“เหอะ ข้าควรชื่นชมว่าท่านฉลาด หรือบอกว่าท่านขาดแคลนปัญญาดี?”หลัวเทียนเป้าพูดด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “สถานการณ์ในราชสำนักของต้าเฉียนพวกท่านเละตุ้มเป๊ะอย่างนี้แล้ว ยังไม่รีบกำจัดฝ่ายอื่นเพื่อประกันให้ฉินอวิ๋นคังขึ้นครองราชย์อีก จะรอให้ฉินอวิ๋นฮุยแข็งแกร่งมากขึ้นหรือยังไง?”“ครั้งนี้คือโอกาสดีฟ้าประทาน พลาดไปจะไม่มีแล้วนะ แค่ฉินอวิ๋นฮุยกับฉินอวิ๋นฟานต่อสู้กับพวกโจรและตายอยู่บนเขา ใครจะสืบสาวเรื่องมาถึงเราได้?”“ท่านต้องรู้นะ ความร่วมมือของเราในครั้งนี้มีความเสี่ยงสูง แล้วเหตุใดจึงไม่ทำงานให้เด็ดขาด สำเร็จในคราวเดียว? คงไม่ต้องให้ข้าบอกผลของการปล่อยเสือเข้าป่ากระมัง?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของหลัวเทียนเป้า ฮั่วจื้อจวินหวั่นไหวอย่างหนัก กระนั้นกลับฉายสีหน้าปั้นยาก แววตาสับสน ด้านหนึ่งคือสถานการณ์ตึงเครียด ต้องตัดสินใจเด็ดขาดทันที ด้านหนึ่งคือกลยุทธ์ที่กำหนดไว้แต่แรก“ข้า ข้าคิดว่ายังต้องสอบถามองค์ชายใหญ่สักหน่อยก่อนจะดีกว่า บุ่มบ่ามตัดสินใจเรื่องสำคัญเช่นนี้อาจต้องโทษประหารได้”หลังจากต่อสู้กับความคิดครู่หนึ่ง สุดท้ายฮั่วจื้อจวินจึงเลือกอย่างหลัง ใช่ว่าเขาไม่กล้าเดิมพันครั้งใหญ่ หากสิ่งที่ต้
“เหอะ เอาเถอะ ลองดูสักตั้ง ไม่มีทางเลือกแล้วนี่!”ฮั่วจื้อจวินส่ายหน้าพูดอย่างจนปัญญาไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ทัพของทั้งสองฝ่ายรวมตัวเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว แต่งตัวเป็นโจรทั้งหมด อีกทั้งทั้งสองฝ่ายยังคัดเลือกแต่ยอดฝีมือที่มีกำลังรบน่าทึ่ง ผ่านสมรภูมิมามากมาย “สนับสนุนค่ายต่าง ๆ เร็วเข้า ซุ่มตัวให้ดี!”จางหมาจื่อที่กลับมาถึงสั่งการออกไปทันที คำสั่งแล้วคำสั่งเล่า แบ่งทัพใหญ่สี่หมื่นกว่าคนไปยังสี่แห่ง เมื่อรวมกับเหล่ากองโจร ไม่นานพวกเขาก็เตรียมตัวโจมตีพร้อมแล้ว“ฆ่ามัน!!!”“ฆ่ามัน!!!”......ขณะนี้ ทัพใหญ่ของฉินอวิ๋นฮุยบุกมาด้วยความเร็ว สถานการณ์รบตึงเครียดเปิดฉากในพริบตา ทันทีที่ทัพใหญ่ของฉินอวิ๋นฮุยมาถึงจุดแรกก็พบกับความผิดปกติทันที ทว่ามันสายไปแล้ว“แย่แล้ว มีกับดัก!”สิ้นเสียง โจรนับไม่ถ้วนกรูออกมาจากสี่ทิศแปดทางบุกโจมตีพวกเขา ล้อมเหล่าทหารเอาไว้ทันที กลายเป็นการปิดประตูตีสุนัข“นี่ นี่มันยังไงกันแน่เนี่ย? ไหนว่ากองโจรไม่กี่พันไง? นี่มันมีมากกว่าเห็น ๆ!”เมื่อหัวหน้าทหารคนหนึ่งเห็นพลันตกตะลึง อีกฝ่ายมีมากมายก่ายกอง เห็นชัดว่าพวกเขาติดกับแล้ว ยังจะสู้อะไรอีก! รีบหาทางหนีเอาตัวร
