“ถูกต้อง!”ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยท่าทางที่ทำให้คนตื่นตะลึง “ข้ารู้ว่าที่ข้าพูดมาไม่พอให้พวกท่านสนับสนุนการตัดสินใจของข้าเต็มกำลัง แต่มีอยู่เรื่องหนึ่ง ข้าเชื่อว่าทุกท่านต้องหวั่นไหวแน่!”“อ้อ? เรื่องอะไรหรือ? รัชทายาทต้าเฉียนเชิญกล่าวมาได้!”เวลานี้ ในสายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความเร่าร้อน เพราะแคว้นต่าง ๆ ทั่วโลกร่ำลือฝีมือของฉินอวิ๋นฟานมานานแล้ว รัชทายาทผู้โง่งมคนหนึ่งโต้กลับอย่างแข็งกร้าว กระทั่งยังอาจเรียกได้ว่าเป็นแบบอย่างแห่งยุค!เขาอาศัยเพียงกำลังของตัวเอง ต่อสู้ทั้งเรื่องสติปัญญาและความหาญกล้ากับสองขั้วอิทธิพลใหญ่ต้าเฉียน ทั้งยังไม่ตกเป็นรองสักนิด งัดลูกไม้ต่าง ๆ ออกมาไม่หมดไม่สิ้น ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงทอดถอนใจฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “เมื่อครู่ข้าได้บอกแล้ว จะให้บ้านเมืองของทุกท่านแข็งแกร่งเหมือนต้าเยียน กระทั่งล้ำหน้าต้าเยียน พวกท่านเห็นว่าอย่างไร?”“เอ่อ... นี่... นี่คงเป็นจริงไม่ได้กระมัง?”“เฮ้อ! ข้ายังนึกว่าเรื่องอะไร ล้ำหน้าต้าเยียนก็ช่างเถอะ ใช่ว่าข้ายกยอคนอื่นแล้วเหยียบย่ำตัวเอง แต่มันไม่มีทางแข็งแกร่งกว่าต้าเยียนได้ เอาแค่เรื่องปริมาณการผลิตธัญญาหารก็พอ แคว้นพวกเราเท
“เพื่อเล่นงานต้าเยียน ท่านเรียกได้ว่าวางแผนสารพัด พูดดีให้คนเข้าร่วม แต่ความจริงเห็นกันอยู่ชัด ๆ ไยท่านต้องทำเช่นนี้ด้วย?”กับการเอะอะของเยียนอวี่เฉิน ฉินอวิ๋นฟานแค่ปรายตาไปมองนางแวบหนึ่งเท่านั้น ดวงหน้ารูปไข่ที่ชวนให้คนอยากกระทำผิดช่างน่าหลงใหล แถมท่าทางตะบึงตะบอนของนางก็มีเสน่ห์มาก พอนึกถึงวิธีการทำร้ายหญิงสาวอย่างโหดเหี้ยมแล้วก็ชักจะทำไม่ลง“เฮ้อ!”เห็นเพียงฉินอวิ๋นฟานถอนหายใจเบา ๆ “ทุกท่าน ตอนนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวท้ายฤดูใบไม้ร่วงของต้าเฉียนพอดี เทียบกับการเปลืองน้ำลายอยู่ที่นี่ เหตุใดพวกท่านจึงไม่รีบส่งคนไปดูสักหน่อย? ไม่เสียเวลาพวกท่านเท่าไรหรอก เห็นก็รู้แล้ว ไยต้องอธิบาย?”“ช่วงเก็บเกี่ยวท้ายฤดูใบไม้ร่วงก็จริง แต่...”แม้ฉินอวิ๋นฟานจะพูดถึงขั้นนี้ แต่ก็ยังมีหลาย ๆ คนลังเล เพราะผลผลิตหมู่ละหนึ่งพันสองร้อยกว่าชั่งแทบจะเป็นเรื่องเหลวไหล ไม่มีความจำเป็นต้องดูเลยด้วยซ้ำถ้าใครเชื่อคำพูดของฉินอวิ๋นฟาน ก็คือถูกฉินอวิ๋นฟานล้างสมองแล้ว“เสียวฟาน เจ้าไม่ได้ล้อพวกเราเล่นกระมัง? เพิ่มผลผลิตเจ็ดเท่าไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ”เหลียงจื่อฝูลุกขึ้นมาพลางขมวดคิ้ว นางพูดอย่างกังวลนิด ๆ “ถ้าแคว้
