แชร์

บทที่ 127

ผู้แต่ง: เมิ่งซานเชียน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ฉินอวิ๋นฟานในตอนนี้ทั้งตกใจและดีใจ ทุกวินาทีล้วนเชื่อมโยงกับประสาทที่ตึงเครียดของเขา ทันทีที่ทางลับเปิดออกฉินอวิ๋นฟานก็พุ่งตัวลงไป

อู่จ้านเห็นสภาพการณ์รีบพูดเตือน “รัชทายาท ระวังอาวุธลับ”

“ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟข้าก็ไม่สน สำหรับจิ่นเอ๋อร์ ทุกวินาทีคือความทรมาน คือความเป็นความตาย ข้าต้องไปช่วยนางออกมาทันที”

ฉินอวิ๋นฟานไม่สนใจว่าจะมีอาวุธลับหรือไม่ นึกถึงว่าจิ่นเอ๋อร์ถูกกักขังจนหวาดกลัวสิ้นหวัง หัวใจของเขาก็เจ็บราบกับถูกมีดกรีด เขากลัวว่าจิ่นเอ๋อร์จะได้รับอันตราย กลัวว่าจิ่นเอ๋อร์จะสิ้นหวัง

“หลัวเหิง พวกเจ้ารีบตามมา”

คำเตือนไร้ผล อู่จ้านจึงไม่พูดอะไรอีก พาทุกคนลงห้องใต้ดินอย่างเร็วรี่ ห้องลับคือห้องที่ไม่ใหญ่มากและมืดสนิท

ครั้นทุกคนเห็นภาพนี้ก็อึ้งกิมกี่ ทำไมถึงว่างเปล่าล่ะ? ไหนว่าฉินอวิ๋นผู่ลงไปแล้วไง?

“เกิดอะไรขึ้น? เป็นห้องลับห้องเดียว แต่ไม่เห็นเงาฉินอวิ๋นผู่เลย”

“ผู้คุมนั่นคงไม่ได้หลอกเรากระมัง? จงใจล่อให้พวกเราหาผิดที่จะได้ถ่วงเวลา?”

“ถ้าเป็นแบบนี้งั้นก็น่ากลัวเกินไปแล้ว เบาะแสทั้งหมดถูกตัดขาดหมด จะทำยังไงดีละเนี่ย?”

ตรงหน้าคือทางตัน ทุกคนตกอยู่ท่ามกลางความสับสนอีกครั้ง รั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 128

    เห็นสภาพน่าเวทนาของมู่หรงจิ่นเช่นนี้ ฉินอวิ๋นฟานไหนเลยจะคำนึงอะไรได้มาก รีบเดินไปอยู่ตรงหน้ามู่หรงจิ่นแล้วโอบนางเข้าอ้อมอก หยดน้ำในดวงตาไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว“ขอโทษ จิ่นเอ๋อร์ ข้ามาช้าไป ขอโทษ!”ฉินอวิ๋นฟานกอดมู่หรงจิ่นที่อนาถจนมิอาจทนมอง กล่าวคำขอโทษไม่หยุด ความเศร้าโศกและเคียดแค้นผสมผสาน ไฟโทสะพุ่งทะยานขึ้นฟ้า นี่คือผู้หญิงคนแรกของเขาหลังจากทะลุมิติมา คือผู้หญิงคนแรกที่เขารักไม่อาจวางมือไม่นึกว่าจะถูกคนทรมานจนเป็นเช่นนี้?ฉินอวิ๋นฟานเดือดแล้ว!เขาเดือดโดยสิ้นเชิงแล้ว!“พี่อวิ๋นฟาน ได้พบกับท่านอีกครั้งข้าดีใจจริง ๆ ผัวจ๋าที่รักของข้า ข้านึกว่าพวกเราต้องจากกันชั่วนิรันดร์แล้ว ไม่คิดว่ายังได้พบกันอีก ทั้งหมดนี้ราวกับเป็นความฝัน”มู่หรงจิ่นดีใจจนน้ำตาร่วงริน ขดตัวอยู่ในวงแขนของฉินอวิ๋นฟาน ร่างกายสั่นเทาไม่หยุด มีเพียงอ้อมกอดนี้จึงทำให้นางอุ่นใจและวางใจอย่างหาที่เปรียบมิได้“ไม่หรอก มีข้าอยู่ ใครก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้ คนที่ทำร้ายเจ้าจะมีแค่จุดจบเดียว นั่นคือตาย!”เสียงของฉินอวิ๋นฟานทุ้มต่ำกลับมีความเผด็จการเต็มเปี่ยม ทุกคนที่ได้ยินเสียงของเขาต่างสัมผัสได้ถึงความโกรธไร้รูปร่าง ในดวงต

