“โรแอนด์...”เขาเรียกชื่อของเธอในตลอดเวลาที่เราเริ่มทำเรื่องเช่นนั้น เอสวาแปลกไปและแตกต่างจากเอสวาแสนอ่อนโยนที่เธอรู้จัก เขาลุกขึ้นก่อนที่จับเธอให้ลุกขึ้นจากโซฟาที่เรานอนอยู่เอสวาจับให้โรแอนด์หันหลัง มือของเธอจับเข้าที่พนักพิงของโซฟา บั้นท้ายงอนงามแอ่นขึ้นเล็กน้อยเขาจุมพิตลงไปที่แนวกระดูกสันหลังของเธอ“โรแอนด์ ท่านี้คงทำให้เจ้าเจ็บน้อยลง..”ไหนว่าไม่เคยทำมาก่อนแล้วไปเรียนรู้ท่าทางมากมายพวกนี้มาจากไหนกันนะ เธอก่นด่าเขาในใจแต่ทว่าก็ยินยอมให้เขาได้โอบกอดและทำตามที่เขาต้องการได้มากเท่าที่เขาสามารถทำได้เอสวาใช้ส่วนหัวถูที่กลางรอยแยกจนชื้นแฉะ เขาจับใบหน้าของเธอให้หันหลังกลับมาเพื่อรับจุมพิตจากเขาอย่างเอาแต่ใจ ดวงตาถูกตรึงเอาไว้ด้วยกัน คลื่นอารมณ์ต่างๆ ที่แล่นริ้วพาดผ่านใบหน้าก็สามารถมองเห็นได้ทั้งหมด เสียงลามกคลอครางในลำคอเมื่อเขาขยับเอวเพื่อให้ส่วนนั้นถุูไถไปตามร่องเนื้อ“โรแอนด์..ชอบรึเปล่า”ยามที่กดแทรกแก่นกายเข้าไป ช่องทางก็เยิ้มลื่นเสียแล้วทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มันเข้าไปยากเย็นมากด้วยซ้ำ“ชอบสิ..ชอบมากที่สุดเลย แล้ว..ท่านล่ะคะ ชอบมันรึ..เปล่า?”เท้าของเธอพลันเขย่งลอย ส้นเท้าไม่ติดพื้น
โรแอนด์มองเห็นความเจ็บปวดผ่านสายตาของเฟอน่า.เพราะแบบนั้นสินะ เพราะว่าในครั้งอดีต คนรักของเฟอน่าคือบาทหลวงเพราะแบบนั้นนางถึงได้..เตือนเธอให้ระแวดระวังบาทหลวงและโบสถ์เอาไว้ไม่ใช่ว่าโรแอนด์จะไม่สนใจคำกล่าวของเฟอน่าหรอกนะ แต่เพราะว่าเธอเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน และเอสวาไม่มีทางทำร้ายเธออย่างแน่นอน“ครั้งหนึ่งข้าเคยเป็นซักคิวบัสมือใหม่เหมือนกันกับเจ้า ข้าไร้ประสบการณ์และ..อ่อนต่อโลกมากทีเดียว..”เฟอน่าได้พบเจอกับเพื่อนที่เป็นซักคิวบัสด้วยกัน พวกเรามิได้มีสายเลือดเดียวกันเนื่องจากซักคิวบัสไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แต่เพราะพื้นเพของพวกเรานั้นคือปีศาจเหมือนกันๆ เพราะแบบนั้นเราจึงนับถือกันเป็นครอบครัวลิเดียคือเพื่อนสนิทของเฟอน่า นางให้คำแนะนำมากมายให้แก่เธอ ทั้งเรื่องการกลืนกินความฝันและเรื่องการใช้ชีวิต“เจ้าลองใช้ชีวิตดูสิเฟอน่า ไหนนี่ก็เป็นครั้งแรกเพราะแบบนั้นเจ้าลองใช้หัวใจนำทางดูสิ..”ใช้หัวใจนำทางอย่างนั้นหรือ? คราแรกเธอก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่เมื่อเธอพบเจอกับบาทหลวงผู้หนึ่ง..เขาทำให้เธอรู้สึกสะดุดสายตามากทีเดียว หัวใจของเธอสั่นไหวและเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อา
