ลากสังขารอันอ่อนล้ากลับถึงบ้านก็ถูกมู่หรงจิ่นปลอบโยนด้วยรูปแบบนี้ ฉินอวิ๋นฟานในตอนนี้ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือละเหี่ยใจดี นี่คือน้ำแกงตัวเดียวอันเดียวของเสืออันเป็นของบำรุงชั้นเลิศเชียวนะ!เห็นน้ำแกงตัวเดียวอันเดียวของเสือที่มู่หรงจิ่นยกมาตรงหน้า ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก กระทั่งสงสัยว่าเมื่อคืนตัวเองโชว์ลีลาได้ไม่ดีหรือเปล่า จึงถูกมู่หรงจิ่นเตือนด้วยวิธีการนี้“ไอ้หยา ทำไมท่านถึงเป็นคนอย่างนี้นะ? ข้าสู้เข้าครัวด้วยตัวเอง ตุ๋นค่อนวันจึงจะเสร็จ”นึกถึงภาพเร่าร้อนเมื่อวาน มู่หรงจิ่นอายจนทำตัวไม่ถูก ดวงหน้าหมดจดแดงซ่านไปถึงคอในพริบตา นึกถึงช่วงนี้ฉินอวิ๋นฟานลำบากอย่างนั้น จึงตุ๋นน้ำแกงบำรุงเพื่อเขาเป็นการเฉพาะ ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะนิสัยไม่ดีเช่นนี้ คิดออกนอกทางอยู่เรื่อย“ได้ ๆ ๆ ข้าดื่ม ข้าจะดื่มนะ!”ฉินอวิ๋นฟานทำหน้าเหยเก ยกชามขึ้นมาแล้วก็ดื่ม ทันทีที่เข้าปากก็นึกเสียใจเดี๋ยวนั้นความจำเพาะอย่างยิ่งของตัวเดียวอันเดียวก็คือกลิ่นสาบและกลิ่นคาวที่ฉุนกึก ถ้าไม่มีเครื่องเทศจำนวนมากเสริมยากกระเดือกลง เห็นชัดว่ามู่หรงจิ่นเข้าครัวเป็นครั้งแรก ไม่มีประสบการณ์อะไร กลิ่นสาบและกลิ่นคาวแทง
“ใช่ พี่หยวน ขนาดพวกเขาก็บอกฐานะแล้วนะ แต่ก็ยังถูกฉินอวิ๋นฟานไล่ไปต่อท้าย ข้ามักรู้สึกว่าเขาจงใจหาเรื่องพวกเรา”บ่าวรับใช้ผู้นั้นเล่าความอย่างไม่รับความเป็นธรรม“เอาละ ข้ารู้แล้ว เจ้าออกไปเถอะ”พี่หยวนหน้าไม่สบอารมณ์ หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่งก็ไปที่ห้องของต้าซวงกับเสี่ยวซวง“พี่หยวน มีอะไรหรือ?”ต้าซวงเห็นพี่หยวนมาถึงห้องโมโหควันออกหู พวกนางพี่น้องจึงถามด้วยความห่วงใย“ข้าให้คนต่อแถวหน้าประตูภัตตาคารต้าเฉียนกลับถูกฉินอวิ๋นฟานไล่กลับไป ได้แต่ซื้ออู่เหลียงเย่ทั้งหมดของวันพรุ่งนี้ คิดจะเหมาอู่เหลียงเย่อีกห้าวันข้างหน้าคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”พี่หยวนพูดแบบโกรธมาก“อะไรนะ? หรือว่า หรือว่าพวกเราจะถูกเล่นงานแล้ว?”เวลานี้ต้าซวงและเสี่ยวซวงตกใจอย่างหนัก พวกนางแค่ต่อแถวตามปกติเท่านั้น ทำไมจู่ ๆ ถึงถูกไล่กลับล่ะ? สามารถไต่เต้าอยู่ในหอนางคณิกาชั้นสูงวั่งเจียงถึงระดับนี้ ย่อมมีสติปัญญาล้ำเลิศ นางรู้สึกทันทีว่าถูกฉินอวิ๋นฟานเล่นงานแล้วพี่หยวนขมวดคิ้วมุ่นพูด “ข้ากลับไม่กลัวถูกเล่นงาน ข้าแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ เขาถึงมุ่งเป้ามาที่หอวั่งเจียง พวกเราไม่เคยมีความเกี่ยวข้องกับฉินอวิ๋นฟานม