การสนับสนุนเต็มกำลังจากเหลียงจื่อฝูและเติ้งซูหมิงทำให้หัวใจของฉินอวิ๋นฟานพลันรู้สึกอบอุ่นถึงเขาจะมีหลาย ๆ วิธีพิสูจน์ว่าต้นข้าวที่เขาคิดค้นขึ้นมามีปริมาณการผลิตมากกว่า เม็ดข้าวอวบอิ่มมากกว่า มีข้อดีมากกว่า แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยการวางแผนหลอกกันไปหลอกกันมา การที่จู่ ๆ ก็มีคนเชื่ออย่างปราศจากข้อสงสัยช่างหาได้ยากและล้ำค่านัก“ก็ได้! ไปดูหน่อยก็ไม่เป็นไร!”เห็นดังนั้นแล้วราชนิกุลแคว้นต่างๆ จึงเริ่มดำเนินการ นอกจากต้าเยียนและต้าเฉียน เจ็ดราชวงศ์ที่เหลือต่างส่งคนไปตรวจสอบสถานการณ์ ยังมีแคว้นเล็กพอ ๆ กับแคว้นเหมียวแคว้นหนึ่งก็เริ่มดำเนินการอย่างเร่งรีบเหมือนกัน......“รัชทายาท พวกเขาแต่ละคนเจ้าเล่ห์อย่างกับจิ้งจอก ท่านแน่ใจหรือว่าพวกเขาจะร่วมมือกับเราแต่โดยดี”ช่วงพักผ่อน ฉินอวิ๋นฟานเรียกตัวหลิวเป้ย เซียวหยาง เฉินผิง เสิ่นวั่นซานและหยางมี่มา เริ่มหารืองานถัดจากนี้พร้อมมอบหมายภารกิจ แต่หลิวเป้ยได้เห็นท่าทีที่แท้จริงของเหล่าราชนิกุลต่าง ๆ จึงกล่าวความกังวลของตัวเองออกมาทันที“ไม่ร่วมมือ? ไม่หรอก แค่แรงดึงดูดพอ ให้พวกเขาได้ลิ้มลองความหอมหวานแล้ว พวกเขาต้องเลือกร่วมมือกับเราโดยปราศจากความ
ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “ที่ข้าช่วยเหลือแคว้นต่าง ๆ มีจุดประสงค์อยู่สองอย่าง อย่างแรกคือเพื่อแสวงหากำไร ไม่มีเงิน พวกเราทำงานลำบาก แต่ถ้ามีเงินมากพอ พวกเราจะทำได้มากขึ้น”“จุดประสงค์ที่สองก็เพื่อเตรียมตัวไปต้าเยียนในอีกสามเดือนข้างหน้า ความทะเยอทะยานเจ้าเล่ห์ของต้าเยียนเป็นที่รู้กันทั่ว พวกเขาจะไม่ให้ข้ากลับง่าย ๆ เด็ดขาด ดังนั้นข้าจะใช้รูปแบบสร้างบุญคุณกับทุกแคว้น ให้พวกเขาตระหนักในความสำคัญของข้า”“เช่นนี้ ขอเพียงต้าเยียนกล้าลงมือทำร้ายข้า ทุกแคว้นจะไม่ปล่อยต้าเยียนไปง่าย ๆ แน่นอน เพราะทันทีที่ข้าตาย เมล็ดพันธุ์ผลผลิตสูงก็จะหายวับตามไปด้วย พวกเจ้าลองคิดดูสิ นอกจากต้าเยียนแล้วยังมีแคว้นใดอยากให้ข้าตายอีก?”ซี้ด...เมื่อฉินอวิ๋นฟานกล่าวออกมา ทุกคนต่างสูดลมเย็นเข้าปาก แผนนี้ของรัชทายาทล้ำนัก เท่ากับมัดทุกแคว้นเข้าด้วยกัน ทันทีที่ต้าเยียนคิดคดจะเท่ากับตัดโอกาสสร้างความแข็งแกร่งของทุกแคว้นด้วย เช่นนั้นพวกเขามิต้องแตกหักกับต้าเยียนหรือ?“รัชทายาท ในเมื่ออันตรายเช่นนั้น แล้วเหตุใดท่านต้องไปให้ได้ด้วย?”หลิวเป้ยพูดด้วยใบหน้ากังวล “แค่สัญญาเดิมพัน เราไม่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงก็ได้กระมัง?
