เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว หวงต้าหยวนแสดงจุดยืนพร้อมพยายามให้เหตุผล ฉินอวิ๋นฟานย่อมไม่บีบคั้นคนอีก มิเช่นนั้นจะไม่ดีกับทุกฝ่ายฉินอวิ๋นฟานพูดอย่างจริงจัง “ลองว่าความคิดของเจ้ามาดู!”หวงต้าหยวนยกยิ้มมุมปาก แย้มยิ้มกระหยิ่มใจเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย “ไม่ขอปิดบัง ขาดแคลนอู่เหลียงเย่จริง ๆ เบียดเสียดแย่งมาแต่ละวันเพิ่งจะได้ร้อยกว่าไห ซึ่งมันไม่พอเลย”“ท่านก็ทราบว่าหอวั่งเจียงเราทำการค้า ขุนนางใหญ่โตพวกนั้นไม่เพียงชอบดูการแสดงของหญิงงาม ยิ่งนิยมดื่มสุราไปพลาง หากไม่มีอู่เหลียงเย่ ทุกคนก็ไม่อยากมาอุดหนุนแล้ว สำหรับเรา มันคือการโจมตีอย่างรุนแรง”หวงต้าหยวนไม่หมกเม็ด และไม่บอกความต้องการของนางและสถานการณ์ในปัจจุบันของหอวั่งเจียงโดยตรง หอวั่งเจียงให้บริการขุนนางใหญ่ของแคว้นต่าง ๆ มิขาดเงิน แต่ขาดอู่เหลียงเย่ในเมื่อฉินอวิ๋นฟานทำให้ตลาดหิวโหย ย่อมมองสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของพวกนางออก“อู่เหลียงเย่เข้าตลาดระยะหนึ่งแล้ว ผลลัพธ์ไม่เลว แน่นอน ข้าก็ทำไปเพื่อธุรกิจ เพื่อแสวงหาผลกำไร จะเปิดทางสะดวกให้ก็ใช่ว่าจะยาก แต่...ข้ามีเงื่อนไข”ฉินอวิ๋นฟานพูดเปิดอก“เชิญท่านกล่าวมาได้เลย ขอเพียงเป็นเรื่องที่หอ
“ได้ข้อมูล?”หวงต้าหยวนขมวดคิ้ว เหมือนกับที่นางสันนิษฐานจริง ๆ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก นางถามด้วยสีหน้าสับสน “ไม่ทราบท่านต้องการข้อมูลอะไร? พวกเราหอวั่งเจียงแค่ทำการค้า ไม่ทราบความหมายของท่าน”“เราต่างเป็นคนฉลาด ไยเจ้าหอหวงต้องแสร้งเป็นไม่เข้าใจต่อหน้าข้าด้วย?”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มบางพลางพูด “ในเมื่อเจ้าเชิญข้ามา ย่อมรู้จุดประสงค์ของข้า ถ้าเจ้ารับไม่ได้ เราคงไม่ได้นั่งคุยกันที่นี่ เจ้าว่าอย่างไร?”ฉินอวิ๋นฟานกล่าวเปิดโปง ปิดโอกาสทำไขสือของหวงต้าหยวนโดยตรง และฉินอวิ๋นฟานก็รู้ดีถึงวิธีการแล้วปัญญาของหวงต้าหยวน เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้จุดประสงค์การมาขอเขาถ้าหวงต้าหยวนไม่รู้จริง เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะร่วมมือกัน แต่ถ้ารู้ นั่นคือจัดการง่าย“ขออภัยรัชทายาท พวกเราหอวั่งเจียงทำการค้าเป็นหลัก ไม่ร่วมการต่อสู้ใด ๆ ในราชสำนัก และไม่เลือกที่จะอยู่ฝ่ายไหน นี่คือหลักการของเรา และเป็นเส้นต่ำสุดของเราเช่นกัน”หวงต้าหยวนไม่ทำไขสืออีก แต่แสดงจุดยืนของตัวเองอย่างจริงจัง อย่าว่าแต่ฉินอวิ๋นฟานที่ตอนนี้หัวเดียวกระเทียมลีบเลย ต่อให้องค์ชายรองมา พวกเขาก็ไม่สนับสนุนบอกข่าวอยู่ดีฉินอวิ๋นฟ
