชีแล้วเธอทำหน้าที่เลขานุการด้วย รับบทเป็นพนักงานคนเดียวที่ทำเกือบทุกตำแหน่งในบริษัทเลยก็ว่าได้ซึ่งหากธุรกิจเติบโตกว่านี้แน่นอนว่าเขาคงต้องรับพนักงานมาเพิ่มอีกหลายคน แต่ในตอนนี้มีเพียงเขา ปรัชญาและเพียงฤดีเท่านั้นที่ทำงานเป็นหลักอยู่ในออฟฟิศ ส่วนที่เหลือก็ใช้บริการฟรีแลนซ์ บ้างก็ใช้งานเอาท์ซอสตามความเหมาะสมของงานแต่ละชิ้น ทำให้ไม่ต้องจ้างพนักงานจำนวนมากมาประจำที่ออฟฟิศ แต่ในตอนนี้เขาก็เริ่มรับสมัครช่างไฟมาช่วยงานด้านทำระบบพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น เพราะมีลูกค้าติดต่อเข้ามามากขึ้นจากการบอกกันปากต่อปาก“มีอะไรหืม คิดถึงจัง” ถามพลางบอกคิดถึงแล้วดึงมือเรียวไปหอมเบา ๆ เพราะเมื่อวานเขาไม่ได้อยู่กับ
นิรานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เปิดดูช่องละครสั้นที่เพิ่งลงคลิปล่าสุดแล้วไล่อ่านคอมเมนต์ ซึ่งปกติเธอจะไม่สนใจคอมเมนต์เท่าไรนัก เนื่องจากมีทั้งคำชื่นชมและด่าทอแบบเกรียนคีบอร์ดบ้างอยู่เป็นประจำ จนกลายเป็นความเคยชินแต่ที่ต้องมาดูวันนี้ก็เพราะยอดค่าโฆษณาที่ได้รับจากยูทูปต่ำลงเรื่อย ๆ และของเดือนนี้ต่ำกว่าปกติ เธอจึงต้องตรวจเช็คว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมละครสั้นที่มียอดวิวหลักหลายแสนจนถึงหลักล้านในบางคลิปที่ผ่านมา ปัจจุบันยอดถึงน้อยลงทุกวัน ทั้ง ๆ ที่เธอรีบถ่ายแล้วลงคลิปใหม่แทบจะทุกวันอยู่แล้ว แต่กลับไม่ช่วยให้ดีขึ้นเลยที่ผ่านมาเธอคิดว่าว่าอาจจะเกิดจากมีช่องละครสั้นเกิดขึ้นใหม่หลายช่อง ซึ่งอาจจะดึงยอดคนดูไปจำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่เคยน้อยลงขนาดนี้ เธออ่านข้อความคอมเมนต์ไปพลางคิดหาเหตุผลของยอดวิวที่น้อยลงไปพลาง“พี่คีรินหายไปนานจังค่ะ”“เมื่อไหร่พี่คีรินจะมาเล่นต่อคะ”“นักแสดงคนนี้เล่นแข็งมากค่ะ”“คิดถึงพี่คีแล้วค่ะ หายไปนานจัง ชอบคู่รติกับพี่คีเล่นด้วยกัน เมื่อไหร่จะได้เล่นคู่กันอีกคะ”“มุกเล่นกับไมค์เคมีไม่เข้ากันเลย”“บทตอนนี้ห่ว
ร่วมสองสัปดาห์แล้วที่มารดากับน้องชายมาอยู่กับเพียงฤดีที่บ้าน พวกเขาเริ่มคุ้นเคยกับที่นี่ แต่เพียงฤดีก็ยังไม่ได้แนะนำให้มารดารู้จักคีรินในฐานะคนรักสักที แม้ว่าเขาจะอ้อนวอนให้เธอเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอให้ครอบครัวรู้สักที แต่หญิงสาวก็ยังไม่ยอม เธอให้เหตุผลว่าอยากให้มารดาอยู่ที่นี่จนคุ้นเคยไปสักระยะก่อนเขารู้ว่าเธอมีปมในใจจึงยังไม่กล้าไว้ใจ แม้จะยอมเป็นแฟนแล้วก็ยังกลัวว่าเขาจะกลับไปคืนดีกับแฟนเก่าเหมือนผู้ชายคนเก่าที่มาจีบเธอ จึงไม่อยากให้มารดารู้ในตอนนี้ เผื่อว่าหากนิรากลับมาหาเขา เธอจะไม่ถูกมารดาตำหนิ ว่ายุ่งเกี่ยวกับคนรักของคนอื่นวันนี้เธอมาทำงานที่ออฟฟิศของคีรินตามปกติ ชายหนุ่มลุกเดินมาที่โต๊ะทำงานของเธอหลังจากที่เขานั่งทำงานอย่างเงียบ ๆ ที่โต๊ะของตัวเองมาทั้งวัน เขาชะโงกหน้ามองว่าเธอทำอะไรอยู่ ก่อนจะโอบไหล่บางอย่างที่เคยทำ เอ่ยว่า“เดี๋ยวพี่ออกไปดูไซด์งานแถวนี้หน่อยนะครับ เพื่อนพี่ชลอยากทำบ้าน เขาให้พี่ช่วยออกแบบให้ พี่ต้องไปดูพื้นที่สักหน่อย ฤดีจะไปกับพี่ไหม”หญิงสาวหันมองเขาแล้วส่ายหน้าเอ่ยว่า“ฤดีตัดคลิปอยู่ค่ะ เด
คีรินตัวชาวูบที่เห็นรถและทะเบียนรถที่เขาคุ้นเคยกับมันดี เพราะจ่ายเงินซื้อมันมาด้วยตัวเอง เขาไม่คิดว่าจะได้เห็นมันอีกแล้ว แต่ตอนนี้มันมาจอดอยู่ตรงหน้า หัวใจเขาแทบหล่นไปอยู่ตาตุ่ม เมื่อนึกถึงผู้หญิงอีกคน“นิรามา แย่แล้ว ฤดีล่ะ” เขาพึมพำแล้วรีบลงจากรถทันที เขารู้พิษรักแรงหึงของนิราดี ตอนเขาทำงานกับเธอ หากมีนักแสดงหญิงคนไหนที่ทำทีมาสนใจเขา เธอจะอาละวาดจนทำงานต่อไม่ได้อีกเลย แล้วตอนนี้เพียงฤดีจะเป็นอย่างไรบ้างเขาเปิดประตูพรวดเข้าไปในบ้าน แล้วมองหาทั่วห้องโถงเห็นเพียงกระเป๋าใบหรูที่วางไว้บนโซฟา ก่อนจะเดินไปยังห้องรับประทานอาหาร เห็นนิรานั่งอยู่ ตรงหน้าของเธอมีอาหารที่ทำเสร็จไว้แล้ว“ทานข้าวกันค่ะคี ขอโทษนะคะ ที่นิมาโดยไม่ได้บอก นิแค่อยากจะมาเซอร์ไพรส์คีเท่านั้นเองค่ะ” เธอส่งยิ้มหวานหยดมาให้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงเข้าไปกอดอย่างดีใจ แต่ในเวลานี้เขารู้สึกขยะแขยงร่างสวยที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ภาพที่เห็นในคลิปมันไม่ได้ทำให้เขาลืมลงได้ง่าย ๆ เลย“ฤดีไปไหน” เขาถามทันทีที่เธอพูดจบ นิรานิ่งไปนิด“ฤดี ใครคะ อ้อ แม่บ้านที่คุณจ้างม
๑๙ลูกฉันเป็นคนดี คีรินเดินวุ่นวนอยู่ในห้องนอนของตัวเอง เขาจะทำอย่างไรดีกับสภาพที่เป็นอยู่ ถ้าเขาอยู่ที่นี่เพียงฤดีต้องเข้าใจผิดว่าเขานอนกับนิราเป็นแน่ เพราะจะมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย เขาจะให้คืนนี้ผ่านไปโดยที่เขาไม่ทำอะไรไม่ได้ ชายหนุ่มหยิบหมอนและผ้าห่มออกไปจากห้อง เดินดุ่ม ๆ ไปยังบ้านของเพียงฤดี อย่างไรเขาจะให้เธอคิดว่านิรานอนอยู่กับเขาทั้งคืนไม่ได้นิราที่ยืนอยู่บนระเบียงชั้นสอง มองตามคีรินที่กำลังเดินไปยังบ้านหลังเล็ก เธอคิดว่านั่นอาจจะเป็นบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยวอีกหลังหนึ่ง ที่คีรินสร้างไว้ และเขาอาจจะหลบไปพักที่นั่น เพราะกลัวว่าเพียงฤดีจะเข้าใจผิดว่าเขานอนกับเธอเป็นแน่ นิรายืนมองจนกระทั่งเห็นคีรินเข้าไปถึงหน้าบ้านหลังนั้น เธอเห็นเขายืนคุยกับใครบางคน คีรินเดินไปถึงหน้าบ้าน เขาเห็นปรัชญาเดิน