“ดี ดีมาก!”ฉินอวิ๋นฟานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็หันไปมองทางเสิ่นวั่นซาน เขาเอ่ยถามเสียงหนัก “เสิ่นวั่นซาน เรื่องที่ข้ามอบหมายให้เจ้าเมื่อสามเดือนก่อน เจ้าทำไปถึงไหนแล้ว?”“เรียนรัชทายาท ทุกอย่างกำลังดำเนินตามแผนงานขอรับ”เสิ่นวั่นซานค้อมตัวกล่าวเป็นการเป็นงาน “ข้าน้อยตั้งจุดบุกเบิกและคลังเก็บของห้าสิบแห่ง หลังจากผ่านความพยายามสามเดือน ปูนที่กักตุนมีมากถึงแปดสิบล้านกระสอบ ทั้งยังกำลังดำเนินการต่อด้วย”ฉินอวิ๋นฟานสั่งเรื่องปูนเอาไว้นานแล้ว นี่คือส่วนหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งยวดในแผนงานของเขา และเขาก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเมื่อเสิ่นวั่นซานรู้ว่าฉินอวิ๋นฟานต้องการสร้างถนนทั่วทั้งต้าเฉียนก็ตกตะลึงอย่างหนัก นี่คืองานก่อสร้างงานช้าง!ตามการสาธยายของฉินอวิ๋นฟาน เมื่อสร้างถนนสำเร็จ จะเป็นผลงานยิ่งใหญ่แห่งยุค และจะเป็นการค้าที่ได้กำไรงามอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงกระจายงานทั่วแคว้น ทันทีที่ฉินอวิ๋นฟานออกคำสั่ง ก็สามารถลำเลียงถึงได้ในหนึ่งวัน!“แปดสิบล้านกระสอบ? ไม่พอ ยังขาดอีกมาก!”ฉินอวิ๋นฟานพูดพร้อมส่ายหน้า “ไม่ต้องกลัวเปลืองเงิน จ้างชาวบ้านให้มากที่สุด พวกเขาจะได้มีรายได้เพิ่มอีก
ทุกคนต่างมองกันไปมองกันมา ไม่มีดูถูกและสงสัยอย่างก่อนหน้านี้อีก พวกเขาแทบอยากตบหน้าตัวเองสักสองฉาด“ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้? ฉินอวิ๋นฟานกลับมีเมล็ดพันธุ์ที่ได้ผลผลิตพันกว่าชั่งต่อหมู่จริง?”ขณะทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียว ทั้งยังตื่นเต้นกระดี๊กระด๊า เยียนอวี่เฉินกลับเศร้าสลดนางเหมือนวิญญาณออกจากร่าง ในดวงตาคือความสิ้นหวัง ปากก็พึมพำไปว่า “ถ้าฉินอวิ๋นฟานขายเมล็ดพันธุ์ผลผลิตสูงพวกนี้ให้ทุกแคว้นจริง อีกไม่นานทุกแคว้นมิต้องล้ำหน้าต้าเยียนหรือ?”เมื่อคิดถึงตรงนี้ เยียนอวี่เฉินหมดความหวังแล้ว แผนการทั้งหมดที่นางวางเอาไว้ เมื่ออยู่ตรงหน้าฉินอวิ๋นฟานกลับไม่มีค่าสักนิด ฉินอวิ๋นฟานสลายทุกอย่างได้ชั่วดีดนิ้วความมั่นใจและความหยิ่งผยองที่นางสั่งสมมานานถึงสิบแปดปี กลับไร้ซึ่งความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าฉินอวิ๋นฟาน นาทีนี้ จิตใจนางถูกกระทบกระเทือนอย่างหนัก ไม่ทระนงตัวเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว“เป็นยังไง? ทุกท่าน ข้าหลอกพวกท่านหรือไม่?”ฉินอวิ๋นฟานสองมือไพล่หลัง เยื้องกรายมาถึงตรงหน้าทุกคนช้า ๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่งครั้นฉินอวิ๋นฟานปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง สายตาที่หมู่องค์ชายมองไปทางฉินอวิ๋นฟานเกิดความเป