ถึงจะตอบออกไปเช่นนั้นแต่ทว่าฉันอยากจะครอบครองเขาเอาไว้เพียงผู้เดียวเท่านั้น อยากกุมมือคู่นี้ไปในทุกวัน อยากจะ..โอบกอดเขาเอาไว้ในทุกครั้งที่หลับตาลง หากว่ามันเป็นไปไม่ได้ฉันก็อยากจะตายไปพร้อมกันกับเขา ให้ผืนดินฝังกลบใบหน้านี้โดยที่มือของเราทั้งคู่ยังคงกอบกุมกันเอาไว้อยู่แต่ทำแบบนั้นแล้วยังมีประโยชน์อะไรกัน เขาแหลกสลายส่วนฉันไร้ความสุข สู้ปล่อยให้ต่างคนต่างไป ปล่อยให้เขาได้อุทิศทุกอย่างให้แก่พระเจ้าตามเดิมนั้นดีแล้วเอสวาก้มลงหอมหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา ความอ่อนโยนในสัมผัสนั้นทำให้โรแอนด์รู้สึกอบอุ่นได้ถึงด้านในของหัวใจนี่แหละเอสวา ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็ทำให้เธอลุ่มหลงได้ตลอดอยู่แล้ว“เจ้าเป็นปีศาจที่งดงามและใจดีมากที่สุดเท่าที่ข้ารู้จักเลย”โรแอนด์ส่งยิ้มให้แก่เอสวา คงเป็นเพราะว่าเธอพึ่งจะตายจากการเป็นมนุษย์ ในความรู้สึกหลายๆ อย่างของโรแอนด์ หัวใจและความเปราะบางของอารมณ์เธอยังคงเป็นมนุษย์อยู่“ไปกับข้านะ..ไปที่เมืองหลวงกับข้า”เธอเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาด้วยแววตาที่สั่นไหว“ไม่ค่ะ ข้าจะไม่ไปที่นั่น ข้าจะอยู่ที่นี่ที่บ้านหลังนี้ของท่าน”ชั่วขณะหนึ่งโรแอนด์คิดว่าเธอมองเห็นความเจ็บปวดในสายต
โรแอนด์ไม่รู้เหมือนกันว่านี่คือคำชมหรือว่าคำด่ากันแน่ แต่ถึงอย่างนั้นในเมื่อมาลิคสัญญาเอาไว้ว่าเขาจะไม่ทำร้ายหรือว่าขับไล่ไสส่งเธอออกไป เช่นนั้นการอยู่ที่นี่ก็อาจจะดีมากกว่าก็ได้ เธอจะรอคอยจนกว่าเอสวาจะกลับมา..แค่สองเดือนเอง คงไม่ถึงตายหรอกมั้ง เพราะครั้งล่าสุดที่เราทำเรื่องเช่นนั้นกัน..มันเพิ่มพลังชีวิตให้เธออยู่ได้อีกร้อยปีเลยละมั้ง..เอสวาไม่ยินยอมผละร่างกายของเขาออกไปจากร่างกายของเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียว ไม่ต้องเข้าไปในฝันให้ยุ่งยากอีกต่อไป..เมื่อเราสามารถทำเรื่องเช่นนั้นได้มาเท่าที่ใจต้องการ“แต่เจ้าก็ต้องรับปากด้วยว่าจะไม่ทำเรื่องต่ำช้ากับบาทหลวงคนอื่นๆ ที่นี่”โรแอนด์พยักหน้า“หากไม่ใช่ท่านเอสวา..ข้าก็ไม่ต้องการใครทั้งนั้นเหมือนกัน”คำกล่าวที่หนักแน่นของโรแอนด์เป็นดั่งคำสาบานที่เธอเอ่ยออกมาเพื่อปฏิญาณตน มาลิคพ่นลมหายใจออกมายาวเหยียด“เช่นนั้นก็ไปดูแลสวนที่ด้านหลังได้แล้ว นี่คือค่าจ้างของเจ้าในเดือนนี้ ท่านแคนนอนบอกให้ข้าเอามาให้เจ้าก่อน..”ค่าจ้างงั้นเหรอ? โรแอนด์ยื่นมือไปรับพร้อมกับรอยยิ้มที่ผลิบานเหมือนกับกลีบดอกไม้“ขอบคุณนะคะ”เธอมีเงินเป็นของตัวเองแล้ว ถึงแม้ว่าก่อนจากไปเอส
“เพราะแบบนั้นเจ้าก็เลยทำงานที่โบสถ์อย่างนั้นหรือ?”เฟอน่าเอ่ยถามออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง แต่โรแอนด์กลับพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม“เฟอน่าข้ายืนยันได้เลยว่าทั้งบาทหลวงและท่านคาดินันที่โบสถ์เป็นคนดี บางทีคนที่ทำร้ายเจ้า..อาจจะตายไปแล้วก็ได้..”เฟอน่าตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ“เขาไม่ตายหรอก เมื่อได้ขึ้นเป็นคาดินันจะได้รับพร..