เพิ่งส่งสัญญาณโจมตี เหอเหวินเย่าก็เห็นความผิดปกติทันที เขาตัดสินใจเด็ดขาด ให้พวกผังซื่อเต๋อซึ่งเป็นยอดฝีมือในยุทธภพพยายามอย่างสุดความสามารถ คุ้มครองฉินอวิ๋นฮุยออกไปอย่างลับ ๆเพื่อให้ออกไปได้อย่างปลอดภัย เขาไม่ได้สั่งให้ถอย เพราะเมื่อสั่งให้ถอย ขวัญกำลังใจของกองทัพจะระส่ำระสาย ไม่มีใจต่อสู้ ชุลมุนวุ่นวายเป็นเม็ดทรายที่แตกระแหง และสิ่งที่รอพวกเขาจะมีแต่การถูกกวาดล้าง ถึงตอนนั้นจะวุ่นวายมากกว่าเดิม“พี่เหอ ร้ายแรงขนาดนั้นเชียวหรือ? ข้าว่าสถานการณ์ดูจะครึ่งต่อครึ่งนะ”ผังซื่อเต๋อเห็นเหอเหวินเย่าตื่นตระหนกเช่นนี้พลันขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกสับสนกับการกระทำของเขา ถ้าสู้สุดตัวอาจไม่แพ้ก็ได้ ทำไมต้องเริ่มหนีเอาตัวรอดเร็วขนาดนี้ด้วย?“ถูกต้อง ร้ายแรงมาก ต้องพาองค์ชายรองออกไปให้เร็วที่สุด!”เหอเหวินเย่ามันความรู้สึกไวเสมอ เขาเข้าใจแผนการร้ายเช่นนี้ดี อีกฝ่ายเตรียมพร้อมสรรพ ที่เห็นในตอนนี้คือสิ่งตรงหน้า ทว่าต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรยังมิอาจทราบได้ เขาเดิมพันไม่ไหวต่อให้ต้องสละชีวิตทหารห้าหมื่นคนเขาก็ยอม ขอเพียงรักษาชีวิตฉินอวิ๋นฮุยเอาไว้ได้ทุกอย่างก็คือคุ้มค่า คนอยู่ โอกาสมี คนตาย ทุกอย่างจบสิ้น!
หลัวเทียนเป้าถากถางอย่างเย็นชา “นี่ก็คือทำไมข้าถึงบอกให้ท่านว่าต้องกำจัดเขาเสีย แค่ท่านให้โอกาสฉินอวิ๋นฮุย เขาจะต้องเป็นศัตรูตัวฉกาจของฉินอวิ๋นคังแน่นอน เพราะเขาเหี้ยมพอ ชั่วพอ และร้ายพอ!”“ท่านต้องรู้นะ คนที่จะขึ้นตำแหน่งสูง ใครบ้างไม่อำมหิตเหี้ยมเกรียมมือเปื้อนเลือดบ้าง? ท่านคิดว่าทำดีได้ดีจริงหรือ? นั่นล้วนเป็นเรื่องที่พูดให้คนสติปัญญาบกพร่องฟังทั้งนั้น!”“บนโลกใบนี้ ถ้าท่านต้องการอำนาจเด็ดขาด จิตใจต้องเหี้ยมโหด จะให้คู่ต่อสู้ของตัวเองมีโอกาสรอดชีวิตไม่ได้เด็ดขาด”ฮั่วจื้อจวินยอมรับคำพูดนี้ของหลัวเทียนเป้า เขาอยู่ในราชสำนักต้าเฉียนหลายปีอย่างนี้ เขามั่นใจว่าพอมีตำแหน่งอยู่บ้าง ภาพการหลอกกันไปหลอกกันมา ประจบประแจงสรรเสริญเยินยอ ทำทุกวิถีทางเพื่อผลประโยชน์ก็เห็นมาไม่น้อย“ข้าไม่ปฏิเสธว่าคำพูดนี้ของท่านถูกต้อง แต่ท่านไม่เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันของต้าเฉียน เอาชีวิตฉินอวิ๋นฮุยในตอนนี้เท่ากับจุดชนวนให้เกิดศึกภายใน!”ฮั่วจื้อจวินพูดด้วยสีหน้าอึมครึม “เกรงว่าจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของแม่ทัพใหญ่หลัวก็คือจุดจบเช่นนี้กระมัง?”ฮั่วจื้อจวินมิได้เขลา หลัวเทียนเป้าพยายามช่วยเขามากมายเช่นนี้ ห