เยียนอวี่เฉินหมดสติกะทันหัน ฉินอวิ๋นฟานตกใจรีบปรี่ไปหาทันที โอบร่างอรชรเอวบางของนางเอาไว้ เมื่อเห็นดวงหน้าแห่งยุคคิ้วงามเป็นธรรมชาติมีสีหน้าซีดเซียว ลมหายใจแผ่วเบาก็ทำให้ฉินอวิ๋นฟานนึกปวดใจขึ้นมา“หลีกไปนะ!”ครั้นรู้ว่าเยียนอวี่เฉินหมดสติ เซี่ยมู่ไป๋ก็รีบร้อนมายังห้องโถงใหญ่แล้วผลักฉินอวิ๋นฟานออกทันที นาทีนี้เขายังสนใจอะไรได้อีก ถ้าไม่ใช่เพราะฉินอวิ๋นฟานหาเรื่องสารพัด เล่นงานอย่างหนัก องค์หญิงสามจะโกรธจนหมดสติหรือ?ฉินอวิ๋นฟานที่กำลังแข็งกร้าวข่มคน ยามนี้อึดอัดใจเล็กน้อย จากมุมระหว่างความรักชายหญิง ฉินอวิ๋นฟานตั้งปณิธานว่าต้องได้ตัวเยียนอวี่เฉินมาให้ได้ หนึ่งเพราะได้จากการเดิมพัน เยียนอวี่เฉินคือภรรยาที่เขาใช้ความสามารถเอาชนะได้มา สองเพราะเยียนอวี่เฉินคือสไตล์ที่ฉินอวิ๋นฟานชอบแต่จากมุมของงานใหญ่ การเล่นงานต้าเยียนคืองานที่เขาจำเป็นต้องทำ ความทะเยอทะยานของต้าเยียนพองตัวจนไร้ขีดจำกัด การครองโลกขาดเพียงโอกาสที่เหมาะสม หากเขาไม่ทำเช่นนี้ จะต้องถูกต้าเยียนกลืนกินสักวันหนึ่ง“ฉินอวิ๋นฟาน ท่านทำเกินไปแล้วจริง ๆ แม้องค์หญิงสามจะเป็นตัวแทนของต้าเยียน แต่อย่างไรนางก็เป็นสตรีคนหนึ่ง ท่านกลั
เซี่ยมู่ไป๋แค่นเสียงเย็น ทิ้งคำพูดแรงประโยคหนึ่งจึงสะบัดแขนเสื้อจากไปจ้องเงาหลังเซี่ยมู่ไป๋ที่พาเยียนอวี่เฉินออกไป ฉินอวิ๋นฟานไม่ยี่หระ เทคโนโลยีสมัยใหม่ของเขาเพิ่งจะเปิดตัวก็กวาดล้างกองทัพของต้าเยียนได้แล้ว และอาวุธสงครามที่ร้ายกาจกว่านี้ของเขาก็กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยอย่าว่าแต่ต้าเยียนแคว้นเดียวเลย ต่อให้มีต้าเยียนสักสิบแคว้น เขาฉินอวิ๋นฟานก็ไม่หวั่นแม้แต่น้อย ที่เขาให้ความสำคัญจริงคือขั้วอิทธิพลยุทธภพต่างหาก มิเช่นนั้นเขาก็สร้างเอเคสี่สิบแปด ปืนไรเฟิลเก้าสิบแปดเค รวมไปถึงปืนใหญ่สนามอิตาลีอะไรพวกนี้แล้วระดับเทคโนโลยีพวกนี้ไม่ได้สูงนัก หากคิดจะผลิตจำนวนมาก สำหรับฉินอวิ๋นฟานแล้ว มันมิใช่ปัญหาใหญ่ การรวบรวมแผ่นดินบนโลกนี้เป็นหนึ่งง่ายดังพลิกฝ่ามือ แต่เขาไม่สามารถผยองกับขั้วอิทธิพลยุทธภพเช่นนี้ได้ จำต้องระวังให้มาก ค้นหาวิธีการสยบจึงจะดี“ในเมื่อทุกท่านยินดีเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเครือเหิงไท่ เช่นนั้นก็ลงนามในหนังสือสัญญาฉบับนี้เถอะ”ฉินอวิ๋นฟานกล่าวจบก็หยิบหนังสือสัญญากระดาษขาวตัวหนังสือดำออกมาปึกหนึ่ง เขาเอ่ยเสียงหนัก “ทุกท่านต่างคาดหวังให้บ้านเมืองของตัวเองแข็งแ