“นายไปเถอะ ฤดีทำกับข้าวไว้แล้ว บอกแม่ว่าพรุ่งนี้จะพาฤดีไปกินข้าวด้วย” คีรินว่าพลางโอบเอวของภรรยาข้าวใหม่ปลามันเข้ามาชิด “โอเค งั้นผมไปละ โคตรหิว” ปรัชญาโบกมือลาแล้วเดินดุ่ม ๆ มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังน้อยของเพียงฤดีที่ตอนนี้เปิดไฟสว่างขึ้น คีรินและเพียงฤดีมองตามร่างสูงของปรัชญาที่เดินเข้าไปยังบ้านหลังเล็กที่อยู่ไกล ๆ เพียงฤดีมองภาพนั้นอย่างมีความสุข เพราะบ้านหลังน้อยของเธอนอกจากจะเป็นบ้านที่ให้แม่และน้องได้อยู่อย่างมีความสุขแล้วยังเป็นที่พึ่งพิงของชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ทำตัวเป็นคนโปรดของมารดาเธอได้อย่างน่าเอ็นดู แถมยังทำให้มารดามีความสุขกับการได้มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ร้อนให้ต้องกังวลใจอีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่เคยชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้เดือนไม่เคยชนเดือน ตอนนี้ท่านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทองอีก เพราะเดือนละหนึ่งหมื่นบาทที่เธอให้ ท่านแทบไม่ได้เอาไปซื้ออะไรเลย เพราะใช้เงินจากที่นภดลนำผักไปขายเอาเงินไปซื้ออาหารสด และนภดลก็เริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็ใช้ความพยายามกล่อมภรรยาจนได้กินเธออีกรอบอย่างที่ต้องการ นอนคลอเคลียด้วยกันอยู่บนที่นอนจนถึงอาหารมื้อเที่ยง ถึงได้ออกจากห้องคีรินเปิดประตูออกไปหน้าบ้าน เห็นคนงานกำลังเคลียร์สถานที่ที่ใช้จัดงาน โดยมีปรัชญาคอยดูแล“อ้าว พี่คี ออกมาได้แล้วเหรอ เมื่อคืนคงหนักสินะ” รุ่นน้องหนุ่มเอ่ยแซวพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย“แล้วมึงละ หนักเหมือนกันละสิไอ้เป้ ป่านนี้ถึงได้เพิ่งมาเก็บของ”“แหม ก็ยันเช้าอ่ะพี่ พี่ณัฐกับไอ้บุ๋มยังไม่ตื่นเลย พี่เทพพาเมียไปเดินเล่นในสวน ส่วนไอ้หนึ่งพาเมียไปออกไปซื้อของตลาดเดี๋ยวคงจะมา เห็นว่าจะกลับกันเย็นนี้” ปรัชญารายงาน“แล้วยายนภาล่ะ เมื่อคืนนอนที่ไหน”“เห็นพี่ชลพากลับไปนอนบ้านโน้น แต่รถยังอยู่ที่นี่เห็นว่าค่อยกลับมาเอาตอนจะกลับกรุงเทพฯ” ปรัชญาตอบ“อืม งั้นนายก็ทำงานไปเถอะ ฝากช่วยหน่อยนะ วันนี้เพลีย ๆ เดี๋ยวพี่ไปช่วยเมียทำกับข้าวก่อน นายก็หากินเอาเองนะ”“ไปเลยพี่ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องกินน่ะผมฝากท้องกับแม่แล้ว ผูกปิ่นโตทุกวัน เดี๋ยวก็ว่าจะย้ายของในห้องไปอยู่กระท่อมแล้วละ ส่วนพี่ก็เก็บแ