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 129

    ฉินอวิ๋นฟานเห็นใบหน้าอัปลักษณ์และชั่วร้ายของฉินอวิ๋นผู่แล้วพาลให้รู้สึกขยะแขยงที่สุดการอธิบายและการดิ้นรนทั้งหมดของเขา ในสายตาของฉินอวิ๋นฟานเป็นแค่เดรัจฉานที่ดิ้นรนท่ามกลางความจนตรอก จุดจบในวันนี้ของฉินอวิ๋นผู่มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือตาย!ฟั่บ...ฉินอวิ๋นฟานที่กำลังโกรธเกรี้ยวหยิบแส้ขึ้นมาจากพื้นแล้วเฆี่ยนลงบนตัวของเขาหนัก ๆฉินอวิ๋นผู่ที่มีบาดแผลเต็มตัวถูกลงแส้อีกครั้ง ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้เขาแผดเสียงร้องขึ้นมาแบบปอดฉีกหัวใจแหลกลาญ“อ๊า อ๊า อ๊า...”ฉินอวิ๋นฟานไม่ได้หยุดมือเพราะการร้องเสียงหลงของฉินอวิ๋นผู่ ทุกครั้งที่เขาเฆี่ยนลงไปล้วนใช้กำลังทั้งหมดที่มี รุนแรงกว่าเมื่อวาน เพราะมีแต่อย่างนี้จึงจะระบายความแค้นไม่มีสิ้นสุดในใจของเขาได้“น้องเจ็ด ข้าผิดไปแล้ว ข้าสำนึกผิดแล้วจริง ๆ ขอร้อง เจ้าอย่าเฆี่ยนอีกแล้ว อย่าเฆี่ยนอีกเลย”ลงแส้สองสามที บนตัวฉินอวิ๋นผู่เต็มไปด้วยรอยเลือดอย่างรวดเร็ว เขาในตอนนี้ราวกับหนูข้างถนนที่พยายามหนีสุดชีวิต พยายามหลบหนีการเฆี่ยนตีของฉินอวิ๋นฟานแต่น่าเสียดาย ไม่ว่าเขาจะหลบอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ ทางออกสองทางถูกปิดไปแล้ว เวลานี้เขาเสียใจนัก ทำไมถึงไ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 130

    ฉินอวิ๋นฮุยสับเปลี่ยนแนวคิดโดยตรง หลังจากทำความรู้จักกับฉินอวิ๋นฟานในหลายวันนี้ คนผู้นี้ดื้อรั้นที่สุด คิดจะให้เขาปล่อยฉินอวิ๋นผู่น้องชายแท้ ๆ คือเรื่องไม่ง่ายเด็ดขาดเรื่องหนึ่ง“คลายความโกรธ? เจ้าคิดว่านี่คือเรื่องที่คลายความโกรธไม่คลายความโกรธงั้นรึ?”ฉินอวิ๋นฟานแววตาลุ่มลึกมากขึ้นทุกที ยิ่งรู้ว่านี่คือการพูดแก้ต่างให้น้องชายของฉินอวิ๋นฮุย แต่น่าเสียดาย เขาไม่มีเปิดโอกาสนี้ให้อีกฝ่ายหรอกเขาเอ่ยอย่างเย็นชาต่อ “ราชวงศ์ต้าเฉียนมีกฎอารยะระหว่างนางสนม องค์ชายและญาติฝ่ายหญิง หากมีผู้กระทำการผิดกฎเหล็ก ไม่ว่ามันจะเป็นใคร จะต้องประหารที่หน้าประตูวังหลวง หากมีผู้ขัดขืนประหารได้ทันที ประกาศต่อใต้หล้าเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง หรือว่าเจ้าลืมไปหมดแล้ว?”“อะไรนะ? ประหารหน้าประตูวังหลวง?”พอฉินอวิ๋นผู่ได้ยินคำนี้ก็ลนลาน ความครั่นคร้ามกระจายอยู่ทั่วหน้าอันซีดเผือด ตอนนี้เองเขาจึงตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่อง รีบร้องออกไป “พี่รอง ข้าผิดไปแล้ว ข้าสำนึกแล้วจริง ๆ ขอร้องละ ท่านต้องช่วยข้านะ ต้องช่วยข้าให้ได้นะ” “ข้ายังเด็ก ข้ายังไม่อยากตาย ท่านต้องคิดทุกวิถีทางช่วยข้าให้ได้นะ!”“หุบปาก!”ฉินอ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 131