“ให้เขาเข้ามาเถอะ!”ฉินอวิ๋นฟานเพิ่งเดินออกมาจากห้องหนังสือก็เห็นชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งกำลังยื้อยุดฉุดกระชากกับองครักษ์ของตำหนักรัชทายาท ฉินอวิ๋นฟานพอใจกับการแสดงออกของพวกเขามาก สมกับที่เป็นยอดทหารที่บ่มเพาะออกมาจากค่ายทานหลางแม้จะเป็นองค์ชายใหญ่ฉินอวิ๋นคังก็ยังถูกพวกเขาสกัดอย่างแข็งกร้าวอยู่นอกประตูเหมือนเดิม ในภาพจำของฉินอวิ๋นฟาน นี่น่าจะเป็นครั้งที่สองที่ฉินอวิ๋นคังถูกปฏิเสธให้อยู่ข้างนอก“น้องเจ็ด นี่เจ้าหมายความว่ายังไง? ข้ามาหาเจ้าสองครั้งแล้ว แต่เจ้าหลบหน้าไม่พบ ควรแล้วหรือ?”ในฐานะที่เป็นองค์ชายใหญ่แห่งราชวงศ์ต้าเฉียน ฐานะสูงส่งเพียงใด เพื่อสุราไหเดียวถึงกับยอมบากหน้ามาขอน้องชายคนนี้ ไม่นึกว่าจะถูกขวางอยู่นอกประตูหนแล้วหนเล่าฉินอวิ๋นคังที่ศักดิ์ศรีเสียหายอย่างหนักปะทุอารมณ์เดี๋ยวนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเจอตัวฉินอวิ๋นฟานให้ได้ วันนี้ต้องได้เหตุผล!“พี่ใหญ่ ข้าก็จนใจนะ ระเบียบก็คือระเบียบ ข้าจะอำนวยความสะดวกให้ท่านได้ยังไง?”ฉินอวิ๋นฟานส่ายหน้าพูด“หึ พูดเสียน่าฟัง เจ้าก็เป็นคนตั้งระเบียบเองไม่ใช่รึ?”องค์ชายใหญ่แค่นฮึเสียงหนึ่ง “อีกอย่าง พวกเราเป็นพี่น้องแท้ ๆ ข้าแค่อย
องค์ชายใหญ่จี๊ดกับคำพูดนี้ของฉินอวิ๋นฟาน กว่าจะได้เจอตัว ไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนี้ ไม่ได้สุราแต่ได้อารมณ์โกรธมาเต็ม ๆ“เอาละ พี่ใหญ่ ไม่จำเป็นต้องโมโหจริง ๆ”ฉินอวิ๋นฟานรู้ว่าต่อไปยังต้องรีดเงินจากฉินอวิ๋นคัง จะบีบคั้นเขาไม่ได้ จึงป้อนคำหวานใส่ทันทีเขารีบพูด “เมื่อวานไท่เว่ยซื้อไปตั้งเก้าสิบแปดไหมิใช่หรือ? ท่านก็เอาจากเขาหน่อยสิ แค่นี้ก็แก้ปัญหาได้แล้ว อีกอย่าง ขายสามร้อยไหทุกวัน ไม่นานในตลาดจะมีเหล้ามากมาย”“หึ เจ้าไม่พูดยังดี พูดถึงไท่เว่ยจางเต้าหลินแล้วข้าก็โมโห เมื่อวานมาหาเจ้าไม่เจอ ข้าก็เลยไปที่จวนไท่เว่ย ผลกลับดีเลย เขาปิดประตูขอบคุณแขก ไม่เจอตัว ตอนนี้ข้าล่ะอยากรู้นัก พวกเจ้าเตี๊ยมกันมาก่อนแล้วใช่ไหม?”ฉินอวิ๋นคังพูดแบบควันออกหู“เอ๋...ไม่นะ”พอได้ยินว่าจางเต้าหลินปิดประตูขอบคุณแขก ฉินอวิ๋นฟานก็ทำหน้าประหลาด อดด่าในใจไม่ได้ จิ้งจอกเฒ่านี่ร้ายจริง ๆ ดูท่าคงมองแผนการของเขาออกแล้ว ก็เลยปฏิเสธคนที่มาขอเหล้าให้อยู่นอกประตู“พี่ใหญ่ ไม่งั้นข้าจะออกความคิดให้ท่านอีกเป็นอย่างไร”ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยความลำบากใจ “ภัตตาคารต้าเฉียนมีทั้งหมดหกสาขา แต่ละสาขาจะขายอาหารชุดหนึ่งหมื่นชุด อ
