เจย์อึ้งมองเด็กหนุ่มด้วยสายตางงงันเด็กหนุ่มตอบว่า “เรื่องมันสะเทือนใจน่ะครับ”เจย์หลุบตาลง ‘เขาก็แค่หวั่นไหวกับเรื่องนี่เอง’เหตุการณ์อุบัติเหตุของเขาก็เกิดขึ้นผ่านไปกว่าสามปีแล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงแทบไม่มีร่องรอยอะไรหลงเหลืออยู่แต่เจย์ก็ยังมุ่งมั่นที่จะค้นหาบริเวณที่มาริลินชี้บอก เพราะหวังว่าอาจจะยังได้เจออะไรที่ไม่คาดฝันบริเวณนั้นเป็นเขาแห้งแล้วและมีโขดหินอยู่ทั่วยกเว้นถนนที่ตัดผ่าน ตรงจุดนั้นก็มีทั้งพุ่มไม้ กอหนาม ต้นไม้แล้วกอไม้น้อยใหญ่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ การที่หาเศษซากที่ยังหลงเหลือจากเรื่องเมื่อสามปีก่อนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆและท้ายที่สุดความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่นเด็กหนุ่มเป็นคนเดินไปเหยียบเจอสร้อยคอในพงหญ้า… สร้อยคอรูปกะโหลกเขาชูสร้อยคอขึ้นขณะที่เซร่าแค่นเสียงเยาะ “เจ้านั่นดูเหมือนของที่ขายอยู่ตามถนนเลย คนอย่างนายท่านอาเรสไม่มีทางใส่ของที่ดูเด็ก ๆ แล้วก็ราคาถูกแบบนั้นหรอก”เด็กหนุ่มกำสร้อยไว้ในมือแน่น “ผมชอบมันนะ”เจย์อึ้งไป แต่เขาก็ไม่เห็นว่าสร้อยคอรูปกะโหลกนี้จะเกี่ยวข้องอะไรกับเขา ดังนั้นคำตอบที่เขามีทันใดก็คือการยกให้เด็กหนุ่ม “ถ้าเธอชอบก็เอาไปเ
เจย์และเซร่าต่างก็มองเด็กหนุ่ม เซร่าแค่นเสียงบอกว่า “ก็แค่สร้อยคอหินเพทายไม่ใช่เหรอ? ถ้านายชอบมากนัก เดี๋ยวฉันเอาให้สักกอง”เด็กหนุ่มยังคงเมินเธอและตั้งหน้าตั้งตาขัดสร้อยคอจนดูเงาเหมือนใหม่เซร่ามองสร้อยคอแวววาวนั้นแล้วรู้สึกตะลึงไป สร้อยเส้นนั้นถูกฝังอยู่ในดินมานานสามปีแต่ยังส่องประกายให้เห็นสีสันสดใส ซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่จริงมันเป็นของที่มีราคาเด็กหนุ่มถือสร้อยคือไว้ในมือแล้วจู่ ๆ ก็ดึงมือเจย์ไปก่อนวางสร้อยลงในมือเจย์และกล่าวว่า “เก็บไว้ให้ผมหน่อย”เจย์งงงันไปเล็กน้อยเซร่ามองเด็กหนุ่มแสนประหลาดนี้อย่างระแวงสงสัย “นี่ นายมาจากที่ไหนกัน? แล้วนายชื่ออะไร?”เขายังคงไม่สนใจเธอเอนตัวลงพิงเบาะเช่นเดิม พร้อมหลับตาพักผ่อนเจย์มองสร้อยคอรูปกะโหลกในมือ แววตางุนงงสงสัยของเขาเปลี่ยนเป็นแปลกใจเมื่อเขาได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้นมาในหัวว่า “แองเจลีน เธอห้ามตายนะ ฉันไม่ยอมให้เธอตาย เธอบอกว่าจะอยู่กับฉันตลอดไปไง…”รูม่านตาของเจย์เบิกกว้างนั่นมันเสียงของเขาเองชัด ๆเสียงที่โศกเศร้าและพร่าอย่างสิ้นหวัง รวมกับการข่มขู่ที่ฟังราวจวนเจียนจะขาดใจนี้เป็นของเขาแน่ ๆ ฉากนั้นปรากฏขึ้นมาอย่างแจ่มชัดร