    ทันทีที่มู่หรงจิ่นได้ยินคำพูดนี้ของฉินอวิ๋นฟาน ร่างอรชรสะท้าน ซาบซึ้งใจอย่างยิ่งจ้องเงาร่างสูงใหญ่ของฉินอวิ๋นฟาน ท่วงทำนองกล้าแกร่ง กอปรกับคำสัญญาที่ให้ไว้กับตน มู่หรงจิ่นมิอาจสงบใจได้อยู่นาน หากกล่าวจากมุมมองของผลประโยชน์ เสียสละให้นางรับกับการเหยียดยามเล็กน้อยแลกกับผลประโยชน์ทางการเมืองของฉินอวิ๋นฟานคือการเลือกที่ดีที่สุดจริง ๆให้นางคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง ต่อหน้าองค์ชายของผู้แข็งแกร่ง ฉินอวิ๋นฟานกลับไม่ยอมถอยให้แม้แต่ก้าวเดียว ยังคงรักษาสัจจะ มั่งคงถึงที่สุด ผู้ชายที่เห็นนางดังชีวิตทำให้นางทั้งรักทั้งละอายใจตอนนี้เอง ไท่ซั่งหวงและคนอื่น ๆ มาถึงแล้ว แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่ปรากฏตัว หลบฟังทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ในที่ลับนิสัยแน่วแน่และการรักษาสัจจะของฉินอวิ๋นฟานทำให้ไท่ซั่งหวงแย้มยิ้มน้อย ๆ“ฉินอวิ๋นฟาน ต้องให้ข้าทำยังไงเจ้าถึงจะปล่อยน้องห้า?”เกลี้ยกล่อมไม่เป็นผล ฉินอวิ๋นฮุยพูดด้วยสีหน้าดำทะมึน “ข้าขอแค่เรื่องเดียว นั่นคือให้ทางรอดกับน้องห้า แค่นี้เท่านั้น หวังว่าเจ้าจะเห็นแก่ส่วนรวม”ฉินอวิ๋นฟานตอบเสียงเย็น “บางคนคือคน แต่บางคนเยี่ยงปีศาจในแดนมนุษย์ ขอเพียงมันยังอยู่ จะต้องมีค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 132

    เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นผลลัพธ์ที่ฉินอวิ๋นฟานให้เฉินม่อสืบ พอเขารู้พฤติการณ์ชั่วช้าเหล่านี้ของฉินอวิ๋นผู่ก็ทำให้จิตใจของเขาสงบไม่ได้อยู่นาน คนเยี่ยงนี้คู่ควรอยู่บนโลกนี้รึ?กับการไต่ถามของฉินอวิ๋นฟาน ฉินอวิ๋นฮุยหมดแรงโต้กลับ เขารู้การกระทำผิดของน้องชายมานานแล้ว เพียงแต่ด้วยใจที่ต้องการปกป้องน้องชาย จึงได้แต่ใช้เงินและอิทธิพลยุติปัญหา“ความผิดพวกนี้ที่เจ้าพูดข้าไม่ปฏิเสธ แต่เขาคือน้องชายข้า ข้าต้องรับผิดชอบและมีหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยของเขา มิเช่นนั้นข้าที่เป็นองค์ชายรองจะดูไม่เอาไหนหรือ?”ฉินอวิ๋นฮุยยังคงไม่เข้าใจเรื่องที่ฉินอวิ๋นฟานโกรธ ไม่เข้าใจทัศนคติในคุณค่าเหมือนเดิม ในสายตาของเขา เขาคือองค์ชายผู้สูงศักดิ์ มีอำนาจสูงสุดไม่ว่าน้องชายจะทำผิดอะไร เขาจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของน้องชายเท่านั้น มิใช่ความถูกผิดของเรื่อง และนี่ก็คือความคิดซึ่งเห็นแก่ตัวและคับแคบ“จะพูดพล่ามกับมันมากไปทำไม? ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องลูกชายข้าสักเส้นขน ข้าเหอปี้อวี้จะราวีเจ้าไม่เลิกแน่!”ตอนนี้เอง เหอปี้อวี้พาลูกน้องกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาด้วยสีหน้ามืดมน“เสด็จแม่ ท่านมาได้สักที มาได้สักที ช่วยข้า ช่วยข้านะ ผู่เอ๋อ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 133

    ขณะเห็นภาพนี้ ทุกคนในที่นั้นต่างตาโตอ้าปากค้าง ในดวงตาคือความครั่นคร้ามเต็มประดาองค์ชายห้ามีฐานะสูงส่งเพียงใด คือตัวตนที่อยู่สูงของต้าเฉียน ไม่เพียงมีพี่ชายคนรองผู้มีอำนาจในราชสำนัก ยิ่งมีตระกูลเหอซึ่งเป็นตระกูลใหญ่เหนือชั้นอยู่เบื้องหลัง ใครจะกล้าแหยม?องค์ชายเช่นนี้ กลับถูกรัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดินฉินอวิ๋นฟานปาดคอด้วยหนึ่งกระบี่?เรื่องนี้ต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว!อยู่ในวังนานหลายปี อู่จ้านย่อมรู้ว่าหนึ่งกระบี่ของฉินอวิ๋นฟานลงไปหมายถึงอะไร ไม่ใช่แค่สั่นสะเทือนไปทั้งต้าเฉียน ทั้งยังเพิ่มระดับความขัดแย้งระหว่างองค์ชายยามนี้เขากำดาบรบในมือแน่น สังเกตทหารศึกรอบด้านตลอดเวลา เตรียมตัวรบอาบเลือดทุกขณะเวลานี้ มู่หรงจิ่นเบิกตาโพลง สองมือปิดปาก ในดวงตาคือความเหลือเชื่อท่วมท้น ฉินอวิ๋นฟานกล้าสังหารองค์ชายเพื่อนางจริง ๆ? นี่มิเท่ากับเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกเพื่อนางหรือ?ตุบ...เห็นบุตรชายแท้ ๆ ถูกฉินอวิ๋นฟานสังหารต่อหน้าทุกคน เหอกุ้ยเฟยกรีดร้องปอดฉีกหัวใจแหลกลาญทันที สองขาอ่อนแรงทรุดลงไปทั้งคนโดยตรงนางวางแผนอยู่ในราชสำนักยี่สิบกว่าปี บิดายิ่งเป็นผู้นำตระกูลเหอเหนือชั้น น้องชายคือผู