“งั้นเดี๋ยวพี่ป้อนให้” ว่าแล้วก็ดันร่างบางของหญิงสาวให้มาเผชิญหน้า เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย มือเรียวปิดหน้าอกเอาไว้ เขาเพิ่งรู้ว่ามันไม่ได้เล็กอย่างที่เขาคิด แต่ความอวบอิ่มนั้นล้นมือของเธอทีเดียว ปกติเขาจะเห็นเธอแต่งชุดเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ใส่แบบหลวม ๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับมีจนเขาต้องแอบกลืนน้ำลาย เขาเอาองุ่นใส่ปากหญิงสาวที่กำลังจะอ้าปากท้วง “อร่อยไหม” ถามด้วยดวงตามระยิบระยับ ที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา “พี่คีริน ไปอาบน้ำสิคะ ฤดีกินเองได้ค่ะ” เธอหลบสายตาหวานฉ่ำนั้นด้วยความเขินอาย พลางไล่ให้เขาไปอาบน้ำก่อน “พี่ไม่อาบคนเดียวหรอก เราต้องไปอาบกับพี่ด้วย รู้ไหมตอนตกแต่งห้องนี้ พี่แอบคิดว่าถ้าวันหนึ่งพี่แต่งงานกับฤดี ก็อยากอาบน้ำด้วยกันทุกวัน จึงได้ติดตั้งอ่างจากุชซี่ไว้ในห้องนอนด้วย” “อะไรน
๒๒วิวาห์แสนหวาน งานแต่งงานที่จัดขึ้นที่ไร่คีรินจบลงอย่างสวยงาม แม้ว่าเพื่อนเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าสาวออกอาการเขม่นกันอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ทำให้งานแต่งงานเสียบรรยากาศแต่อย่างใดส่วนเอกกมลผู้เป็นพี่ชายของเจ้าสาวนั้นพาภรรยาวัยสาวน้อยมาด้วย แต่อยู่ร่วมงานเพียงไม่นาน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ก็พาภรรยากลับไปซึ่งเพียงฤดีก็เข้าใจและเห็นใจในความลำบากใจของพี่ชาย ซึ่งรู้ว่าภรรยาของตนกับมารดานั้นไม่ค่อยลงรอยกันนัก จึงไม่ได้ว่าอะไรที่เขาไม่ได้อยู่จนจบงาน แค่เขาได้มาร่วมงาน เธอก็ดีใจมากแล้ว และเห็นว่าเอกกมลเปลี่ยนตัวเองให้ใจเย็นลงได้อย่างมากก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว “น้องฝากยายฤดีด้วยนะพี่คีริน ดูแลให้ดีนะ ไม่งั้นน้องโกรธจริง ๆ ด้วย” นภาธรว่า ขณะที่อยู่ในห้องหอของบ่าวสาวที่เพิ่งทำพิธีจบลง และหมดหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวของเธอแล้ว&nb
ปรัชญาเดินดุ่มขึ้นมาบนบ้านหลังเล็กของเพียงฤดีเมื่อเห็นคีรินนั่งอยู่หน้าบ้าน เขาเดินขึ้นระเบียง ถอดหมวกแก๊ปวางบนโต๊ะด้วยท่าทางหงุดหงิด แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าชายหนุ่มรุ่นพี่“เป็นอะไรไอ้เป้” คีรินถาม“ก็ผู้หญิงอะไรไม่รู้ หน้าตาก็ดี แต่เหมือนคนบ้า ผมจอดรถของผมอยู่ดี ๆ ก็มาเคาะกระจกเรียก ด่าผมว่าเสียมารยาทไปจอดรถตรงที่ที่เขาจองไว้แล้ว บ้าบอมาก มันตลาดนัด ใครไปถึงก็จอดก่อน ผมก็ไม่เห็นว่าเขากำลังจะเข้าจอด เห็นรถถอยออกก็เสียบเข้าไป ยังไม่ทันได้ดับเครื่องก็มาเคาะเรียก