“เอ่อ... แต่เพียงแต่ข้าที่กังวลเช่นนี้ เกรงว่าทุกคนก็คงมีความกังวลนี้เหมือนกันกระมัง? อย่างไรเสีย ของอย่างบัญชีก็สามารถปลอมแปลงได้”เห็นฉินอวิ๋นฟานพูดตามตรง ฉินอวิ๋นฮุยจึงไม่อ้ำอึ้งอีก การยกเรื่องไม่ดีมาพูดแต่แรกมิใช่เรื่องน่าอายอันใด เพราะมันเกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ของพวกเขา เขาไม่อยากถูกฉินอวิ๋นฟานหลอก!“ฮ่า ๆ ๆ...”ฉินอวิ๋นฟานลั่นเสียงหัวเราะทันที “พี่รองทำงานรอบคอบดังคาด น้องเจ็ดเลื่อมใส แต่ท่านคิดมากไปแล้ว ถ้าต้องดูแลเมืองการค้าสามเมือง คนของข้าไม่มีทางพอ ถ้าพวกท่านไม่ส่งคนมาช่วยงาน ข้าคงทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ”“อ้อ? น้องเจ็ดพูดจริงรึ?!”เมื่อนั้นหัวใจที่ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ของฉินอวิ๋นฮุยจึงสงบลง หากเขาสามารถให้คนเข้าร่วมอยู่ในเมืองการค้าทั้งสามเมืองได้ เช่นนั้นเขาจะวางใจได้แล้ว เพราะจะรับประกันผลประโยชน์ของเขาได้ทั้งหมด!“พี่ใหญ่ พี่รอง พวกท่านวางใจได้เลย ระหว่างพวกเราพี่น้องแม้เป็นคู่ต่อสู้กัน แต่ต่อหน้าผลประโยชน์ของบ้านเมือง พวกเราต้องรวมใจเป็นหนึ่ง มีเพียงเช่นนี้ต้าเฉียนเราจึงจะเฟื่องฟูได้นิรันดร์”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “ดังนั้นในเรื่องการค้า เครือเหิงไท่จะรับผิดชอบกิจการหลักท
ฉินอวิ๋นฟานกล่าวอย่างจริงจัง “ต่อให้ใครกล้ามีความคิดส่วนตัวก็เปล่าประโยชน์ เพราะพวกเราต้องร่วมกันทำงาน หากไม่อยากเสียเมืองไป ไม่อยากตาย ทหารทุกคนจะต้องให้ความร่วมมือ เป็นหนึ่งเดียวสู้กับภายนอก”“ดี ดีมาก ความคิดนี้ไม่เลว!”เมื่อฉินอวิ๋นฟานกล่าวออกมา ไท่ซั่งหวงรู้อยู่แล้วว่าฉินอวิ๋นฟานต้องทุ่มเทเพื่อแผนการนี้ มิเช่นนั้นจะไม่มีทางคิดแผนการสมบูรณ์แบบเช่นนี้ออกมาได้“อื่ม ไม่เลว!”ฉินอวิ๋นฮุยไม่ได้ดีใจกับแผนการสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของฉินอวิ๋นฟาน เพราะแม้เช่นนี้จะเป็นเรื่องดีต่อบ้านเมืองจริง หากไร้ประโยชน์อันใดต่อพวกเขา ในทางกลับกัน พวกเขายังจะกลายเป็นคนที่ถูกฉินอวิ๋นฟานใช้งานอีกด้วยพวกเขาส่งทหารรักษาเมือง ฉินอวิ๋นฟานกอบโกยกำไรอย่างบ้าคลั่ง คิดแล้วฉินอวิ๋นฮุยก็อยากตบหน้าตัวเองสักฉาด ลักไก่ไม่สำเร็จเสียข้าวอีกหนึ่งกำมือโดยแท้!ทว่าไท่ซั่งหวงแสดงท่าทีชัดเจนแล้ว เขายังจะทำอะไรได้อีก?ฉินอวิ๋นฟานรู้ความคิดของพวกเขาดี อีกอย่าง ถ้าครองผลงานเองในเวลานี้จะเป็นการเลือกที่ไม่ฉลาดเอามาก ๆ ฉินอวิ๋นฟานไม่ทำเรื่องเบาปัญญาเช่นนี้หรอก!โบราณกล่าว ตบหน้าฉาดหนึ่งต้องให้พุทราหวานหนึ่งลูก อีกฝ่ายส่งทหารม
ขณะนี้ ทั่วทั้งท้องพระโรงเงียบกริบ ถ้อยคำชวนให้คนมีจิตใจฮึกเหิมของฉินอวิ๋นฟานวนเวียนอยู่ในหัวของ แม้ไท่ซั่งหวงเองก็ยังตกตะลึงพรึงเพริดกับคำพูดนี้ของฉินอวิ๋นฟาน!รัชทายาทวัยสิบแปดสิบเก้าคนหนึ่ง ช่างเป็นชายชาตินักรบเลือดร้อนไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน หากคนเช่นนี้เป็นจักรพรรดิ ไยต้องกลัวอนาคตต้าเฉียนจะไม่ศิวิไลซ์?