“ถ้าข้าผังซื่อเต๋อจะไปเสียอย่าง เจ้าคิดว่าเจ้าจะขวางข้าได้หรือ?”ผังซื่อเต๋อท่วงทำนองน่าเกรงขาม ความกดดันไร้ลักษณ์ปะทุออกมาจากตัว ท่าทางแข็งแกร่ง ทำให้ฉินอวิ๋นฮุยที่อยู่ด้านข้างเริ่มหายใจลำบากเวลานี้คนที่อยู่ข้างหลังผังซื่อเต๋อก็ตั้งท่ารอรับมือแล้วเหมือนกัน เตรียมตัวรับศึกทุกเมื่อ!“ความสามารถไม่พอ ยังจะฝืนอีก?”จางหมาจื่อเหยียดยิ้มตรงมุมปาก เขาไม่หวั่นเกรงต่อความแข็งกร้าวของผังซื่อเต๋อสักนิด กระทั่งมีนัยว่ากุมชัยอยู่ในมือเขาพูดอย่างไม่ยี่หระ “ต่างเป็นยอดฝีมือเขตปรมาจารย์ ใครแพ้ใครชนะยังไม่แน่ แต่ยังไงระดับเดียวกันก็แบ่งสูงต่ำ ท่านว่าอย่างไร? ท่านผู้นำตระกูลผัง?”“อ้อ? ความก็เป็นยอดฝีมือเขตปรมาจารย์เหมือนกันหรือ?”ผังซื่อเต๋อรูม่านตาหดเล็ก ประหวั่นพรั่นพรึงที่สุด ลางร้ายผุดขึ้นมาในหัวใจ จางหมาจื่อกล้าพูดกับเขาแบบนี้ มันชี้ให้เห็นปัญหาหนึ่ง เขาต้องมั่นใจว่าจะชนะแน่ มิเช่นนั้นจะไม่กล้าพูดกับเขาเช่นนี้เด็ดขาดยอดฝีมือเขตปรมาจารย์คือตัวตนดังขนหงส์เขากิเลนของโลกใบนี้ แน่นอนว่าไม่ต้องเอ่ยถึงฝีมือ ไม่มีใครเอาชีวิตมาล้อเล่นในเวลานี้หรอก“ถูกต้อง!”จางหมาจื่อยิ้มมุมปาก “ถือโอกาสนี้ป
“เหอะ สมกับที่เป็นผู้นำตระกูลผัง ฝีมือร้ายกาจนัก!”จางหมาจื่อสะบัดแขนเสื้อเบา ๆ กล่าวด้วยสีหน้าสงบ “แต่ถ้าท่านมีฝีมือเพียงเท่านั้น จะเอาชนะข้า... เกรงว่าจะเป็นไปไม่ค่อยได้!”พูดจบ จางหมาจื่อเคลื่อนไหวบ้างแล้ว เขามีความเร็วเหนือกว่า กำลังมากกว่า ปรากฏอยู่ตรงหน้าผังซื่อเต๋อด้วยความไวเพียงเสี้ยวนาทีเหมือนกัน เขาส่งหมัดหนักออกไป คลื่นพลังที่มองไม่เห็นขุมหนึ่งกระแทกต้นไม้รอบด้านแหลกเดี๋ยวนั้น!ด้วยการโจมตีของพลังมหาศาล ผังซื่อเต๋อถูกกระแทกจนเลือดลมปั่นป่วน ถอยกรูดอย่างต่อเนื่องสิบกว่าก้าวจึงจะทรงตัวได้ ในทางกลับกัน จางหมาจื่อถอยเพียงสามเก้าเท่านั้นจากการตัดสินจากพลัง จางหมาจื่อเป็นฝ่ายนำเล็กน้อย!“จะเป็น จะเป็นไปได้ยังไง? เจ้ามีพลังแข็งแกร่งเช่นนี้เลยรึ?!”ในดวงตาของผังซื่อเต๋อคือความตื่นตระหนก เขาเป็นยอดฝีมือชั้นนำในขอบเขตปรมาจารย์นานแล้ว มั่นใจว่าตัวเองคือตัวตนยอดพีระมิดในด้านรากฐานและพรสวรรค์ ไม่นึกว่าจางหมาจื่อจะเก่งกว่าเขา?“ถ้าข้าไม่เก่งพอ จะกล้าขวางท่านได้ยังไง?”จางหมาจื่อยิ้มมุมปากเล็กน้อย พูดอย่างมั่นใจ “จุดประสงค์ของข้าคือชีวิตของฉินอวิ๋นฮุย ถ้าพวกท่านยินดีทิ้งเขาไว้ ข้า
จางหมาจื่อที่มั่นใจเต็มร้อยหัวใจว้าวุ่นในพริบตา ลูกน้องของเขาล้วนเป็นยอดฝีมือเขตยุทธ์แท้ ทั้งยังอยู่อันดับต้น ๆ ของระดับนั้นอีก กลับถูกฆ่าในกระบวนท่าเดียว?!“จางหมาจื่อ คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า!”ผังซื่อเต๋อไม่ออมมืออีก เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจางหมาจื่อ แต่หากจางหมาจื่อต้องการเอาชนะเขาในช่วงเวลาสั้น ๆ จะไม่ใช่เรื่องง่ายเด็ดขาด!“บ้าเอ๊ย!”ยามนี้ จางหมาจื่อจึงรู้ว่าตัวเองตัดสินใจผิดไป ตระกูลผังกลับมียอดฝีมือเขตปรมาจารย์คนหนึ่ง? หากเป็นเช่นนี้ นั่นคือยุ่งใหญ่แล้ว!