หนึ่งในพรที่ได้รับคือการได้อายุขัยที่ยาวนานนับร้อยปี ข้าเตือนเจ้าไปแล้วมิใช่หรือโรแอนด์ ว่าให้เจ้าออกมาให้ห่างจากโบสถ์และพวกนักบวช แต่นี่เจ้ากลับเข้าไปอยู่ที่นั่นเพื่อทำงาน มันฟังขึ้นซะที่ไหนกัน..เจ้าจะตายอย่างแน่นอนหากไม่รีบออกมาจากที่นั่น..”น้ำเสียงของเฟอน่าตื่นตระหนกจนเกินเหตุ แต่นั่นไม่ได้ทำให้โรแอนด์รู้สึกหวาดกลัวเลย เธอสัญญาเอาไว้กับเอสวาแล้วว่าจะรอเขา เพราะแบบนั้นเธอจึงตั้งหน้าตั้งตารอเขาด้วยหัวใจที่ทั้งมั่นคงและมั่นใจ“เจ้าวางใจได้เลย เพราะว่าข้าจะไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน ไม่ต้องเป็นห่วงไปเฟอน่า”รอยยิ้มที่ไร้เดียงสาและหัวใจที่เชื่อมั่นของโรแอนด์นั้นมันเหมือนกันกับเธอไม่มีผิดเลย..เธอเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าแต่ทว่าก็ได้รับการทรยศหักหลังกลับมา ใครเตือนก็ไม่ฟัง
“ให้เจ้าเห็นภาพที่ไม่น่าดูซะแล้ว กำหนดการที่จะแต่งตั้งนั้นเอาเป็นอีกสองสัปดาห์เลยดีหรือไม่ หลังจากนั้นเจ้าก็อยู่ที่นี่เพื่อรับใช้ข้าเป็นการส่วนตัว แน่นอนว่าเรื่องเงินนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะจ่ายให้ตามความเหมาะสม..เลยล่ะ”พระสันตะปาปากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา แต่ในสายตาของเอสวาแล้ว..เขาไม่สามารถมองชายผู้นี้ด้วยสายตาเทิดทูนบูชาได้เลย“ขออภัยด้วยครับท่านผู้นำศาสนา แต่ทว่าข้าไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้..ข้าอยากกลับไปใช้ชีวิตในโบสถ์เล็กๆ แห่งนั้นต่อไป ขอให้ท่านเข้าใจเจตนาของข้าด้วย”รอยยิ้มแห่งความเมตตาจางหายไปจากใบหน้าของมาคิวลัสในทันที เขาปล่อยเพชรเม็ดงามนี้ไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด เขาสัมผัสได้ถึงพลังอันบริสุทธิ์และผุดผ่องมากที่สุด มันงดงามและทรงอำนาจมากเสียจนหากเขาปล่อยเอสวาไปแล้วละก็ เขาจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน หรือไม่ก็..ในวันข้างหน้า..บางทีเอสวาอาจจะมาโค่นล้มอำนาจของเขาก็ได้ เพราะแบบนั้นตราบใดที่เขายังได้เปรียบเขาจะต้องกดให้เอสวาตกต่ำลงมาให้เจ้าเด็กคนนั้นนอนหมอบกราบแทบเท้าเขาให้ได้“เอสวา..กับบางเรื่องมันไม่ได้ง่ายดายหรือว่าได้ดั่งใจไปซะหมด ชีวิตย่อมมีเรื่องที่เป็นไปไม
งานแรกที่เอสวาได้รับมอบหมายคือการเข้าไปช่วยเหลือและส่งมอบอาหาร ยารักษาโรคให้แก่ชาวเมืองที่พึ่งผ่านพ้นจากสงครามมาหมาดๆ ชื่อเสียงของเอสวานั้นโด่งดังอยู่แล้ว ยิ่งเขาได้มาปรากฏตัวต่อหน้าของชาวเมืองหลวงและทหารกล้า ทุกคนก็พร้อมใจกันบริจาคเงินและกล่าวคำสรรเสริญออกมาให้เอสวาไม่ขาดปากสิ่งของและอาหารที่นำไปแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านนั้นนำมาจากพระราชวังซะส่วนใหญ่ แต่พระสันตะปาปาสั่งให้เขานำของมาแจกจ่ายในนามของวิหารศักดิ์สิทธิ์..