“เกี่ยวกับการสร้างเมืองการค้าสี่แห่งในสี่ทิศของต้าเฉียน ทุกคนคัดค้านอย่างหนัก ข้าเข้าใจความรู้สึกของทุกคนมาก แต่ในเมื่อจะทำเรื่องนี้ ข้าก็ต้องยอมรับเสียงและความเห็นที่แตกต่าง ทุกคนว่ามาเถอะ”ฉินอวิ๋นฟานไม่รีบร้อน มีแต่ต้องทำให้ทำคนยอมรับเรื่องนี้จากใจจริง เขาจึงจะยึดสิทธิ์ความเป็นผู้นำได้ มิเช่นนั้นต่อให้ใช้กำลังผลักดันเรื่องนี้ คนเหล่านี้ต้องเล่นตุกติกลับหลังเขาแน่ เช่นนี้มีแต่จะทำให้รำคาญดังนั้นฉินอวิ๋นฟานเตรียมตัวกับการคัดค้านและความคิดของทุกคนแต่แรกแล้ว ต้องการแค่โอกาสประจวบเหมาะหนึ่ง เพราะคนที่ป่วยเป็นโรคอิจฉาตาร้อนมีมากเหลือเกิน มีแต่ต้องคิดหาทางหยดยาดวงตาให้พวกเขาสักหน่อย จึงจะขจัดต้นตอของปัญหาได้ “นี่...”ผู้คนมากมายแน่นขนัดพูดไม่ออกสักคำ เพราะต่างมีความกังวลอยู่ในใจ ฉ
นาทีนี้ถังเจิ้นไห่ถูกโจมตีทำร้ายทางจิตใจอย่างหนัก ฉินอวิ๋นฟานปากคอเราะรายน่ากลัวจริง ๆ การโจมตีของเขารวดเร็วนัก เขาต้านทานไม่ไหวเลยเขาจนปัญญากับการโจมตีของฉินอวิ๋นฟานแล้ว ได้แต่ใช้สถานะข่มขู่ฉินอวิ๋นฟาน หวังว่าฉินอวิ๋นฟานจะหยุดโจมตีเขาน่าเสียดาย แต่ไหนมาฉินอวิ๋นฟานก็ไม่ใช่คนใจบุญสุนทานอะไร และไม่เคยเป็นพวกยอมเสียเปรียบ หากมีคนโจมตีเขา ฉินอวิ๋นฟานจะไม่ใจอ่อนเด็ดขาด!ต้องถล่มอีกฝ่ายจนแพ้ราบคาบ นี่สิจึงจะเป็นเป้าหมายความเป็นคนของเขา และถังเจิ้นไห่ก็แตะเขตต้องห้ามของเขาพอดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉินอวิ๋นฟานย่อมไม่ไว้หน้าเขา!ครั้นพวกฉินอวิ๋นฮุยเห็นสภาพการณ์เช่นนี้ก็พากันมอบสายตาเห็นใจให้ถังเจิ้นไห่ พวกเขาเคยได้รับการสั่งสอนด้วยหมัดหนักจากฉินอวิ๋นฟานมานานแล้ว ในสถานการณ์ที่ไม่มีความมั่นใจเต็มร้อย หากหาเรื่องฉินอวิ๋นฟานก็เท่ากับรนหาที่ตาย!ไท่ซั่งหวงและจางเต้าหลินฉายรอยยิ้มพึงพอใจ แม้ถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานจะหยาบคายไม่รื่นหูไปบ้าง แต่สะใจยิ่งนัก! นักวางแผนร้ายเฒ่าเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง ถูกฉินอวิ๋นฟานฟาดกลับจนต้องสงสัยในชีวิต เด็ดสะระตี่แท้!“เกินไป? ตอนนี้ท่านรู้ว่าเกินไป? ตอนที่ท่านสาดน้ำคลำใส่
“ท่าน...”ถูกฉินอวิ๋นฟานด่าว่าหน้าด้าน ถังเจิ้นไห่โกรธจนหน้าเขียว แทบอยากสับฉินอวิ๋นฟานเป็นหมื่น ๆ ชิ้น เขาจำต้องยอมรับว่าฉินอวิ๋นฟานร้ายจริง ๆ! ในสภาวการณ์เช่นนี้ เขากลับไม่กลัวแม้แต่น้อย?“ท่านเทิ่นอะไร ท่านมันหน้าด้านเหม็นโฉ่ อายุอานามห้าสิบกว่าแล้ว มีแต่ความชั่วร้ายอยู่เต็มอก น่ารังเกียจโดยแท้!”ฉินอวิ๋นฟานไม่ไว้หน้าถังเจิ้นไห่สักนิด เอ่ยต่อ “เมื่อวานข้าเพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองอู่โจว ท่านรู้ได้ยังไงว่าข้าไม่คิดกระจายการเพาะปลูกทั่วแคว้น? ท่านให้โอกาสข้าพูดแล้วหรือยัง?!”“อีกอย่าง ปริมาณเมล็ดพันธุ์ที่ข้ามอบให้ทุกแคว้นมีจำกัด ใครกล้าไม่เคารพต้าเฉียน? ข้าคือบิดรมารดาปากท้องของพวกเขา ใครกล้าหือ?!”