“เอาไงดี?”เวลานี้ชายชุดดำคนหนึ่งเริ่มใจสั่นแล้ว พวกเขาย่อมไม่หวั่นยอดฝีมือเขตยุทธ์แท้ แต่ชายตรงหน้ากลับเป็นยอดฝีมือเขตปรมาจารย์ นั่นต้องคิดให้ดีแล้ว!ทว่าน้องรองของตระกูลผังไม่ให้โอกาสพวกเขาแม้แต่น้อย เขาเคลื่อนไหวแล้ว เงาร่างประหนึ่งผีร้ายพุ่งตัวออกไปในเสี้ยววินาที“ยะ แย่แล้ว!”ชายชุดดำเห็นสภาพการณ์พลังร้องอุทานเสียงดัง แต่ในตอนที่เขาเตรียมจะหนีมันก็สายไปแล้ว น้องรองของตระกูลผังหนึ่งหมัดชกไปที่ใบหน้า ศีรษะกระจุยเดี๋ยวนั้น!“ซี้ด...”พอชายชุดดำคนอื่น ๆ เห็นต่างพากันสูดลมเย็นเข้าปอด หน้าถอดสี แต่ในเวลานี้เอง
ผังซื่อเต๋อตวาดออกไป“ได้!”น้องรองของตระกูลผังไม่ลังเลอีก ทุกคนรีบพาฉินอวิ๋นฮุยออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งจางหมาจื่อที่ทำหน้าสับสนอยู่!“บัดซบ! ผังซื่อเต๋อ ไม่นึกว่าเจ้าจะเหลือทางหนีเอาไว้? ข้าประมาทเจ้าไปแล้ว!”นาทีนี้จางหมาจื่อเดือดดาลถึงที่สุด แทบอยากสับผังซื่อเต๋อเป็นหมื่น ๆ ชิ้น สถานการณ์ที่อยู่ในกำมือกลับมีช่องโหว่ในช่วงเวลาสำคัญ?“หึ เราต่างมีนาย ถ้าไม่เผื่อทางหนีทีไล่เอาไว้ วันนี้มิต้องตายอยู่ที่นี่หรือ?”ครั้นฉินอวิ๋นฮุยจากไป ผังซื่อเต๋อตัดความกังวลด้านหลังโดยสิ้นเชิง เขาไม่สนความเป็นความตายแต่แรกแล้ว ไม่ว่าเวลาใด ขอเพียงฉินอวิ๋นฮุยยังอยู่ ตระกูลผังจะไม่ตกอับ!“เจ้านึกว่าเจ้าเผื่อทางหนีทีไล่แล้ว วันนี้จะรอดหรือ?!”จางหมาจื่อบันดาลโทสะ พลังปะทุอีกครั้ง วิธีการเหี้ยมโหดกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการโจมตีหรือพลังล้วนแล้วแต่เพิ่มเป็นเท่าตัว ภายใต้การโจมตีอย่างหนัก ผังซื่อเต๋อลำบากมากขึ้น!ตั้งแต่วินาทีที่น้องชายพาตัวฉินอวิ๋นฮุยจากไป เขาก็รู้จุดจบของตัวเองแล้ว ตอนนี้เขาทำได้เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือประวิงเวลา ถ่วงเวลาได้นานเท่าไร โอกาสที่ฉินอวิ๋นฮุยจะรอดก็ยิ่งสูงดังคาด ภ
“เอ่อ... แต่เพียงแต่ข้าที่กังวลเช่นนี้ เกรงว่าทุกคนก็คงมีความกังวลนี้เหมือนกันกระมัง? อย่างไรเสีย ของอย่างบัญชีก็สามารถปลอมแปลงได้”เห็นฉินอวิ๋นฟานพูดตามตรง ฉินอวิ๋นฮุยจึงไม่อ้ำอึ้งอีก การยกเรื่องไม่ดีมาพูดแต่แรกมิใช่เรื่องน่าอายอันใด เพราะมันเกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ของพวกเขา เขาไม่อยากถูกฉินอวิ๋นฟานหลอก!“ฮ่า ๆ ๆ...”ฉินอวิ๋นฟานลั่นเสียงหัวเราะทันที “พี่รองทำงานรอบคอบดังคาด น้องเจ็ดเลื่อมใส แต่ท่านคิดมากไปแล้ว ถ้าต้องดูแลเมืองการค้าสามเมือง คนของข้าไม่มีทางพอ ถ้าพวกท่านไม่ส่งคนมาช่วยงาน ข้าคงทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ”“อ้อ? น้องเจ็ดพูดจริงรึ?!”