นี่มันเหมือนกับว่าตัวของวิหารเองไม่ได้เสียอะไรเลยแต่กลับได้ทั้งชื่อเสียงและเงินบริจาคมากมายกลับมาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเอสวาถึงได้รู้สึกสะอิดสะเอียนมากเหลือเกิน เขารู้สึกขยะแขยงมากกว่าที่จะทนมองหน้าของท่านผู้นำศาสนาได้..อีกทั้งรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยเมื่อหวนคิดถึงเรื่องที่ท่านคาดินันแคนนอนจงใจส่งเขามาที่นี่เพื่อให้เขามารับใช้พระสันตะปาปาที่มีนิสัยเช่นนี้..ทุกอย่างสิ้นหวังไปหมดแต่ถึงอย่างนั้นในใจของเอสวากลับยังคงเปี่ยมไปด้วยความหวัง อย่างน้อยเขาก็ยังคงหวังว่าตัวเองจะได้กลับไปหาโรแอนด์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะอยู่ที่นี่แค่สองเดือนตามที่ตั้งใจเอาไว้เท่านั้น“คิดได้แล้วอย่างนั้นสิน
โรแอนด์ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี เธอชื่นชอบสวนด้านหลังแห่งนี้มากทีเดียว เพราะว่าที่นี่ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านไปมา นั่นทำให้เธอสามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่อย่างเงียบๆ คนเดียวได้ อีกทั้งดอกไม้ในสวนแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยดอกไม้ที่ทั้งแปลกตาและหายาก เมื่อจัดการงานทุกอย่างเสร็จแล้ว โรแอนด์ก็มานั่งอ่านคู่มือของซักคิวบัสมือใหม่ใต้ต้นไม้ เธออ่านเกือบจบแล้วเหลือเพียงไม่กี่หน้าเท่านั้น“หากซักคิวบัสทำสัญญาจนเกิดเป็นรอยประทับตราขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าชายผู้นั้นจะอยู่ที่ไหนซักคิวบัสก็สามารถไปหาได้ในความฝัน”โรแอนด์เบิกตากว้างอย่างมีความหวังในทันที นี่หมายความว่าเธอสามารถไปหาเอสวา ได้อย่างนั้นหรือ? แบบนั้นก็ดีไปเลยสิ เพียงแต่นี่อาจจะติดปัญหานิดหน่อยตรงที่เขาไม่ค่อยนอนเธอรีบหอบหนังสือและไม้กวาดเพื่อกลับมายังที่พักของเอสวาที่ในยามนี้มันคือบ้านพักของเธอแล้ว โรแอนด์เขียนจดหมายไปหาเอสวาในทันที“นอนพักผ่อนให้มากหน่อยนะคะ แล้วข้าจะเข้าไปหาท่านในความฝันเอง”เขียนแบบนี้ไม่เผยพิรุธออกมาหรอกใช่ไหม จดหมายที่จะเข้าไปในวิหารอาจจะถูกเปิดอ่านก่อน..เพราะแบบนั้นเธอจึงจำเป็นที่จะต้องใช้คำพูดที่ระมัดระวังมากพอสมควรโรแอนด์รีบวิ่งนำจดหมา
“แล้วก็ยังมีเรื่องของพิธีสาบานตนเพื่อรับใช้นายท่านของเหล่า4ตระกูลใหญ่ นายท่านต้องการให้จัดพิธีนั้นในวันงานเลี้ยงต้อนรับด้วยเลยไหมครับ หรือว่าจะจัดขึ้นแยกกัน”เอสวาหลุบตาลงเพื่อมองดูโรแอนด์ที่กำลังครอบครองส่วนนั้นของเขาเอาไว้ในปาก เธอดูน่ารักเสมอในสายตาของเขา..“เรื่องนั้นเอาตามที่สะดวกเถิด ข้าแค่ต้องการให้จัดพิธี..อะ..อึ่ก..”