“อ้อ? เดิมพันหนัก? หมายความว่ายังไง?”ฉินอวิ๋นฟานถามด้วยความอยากรู้“รัชทายาทมอบสิทธิ์ตัวแทนขายอู่เหลียงเย่ให้กับพวกเราหอวั่งเจียง นี่คือมูลค่ามหาศาลจริง ข้าหวงต้าหยวนเลื่อมใสยิ่งนัก ในเมื่อท่านมองการณ์ไกลและมีความกล้าเช่นนี้ ข้าจะขี้เหนียวก็กระไรกระมัง”หวงต้าหยวนพลันพูด “แต่จากเรื่องนี้ มองออกได้ว่าสถานการณ์ของท่านในตอนนี้ไม่สู้ดีจริง ดังนั้นข้าจึงอยากทอดสะพานให้ท่านสักหน่อย ยกผลประโยชน์ส่วนหนึ่ง ดึงตระกูลเซี่ยงเข้าร่วมด้วย”ช่วงนี้หวงต้าหยวนตรวจสอบทำความรู้จักกับฉินอวิ๋นฟานรอบด้าน พบว่าฉินอวิ๋นฟานนอกจากจะมีความกล้าหาญห่วงใยใต้หล้า ยิ่งมีจิตใจกว้างขวางรับได้กับทุกสิ่ง กับมหาอำนาจไม่เคยถอย ปณิธานแน่วแน่นั้นทำให้นางรู้สึกศรัทธาและสิ่งที่ทำให้หวงต้าหยวนนึกไม่ถึงคือ ฉินอวิ๋นฟานกลับมีความกล้าเช่นนี้ อู่เหลียงเย่คือสุราที่ขายดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน มิมีหนึ่งใน ด้วยวิธีการของฉินอวิ๋นฟานในปัจจุบัน สามารถสะสมทรัพย์สินมหาศาลก้อนหนึ่งได้อย่างไม่มีปัญหาไม่คิดว่าเขาจะมอบโอกาสร่ำรวยนี้ให้กับหอวั่งเจียง แค่จุดนี้ ก็มิใช่องค์ชายโอหังอวดดีที่อยู่กินไปวัน ๆ รอความตายพวกนั้นจะเทียบติดดังนั้นนา
“นั่นสิ พี่จ้านสมกับที่เป็นลูกผู้ชายแท้ ๆ พลังรบแข็งแกร่งยิ่ง พวกเราพี่น้องสู้ไม่ได้เลย”......ฉินอวิ๋นฟานกำลังจะเรียกอู่จ้านกลับ ไม่นึกว่าเขาจะเมามันเช่นนี้ ผ่านไปสองชั่วยามกว่าแล้ว กลับยังไม่เสร็จ?พอได้ยินสองนางในห้องยอมจำนน ฉินอวิ๋นฟานไม่เพียงแต่ยิ้มเจื่อน ดูท่าหลายปีนี้อาจ้านคงอัดอั้นแย่แล้วแค่ก ๆ ๆ...ฉินอวิ๋นฟานกระแอมกระไอสองทีอยู่หน้าห้อง แม้ความบันเทิงจะสำคัญ แต่การไปตระกูลเซี่ยงสำคัญกว่า เขาจึงได้แต่รบกวนเรื่องดีของอาจ้านแล้ว“หา มาแล้ว มาแล้ว!”อู่จ้านได้ยินเสียงของฉินอวิ๋นฟานจึงรีบกระโดดลงจากเตียงทันที ใส่เสื้อผ้าด้วยความเร็วสูงสุด จากนั้นก็เปิดประตูพรวด หน้าแดงเถือกไปถึงคอ เหมือนเด็กน้อยที่ทำความผิด พูดแบบเขิน ๆ “ฟานเอ๋อร์ พวกเราจะไปกันแล้วใช่ไหม!”“อาจ้านสนุกสมใจแล้วหรือไม่?”ฉินอวิ๋นฟานถามอู่จ้านเกาหัวตอบ “สมใจ สมใจมาก สมกับที่เป็นหอวั่งเจียง บริการดีจริง สาว ๆ จิ้มลิ้ม มิน่าขุนนางใหญ่โตพวกนั้นถึงวิ่งหน้าตั้งมาที่หอวั่งเจียง”“เช่นนั้นก็ดี ตอนนี้ข้ามีเรื่องสำคัญมาก ๆ ต้องทำ จำต้องขัดจังหวะอาจ้าน รีบจะไปตระกูลเซี่ยงแน่ะ”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย“หา? ไปตระกูลเซี่ยง