“ใหญ่ นี่มันเป็นเรื่องน่ายินดีนะ!”พอองค์ชายใหญ่บอกว่าจะเชิญคนหมื่นคนกินมื้อใหญ่ ฉินอวิ๋นฟานก็อึ้งไปเลย คนทั่วไปไม่เด็ดขาดแบบนี้ สำหรับผู้ส่งส่งมือกุมอำนาจเหล่านั้น ถึงจะให้สุนัขก็จะไม่ให้คนยากไร้ให้เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง ฉินอวิ๋นคังใจป้ำเช่นนี้ รับปากฉับไว เชิญคนหนึ่งหมื่นคนกินอาหารได้แบบตาไม่กะพริบ ต่อให้มีความต้องการส่วนตัวแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปจะสามารถทำได้“ย่อมเป็นเช่นนั้น ฐานที่ข้าคือองค์ชายใหญ่ของราชวงศ์ต้าเฉียน จะเชิญคนยากคนจนมากินข้าวมื้อใหญ่หน่อยจะเป็นไรไป? นี่ไม่ใช่เรื่องที่ข้าควรทำอยู่แล้วรึ?”ยามนี้ อย่าให้พูดเลยว่าฉินอวิ๋นคังอารมณ์ดีแค่ไหน เดิมก็เพิ่มเติมเต็มความปรารถนาของปากท้องตัวเอง ไม่นึกว่าด้วยการดำเนินการของฉินอวิ๋นฟานจะกลายเป็นเรื่องเชิดชูเกียรติศัพท์ทั่วหล้า เรื่องดีแบบนี้เขาต้องทำอยู่แล้ว แถมยังต้องโฆษณาป่าวประกาศอย่างยิ่งใหญ่ด้วย“พี่ใหญ่ ในเมื่อพวกเราจะทำความดี จะทำวันเดียวก็ไม่ได้กระมัง? ไม่อย่างนั้นพี่รองต้องว่าว่าท่านทำเป็นท่าแน่ ถึงตอนนั้นเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”ฉินอวิ๋นฟานเห็นองค์ชายใหญ่ตกหลุมพรางแล้วจึงรีบกระพือไฟอยู่ข้าง ๆพอองค์ชายใหญ่
ฉินอวิ๋นฟานรีบยิ้มตาหยี “ต้องขออภัยแม่นางทั้งสองจริง ๆ ช่วงนี้ข้ายุ่งมากก็เลยไม่มีเวลาพบพวกเจ้า ไม่ทราบว่าพวกเจ้ามาหาข้ามีธุระอะไรหรือ?”แม้แม่นางต้าซวงและแม่นางเสี่ยวซวงจะมีโฉมงามวิไลลักษณ์ดีงามชวนให้คนใจสั่น แต่ฉินอวิ๋นฟานยังระงับหัวใจที่เต้นเร่า ๆ นั้นได้ จากนั้นคือรูปแบบการสนทนาอย่างเป็นทางการที่สุด“เอ่อ...”สองดรุณีนิ่งไป รัชทายาทรู้อยู่เต็มอกยังจะถาม? รู้ดีแต่ทำเป็นไม่รู้จริง ๆ พวกนางจึงได้แต่กล่าวตามตรง “รัชทายาท ข้าน้อยมาหาท่านก็ด้วยมีธุระอยากปรึกษาด้วยจริง ๆ”“คาดว่าท่านคงทราบแล้ว หอวั่งเจียงของพวกเราทำการค้า ซึ่งยอดขายสุรากินสัดส่วนส่วนใหญ่ ถ้าไม่มีอู่เหลียงเย่ของท่าน เกรงว่าจะกระทบกระเทือนกับหอวั่งเจียงเราในแบบพังพินาศได้”“อ้อ? อย่างนี้นี่เอง!”ฉินอวิ๋นฟานทำเป็นเข้าใจทันที จากนั้นจึงเอ่ย “ความรู้สึกของพวกเจ้าข้าเข้าใจดี แต่ถึงข้าอยากจะช่วยก็ช่วยไม่ได้ ปริมาณการผลิตอู่เหลียงเย่มีจำกัด คนที่อยากซื้อมีมาก ถ้าใครก็มาขอทางสะดวกกับข้ากันหมด และข้าก็เปิดทางให้ เช่นนั้นการค้าของข้าจะทำยังไง?”“ปราศจากกฎและมาตรฐานแล้วไซร้ ไม่ว่าอะไรก็มิอาจเป็นรูปทรงที่สมบูรณ์ หอวั่งเจียงของพ