เธอรู้สึกมันเขี้ยวเขามากทีเดียวที่เขากล้าพูดคุยงานในขณะที่เรากำลังทำเรื่องเช่นนั้น เพราะแบบนั้นโรแอนด์จึงจงใจดูดดึงส่วนปลายนั้นแรงๆ พร้อมกับใช้ฟันหยอกล้อกับแท่งร้อนที่อยู่ในโพรงปากเบาๆ“เป็นอะไรรึเปล่าครับนายท่าน..”อาเดนเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเขาเห็นสีหน้าที่ดูคล้ายว่ากำลังเจ็บปวดของนายท่านเอสวาก้มหน้าลง เขาหลับตาก่อนจะที่มุมปากจะยกสูงขึ้น“ไม่มีอะไร ข้าอยากให้เจ้าจัดงานพิธีสาบานตนก่อน ข้าต้องการให้ทั้ง4ตระกูลกล่าวคำปฏิญาณว่าจะรับใช้ข้าและว่าที่ราชินีของข้าพร้อมๆ กัน”อาเดนพยักหน้าพร้อมกับจดรายละเอียดเรื่องงานที่เขากำลังพูดคุยกับนายท่านลงในสมุดเล่มเล็กที่พกติดตัวมาโรแอนด์แลบลิ้นออกมาเลียหยดหยาดที่ซึมออกมาจากปลายยอด ขณะที่ใช้ริมฝีปากเพื่อครอบครอง ปลายนิ้วก
“....การเข่นฆ่ามนุษย์นั้นง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ ในความคิดเห็นของข้านั้น ข้าไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องขยายอาณาเขตของเมืองปีศาจเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนปีศาจที่แฝงอยู่กับหมู่มนุษย์ก็ต้องป้องกันตัวเองให้ดี ส่วนใหญ่ปีศาจที่ยังคงอยู่ที่นั่นก็คือพวกซักคิวบัสหรือว่าอินคิวบัสที่ต้องจะกินจิตวิญญาณของมนุษย์..”เอสวาคิดว่าเขาไม่ต้องทำอะไรเลย แค่นั่งมองอยู่ที่นี่เขาคาดว่าเขาน่าจะได้เห็นราชวงศ์ที่ล่มจมและประชาชนที่ทนไม่ไหวจนต้องก่อกบฏรัชทายาทโง่เขลาเช่นนั้นไม่คู่ควรให้เขาต้องมือเองด้วยซ้ำ“ครับนายท่าน จะมีการจัดงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับการกลับมาของนายท่านด้วย อีกทั้งสี่ตระกูลใหญ่ก็กำลังรอคอยที่จะปฏิญาณตนเพื่อรับใช้นายท่านด้วย”เอสวามองหน้าของลุคคา“ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม โรแอนด์คือราชินีของข้า สิ่งนั้นจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เข้าใจรึเปล่า”ลุคคาก้มหน้าลงเพื่อตอบคำคำสั่งของนายท่าน ที่เมืองปีศาจแห่งนี้ประกอบไปด้วยสี่ตระกูลใหญ่ๆ ที่ต้องเป็นมือเป็นเท้ารับใช้ราชาปีศาจ และหนึ่งในนั้นคือตระกูลราชสีห์ ที่มีสัญญาหมั้นหมายกันมานานหลายร้อยปี ตัวเขาเป็นเพียงข้ารับใช้ตัวเล็กๆ เรื่องเช่นนี้เขาไม่คอยสอดมือเข้าไปย
เหมือนพายุกำลังพัดหมุนวนเวียนอยู่ในร่างกาย สัมผัสที่เอสวาส่งมอบให้มันช่างแสนหวานจับใจมากเกินกว่าที่เธอจะทำใจยอมรับไหว แน่นอนว่าเขานั้นหลงเสน่ห์อย่างมากในยามที่เขากำลังขยับเขยื้อนร่างกายของเขาอยู่บนตัวของฉันฝ่ามือนั้นลูบไล้ไปตามเนินอกที่นูนขึ้น เขาออกแรงที่ฝ่ามือเพื่อบีบเคล้นมันอย่างถึงใจ ดวงตาคู่นั้นจับจ้องมองเธอไม่วางสายตา เม็ดเหงื่อผุดพราวระยับบนใบหน้าที่แสนหล่อเหลาของเขา นั่นทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองถูกมนต์สะกด จนหัวใจร่ำร้องถึงความไม่ยุติธรรม เธอหลงใหลเขาถึงเพียงนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเอสวาจะรู้สึกเช่นไรกับเธอบ้าง ตัวของเขาจะหลงใหลเธอบ้างรึเปล่านะ เขาจะรักเธอเหมือนอย่างที่เธอรักเขา จะเทิดทูนและบูชาเธอเหมือนกับที่หัวใจของเธอรู้สึกบ้างรึเปล่า?