บังคับให้ผมเอารถออกทั้ง ๆ ที่ตรงอื่นก็จอดได้เยอะแยะ ผมขี้เกียจรำคาญก็เลยถอยรถออกมานี่แหละ จะแวะซื้อเป็ดตุ๋นมากินสักหน่อยเลยไม่ได้กินเลย”“เออน่า อย่าเพิ่งโมโหหิว แม่กับฤดีทำกับข้าวอยู่ น่าจะใกล้เสร็จแล้วละ เดี๋ยวก็กินด้วยกันที่นี่แหละ แล้วว่าไง ออกไปหาลูกค้าไร่พิงอรุณมาเป็นยังไงบ้าง”“ก็ดี ลุงแกก็โอเคแหละ คนแก่น่ะ ให้เราออกแบบระบบให้แล้วเสนอราคาไปก่อน เห็นบอกว่าลูกสาวที่อยู่กรุงเทพฯ อยากให้วางระบบฟาร์มอัจฉริยะไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาอยู่บ้านแล้ว”“อืม เห็นลุงแกจะขายที่ดินให
งานแต่งงานกำลังจะจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า วันนี้ทั้งประสิทธิ์ สายชล และชลธรมาช่วยเตรียมงานในไร่ตั้งแต่เช้า ไหนจะช่วยจัดเตรียมวางแผนเรื่องอาหาร การจัดสถานที่ รวมทั้งชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แม้ว่าทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะบอกว่าอยากได้งานเล็ก ๆ อบอุ่น ๆ ภายในครอบครัวแต่ในที่สุดก็ไม่สามารถจัดแบบนั้นได้ เมื่อพ่อแม่เจ้าบ่าวไม่ยอม เนื่องจากเป็นลูกชายคนแรกที่ได้แต่งงาน และไม่รู้ว่าลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็กจะมีโอกาสได้แต่งงานไหม จึงขอจัดงานให้ถูกใจพ่อแม่เจ้าบ่าวก่อน“อย่าว่าฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะแม่หทัย ฉันน่ะก็ไม่อยากให้ทุกคนเหนื่อยกันหรอก แต่ฉันก็มีลูกอยู่แค่สามคน อีกสองคนยังไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งงาน เลยขอจัดงานพ่อคีรินให้มันใหญ่หน่อย ให้พออวดเพื่อนได้ว่าฉันได้ลูกสะใภ้ดี แม่หทัยนี่สอนลูกดีจริง ๆ น่ารักน่าเอ็นดู ขยันขันแข็ง อ่อนน้อมถ่อมตน ฉันเห็นครั้งแรกก็หลงรักแล้ว” สายชลว่าพลางนั่งตรวจเช็คของชำร่วยไปพลาง ว่าจำนวนชิ้นพอกับแขกเหรื่อที่เชิญไว้หรือไม่ขณะคนที่ถูกชมกลับยิ้มเจื่อน ๆ เพราะตนเองก็ไม่ได้สอนอะไรลูกสาวมากนัก มีแต่ใช้งานหนักให้ทำโน่น
๒๑ปรับตัวเองง่ายกว่าเพียงฤดีอัดคลิปนิยายเสียงเสร็จก็เดินกลับไปที่บ้านเพื่อช่วยมารดาทำอาหารเย็น ปล่อยให้คีรินได้กลับไปทำงานของเขา ซึ่งช่วงเย็นเขาก็จะมากินข้าวที่บ้านของเธอ เนื่องจากมารดาจะทำกับข้าวไว้ให้ตั้งแต่หทัยรัตน์รู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ คีรินก็ถือโอกาสไม่กินข้าวตอนเย็นที่บ้านตัวเองอีก จะหิ้วท้องไปนั่งรอกินข้าวที่บ้านของเธอทุกเย็นมีเพียงช่วงเช้าที่เธอจะมาทำอาหารเช้าให้เขาตามปกติ โดยทำเผื่อไปถึงมื้อเที่ยงด้วย และเธอก็กินมื้อเช้ากับมื้อเที่ยงร่วมกับเขา