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 134

    เหอปี้อวี้เห็นไท่ซั่งหวงมาก็ร้องห่มร้องไห้จะขาดใจตาย เล่นบทคนชั่วฟ้องก่อน ตำหนิติเตียนฉินอวิ๋นฟานเลยฉินอวิ๋นฟานคิ้วผูกเป็นปมเล็กน้อย เหอปี้อวี้เป็นยัยบ้าจริง ๆ ด้วย ความชั่วของลูกชายไม่พูดถึงสักคำ เอาแต่สาดน้ำคลำใส่คนอื่น ไม่แบ่งแยกดีชั่ว นี่ไม่ใช่ใส่ร้ายป้ายสีกันเห็น ๆ รึ?“ลุกขึ้นเถอะ!”ไท่ซั่งหวงส่ายหน้าด้วยความจนใจ “ข้าอายุปูนนี้แล้ว เมื่อไรพวกเจ้าจะให้ข้าได้พักสักที? ต้องมีเรื่องกันถึงเมื่อไรถึงจะยอมหยุด?”“เสด็จพ่อ หม่อมฉันก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนี้ แต่ฉินอวิ๋นฟานไร้มโนธรรมจิตสำนึก ไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตา อาศัยว่ามีอำนาจในมือกับกระบี่อาญาสิทธิ์ กระทำชั่วต่าง ๆ นานา กำจัดคนที่เห็นต่าง คนประเภทนี้จิตใจเลวทราม ต้าเฉียนเรามีรัชทายาทเช่นนี้คือความโชคร้ายเพคะ”เหอปี้อวี้ยังไม่ตายใจ ถ้อยคำเพิ่มความรุนแรง ท่าทางฉินอวิ๋นฟานไม่ตายจะไม่ยอมรามือ“พอที!”ทันใดนั้นไท่ซั่งหวงตวาด “เจ้าเป็นผู้นำของกุ้ยเฟยวังหลัง ไม่อยู่วังหลังกลับพาคนมากมายมาทำอะไรที่นี่? จะก่อกบฏรึ? หรือว่าเจ้าไม่รู้หลักเหตุผลว่าวังหลังห้ามยุ่งเรื่องราชกิจ?”ทันทีที่ไท่ซั่งหวงตวาด ทุกคนหน้าถอดสีฉับพลัน คำว่าก่อกบฏหากออกม

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 135

    “ถึงจะเป็นเช่นนี้ แต่โทษก็ไม่ถึงตายกระมัง?”ฉินอวิ๋นฮุยหรี่ตาพูด “เห็นชัดว่าเจ้าเอาเรื่องส่วนรวมมาแก้แค้นเรื่องส่วนตน เพื่อให้โดดเด่นในการชิงบัลลังก์ จงใจกำจัดพวกเราพี่น้อง เจ้าคิดว่าเจ้าทำอย่างนี้แล้วจะสำเร็จหรือ?”ฉินอวิ๋นฮุยรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเสียเปรียบด้านเหตุผล ที่ทำได้ในตอนนี้มีแต่ลดทอนให้เบาลง พยายามเบนเรื่องนี้ไปที่การชิงบัลลังก์ระหว่างองค์ชาย เพราะอย่างนี้ ลักษณะของเรื่องจะเปลี่ยนแปลงแบบกลับตาลปัตรมีแต่การทำเช่นนี้จึงจะฝังภาพลักษณ์เข่นฆ่าพี่น้อง ชิงบัลลังก์ไม่เลือกวิธีของฉินอวิ๋นฟานในใจของทุกคนได้ และเขาอยากใช้เรื่องนี้ดูท่าทีของไท่ซั่งหวง การตายของน้องชายแตะเส้นต่ำสุดของเขา ในฐานะที่เป็นองค์ชายรองผู้มีอำนาจในราชสำนักต้าเฉียน มีหรือจะถูกคนเหยียบย่ำอยู่ใต้เท้าแล้วไม่ทำอันใด?โจมตีกลับ นี่จึงเป็นภารกิจแรกต่อจากนี้ของเขา“เหอะ พี่รองช่างเล่นลิ้นเก่งนัก มาถึงก็สวมภาพลักษณ์เข่นฆ่าพี่น้องเพื่อชิงบัลลังก์ให้ข้า ข้ารับไม่ไหวหรอกนะ”ฉินอวิ๋นฟานฉลาดเพียงใด ทำไมจะมองลูกไม้ต่ำช้าของฉินอวิ๋นฮุยไม่ออก?เขาพูดเสียงเย็นต่อ “ถ้าข้าลักพาตัวชายาสุดรักของเจ้าฉินอวิ๋นฮุยมาที่ห้องลับ แล้