“เอสวา..ท่านรักข้าบ้างรึเปล่า?”เอสวาเลิกคิ้วขึ้นเลิกน้อย เรียวขาทั้งสองข้างของเธอกำลังพาดอยู่บนบ่าของเขาและนั่นทำให้เอสวาพรมจูบลงไปบนเท้าที่เปลือยเปล่าของโรแอนด์“มากกว่านั้นโรแอนด์มากกว่าคำว่ารัก..ข้ามอบให้เจ้าทั้งหมด..ทั้งลมหายใจ ชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่าง หากสายตาที่กำลังเป็นกังวลของเจ้ามองมาที่ข้า ข้าพูดได้เต็มปากเลยว่าเจ้านำเอาเวลาที่แส
“หิวก็กินสิโรแอนด์..” หลังจากกล่าวจบเอสวาก็นั่งลงบนเตียง เขากางขาออกเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาตรงมุมปาก และนั่นทำให้โรแอนด์เข้าใจได้ในทันทีว่าเอสวาต้องการอะไร เธอนั่งลงบนพื้นก่อนจะเริ่มถอดกางเกงของเขาออกมา ดวงตากลมโตช้อนขึ้นเพื่อมองใบหน้าของเอสวาราวกับเธอต้องการคำยืนยันจากสายตาของเขา.. “โรแอนด์..ที่นี่มีแค่เราเท่านั้น ทำอย่างที่อยากทำก็พอ” ยังไม่ทันได้ทำอะไร ส่วนนั้นของเขาก็อยู่ในสภาพที่เตรียมพร้อมต่อการสู้รบแล้ว แน่นอนว่าเธอเคยเห็นส่วนนั้นของเขามานับครั้งไม่ถ้วน ที่แตกต่างออกไปคงเป็นเพราะว่าเธอมองเห็นส่วนนั้นของเขาในระยะประชิดมากกว่าทุกครั้ง ถึงแม้ไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อนแต่โรแอนด์เองก็มั่นใจว่าเธอจะสามารถทำมันได้ดีตั้งแต่ครั้งแรก เธอกดจูบลงอย่างนุ่มนวลที่ส่วนปลายสีลูกพีช ลิ้นค่อยๆ ลากไล้ผ่านช้าๆ ตามลำแท่งและเส้นเลือดที่ปูดโปนขึ้นมา ทำให้เขารู้สึกถึงความปรารถนาที่กำลังพุ่งสูงขึ้น “อืม..โรแอนด์..สาบานได้เลยว่านี่มันดีจนข้าอยากให้เจ้าหิวบ่อยๆ เลยล่ะ” ลมหายใจที่อุ่นร้อนของเธอเป่ารดลงบนส่วนนั้นพร้อมกับปลายลิ้นที่ลากไล้ผ่านไปมา มันทำให้เขาหายใจไม่ทั่วท้องเลย ร่างกายยิ่ง
อ้อมกอดของเอสวายังคงหนักแน่นและอบอุ่นเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา มือเขาค่อยๆ ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเธออย่างแผ่วเบา เธอกอดเขาเอาไว้แน่นราวกับต้องการส่งผ่านความรู้สึกในใจนี้ไปให้เขาเอสวาค่อยๆ เล่าเรื่องของเขาให้โรแอนด์ฟังอย่างช้าๆ เล่าตั้งแต่ตอนที่เขาพยายามจะตายเพราะชีวิตมันสิ้นหวังไปหมด เล่าให้เธอฟังทุกสิ่งอย่างโดยไม่คิดปิดบังเธอเริ่มกอดเขาแน่นขึ้นเมื่อได้ฟังถึงเรื่องราวความเจ็บปวดของเขา ในความฝันแรกของเอสวาเธอจำได้ดีว่าตัวเองมองเห็นเขาในวัยเด็กเป็นเช่นไร มันทั้งน่าสงสารและน่าเห็นใจมากแค่ไหน เธอรู้ว่าเขาภาวนาถึงพระเจ้าอย่างแรงกล้าเพื่อให้มีใครสักคนมาพาเขาออกไปจากวังวนที่แสนโหดร้ายในชีวิตนั้นของเขา“ทุกอย่าง..