โดยที่มารดาของเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก แต่ช่วงเย็นเธอจะกลับไปช่วยมารดาทำอาหารและรอเขาไปกินด้วยกันเมื่อไปถึงบ้านเธอเห็นนภดลกับมารดานั่งดูสมาร์ตโฟนแล้วคุยอะไรกันอยู่“ดูอะไรเหรอแม็กซ์” เพียงฤดีเดินเข้าไปถาม“ส่องเฟซบีอยู่ ทะเลาะกับพี่ท็อปแล้วโพสต์เฟซด่ากระจาย แถมกรีดข้อมือตัวเองด้วย สยองมาก”“แล้วพี่ท็อปเป็นยังไงบ้างล่ะ”“ก็คงเหนื่อยหน่อยน่ะ เมื่อกี้ผมแค่โทร. ไปจะถามว่ามางานแต่งงานพ
เสียงดังที่อยู่ในห้องนอนฝั่งตรงข้าม ทำให้คีรินต้องเงี่ยหูแนบกับประตูแล้วย่นคิ้วเบา ๆ เมื่อมีเสียงแปลก ๆ เหมือนมีคนสองสามคนอยู่ในนั้น เขาจึงตัดสินใจเคาะประตู “ฤดี ฤดี” ไม่มีเสียงตอบ แต่เขาได้ยินเสียงเดินมาเปิดประตู “มีอะไรหรือคะพี่คีริน” หญิงสาวถาม “ฤดีเข้ามาทำอะไรในนี้น่ะ แล้วเมื่อกี้พี่ได้ยินเสียงคนคุยกัน”“ไม่มีใครค่ะ ฤดีอยู่คนเดียว” เธอว่าพลางเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม เขาเดินเข้ามาในห้องนอนของเธอ กวาดตามองไปทั่วห้อง ซึ่งตอนนี้ไม่ได้มีข้าวของของเธอมากนัก เพราะขนกลับไปไว้ที่บ้านของตัวเองหมดแล้ว เขาเปิดประตูห้องน้ำดูก็ไม่มีใคร ก่อนจะหันมาถาม “เมื่อกี้พี่ได้ยินเสียงคนคุยกันจริง ๆ นะ แล้วฤดีทำอะไรน่ะ” เขาเห็นไมค์โครโฟนตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานเลยเดินเข้ามาดู
นิรานั่งมองไลฟ์สดในเพจไร่คีรินที่เธอเห็นเอกภพเปิดดู แล้วลองมาเปิดดูเองบ้าง เห็นท่าทางมีความสุขของเขาแล้วเธอถึงกับน้ำตาปรี่ลงมา เขากำลังมีความสุข ธุรกิจใหม่ก็กำลังรุ่งเรืองในขณะที่เธอสูญเสียเขาไปแล้วส่วนกิตติกรหรือกอล์ฟผู้กำกับชื่อดังซึ่งเธอเอาเงินของคีรินไปฝากลงทุนกับเขา และหวังว่าเขาจะดูแลเธอต่อจากคีรินได้เป็นอย่างดีเพราะมีฐานะดีกว่า และสามารถส่งเสริมอาชีพของเธอได้ แต่ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงที่ลำบากเพราะแม้คีรินจะไม่เอาเรื่อง แต่ก็มีคดีความที่ยังต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะเป็นคดีแชร์ลูกโซ่ออนไลน์ชื่อดัง จึงมีการฟ้องร้องของคู่กรณีคนอื่น ๆอีกทั้งเมื่อเธอมาลองคบกับดนุวัฒน์ไฮโซชื่อดัง ก็กลับกลายเป็นว่าคุณสมบัติของเธอไม่เพียงพอที่จะเป็นสะใภ้ผู้ดีเก่าในสายตามารดาของเขา ความหวังที่จะขึ้นไปอยู่บนที่สูงตกวูบลงมาทันใดตอนนี้มีเพียงบริษัทผลิตละครสั้นเล็ก ๆ ที่เธอขอให้คีรินลงทุนให้เท่านั้น ที่เป็นหลักให้กับชีวิต แต่พอเขาออกไป แฟนคลับของเขาก็ติดตามเขาไปด้วย จนตอนนี้ช่องของเธอมียอดวิวน้อยลงมาก รายได้ก็ลดน้อยลงตาม เอานักแสดงใหม่เข้ามาแทนเขา ก็เข้ากับทีมงานไ