บทล่าสุด

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 827

    “เด็กบางคนคือเด็ก เด็กบางคนเกิดมาก็คือปีศาจ ข้าฆ่าปีศาจมีอะไรผิด?”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “ถ้าพี่รองไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ก็ตรวจสอบให้ละเอียดได้ หากข้าไม่มีจุดไหนที่ทำไม่ถูก ท่านก็ต้องทนเอาไว้ อย่างไรนี่ก็คือลักษณะการทำงานของข้าฉินอวิ๋นฟาน”“สำหรับทำไมถึงฆ่าคนเยอะอย่างนั้น ข้าได้แต่บอกท่านว่าพวกเขาล้วนสมควรตาย พร้อมกันนั้น ข้ากำลังเตือนทุกคน มีบางเรื่องทำได้ มีบ้างเรื่องทำไม่ได้ ถ้าใครกล้าล้ำเส้น ข้าฉินอวิ๋นฟานก็จะเอาชีวิตมันผู้นั้นเหมือนกัน!”“และถ้าจะให้ข้ามอบเหตุผลให้ได้ละก็ เช่นนั้นข้าได้แต่พูดว่าเพราะข้าคือรัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดินของต้าเฉียน มีกระบี่อาญาสิทธิ์อยู่ในมือ คือผู้ดำรงกฎหมายต้าเฉียน ข้ามีอำนาจและมีหน้าที่พิทักษ์บ้านเมืองของต้าเฉียน ชาวบ้านคือรากฐานของเรา มิใช่คนที่พวกท่านจะข่มเหงรังแกได้ตามอำเภอใจ!”ซี้ด...ฉินอวิ๋นฟานกล่าววาจาเผด็จการ ทำเอาทุกคนในที่นั้นต่างสูดลมเย็นเข้าปาก แม้ในใจพวกเขาจะมีความแค้นมากมายเพียงใด หากเวลานี้ได้แต่สะกดกลั้นเอาไว้เพราะฉินอวิ๋นฟานไม่เพียงแต่มีอำนาจประหารอันเป็นอำนาจสูงสุด ยังยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอำนาจราชวงศ์ต้าเฉียน ผู้ใดกล้าคั

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 826

    “เจ้า...!”ฉินอวิ๋นฮุยมาถึงก็พูดแทงใจดำของเขา ทำให้ฉินอวิ๋นฮุยเลือดขึ้นหน้า กลับไร้กำลังโต้ตอบ นาทีนี้เขาแทบอยากสับฉินอวิ๋นฟานเป็นหมื่น ๆ ชิ้น“นี่คือท้องพระโรง คือสถานที่หารือเรื่องสำคัญของบ้านเมือง มิใช่สถานที่ให้พวกท่านมาอวดเก่ง แต่ละคนกัดข้าไม่ปล่อยกับแค่เรื่องที่ข้ามาสายครึ่งชั่วยาม? พวกท่านหมายความว่ายังไง?”ฉินอวิ๋นฟานกวาดสายตามอง ก่อนจะเอ่ยด้วยท่าทีแข็งกระด้าง “มีความสามารถก็ทำการทำงานให้มากหน่อย มิใช่ใช้เล่ห์กลอุบาย อวดเก่งแต่ขี้เกียจ ถ้าไม่มีความสามารถก็ลาออกไปเสีย ปลดเกษียณกลับบ้านเกิด อย่าครองส้วมแล้วไม่ขี้ คนที่อยากแทนที่ตำแหน่งพวกเจ้ามีถมเถไป!”เมื่อทุกคนเห็นดังนั้นก็พากันเบิกตาโต ทีแรกนึกว่าจะหาเรื่องฉินอวิ๋นฟาน ไม่นึกว่าเพิ่งเริ่มก็แพ้ย่อยยับแล้ว ในทางกลับกัน ยังถูกฉินอวิ๋นฟานเหยียดหยามอย่างหนักอีก ทำเอาทุกคนตัวชาไปทั้งคนหลังจากองค์ชายใหญ่ฉินอวิ๋นคังรู้เรื่องตระกูลเริ่น จนถึงตอนนี้ก็ยังผวาไม่หาย อกสั่นขวัญแขวนอย่างหนัก จากนั้นจึงเลือกเก็บตัวเงียบ ๆ ทันที ดังนั้นขณะฉินอวิ๋นฟานถูกทุกคนเปิดฉากสงครามน้ำลาย เขาจึงเลือกเงียบงัน“ดี ในเมื่อน้องเจ็ดพูดถึงขั้นนี้แล้ว เช่น