“แม้นมีแคว้นใดไม่เป็นเด็กดี ข้าจะระงับการส่งมอบเมล็ดพันธุ์ให้พวกเขาทันที ข้าจะดูสิว่าไอ้ไม่ดูตาม้าตาเรือหน้าไหนกล้าท้าทายขอบเขตต่ำสุดของข้า?!”ครั้นกล่าวออกมา ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่มีผู้ใดกล้าพูด หากเทียบกับการเคลือบแคลงสงสัยเมื่อครู่ การพูดเช่นนี้ของฉินอวิ๋นฟานยิ่งสามารถทำให้เขายืนอย่างมั่นคงมากขึ้นฉินอวิ๋นฟานคลี่คลายประการแรกของความผิดร้ายแรงสามประการได้แล้ว ถังเจิ้นไห่หน้าตึงจนน
“ได้!”ถังเจิ้นไห่พูดหน้าขรึม “ประการที่สองของความผิดร้ายแรงสามประการ รัชทายาทร่วมกันสร้างถนนกับแคว้นต่าง ๆ เรื่องนี้อึกทึกครึกโครมไปทั่ว ทันทีที่สร้างถนนที่กว้างยิ่งขึ้น การคมนาคมจะสะดวก คืออยากให้แคว้นรอบข้างรุกรานต้าเฉียนเราสะดวกยิ่งขึ้นหรือ? การกระทำเช่นนี้มิใช่แผนการล่มชาติแล้วมันคืออะไร?!”ซี้ด...เมื่อทุกคนได้ฟังต่างสูดลมเย็นเข้าปาก เกิดความสงสัยอย่างหนักกับจุดประสงค์ของฉินอวิ๋นฟาน ด้านหนึ่งมอบธัญพืช ด้านหนึ่งสร้างถนนกับทุกแคว้น จุดประสงค์จะชัดเจนเกินไปแล้วกระมัง?“ต่อ ประการที่สามเล่า!”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มเรียบ เขาก็อยากดูสิว่าถังเจิ้นไห่จะไปไกลขนาดไหน ช่างเป็นคนที่มีขอบเขตความรู้ความเข้าใจและวิสัยทัศน์โดยแท้ การกำหนดอนาคตของบ้านเมือง เป็นเช่นนี้ดังคาดหากให้พวกเฮ่อชินอ๋องเรืองอำนาจจริง ต้าเฉียนมิต้องจบเห่หรือ? ให้สวะพวกนี้ดูแลบ้านเมือง บ้านเมืองนั้นยังจะมีความหวังอะไร?พวกเขานอกจากจะมีความชั่วร้ายอยู่เต็มอก มีความคิดดำมืดอยู่เต็มสมอง ยังจะทำอันใดได้อีก?“หึ!”ถังเจิ้นไห่แค่นเสียงแล้วจึงเอ่ย “ประการที่สาม รัชทายาทร่วมมือกับแคว้นต่าง ๆ กีดกันต้าเยียน สังหารบุตรชายคนที่สี่ข
“อ้อ? ความผิดร้ายแรงสามประการของฟานเอ๋อร์? ไหนลองว่ามาดูสิ!”ไท่ซั่งหวงตั้งสมาธิ นึกสนใจขึ้นมาทันที อย่างลับ ๆ เขาให้ความสนใจกับพฤติกรรมของฟานเอ๋อร์มาก ไม่เคยได้ยินความผิดร้ายแรงสามประการอันใด เขาก็อยากดูสิว่าถังเจิ้นไห่จะพูดอะไรความผิดร้ายแรงสามประการเสมือนระเบิดลูกใหญ่ ทำให้สีหน้าทุกคนเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกขึ้นมา ยามนี้สายตาของทุกคนในที่นั้นต่างรวมศูนย์อยู่ที่ตัวของถังเจิ้นไห่“ประการแรกของความผิดร้ายแรงสามประการ ได้ยินว่ารัชทายาททำเมล็ดพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ขึ้นมา สามารถให้ผลผลิตสูงมาก เดิมนี่คือโอกาสดีที่สุดที่ต้าเฉียนเราจะแจ้งเกิด คิดไม่ถึงว่ารัชทายาทกลับมอบเมล็ดพันธุ์ผลผลิตสูงให้กับแคว้นต่าง ๆ รอบข้าง ช่วยให้พวกเขามั่งคั่งมากขึ้น”ถังเจิ้นไห่กล่าวเสียงหนัก “ขอถามทุกท่านในที่นี้ พฤติกรรมเช่นนี้ของรัชทายาทคือกำลังช่วยเหลือศัตรูน่ากลัวของเราหรือไม่? พฤติกรรมเช่นนี้ของเขา คือการขายชาติหรือไม่?!”ตูม...ครั้นถังเจิ้นไห่กล่าวถ้อยคำนี้ออกมา บรรดาขุนนางต่างอึกทึกครึกโครม คนทั้งโลกต่างรู้เรื่องที่เมืองจัวเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์แทบทุกคน และเรื่องที่ฉินอวิ๋นฟานลงนามสัญญากับแคว้นต่าง ๆ ก็รู