มันผ่านไปแล้วนะเอสวา เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นมานั้นมันผ่านไปแล้วเพราะฉะนั้น..อะไรที่เมื่อคิดถึงแล้วเจ็บปวดท่านควรจะปล่อยวางมัน..”โรแอนด์กล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาจับเข้าที่ใบหน้าของเขา ในยามนี้เราอยู่ดินแดนปีศาจ เธอเคยคิดว่าที่นี่คือปรโลกแต่ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น ที่นี่มืดครึ้มและดูแล้วหดหู่ใจไม่น้อยแต่ทว่าเมื่อได้ลองออกออกไปที่ด้านนอกหน้าต่างจริงๆ ทุกชีวิตล้วนแล้วแต่น่าสงสาร ไม่เว้น
ฉันวิ่งไปข้างหน้าเท่าที่เท้าทั้งสองข้างของตัวเองจะมีแรง วิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ แขนทั้งสองข้างกางออก แม้ว่ายังไม่แน่ใจว่านั่นใช่เอสวาหรือไม่ ทว่าความหวังเพียงริบหรี่พวกนั้นก็สามารถต่อเติมความรู้สึกในใจของฉันได้อย่างน้อยที่สุด หากเป็นเขาฉันก็พร้อมจะทิ้งทุกอย่างที่มีเพื่อโอบกอดเขาเอาไว้เมื่อรู้สึกตัวอีกทีเท้าทั้งสองข้างก็ลอยขึ้นจากพื้นเสียแล้ว ฉันคิดว่าตัวเองวิ่งไวแล้วแต่ทว่าอีกฝ่ายกับไวกว่า เขาเดินเข้ามาหาพร้อมกับช้อนตัวของฉันขึ้นไปสู่อ้อมกอดที่แสนปลอดภัยของเขาอีกครั้งหนึ่ง ต่อให้ในยามนี้ดวงตาทั้งสองข้างนี้ของฉันมันมืดบอดแต่ทว่าฉันก็แน่ใจว่าชายเบื้องหน้าคือเอสวาไม่ผิดแน่ ไม่มีอ้อมกอดของใครที่จะอบอุ่นได้เท่ากับอ้อมแขนของเขาอีกแล้ว“เอสวา..”มือของเขาลูบผมของโรแอนด์อย่างเบามือ เขาคือเอสวาไม่ผิดแน่ ใบหน้านั้นคือเอสวาอย่างแน่นอนและถึงแม้ว่าบรรยากาศรอบๆ ข้างของเอสวาจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนแต่เขาก็คือเอสวา คนรักของฉันดวงตาของเอสวาเหลือบมองเท้าที่เปลือยเปล่าของโรแอนด์ ฝ่ามือที่กำลังโอบกอดเขาอยู่มีเลือดไหลซึมออกมา ในขณะที่ลำคอของเธอนั้นมีรอยแดงราวกับถูกเหล็กบาด และเมื่อเขามองไ
“ต้องทานอาหารบ้างนะคะ การอดอาหาร นานๆ เช่นนี้จะทำให้ร่างกายของท่านเป็นอันตราย..”สาวใช้พยายามพดคุยกับโรแอนด์แต่ไม่ว่านางจะกล่าวคำใดออกมา สตรีงดงามผู้นั้นก็ยังคงนั่งกอดเข่าอยุ่บนเตียงเช่นเดิม ไม่ดื่มน้ำหรือว่าแตะต้องอาหาร ทำได้เพียงการนั่งมองออกไปที่ด้านนอกหน้าต่างราวกับว่ากำลังรอคอยอะไรสักอย่าง หากมิใช่ว่าองค์รัชทายาททรงรับสั่งให้นางดูแลสตรีผู้นี้เป็นอย่างดีแล้วละก็ นางเองก็คงจะเดินหนีออกไปแล้วไม่สนใจไยดีสตรีที่แม้แต่ร่างกายของตัวเองยังไม่สนใจลีออนเดินเข้ามาในห้องพักข้างๆ ห้องนอนของเขา เขานั่งลงบนเตียงก่อนจะส่งสายตาให้สาวใช้เดินออกไปให้หมด เขายกมือขึ้นมาโอบกอดโรแอนด์เอาไว้ในอ้อมแขน ราวกับว่ากำลังปลอบโยนเธอจากฝันร้าย“วันนี้ก็ไม่แตะต้องอาหารอีกแล้วอย่างนั้นหรือ เจ้าไม่หิวแน่หรือ? หรือว่าเจ้าต้องการที่จะกลืนกินพลังชีวิตของข้า เช่นนั้นก็ทำสิโรแอนด์ เจ้าต้องการสิ่งใดข้ายินดีจะมอบให้เจ้าทั้งนั้นเลย เจ้าเอ่ยปากออกมาแล้วร้องขอมันกับข้า..”เขาไม่ได้โกหกที่ว่าเขาส่งมอบให้เธอได้ทุกอย่าง ลีออนให้โรแอนด์ได้ทุกอย่างจริงๆ เขาคิดว่าเธอน่าจะเป็นซักคิวบัส แต่ทว่าทำไมเธอถึงไม่คิดกินฝันของเขาเลยล่ะ หรื