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 825

    ฉินอวิ๋นฟานไม่เพียงหลีกเลี่ยงการหาเรื่องของอู๋ต้าไห่ มิหนำซ้ำยังเลือกเผชิญหน้าอย่างแข็งกร้าว คราวนี้ทำเอาทุกคนไปต่อไม่เป็นแล้วเหล่าขุนนางต่างมองหน้ากันด้วยความมึนงง ทำผิดแล้วยังอวดเก่งเช่นนี้อีก? โอหังขนาดนี้เชียว? ก็คงจะมีแต่เจ้าฉินอวิ๋นฟานนี่แหละ!“แค่ยึดอู่โจวซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ มาได้ก็ทำให้รัชทายาทลำพองใจจนลืมตัวเช่นนี้เลยหรือ?”อู๋ต้าไห่เห็นฉินอวิ๋นฟานเหิมเกริมเช่นนี้จึงโต้กลับด้วยโทสะทันที “แม่ทัพใหญ่ทุกท่านของต้าเฉียนต่างสร้างผลงานการศึกให้ราชวงศ์ต้าเฉียนมากมาย ยังไม่เคยเห็นใจวางอำนาจบาตรใหญ่ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเช่นนี้มาก่อน รัชทายาทจะเห็นเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานเหยียดยิ้มมุมปาก เหน็บแนมกลับทันที “แม่ทัพคนอื่น ๆ สร้างผลงานการศึกเพื่อต้าเฉียน ข้ายังพอเข้าใจได้ แต่ข้าขอถามหน่อย เกี่ยวอันใดกับเจ้าอู๋ต้าไห่ด้วย?”“ท่าน ท่านเถียงข้าง ๆ คู ๆ ข้ากำลังกล่าวถึงเรื่องสร้างผลงานกับท่านอยู่ ท่านกลับไร้เหตุผลกัดไม่ปล่อย?”อู๋ต้าไห่ถูกคำพูดประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานตอกหน้าจนหน้าเขียวปัด แต่ในฐานะที่เขาเป็นรองเจ้ากรมพิธีการฝ่ายซ้าย คือยอดฝีมือในการใช้ภาษาแก้ต่าง ชำนิชำน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 824

    ถูกฉินอวิ๋นฟานเอาใจเช่นนี้ สามดรุณีหน้าแดงระเรื่อด้วยความสุข ฉินอวิ๋นฟานประทับจูบลงบนริมฝีปากแดงชาดของพวกนางสามพี่น้องแรง ๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะลุกจากเตียง......“ไม่มีระเบียบ ไม่มีระเบียบ!”“ก็นั่นนะสิ! ประชุมขุนนางเริ่มมาครึ่งชั่วยามแล้ว รัชทายาทกลับยังไม่ถึง? ไม่เห็นกฎระเบียบอยู่ในสายตาเลย ช่างไม่เห็นกฎระเบียบอยู่ในสายตา!”“สร้างผลงานเข้าหน่อยก็เมินระเบียบของราชสำนักแล้วหรือ? ก็ทำตามอำเภอใจได้แล้วหรือ? บังอาจยิ่งนัก!”......ในท้องพระโรง เหล่าขุนนางเริ่มเปิดฉากด่าทอต่าง ๆ นานาต่อพฤติกรรมมาสายของฉินอวิ๋นฟานด้วยไฟโกรธเต็มทรวงและถ้อยคำแข็งกร้าว เดิมพวกเขาก็ไม่มีภาพจำดีอะไรต่อฉินอวิ๋นฟานอยู่แล้ว กอปรกับการกระทำของฉินอวิ๋นฟานเมื่อวาน ชัดเจนว่ากำลังท้าทายบรรดาผู้มีอำนาจสูงศักดิ์ในเมื่อเช้ามาฉินอวิ๋นฟานก็เปิดช่องโหว่ เช่นนั้นพวกเขาจะไม่ปล่อยไปเป็นธรรมดา ต่อให้การมาสายมิใช่เรื่องใหญ่อันใด แต่ก็จะไม่ละเว้นฉินอวิ๋นฟานเด็ดขาดบนบัลลังก์มังกร ไท่ซั่งหวงขมวดคิ้วน้อย ๆ แล้วหันไปกล่าวกับเฉาเจิ้งฉุน “ส่งคนไปตามฟานเอ๋อร์แล้วหรือ?”“ทูลไท่ซั่งหวง ส่งไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เฉาเจิ้งฉุนกระซิบ “แต่ดูเหมื