“อื่ม! ดี!”ไท่ซั่งหวงเอ่ยเสียงหนัก “เช่นนั้นข้าขอประกาศอย่างเป็นทางการ แต่งตั้งหวังอันสือเป็นหัวหน้าสำนักศึกษาหลวง เจี่ยงฝานฝานเป็นรองหัวหน้า การรับตำแหน่งนี้มีผลอย่างเป็นทางการ หัวหน้าขันทีเฉา ร่างราชโองการเดี๋ยวนี้ ประกาศต่อใต้หล้า!”เมื่อเรื่องราวสิ้นสุดลง ใจที่กระวนกระวายของฉินอวิ๋นฟานก็สงบ เขามองจางเต้าหลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง!ทว่าคนอื่น ๆ กลับมีความรู้สึกที่แปลกออกไป หลังจากหวังอันสือได้ขึ้นตำแหน่ง ทำให้พวกเขาตระหนักว่าสถานการณ์ในราชสำนักกำลังหลุดจากการควบคุมอย่างช้า ๆ ฉินอวิ๋นฟานกำลังจะครองราชสำนัก“เอาละ เรื่องสำนักศึกษาหลวงก็สิ้นสุดแล้ว แต่จะละเลยผลงานการไปเมืองอู่โจวของฟานเอ๋อร์ครั้งนี้ไม่ได้”ไท่ซั่งหวงกล่าวเสียงเข้ม “ฟานเอ๋อร์ไม่เพียงแต่ทำคำสัญญาเมื่อครึ่งปีก่อนสำเร็จ ยิ่งทำให้เศรษฐกิจต้าเฉียนเราพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว ท้องพระคลังเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ พสกนิกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างช้า ๆ ทุกคนต่างเห็นความยอดเยี่ยมของฟานเอ๋อร์”“ฟานเอ๋อร์ ว่ามาเถอะ เจ้าอยากได้อะไรเป็นรางวัล? ขอเพียงสมเหตุสมผล ข้าจะให้เจ้าดังปรารถนา!”ฉินอวิ๋นฟานรู้สึกดีใจมากที่
“...”‘ไม่ว่าจะเป็นใคร คนผู้นั้นก็รู้อยู่แก่ใจดี’ ประโยคเดียวของฉินอวิ๋นฟานทำให้ถังเจิ้นไห่สยบ แม่งเอ๊ย เขาก็ต้องรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว หากเขามีความจำเป็นพูดออกมาไม่ได้!การเล่นเกมเลี่ยงบาลีของฉินอวิ๋นฟานทำให้แนวป้องกันของถังเจิ้นไห่พังทลายลงโดยสิ้นเชิง เหล่าขุนนางต่างกัดฟันกรอด กลับทำอะไรไม่ได้ ฉินอวิ๋นฟานเฉกเช่นปลาหนีชิวลื่นไหลตัวหนึ่ง ทำอะไรเขาไม่ได้เลย!จางเต้าหลินที่อยู่ด้านข้างตกตะลึงกับการกระทำนี้ของฉินอวิ๋นฟาน เขาเคยเห็นคนหน้าด้าน กลับไม่เคยเห็นผู้ใดหน้าหนาไร้ยางอายเช่นฉินอวิ๋นฟานมาก่อน หน้าไม่อายที่สุด!คนคนหนึ่งปั่นหัวเหล่าขุนนางใหญ่เป็นว่าเล่น โมโหโทโสจนร่ำไห้หาพ่อร้องหาแม่ กลับจนปัญญา ดูสีหน้าเขียวปัดของถังเจิ้นไห่ จางเต้าหลินกลั้นหัวเราะอย่างหนัก กลั้นจนภายในจะบอบช้ำแล้ว“เอาละ ๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย พอแค่นี้เถอะ!”ไท่ซั่งหวงเห็นว่าพอประมาณแล้ว จึงตัดสินเรื่องนี้ในที่สุด ได้แต่บอกว่าฟานเอ๋อร์ใช้ไหวพริบและผลลัพธ์ก็คือว่าเป็นที่น่าพอใจ“จางไท่เว่ย ในเมื่อมีสามตัวเลือก และทุกคนก็แสดงจุดยืนของตัวเองแล้ว ท่านมีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร?”ไท่ซั่งหวงไม่ได้ยอมรับคว