”โรสทั้งไม่สวยและไม่ฉลาดแต่ผมก็ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็นงั้นเหรอ?” เจย์ขมวดคิ้วและพินิจพิเคราะห์คำพูดของคุณนายลอยล์คุณนายลอยล์ไม่คิดว่าเจย์จะมองเงื่อนงำเล็ก ๆ พวกนี้ออกปรุโปร่ง เธอรีบพยายามเปลี่ยนคำพูดของตนเอง “ฉันก็ไม่รู้ว่าคุณรักเธอจริงไหม แต่ฉันรู้ว่าคุณแต่งงานกับเธอจริง ๆ ฉันยังมีวิดีโอจากงานแต่งของพวกคุณอยู่เลย”ดูเหมือนว่าเธอได้เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะทันทีที่เธอพูดจบคุณนายลอยล์ก็หยิบรีโมทขึ้นมาแล้วกดเปิดทีวี ภาพวิดีโอของงานแต่งงานเจย์และโรสก็ปรากฏขึ้นบนจอทันใดภาพนั้นเห็นได้ว่าบนใบหน้าเจย์ไม่มีรอยยิ้มเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าเขาจะเป็นเจ้าบ่าว ทั้งร่างของเขาดูเย็นชาไร้อารมณ์ราวกับก้อนน้ำแข็ง ในขณะที่โรสผู้เป็นเจ้าสาวดูยิ้มแย้มสดใสเพราะว่าเธอมีความสุขมากเจย์ถามพวกเขา “เธอเป็นเจ้าสาวที่ผมเลือกจริง ๆ เหรอ?”โรสนั้นมีใบหน้าที่ดูธรรมดาสามัญซึ่งไม่อาจเรียกได้ว่างดงาม เขามองเธอแล้วก็ไม่รู้สักอะไรเลยสักนิดเจย์มั่นใจว่าเขาไม่มีทางแต่งงานกับเธอด้วยความตั้งใจของตัวเองเป็นแน่การแต่งงานนี้ต้องเกิดขึ้นมาเพราะสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่ความรักแน่นอนคุณนายลอยล์และคนอื่น ๆ ต่างก็ไม่รู้ว่
แม้ว่าจะเป็นเพียงการคาดเดาแต่ว่าเงื่อนงำพวกนี้ก็พอดีเหมาะเจาะกับเรื่องราวที่ขาดหายไปซึ่งเขาตามหาคำตอบอยู่ แต่เจย์ก็ยังลังเลที่จะยอมรับข้อสรุปพวกนี้มากกว่าใครมือของเด็กหนุ่มที่ซุกอยู่ในกระเป๋ากำเป็นหมัดแน่นซิดนีย์นั้นเหมือนเป็นดารานำ ขณะที่คุณนายลอยล์และเซร่าต่างก็ช่วยสนับสนุนคำพูดเธอ เพื่อให้แผนใส่ร้ายแองเจลีนดำเนินต่อไปจนจบคุณนายลอยล์เริ่มบีบน้ำตาด้วยสีหน้าท่าทางเสแสร้งขณะที่พูดว่า “แองเจลีน เซเวียร์คนนั้นเป็นตัวร้ายแท้ ๆ เลย เธอทั้งเอาแต่ใจแล้วก็ชอบกดข่มคนอื่น ถ้าหากว่าเธอชอบคุณจริง ๆ โรสของเราไม่มีทางคิดฝันว่าจะไปเป็นคู่แข่งผู้หญิงคนนั้นได้หรอก แล้วเธอก็ต้องปล่อยมือจากคุณแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นเธอคงไม่ต้องมาตายแถมหาร่างไม่เจอแบบนี้แน่”เซร่าตีหน้าเห็นอกเห็นใจมีเมตตาและปลอบคุณนายลอยล์ “อย่าเพิ่งหมดหวังสิคะ คุณลอยล์ก็แค่หายตัวไปเท่านั้น ตราบใดที่เรายังหาร่างเธอไม่เจอก็จะรีบสรุปว่าเธอตายแล้วไม่ได้หรอก”ซิดนีย์มีท่าทีขัดเคือง “แต่มันตั้งสี่ปีเต็มแล้ว น้องสาวฉันหายไปสี่ปีแล้วนะ ถ้าเธอไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรเลวร้ายทำไมเธอถึงไม่กลับมาบ้านล่ะ?”เจย์รู้สึกเหมือนหูจะระเบิดและสีหน้าของเขาก็