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 823

    “ฮ่า ๆ ๆ...มา ชนแก้ว!”ภายใต้แสงขมุกขมัว ทั้งสี่จรดสุราหมดจอก ฉินอวิ๋นฟานที่หิวไส่กิ่วสวาปามราวกับพายุ ไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็กวาดอาหารโอชาบนโต๊ะไปกว่าครึ่งเวลานี้มู่หรงจิ่น หลู่เซียงหลิงและเสี่ยวจวี๋ก็ดื่มจนแก้มแดงก่ำแล้ว งดงามอ้อนแอ้นจนอยากจะเด็ดมาดอมดม พวกนางกระดากใจยิ่งหนัก หลังจากอิ่มเอมกับสุราอาหารแล้ว ฉินอวิ๋นฟานก็ไม่สะกดอารมณ์พลุ่งพล่านอีกต่อไป โอบสองดรุณีไปยังเตียงทันที“สุดที่รักของข้า ข้าคิดถึงพวกเจ้าจะตายอยู่แล้ว!”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย กระโจนใส่พวกนางโดยตรง สองดรุณีราวกับกระต่ายน้อยตื่นตกใจ ส่งเสียงร้อง “อ๊ะ” ออกมาทีหนึ่งจึงรีบมุดเข้าไปอยู่ด้านในของเตียง ยิ่งพวกนางเป็นเช่นนี้ ฉินอวิ๋นฟานก็ยิ่งคึก“แหะ ๆ ร้องใช่ไหม คืนนี้จะให้พวกเจ้าร้องไห้เสียงแหบเสียงแห้งไปเลย!”ฉินอวิ๋นฟานเลียริมฝีปาก ความปรารถนาปะทุขึ้นโดยสิ้นเชิง เบื้องล่างท้องน้อยเร่าร้อนยากจะทานทนนานแล้ว ‘แควก’ ทีหนึ่ง เครื่องนุ่งห่มบนตัวฉีกขาด เผยกล้ามเนื้อแข็งแรงทั่วร่าง กลิ่นอายบุรุษเข้มข้นทำให้ลมหายใจของสามดรุณีกระชั้น กระนั้นกลับมิอาจสะกด ฉินอวิ๋นฟานเสือตะครุบอีกหน คว้าเท้าเล็กของหลู่เซียงหลิงเอาไว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 822

    ฉินอวิ๋นฟานตบบ่าหวังอันสือเบา ๆ แล้วกล่าวคำพูดจากใจ “ขุนนางในอนาคตของต้าเฉียนจะกระจ่างใสได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”“รัชทายาทโปรดวางใจ ข้าน้อยจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอนขอรับ!”หวังอันสือตื้นตันจนน้ำตานองหน้า ถ้อยคำสวยงามใดก็มิอาจบรรยายความรู้สึกในขณะนี้ของเขา ในที่สุดก็มีเวทีแสดงปณิธานซึ่งมีอยู่เต็มอกของเขาแล้ว ในโลกอันขุ่นมัวนี้ ในที่สุดเขาก็ได้แสดงฝีมือสักทีและสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกโชคดีคือ เขาได้พบกับป๋อเล่อ ผู้มีจุดมุ่งหมายและทิศทางปณิธานเดียวกับเขา มอบโอกาสพลิกชะตาให้กับเขาครั้งหนึ่งเมื่อได้รับคำตอบยืนยันของหวังอันสือ ฉินอวิ๋นฟานคลี่ยิ้มพึงพอใจ จึงออกไปจากห้องและตรงไปยังตำหนักรัชทายาท...“พี่อวิ๋นฟาน ท่านคงหิวแย่แล้วกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานเพิ่งกลับมาถึงตำหนักที่พัก จิ่นเอ๋อร์ก็รีบเดินมาต้อนรับ ส่วนเสี่ยวจวี๋และเซียงหลิงต่างประกบอยู่ทางซ้ายและทางขวาจู่ ๆ ฉินอวิ๋นฟานก็รู้สึกว่าตำหนักที่พักต่างออกไปจากปกติ ปกติจะมีนางกำนัลรับใช้อยู่ในจวนอย่างน้อยสี่คน ทว่าวันนี้กลับไม่มีแม้แต่คนเดียว ทั้งตำหนักมีเพียงผู้หญิงสามคนเท่านั้น คือจิ่นเอ๋อร์ เซียงหล

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 821

    “รัชทายาท ท่านจะหารือเรื่องใหญ่กับข้าน้อยหรือขอรับ?!”เห็นท่าทางจริงใจของฉินอวิ๋นฟาน หวังอันสือร่างสะท้านเล็กน้อย ฉินอวิ๋นฟานคือรัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดินต้าเฉียนผู้สูงส่ง กลับมีเรื่องจะหารือกับเขา? มันมิควรเป็นคำสั่งหรือ?ฉินอวิ๋นฟานเปลี่ยนไปราวกับคนละคน ทำให้หวังอันสือสงบใจไม่ได้อยู่นาน ท่าทางเข้าหาได้ง่ายของฉินอวิ๋นฟานกับรัชทายาทผู้แข็งกร้าวราวกับเทพสังหารสถิตร่างที่เขาเพิ่งพบเมื่อครู่ต่างกันโดยสิ้นเชิงฉินอวิ๋นฟานพูดเป็นการเป็นงาน “ถูกต้อง หากจะพูดกันจริง ๆ ก็คือข้ามีเรื่องจะขอร้องเจ้า!”“มี มีเรื่องขอร้องข้าน้อย?”หวังอันสือสับสนมากกว่าเดิม เขาเป็นแค่ขุนนางระดับหก อาจารย์ต่ำต้อยคนหนึ่ง ไม่ว่าคนใดในเมืองหลวงที่ถูกบีบตายได้ง่าย ๆ น่ากลัวว่าจะมีอิทธิพลและฐานะเหนือเขา ฉินอวิ๋นฟานจะมีเรื่องขอร้องเขาได้อย่างไร?“หวังอันสือ ข้าได้ตรวจสอบเรื่องเกี่ยวกับเจ้ามาคร่าว ๆ ทั้งหมดแล้ว เจ้าคือผู้มีความสามารถที่ข้าต้องการจริง”ฉินอวิ๋นฟานเข้าประเด็นทันที “เจ้าน่าจะรู้ดีว่าตอนนี้ต้าเฉียนเป็นยังไง ถึงภายนอกดูสงบ แต่ความจริงคือคลื่นใต้น้ำ บรรดาองค์ชายและขั้วอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังต่อสู้กันจน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 820