เฟอน่าเหลือบมองมีดที่วางเอาไว้ข้างๆ เมื่อมองเห็นใบหน้าที่ราวกับกำลังปลอบประโลมความโศกเศร้าของเอสวา ที่มุมปากเฟอน่าก็ถูกกดลึกเป็นรอยยิ้ม เธอรู้ดีว่าเอสวาต้องการให้เธอทำอะไร และเธอเองก็ต้องการที่จะทำสิ่งนั้นอยู่พอดีเลย“โรแอนด์โชคดีที่มีท่านรักนาง..ข้าฝากดูแลหัวใจที่สั่นไหวของนางด้วยนะคะ"เอสวามิได้ตอบคำถามนั้น เขาเพียงส่งยิ้มให้เฟอน่าและท่านคาดินันก่อนที่ร่างกายของเขาจะจางหายไปราวกับกลุ่มควันขอให้ท่านเจ็บปวดปางตายอย่างที่ข้ารู้สึกนะครับท่านคาดินัน..ท่านทำให้ข้าเชื่อใจและหลอกใช้ข้าอย่างแนบเนียน ถึงจะน่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นใบหน้าในยามที่ท่านแตกสลายแต่ข้าจะถือซะว่านี่คือความปรานีอย่างถึงที่สุดของข้าก็แล้วกันจงมอดไหม้ลงไปพร้อมกับเลือดแดงฉานที่อาบท่วมไปทั่วมือและร่างกายของท่านเถิดครับ โศกเศร้าจนหยาดน้ำตาหลั่งไหลลงมาเป็นสายเลือด..จงมีชีวิตต่อไปด้วยความร้สึกผิดและเจ็บปวด..เฟอน่ายื่นมือไปจับมีดเล่มนั้นมาถือครองเอาไว้ เธอแย้มยิ้มออกมาราวกับว่ามีดเล่มนี้คือสิ่งที่เธอต้องการและตามหามาทั้งชีวิต“เฟอน่า..เจ้ารู้อยู่แก่ใจที่รักว่าข้าจะไม่ตายภายใต้คมมีดนั้นอย่างแน่นอน”เฟอน่าแค่นหัวเราะออกมาด้วยคว
มาลิคแทบจะอ้าปากค้างในทันที ดวงตาของเขาเบิกกว้างมากยิ่งกว่าทุกครั้งในชีวิต เขาตกใจจนแทบสิ้นสติและถามตัวเองว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นเขามีดวงตาที่สามารถมองเห็นร่างที่แท้จริงได้และเขามั่นใจมาก ว่าบุรุษที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าของเขานั้นมันคือท่านเอสวาไม่ผิดแน่ แต่สิ่งที่แตกต่างไปคือพลังทั้งหมดของท่านเอสวา ไม่มีพลังสีทองอย่างที่เขาเคยเห็น พลังในยามนี้คือพลังสีดำสนิทที่ทั้งชวนให้อึดอัดและสัมผัสได้ถึงความอันตรายมาลิคมองเห็นเขาบนศีรษะและ..ปีกขนาดใหญ่ที่กลางแผ่นหลัง มันเหมือนกับรูปลักษณ์ของซาตานมากกว่าที่จะเป็นมนุษย์“ฮะ..ฮ่า ข้าคิดเอาไว้แล้วเชียว”เอียนหัวเราะเสียงดังพร้อมกับชี้นิ้วไปที่บาทหลวงเอสวา“ข้าคิดเอาไว้ว่าพวกท่านคนใดคนหนึ่งจะต้องเก็บโรแอนด์เอาไว้กินเอง เอ๊ะ..หรือว่าไม่ใช่แค่คนเดียวแค่พวกท่านผลัดกัน..อะ..เฮือก!!”กลุ่มควันสีดำพวยพุ่งทะลุหน้าอกของเอียนไปอย่างรวดเร็ว และที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือบนอกของเขาบริเวณที่ถูกกลุ่มควันพวกนั้นพุ่งผ่านมันเกิดเป็นรูโบ๋ราวกับถูกของมีคมคว้าน..เลีอดสีแดงไหลออกมาพร้อมๆ กับเศษเนื้อที่ร่วงหล่น“อะ..อ้าก!! ช่วยด้วย!!เจ้าทำอะไรกับข้ากัน ช่วยข้าสิมาลิค อ้าก!”