เซร่าและซิดนีย์มองกันด้วยสีหน้าตื่นตระหนก แต่พวกเธอก็กลับมานิ่งสงบได้อย่างรวดเร็วเพราะคิดว่าอย่างไรเสียเด็กหนุ่มก็ไม่มีทางรู้ความจริงเจย์จ้องมองเด็กหนุ่มเขม็ง “นายบอกว่าพวกเขาโกหก แสดงว่านายมีหลักฐานใช่ไหม?”ซิดนีย์เยาะและบอกว่า “เจย์คะ เขาก็เป็นแค่เด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้า เขาจะมารู้เรื่องระหว่างคุณกับโรสได้ยังไงกัน?”เจย์มองเด็กหนุ่มผู้ที่จู่ ๆ ก็เงียบไป ริมฝีปากเซ็กซี่ของเขาโค้งเป็นรอยยิ้นหยันตัวเองเขาอยากที่จะหาข้อตัวให้กับแองเจลีนแทบขาดใจ แม้ว่าจะมีช่องทางเพียงเล็กน้อยเขาก็ไม่รีบคว้าไว้แล้วก็คาดหวังเต็มที่ตอนที่เจย์เกือบจะเชื่อแล้วว่าเด็กหนุ่มนั้นก็แค่เพียงอยากจะสร้างเรื่องป่วนเท่านั้น เด็กคนนั้นก็พูดต่อว่า “มันเป็นความจริงที่ว่าโรส ลอยล์เป็นคนโง่เง่า แล้วก็เป็นเรื่องจริงที่คุณแต่งงานกับโรสลอยล์ แต่ว่า…”เด็กหนุ่มหยุดพูดเซร่าคิดว่าเด็กคนนี้ไม่ได้มีข้อมูลอะไรที่มีน้ำหนัก เธอรู้สึกว่าเขาก็แค่มาป่วนสร้างปัญหาเท่านัั้น ดังนั้นเธอจึงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ไอ้หนู อย่าเข้ามาพูดแทรกเลย ถ้าพูดออกมาให้ดังชัดถ้อยชัดคำไม่ได้”เจย์ตวาดเซร่าอย่างฉุนเฉียว “หุบปากเธอไปซะ”เซร่ารู้สึก
หลังหยุดไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดต่อว่า “นั่นคือร่างของโรส แต่วิญญาณของแองเจลีน”ใบหน้าหล่อเหลาของเจย์ฉายแววสับสนเล็กน้อย “นายหมายถึง… แองเจลีนย้ายเข้ามาอยู่ในร่างโรสเหรอ?”เด็กหนุ่มพยักหน้า “เพราะแบบนั้นโรสที่เป็นคนโง่ทึ่มถึงได้กลายมาเป็นแฮกเกอร์มือฉมังได้”เซร่าปรบมือแล้วหัวเราะเยาะเขา “ทฤษฎีของเธอมันน่าสนใจนะเจ้าหนู ฉันคิดว่านายน่าจะอ่านนิยายแฟนตาซีมากเกินไปหน่อย ถึงได้มีความคิดพิลึกพิลั่นแบบนี้ แต่นายก็พลาดเรื่องนี้ไปหลายจุด แองเจลีนไม่ได้ตายในอุบัติเหตุแล้วโรสเองก็ไม่ได้ตาย ทั้งสองคนเคยมาให้เราเห็นทั้งคู่”เด็กหนุ่มถามต่อ “แล้วคุณเคยเห็นเขาทั้งสองคนปรากฏตัวพร้อมกันบ้างไหม?”เซร่าตอบคำถามนี้ของเขาไม่ได้เด็กหนุ่มพูดต่อ “ช่วงเจ็ดปีแรกหลังเกิดอุบัติเหตุ เธอก็เป็นโรส ลอยล์ ส่วนห้าปีหลังเธอก็เป็นแองเจลีน เซเวียร์”เจย์รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาก่อนที่จะถาม “แล้วนายรู้ได้ยังไง?”“หลังจากที่โรสทำลายใบหน้าของเธอไป เธอก็จ้างหมอศัลยกรรมให้ทำหน้าของเธอให้เป็นใบหน้าของแองเจลีน”เด็กหนุ่มสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้อย่างชัดเจนแต่ว่าเรื่องที่สมบูรณ์นี้กลับดูมีความแฟนตาซีเหนือจริง แล้วก็ฟังดูไม่