    หลู่หนีสีหน้าเคร่งขรึม แสดงท่าทีอีกครั้ง เขารู้ว่าฉินอวิ๋นฟานเป็นคนเด็ดขาดฉับไว ในเมื่อฉินอวิ๋นฟานมอบงานนี้เขาก็ต้องเชื่อใจเขาหมดหัวใจอยู่แล้วอีกทั้งเรื่องนี้ยังสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อฉินอวิ๋นฟาน เป้าหมายของเขาชัดเจนมาก นั่นก็คือทำงานนี้ให้สำเร็จ สิ่งของเงินทองฉินอวิ๋นฟานทุ่มทุนมาก“เวลากระชั้นชิด พรุ่งนี้พวกท่านก็ออกเดินทางไปเมืองจัวเถอะ เรื่องนี้ต้องทำที่เมืองจัว หลิวเป้ยจะให้ความช่วยเหลือมอบความสะดวกทั้งหมดกับพวกท่านเอง ต้องการอะไรก็บอกได้เต็มที่ พวกท่านแค่ทุ่มเทกายใจทำงานก็พอ”ฉินอวิ๋นฟานกล่าวเสียงหนัก“เมีองจัว?”หลู่หนีลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบ “ก็ดี เมืองจัวเป็นคนของรัชทายาทเกือบทั้งหมด พวกเราแค่ทุ่มเทกายใจกับการผลิตก็พอ เช่นนี้จะลดอุปสรรคลงด้วย”......หลังจากกำชับทุกเรื่องเสร็จก็ดึกมาแล้ว ฉินอวิ๋นฟานลากร่างอันอ่อนล้ามายังที่รักษาตัวของพวกหวังอันสือ หลังจากทำความเข้าใจ ฉินอวิ๋นฟานพบว่าหวังอันสือคนนี้มีส่วนคล้ายคลึงกับหวังอันสือในสมัยซ่งเหนือบางส่วนดังนั้นฉินอวิ๋นฟานจึงรู้สึกเห็นใจขึ้นมาเพราะเวลานี้เขากำลังอยู่ในช่วงที่ต้องการคน หากหวังอันสือเป็นเหมือนกับหวังอันสือในประวัต

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 819

    “ข้าเข้าใจความรู้สึกของพวกท่านในตอนนี้ดี”ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยท่าทางมั่นใจ “ความจริงไม่ว่าข้าจะอธิบายกับพวกท่านยังไงก็เข้าใจยากอยู่ดี เพราะนี่คือการปฏิรูปอุตสาหกรรมล้ำยุค ในอดีตทุกคนต่างเรียกมันว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรก”หลู่หนีถามด้วยใบหน้างุนงง “ปฏิวัติอุตสาหกรรม? นั่นคือสิ่งใดหรือขอรับ?”“อื่ม! จะว่ายังไงดีล่ะ?”ฉินอวิ๋นฟานลูบคางพิจารณาครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย “ข้าจะยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้พวกท่านฟังก็แล้วกัน ในสังคมศักดินาที่ทำการเกษตรเป็นหลัก ในตอนที่ชาวบ้านรดน้ำ ส่วนมากแล้วจะใช้กำลังคนเป็นสำคัญ ไม่เพียงแต่ประสิทธิภาพต่ำ หนำซ้ำยังต้องใช้แรงงานเยอะมาก”“ทว่านับจากท่านหลู่ปันคิดค้นกังหันน้ำและระหัดวิดน้ำขึ้นมาก็เพิ่มประสิทธิภาพในการรดน้ำสูงขึ้น ทั้งยังประหยัดแรงงานไปเยอะ นี่ก็คือการพัฒนาทักษะในการเพาะปลูก และสามารถเรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติทางเกษตรกรรม”“ดังนั้นเครื่องจักรนี้ของข้าซับซ้อนกว่าระหัดวิดน้ำมากกว่า แต่ปริมาณบรรจุขนส่งและแรงขับเคลื่อนของมันมีมากกว่ารถม้ามหาศาล ทำให้ประสิทธิภาพในการทำการค้าสูงขึ้น นี่ก็คือการปฏิวัติอย่างหนึ่งของการค้าและการเดินทาง ข้าเรียกมันว่าการปฏิวัติ

DMCA.com Protection Status