เมื่อนั้นหัวใจที่ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ของฉินอวิ๋นฮุยจึงสงบลง หากเขาสามารถให้คนเข้าร่วมอยู่ในเมืองการค้าทั้งสามเมืองได้ เช่นนั้นเขาจะวางใจได้แล้ว เพราะจะรับประกันผลประโยชน์ของเขาได้ทั้งหมด!“พี่ใหญ่ พี่รอง พวกท่านวางใจได้เลย ระหว่างพวกเราพี่น้องแม้เป็นคู่ต่อสู้กัน แต่ต่อหน้าผลประโยชน์ของบ้านเมือง พวกเราต้องรวมใจเป็นหนึ่ง มีเพียงเช่นนี้ต้าเฉียนเราจึงจะเฟื่องฟูได้นิรันดร์”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “ดังนั้นในเรื่องการค้า เครือเหิงไท่จะรับผิดชอบกิจการหลักท
ฉินอวิ๋นฟานกล่าวอย่างจริงจัง “ต่อให้ใครกล้ามีความคิดส่วนตัวก็เปล่าประโยชน์ เพราะพวกเราต้องร่วมกันทำงาน หากไม่อยากเสียเมืองไป ไม่อยากตาย ทหารทุกคนจะต้องให้ความร่วมมือ เป็นหนึ่งเดียวสู้กับภายนอก”“ดี ดีมาก ความคิดนี้ไม่เลว!”เมื่อฉินอวิ๋นฟานกล่าวออกมา ไท่ซั่งหวงรู้อยู่แล้วว่าฉินอวิ๋นฟานต้องทุ่มเทเพื่อแผนการนี้ มิเช่นนั้นจะไม่มีทางคิดแผนการสมบูรณ์แบบเช่นนี้ออกมาได้“อื่ม ไม่เลว!”ฉินอวิ๋นฮุยไม่ได้ดีใจกับแผนการสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของฉินอวิ๋นฟาน เพราะแม้เช่นนี้จะเป็นเรื่องดีต่อบ้านเมืองจริง หากไร้ประโยชน์อันใดต่อพวกเขา ในทางกลับกัน พวกเขายังจะกลายเป็นคนที่ถูกฉินอวิ๋นฟานใช้งานอีกด้วยพวกเขาส่งทหารรักษาเมือง ฉินอวิ๋นฟานกอบโกยกำไรอย่างบ้าคลั่ง คิดแล้วฉินอวิ๋นฮุยก็อยากตบหน้าตัวเองสักฉาด ลักไก่ไม่สำเร็จเสียข้าวอีกหนึ่งกำมือโดยแท้!ทว่าไท่ซั่งหวงแสดงท่าทีชัดเจนแล้ว เขายังจะทำอะไรได้อีก?ฉินอวิ๋นฟานรู้ความคิดของพวกเขาดี อีกอย่าง ถ้าครองผลงานเองในเวลานี้จะเป็นการเลือกที่ไม่ฉลาดเอามาก ๆ ฉินอวิ๋นฟานไม่ทำเรื่องเบาปัญญาเช่นนี้หรอก!โบราณกล่าว ตบหน้าฉาดหนึ่งต้องให้พุทราหวานหนึ่งลูก อีกฝ่ายส่งทหารม
ขณะนี้ ทั่วทั้งท้องพระโรงเงียบกริบ ถ้อยคำชวนให้คนมีจิตใจฮึกเหิมของฉินอวิ๋นฟานวนเวียนอยู่ในหัวของ แม้ไท่ซั่งหวงเองก็ยังตกตะลึงพรึงเพริดกับคำพูดนี้ของฉินอวิ๋นฟาน!รัชทายาทวัยสิบแปดสิบเก้าคนหนึ่ง ช่างเป็นชายชาตินักรบเลือดร้อนไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน หากคนเช่นนี้เป็นจักรพรรดิ ไยต้องกลัวอนาคตต้าเฉียนจะไม่ศิวิไลซ์?“เกี่ยวกับการสร้างเมืองการค้าสี่แห่งในสี่ทิศของต้าเฉียน ทุกคนคัดค้านอย่างหนัก ข้าเข้าใจความรู้สึกของทุกคนมาก แต่ในเมื่อจะทำเรื่องนี้ ข้าก็ต้องยอมรับเสียงและความเห็นที่แตกต่าง ทุกคนว่ามาเถอะ”ฉินอวิ๋นฟานไม่รีบร้อน มีแต่ต้องทำให้ทำคนยอมรับเรื่องนี้จากใจจริง เขาจึงจะยึดสิทธิ์ความเป็นผู้นำได้ มิเช่นนั้นต่อให้ใช้กำลังผลักดันเรื่องนี้ คนเหล่านี้ต้องเล่นตุกติกลับหลังเขาแน่ เช่นนี้มีแต่จะทำให้รำคาญดังนั้นฉินอวิ๋นฟานเตรียมตัวกับการคัดค้านและความคิดของทุกคนแต่แรกแล้ว ต้องการแค่โอกาสประจวบเหมาะหนึ่ง เพราะคนที่ป่วยเป็นโรคอิจฉาตาร้อนมีมากเหลือเกิน มีแต่ต้องคิดหาทางหยดยาดวงตาให้พวกเขาสักหน่อย จึงจะขจัดต้นตอของปัญหาได้ “นี่...”ผู้คนมากมายแน่นขนัดพูดไม่ออกสักคำ เพราะต่างมีความกังวลอยู่ในใจ ฉ