เมื่อเจย์และเจนสันเดินออกมาจากวิลล่า ซิดนีย์และเซร่าก็รีบตามออกมาโดยทั้งสองต่างก็มีเจตนาแอบแฝงซิดนียบอก “เจย์คะ เรื่องการย้ายวิญญาณแล้วก็มาเกิดใหม่ในโลกอะไรนี่ มันเป็นเรื่องตลกชัด ๆ”เซร่าเสริม “เจนสันยังเด็กอยู่ เขาก็เลยใสซื่อแล้วก็เชื่อเรื่องแปลกประหลาดทุกอย่างถ้าแองเจลีนล้างสมองเขาด้วยเจตนาที่ชั่วร้ายอย่างนั้น คุณจะถือคำพูดของเจนสันเป็นจริงเป็นจังไม่ได้นะ”เจย์กัดฟันกรอดก่อนตะคอก “ผมไม่รู้ว่าเจนสันโกหกผมไหม แต่ที่ผมรู้ก็คือพวกคุณโกหกผมแน่นอน พวกคุณใส่ร้ายแองเจลีนว่าทำร้ายลูกชายของผม เพราะฉะนั้นไสหัวไปซะ”ทั้งเซร่าและซิดนีย์ต่างก็ตัวสั่นด้วยความกลัวเมื่อเจอพายุอารมณ์รุนแรงที่ก่อเกิดจากโทสะของเขาซิดนีย์พูดตะกุกตะกัก “เจนส์กลับมาแล้วก็จริง แต่ว่าร็อบบี้น้อยล่ะอยู่ไหน?”เจย์หยุดชะงัก… ด้วยเหตุผลบางอย่า่ง เขารู้สึกว่าไม่สบายใจอย่างมากเมื่อได้ยินชื่อของร็อบบี้น้อยเซร่ารีบคว้าโอกาสแล้วใส่สีใส่ไข่เพื่อให้เรื่องไปใหญ่โต “ทั้งแองเจลีนและโคลต่างก็เป็นคนอันตราย เจย์คะ พวกเขานำหายนะมาให้ตระกูลอาเรสซึ่งนี่เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ บางทีการหายตัวไปของร็อบบี้น้อยอาจจะเกี่ยวข้องกับโคล ยอ
รถเกราะยังคงเผาไหม้อยู่ท่ามกลางกองไฟจนรถร้อนระอุเจย์และเทมเพสต่างก็ไม่สามารถที่จะบังคับพวงมาลัยรถได้อีกต่อไป ในที่สุดรถเกราะก็เสียการควบคุมและหลุดออกมาจากกองเพลิงพวกเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมรถ แต่มันก็เป็นความคิดลม ๆ แล้ง ๆ จากที่ฟากของเขาเพราะทันใดนั้นเองก็มีเสียงปืนดังขึ้นมาจากทางเบื้องหลัง กระสุนกระทบนอกตัวรถ ทำให้เกิดเสียงดังสนั่น โชคดีที่กระจกของรถนั้นกันกระสุน ดังนั้นกระสุนส่วนมากก็กระทบกระจกรถแต่เจาะเข้ามาไม่ได้ตอนนั้นเองก็มีชายใส่สูทสีขาวถือปืนสไนเปอร์โผล่มาจากด้านหลัง กระสุนจากปืนที่ชายคนนั้นยิงสามารถเจาะเกราะของตัวรถได้…เมื่อเห็นว่ากระสุนกำลังจะยิงถูกเจย์ เทมเพสก็พุ่งเอาร่างของตนเข้ามาบังกระสุนไว้แม้เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเขาโดนยิง แต่เทมเพสก็ยังคงยิ้มกว้าง “ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ นายท่านอาเรส ผมใส่เสื้อกันกระสุนอยู่เจย์จับเทมเพสที่กำลังจะหมดสติไว้แล้วสั่งเขาว่า “ห้ามตายนะเทมเพส นายต้องมีชีวิตอยู่ต่อนะ”เจย์เองก็บาดเจ็บเช่นกันจากการโดนกระแทกนับครั้งไม่ถ้วนและนอนกองอยู่บนพื้นรถเกราะ ตอนที่เขากำลังเฉียดตาย จู่ ๆ เขาก็รู้สึกตื่นตระหนก“ฉันเริ่มที่จะเสียใจแล้ว เทม