“ช่างใหญ่หลู่ นี่เป็นของดีที่ข้าเอามาให้เจ้าโดยเฉพาะเลยนะ เทียบกับของที่เจ้ากินยามปกติไม่ได้หรอก”ฉินอวิ๋นฟานพูดพลางเปิดกล่องอาหาร กลิ่นหอมฉุยปะทะจมูก หลู่หนีตัวนิ่งฉับพลัน กลิ่นนี้จะหอมแล้วไปหลู่หนีถามด้วยใบหน้าประหลาดใจ “รัชทายาท นี่ นี่คืออะไรหรือขอรับ? เป็นเนื้อของงูอะไรหรือ?”“ไม่ใช่ เจ้าชิมดูสิ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะน้อย ๆ หลู่หนีคือหัวใจหลักด้านเทคโนโลยีของเขา ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากหลู่หนี ประสิทธิภาพแผนการของเขาจะลดลงฮวบ การพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำพวกนี้ จำเป็นต้องมีช่างที่มีระดับสูงเหนือขั้นจึงจะทำได้ หลู่หนีเติมเต็มจุดนี้ได้อย่างสมบูรณ์หลู่หนีไม่คิดมาก คีบเนื้อปลาไหลขึ้นมาแล้ววางในปาก จังหวะที่เข้าปาก เนื้อนุ่มลื่นละเอียดอ่อนกระแทกต่อมรับรสของเขาในพริบตาจึงโพล่งปากออกมาอย่างเหลือเชื่อ “รัชทายาท นี่ นี่คืออะไรหรือขอรับ อร่อยเกินไปแล้วกระมัง? แทบจะเป็นรสโอชาในแดนมนุษย์!”“นี่คืออาหารขึ้นชื่อในอนาคตของภัตตาคารต้าเฉียน ปลาไหลน้ำแดงกับปลาไหลผัดพริก แถมยังเป็นสูตรลับเฉพาะด้วยนะ แค่เจ้าอยากกินก็จัดการได้ทุกเมื่อ รับรองว่าพอ!”ฉินอวิ๋นฟานตบบ่าของหลู่หนีพลางพูดครั้นได้ยิน หล
“ขอบคุณเหลือเกินขอรับ! รัชทายาทก็คือป๋อเล่อ ของหลู่หนี หลู่หนีชาตินี้ยากจะลืม!”หลู่หนีคุกเข่าลงตรงหน้าฉินอวิ๋นฟานดังตุบ สวัสดิการเช่นนี้ทำให้เข้าซาบซึ้งจากใจประหนึ่งเขื่อนกั้นน้ำเหลืองแตก ครั้งปะทุยากจะขวางโบราณว่าไว้ มีน้อยจึงล้ำค่า สำหรับคนที่มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่เหล่านั้น แย่งกันหัวร้างข้างแตกยังยากจะครอบครอง แต่เขาหลู่หนีกลับได้อู่เหลียงเย่แบบไร้ขีดจำกัด ความรู้สึกเหนือกว่าอย่างยิ่งนี้ ทำให้เขาประทับในสุดซึ้ง“ช่างใหญ่หลู่ คนเราน่ะ บางครั้งการเลือกสำคัญกว่าความพยายาม นี่คือสิ่งที่เจ้าควรได้รับ วินาทีที่เจ้าเลือกข้าฉินอวิ๋นฟาน ข้าก็เห็นเจ้าเป็นคนกันเองแล้ว คนอื่นจะสูงส่งมีอำนาจยังไง ในสายตาของข้ามิสู้หนึ่งนิ้วเท้าเจ้า”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย“ขอรับ ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!”หลู่หนีผงกศีรษะแรง ๆ ในตอนที่เขากำลังจะจับตะเกียบอีกครั้ง อยู่ ๆ ในห้องก็มีเสียงหวานหยาดเยิ้มดังมา จากนั้นเด็กสาวน่ารักสดใสคนหนึ่งก็ปรากฏตัว“ท่านพ่อ หอมจังเลย ท่านมีของอร่อยไม่เรียกข้าอีกแล้วนะ เกินไปจริง ๆ”จังหวะที่สาวน้อยโผล่ออกมา ฉินอวิ๋นฟานหัวใจร้อนรุ่มดวงนั้นของเขาพลันสั่นไหว ชั่วพริบตาเดียว ดังตกสู่ห้วงทะเลแห่