นาทีนี้ถังเจิ้นไห่ถูกโจมตีทำร้ายทางจิตใจอย่างหนัก ฉินอวิ๋นฟานปากคอเราะรายน่ากลัวจริง ๆ การโจมตีของเขารวดเร็วนัก เขาต้านทานไม่ไหวเลยเขาจนปัญญากับการโจมตีของฉินอวิ๋นฟานแล้ว ได้แต่ใช้สถานะข่มขู่ฉินอวิ๋นฟาน หวังว่าฉินอวิ๋นฟานจะหยุดโจมตีเขาน่าเสียดาย แต่ไหนมาฉินอวิ๋นฟานก็ไม่ใช่คนใจบุญสุนทานอะไร และไม่เคยเป็นพวกยอมเสียเปรียบ หากมีคนโจมตีเขา ฉินอวิ๋นฟานจะไม่ใจอ่อนเด็ดขาด!ต้องถล่มอีกฝ่ายจนแพ้ราบคาบ นี่สิจึงจะเป็นเป้าหมายความเป็นคนของเขา และถังเจิ้นไห่ก็แตะเขตต้องห้ามของเขาพอดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉินอวิ๋นฟานย่อมไม่ไว้หน้าเขา!ครั้นพวกฉินอวิ๋นฮุยเห็นสภาพการณ์เช่นนี้ก็พากันมอบสายตาเห็นใจให้ถังเจิ้นไห่ พวกเขาเคยได้รับการสั่งสอนด้วยหมัดหนักจากฉินอวิ๋นฟานมานานแล้ว ในสถานการณ์ที่ไม่มีความมั่นใจเต็มร้อย หากหาเรื่องฉินอวิ๋นฟานก็เท่ากับรนหาที่ตาย!ไท่ซั่งหวงและจางเต้าหลินฉายรอยยิ้มพึงพอใจ แม้ถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานจะหยาบคายไม่รื่นหูไปบ้าง แต่สะใจยิ่งนัก! นักวางแผนร้ายเฒ่าเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง ถูกฉินอวิ๋นฟานฟาดกลับจนต้องสงสัยในชีวิต เด็ดสะระตี่แท้!“เกินไป? ตอนนี้ท่านรู้ว่าเกินไป? ตอนที่ท่านสาดน้ำคลำใส่
“ท่าน...”ถูกฉินอวิ๋นฟานด่าว่าหน้าด้าน ถังเจิ้นไห่โกรธจนหน้าเขียว แทบอยากสับฉินอวิ๋นฟานเป็นหมื่น ๆ ชิ้น เขาจำต้องยอมรับว่าฉินอวิ๋นฟานร้ายจริง ๆ! ในสภาวการณ์เช่นนี้ เขากลับไม่กลัวแม้แต่น้อย?“ท่านเทิ่นอะไร ท่านมันหน้าด้านเหม็นโฉ่ อายุอานามห้าสิบกว่าแล้ว มีแต่ความชั่วร้ายอยู่เต็มอก น่ารังเกียจโดยแท้!”ฉินอวิ๋นฟานไม่ไว้หน้าถังเจิ้นไห่สักนิด เอ่ยต่อ “เมื่อวานข้าเพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองอู่โจว ท่านรู้ได้ยังไงว่าข้าไม่คิดกระจายการเพาะปลูกทั่วแคว้น? ท่านให้โอกาสข้าพูดแล้วหรือยัง?!”“อีกอย่าง ปริมาณเมล็ดพันธุ์ที่ข้ามอบให้ทุกแคว้นมีจำกัด ใครกล้าไม่เคารพต้าเฉียน? ข้าคือบิดรมารดาปากท้องของพวกเขา ใครกล้าหือ?!”“แม้นมีแคว้นใดไม่เป็นเด็กดี ข้าจะระงับการส่งมอบเมล็ดพันธุ์ให้พวกเขาทันที ข้าจะดูสิว่าไอ้ไม่ดูตาม้าตาเรือหน้าไหนกล้าท้าทายขอบเขตต่ำสุดของข้า?!”ครั้นกล่าวออกมา ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่มีผู้ใดกล้าพูด หากเทียบกับการเคลือบแคลงสงสัยเมื่อครู่ การพูดเช่นนี้ของฉินอวิ๋นฟานยิ่งสามารถทำให้เขายืนอย่างมั่นคงมากขึ้นฉินอวิ๋นฟานคลี่คลายประการแรกของความผิดร้ายแรงสามประการได้แล้ว ถังเจิ้นไห่หน้าตึงจนน