ถูกตระกูลเซี่ยงปฏิเสธ หน้าฉินอวิ๋นฟานกลายเป็นสีตับหมูทันที เดิมนึกว่าบอกฐานะแล้วผู้นำตระกูลเซี่ยงเซี่ยงเส้าหลงจะออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง ไม่นึกว่านอกจากจะไม่เจอคน ยังถูกเด็กรับใช้หน้าประตูขับไล่อีกในฐานะที่เป็นรัชทายาทต้าเฉียน มีความเหนือกว่าขั้นสุด และเขายังมาพร้อมกับผลประโยชน์มหาศาล ไม่นึกว่าจะถูกอีกฝ่ายปฏิเสธอยู่นอกประตูอย่างไร้ไมตรี รู้สึกพ่ายแพ้ยับเยิน ทำให้ฉินอวิ๋นฟานรู้สึกหมดแรงเป็นเท่าตัว“เอ่อ คือว่า สหายน้อยท่านนี้ ที่รัชทายาทมาเยือนตระกูลเซี่ยงครั้งนี้เพราะมีเรื่องสำคัญจะหารือจริง ๆ จะไปรายงานอีกสักครั้งได้หรือไม่?”ตลอดทางฉินอวิ๋นฟานบอกเล่าแผนการกับอู่จ้าน อู่จ้านย่อมรู้ถึงความสำคัญของเรื่องนี้ ถึงฉินอวิ๋นฟานจะถูกปฏิเสธอยู่นอกประตู เสียหน้า แต่ถ้าเทียบกับความสำคัญของเรื่องนี้ เขายังอยากพยายามสักหน่อยอย่างไรเสีย ตระกูลเซี่ยงจัดว่าอยู่ในยุทธภพ ไม่อยู่ในระบบขุนนางของต้าเฉียน โดยมากแล้วพวกเขายึดถือคุณธรรมและการฝึกวิถียุทธ์ ไม่ทำตัวโดดเด่นมาก ไม่เข้าร่วมกับพรรคพวกฝ่ายใด เพราะวิถียุทธ์มีความพิเศษ ทันทีที่เข้าร่วมกับขั้วอิทธิพลใหญ่ จะต้องถูกอำนาจของราชวงศ์สะกดข่มแน่ดังนั้นนี
“อื่ม ข้ารู้แล้ว!”ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยสีหน้าหนักแน่น “เจ้าไปรายงานผู้นำตระกูลเซี่ยงเซี่ยงเส้าหลงอีกครั้ง บอกว่าข้าฉินอวิ๋นฟานรักษาโรคของท่านผู้เฒ่าได้ ถ้าไม่หายยินดีชดใช้ด้วยชีวิต”“หา? ท่าน ท่านรักษาเป็นรึ?”เด็กรับใช้หน้าประตูตกตะลึง สงสัยว่าตัวเองฟังผิดไป ฉินอวิ๋นฟานคือรัชทายาทแห่งราชวงศ์ผู้สูงส่งเชียวนะ จะเชี่ยวชาญการแพทย์ได้อย่างไร?“ฟานเอ๋อร์ เจ้า เจ้าบ้าไปแล้วรึ? นี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ”พออู่จ้านได้ยินฉินอวิ๋นฟานพูดก็ตกใจครึ่งตาย แข้งขาอ่อน วิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้วกึ่งหนึ่ง เรื่องรักษาโรคมีความเสี่ยงมากเป็นทุนเดิม ฉินอวิ๋นฟานกลับกล้าให้คำมั่นอย่างนี้?กำลังตระกูลเซี่ยงล้ำลึกมิอาจคาดเดา ต่อให้ฉินอวิ๋นฟานเป็นรัชทายาท ถ้าพวกเขาบ้าขึ้นมา เกรงว่าพวกเขาก็กล้าเอาดาบจ๊วกฉินอวิ๋นฟานเหมือนกัน“ไม่เป็นไร เจ้าไปทำตามที่ข้าบอกก็พอ”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มพูดอย่างมั่นใจ “หมอเทวดาหัวที่พวกเจ้าเชิญมารักษาท่านผู้เฒ่าไม่หายหรอก แถมยังจะหนักกว่าเดิมจนทำให้ท่านผู้เฒ่าตาย ถ้าอยากให้ท่านผู้เฒ่ารอด ก็ให้เซี่ยงเส้าหลงออกมาต้อนรับข้าเร็ว ๆ”ด้วยท่าทีแข็งกร้าวและความมั่นใจซึ่งล้นทะลักออกมาจากใบหน้าขอ