“ได้!”ถังเจิ้นไห่พูดหน้าขรึม “ประการที่สองของความผิดร้ายแรงสามประการ รัชทายาทร่วมกันสร้างถนนกับแคว้นต่าง ๆ เรื่องนี้อึกทึกครึกโครมไปทั่ว ทันทีที่สร้างถนนที่กว้างยิ่งขึ้น การคมนาคมจะสะดวก คืออยากให้แคว้นรอบข้างรุกรานต้าเฉียนเราสะดวกยิ่งขึ้นหรือ? การกระทำเช่นนี้มิใช่แผนการล่มชาติแล้วมันคืออะไร?!”ซี้ด...เมื่อทุกคนได้ฟังต่างสูดลมเย็นเข้าปาก เกิดความสงสัยอย่างหนักกับจุดประสงค์ของฉินอวิ๋นฟาน ด้านหนึ่งมอบธัญพืช ด้านหนึ่งสร้างถนนกับทุกแคว้น จุดประสงค์จะชัดเจนเกินไปแล้วกระมัง?“ต่อ ประการที่สามเล่า!”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มเรียบ เขาก็อยากดูสิว่าถังเจิ้นไห่จะไปไกลขนาดไหน ช่างเป็นคนที่มีขอบเขตความรู้ความเข้าใจและวิสัยทัศน์โดยแท้ การกำหนดอนาคตของบ้านเมือง เป็นเช่นนี้ดังคาดหากให้พวกเฮ่อชินอ๋องเรืองอำนาจจริง ต้าเฉียนมิต้องจบเห่หรือ? ให้สวะพวกนี้ดูแลบ้านเมือง บ้านเมืองนั้นยังจะมีความหวังอะไร?พวกเขานอกจากจะมีความชั่วร้ายอยู่เต็มอก มีความคิดดำมืดอยู่เต็มสมอง ยังจะทำอันใดได้อีก?“หึ!”ถังเจิ้นไห่แค่นเสียงแล้วจึงเอ่ย “ประการที่สาม รัชทายาทร่วมมือกับแคว้นต่าง ๆ กีดกันต้าเยียน สังหารบุตรชายคนที่สี่ข
“อ้อ? ความผิดร้ายแรงสามประการของฟานเอ๋อร์? ไหนลองว่ามาดูสิ!”ไท่ซั่งหวงตั้งสมาธิ นึกสนใจขึ้นมาทันที อย่างลับ ๆ เขาให้ความสนใจกับพฤติกรรมของฟานเอ๋อร์มาก ไม่เคยได้ยินความผิดร้ายแรงสามประการอันใด เขาก็อยากดูสิว่าถังเจิ้นไห่จะพูดอะไรความผิดร้ายแรงสามประการเสมือนระเบิดลูกใหญ่ ทำให้สีหน้าทุกคนเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกขึ้นมา ยามนี้สายตาของทุกคนในที่นั้นต่างรวมศูนย์อยู่ที่ตัวของถังเจิ้นไห่“ประการแรกของความผิดร้ายแรงสามประการ ได้ยินว่ารัชทายาททำเมล็ดพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ขึ้นมา สามารถให้ผลผลิตสูงมาก เดิมนี่คือโอกาสดีที่สุดที่ต้าเฉียนเราจะแจ้งเกิด คิดไม่ถึงว่ารัชทายาทกลับมอบเมล็ดพันธุ์ผลผลิตสูงให้กับแคว้นต่าง ๆ รอบข้าง ช่วยให้พวกเขามั่งคั่งมากขึ้น”ถังเจิ้นไห่กล่าวเสียงหนัก “ขอถามทุกท่านในที่นี้ พฤติกรรมเช่นนี้ของรัชทายาทคือกำลังช่วยเหลือศัตรูน่ากลัวของเราหรือไม่? พฤติกรรมเช่นนี้ของเขา คือการขายชาติหรือไม่?!”ตูม...ครั้นถังเจิ้นไห่กล่าวถ้อยคำนี้ออกมา บรรดาขุนนางต่างอึกทึกครึกโครม คนทั้งโลกต่างรู้เรื่องที่เมืองจัวเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์แทบทุกคน และเรื่องที่ฉินอวิ๋นฟานลงนามสัญญากับแคว้นต่าง ๆ ก็รู