“ผู้นำตระกูลเซี่ยง ช่วยคนมิใช่เรื่องเกมเด็ก ข้าคือรัชทายาทต้าเฉียน จะเอาชีวิตของท่านผู้เฒ่าเซี่ยงมาล้อเล่นได้หรือ?”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนักแม้เขาจะไม่ใช่หมอมืออาชีพ แต่ในฐานะที่เป็นทหารหน่วยรบพิเศษสุดยอด จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการรักษาพื้นฐานและวิธีการรักษาฉุกเฉิน และอาการของท่านผู้เฒ่าเซี่ยงอยู่ในกรอบที่เขามั่นใจตัวยาที่เขาพูดมาทั้งหมดคือยาที่ใช้ลดอักเสบและลดไข้ ในฐานะที่เป็นทหารหน่วยรบพิเศษสุดยอดคนหนึ่ง อาจเกิดสงครามได้ทุกเมื่อ บาดเจ็บคือเรื่องธรรมดา เชี่ยวชาญวัตถุดิบยาเหล่านี้จึงเป็นหนึ่งในทักษะที่พวกเขาต้องมีสำหรับเขา การรักษาท่านผู้เฒ่าเซี่ยงง่ายอย่างพลิกฝ่ามืออู่จ้านในขณะนี้ตกใจจนหน้าเขียวแล้ว ฝีมือของเซี่ยงเส้าหลงอยู่ในตำนานเสมอ อีกทั้งยังมีความกตัญญูกตเวทีอย่างยิ่ง ถ้าเกิดปัญหาจะเป็นเรื่องร้ายแรงถึงชีวิต ฉินอวิ๋นฟานกลับกล้าทำเรื่องนี้?แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้ เขาไม่กล้าพูดอะไรมาก ได้แต่ตามหลังฉินอวิ๋นฟานติด ๆหลังจากได้รับคำตอบหนักแน่นมีพลังของฉินอวิ๋นฟาน เซี่ยงเส้าหลงตะลึงงันไปทั้งคน เพื่อช่วยบิดา เขาถึงขั้นจนตรอกแล้ว จำต้องขอความช่วยเหลือจากราชวงศ์บัดนี้ฉินอวิ๋น
ฉินอวิ๋นเซินทำท่าทำทางน่าสงสาร แต่ความจริงคือสร้างความดีความชอบให้ฉินอวิ๋นฮุยต่อหน้าเซี่ยงเส้าหลง เพื่อให้ตระกูลเซี่ยงติดค้างน้ำใจพวกเขา แบบนี้จะเท่ากับได้สร้างความสัมพันธ์กับตระกูลเซี่ยงแล้ว ต่อไปติดต่อกันหลาย ๆ ครั้งก็รวบตระกูลเซี่ยงเข้าพวกกับพวกเขาเสียเลย“องค์ชายแปด ท่านเกรงใจไปแล้ว ท่านปู่คือชีวิตของพวกเราตระกูลเซี่ยง ใช้เงินเท่าไรก็คุ้ม อีกอย่าง ท่านพาหมอเทวดาหัวมารักษาให้ท่านปู่ด้วยตัวเอง เทียนเวิ่นซาบซึ้งใจยิ่งนัก ไหนเลยจะกล้ารับเงิน?”เซี่ยงเทียนเวิ่นก้าวขึ้นหน้าพูด“คุณชายเทียนเวิ่น ข้าจะไม่รับเงินนี้เด็ดขาด ถ้าท่านจะให้จริง ๆ ก็รออีกสองสามวันท่านผู้เฒ่าหายดีแล้วค่อยมอบให้พี่รองข้าต่อหน้าเองเถอะ ข้าไม่กล้ารับเงินนี่หรอก ไม่อย่างนั้นพี่รองได้ตีข้าก้นลายแน่”ฉินอวิ๋นเซินอยู่ข้างกายองค์ชายรองหลายปี เขาเชี่ยวเรื่องมนุษยสัมพันธ์พื้นฐาน เพื่อดึงตระกูลเซี่ยง เรียกได้ว่ารอบคอบทุกฝีก้าว วางแผนอย่างละเอียด และเซี่ยงเทียนเวิ่นก็ปฏิเสธไม่ได้ด้วย“ได้ ในเมื่อองค์ชายแปดกล่าวเช่นนี้ ข้าจะรับเงินนี่ไว้ เทียนเวิ่น เอาไว้ปู่เจ้าหายดีแล้วต้องไปขอบคุณองค์ชายรองต่อหน้าด้วยล่ะ”เซี่ยงเส้าหลงร