“อื่ม! ดี!”ไท่ซั่งหวงเอ่ยเสียงหนัก “เช่นนั้นข้าขอประกาศอย่างเป็นทางการ แต่งตั้งหวังอันสือเป็นหัวหน้าสำนักศึกษาหลวง เจี่ยงฝานฝานเป็นรองหัวหน้า การรับตำแหน่งนี้มีผลอย่างเป็นทางการ หัวหน้าขันทีเฉา ร่างราชโองการเดี๋ยวนี้ ประกาศต่อใต้หล้า!”เมื่อเรื่องราวสิ้นสุดลง ใจที่กระวนกระวายของฉินอวิ๋นฟานก็สงบ เขามองจางเต้าหลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง!ทว่าคนอื่น ๆ กลับมีความรู้สึกที่แปลกออกไป หลังจากหวังอันสือได้ขึ้นตำแหน่ง ทำให้พวกเขาตระหนักว่าสถานการณ์ในราชสำนักกำลังหลุดจากการควบคุมอย่างช้า ๆ ฉินอวิ๋นฟานกำลังจะครองราชสำนัก“เอาละ เรื่องสำนักศึกษาหลวงก็สิ้นสุดแล้ว แต่จะละเลยผลงานการไปเมืองอู่โจวของฟานเอ๋อร์ครั้งนี้ไม่ได้”ไท่ซั่งหวงกล่าวเสียงเข้ม “ฟานเอ๋อร์ไม่เพียงแต่ทำคำสัญญาเมื่อครึ่งปีก่อนสำเร็จ ยิ่งทำให้เศรษฐกิจต้าเฉียนเราพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว ท้องพระคลังเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ พสกนิกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างช้า ๆ ทุกคนต่างเห็นความยอดเยี่ยมของฟานเอ๋อร์”“ฟานเอ๋อร์ ว่ามาเถอะ เจ้าอยากได้อะไรเป็นรางวัล? ขอเพียงสมเหตุสมผล ข้าจะให้เจ้าดังปรารถนา!”ฉินอวิ๋นฟานรู้สึกดีใจมากที่
“...”‘ไม่ว่าจะเป็นใคร คนผู้นั้นก็รู้อยู่แก่ใจดี’ ประโยคเดียวของฉินอวิ๋นฟานทำให้ถังเจิ้นไห่สยบ แม่งเอ๊ย เขาก็ต้องรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว หากเขามีความจำเป็นพูดออกมาไม่ได้!การเล่นเกมเลี่ยงบาลีของฉินอวิ๋นฟานทำให้แนวป้องกันของถังเจิ้นไห่พังทลายลงโดยสิ้นเชิง เหล่าขุนนางต่างกัดฟันกรอด กลับทำอะไรไม่ได้ ฉินอวิ๋นฟานเฉกเช่นปลาหนีชิวลื่นไหลตัวหนึ่ง ทำอะไรเขาไม่ได้เลย!จางเต้าหลินที่อยู่ด้านข้างตกตะลึงกับการกระทำนี้ของฉินอวิ๋นฟาน เขาเคยเห็นคนหน้าด้าน กลับไม่เคยเห็นผู้ใดหน้าหนาไร้ยางอายเช่นฉินอวิ๋นฟานมาก่อน หน้าไม่อายที่สุด!คนคนหนึ่งปั่นหัวเหล่าขุนนางใหญ่เป็นว่าเล่น โมโหโทโสจนร่ำไห้หาพ่อร้องหาแม่ กลับจนปัญญา ดูสีหน้าเขียวปัดของถังเจิ้นไห่ จางเต้าหลินกลั้นหัวเราะอย่างหนัก กลั้นจนภายในจะบอบช้ำแล้ว“เอาละ ๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย พอแค่นี้เถอะ!”ไท่ซั่งหวงเห็นว่าพอประมาณแล้ว จึงตัดสินเรื่องนี้ในที่สุด ได้แต่บอกว่าฟานเอ๋อร์ใช้ไหวพริบและผลลัพธ์ก็คือว่าเป็นที่น่าพอใจ“จางไท่เว่ย ในเมื่อมีสามตัวเลือก และทุกคนก็แสดงจุดยืนของตัวเองแล้ว ท่านมีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร?”ไท่ซั่งหวงไม่ได้ยอมรับคว